ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ ทำไมความสำเร็จบางคนจึงไม่มั่นคงและไม่เท่าเทียมกัน?

      สมัยผมเด็ก ๆ ปิดเทอมทีไร  ผมกับพี่ชายไปเยี่ยมยายที่หมู่บ้านชนบทในจังหงัดโคราช กิจกรรมที่ยายเตรียมไว้หลากหลายจนผมกับพี่บางวันสนุกกันไม่ยอมเข้าบ้านทรงสูง 2 ชั้นของยาย  ที่พื้นไม้จะมีช่องเอามือรอดลงไปหยิบมะนาวได้สบายเหมือนในหนังแม่นาค

         กิจกรรมที่ว่ามีตั้งแต่จับแย้ ทำเส้นขนมจีน   เอาข้าวมาทอดโรยน้ำตาบปี๊ป หวิดน้ำหาปลา เก็บต้อยติ่ง ใบตำลึง วายน้ำในคลองเก็บแตงโมกิน โลกทั้งใบคือห้องเรียน

       พอโตแล้ว โลกทั้งใบคือ ห้องทำงาน

        ชีวิตวัยเด็กในชนบทมีส่วนสำคัญอย่างมากในการหล่อหลอมความคิดในวันนี้

        มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมไล่จับกบตัวหนึ่งครับ ซึ่งเป็นที่มาของบทความนี้..

       ผมไล่จับมันจนสุดตัว คลุกฝ่นไม่รู้กี่ครั้ง แต่ยังคว้าน้ำาเหลว ไม่ทันไร เผลอกระโดดลงไปในหนองน้ำ  มันกระโดดไปตามใบบัวในหนองน้ำแถวในปาต้นตะโกแคระ ตอนนั้นมันกระโดดจากใบหนึ่งไปสู่อีกใบ และอีกใบ ผมยืนมองด้วยความงงว่ากบมันลอยอยู่เหนือบัวได้อย่างไร ด้วยความอยากรู้จึงตามก้าวตามไปบนใบบัวที่มีน้ำหยดขังดังคำโบราณว่า น้ำกลิ้งบนใบบัว เห็นแล้วอยากเอาน้ำแดงมาเทใส่ในหยดน้ำ แล้วทันใดนัน ผมก็หน้าขะมำลงไปก้นจ้ำเบ้าลงในน้ำ โคลนจากพื้นลอยเข้าจมูกสำลักออกมาแถบหายใจไม่ออก เจ็บใจไม่หายแค้นหันมองหา กบไม่รู้ว่ายไปไหนแล้ว

        ความจำนั้นฝังอยู่ในซอกหูผมไม่รู้ลืม และผุดขึ้นมาทุกกดทับจมูกทุกครั้ง

       คำถามครับ.

     ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ ทำไมความสำเร็จบางคนจึงไม่มั่นคงและไม่เท่าเทียมกัน?

        กบกระโดดบนใบบัวตั้งอยู่บนสมมุติฐานว่า ความสำเร็จในระยะยาวนั้น เกิดจากการเปลี่ยนโครงสร้างคุณสมบัติของนักลงทุน  เหตุใด การเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างคุณสมบัติของแต่ละคนจึงต่างกัน ทั้งๆ ที่ลงทุนในแนวเดียวกัน ส่งผลให้บางคนร่ำรวย แต่บางคนยังจนอยู่

    การเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างคุณสมบัติของแต่ละคนขึ้นอยู่กับความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบแบบยั่งยืน (individual competitive advantage ที่ซ่อนอยู่ในตัวของนักลงทุนแต่เดิมของคนคนนั้นว่าอยู่ที่คุณสมบัติแบบใด และการเปลี่นยแปลงโครงสร้างไปสู่คุณสมบัติทีมีมูลค่าที่แท้จริง (personal intrinsic value) สูงกว่านั้น เป็นไปได้ยากหรือง่ายอย่างไร

            บริษัทต่างๆ กว่า 400 หุ้น ใน SET นั้น เปรียบเหมือน กบที่กระโดดจากใบบัวหนึ่งไปอีกใบหนึ่ง  โดย หนองน้ำ เปรียบเปรยถึงตลาดหลักทรัพย์  และ ใบบัว แต่ละใบหมายถึง บริษัทแต่ละแห่ง โดยที่แต่ละใบมีความ อุดมสมบูน ที่ต่างกัน เปรียบได้กับแต่ละบริษัทที่มีมูลค่าที่แตกต่างกัน

     กบแต่ละตัวจะพยายามกระโดดไปยังใบบัวที่ อุดมสมบูน แต่ข้อจำกัดสำคัญคือ กบไม่สามารถกระโดดไปยังใบที่ไกลเกินไปได้ เนื่องจากกบแต่ละตัวต้องการทรัพย์สินภายใน (inner assets) และ ความสามารถ (capability)  ในการกระโดดที่ต่างกันนั่นเอง

    ด้วยเหตุนี้นักลงทุนที่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างได้เร็ว เกิดจากนักลงทุนคนนั้นเริ่มต้นพัฒนาความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบแบบยั่งยืนใน ตัวเอง ที่ทำให้สามารถ เห็น และ กระโดด ไปสู่บริษัทที่มีมูลค่าสูงกว่าได้ง่าย ขณะที่นักลงทุนบางคนมีความสามารถในการแข่งขันที่จะกระโดดไปสู่บริษัทที่มีมูลค่าสูงได้ยากกว่า

          การเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างคุณสมบัติของนักลงทุนในลักษณะใดจึงทำให้เกิดผลดีกับการพัฒนาตนเองในระยะยาว?

