ชมรมเรียงความวันอาทิตย์ (Sunday Essay Society)

[humdrum]

"นิยายสามก๊กไม่ใช่ชีวิต แต่ทำให้เข้าใจชีวิตต่างหากเล่า!!!!!"

            นั่นเปิดประเด็นมาก็ซะขนาดนี้.....55555

       สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่เคารพครับ  บ่ายๆ วันอาทิตย์อย่างนี้ .....
 
      . ....กระผมว่างจัดจริงครับ วันนี้มาส่งแม่ยายที่สระแก้ว แถวนี้เงียบสงบดีจริง ๆ  ครับ ข้างหลังเป็นป่ายูคา เดินไปหน่อยเป็นลำธาร  เสียงนกร้อง โห.....บรรยากาศอย่างนี้  นอนดีกว่าครับ...5555555    

            กลับมาก็ใส่เลยครับ ....มาขอตั้งชมรมเรียงความวันอาทิตย์  คือ อารมณ์อยากเขียน ไม่มีใครขอเลย ...55555    ประมาณว่า  ท่านใดมีเรื่องต่างๆ ที่แอบเขียนสะสมไว้  มาแชร์กันนะครับ ถ้าท่านเป็นคนหนึ่งที่เหมือนกระผม คือเขียนแล้ว สาร adrenaline มันจะหลั่งออกมา  มันมีความสุขนะครับที่ได้เขียน ..ไม่ใช่หลั่งอย่างอื่นนะครับ  ช่วงนี้ไม่มีให้หลั่งครับ เพราะพึ่งไปทำหมันมา......55555  
 
              เรียนเชิญนะครับ ใครใคร่เขียนเรื่องไหน เขียน ใครใครอ่านไหน อ่าน

                         ขอให้สนุกกับการเขียน และ การอ่านครับ                    
    ..........................................

   

  คนคอสามก๊ก


                 วันนี้.....ผมนัดพาแม่ยายไปหาหมอ ซึ่งเจ้าหมอคนนี้เป็นเพื่อนผมตั้งแต่สมัยเรียนเทพศิรินทร์ด้วยกัน เจ้าหมอนี้จัดว่าเป็น  "คอสามก๊ก" ประจำชั้นเลยทีเดียว คือ มันบ้าที่สุดในก๊วนแล้ว

        ย้อนกลับไปสมัยโน้น.....


    ใครๆ ก็ชอบขงเบ้งกันทั้งนั้น แต่ไอ้หมอเล็ก (เรียกอย่างนี้จริง ๆครับ เพราะพ่อมันเป็นหมอ และ พ่อมันชื่อเล็ก...อิอิ ) มันกลับเกลียดขงเบ้งเป็นยิ่งนัก เพราะอะไรหรือครับ

   อืม.......


      ไอ้หมอบอกว่า มันไม่เคยอ่าน 3 ก๊ก แต่มันชอบวิเตราะห์มากกว่า วิเคราะห์ว่าทำไมคนถึงทำอย่างนั้น วิเคราะห์เสร็จ มันบอกนี่ละเป้นเสน่ห์ละเฟ้ย ที่ทำให้ 3 ก๊ก เป็นอมตะ เพราะมีมุมให้วิเคาะห์ไม่รู้จักจบจักสิ้น

       อย่าง ขงเบ้ง    มันนินทาไว้....

  "เก่งยังไงวะ ถ้าเก่งจริง ทำไมสุดท้ายต้องทำงานคนเดียวจนตาย"

      มันเปิดประเด็นมา โห...ตอนนั้น........แถบกระโดดต่อยกันเลย!!!!!!  มาวิจารณ์ฮีโร่ผมเสียๆ หายๆ

    ไอ้หมอมันว่า  "จูกัดเหลียงเลือกเล่าปี่ ไม่เลือกโจโฉที่มีอำนาจมากกว่า ไม่เลือกซุนกวนที่รวยกว่า เอ็งว่าเพราะอะไร ไอ้ถั่ว (เพื่อนๆ ใช้เรียกผมสมัยเรียนเพราะชอบกินถั่วและตดในห้อง)"

         "เพราะเล่าปี่มีคุณธรรม ใจดีและเมตากว่าทุกคนซิวะ"   ผมตอบ

      " แต่ ขงเบ้ง ไม่ใช่"  

           "ทำไมวะ"   ผมถาม

      มันขุดต่อ.....

