สิ่งที่ได้เรียนรู้หลังหุ้นลงเนื่องจากปัญหาsubprime โดยคุณIH
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1256
- ผู้ติดตาม: 0
สิ่งที่ได้เรียนรู้หลังหุ้นลงเนื่องจากปัญหาsubprime โดยคุณIH
โพสต์ที่ 1
โดยคุณ Invisible Hand ครับ
สิ่งที่เราได้เรียนรู้หลังเหตุการณ์หุ้นลงอันเนื่องจากปัญหา subprime และเหตุการณ์การลงทุนอื่นๆ กระทู้นี้ไม่ได้เน้นข้อสังเกตเป็นวิชาการอะไรนัก เป็นข้อสังเกตเอาไว้อ่านสนุกๆ กันนะครับ
1 เวลาหุ้นลงก็จะมีข่าวร้ายเต็มตลาด แต่ถ้าหุ้นขึ้นกลับมานักลงทุนก็พร้อมจะลืมข่าวร้ายนั้นไป
2 นักลงทุนต่างชาติ แม้ว่าจะมี volume ซื้อขาย 30-40% ของตลาด แต่ก็สามารถกำหนดทิศทางตลาดได้ ตัวเลขการซื้อขายต่างชาติครึ่งวันเป็นตัวเลขที่สำคัญกว่าตัวเลข GDP ตัวเลขเศรษฐกิจ ธปท. ทุกสิ้นเดือน หรือการเพิ่มขึ้นการส่งออกของประเทศในแต่ละเดือนไปเสียแล้ว เพราะอย่างหลังมันไม่เคยทำให้หุ้นขึ้นหรือลงได้แต่อย่างไร การซื้อขายอย่างหนักของนักลงทุนต่างชาติ ก็ทำให้เราซื้อหุ้นบางตัวได้ถูกกว่าที่คิดได้ หรือขายหุ้นบางตัวแพงกว่าที่คิดได้
3 การซื้อหรือขายหุ้นแบบแบ่งไม้หรือหลายๆ order ก็ลดผลกระทบของโชคชะตาได้ เพราะมีบ่อยครั้งที่เราอาจจะพลาดการซื้อหรือขายหุ้นเพราะตั้งซื้อหรือต่ำไปหรือขายสูงไปเพียง 1 step โดยไม่ได้กระจาย order แล้วบอกว่าโชคไม่ดี ผมคิดว่าเราสามารถเอาชนะโชคชะตาในเรื่องนี้ได้ไม่ยากนัก การตั้งซื้อหรือขายที่เลขกลมๆ เช่น 0 5 อาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก หลายๆ ครั้งที่เสื้อตัวละ 99 บาทจะขายดีกว่าเสื้อตัวละ 100 บาททั้งๆ ที่ราคาต่างกันเพียง 1 บาท
4 การตั้งซื้อหุ้นไว้พอหุ้นใกล้ลงมาถึงแล้วถอน หรือตั้งขายไว้พอหุ้นขึ้นใกล้ถึงแล้วถอน ให้ลองถามตัวเองว่าตอนนี้เรามีเวลาในชีวิตมากเกินไปที่จะทำเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์เช่นนี้เชียวหรือ หรือกำลังฝึกทักษะการ key คอมฯ ของเราหรือ marketing ถ้าเราทำเช่นนี้ประจำก็อย่าไปต่อว่าคนดูละครน้ำเน่าตอนกลางคืนว่าไร้สาระเพราะเรากำลังทำเรื่องไร้สาระยิ่งกว่าเสียอีก
5 การดู bid offer นานเกินไปบางครั้งอาจจะทำให้เราไม่กล้าซื้อหรือขายได้ หุ้นขาลง bid-offer และการเคาะแต่ละไม้ชวนให้เคาะขายตามอย่างยิ่ง ในทางกลับกัน ในหุ้นขาขึ้นก็เช่นกัน