          ใบบัวอันไหน ที่กบควรจะกระโดดไปเกาะ  ไม่ใช่เพียงกระโดดเพ่นพ่านหรือกระโดดไปผิดใบ  ใครทราบช่วยปล่อยกบอย่างผมทีครับ.... :wink:
KB
Verified User
โพสต์: 1558
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ความสำเร็จของการลงทุนแบบเน้นคุณค่าต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ ใช้ความใช้ความพยายามในการศึกษาและหาข้อมูล ใช้อดทนในการรอคอย และภาวะจิตใจที่มั่นคง คนส่วนใหญ่ไม่ได้ไม่ประสบความสำเร็จจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่า แต่คนส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะไม่อดทนกับแนวทางการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

จริงแล้วมีตัวอย่างของความสำเร็จมากมาย และแนวทางการลงทุนแบบเน้นคุณค่าเป็นแนวทางการผลทุนที่ใช้เหตุใช้ผล คุณสามารถรู้ผิดรู้ถูกกับการลงทุนของคุณ เพื่อเป็นประสบการณ์นำไปพัฒนามาเป็นสไตล์การลงทุนของคุณต่อไป
kongkang
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1084
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

เป็นสุดยอดคำถาม ที่พยายามค้นหาคำตอบให้เจอ  บางทีอาจเป็นเรื่องของเวลาที่แต่ละคนเริ่มต้นด้วยมั้งคะ  น้องใหม่เพิ่งเข้ามา อาจต้องใช้บทเรียนหลายบท กว่าจะเป็นกบที่กระโดดเก่ง  ตอนแรกก็เป็นลูกอ้อดไปก่อนละกัน
kongkang
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1084
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

สำนวนดร.โหน่ง เหมาะเป็นนักเขียนจริง ๆ
ek_tt
Verified User
โพสต์: 86
ผู้ติดตาม: 0

Re: ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

[quote=".^O-O^"]บริษัทต่างๆ กว่า 400 หุ้น ใน SET นั้น เปรียบเหมือน กบที่กระโดดจากใบบัวหนึ่งไปอีกใบหนึ่ง
harn
Verified User
โพสต์: 237
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

KB เขียน:ความสำเร็จของการลงทุนแบบเน้นคุณค่าต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ ใช้ความใช้ความพยายามในการศึกษาและหาข้อมูล ใช้อดทนในการรอคอย และภาวะจิตใจที่มั่นคง คนส่วนใหญ่ไม่ได้ไม่ประสบความสำเร็จจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่า แต่คนส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะไม่อดทนกับแนวทางการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

จริงแล้วมีตัวอย่างของความสำเร็จมากมาย และแนวทางการลงทุนแบบเน้นคุณค่าเป็นแนวทางการผลทุนที่ใช้เหตุใช้ผล คุณสามารถรู้ผิดรู้ถูกกับการลงทุนของคุณ เพื่อเป็นประสบการณ์นำไปพัฒนามาเป็นสไตล์การลงทุนของคุณต่อไป
Day Trading มันสนุกกว่ามากนี่ครับ ผมเองก้อเก็งกำไรอยู่หลายปี จนพอร์ตละลายหมดไปกับวิกฤต ถึงมาเริ่มต้นใหม่แบบคุณค่าได้
ผมคิดว่า เราต้องเชื่อมั่นในในหุ้นที่ศึกษาครับ จึงจะอดทนถือรอเป็นปีๆได้
คนเรือ VI
Verified User
โพสต์: 1647
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

เราเป็นกบ อ๊บๆ ครับ

ก็ถ้าเป็นกบกลายพันธ์ ก็จะ สายตาดี มี vision ขาแข็งแรง กระโดดได้ไกลอย่างใจฝัน ในบนใบบัวที่อุดมสมบูรณ์ พื้นฐานแข็งแกร่ง ทำให้กบไม่ตกน้ำครับ

เปรียบแบบนี้ถูกนะครับ
. . .
ภาพประจำตัวสมาชิก
BOONPARUEY
Verified User
โพสต์: 184
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

...   หลายคนเห็นคนสำเร็จใช้รูปแบบ VI ก็เลยอยากใช้บ้าง   ...

...     :cheers:  :cool:  :man:    ...
... " บุญ คือ เสบียงของคนไม่ประมาท "  พุทธตรัส ...
RONNAPUM
Verified User
โพสต์: 1455
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

สำเร็จหรือไม่ ผมว่ามันขึ้นอยู่กับใจ ของเราว่า
  " เรารู้จักพอหรือไม่ "
เมื่อใดคุณหรือจักพอ คุณก็ประสบความสำเร็จ
เมื่อนั้น
อย่าทำตัวเป็นนักแสดง เป็นเพียงผู้ดูก็พอ..
Khunchat
Verified User
โพสต์: 295
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

คนที่ลงทุนไม่สำเร็จ ได้เข้าใจแนวVI และปฏิบัติลงทุนแบบ
VI แล้วหรือยัง หรือแค่คิดว่าตัวเองเป็น VI มือใหม่ที่ยังไม่เข้าใจแนวทางลงทุนของVI อย่างแท้จริง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Sumotin
Verified User
โพสต์: 1131
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ผมว่าขึ้นอยู่กับ ความต้องการแต่หละคนความสำเร็จแต่หละคนมองไม่เหมือนกัน และไม่เท่ากัน นะครับ บางคน ว่าได้มากกว่า ฝากธนาคารนิดหน่อยก็ ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว แต่บ้างคนต้องการเยอะก็อาจจะมองว่าตัวเองไม่สำเร็จได้เหมือนกัน  ส่วนที่เล่นแล้วขาดทุน อาจจะมาจากผลอื่นหลายอย่าง เช่น จิตใจ, การวิเคราะห์ และ อื่นๆ
Timing is everything, no matter what you do.

CAGR of 34% in the past 15 years of investment
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ขอบคุณนะครับสำหรับความคิดเห้นครับ
 ผมอยากเพิ่มเติมนิดหนึ่งครับ

  ผมนั่งนึกตั้งนาน ว่า

  " มีครั้งไหนที่ Warren Buffett เรียกตัวเองว่าตัวเองเป็น value investor บ้าง"

          ไม่มีเลยครับ.... :roll:

    ไม่มีคำว่า  value investor ---ผู้รู้คุณค่า-----  (ขออนุญาติใช้คำนี้นะครับ )  มีแต่เพียง value investing---ภาวะผู้รู้คุณค่า เท่านั้น  ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็แสดงว่า ..... เราทุกคนสามารถพัฒนา ภาวะผู้รู้คุณค่า ของตนเองได้ และใช้ภาวะนั้นในสถานการณ์เจาะจงหรือปล่าวครับ?
       