      "  แม้จกก๊กจะมั่นคง หลังเล่าปี่ตาย ขงเบ้งจะอยู่เฉยๆดีดพิณให้เพลิดเพลินไปจนแก่ก็ยังได้ แต่พี่ท่านกลับยกทัพไปบุ๊กวุยก๊กถึง 6 ครา ความสามารถมีทุกอย่าง แต่เสียอย่างเดียว เป้นพวกช อบ ความสมบูรณ์แบบ  ชอบทำอะไรคนเดียว ไม่ยอมให้คนอื่นได้พัฒนาตนเองบ้าง คนผู้หนึ่งที่เห็นชัดเลยๆ คือ ขุนพล อุยเอี่ยน

     เอ...จริงนะครับ คอสามก๊กรุ่นหลัง เริ่มเห็นประเด็นนี้ชัดขึ้นนะครับ อุยเอี่ยนไม่ดีจริง หรือ ขงเบ้งนึกอิจฉา จนทำให้ชีวิตหน้าที่การงานเขาไม่รุ่งเรื่อง ทั้งที่อุยเอี่ยนเป้นคนมีฝีมือ และ มากด้วยสติปัญญา            

     อุยเอียนสวามิภักจกก๊กมานาน เป็นเจ้าเมืองฮันต๋งแทนเตียวหุย หลัง ๆ ทหารกล้าระดับขุนพลมือดีตายหมด ขงเบ้งยังไม่ให้ความสำคัญ ยังให้อุยเอียนไปทำงานระดับล่างๆ เช่นไปร้องด่าท้ารบหน้าค่ายศัตรู ทั้งๆ ที่อุยเอี่ยนไม่ชอบ

         ไอ้หมอ มันยิ่งขุดยิ่งลึก  ขงเบ้งเก่งอ่านสถานการณ์ เก่ง  เก่งวางแผน เก่งใช้คน  ใครๆ ก็รู้ว่าเขาเป็นผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน ดังนั้นเขาจึงชอบสั่งงานมากกว่าฟังความคิดลุกน้อง เมื่ออุยเอียนเสนออะไรไป จึงโดนขงเบ้งตอบกลับว่าอวดเก่ง

      เออ....จริงของมันครับ  

     ขงเบ้งเก่งขนาดไหนใครก็ทราบครับ   เมื่อขงเบ้งป่วยถึงกลับมีคนพูดว่า ถ้าขาดขงเบ้ง จกก๊กจะทำยังไง

        ขงเบ้งตายคาสนามรบ ณ ทุ่งราบอูจ้ง เขาจากไปแค่ 54 ปี เท่านั้น ก่อนตาย ยังบอกลูกน้องให้ฝังศพตัวเองหันหนไปทิศเหนือซึ่งเป้นที่ตั้งของวุยก๊ก

       ไอ้หมอมันบอก  ขงเบ้งเก่งจริงๆ ข้าไม่เถียง แต่เก่งแบบข้ามาคนเดียวอย่างนี้ มันน่ากลัวโว้ย ถึงขนาดที่ว่านะโว้ย คนรุ่นหลังในจกก๊ก เวลาไม่อยากทำอะไร มักจะพูดกันว่า ขนาดขงเบ้งยังทำไม่ได้เลย แล้วเราจะทำได้หรือ

 ......  นี่ละครับ เรื่องที่ไอ้หมอพุดไว้นานแล้ว  ผมยังไม่เคยลืมครับ

                    สรุปได้ว่า....

         คนเก่ง ๆ ควรจะสร้างลูกน้องให้เป้นคนเก่งด้วย ไม่ใช่เก่งแบบข้ามาคนเดียว  ผมเริ่มสงสัยมี
มีผู้บริหารท่านไหนเป็นขงเบ้ง ในตลาดหรือปล่าว  

          บริษัทที่สร้างคนเก่งๆ turnover ของพนักงานควรจะต่ำ และพนักงานอยู่กับบริษัทนานๆ  

 อืม.......บริษัทที่ Buffett ลงทุนก็มีลักษณะอย่างนี้ละครับ

     อยุ่กันที 30-40 ปี จนตายกันไปละคนข้างละครับ....555555

           ............................