6 หุ้นบางตัวเมื่อตลาดปรับลงมา เมื่อตลาดขึ้นกลับอาจจะขึ้นได้สูงกว่าเดิม แต่หุ้นบางตัวลงแล้วลงเลยไม่กลับมา การเลือกซื้อหุ้นในตลาดขาลงนอกจากจะพิจารณาหุ้นที่ลงมาเยอะเป็นพิเศษ แต่เราจะต้องเลือกพื้นฐานของหุ้นด้วย ถ้ายังไม่ชำนาญหรือเกรงว่าทำได้ไม่ดี การซื้อ TDEX ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า
7 บางครั้งความคิดที่รอต่างชาติหยุดขายแล้วค่อยซื้อหุ้นนั้นอาจจะไม่ได้ผลทุกครั้งไป หลายๆ ครั้งหุ้นจะใกล้ๆ จุดต่ำสุดเมื่อต่างชาติเพลาการขายลง
8 นักลงทุนในประเทศหลายๆ คนที่ขายหุ้นเพราะกลัว subprime จริงๆ แล้วไม่ค่อยรู้รายละเอียดหรอกว่าปัญหา subprime มันเป็นยังไง แต่การบอกคนอื่นๆ ว่าขายหุ้นเพราะ subprime นั้นย่อมดูดีกว่าการขายหุ้นเพราะตกใจกลัวแน่นอน
9 FED มีการลดดอกเบี้ยเป็นพิเศษที่ไม่ต้องรอวาระการประชุมครั้งต่อไป แต่ธนาคารกลางบางประเทศไม่ค่อยมีความคิดจะทำเช่นนั้น ธนาคารกลางสหรัฐสามารถลดแรงกระแทกจากปัจจัยร้ายๆ ได้หลายต่อหลายครั้งแต่ธนาคารกลางบางประเทศหลายๆ ครั้งเพิ่มแรงกระแทกให้กับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจในประเทศ และนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำไมเงินเดือนผู้ว่าธนาคารกลางสหรัฐและคณะกรรมการ FED สูงกว่าผู้ว่าธนาคารกลางในหลายๆ ประเทศ
10 อย่าเผลอไปถามใครแม้ว่าจะคิดว่าคนนั้นมีประสบการณ์การลงทุนมาก ว่าพรุ่งนี้หุ้นจะขึ้นหรือลงต่อ เพราะถ้าคำตอบที่ได้นั้นแม่นยำ หมอดูชื่อดังคงมานั่งห้องค้ากันหมดแล้ว คงจะไม่ต้องเหนื่อยไปทำนายว่าดาราเค้าจะเลิกกันให้ถูกดาราเหล่านั้นด่ากลับออกหน้าหนังสือพิมพ์ และไม่ควรถามว่าทำไมหุ้นตัวนั้นๆ ถึงลงหรือหุ้นที่เค้าแนะนำให้เราลงทุนนั้นจะขึ้นไปถึงเป้าหมายเมื่อไหร่ เว้นเสียว่าเราเชื่อได้ว่าเค้าจะเป็นผู้ทำราคาหรือเราอยากช่วยฝึกความอดทนและการข่มจิตข่มใจของเค้า
11 หมอดูนั้นขายได้ทุกสถานการณ์จริงๆ เพราะผมเคยเห็นรายการ TV ที่เชิญหมอดูมาดูดวงให้สุนัขของดารา
12 การที่เราฟังนักวิเคราะห์ที่บอกว่า ถ้าหลุด 10 บาทจะมีสิทธิลงไป 9.5 บาท ถ้ายืนเหนือ 10 บาทได้แปลว่าจะไม่ลงแล้ว หรือถ้าทะลุ 5 บาทมีสิทธิไปทดสอบ 5.5 บาทนั้น เป็นคำอธิบายที่ถูกต้องตามหลักความน่าจะเป็นและดูเหมือนจะเป็นสัจธรรมหรือ fact มากกว่าการคาดการณ์