      อย่างนี้นะครับ .....โดยความคิดเห็นส่วนตัวครับ.....
     
      อ้า.....ต้องใช่แน่.....เอาละครับ...ผมจะลองดู.....

          ผมไม่เชื่อว่า........ลองใหม่ครับ .....


         ผมไม่เชื่อว่าในโลกนี้มีคนที่เกิดมาเพื่อเป็น value investor
   
           -   -!      
 
        ผมเชื่อว่าทุกคนเกิดมาก็มี ภาวะผู้รู้คุณค่า ติดตัวมาตั้งแต่เกิด
  อยู๋ที่ว่าเราจะจำออกมาใช้หรือปล่าว

          เฮ้อ.....โล่งอก พูดออกซะทีครับ

     
           อย่างนี้ ขอต่อได้ไหมครับ

        อย่างนี้ ถ้าเป็น  "ภาวะ "  ไม่มี "ตัวตน"  เอ....ก็น่าจะพูดได้ว่า...พูดได้หรือปล่าวนะ....ลองอีกครั้งครับ

          บุคคลที่จะ exercising value investing หรือ บริหาร ภาวะผู้รู้คุณค่า ได้ดีนั้น  ผมคิดว่าจะต้องหลัก 7 ประการ ... มีความสัตย์จริง
                มองภาพรวม              การท้าทายให้ปรับตัว
                ความรับผิดชอบ         บริหารความกดดัน
               จดจ่อเป้าหมายอย่างเคร่งครัด    ทบทวนบทบาทตนเอง
       
      ความสัตย์จริง....

          ผมคิดว่านับเป็นลักษณะอันดับแรก   ฟังดูเหมือนไม่เกี่ยว   แต่มันสะท้อนว่า เราจะบริหาร ภาวะผู้รู้คุณค่าได้ดีหรือไม่  เป็นสิ่งที่เหนือกว่าข้ออื่นๆ  แบ่งเป็นอีก 3 ข้อดังนี้....
       ความสัตย์จริงไม่เหมือนความซื่อสัตย์   แม้ไม่ซื่อสัตย์ เราก็สัตย์จริงไม่ได้ แม้ซื่อสัตย์ แต่ก็ไมได้หมายความว่าเป็นคนสัตย์จริง เนื่องจากความสัตย์จริงเริ่มจากการตะหนักและมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งซึ่งความถูกผิดและตามมาด้วยการกระทำที่สอดคล้องกับสิ่งที่ตนยอมรับว่าถูกต้อง ยกตัวอย่าง นายเอเชื่อว่าการัดอัณฑะคือสิ่งผิด แสดงความซื่อสัตย์ต่อตนเองในสิ่งที่ตนเองคิด แต่นายเอจะเป็นคนที่สัตย์จริงก็ต่อเมื่อ เขาพยายามเคลื่อนไหวเพื่อแก้กฎหมายการตัดอัณฑะ

         ผมคิดว่า พวกเราเห็นลักษณะของคนที่ดีมีความสัตย์จริงในชีวิตรอบด้าน ไม่ว่าจะประกอบอาชีพใดๆ  นักลงทุน  นักการเมือง แม่บ้าน หัวหน้างาน วิศวะ หมอ ผู้สื่อข่าว

          คนจำนวนมากล้มเหลวในข้อนี้ตั้งแต่แรก เนื่องจากเราไม่เคนให้เวลาในการใคร่ครวญอย่างเพียงพอว่าสิ่งใดถูกหรือสิ่งใดผิด ซึ่งต้องใช้เวลาและพลังงานอย่างมาก คนส่วนใหญ่มักรู้เพียงเนื้อหาสาระ เราเชื่ออะไร เรามีค่านิยมอย่างไร แต่ไม่ได้คิดลึกไปกว่านั้น ทำไมเราจึงเชื่อและมีจุดยืนเช่นนั้น  ไม่ได้หาเหตุผลตอบตนเอง แต่มักจะใช้หลักว่า  มันง่ายกว่าที่จะคล้อยตามเสียงส่วนใหญ่ครับ.....
           

        ฝากไว้เป็นแค่ความคิดส่วนตัวครับ..........
phobenius
Verified User
โพสต์: 1976
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ความคิดแตกฉานมากเลยครับพี่ คาราวะ ...... ภาวะผู้รู้คุณค่า.........
plamuek76
Verified User
โพสต์: 478
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 14

โพสต์

:cool:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ryuga
Verified User
โพสต์: 1771
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

ประเด็นนี้น่าทำการศึกษามากนะครับ :8)  ผมเห็นสิ้นปี/สิ้นไตรมาสทีไร ก็มีคนมาตั้งกระทู้โพสถามกันว่าได้ผลตอบแทนเท่าไหร่ คนส่วนใหญ่ที่ตอบต่างก็ได้เยอะแยะ เท่านั้นเท่านี้ว่ากันไป ไม่ค่อยมีใครมาบอกว่าขาดทุน ขาดทุนย่ำแย่อย่างงั้นอย่างงี้บ้าง หรือว่าคนตายไม่ได้พูด :x

ที่ว่า นักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากไม่ประสบความสำเร็จ หรือ ขาดทุนนั้น ผมอยากเห็นจริงๆ ว่าจะมีใครอุทิศเรื่องของตนเองขึ้นเป็นกรณีศึกษาแบบชัดเจนหรือไม่ ที่ว่าเน้นมูลค่าแล้วขาดทุน มันมูลค่าแบบไหนยังไงกันแน่ ถ้าเป็นเรื่องหุ้น ก็ว่าให้ชัดๆ ไปเลยว่าหุ้นอะไร ไปซื้อมาตอนไหน ราคาเท่าไหร่ ตอนซื้อคิดไว้ยังไง ประเมินมูลค่าที่แท้จริงได้แค่ไหนยังไง ส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยกี่% ฯลฯ