[ดาวหางสีแดง]

สวัสดีครับ คุณโหน่ง

ผมเองไม่ได้เขียนอะไรเก็บไว้หรอกครับ
แต่ขอเข้ามาคุยด้วยเรื่องขงเบ้ง

ผมเองก็ไม่ได้ชอบขงเบ้ง (ที่ปรึกษาในเรื่องนี้ ผมชอบ กุยแก กับ ลกซุน)

แต่ที่บอกว่าขงเบ้งเก่งคนเดียว แล้วไม่ได้สร้างคนเก่งรุ่นต่อๆไปไว้นี่
ผมว่าไม่นะ

ตัวอย่างที่ชัดมั่กๆ

ก็ เกียงอุย (Jiang Wei) ไงครับ

หมอนี่เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ เป็นตัวตายตัวแทนของขงเบ้ง

[ดาวหางสีแดง]

กรณีเกียงอุยนี่
มองได้เลยนะครับว่าขงเบ้งมองถึงการสร้างคนรุ่นต่อไปไว้แล้ว

ตั้งแต่ได้เกียงอุยมา ขงเบ้งก็จะเอาติดตัว พาไปไหนมาไหนตลอด
ความสัมพันธ์คล้ายๆศิษย์ กับอาจารย์กลายๆ

กลับกันนะ
ผมว่าขงเบ้งเป็นคนที่สร้าง ตัวแทนรุ่นต่อไปที่ชัดเจนที่สุดในเรื่องแล้ว

จิวยี่ --> โลซก --> ลิบอง --> ลกซุน
อย่างของก๊กนี้ มีตัวตายตัวแทนกันเป็นรุ่นๆ
แต่ว่าก็ไม่ได้เกิดจากการ "ปั้น"  กันขึ้นมาจากคนก่อนนะครับ
เป็นบุญของก๊กนี้มากกว่า ที่มีคนมีความสามารถโผล่ออกมาเรื่อยๆ
แล้วซุนกวนก็เป็นคนเลือกใช้คนเก่ง(ยกเว้นตอนบังทองนะ)


ส่วนกรณี อุยเอี๋ยน(Wei Yan)
หมอนี่เก่งจริงครับ
แต่ที่ขงเบ้งไม่ชอบ
เป็นเพราะขงเบ้งมองว่าหมอนี่ไม่ซื่อ ไว้ใจไม่ได้

เหมือนกรณีโจโฉ ไม่ชอบ สุมาอี้ ครับ

[humdrum]

ถึงทานดาวหางที่เคารพ

      สวัสดีครับ ผมไม่ได้ตอบเลย ต้องขอโทษด้วยครับ

  ...นี่ก็เป้น "คอสามก๊กอีกท่าน " ที่มีความรู้มากมายจนกระผมขอเรียกเป็น "ปราชญ์สามก๊ก" ได้เลย ไม่รู้มีท่านใดเป้นแบบกระผมหรือปล่าว ผมจะแอบดีใจมากเลย ถ้าทราบว่า มีเพื่อน ๆ ในเว็บ Thaivi เก่งในเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะอย่างหาตัวจับได้ขนาดนี้ ......  อย่างท่านดาวหางวิเคราะห์ได้น่าฟังทีเดียวครับ กระผมเจอไอ้หมออีกเมื่อไหร่ ประเด้น "เกียงอุย" นี้ผมไม่พลาดแน่ครับ แล้วจะเอาที่ไอ้หมอพูดมาฝากไว้โอกาศหน้า......อิอิ

           ขอบคุณมากครับ      

  ..................................................................