13 นักวิเคราะห์บางคนเริ่มบทวิเคราะห์หุ้นตัวหนึ่งครั้งแรกโดยแนะนำว่า sell เมื่อพื้นฐานดีขึ้นจึงปรับเป็น hold แต่ลืมคิดไปว่าเมื่อนักลงทุนขายหุ้นหมดไปแล้วตามคำแนะนำจะเอาหุ้นที่ไหนมาถือ ดังนั้นการปรับจาก sell เป็น hold แปลว่าให้หาหุ้นมาถือ ก็คือให้ซื้อนั่นเอง แต่การปรับจาก sell เป็น buy นั้นจะทำให้โดนเจ้านายและลูกค้าด่า ในทางกลับกัน การปรับจาก strong buy เป็น hold ก็มีนัยคล้ายๆ กัน
14 การซื้อขายทาง internet เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการความสะดวกและเข้าถึง internet ได้เกือบตลอดเวลา แต่ถ้าจุดประสงค์เพื่อประหยัดค่าคอมฯ บางครั้งการเติม 0 เกินไป 1 ตัวหรือ ซื้อเป็นขาย ขายเป็นซื้อ มันอาจจะมากกว่าค่าคอมฯ ที่ประหยัดได้ทั้งปี คล้ายๆ กับการซื้อบริการอะไรล่วงหน้าได้ส่วนลดเยอะแต่ท้ายสุดแล้วไม่ค่อยได้ไป
15 นักวิเคราะห์ที่วิเคราะห์ถูก 100% ทุกครั้งนั้นไม่มีแน่นอน ที่เห็นส่วนมากนั้นถูกครึ่งผิดครึ่งซึ่งไม่ช่วยอะไรได้มากนักเหมือนเล่นปั่นแปะ แต่คนที่มี value add ที่สุดคือคนที่ผิดเกือบทุกครั้งเพราะเราเพียงแค่ทำตรงข้ามก็ถูกแล้ว จึงเป็นเหตุให้บางคนจึงมีชื่อเสียงเพราะตลาดรู้ว่าคนนี้ออกมาฟันธงว่าเป็นขาขึ้นเมื่อไหร่ต้องให้ขายหุ้นทุกทีไป
16 บางครั้งผมเคยสงสัยว่าหุ้นเอเชียลงตามดาวโจนส์หรือดาวโจนส์ลงตามเรากันแน่ เพราะครั้งที่ผ่านมาหุ้นบ้านเราลงเยอะกว่าเค้าเสียอีก
17 หุ้นลงมากๆ หรือขึ้นมากๆ ไม่ใช่ว่า VI จะต้องไม่กลัวหรือเสียดายไม่เป็นเพราะเรายังมีชีวิตจิตใจ ทุกครั้งที่ซื้อกลัวลงต่อมั้ยผมคิดว่าคงต้องมีความรู้สึกนี้กันบ้าง หรือหุ้นขึ้นแรงๆ ขายแล้วกลัวขึ้นต่อมั้ย ก็กลัวเพราะมันก็เกิดประจำ การซื้อแล้วลงหรือขายแล้วขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่ต้องเกิดแน่ๆ หากเรายังเลือกที่จะลงทุนในตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ต้องทำใจยอมรับ ดังนั้นการซื้อหรือขายแต่ละครั้งต้องคิดให้ถี่ถ้วนและวินัยการลงทุนเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน
18 pop up คุณมี 1 งานใหม่ ของ greenbull นั้นมันมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ที่แย่อยู่หน่อยคือถ้ากดกากบาทสีแดงก็เป็นการเปิดหน้า web เค้า แต่ปุ่มปิดจริงๆ นั้นเขียนว่า close สีจางๆ อยู่บนกากบาทสีแดง อย่าไปโกรธหรือหงุดหงิดเลยครับหากมันช่วยให้ web นั้นมีรายได้เข้ามาบ้าง แต่มีวิธีให้มันไม่อยู่กลางจอได้ไหมครับ
