ผลตอบแทนจากตลาดหุ้น 10,000 เท่า ใน 7 ปี ??
-
- Verified User
- โพสต์: 715
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนจากตลาดหุ้น 10,000 เท่า ใน 7 ปี ??
โพสต์ที่ 1
เห็นว่าน่าสนใจดีเลยเขียนให้อ่านกัน ใช้วิจารณญาณนะครับ
ผม อ่านการ์ตูนเรื่อง Wildlife ซึ่งเป็น การ์ตูนเกี่ยวกับ สัตวแพทย์ที่ฮิตมากช่วงนี้ เล่มล่าสุดพึ่งอ่านไปคือ เล่ม 19 ซึ่ง คนเขียนเรื่องนี้ ได้เขียนเรื่องว่าตัวพระเอกของเรื่องได้ไปศึกษาวิธีเล่นหุ้นจากเซียนหุ้นวัย 27ปี ที่ชื่อว่า " B.N.F" ซึ่งในการ์ตูนกล่าวถึงว่า เป็นคนที่ เริ่ม เล่นหุ้นที่ญี่ปุ่น ในปี 2000 ด้วยเงิน 1.6 ล้านเยน และในปี 2006 ที่คนเขียนไปสัมภาษณ์นำมาลงในการ์ตูน มีพอร์ตหุ้นมูลค่า 13,000 ล้านเยน ซึ่งตอนที่อ่าน ผมก็นึกว่าเรื่องสมมติ แต่อ่านไปอ่านมา คนเขียน เขียนจริงจังมาก เลยสงสัยว่าเรื่องจริงรึเปล่า
เลยลอง search ใน google ดู ก็ได้ความว่าดังนี้ครับ
B.N.F เป็นชื่อเล่นในบอร์ดสนทนาที่ใหญ่สุดของญี่ปุ่น ของ นักค้าหุ้นญี่ปุ่น ที่มีชื่อโด่งดังจาก เหตุการ์ณ Key ขายหุ้น J-Com ผิด ของ Mizuho Securities ในวันที่ 8 ธันวาคม 2005 ซึ่งได้รับคำสั่งใน key ว่าขาย หุ้น J-com 1 หุ้น ที่ราคา 610,000 Yen แต่ดันไป key ผิดว่า ขายหุ้น J-com 610,000 หุ้นที่ราคา 1 Yen (คุ้นๆไหมครับเหตุการ์นี้ที่ไทย) ซึ่งจากเหตุการณ์นั้น ทาง Mizuho พยายามขอหุ้นคืนจากคนที่ได้ไป แต่ก็ไม่มีคนยอม Mizuho เท่าไหร่ ซึ่งมีคนทำกำไรจากตรงนี้ไปมากมาย แต่คนที่ทำกำไรจากงานนี้ได้มากสุดคือ B.N.F. หรือชื่อจริง ชื่อ Kotegawa Takashi นักค้าหุ้นที่ ซื้อขายหุ้นจากบ้านของตัวเอง ซึ่งเค้าได้ใช้เงิน 3,440 ล้านเยน ในการซื้อหุ้น J-com 7,100 หุ้น และทำกำไรได้มากกว่า 2,000 ล้านเยน ในเวลาสั้นๆ (link อ้่างอิง http://www.bloomberg.com/apps/news?pid= ... refer=asia
http://en.wikipedia.org/wiki/B.N.F_(J-Com_man))
ผลตอบแทนของ B.N.F. (ที่สัมภาษณ์ลงการ์ตูน)
ต.ค. 2000 - เริ่มด้วย เงิน 1.6 ล้านเยน
สิ้นปี 2000 - 3 ล้านเยน
สิ้นปี 2001 - 60 ล้านเยน
สิ้นปี 2002 - 100 ล้านเยน
สิ้นปี 2003 - 250 ล้านเยน
สิ้นปี 2004 - 1,000 ล้านเยน
สิ้นปี 2005 - 10,000 ล้านเยน
ปี 2006 - 13,000 ล้านเยน