[humdrum]

เมื่อถุงจะกลายเป็นถัง      

    เมื่อเร็วนี้ ๆ ในงาน opp day ที่ผมไปฟังที่ตลาด 7- 11 พูดถึงถุงผ้าใส่ของ ของฝากปีนี้ยังมีถุงผ้าสีขาวฝากมาให้นักลงทุน นักข่าว นักวิเคราะห์ เอากลับไปใช้ที่บ้าน ใครอยากได้ถุงนี้ ที่ 7-11 น่าจะมีขาย

     ผมติดเจ้าถุงนี้ไปตลาดทุกเช้า shopping ใส่ของได้หลายอย่าง แต่บางของสดๆ อย่างไก่สด ปลาสดใส่ไมได้ เพราะผ้าจะเหม็น แม่ค้าหลายคนแอบยิ้มมุมปากตอนผมบอกเอาผ้ามาใส่เอง มองๆ แล้วผมเป็นคนแรกที่ใช้ถุงผ้า...เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆ  

                คนแรกอีกแล้ว!!!!!

     คิดถึงคำสอนอาจารย์ขึ้นมาทันทีครับ!!!!!

      "ถ้าไม่คิดจะเปลี่ยนโลก ไม่ต้องมาเรียนที่คณะนี้"

    โห!!......อาจารย์ครับ ผมจะต้องเปลี่ยนโลกในหมู้บ้านผมให้จงได้ครับ

"fearlessness is the mother of reinvention"    

   ป้ายนั่น!!!!

     ติดไว้ในห้องอาจารย์ผมเอง อ่านแล้ว something จริง ๆ ครับ

    ที่ Sanfrancisco ตอนนี้ห้ามร้านค้าใช้ถุงพลาสติดใส่ของตั้งแต่ปีที่แล้ว มาตราการนี้สอดคล้องกับการรนรงค์ให้ California เป้น green state และยังประหยัดงบอีกตั้งหลายถัง เพราะ...แปรสภาพถุงเก่าไว้ใช้ใหม่ ใช้เงิน 4000 ดอล/โออิชิ เวลาขายได้แค่ 32 ดอล/ตัน เท่านั้น

    Sanfran เป้นรัฐแรกที่ออกนำไปแล้ว
   
    แต่ตามหลังหลายประเทศ อย่าง South Africa   รวันดา   แซนบิกา   เกาะคอซิกา   บังคลาเทศ   อินเดีย   มุมไบ

     สังเกต แต่ละประเทศ มีอะไรเหมือนกัน........


      ทุกครั้งมีการ "ห้าม" เมื่อไหร่ สังเกตุว่าจะมีคนที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงออกมาประท้วงทุกครั้งครับ

     ช่วยโลกร้อน แต่มีบางคนร้อนแทน

     Walmart ไม่ค่อยยอมหรอกครับ เพราะถุงพลาสติดที่ทำจากปิโตมีราคาถูกกว่าถุงที่ทำมาจากข้าวโพดที่ย่อยสลายได้ ยิ่งตอนนี้ข้าวโพดราคาแพงลิลิบ ๆ กลายเป้นที่ต้องการเอาไปผลิตอีเทอนอล

    ............................

      ตลาดวันเสาร์คนเยอะแยะจริงๆ ครับ......อลหม่านอลเวงไปทุกแห่ง แม้แต่ทางหมาเบ่งตดยังไม่ค่อยมี

     อ้า.....นั่น !!!!

     ผมเหลือบไปเห้นอาม่าท่านหนึ่งถือถุงผ้า ......ตรงเข้าไปถามเลยครับ

    "โห...ม่า อินเทนน่าดูเลยครับ ช่วงนี้โลกร้อน ม่าเลยใช้ถุงผ้าแทนใช่ไหมครับ"  ^O-O^  


     แต่เอ๊ะนั่น.....ไม่ใช่ถุงนี่?  :shock:

   อาม่า  :P  :   "โอย...ลื้อเอาถุงอะไรก็ได้ ขอให้มันหิ้วของได้ก็พอแล้ว บางทีอั๊วก้เอาถุงพลาสติดมาเองจากบ้าน พอเอาของออก ก็เอามาใช้อีก ไม่ได้ทิ้งขยะ แต่วันนี้อั๋วหาถุงไม่เจอ ไม่รู้ที่บ้านใครทิ้งไป "ถุงผ้า" เอาไปซัก ยังไม่แห้ง เลยเอา"ผ้าถุง" มาห่อแทน "

     
         -  -  !  

