
ข้อเขียนชิ้นนี้ เขียนเพื่อระลึกถึงนิตยสารเยาวชนเล่มหนึ่งในอดีต
ที่ได้บ่มเพาะปัญญาของเด็กไทยร่วมสมัยรวมทั้งกูรูด้วย
นั่นก็คือ ชัยพฤกษ์
เนื่องในโอกาสอำลาอาลัย คุณวิริยะ สิริสิงห
หรือที่นักอ่านรู้จักกันดีในชื่อ โอภาส อาจอารมณ์
เจ้าของคอลัมน์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ฝึกสมองลองปัญญา
และคอลัมน์คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์อื่นๆที่ปรากฏอยู่ในนิตยสารเล่มนี้
คุณวิริยะ สิริสิงหได้จากโลกนี้ไปแล้ว
พร้อมกับบทบาทของคนทำหนังสือคุณภาพสำหรับเด็กๆ
ที่รุ่นลูกรุ่นหลานเติบโตขึ้นมาทันอ่าน
อ่าน Link ที่
จดหมายจากเมืองไทย
"ชัยพฤกษ์" ชื่อช่างเหมือนต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขา
ชูช่อเหลืองละออยามหน้าร้อน
คือนิตยสารที่รวมปกิณกะความรู้สำหรับเยาวชนที่เริ่มอ่านหนังสือแตก
และต้องการขวนขวายหาสิ่งเติมแต่งสติปัญญานอกเหนือจากในห้องเรียน
เป็นนิตยสารรายปักษ์ภาษาไทยออกทุกวันที่ 1 และ 15 ของทุกเดือน
จัดทำโดยสำนักพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช
ตีพิมพ์ฉบับแรกเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2497
ส่วนฉบับสุดท้ายนั้นได้หยุดไปเมื่อไรไม่แน่ใจ (ขอผู้รู้ช่วยตอบด้วย)
ต่อมามีการแตกกิ่งก้านสาขาเป็น ชัยพฤกษ์วิทยาศาสตร์
อัดแน่นขุมพลังความรู้ด้านวิทยาศาสตร์รอบตัว
(มีคุณวิริยะ สิริสิงหเป็นหัวเรือใหญ่)
ชัยพฤกษ์การ์ตูน เป็นหนังสือการ์ตูนรุ่นแรกๆแข่งกับเบบี้และหนูจ๋า
ฝีมือทั้งเล่มของน้ารงค์ ( ณรงค์ ประภาสะโนบล)
ซึ่งปรากฏลายเซ็นต์พร้อมกบร้องโอ๊บๆที่มุมภาพทุกครั้ง
ชัยพฤกษ์ฉบับนักศึกษาประชาชน เป็นเล่มเฉพาะกาล ไม่ได้ออกต่อเนื่อง
นักคิด นักเขียนหลายท่านเติบโตมาจากคอลัมน์ต่างๆในชัยพฤกษ์นี้เอง
ไม่ว่าจะเป็น อนุช อาภาภิรม
(นักสังคมศาสตร์ผู้มีอิทธิพลต่อขบวนการนักศึกษาสมัยต่อมา)
สุภา ลือศิริ (โบตั๋น ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณกรรม)
วิริยะ สิริสิงห (เจ้าของสำนักพิมพ์ชมรมเด็ก คู่ชีวิตของโบตั๋น)
ชูเกียรติ อุททกะพันธ์ (ตอนหลังได้เป็นผู้ก่อตั้งสำนักพิมพ์อมรินทร์)
สุภาวดี โกมารทัต ( ผู้บริหารนิตยสารแพรว)
ดาราวัลย์ เกษทองและคนอื่นๆอีกมากมาย
สมัยที่ยังเด็กๆ การหานิตยสารเล่มหนึ่งให้ทุกคนอ่านได้
อ่านสนุกในหนึ่งครอบครัวเป็นเรื่องที่ยากมาก
เพราะบรรดาพี่ๆน้องๆก็มีวัยที่แตกต่างกัน
โชคดีที่พี่ๆในบ้านอ่านชัยพฤกษ์กันและได้แบ่งปันมาให้กูรูอ่านด้วย
จึงรู้สึกค่อนข้างแก่แดดมากกว่าวัยเดียวกัน
เรื่องราวอะไรบ้างที่ยังบานสลอนในความทรงจำ
โลกของหนูแหวน โดย ศราวก
โลกใสๆ บริสุทธิ์ของหนูแหวน เด็กท้องทุ่งบ้านนา
ผู้ช่างคิด ช่างถาม หาเหตุผลให้กับสิ่งต่างๆนานา
จนบางทีผู้ใหญ่ก็จนปัญญาหาคำตอบให้ไม่ได้
ต่อมากลายหนังสือเด็กขายดีที่ตีพิมพ์ครั้งแล้วครั้งเล่า.