ไม่ได้ประชดนะครับ แต่อยากเห็นจริงๆ ว่าตอนซื้อคิดยังไง คาดหวังอะไรยังไงเท่าไหร่ แล้วผลมันออกมาไม่เป็นไปอย่างที่คิดเพราะสาเหตุอะไร ก็ว่ากันให้ชัดๆ ไปเลย โพสกันในเว็บหลายๆ คนก็จะได้ช่วยกันคิด เก็บรวบรวมเป็นกรณีศึกษา เป็นองค์ความรู้ไปเลย มีประโยชน์สำหรับท่านนักลงทุนอื่นๆ ไปจนถึงผู้ที่อยากจะลงทุนแต่ยังอยู่ในระหว่างการเรียนรู้ด้วย

ไม่แค่ผู้ที่ขาดทุนนะครับ ที่กำไรก็เหมือนกัน ผู้ที่แจกแจงกระบวนการคิดวิเคราะห์การตัดสินใจไปจนถึงผลตอบแทนของตนอย่างละเอียด ตอนนี้ผมเห็นมีแต่พี่ yoyo ลูกดิ่งมหาภัย เอ๊ย ลูกดิ่งมหาประลัยเท่านั้นเองครับ (เย้ พี่ yoyo จ๊าบสุดๆ  :cool:  :cool:  :cool: )

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ถ้ามีคนมาโพส จะเพื่อทักถาม หาแนวร่วมที่ขาดทุนด้วยกัน หรือ จะระบายอารมณ์ หรืออะไรนอกเหนือจากนี้ก็แล้วแต่ ผมก็ไม่รู้จะตอบยังไง เพราะผมไม่ได้เห็น กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการตัดสินใจ ภายใต้พื้นฐานข้อมูลที่ท่านนักลงทุนท่านนั้นๆ ใช้ เลย แม้แต่คนที่ประสบความสำเร็จเองมาแล้ว หากจะไปคิดแทนเค้าทั้งที่ก็ยังไม่ได้เห็น กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการตัดสินใจ ภายใต้พื้นฐานข้อมูลที่ท่านนักลงทุนท่านนั้นๆ รับรู้ ตอบอะไรไปผมก็ไม่เห็นว่าจะเกาถูกที่คัน ลงท้ายก็เลยยกทฤษฎีมาพูดอีก ซ้ำๆ ซากๆ น่าเบื่อจะตายไป

แม้แต่นิยามเบื้องหลังคำที่เราใช้กันบ่อยๆ อย่าง "การลงทุน" หรือ "มูลค่า" ผมก็เชื่อว่าแต่ละคนไม่ได้มีนิยามเหมือนกันเป๊ะๆ หรอก ความถนัดถวามชอบแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้วซึ่งนำไปสู่กระบวนการคิด การตัดสินใจกระทำที่แตกต่างกันไป

"ลงทุนแบบเน้นคุณค่า หรือ เน้นมูลค่า แล้วขาดทุน" - ผมอยากเห็นเป็น case study จริงๆ นะครับ ถ้าได้สัก 100 ตัวอย่างเลยก็จะดีมาก คนตายน่ะพูดไม่ได้แน่ๆ แต่คนเจ็บพูดได้อยู่นะครับ เป็นประโยชน์กับผู้ฟังด้วย  :8)
mprandy
Verified User
โพสต์: 1992
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 16

โพสต์

[quote="Ryuga"]
ที่ว่า นักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากไม่ประสบความสำเร็จ หรือ ขาดทุนนั้น ผมอยากเห็นจริงๆ ว่าจะมีใครอุทิศเรื่องของตนเองขึ้นเป็นกรณีศึกษาแบบชัดเจนหรือไม่
ที่ว่าเน้นมูลค่าแล้วขาดทุน มันมูลค่าแบบไหนยังไงกันแน่ ถ้าเป็นเรื่องหุ้น ก็ว่าให้ชัดๆ ไปเลยว่าหุ้นอะไร ไปซื้อมาตอนไหน ราคาเท่าไหร่ ตอนซื้อคิดไว้ยังไง ประเมินมูลค่าที่แท้จริงได้แค่ไหนยังไง ส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยกี่% ฯลฯ

ไม่ได้ประชดนะครับ แต่อยากเห็นจริงๆ ว่าตอนซื้อคิดยังไง คาดหวังอะไรยังไงเท่าไหร่ แล้วผลมันออกมาไม่เป็นไปอย่างที่คิดเพราะสาเหตุอะไร ก็ว่ากันให้ชัดๆ ไปเลย โพสกันในเว็บหลายๆ คนก็จะได้ช่วยกันคิด เก็บรวบรวมเป็นกรณีศึกษา เป็นองค์ความรู้ไปเลย มีประโยชน์สำหรับท่านนักลงทุนอื่นๆ ไปจนถึงผู้ที่อยากจะลงทุนแต่ยังอยู่ในระหว่างการเรียนรู้ด้วย

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

"ลงทุนแบบเน้นคุณค่า หรือ เน้นมูลค่า แล้วขาดทุน" - ผมอยากเห็นเป็น case study จริงๆ นะครับ ถ้าได้สัก 100 ตัวอย่างเลยก็จะดีมาก คนตายน่ะพูดไม่ได้แน่ๆ แต่คนเจ็บพูดได้อยู่นะครับ เป็นประโยชน์กับผู้ฟังด้วย
ไม่สน return rate เยอะ, ขอแค่ financial freedom ภายใน 14 ปีก็พอ..
------------------------
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 17

โพสต์

เอออ...งานวิจัยน่าสนใจมากครับ
    impossible is nothing............... :wink:

     
  ........................................

  ขอต่อนิดครับบบ...
 