         
    ใครจะเอาอย่าง  อาม่าก้ไม่สงวนลิทธิ์ครับ ...55555  


Have a nice weekend.  ทุกท่านนะคร๊าบบบบบ    

[กูรูขอบสนาม]

สวัสดีคุณโหน่งและชาว VI ผู้รักษ์โลกทั้งหลาย

คืนนี้เขาว่าจะให้ปิดไฟตอน 2 ทุ่ม เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
เอ..ไม่รู้โทรทัศน์จะปิดสถานีด้วยหรือเปล่า

ประเทศตะวันตกที่เป็นต้นคิดอย่างอเมริกา อังกฤษ
เป็นเวลากลางวัน ใช้ไฟน้อยอยู่แล้ว คงไม่เดือดร้อน
แม้กระทั่งออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ก็เป็นเวลาหลับใหล
เลยไม่เดือดร้อนนัก

ส่วนประเทศเราเป็นช่วงเวลาใช้ไฟเต็มอัตราเลย
ก็ให้เป็นช่วงโรแมนติคของคืนนี้แล้วกัน
จะจุดเทียน  จุดตะเกียงหรือ..ก็ทำให้โลกร้อนเหมือนกัน
เปิดวิทยุที่ใช้ถ่าน ก็สิ้นเปลืองวัสดุที่ไม่เป็นมิตรกับโลก
จะออกไปเดินดูเพื่อนบ้านข้างนอก ก็คงจะไม่เหมาะสม
เพราะอาจสร้างความหวาดระแวงได้

อย่ากระนั้นเลย นั่งในความมืด นิ่งคิดอะไรเงียบๆก็คงจะดีที่สุด

วิธีรักษ์โลกของกูรูทำง่ายๆ
สำหรับถุงพลาสติกที่ตามห้างให้มา ทุกวันนี้ก็ยังเอากลับมาใช้
โดยจะขอใบใหญ่สุด1 ใบ ใส่ของรวมๆกันเข้าไป
ข้าวสาร อาหารแมว หมาไม่ต้องใส่ถุง
เอามาใช้แทนถุงขยะสีดำ จะได้ไม่ต้องซื้อ

กระดาษห่อของขวัญสำหรับพรรคพวกที่สนิท
ก็เอากระดาษหนังสือพิมพ์ที่มีซัพพลีเม้นท์อาบมันสวยงามนั่นแหละ
หรือจะเอาซัพพลีเม้นท์พวกการ์ตูนวันอาทิตย์ มีสีสันสวยงามก็ไม่เลว
แกะห่อกระดาษไป ยังได้อ่านการ์ตูน เล่มเกมส์ได้อีก

กล่องไอติมที่กินเสร็จ ก็เอามาใช้ต่างทัพเพอร์แวร์ใส่ของแช่ตู้เย็น

พยายามใช้แบบ Reuse มากที่สุด
เพราะกระบวนการ Recycle เป็นสิ่งที่ดำเนินการเองยาก
หนีไม่พ้นต้องใช้พลังงานเพิ่ม

การใช้ถุงผ้า เป็นสิ่งที่ควรสนับสนุนตั้งนานแล้ว
ถุงผ้าเลยกลายเป็นแฟชั่น แบรนด์ดังๆขายถุงละ 3-400 บาท
แถบจะเหยียบกันตายในการเข้าแถวรอห้างเปิด
ดังที่ปรากฏเป็นข่าวในฮ่องกง

กูรูก็แปลกใจ ถุงผ้าได้รับแจกมากมายจากห้างร้านต่างๆ
ทำไมไม่เอามาใช้ให้เป็นประโยขน์
ต้องดิ้นรนไปซื้ออีก แล้วเดี๋ยวหมดเห่อ
ก็ซุกๆอยู่ที่ไหนสักแห่งเป็นขยะรกบ้านอีก


ถ้าหากกลัวเปื้อนง่าย ต้องซัก (ปลืองน้ำและผงซักผอก)
ก็เอาตะกร้าสานแบบไทยๆนี่แหละ สวยงามและแข็งแรง
เข้าสมัย " หิ้วตะกร้า นุ่งผ้าขาวม้าไทย จ่ายตลาด"

[humdrum]

สวัสดีครับพี่กูรู

         โห.....ผ้าขาวม้า....เย็นวูบบบบกระชูดแน่ครับพี่....  
        ว่าแต่ว่า ผมสงสัยมานานแล้วว่า "ผ้าขาวม้า" นี่เป้นของไทยหรือ
ปล่าวครับ

.........................................

