บัฟเฟตต์ เบียด เกตส์ คว้าแชมป์มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก2007
-
- Verified User
- โพสต์: 200
- ผู้ติดตาม: 0
บัฟเฟตต์ เบียด เกตส์ คว้าแชมป์มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก2007
โพสต์ที่ 1
“บัฟเฟตต์” เบียด “เกตส์” คว้าแชมป์มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 6 มีนาคม 2551 09:36 น.
เอเอฟพี – วอร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนของสหรัฐฯ เบียด บิล เกตส์ เจ้าพ่อไมโครซอฟต์ คว้าตำแหน่งบุคคลที่รวยที่สุดในโลกไปครอง ตามรายชื่ออภิมหาเสรษฐีพันล้านประจำปีของนิตยสารฟอร์บส์
บัฟเฟตต์ วัย 77 ปี ประธานบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ มีมูลค่าทรัพย์สินกระโดดจาก 52,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว มาเป็น 62,000 ล้านในปีนี้ ซึ่งผลักให้ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟต์ตกอันดับไปอยู่ที่ 3 หลังจากครองตำแหน่งคนที่รวยที่สุดในโลก 13 ปีติดกัน
ส่วน อภิมหาเศรษฐีอันดับที่ 2 ของโลกตกเป็นของเจ้าพ่อโทรคมนาคมของเม็กซิโก คาร์ลอส สลิม เฮลู ด้วย ด้วยทรัพย์สินรวม 60,000 ล้านดอลลาร์ ขึ้นจาก 49,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว
บัฟเฟตต์ ซึ่งประกาศในปี 2006 ว่าเขาจะบริจาคเงินจำนวนมากของเขาให้กับมูลนิธิ บิล เมลินดา เกตส์ ได้ความมั่งคั่งขึ้นมาอย่างมาก เนื่องจากการเพิ่มมูลค่าหุ้นของบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ของเขา
จากรายชื่อของปีนี้ มี 1,125 คนทั่วโลก ที่ขึ้นทำเนียบมหาเศรษฐีพันล้าน โดยขึ้นจาก 946 คนในปีที่ผ่านมา และมีมูลค่าทรัพย์สินโดยรวมทั้งหมดถึง 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ ขึ้นจาก 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2007
หากนับตามสัญชาติ สหรัฐฯ ยังนำมาเป็นที่ 1 ด้วยมีมหาเศรษฐีที่เป็นชาวอเมริกัน 469 คน เพิ่มจาก 415 คนในปีที่แล้ว ทว่า อันดับที่ 2 ซึ่งเคยเป็นของเยอรมนี ตกเป็นของรัสเซียแทนในปีนี้ โดยมีมหาเศรษฐี 87 คน
สำหรับ อินเดีย ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 3 มีจำนวนคนอภิมหารวยเพิ่มขึ้นเป็น 53 คน โดยที่ 4 คนในจำนวนนั้นติดอันดับท็อปเท็นคนที่รวยที่สุดในโลกด้วย แม้ว่าเมื่อนับรวมจีน และฮ่องกง ซึ่งมีจำนวนมหาเศรษฐี 42 และ 26 คนด้วยกันแล้วจะมีมากกว่า
ขณะที่ ญี่ปุ่น แม้ว่าจะมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก แต่จำนวนมหาเศรษฐีพันล้านมีเพียง 24 คน ทำให้ตุรกีคว้าอันดับแซงหน้าไป ด้วยจำนวนมหาเศรษฐีทีเพิ่มจาก 22 คนเป็น 35 คนในปีนี้[/img]
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 6 มีนาคม 2551 09:36 น.