เท่าที่อ่านจากข่าวใน google ก็ำทำให้ B.N.F เนี่ยดังขึ้นมาเลยว่า คนหนุ่ม อายุ27 ปีไม่ทำการทำงาน เอาเงินจากไหนมาซื้อหุ้น J-Com ไปๆมาๆ ผู้่ชายคนนี้ก็ยอมมาออกรายการทีวีและก็ให้สัมภาษณ์ว่า เค้าเริ่มเล่นหุ้นมาปี 2000 ด้วยเงินเพียง 1.6 ล้านเยน แต่ในปี 2006 นั้นเค้ามีพอร์ตระดับ หมื่นล้านเยนแล้ว (ใน wikipedia ว่ามีพอร์ต 1.7 หมื่นล้านเยน) http://en.wikipedia.org/wiki/Hikikomori#Symptoms แต่ wiki จริงๆ ก็เชื่อไม่ค่อยได้นะครับ
หน้าตาของ B.N.F ครับ http://www.zakzak.co.jp/people/20080207.html
วิธีการซื้อขายทำกำไรของเค้า ที่อ่านเจอในเน็ตก็ประมาณว่า เค้าไม่เคยขาดทุนหุ้นเลย ตั้งแต่ซื้อขายมา มันเลยทบต้นไปเรื่อยๆ
แล้วใน การ์ตูน Wildlife ที่อ้างว่าได้สัมภาษณ์เค้า B.N.F บอกว่าใช้ technical คือ ซื้อหุ้นโดยดูหุ้นที่ราคาร่วงจากเส้น MA25 (ราคาเฉลี่ย 25วัน) ร่วงมา ประมาณ 60% แล้วก็จะเข้าไปซื้อ ( แต่มีข้อแม้ว่า เค้าต้องดูบริํษัทก่อนว่า ไม่เจ๊งแน่ๆ) ประมาณนี้ครับ อ่านดูก็ฟังดูง่ายๆ แต่คิดว่าเค้าก็ต้องเฮงมากๆ ถึงทำผลตอบแทนได้ หมื่นเท่า ใครสนใจลองไปอ่านในการ์ตูนเพิ่มได้ หรืออ่านญีปุ่นออกก็น่าจะมีข่าวของเค้าเยอะ มาแปลให้ฟังก็ดีครับอยากรู้เพิ่มเหมือนกัน
ผม อ่านการ์ตูนเรื่อง Wildlife ซึ่งเป็น การ์ตูนเกี่ยวกับ สัตวแพทย์ที่ฮิตมากช่วงนี้ เล่มล่าสุดพึ่งอ่านไปคือ เล่ม 19 ซึ่ง คนเขียนเรื่องนี้ ได้เขียนเรื่องว่าตัวพระเอกของเรื่องได้ไปศึกษาวิธีเล่นหุ้นจากเซียนหุ้นวัย 27ปี ที่ชื่อว่า " B.N.F" ซึ่งในการ์ตูนกล่าวถึงว่า เป็นคนที่ เริ่ม เล่นหุ้นที่ญี่ปุ่น ในปี 2000 ด้วยเงิน 1.6 ล้านเยน และในปี 2006 ที่คนเขียนไปสัมภาษณ์นำมาลงในการ์ตูน มีพอร์ตหุ้นมูลค่า 13,000 ล้านเยน ซึ่งตอนที่อ่าน ผมก็นึกว่าเรื่องสมมติ แต่อ่านไปอ่านมา คนเขียน เขียนจริงจังมาก เลยสงสัยว่าเรื่องจริงรึเปล่า
เลยลอง search ใน google ดู ก็ได้ความว่าดังนี้ครับ
B.N.F เป็นชื่อเล่นในบอร์ดสนทนาที่ใหญ่สุดของญี่ปุ่น ของ นักค้าหุ้นญี่ปุ่น ที่มีชื่อโด่งดังจาก เหตุการ์ณ Key ขายหุ้น J-Com ผิด ของ Mizuho Securities ในวันที่ 8 ธันวาคม 2005 ซึ่งได้รับคำสั่งใน key ว่าขาย หุ้น J-com 1 หุ้น ที่ราคา 610,000 Yen แต่ดันไป key ผิดว่า ขายหุ้น J-com 610,000 หุ้นที่ราคา 1 Yen (คุ้นๆไหมครับเหตุการ์นี้ที่ไทย) ซึ่งจากเหตุการณ์นั้น ทาง Mizuho พยายามขอหุ้นคืนจากคนที่ได้ไป แต่ก็ไม่มีคนยอม Mizuho เท่าไหร่ ซึ่งมีคนทำกำไรจากตรงนี้ไปมากมาย แต่คนที่ทำกำไรจากงานนี้ได้มากสุดคือ B.N.F. หรือชื่อจริง ชื่อ Kotegawa Takashi นักค้าหุ้นที่ ซื้อขายหุ้นจากบ้านของตัวเอง ซึ่งเค้าได้ใช้เงิน 3,440 ล้านเยน ในการซื้อหุ้น J-com 7,100 หุ้น และทำกำไรได้มากกว่า 2,000 ล้านเยน ในเวลาสั้นๆ (link อ้่างอิง http://www.bloomberg.com/apps/news?pid= ... refer=asia