      เอ....พี่ครับ

        ชาว SES อย่างผม บางทีเขียนอย่างเดียวก็เหมือนถอนออกจากบัญชีธนาคาร ไม่มีฝากเข้า ต้องคอยอาศัยอ่านมาก ๆ
    อย่าง งานเขียนของบางท่านอย่าง ดร. อ่านแล้วมีเสน่ห์จังเลยพี่  
     
          หรือ....

      อย่างงานเขียนของท่าน invisiblehand .....
     
          แม่นยำ ชัดเจน เข้าใจง่าย ..แสดงให้เห็นถึงความสุขของผู้เขียนที่อยู่ลึกลงไป.....การเขียนแต่ละครั้งได้รับการเตรียมมาอย่างดีราวกับงานศิลปะ ที่จะมาถึงจุดไคล์แมกซ์อย่างเป้นธรรมชาติในช่วงห้านาทีสุดท้ายของเรื่อง

    ผมอยากจะบอกจริงๆ ทั้ง ดร. และ ท่าน IH จริงๆ ว่า ผมรู้สึกซาบวึ้งเพียงใดกับงานเขียนของท่านทั้งสอง

      ถ้าผมอยากจะเขียนเหมือน ท่านมั่ง เป้นไปได้ไหมครับ ให้พี่กูรูยกงานตัวอย่างของท่าน ด.ร. มาเป้นตัวอย่าง ว่าเขียนอย่างไรให้น่าอ่านบ้าง จะเป็นพระคุณอย่างมากเลยครับ

         

[...]

นอกจากถุงผ้าแล้ว ตอนนี้ที่บ้านผมเวลาซื้อกับข้าวนอกบ้านมาทานกัน คุณแม่ผมจะบอกคนขายให้ใส่ปิ่นโตแทนถุงพลาสติกทุกครั้งไปครับ แหม แม่เราก็อินเทรนด์ไม่เบาเหมือนกันแฮะ  :8)

จะติดอยู่เล็กน้อยก็ตรงเวลาซื้อกับข้าวที่เป็นแกง ใส่ปิ่นโตมาแล้วเสียวหกชะมัด จะขี่จักรยานหรือขับรถกลับบ้านทีก็ต้องค่อยๆไป ถือว่าได้ฝึกสติไปอีกแบบ  :roll:

[กูรูขอบสนาม]

[quote="..."]นอกจากถุงผ้าแล้ว ตอนนี้ที่บ้านผมเวลาซื้อกับ
ข้าวนอกบ้านมาทานกัน คุณแม่ผมจะบอกคนขายให้ใส่ปิ่นโต
แทนถุงพลาสติกทุกครั้งไปครับ แหม แม่เราก็อินเทรนด์ไม่เบาเหมือนกันแฮะ

[humdrum]

อืมมมมม....ชอบบๆๆๆ  เอาอีกครับ..อิอิ
     ขอบคุณครับพี่
   เขียนในสิ่งที่รักนะ.......พี่... ผมนึกออกแล้ว

  อย่าง  "องุ่น" นี่ ตัวอย่างนะพี่  วันก่อนไป ผมเห็นตกที่ห้องอาจารย์สังเวียน แล้วเราเขียนเป็นเรื่องสั้น การลงทุน ได้สักเรื่องเลยไหมครับ

        จะขึ้นประโยคยังไงดีครับ

   ขอบพระคุณมากครับ ...

[ดาวหางสีแดง]

[quote=".^O-O^"]

[...]

ไปเดินเล่นแล้วบทจะซื้ออะไร ก็ซื้อเลย(ก็เลยไม่เคยพกถุงผ้าเตรียมตัวไว้)

สงสัยพี่ดาวหางฯ ต้องหันมาลอง ยืดอกพกถุง ดูบ้างแล้วล่ะครับ  :mrgreen:

[ดาวหางสีแดง]

สงสัยพี่ดาวหางฯ ต้องหันมาลอง ยืดอกพกถุง ดูบ้างแล้วล่ะครับ

[Ryuga]

.......
เพื่อนๆ ใช้เรียกผมสมัยเรียนเพราะชอบกินถั่วและตดในห้อง ....................