เอเอฟพี – วอร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนของสหรัฐฯ เบียด บิล เกตส์ เจ้าพ่อไมโครซอฟต์ คว้าตำแหน่งบุคคลที่รวยที่สุดในโลกไปครอง ตามรายชื่ออภิมหาเสรษฐีพันล้านประจำปีของนิตยสารฟอร์บส์
บัฟเฟตต์ วัย 77 ปี ประธานบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ มีมูลค่าทรัพย์สินกระโดดจาก 52,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว มาเป็น 62,000 ล้านในปีนี้ ซึ่งผลักให้ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟต์ตกอันดับไปอยู่ที่ 3 หลังจากครองตำแหน่งคนที่รวยที่สุดในโลก 13 ปีติดกัน
ส่วน อภิมหาเศรษฐีอันดับที่ 2 ของโลกตกเป็นของเจ้าพ่อโทรคมนาคมของเม็กซิโก คาร์ลอส สลิม เฮลู ด้วย ด้วยทรัพย์สินรวม 60,000 ล้านดอลลาร์ ขึ้นจาก 49,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว
บัฟเฟตต์ ซึ่งประกาศในปี 2006 ว่าเขาจะบริจาคเงินจำนวนมากของเขาให้กับมูลนิธิ บิล เมลินดา เกตส์ ได้ความมั่งคั่งขึ้นมาอย่างมาก เนื่องจากการเพิ่มมูลค่าหุ้นของบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ของเขา
จากรายชื่อของปีนี้ มี 1,125 คนทั่วโลก ที่ขึ้นทำเนียบมหาเศรษฐีพันล้าน โดยขึ้นจาก 946 คนในปีที่ผ่านมา และมีมูลค่าทรัพย์สินโดยรวมทั้งหมดถึง 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ ขึ้นจาก 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2007
หากนับตามสัญชาติ สหรัฐฯ ยังนำมาเป็นที่ 1 ด้วยมีมหาเศรษฐีที่เป็นชาวอเมริกัน 469 คน เพิ่มจาก 415 คนในปีที่แล้ว ทว่า อันดับที่ 2 ซึ่งเคยเป็นของเยอรมนี ตกเป็นของรัสเซียแทนในปีนี้ โดยมีมหาเศรษฐี 87 คน
สำหรับ อินเดีย ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 3 มีจำนวนคนอภิมหารวยเพิ่มขึ้นเป็น 53 คน โดยที่ 4 คนในจำนวนนั้นติดอันดับท็อปเท็นคนที่รวยที่สุดในโลกด้วย แม้ว่าเมื่อนับรวมจีน และฮ่องกง ซึ่งมีจำนวนมหาเศรษฐี 42 และ 26 คนด้วยกันแล้วจะมีมากกว่า
ขณะที่ ญี่ปุ่น แม้ว่าจะมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก แต่จำนวนมหาเศรษฐีพันล้านมีเพียง 24 คน ทำให้ตุรกีคว้าอันดับแซงหน้าไป ด้วยจำนวนมหาเศรษฐีทีเพิ่มจาก 22 คนเป็น 35 คนในปีนี้[/img]
-
- Verified User
- โพสต์: 200
- ผู้ติดตาม: 0
บัฟเฟตต์ เบียด เกตส์ คว้าแชมป์มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก2007
โพสต์ที่ 2
ป.ล.
1. โทดทีครับ post หัวข้อผิด น่าจะเป็นปี 2007 ครับ
2. กะจะ post รูปปู่บัฟในข่าวด้วย แต่ทำไม่เป็นอะ :oops:
3. เห็นอีกกระทู้มีข่าวเป็น English แล้ว ผมขออนุญาติโพสเป็นไทยด้วยนะครับ
1. โทดทีครับ post หัวข้อผิด น่าจะเป็นปี 2007 ครับ
2. กะจะ post รูปปู่บัฟในข่าวด้วย แต่ทำไม่เป็นอะ :oops:
3. เห็นอีกกระทู้มีข่าวเป็น English แล้ว ผมขออนุญาติโพสเป็นไทยด้วยนะครับ
- leaderinshadow
- Verified User
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
บัฟเฟตต์ เบียด เกตส์ คว้าแชมป์มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก2007
โพสต์ที่ 6
ท่ามกลางวิกฤติ (subprime)