    วันหนึ่งในการคุยกับพี่สมาชิกท่านหนึ่ง เมื่อผมถามเรื่องหุ้นตัวหนึ่งที่ผมได้โพยมาจากเซียนหุ้นรายใหญ่และอยากจะเข้าไปลงทุน แต่ก้ไม่กล้าเข้าไปลงทุน จนหุ้นราคาขึ้นเกือบ 30 % กว่าแล้ว และก้บ่นกับพี่เขา ว่าผมเสียดายขนาดไหน  พี่สมาชิกท่านนั้นตอบผมว่า

         "มันใช่แนวทางของโหน่งหรือ ถ้าเป็นพี่ พี่คงไม่มีความสุขจากที่ได้ลงทุนในหุ้นที่พี่ไม่เข้าใจ ถึงจะได้เงินกำไรมากมายนะ พี่ว่าแต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ การเห็นเงินงอกเงยจากสิ่งที่พี่ลงทุนแล้วมีความสุข "

        พี่ท่านนี้ทุกคนรู้จักเป็นอย่างดีครับ

        ผมฟังแล้วรู้สึกอายพี่เขามากครับ.....

    เพราะผมไม่เคยมีความรู้สึกอยางนี้เลย  ผมไม่เคยมีความสัตย์จริงเลย

      ผมค้นพบว่า พี่คนนี้มีความสัตย์จริงใน value investing อย่างมาก  เพราะ หนึ่ง ตะหนักรู้ว่าสิ่งใดถูก สิ่งใดผิด มีเวลาในการใคร่ครวญแยกแยะว่าสิ่งใดถูกและผิดอย่างไร ให้เหตุผลได้อยางชัดเจนว่าตนเองเชื่อว่าสิ่งนั้นถูกและผิดเพราะเหตุผลใด
 
   สอง การกระทำสอดคล้องกับสิ่งที่ตระหนัก มั่นคงในความสัตย์จริง เมือเชื่อว่าสิ่งใดถูกก็สะท้อนความเชื่อนั้น แม้บางตรั้งต้องสูญเสียบางอย่าง เพราะต่อสู้อย่างเปิดเผย หากเชื่อว่าสิ่งนั้นถูกต้อง

   พูดถึงตรงนี้ ผมคิดถึง พี่ฉัตร อีกท่าน ท่านมีความสัตย์จริงที่โดดเด่นเห็นชัดมากครับ

    http://www.thaivi.com/webboard/search.p ... r=chatchai

        สาม พี่เขากล้าสื่อสารอย่างเปิดเผยในสิ่งที่ตัวเองทำ  สิ่งที่ทำก็สอดคล้องกับสิ่งที่คิด โดยกล้าบอกทำสิ่งใด เหตุใด จึงทำเช่นนั้น และที่สำคัญมีความกล้าที่จะสามารถสื่อต่อสาธารณชนได้ว่า สิ่งที่ทำนั้นถูกต้อง แม้มีคนไม่เห็นด้วย

   ใช่....ผมเห็นหลายท่านไปออกรายการ

     ผมเห็นหลายท่านทำสิ่งนี้ผ่านทางรายการ Money Channel ....

      ขอแสดงความนับถือด้วยความจริงใจครับ

      เพราะตอนที่พี่หมอโทรมาชวนไปออก ผมยังไมมีความกล้าเลย เพราะผมไม่เคยมีความสัตย์ตั้งแต่แรกนี่เอง  เมื่อเปรียบเทียบกับผม แล้ว ผมยังห่างไกลเหลือเกินครับ

   ผมเข้าใจแล้วครับ...............

       ผมคิดว่ามันถึงเวลาสำรับผมแล้วที่จำเป้นต้องรื้อฟื้น "ความสัตย์จริง" ให้เป็นลักษณะพื้นฐานของชีวิตการลงทุน

    เอาละ.....สู้โว้ยยยยย   :'O
..............................
mprandy
Verified User
โพสต์: 1992
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 18

โพสต์

[quote=".^O-O^"]....ผมเห็นหลายท่านไปออกรายการ
ไม่สน return rate เยอะ, ขอแค่ financial freedom ภายใน 14 ปีก็พอ..
------------------------
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 19

โพสต์

[quote="mprandy"]โหน่งออกทีวีเมื่อไหร่ จะได้รอดูครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ขอต่ออีกนอดครับบบ...55555


   มองภาพใหญ่

       บางทีสิ่งสำคัญที่คนควรมีไว้ติดตัวคือการมองภาพใหญ่ เสียดายนักลงทุนส่วนมากไม่ใช้สิ่งนี้ในการต่อสู้ด้านการลงทุน เช่นเดียวกับความสัตย์จริง ทั้งๆ ที่เรื่องแบบนี้เป็นคุณสมบัติแรก ๆ ของความสำเร็จ บางทีเราอาจลองนึกฝันว่า ตัวเราในอนาคตว่าควรจะไปได้ไกลถึงไหนบ้าง เราอาจจะมองเห็นตัวเราในปัจจุบันช่างตัวเล้กกระจ้อยร่อยเหลือเกิน  

      ขณะที่เขียนบทนี้อยู่นั้น ผมนึกถึงคำพูดของท่านริวเรื่องานวิจัย...
 
       ยังมีคนเก่งกว่าผมจำนวนมากมายที่เกินกว่าสติปัญญาของผมจะเทียบเคียงได้ ผมจึงหยิบยืมความคิดเพื่อนๆ ในเว็บนี้อย่างท่านริศที่เคารพนับถือมาอ้างอิง เพื่อช่วยให้งานเขียนชิ้นนี้มีน้ำหนักและแจ่มขึ้นครับ

   การมองภาพใหญ่ของหุ้น

  by นริศ

               
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=29991


อาจารย์นิเวศน์ ท่านเคยกล่าวไว้ว่า ในการคัดสรรหุ้น นักลงทุนต้องมอง ภาพใหญ่

                       น่าคิดนะครับ!!!!!!!!!
   