เมื่อดอกไม้บาน โดย สิรินทร์ ช่วงโชติ
เรื่องราวของปุยฝ้าย กระต่ายตัวน้อยที่พาคนอ่านไปรู้จักและเข้าใจกับพรรณไม้ ใบหญ้า
ระบบนิเวศน์วิทยาใกล้ๆตัว ในยุคที่ทุ่งหญ้ายังเขียวขจีทุกหนแห่ง
ฝึกสมองประลองปัญญา
เลขคณิตคิดลัด ฝึกสมองและเชาวน์ปัญญาต่างๆ
เกมส์ซ่อนกล ตัวเลขมหาสนุกให้เด็กได้ขบคิด
(ซึ่งกูรูไม่ได้เรื่องเลย)
ภาษาภิรมย์ โดย นายตำรา ณ เมืองใต้
คอลัมน์ถาม ตอบ ภาษาและวรรณคดีไทยของปรมาจารย์ด้านภาษา
ผู้เคร่งครัดเรื่องการสะกด ผันคำตามวรรณยุกต์ให้ถูกต้อง
เรียนภาษาอังกฤษจากหนังสือนอกเวลา
ที่ชัยพฤกษ์นี้เองที่ได้รู้จักวรรณกรรมเล่มเก่งของโลก
ไม่ว่าจะเป็น รีเบคก้า หรือ ฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็ครอย
หรือ เจ็ดนักประดิษฐ์ หกนักฟิสิกส์
ซึ่งทั้งหมดเป็นหนังสือภาษาอังกฤษบังคับเรียนอ่านนอกเวลา
วรรณกรรมเอกของเยาวชน
เป็นนิตยสารรุ่นแรกๆที่แปลวรรณกรรมเยาวชนเผยแพร่
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การผจญภัยของ ทอม ซอเยอร์ และเพื่อนพ้อง
โรบินสัน ครูโซ, เกาะมหาสมบัติ ฯลฯ
รวมทั้งเรื่อง เจ้าชายน้อย หนังสือในดวงใจของใครหลายคนด้วย
(อ่านครั้งแรก ประมาณ 7-8 ขวบ นึกว่าเรื่อง เจ้าหญิง เจ้าชาย ไม่รู้เรื่องและ
ขยาดไปเลย)
ครูไหวใจร้าย ชื่นใจ บ้านน้อย พ่อเก้อ รัศมีเพ็ญ เดือนเด่น
ทั้งหมดนี้คือนิยายจากปลายปากกาของ ผกาวดี อุตตะโมทย์
ซึ่งต่อมาผันตัวเองมาเป็นบรรณาธิการสำนักพิมพ์กะรัต
ก่อนจะมอบไม้ต่อไปให้กับ มกุฎ อรฤดี (นิพพาน)
ในเสี้ยวของความทรงจำ
ได้รู้จักเด็กนักเรียนที่เก่งๆสอบได้ที่ 1 ของประเทศในแต่ละปี
ซึ่งมักจะถูกลงหน้าปก และสัมภาษณ์ข้างใน ไม่ว่าจะเป็น
ดร.ธีรยุทธ บุญมี/ ดร.วุฒิพงศ์ เพรียบจริยะวัฒน์/
อ. เมธินี บุญยประสพ (วณิกกุล)/ ดร.อู่ทอง ประศาสน์วินิจฉัย
และคนอื่นๆอีกที่หลายท่านไม่ทราบไปอยู่แห่งหนตำบลไหน
ซึ่งคนเก่งๆเหล่านี้เองเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนอีกหลายคนที่อ่าน
รวมทั้งคุณ Radio เพื่อนในเวปด้วย (ขออนุญาตอ้างเอ่ยถึง)
กล่าวได้ว่า ชัยพฤกษ์เป็นนิตยสารเล่มหนึ่งที่บ่มเพาะ
และเติมเต็มความคิด สติปัญญาและโลกทัศน์
ที่ทำให้เด็กธรรมดาคนหนึงแทนที่จะเล่นล้มลุกหกคะเมนไปวันๆ
กลับกลาย เป็นนักอ่านหนังสือในกาลต่อมา
มองหานิตยสารปัจจุบันก็ยังไม่เห็นว่า
จะมีเล่มไหนที่คล้ายคลึงหรือเปรียบเทียบได้เลย
เดินออกไปตามท้องถนนกลางเดือนร้อน
เห็นช่อชัยพฤกษ์เหลืองละออสะบัดโต้สายลมแล้ง
นั่นคือกิ่งก้านแห่งปัญญาที่ยังหลงเหลือให้จดจำมาถึงวันนี้
ด้วยความเคารพอย่างสูง
สำหรับช่อชัยพฤกษ์แห่งปัญญา
และคุณวิริยะ สิริสิงห