ในที่สุด วิถีแห่งการลงทุนเน้นคุณค่า
ก็ได้พิสูจน์ตัวเอง
ทองแท้ไม่กลัวไฟจริงๆๆ :D
ในที่สุด วิถีแห่งการลงทุนเน้นคุณค่า
ก็ได้พิสูจน์ตัวเอง
ทองแท้ไม่กลัวไฟจริงๆๆ :D
- leaderinshadow
- Verified User
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
บัฟเฟตต์ เบียด เกตส์ คว้าแชมป์มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก2007
โพสต์ที่ 7
วอร์เรน บัฟเฟตต์ เค้าบอกว่าจะบริจาคปีละ 5 %
จนครบ 85 % ครับพี่ Jeng
(ถ้าจำไม่ผิด)
จนครบ 85 % ครับพี่ Jeng
(ถ้าจำไม่ผิด)
-
- Verified User
- โพสต์: 3345
- ผู้ติดตาม: 0
บัฟเฟตต์ เบียด เกตส์ คว้าแชมป์มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก2007
โพสต์ที่ 8
เมื่อปู่ของเราได้ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของบุคคลที่รวยที่สุดในโลกแล้ว
ความคิดตกผลึกทันที ที่ว่า
ถ้าเราอยากรวยที่สุด เมื่อเทียบกับญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง (ไม่ต้องระดับโลกก้อได้) เราต้องลงทุนอย่างเดียว (หากไม่มีความสามารถทำกิจการของตนเองได้) และต้องอยู่ในตลาดน๊านน นาน จนเลิกสวัสดีกันไปเลยทีเดียว :lol:
ลงทุนหุ้นโดยดูจากพื้นฐานที่แข็งแกร่งของตัวบริษัท และราคาที่สมเหตุสมผลเท่านั้น ด้วย :P
หรืออาจจะแอบไปทำ Arbitrage ก้อไม่ว่ากัน แต่ต้องชัวร์จริงๆ
อ้อ อย่าลืมผลตอบแทนทบต้นด้วยครับ มหัศจรรย์ของแท้มือวางอันดับ 1 ของความมั่งคั่งสุทธิส่วนบุคคลในระยะยาว :8) ...
ความคิดตกผลึกทันที ที่ว่า
ถ้าเราอยากรวยที่สุด เมื่อเทียบกับญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง (ไม่ต้องระดับโลกก้อได้) เราต้องลงทุนอย่างเดียว (หากไม่มีความสามารถทำกิจการของตนเองได้) และต้องอยู่ในตลาดน๊านน นาน จนเลิกสวัสดีกันไปเลยทีเดียว :lol:
ลงทุนหุ้นโดยดูจากพื้นฐานที่แข็งแกร่งของตัวบริษัท และราคาที่สมเหตุสมผลเท่านั้น ด้วย :P
หรืออาจจะแอบไปทำ Arbitrage ก้อไม่ว่ากัน แต่ต้องชัวร์จริงๆ
อ้อ อย่าลืมผลตอบแทนทบต้นด้วยครับ มหัศจรรย์ของแท้มือวางอันดับ 1 ของความมั่งคั่งสุทธิส่วนบุคคลในระยะยาว :8) ...
-
- Verified User
- โพสต์: 200
- ผู้ติดตาม: 0
บัฟเฟตต์ เบียด เกตส์ คว้าแชมป์มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก2007
โพสต์ที่ 9
ขอบคุณครับ รูปปู่บัฟแกเท่ห์จริงๆ :8)
ชื่นชมปู่แล้วอย่าลืมทำตามหลักการแกด้วยนะครับ
คุ้นๆเคยมีคนบอกว่า ปู่บัฟบอกทำนองว่า
" มีแต่คนชื่นชมผม เอาชื่อผมมาอ้างอิง แต่ไม่ค่อยมีคนทำตามผมเลย "
ชื่นชมปู่แล้วอย่าลืมทำตามหลักการแกด้วยนะครับ
คุ้นๆเคยมีคนบอกว่า ปู่บัฟบอกทำนองว่า
" มีแต่คนชื่นชมผม เอาชื่อผมมาอ้างอิง แต่ไม่ค่อยมีคนทำตามผมเลย "
-
- Verified User
- โพสต์: 520
- ผู้ติดตาม: 0
บัฟเฟตต์ เบียด เกตส์ คว้าแชมป์มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก2007
โพสต์ที่ 13
ชนะตั้งหมื่นล้าน
ผมเห็นข่าวนี้แว่บแรก นึกถึง คนที่เป็น Business Owner กับ Investor จริงๆรวยเหมือนกันแต่ว่า ช่วงธุรกิจหรือเศรษฐกิจมีปัญหา สบายผิดกัน การแก้ปัญหาง่ายกว่ากันเยอะ