  ผมว่าที่ท่านกล่าวคำว่า ภาพใหญ่ นั้น ไม่น่าจะหมายถึง macro economic หรือ ภาพรวมทางเศรษฐกิจ แต่น่าจะหมายถึง  ภาพใหญ่ ในส่วนของ  micro economics ต่างหากครับ  

            ใช่แล้วครับ เป็น ภาพใหญ่ โดยรวมของ หุ้น    
       
      ถ้าผมต้องการที่จะเข้าใจ หุ้น ตัวใดตัวหนึ่งอย่างถี่ถ้วนแล้ว ผมมักจะมองดูหุ้นตัวนั้นจากมุมต่างๆ กัน  พิจารณาดูทั้งด้านบน ด้านล่าง และด้านข้าง  พลิกหาจุดกำเนิดของแต่ละส่วนอย่างถี่ถ้วน  .ฉะนั้นเมื่อมองดู ภาพใหญ่ ของหุ้นแล้ว ผมจะรู้ทุกซอกทุกมุมไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกในรูปแบบใด  ผมก็จะได้เห็นมุมมองที่แตกต่างกันทั้งสามมุมของแต่ละส่วน  
       
      มุมที่ว่ามีอะไรบ้าง ต้องมองอย่างไร ถึงจะค้นคว้าหา ภาพใหญ่ ที่ว่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ผมขออนุญาตผ่า ภาพใหญ่ ออกเป็นทั้งหมด 3 ส่วน เผื่อที่จะมองแง่มุมได้ต่างๆ กัน มีลักษณะดังต่อไปนี้ครับ

    มุมที่หนึ่ง
 ภาพใหญ่ในเรื่องของความต้องการของตนเอง
โดยที่ผมจะ ถาม ความต้องการของตนเองให้ได้ก่อนว่า  
     หนึ่ง ผมต้องการผลตอบแทนในการลงทุนเท่าไหร่?
     สอง ในระยะเวลานานเท่าใด?    
     สาม   ยอมขาดทุนจากเงินลงทุนได้มากขนาดไหน?

         การตั้งคำถามเหล่านี้ ก็เพื่อทำให้ผมสามารถกำหนด ภาพใหญ่ ในเรื่องความต้องการของตนเอง  กำหนดชนิดของปลาที่ต้องการ  และกำหนดแหล่งที่จะไปตกปลาตัวนั้น เช่น ถ้าผมต้องการผลตอบแทนไม่สูงมาก ขอส่วนต่างราคาหุ้นรวมปันผลซักประมาณ 10% ต่อปี และต้องการถือระยะยาวซัก 20 ปี ช่วงแรกไม่เน้นเงินปันผล แต่เน้นความปลอดภัยมากๆหน่อย ผมก็เลือกหุ้นที่มี brand name แข็งแกร่ง เป็นผู้นำในตลาด มีประวัติที่ผ่านมาดีชัดเจน  trend ผู้บริโภคระยะยาวน่าจะโตกว่า GDP  เพราะฉะนั้นถ้าตั้งโจทย์ไว้อย่างนี้แล้ว ผมก็จะเลือกได้ง่ายขึ้น  ยอมที่จะเลือกหุ้นที่มี margin of safety น้อยหน่อยก็ไม่เป็นไร  เพราะต้องการแลกความเสี่ยงกับราคาที่ซื้อแพงขึ้น  เปรียบเสมือนเรายอมไปตกปลาในบ่อที่เขาเตรียมปลาไว้ให้แล้ว เพื่อที่ชัวร์ๆว่ายังไงปลาก็กินเบ็ดของเรา (แต่ต้องเสียค่าตกปลาหน่อยบ้าง เพื่อแลกกับความเสี่ยงที่ลดลง)  หุ้นประเภทนี้  เช่น TF SCC PB CP7-11 SAUCE BH เป็นต้น

         ส่วนใครที่ต้องการได้ผลตอบแทนสูงๆ คงจะไปเสียเงินตกในบ่อไม่ได้ ก็คงต้องไปหาปลาในแหล่งที่คนอื่นยังไม่ไปหา  อย่างที่สมาชิกท่านหนึ่งในเว็บ Thaivi.com ที่ใช้ล๊อกอินว่าคุณ ลูกอีสาน กล่าวไว้ว่า

                            จงไปหาปลาในที่ๆ มันมีปลา



     ถ้าเราอยากได้ผลตอบแทนสูงๆสัก 50% ต่อปี เราก็ควรต้องมีความกล้าที่จะไปค้นหาในที่ๆคนอื่นยังไม่ไป และบางครั้งต้องเข้าถ้ำเสือ จึงจะได้ลูกเสือ ก็แน่นอนว่าความเสี่ยงก็ต้องมากกว่าหุ้นพื้นฐานมากอยู่มากโข  แต่เราก็สามารถที่จะลดความเสี่ยงให้ต่ำลงได้โดยการทำความเข้าใจกับหุ้นตัวนั้นให้มากที่สุด ในเมื่อความไม่รู้ในหุ้นตัวนั้นๆ ลดลง ความเสี่ยงก็ลดลงด้วยเช่นกัน ที่สำคัญ

             
       อย่าหลอกตัวเองว่ารู้ และ อย่าโลภเกินความรู้

     มุมที่สอง
   ภาพใหญ่ในเรื่องของตัวหุ้น

      หลังจากที่ผมได้ทำความรู้จักกับตนเอง และสามารถหาคำตอบทั้ง สามคำถาม จากมุมที่หนึ่งได้แล้ว ต่อไป  เรื่องที่จะผมจะหาหุ้นในแบบที่ผมต้องการก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น  ตัวอย่างเช่น  ถ้าเราตั้งเป้าไว้ว่าต้องการผลตอบแทนสัก 50% ต่อปี  และโดยส่วนตัวแล้ว เป็นคนที่มีความขยันในการหาข้อมูล  มีนิสัยที่ติดตามติดข่าวสารตลอด  สามารถซื้อและขายหุ้นได้เร็ว (เช่น คนที่พอร์ตเล็กสามารถลงทุนในหุ้นตัวเล็กๆได้ง่ายกว่าคนพอร์ตใหญ่) และ ไม่มีเหตุจำเป็นที่ต้องถือยาวหลายๆปี  อีกทั้งยังสามารถแบกรับความเสี่ยงของเงินลงทุนทั้งหมดที่ลงไป   ถ้ามีปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เป็นลักษณะแบบนี้  เราคงไม่ไปหาหุ้นพื้นฐานที่ โตช้า ครับ