19 ในตลาดที่ผันผวนช่วง 1-2 ปีนี้ การถือเงินสดในพอร์ตไว้เสียหน่อย หรือหาหุ้นที่คล้ายๆ การถือเงินสดไว้บ้าง ก็น่าจะเป็นความคิดที่ดี การที่หุ้นผันผวนนั้นเรื่องภาวะจิตใจในการลงทุนนั้นมีความสำคัญมากขึ้น ตามบางส่วนของโคลง 4 สุภาพที่ว่าไว้ว่า ฝูงชนกำเนิด คล้าย คลึงกัน ใหญ่ย่อมเพศผิวพรรณ แผกบ้าง ความรู้อาจเรียนทัน กันหมด ยกแต่ชั่วดีกระด้าง อ่อนแก้ ฤาไหว
หากเพื่อนคนไหนได้ข้อคิดอะไรบ้างก็มา post เพิ่มเติมกันได้นะครับ
สิ่งที่เราได้เรียนรู้หลังเหตุการณ์หุ้นลงอันเนื่องจากปัญหา subprime และเหตุการณ์การลงทุนอื่นๆ กระทู้นี้ไม่ได้เน้นข้อสังเกตเป็นวิชาการอะไรนัก เป็นข้อสังเกตเอาไว้อ่านสนุกๆ กันนะครับ
1 เวลาหุ้นลงก็จะมีข่าวร้ายเต็มตลาด แต่ถ้าหุ้นขึ้นกลับมานักลงทุนก็พร้อมจะลืมข่าวร้ายนั้นไป
2 นักลงทุนต่างชาติ แม้ว่าจะมี volume ซื้อขาย 30-40% ของตลาด แต่ก็สามารถกำหนดทิศทางตลาดได้ ตัวเลขการซื้อขายต่างชาติครึ่งวันเป็นตัวเลขที่สำคัญกว่าตัวเลข GDP ตัวเลขเศรษฐกิจ ธปท. ทุกสิ้นเดือน หรือการเพิ่มขึ้นการส่งออกของประเทศในแต่ละเดือนไปเสียแล้ว เพราะอย่างหลังมันไม่เคยทำให้หุ้นขึ้นหรือลงได้แต่อย่างไร การซื้อขายอย่างหนักของนักลงทุนต่างชาติ ก็ทำให้เราซื้อหุ้นบางตัวได้ถูกกว่าที่คิดได้ หรือขายหุ้นบางตัวแพงกว่าที่คิดได้
3 การซื้อหรือขายหุ้นแบบแบ่งไม้หรือหลายๆ order ก็ลดผลกระทบของโชคชะตาได้ เพราะมีบ่อยครั้งที่เราอาจจะพลาดการซื้อหรือขายหุ้นเพราะตั้งซื้อหรือต่ำไปหรือขายสูงไปเพียง 1 step โดยไม่ได้กระจาย order แล้วบอกว่าโชคไม่ดี ผมคิดว่าเราสามารถเอาชนะโชคชะตาในเรื่องนี้ได้ไม่ยากนัก การตั้งซื้อหรือขายที่เลขกลมๆ เช่น 0 5 อาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก หลายๆ ครั้งที่เสื้อตัวละ 99 บาทจะขายดีกว่าเสื้อตัวละ 100 บาททั้งๆ ที่ราคาต่างกันเพียง 1 บาท
4 การตั้งซื้อหุ้นไว้พอหุ้นใกล้ลงมาถึงแล้วถอน หรือตั้งขายไว้พอหุ้นขึ้นใกล้ถึงแล้วถอน ให้ลองถามตัวเองว่าตอนนี้เรามีเวลาในชีวิตมากเกินไปที่จะทำเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์เช่นนี้เชียวหรือ หรือกำลังฝึกทักษะการ key คอมฯ ของเราหรือ marketing ถ้าเราทำเช่นนี้ประจำก็อย่าไปต่อว่าคนดูละครน้ำเน่าตอนกลางคืนว่าไร้สาระเพราะเรากำลังทำเรื่องไร้สาระยิ่งกว่าเสียอีก