Microsoft กำลังเผชิญหน้ากับการแข่งขันระดับสูง จะต้องเปลี่ยนแปลงมาก แก้ปัญหาภายในมาก เพื่อให้ต่อสู้ได้ต่อ ซึ่ง Bill Gate ต้องแก้ปัญหาอย่างหนัก ต้องทุ่มเงินมหาศาลไปซื้อ yahoo มาสู้กะ Google ซึ่งก็ไม่รู้ว่าถูกทางหรือเปล่า
Berkshine เผชิญกับเศรษฐกิจมหภาคที่ย่ำแย่ แต่ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรมากเพราะว่าปู่แกบอกว่าไม่ต้องไปแคร์กะมหภาคมาก แต่ให้แคร์บริษัทของเรา ถ้าบริษัทที่เค้าถืออยู่ปีปัญหาหนักแก้ไขได้ยาก เค้าก็แก้ปัญหาโดยการย้ายไปถือบริษัทอื่นที่ดูดีกว่า ผมได้ข่าวว่าตอนนี้บัฟเฟตย้ายไปถือหุ้นรถไฟ คงจะมีการบูรณระบบรถไฟในอเมริกากันไม่ช้าก็เร็วแน่นอน ผมว่าปู่ buffett เค้ามองว่าน้ำมันก็ยังจะคงแพงต่อไป แล้วรถไฟก็น่าจะมาแก้ปัญหานี้ได้ ยิ่งน้ำมันแพง คนยิ่งจะต้องหาทางขนส่งกันประหยัดๆ
ผมว่าหลังจากสองคนนี้ทำงานหนักเพื่อผ่านช่วงนี้ผ่านไป ผมว่า ปู่เราจะทิ้งห่าง bill gate ไปมากขึ้นแน่ๆครับ เพราะว่าของ bill gate คือการต่อสู้เพื่อกลับมายืนทีหนึ่งให้ได้เหมือนเดิม แต่ของปู่คือการลงทุนรอบใหม่
สำหรับผม bill gate น่าจะเป็นตัวแทนของ Business Owner ได้ดี แล้วก็ตัวแทนของ Investor คงจะไม่มีใครมาแทน Buffett ได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้ ผมเห็นสองคนนี้เป็น ที่ 1 ที่ 2 กันมานาน ก็อดอมยิ้มไม่ได้ ใจก็นึก สักวันหนึ่งก็จะเป็นเราบ้างล่ะที่จะมีชีวิตดีๆ แบบนี้
ผมเห็นข่าวนี้แว่บแรก นึกถึง คนที่เป็น Business Owner กับ Investor จริงๆรวยเหมือนกันแต่ว่า ช่วงธุรกิจหรือเศรษฐกิจมีปัญหา สบายผิดกัน การแก้ปัญหาง่ายกว่ากันเยอะ
Microsoft กำลังเผชิญหน้ากับการแข่งขันระดับสูง จะต้องเปลี่ยนแปลงมาก แก้ปัญหาภายในมาก เพื่อให้ต่อสู้ได้ต่อ ซึ่ง Bill Gate ต้องแก้ปัญหาอย่างหนัก ต้องทุ่มเงินมหาศาลไปซื้อ yahoo มาสู้กะ Google ซึ่งก็ไม่รู้ว่าถูกทางหรือเปล่า
Berkshine เผชิญกับเศรษฐกิจมหภาคที่ย่ำแย่ แต่ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรมากเพราะว่าปู่แกบอกว่าไม่ต้องไปแคร์กะมหภาคมาก แต่ให้แคร์บริษัทของเรา ถ้าบริษัทที่เค้าถืออยู่ปีปัญหาหนักแก้ไขได้ยาก เค้าก็แก้ปัญหาโดยการย้ายไปถือบริษัทอื่นที่ดูดีกว่า ผมได้ข่าวว่าตอนนี้บัฟเฟตย้ายไปถือหุ้นรถไฟ คงจะมีการบูรณระบบรถไฟในอเมริกากันไม่ช้าก็เร็วแน่นอน ผมว่าปู่ buffett เค้ามองว่าน้ำมันก็ยังจะคงแพงต่อไป แล้วรถไฟก็น่าจะมาแก้ปัญหานี้ได้ ยิ่งน้ำมันแพง คนยิ่งจะต้องหาทางขนส่งกันประหยัดๆ
ผมว่าหลังจากสองคนนี้ทำงานหนักเพื่อผ่านช่วงนี้ผ่านไป ผมว่า ปู่เราจะทิ้งห่าง bill gate ไปมากขึ้นแน่ๆครับ เพราะว่าของ bill gate คือการต่อสู้เพื่อกลับมายืนทีหนึ่งให้ได้เหมือนเดิม แต่ของปู่คือการลงทุนรอบใหม่
สำหรับผม bill gate น่าจะเป็นตัวแทนของ Business Owner ได้ดี แล้วก็ตัวแทนของ Investor คงจะไม่มีใครมาแทน Buffett ได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้ ผมเห็นสองคนนี้เป็น ที่ 1 ที่ 2 กันมานาน ก็อดอมยิ้มไม่ได้ ใจก็นึก สักวันหนึ่งก็จะเป็นเราบ้างล่ะที่จะมีชีวิตดีๆ แบบนี้
In the long run, We are all dead.