        แต่ ภาพใหญ่ ที่เราควรจะมองก่อนอื่น คือ ประเภทหุ้นที่สามารถให้ผลตอบแทนได้มากๆ  อย่างหุ้นประเภท supergrowth  หุ้น turnaround  หุ้นวัฏจักร หรือหุ้น asset play ที่รอการปลดปล่อยและเปลี่ยนแปลงทรัพย์สิน (เช่น ticon สมัยที่เริ่มขายกองทุนอสังหา )   รวมไปถึงวอร์แรนบางตัวที่คิดว่ามี upside มากพอควร  หลังจากนั้น เราค่อยมามองภาพใหญ่ หุ้นตัวนั้นๆอีกที  

     ภาพใหญ่ ของหุ้นโตเร็ว คืออะไร?

       คำตอบคือ  การเติบโตของผลกำไร ครับ

  ถ้าเป็นหุ้นลักษณะนี้  เราต้องเน้นโฟกัสของเราส่วนมากไปที่ความน่าจะเป็นทั้งแง่บวกและแง่ลบไปที่ ผลกำไร ของบริษัทจะหาได้ในอนาคตนั่นเอง
       
     และถ้าเป็นหุ้นในกลุ่ม turnaround ละครับ เราต้องโฟกัสไปที่อะไรบ้าง?

    สิ่งที่ต้องดูในกลุ่มนี้ คือ จุดกลับตัว ของธุรกิจครับ  เราต้องตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนว่าในอดีตที่ผ่านมา ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับบริษัทเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราวที่ทำให้รายได้และกำไรลดลงในปีที่ผ่านมาหรือไม่ หุ้นลักษณะนี้อาจจะเจอมรสุมบางอย่างในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น อาจจะเป็นเรื่องของราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากและทางบริษัทปรับราคาขายไม่ทัน เป็นต้น แต่ราคาหุ้นได้ปรับตัวลงมารองรับข่าวร้ายไปหมดแล้ว พอธุรกิจฟื้น ผลประกอบการฟื้น ราคาหุ้นก็จะฟื้นเช่นกัน
     
    เมื่อผมได้ภาพใหญ่ชัดเจนแล้ว เราค่อยไปมองภาพย่อยเจาะทำความรู้จักส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องกับบริษัทนั้นๆ ครับ



      มุมที่สาม    
ภาพใหญ่ในจังหวะการลงทุน
    ได้คำตอบจาก มุมที่ 1 และ มุมที่  2 แล้วใช่ไหมครับ ดีใจด้วยครับ
มีสิ่งที่ต้องเพิ่มเติมอีกนิดครับ ทั้งสองมุมจะมีองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกันอยู่หนึ่งอย่างครับ  สิ่งนั้นคือ                    

                                ระยะเวลา

         ครับ  เป็นระยะเวลาในการครอบครองหุ้นและจังหวะในการซื้อ-ขายหุ้น (time & timing)  
         
         ตัวอย่างเช่น นักลงทุนบางท่านที่มีพอร์ตที่ใหญ่มูลค่าเป็นหลายร้อนล้าน ทำให้ต้องมองหาหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปสูงๆในการลงทุน  ท่านเป็นคนไม่ชอบอะไรที่เสี่ยง มีอิสระภาพทางการเงินแล้ว ต้องการผลตอบแทนระดับ 10-15% ต่อปี ก็เพียงพอ และต้องการลงทุนในหุ้นแต่ละตัวในระยะ5ปีขึ้นไป  ทำให้ต้องมอง ภาพใหญ่เป็นแบบระยะยาวของ trend อุตสาหกรรมนั้นๆ ว่ามี กำแพง และคูเมืองป้องกันคู่แข่งในระยะยาวเกิน 5 ปีหรือเปล่า?  (เท่ากับระยะเวลาที่ท่านต้องการลงทุน) โดยมองข้ามปัจจัยที่มีผลกระทบในแง่ลบในระยะสั้นๆ (หรือนั่นคือจังหวะในการซื้อของท่านมากกว่า)  ท่านควรมองข้ามภาพเล็กๆในองค์ประกอบที่ไม่ค่อยมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับ trend ของธุรกิจในระยะยาว

       ส่วนบางคนที่พอร์ตเล็กและอาจมีความต้องการผลกำไรมากกว่านั้น จึงต้องไปมองหาหุ้นขนาดเล็กและขนาดกลางที่สามารถเติบโตได้รวดเร็วในระยะ 1-5 ปีข้างหน้า ซึ่งก็ต้องมอง ภาพใหญ่ ของผลกำไรแค่ในระยะกลางๆ 1-5 ปีเท่า ๆ กับระยะเวลาที่เราต้องการลงทุน
   
     อีกกรณีหนึ่ง สมมุติว่าถ้าเรารู้ว่าปีหน้ามีบริษัทหนึ่งกำไรของบริษัทจะ turnaround กำไรจะโตกว่า 5 เท่าจากปีที่ผ่านมา pe ปีหน้าอาจเหลือเพียง 2 เท่ากว่าในราคาปัจจุบัน (สมมุติว่าเป็นจุดเริ่มต้นขาขึ้นของหุ้นวัฎจักร) อย่างน้อยๆ เราคงไม่มองไปในอนาคตอีก 5 ปีว่าบริษัทจะเป็นอย่างไร หรือคงไม่ต้องไปหารายละเอียดข้อด้อยปลีกย่อยของหุ้นตัวนั้น  เหมือนกับที่ประธานของ Thaivi.com คุณ สามัญชน ท่านเคยปรารถไว้ว่า