5 การดู bid offer นานเกินไปบางครั้งอาจจะทำให้เราไม่กล้าซื้อหรือขายได้ หุ้นขาลง bid-offer และการเคาะแต่ละไม้ชวนให้เคาะขายตามอย่างยิ่ง ในทางกลับกัน ในหุ้นขาขึ้นก็เช่นกัน
6 หุ้นบางตัวเมื่อตลาดปรับลงมา เมื่อตลาดขึ้นกลับอาจจะขึ้นได้สูงกว่าเดิม แต่หุ้นบางตัวลงแล้วลงเลยไม่กลับมา การเลือกซื้อหุ้นในตลาดขาลงนอกจากจะพิจารณาหุ้นที่ลงมาเยอะเป็นพิเศษ แต่เราจะต้องเลือกพื้นฐานของหุ้นด้วย ถ้ายังไม่ชำนาญหรือเกรงว่าทำได้ไม่ดี การซื้อ TDEX ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า
7 บางครั้งความคิดที่รอต่างชาติหยุดขายแล้วค่อยซื้อหุ้นนั้นอาจจะไม่ได้ผลทุกครั้งไป หลายๆ ครั้งหุ้นจะใกล้ๆ จุดต่ำสุดเมื่อต่างชาติเพลาการขายลง
8 นักลงทุนในประเทศหลายๆ คนที่ขายหุ้นเพราะกลัว subprime จริงๆ แล้วไม่ค่อยรู้รายละเอียดหรอกว่าปัญหา subprime มันเป็นยังไง แต่การบอกคนอื่นๆ ว่าขายหุ้นเพราะ subprime นั้นย่อมดูดีกว่าการขายหุ้นเพราะตกใจกลัวแน่นอน
9 FED มีการลดดอกเบี้ยเป็นพิเศษที่ไม่ต้องรอวาระการประชุมครั้งต่อไป แต่ธนาคารกลางบางประเทศไม่ค่อยมีความคิดจะทำเช่นนั้น ธนาคารกลางสหรัฐสามารถลดแรงกระแทกจากปัจจัยร้ายๆ ได้หลายต่อหลายครั้งแต่ธนาคารกลางบางประเทศหลายๆ ครั้งเพิ่มแรงกระแทกให้กับตลาดหุ้นและเศรษฐกิจในประเทศ และนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำไมเงินเดือนผู้ว่าธนาคารกลางสหรัฐและคณะกรรมการ FED สูงกว่าผู้ว่าธนาคารกลางในหลายๆ ประเทศ
10 อย่าเผลอไปถามใครแม้ว่าจะคิดว่าคนนั้นมีประสบการณ์การลงทุนมาก ว่าพรุ่งนี้หุ้นจะขึ้นหรือลงต่อ เพราะถ้าคำตอบที่ได้นั้นแม่นยำ หมอดูชื่อดังคงมานั่งห้องค้ากันหมดแล้ว คงจะไม่ต้องเหนื่อยไปทำนายว่าดาราเค้าจะเลิกกันให้ถูกดาราเหล่านั้นด่ากลับออกหน้าหนังสือพิมพ์ และไม่ควรถามว่าทำไมหุ้นตัวนั้นๆ ถึงลงหรือหุ้นที่เค้าแนะนำให้เราลงทุนนั้นจะขึ้นไปถึงเป้าหมายเมื่อไหร่ เว้นเสียว่าเราเชื่อได้ว่าเค้าจะเป็นผู้ทำราคาหรือเราอยากช่วยฝึกความอดทนและการข่มจิตข่มใจของเค้า