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
บัฟเฟตต์ เบียด เกตส์ คว้าแชมป์มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก2007
โพสต์ที่ 18
3มหาเศรษฐีไทยรวยติดอันดับโลก 'เจ้าพ่อกระทิงแดง-เสี่ยเจริญ-เจ้าสัวธนินท์'
6 มีนาคม พ.ศ. 2551 12:44:00
คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่
เฉลียว อยู่วิทยา
นิตยสาร ฟอร์บส เผยผลการจัดอันดับมหาเศรษฐี พบ 3 มหาเศรษฐีไทยรวยติดอันดับโลก "เจ้าพ่อกระทิงแดง-เสี่ยน้ำเมา-เจ้าสัวธนินท์" เผยในเอเชียมีจำนวนมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นกว่า 30% ส่วนใหญ่เป็นมหาเศรษฐีจากอินเดียและจีน
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นิตยสาร ฟอร์บส เปิดเผยว่า มหาเศรษฐีไทยติดอันดับ 3 คน คือ นายเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าพ่อกระทิงแดง รวยสุดเป็นอันดับที่ 260 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 4,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 126,000 ล้านบาท รองลงมาคือ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของบริษัทเบียร์ช้าง รวยสุดเป็นอันดับที่ 307 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 3,500 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 110,000 ล้านบาท และนายธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าสัวซีพี รวยสุดเป็นอันดับที่ 897 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1,300 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 41,000 ล้านบาท
โดยในปีนี้ มีมหาเศรษฐีทั่วโลกติดอันดับมากถึง 1,125 คน เป็นชาวเอเชียมากถึง 211 คน โดยมาจากอินเดีย 53 คน ทั้งที่เมื่อปีก่อน ยังมีคนอินเดียติดอันดับมหาเศรษฐีของฟอร์บส์ แค่ 36 คน ส่วนจีนเมื่อปีที่แล้ว มีติดอันดับความมั่งคั่งแค่ 20 คน แต่ในปีนี้ มีเศรษฐีจีนติดอันดับของฟอร์บส์ พุ่งขึ้นเป็น 42 คน ซึ่งถ้ารวมกับมหาเศรษฐีฮ่องกงที่ติดอันดับไป 26 คน ก็จะทำให้จีนกับฮ่องกงมีจำนวนมหาเศรษฐีมากที่สุดในเอเชีย
คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่
เจริญ สิริวัฒนภักดี
ส่วนญี่ปุ่น ก็ยังมีจำนวนมหาเศรษฐี อยู่ที่ 24 คน เท่ากับปีที่แล้ว ซึ่งปีที่แล้ว ก็เป็นปีแรกที่ญี่ปุ่นหลุดอันดับประเทศในแถบเอเชียที่มีเศรษฐีมากที่สุด หลังครองความเป็นเจ้าแห่งความมั่งคั่งที่สุดในเอเชียติดต่อกันมาถึง 20 ปี
โดยปีนี้ ประเทศในแถบเอเชียที่มีเศรษฐีมากที่สุด ก็คือ อินเดีย ซึ่งมีเศรษฐีมากเป็นอันดับ 3 รองจากสหรัฐและรัสเซียเท่านั้น โดยมีชาวอินเดียถึง 4 คน ที่ติดอันดับท็อปเทนผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ซึ่งก็มี นาย ลักษมี มิตตาล ผู้ค้าเหล็กรายใหญ่ของโลกรวมอยู่ด้วย
ส่วนนาย ลี กา ชิง นักธุรกิจฮ่องกง ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชียตะวันออก
คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่
ธนินท์ เจียรวนนท์
และถ้าเทียบเฉพาะในแถบเอเชียแปซิฟิก พบว่า ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีมหาเศรษฐีมากที่สุด คือ 14 คน ตามการจัดอันดับของฟอร์บส์ ตามมาด้วยเกาหลีใต้ 12 คน มาเลเซีย 8 คน ไต้หวัน 7 คน อินโดนีเซียและสิงคโปร์มีเท่ากัน คือ 5 คน ไทยมี 3 คน และฟิลิปปินส์มี 2 คน