        ช้างก็บินได้สำหรับขาขึ้นของหุ้นวัฏจักร

   ผมคงมองในระยะสั้นๆ ถึงแค่ปีหน้าให้ชัวร์ๆไว้ก่อน เพราะถ้าเป็นจริง ปีหน้านี้เราคงได้กำไรจากส่วนต่างราคาหุ้นตัวนี้เป็นแน่แท้ แล้วค่อยมาหาจุดขายอีกครั้งหนึ่ง

             แต่ปัญหาที่สำคัญที่สุดอยู่ที่ว่า
 
   เรามีความสามารถในการมอง ภาพใหญ่ ในระยะต่างๆได้ตรงและชัดเจนเพียงใด

     เพราะถ้ายิ่งสั้น โอกาสกลับตัวยิ่งน้อย โอกาสขาดทุนมีสูงกว่า ส่วนคนที่มอง ภาพใหญ่ ในระยะยาวอย่างเช่น อาจารย์นิเวศน์ โอกาสขาดทุนก็แทบจะเป็นศูนย์ เนื่องจากภาพใหญ่ทั้งสามส่วนของท่านชัดเจนมาก (ชัดเจนแม้นกระทั่งคนภายนอกยังมองเห็น)

    และที่สำคัญที่สุดใครสามารถมองหา ภาพใหญ่ ในระยะยาวที่ราคาหุ้นยังไม่แพง ต้องถือว่าเขาสามารถถูกหวยได้เป็นระยะเวลานานถึง  10 ปี ติดต่อกันทีเดียว โดยไม่ต้องไปเสียเวลาหาหุ้นตัวใหม่อีกเลยครับ


.........................................................................

*****  เรื่องสีนี่ของยืมไอเดียพีหมอ mp มาใช้ครับ...... :wink:
...
Verified User
โพสต์: 1817
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 21

โพสต์

เยี่ยมไปเลยครับ  :cool:
แมงเม่าบินเข้ากลางใจ
ทันห้า
Verified User
โพสต์: 8
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 22

โพสต์

ดร.นิเวศน์ ท่านได้พูดเกี่ยวกับภาพใหญ่ของหุ้นสั้นๆ ในงาน Thaivi ครั้งที่ผ่านมา ไว้ดังนี้
"ผมดูภาพรวมๆแล้ว จุดอ่อนอันหนึ่งก็คือว่า  พวกเราไปพูดแต่เรื่อง ที่เป็นคุณลักษณะ หรือเหตุการณ์อะไรบางอย่างของตัวกิจการ  ซึ่งบางทีมันไม่เข้าประเด็นใหญ่ว่า  บริษัทนี้ถ้ามองกันแบบมองทีเดียวแล้วเห็นเนี่ยนะ  คือจุดเด่นมันอยู่ตรงไหน  ตรงนี้เราก็จะจับความสำคัญได้ว่า  บริษัทนี้มีอะไรที่เด่นมาก ดูปั๊บก็รู้เลย"
บัวพ้นน้ำ
Verified User
โพสต์: 8
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 23

โพสต์

ดีที่สุด  โชคดีจังที่ได้อ่าน
Life is charity
Sittipan.tvi
Verified User
โพสต์: 193
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 24

โพสต์

ลึกซึ้งถึงแก่นแท้เลยครับ....... :bow: ^O-O^
:bow:
i_sarut
Verified User
โพสต์: 1808
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 25

โพสต์

สุดยอดเลยครับ กะทู้นี้  :D
"Risk comes from not knowing what you're doing" - Warren Buffet

สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย

http://www.sarut-homesite.net/
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 26

โพสต์

[quote="Ryuga"]
ที่ว่า นักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากไม่ประสบความสำเร็จ หรือ ขาดทุนนั้น ผมอยากเห็นจริงๆ ว่าจะมีใครอุทิศเรื่องของตนเองขึ้นเป็นกรณีศึกษาแบบชัดเจนหรือไม่ ที่ว่าเน้นมูลค่าแล้วขาดทุน มันมูลค่าแบบไหนยังไงกันแน่ ถ้าเป็นเรื่องหุ้น ก็ว่าให้ชัดๆ ไปเลยว่าหุ้นอะไร ไปซื้อมาตอนไหน ราคาเท่าไหร่ ตอนซื้อคิดไว้ยังไง ประเมินมูลค่าที่แท้จริงได้แค่ไหนยังไง ส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยกี่% ฯลฯ

"ลงทุนแบบเน้นคุณค่า หรือ เน้นมูลค่า แล้วขาดทุน" - ผมอยากเห็นเป็น case study จริงๆ นะครับ ถ้าได้สัก 100 ตัวอย่างเลยก็จะดีมาก คนตายน่ะพูดไม่ได้แน่ๆ แต่คนเจ็บพูดได้อยู่นะครับ เป็นประโยชน์กับผู้ฟังด้วย
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 27

โพสต์

แพ้ใจ ของ ใหม่ เจริญปุระครับ
:)
:)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Juninho
Verified User
โพสต์: 1050
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 28

โพสต์

เอ   จริงหรือครับที่ วีไอ ส่วนมากไม่ประสบความสำเร็จ

ผมกลับคิดตรงกันข้ามเลย
You Can Get It If You Really Want
But you must try, try and try
คลายเครียด
Verified User
โพสต์: 1734
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 29

โพสต์

ผมเชื่อเรื่อง

"สเปคตรัมของนักลงทุน"  ครับ

http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 02022.html



:?:  :?:  :?:  :?:  :?:  :?:  :?:  :?:
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

ทำไมนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากถึงไม่ประสบความสำเร็จ

โพสต์ที่ 30

โพสต์

อืมม์ ขอก๊อปเรื่อง spectrum ของนักลงทุนนะครับ เฮียคค.

เฮียโหน่ง คิดจะจับกบ ต้องไปรอตรงใบบัวที่กบมัน "จะ" กระโดดไปครับ
โพสต์โพสต์