11 หมอดูนั้นขายได้ทุกสถานการณ์จริงๆ เพราะผมเคยเห็นรายการ TV ที่เชิญหมอดูมาดูดวงให้สุนัขของดารา
12 การที่เราฟังนักวิเคราะห์ที่บอกว่า ถ้าหลุด 10 บาทจะมีสิทธิลงไป 9.5 บาท ถ้ายืนเหนือ 10 บาทได้แปลว่าจะไม่ลงแล้ว หรือถ้าทะลุ 5 บาทมีสิทธิไปทดสอบ 5.5 บาทนั้น เป็นคำอธิบายที่ถูกต้องตามหลักความน่าจะเป็นและดูเหมือนจะเป็นสัจธรรมหรือ fact มากกว่าการคาดการณ์
13 นักวิเคราะห์บางคนเริ่มบทวิเคราะห์หุ้นตัวหนึ่งครั้งแรกโดยแนะนำว่า sell เมื่อพื้นฐานดีขึ้นจึงปรับเป็น hold แต่ลืมคิดไปว่าเมื่อนักลงทุนขายหุ้นหมดไปแล้วตามคำแนะนำจะเอาหุ้นที่ไหนมาถือ ดังนั้นการปรับจาก sell เป็น hold แปลว่าให้หาหุ้นมาถือ ก็คือให้ซื้อนั่นเอง แต่การปรับจาก sell เป็น buy นั้นจะทำให้โดนเจ้านายและลูกค้าด่า ในทางกลับกัน การปรับจาก strong buy เป็น hold ก็มีนัยคล้ายๆ กัน
14 การซื้อขายทาง internet เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการความสะดวกและเข้าถึง internet ได้เกือบตลอดเวลา แต่ถ้าจุดประสงค์เพื่อประหยัดค่าคอมฯ บางครั้งการเติม 0 เกินไป 1 ตัวหรือ ซื้อเป็นขาย ขายเป็นซื้อ มันอาจจะมากกว่าค่าคอมฯ ที่ประหยัดได้ทั้งปี คล้ายๆ กับการซื้อบริการอะไรล่วงหน้าได้ส่วนลดเยอะแต่ท้ายสุดแล้วไม่ค่อยได้ไป
15 นักวิเคราะห์ที่วิเคราะห์ถูก 100% ทุกครั้งนั้นไม่มีแน่นอน ที่เห็นส่วนมากนั้นถูกครึ่งผิดครึ่งซึ่งไม่ช่วยอะไรได้มากนักเหมือนเล่นปั่นแปะ แต่คนที่มี value add ที่สุดคือคนที่ผิดเกือบทุกครั้งเพราะเราเพียงแค่ทำตรงข้ามก็ถูกแล้ว จึงเป็นเหตุให้บางคนจึงมีชื่อเสียงเพราะตลาดรู้ว่าคนนี้ออกมาฟันธงว่าเป็นขาขึ้นเมื่อไหร่ต้องให้ขายหุ้นทุกทีไป
16 บางครั้งผมเคยสงสัยว่าหุ้นเอเชียลงตามดาวโจนส์หรือดาวโจนส์ลงตามเรากันแน่ เพราะครั้งที่ผ่านมาหุ้นบ้านเราลงเยอะกว่าเค้าเสียอีก
17 หุ้นลงมากๆ หรือขึ้นมากๆ ไม่ใช่ว่า VI จะต้องไม่กลัวหรือเสียดายไม่เป็นเพราะเรายังมีชีวิตจิตใจ ทุกครั้งที่ซื้อกลัวลงต่อมั้ยผมคิดว่าคงต้องมีความรู้สึกนี้กันบ้าง หรือหุ้นขึ้นแรงๆ ขายแล้วกลัวขึ้นต่อมั้ย ก็กลัวเพราะมันก็เกิดประจำ การซื้อแล้วลงหรือขายแล้วขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่ต้องเกิดแน่ๆ หากเรายังเลือกที่จะลงทุนในตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ต้องทำใจยอมรับ ดังนั้นการซื้อหรือขายแต่ละครั้งต้องคิดให้ถี่ถ้วนและวินัยการลงทุนเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน
18 pop up คุณมี 1 งานใหม่ ของ greenbull นั้นมันมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ที่แย่อยู่หน่อยคือถ้ากดกากบาทสีแดงก็เป็นการเปิดหน้า web เค้า แต่ปุ่มปิดจริงๆ นั้นเขียนว่า close สีจางๆ อยู่บนกากบาทสีแดง อย่าไปโกรธหรือหงุดหงิดเลยครับหากมันช่วยให้ web นั้นมีรายได้เข้ามาบ้าง แต่มีวิธีให้มันไม่อยู่กลางจอได้ไหมครับ
19 ในตลาดที่ผันผวนช่วง 1-2 ปีนี้ การถือเงินสดในพอร์ตไว้เสียหน่อย หรือหาหุ้นที่คล้ายๆ การถือเงินสดไว้บ้าง ก็น่าจะเป็นความคิดที่ดี การที่หุ้นผันผวนนั้นเรื่องภาวะจิตใจในการลงทุนนั้นมีความสำคัญมากขึ้น ตามบางส่วนของโคลง 4 สุภาพที่ว่าไว้ว่า ฝูงชนกำเนิด คล้าย คลึงกัน ใหญ่ย่อมเพศผิวพรรณ แผกบ้าง ความรู้อาจเรียนทัน กันหมด ยกแต่ชั่วดีกระด้าง อ่อนแก้ ฤาไหว
หากเพื่อนคนไหนได้ข้อคิดอะไรบ้างก็มา post เพิ่มเติมกันได้นะครับ
"Price is what you pay. Value is what you get."
-
- Verified User
- โพสต์: 215
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ได้เรียนรู้หลังหุ้นลงเนื่องจากปัญหาsubprime โดยคุ
โพสต์ที่ 5
สำหรับข้อ 18 ก็คิดเสียว่ากดรีโมททีวี มาเจอคนที่อยู่ในข้อ 15 แล้ว เราKao เขียน:โดยคุณ Invisible Hand ครับ
18 pop up คุณมี 1 งานใหม่ ของ greenbull นั้นมันมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ที่แย่อยู่หน่อยคือถ้ากดกากบาทสีแดงก็เป็นการเปิดหน้า web เค้า แต่ปุ่มปิดจริงๆ นั้นเขียนว่า close สีจางๆ อยู่บนกากบาทสีแดง อย่าไปโกรธหรือหงุดหงิดเลยครับหากมันช่วยให้ web นั้นมีรายได้เข้ามาบ้าง แต่มีวิธีให้มันไม่อยู่กลางจอได้ไหมครับ
หากเพื่อนคนไหนได้ข้อคิดอะไรบ้างก็มา post เพิ่มเติมกันได้นะครับ
ต้องรีบกดปุ่ม close แล้วกันนะครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
สิ่งที่ได้เรียนรู้หลังหุ้นลงเนื่องจากปัญหาsubprime โดยคุณIH
โพสต์ที่ 6
กระทู้นี้มีการโพสต์เสียดสี แดกดัน
ทีมงาน mod ควรพิจารณาด้วยครับ
...
ว่าจะให้เป็น sticky ดีไหม เพราะเสียดสีได้โดนใจ และมีประโยชน์จริงๆครับ :lol: :lol:
ทีมงาน mod ควรพิจารณาด้วยครับ
...