ที่มา
http://www.bangkokbiznews.com/2008/03/0 ... sid=236347
------------------
ส่วนปีผมแก้จาก 2008 เป็น 2007 ให้แล้วครับ
6 มีนาคม พ.ศ. 2551 12:44:00
คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่
เฉลียว อยู่วิทยา
นิตยสาร ฟอร์บส เผยผลการจัดอันดับมหาเศรษฐี พบ 3 มหาเศรษฐีไทยรวยติดอันดับโลก "เจ้าพ่อกระทิงแดง-เสี่ยน้ำเมา-เจ้าสัวธนินท์" เผยในเอเชียมีจำนวนมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นกว่า 30% ส่วนใหญ่เป็นมหาเศรษฐีจากอินเดียและจีน
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นิตยสาร ฟอร์บส เปิดเผยว่า มหาเศรษฐีไทยติดอันดับ 3 คน คือ นายเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าพ่อกระทิงแดง รวยสุดเป็นอันดับที่ 260 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 4,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 126,000 ล้านบาท รองลงมาคือ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของบริษัทเบียร์ช้าง รวยสุดเป็นอันดับที่ 307 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 3,500 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 110,000 ล้านบาท และนายธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าสัวซีพี รวยสุดเป็นอันดับที่ 897 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1,300 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 41,000 ล้านบาท
โดยในปีนี้ มีมหาเศรษฐีทั่วโลกติดอันดับมากถึง 1,125 คน เป็นชาวเอเชียมากถึง 211 คน โดยมาจากอินเดีย 53 คน ทั้งที่เมื่อปีก่อน ยังมีคนอินเดียติดอันดับมหาเศรษฐีของฟอร์บส์ แค่ 36 คน ส่วนจีนเมื่อปีที่แล้ว มีติดอันดับความมั่งคั่งแค่ 20 คน แต่ในปีนี้ มีเศรษฐีจีนติดอันดับของฟอร์บส์ พุ่งขึ้นเป็น 42 คน ซึ่งถ้ารวมกับมหาเศรษฐีฮ่องกงที่ติดอันดับไป 26 คน ก็จะทำให้จีนกับฮ่องกงมีจำนวนมหาเศรษฐีมากที่สุดในเอเชีย
คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่
เจริญ สิริวัฒนภักดี
ส่วนญี่ปุ่น ก็ยังมีจำนวนมหาเศรษฐี อยู่ที่ 24 คน เท่ากับปีที่แล้ว ซึ่งปีที่แล้ว ก็เป็นปีแรกที่ญี่ปุ่นหลุดอันดับประเทศในแถบเอเชียที่มีเศรษฐีมากที่สุด หลังครองความเป็นเจ้าแห่งความมั่งคั่งที่สุดในเอเชียติดต่อกันมาถึง 20 ปี
โดยปีนี้ ประเทศในแถบเอเชียที่มีเศรษฐีมากที่สุด ก็คือ อินเดีย ซึ่งมีเศรษฐีมากเป็นอันดับ 3 รองจากสหรัฐและรัสเซียเท่านั้น โดยมีชาวอินเดียถึง 4 คน ที่ติดอันดับท็อปเทนผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ซึ่งก็มี นาย ลักษมี มิตตาล ผู้ค้าเหล็กรายใหญ่ของโลกรวมอยู่ด้วย
ส่วนนาย ลี กา ชิง นักธุรกิจฮ่องกง ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชียตะวันออก
คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่
ธนินท์ เจียรวนนท์
และถ้าเทียบเฉพาะในแถบเอเชียแปซิฟิก พบว่า ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีมหาเศรษฐีมากที่สุด คือ 14 คน ตามการจัดอันดับของฟอร์บส์ ตามมาด้วยเกาหลีใต้ 12 คน มาเลเซีย 8 คน ไต้หวัน 7 คน อินโดนีเซียและสิงคโปร์มีเท่ากัน คือ 5 คน ไทยมี 3 คน และฟิลิปปินส์มี 2 คน