http://en.wikipedia.org/wiki/B.N.F_(J-Com_man))
ผลตอบแทนของ B.N.F. (ที่สัมภาษณ์ลงการ์ตูน)
ต.ค. 2000 - เริ่มด้วย เงิน 1.6 ล้านเยน
สิ้นปี 2000 - 3 ล้านเยน
สิ้นปี 2001 - 60 ล้านเยน
สิ้นปี 2002 - 100 ล้านเยน
สิ้นปี 2003 - 250 ล้านเยน
สิ้นปี 2004 - 1,000 ล้านเยน
สิ้นปี 2005 - 10,000 ล้านเยน
ปี 2006 - 13,000 ล้านเยน
เท่าที่อ่านจากข่าวใน google ก็ำทำให้ B.N.F เนี่ยดังขึ้นมาเลยว่า คนหนุ่ม อายุ27 ปีไม่ทำการทำงาน เอาเงินจากไหนมาซื้อหุ้น J-Com ไปๆมาๆ ผู้่ชายคนนี้ก็ยอมมาออกรายการทีวีและก็ให้สัมภาษณ์ว่า เค้าเริ่มเล่นหุ้นมาปี 2000 ด้วยเงินเพียง 1.6 ล้านเยน แต่ในปี 2006 นั้นเค้ามีพอร์ตระดับ หมื่นล้านเยนแล้ว (ใน wikipedia ว่ามีพอร์ต 1.7 หมื่นล้านเยน) http://en.wikipedia.org/wiki/Hikikomori#Symptoms แต่ wiki จริงๆ ก็เชื่อไม่ค่อยได้นะครับ
หน้าตาของ B.N.F ครับ http://www.zakzak.co.jp/people/20080207.html
วิธีการซื้อขายทำกำไรของเค้า ที่อ่านเจอในเน็ตก็ประมาณว่า เค้าไม่เคยขาดทุนหุ้นเลย ตั้งแต่ซื้อขายมา มันเลยทบต้นไปเรื่อยๆ
แล้วใน การ์ตูน Wildlife ที่อ้างว่าได้สัมภาษณ์เค้า B.N.F บอกว่าใช้ technical คือ ซื้อหุ้นโดยดูหุ้นที่ราคาร่วงจากเส้น MA25 (ราคาเฉลี่ย 25วัน) ร่วงมา ประมาณ 60% แล้วก็จะเข้าไปซื้อ ( แต่มีข้อแม้ว่า เค้าต้องดูบริํษัทก่อนว่า ไม่เจ๊งแน่ๆ) ประมาณนี้ครับ อ่านดูก็ฟังดูง่ายๆ แต่คิดว่าเค้าก็ต้องเฮงมากๆ ถึงทำผลตอบแทนได้ หมื่นเท่า ใครสนใจลองไปอ่านในการ์ตูนเพิ่มได้ หรืออ่านญีปุ่นออกก็น่าจะมีข่าวของเค้าเยอะ มาแปลให้ฟังก็ดีครับอยากรู้เพิ่มเหมือนกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 1289
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนจากตลาดหุ้น 10,000 เท่า ใน 7 ปี ??
โพสต์ที่ 2
ขอบคุณครับ ที่นำมาเล่าสู่กันฟัง
ปล.คนอย่าง ซีดาน เปเ่ล่ ไอสไตน์ มีน้อยนะครับ
ปล.คนอย่าง ซีดาน เปเ่ล่ ไอสไตน์ มีน้อยนะครับ
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนจากตลาดหุ้น 10,000 เท่า ใน 7 ปี ??