ถ้าจะให้วิจารณ์ ขงเบ้งนี่มีภรรยาหน้าตาไม่สวยครับ (แต่ฉลาด :lol: )

สงสัยพี่ดาวหางฯ ต้องหันมาลอง ยืดอกพกถุง ดูบ้างแล้วล่ะครับ

[กูรูขอบสนาม]

[quote=".^O-O^"]อืมมมมม....ชอบบๆๆๆ

[กูรูขอบสนาม]

ประทานโทษ ลิงก์ไปเจอความว่างเปล่า
เดี๋ยวขอทำใหม่

หงา คาราวาน นักเขียนรางวัลศรีบูรพา 2549

[humdrum]

ขอบคุณครับพี่กูรู....
 เรื่องนั้นเคยอ่านด้วยครับ....
  ขอบคุณมากครับ.........
  .......................................
 
      ผมคุยสัพเพเหระเรื่อง value investing บ้าง เรื่องหนังสือเล่มอื่นบ้างกับรุ่นพี่คนหนึ่งเป้นประจำทุกเดือน  เดือนนี้ว่าจะนัดคุยเนื้อหาในหนังสือ Intelligent Investor กับรุ่นพี่คนนี้

 แต่รบกวนขอนิดหนึ่งครับว่า

     คุณสมบัติ---  ผู้เข้าร่วม ต้องอ่านหนังสือเล่มนี้มาเป็นอย่างดีครับ  โดยเฉพาะบทที่ 8  บทที่ 20  

 วัตถุประสงค์ ---ไม่มีผู้ให้ ไม่มีผู้รับ มีแต่การพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห้น ไม่มีใครถูกใครผิด    

     
หนังสือ---intelligent investors
จำนวน ---5 คน
สถานที่ -- สวนรถไฟ  
วัน  --- อาทิตย์  21 เม.ย 51
เวลา  -- 15.00 - 17.00

   
    พี่กูรู  พี่007 พี่ สามดอก... อินฟินิตี้

 ว่างไหมครับ  ....

[humdrum]

อ้อ...ลืมชวนพี่ดาวหาง กะ พี่ริวด้วย  

[กูรูขอบสนาม]

ขอโทษที ตอบช้าหน่อยครับ

อยากร่วมเสวนาครับ  พอเห็นคุณสมบัติข้อแรกก็ตกแล้ว
ยังอ่านไม่จบเลย (ภาษาอังกฤษ) ละเลียดไปได้แค่ 1 ใน 3 เอง
ถ้าจะเร่งให้ทันการณ์ต้องหาฉบับภาษาไทยมาอ่านก่อน
เออ..หายากมาก ไม่ทราบยังมีขายที่ไหนบ้าง  :roll:

ประการต่อมา สวนรถไฟตอนบ่าย 3 โมง อุอุ..ไม่สุกไปหรือครับ
อย่างวันหยุดนี้พยายามหาเรื่องไปนั่งที่ทำงานเพื่อเอาแอร์(ฟรี)
เด็กๆหลายคนก็มาให้เห็นหน้ากันด้วยจุดประสงค์เดียวกัน
เฮอ..ร้อนมากๆเลย

[humdrum]

ไม่ร้อนครับ ใต้ต้นไม่ร่มรื่นมาก ผมเอาลุกไปนอนกลางวันที่นั่นทุกอาทิตย์เลยครับ  6 โมงมีเต้น หรือจะขับจักรยาน วิ่ง บรรยากาศดีกว่าสวนลุมหลายเท่าเพราะไม่ได้กลิ่นควันรถเลย

            พี่กูรูไปคุยกันสนุก ๆ ไปเถอะ ๆๆๆๆ please!!!!!!!

[กูรูขอบสนาม]

งั้นต้องรีบอ่านให้จบ

เอ ถ้ายังไม่จบดี คงไม่เป็นไรนะ ไปฟังตอนจบที่นั่นแล้วกัน

ครึ่งวันเช้ามีธุระในเมือง แถว ถ.วิทยุ

มาถึงแล้วค่อยเจอกันคร้าบ  :lol:

[por_jai]

[quote=".^O-O^"]