ที่มา
http://www.bangkokbiznews.com/2008/03/0 ... sid=236347
------------------
ส่วนปีผมแก้จาก 2008 เป็น 2007 ให้แล้วครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 520
- ผู้ติดตาม: 0
บัฟเฟตต์ เบียด เกตส์ คว้าแชมป์มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก2007
โพสต์ที่ 19
ใช่ครับ ไม่เถียง..chode เขียน:Business owner รวยเร็วกว่านะครับ เวลาที่ bill gate ใช้น้อยกว่า
แต่ business owner จะขายกิจการทั้งหมดเพื่อเปลี่ยนกิจการยากกว่า
อย่าง bill gate จะขายกิจการให้ใครที่ราคาปัจจุบัน
อีกเรื่องนึง นึกถึง Gate ตอนนี้เค้าก็ลงทุนรอบใหม่อยู่เหมือนกัน เห็นกำลังเดิมพันกับอุตสาหกรรมยา และ พวกนาโนเทคโนโลยี เพียงแต่ว่าตอนนี้ยังไม่เห็นผล สรุปง่ายๆ ไม่ว่าจะ Business Owner หรือ Investor ก็ดีทั้งน้านแหละคับ
มีเพื่อนเคยเถียงว่า รวยไปก็ปวดหัวอยู่ดี ผมก็เลยบอกว่า ปวดหัวตอนมีตังค์ก็น่าจะสนุกกว่าปวดหัวตอนไม่มีตังค์ 555 แต่ถ้าใช้ชีวิตแบบปู่บัฟเฟตต์ผมว่าเค้าไม่ค่อยปวดหัวเท่าไหร่หรอก สุดยอดเลย
บัฟเฟตเคยบ่นอีกอย่างนึงว่า ถึงแม้ว่าวิธีการลงทุนแบบเค้าจะเป็นที่สนใจของหลายๆคน แต่ส่วนใหญ่ก็แค่อยากรู้ว่าวันนี้เค้าซื้อตัวไหน
In the long run, We are all dead.
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
บัฟเฟตต์ เบียด เกตส์ คว้าแชมป์มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก2007
โพสต์ที่ 21
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นิตยสาร ฟอร์บส เปิดเผยว่า มหาเศรษฐีไทยติดอันดับ 3 คน คือ นายเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าพ่อกระทิงแดง รวยสุดเป็นอันดับที่ 260 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 4,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 126,000 ล้านบาท รองลงมาคือ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของบริษัทเบียร์ช้าง รวยสุดเป็นอันดับที่ 307 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 3,500 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 110,000 ล้านบาท และนายธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าสัวซีพี รวยสุดเป็นอันดับที่ 897 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1,300 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 41,000 ล้านบาท
อันนี้ก็น่าแปลกใจ ที่กระทิงแดง รวยกว่า เบียร์ช้าง
แปลกใจเล่นๆครับ
แถมกระทิงแดงยังรวยกว่า ซีพี เยอะเลย อืม น่าคิด
อันนี้ก็น่าแปลกใจ ที่กระทิงแดง รวยกว่า เบียร์ช้าง
แปลกใจเล่นๆครับ
แถมกระทิงแดงยังรวยกว่า ซีพี เยอะเลย อืม น่าคิด
-
- Verified User
- โพสต์: 3345
- ผู้ติดตาม: 0
บัฟเฟตต์ เบียด เกตส์ คว้าแชมป์มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก2007
โพสต์ที่ 22
ผมเคยได้ยินว่า 1.2 ล้านคนครับ ไม่รู้อันไหนถูก :8) ...anakinnet เขียน:เคยได้ยินมาว่า อินเดียมีเศรษฐีที่มีเงิน เกิน 100 ล้านเหรียญ อยู่ประมาณ 65 ล้านคน
โอ้ว นั่นมันเท่าคนไทยทั้งประเทศเลยนะเนี่ยะ
-
- Verified User