โพสต์ที่ 4
น่าสนใจครับ แต่ถึงไม่บอกวิธีลงทุน ดูแต่รูปผมก็คงเดาว่าเป็น technician แน่ ๆ
แค่มุมกล้องเล็ก ๆ .. ปาเข้าไปกี่จอละนั่น :lovl:
ไม่รู้โต๊ะทำงานแกเป็นตัว U อะป่าว
แค่มุมกล้องเล็ก ๆ .. ปาเข้าไปกี่จอละนั่น :lovl:
ไม่รู้โต๊ะทำงานแกเป็นตัว U อะป่าว
ไม่สน return rate เยอะ, ขอแค่ financial freedom ภายใน 14 ปีก็พอ..
------------------------
------------------------
- น้ำครึ่งแก้ว
- Verified User
- โพสต์: 1098
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนจากตลาดหุ้น 10,000 เท่า ใน 7 ปี ??
โพสต์ที่ 7
เดี๋ยวโหลดมาอ่านดีกว่า ท่าจะสนุก
ขอบคุณมากครับ คุณ ent
ขอบคุณมากครับ คุณ ent
" ชีวิตไม่เคยขาดความหวาน "
-
- Verified User
- โพสต์: 374
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนจากตลาดหุ้น 10,000 เท่า ใน 7 ปี ??
โพสต์ที่ 9
ก็แค่คนโชคดีที่ได้จากความผิดพลาดของผู้อื่นมิใช่หรือ
-
- Verified User
- โพสต์: 715
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนจากตลาดหุ้น 10,000 เท่า ใน 7 ปี ??
โพสต์ที่ 10
ถ้าตามที่ BNF เค้ากล่าวอ้าง งาน key หุ้น ผิด เค้าได้กำไรมา 2 billion yen แต่ ว่า พอร์ตเค้ามี หมื่นกว่า ล้าน เยน จาก เงินเริ่ม 1.6 ล้านเยนeconometrica เขียน:ก็แค่คนโชคดีที่ได้จากความผิดพลาดของผู้อื่นมิใช่หรือ
- น้ำครึ่งแก้ว
- Verified User
- โพสต์: 1098
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนจากตลาดหุ้น 10,000 เท่า ใน 7 ปี ??
โพสต์ที่ 11
เท่าที่ดูแล้วไม่ใช่โชคแล้วละครับ ถึงมีโชคบ้างก็เป็นตอนปลายปี 2005 เท่านั้น
ที่ทำให้มีเพิ่มมาอีก 3000 กว่าล้านเยน
แต่ที่ทำให้พอร์ตโตได้ปีละขนาดนี้นี่
ที่สามารถมองได้ว่าหุ้นมีการกลับตัวทาง technic แล้วไม่งั้นคงไม่กล้านำเงิน
กำไรที่ได้มา reinvest ได้ขนาดนี้แน่นอน
นับถือๆ
ขอบคุณครับ
ที่ทำให้มีเพิ่มมาอีก 3000 กว่าล้านเยน
แต่ที่ทำให้พอร์ตโตได้ปีละขนาดนี้นี่
แสดงว่าต้อง แม่นทั้ง VI ที่มองว่าหุ้นตัวนี้ไม่เจ๊งแน่นอน แล้วก็ต้อง แม่น vsผลตอบแทนของ B.N.F. (ที่สัมภาษณ์ลงการ์ตูน)
ต.ค. 2000 - เริ่มด้วย เงิน 1.6 ล้านเยน
สิ้นปี 2000 - 3 ล้านเยน
สิ้นปี 2001 - 60 ล้านเยน
สิ้นปี 2002 - 100 ล้านเยน
สิ้นปี 2003 - 250 ล้านเยน
สิ้นปี 2004 - 1,000 ล้านเยน
สิ้นปี 2005 - 10,000 ล้านเยน
ปี 2006 - 13,000 ล้านเยน
ที่สามารถมองได้ว่าหุ้นมีการกลับตัวทาง technic แล้วไม่งั้นคงไม่กล้านำเงิน
กำไรที่ได้มา reinvest ได้ขนาดนี้แน่นอน
นับถือๆ
ขอบคุณครับ
" ชีวิตไม่เคยขาดความหวาน "