- โพสต์: 1922
- ผู้ติดตาม: 0
บัฟเฟตต์ เบียด เกตส์ คว้าแชมป์มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก2007
โพสต์ที่ 23
เต่ามาแล้ว :lol: :lol: :lol:
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1284
- ผู้ติดตาม: 0
บัฟเฟตต์ เบียด เกตส์ คว้าแชมป์มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก2007
โพสต์ที่ 26
Jeng เขียน:กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นิตยสาร ฟอร์บส เปิดเผยว่า มหาเศรษฐีไทยติดอันดับ 3 คน คือ นายเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าพ่อกระทิงแดง รวยสุดเป็นอันดับที่ 260 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 4,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 126,000 ล้านบาท รองลงมาคือ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของบริษัทเบียร์ช้าง รวยสุดเป็นอันดับที่ 307 ของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 3,500 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 110,000 ล้านบาท และนายธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าสัวซีพี รวยสุดเป็นอันดับที่ 897 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1,300 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 41,000 ล้านบาท
อันนี้ก็น่าแปลกใจ ที่กระทิงแดง รวยกว่า เบียร์ช้าง
แปลกใจเล่นๆครับ
แถมกระทิงแดงยังรวยกว่า ซีพี เยอะเลย อืม น่าคิด
คงเป็นเพราะกระทิงแดงไปทำตลาดต่างประเทศ
brand Red Bull เนี่ย เป็นที่นิยมมากในหมู่วัยรุ่น American เห็นชอบกินกันใน pub ครับ
เสียดายไม่ยอมเข้าตลาด รายย่อยอย่างเราเลยอดได้ร่วมเป็นเจ้าของเลย
In search of super stocks
-
- Verified User
- โพสต์: 493
- ผู้ติดตาม: 0
บัฟเฟตต์ เบียด เกตส์ คว้าแชมป์มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก2007
โพสต์ที่ 27
redbull ที่อเมริกามันมีแบบ low sugar กระป๋องฟ้าอ่อน กับแบบธรรมดาคือ สีน้ำเงิน...... ส่วนตัวแล้วไม่เคยกิน แต่ได้ยินคนบอกว่ามันเป็นเหมือน Carbonated drink (Soda style) แต่ในไทยนี่มันเป็นแบบไม่ซ่านี่ใช่ใหมครับ ไม่เคยกินเหมือนกัน..... ถ้าจำไม่ผิด USA กระป๋องล่ะ 2.50 USD
classic drink ของมันก็คือ Red Bull + Vodka
classic drink ของมันก็คือ Red Bull + Vodka
- leaderinshadow
- Verified User
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
บัฟเฟตต์ เบียด เกตส์ คว้าแชมป์มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก2007
โพสต์ที่ 30
อยากจะบอกว่า ตอนนี้กระทิงแดง เริ่มบูมมากในจีนครับ
(เคยฟังจากรายการของคุณวิกรม)
รู้สึกจะชื่อแบรนว่า หย่งหนิ่ง ที่แปลว่า กระทิงแดง
ตอนนี้ตลาดยุโรป+อเมริกา จะมี red bull โดยมี partner เป็นคนออสเตรเลีย
ส่วนจีน มี หย่งหนิ่ง มี partner เป็นคนจีน(รู้สึกจะดอนสัญชาตเป็นไทยแล้ว ถ้าจำไม่ผิด)
(เคยฟังจากรายการของคุณวิกรม)
รู้สึกจะชื่อแบรนว่า หย่งหนิ่ง ที่แปลว่า กระทิงแดง
ตอนนี้ตลาดยุโรป+อเมริกา จะมี red bull โดยมี partner เป็นคนออสเตรเลีย
ส่วนจีน มี หย่งหนิ่ง มี partner เป็นคนจีน(รู้สึกจะดอนสัญชาตเป็นไทยแล้ว ถ้าจำไม่ผิด)