ว่าจะให้เป็น sticky ดีไหม เพราะเสียดสีได้โดนใจ และมีประโยชน์จริงๆครับ :lol: :lol:
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
สิ่งที่ได้เรียนรู้หลังหุ้นลงเนื่องจากปัญหาsubprime โดยคุณIH
โพสต์ที่ 7
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- bankniti
- Verified User
- โพสต์: 627
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ได้เรียนรู้หลังหุ้นลงเนื่องจากปัญหาsubprime โดยคุ
โพสต์ที่ 8
Kao เขียน: แต่คนที่มี value add ที่สุดคือคนที่ผิดเกือบทุกครั้งเพราะเราเพียงแค่ทำตรงข้ามก็ถูกแล้ว จึงเป็นเหตุให้บางคนจึงมีชื่อเสียงเพราะตลาดรู้ว่าคนนี้ออกมาฟันธงว่าเป็นขาขึ้นเมื่อไหร่ต้องให้ขายหุ้นทุกทีไป
รู้นะว่าหมายถึงใคร
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
สิ่งที่ได้เรียนรู้หลังหุ้นลงเนื่องจากปัญหาsubprime โดยคุณIH
โพสต์ที่ 9
โอ้วว ข้าน้อยขอคาราวะ
อารมณ์ขันจริงๆ อันนี้มีการแถม :lol:
อารมณ์ขันจริงๆ อันนี้มีการแถม :lol:
:lovl: :lovl: :lovl:18 pop up คุณมี 1 งานใหม่ ของ greenbull นั้นมันมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ที่แย่อยู่หน่อยคือถ้ากดกากบาทสีแดงก็เป็นการเปิดหน้า web เค้า แต่ปุ่มปิดจริงๆ นั้นเขียนว่า close สีจางๆ อยู่บนกากบาทสีแดง อย่าไปโกรธหรือหงุดหงิดเลยครับหากมันช่วยให้ web นั้นมีรายได้เข้ามาบ้าง แต่มีวิธีให้มันไม่อยู่กลางจอได้ไหมครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1734
- ผู้ติดตาม: 0
สิ่งที่ได้เรียนรู้หลังหุ้นลงเนื่องจากปัญหาsubprime โดยคุณIH
โพสต์ที่ 10
-
- Verified User
- โพสต์: 331
- ผู้ติดตาม: 0
สิ่งที่ได้เรียนรู้หลังหุ้นลงเนื่องจากปัญหาsubprime โดยคุณIH
โพสต์ที่ 11
ขอเพิ่มเติมด้วยครับ ...
นักวิเคราะห์ที่เก่งมาก คือ นักวิเคราะห์ที่ไม่เคยคาดผิด
และนักวิเคราะห์เทคนิคไทยก็มีคุณสมบัตินี้ครับ
ถ้าดัชนี ยืน 820 จุดได้ จะไป 1000 จุด
แต่ถ้า ยืนไม่ได้ จะลงไป 700 จุด
เห็นไหมครับว่านักเทคนิคไทยเก่งแค่ไหน วิเคราะห์ยังไงก็ไม่ผิดครับ
นักวิเคราะห์ที่เก่งมาก คือ นักวิเคราะห์ที่ไม่เคยคาดผิด
และนักวิเคราะห์เทคนิคไทยก็มีคุณสมบัตินี้ครับ
ถ้าดัชนี ยืน 820 จุดได้ จะไป 1000 จุด
แต่ถ้า ยืนไม่ได้ จะลงไป 700 จุด
เห็นไหมครับว่านักเทคนิคไทยเก่งแค่ไหน วิเคราะห์ยังไงก็ไม่ผิดครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
สิ่งที่ได้เรียนรู้หลังหุ้นลงเนื่องจากปัญหาsubprime โดยคุณIH
โพสต์ที่ 14
ขอบคุณคุณขาวมากๆนะครับ :D
ขออนุญาตินำไปแนะนำต่อใน pantip.com นะครับ
ขออนุญาตินำไปแนะนำต่อใน pantip.com นะครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
- Verified User
- โพสต์: 4596
- ผู้ติดตาม: 0
สิ่งที่ได้เรียนรู้หลังหุ้นลงเนื่องจากปัญหาsubprime โดยคุณIH
โพสต์ที่ 17
ป๋า มากๆ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
สิ่งที่ได้เรียนรู้หลังหุ้นลงเนื่องจากปัญหาsubprime โดยคุณIH
โพสต์ที่ 19
หนึ่งตัวพี่ IH เขียน:11 หมอดูนั้นขายได้ทุกสถานการณ์จริงๆ เพราะผมเคยเห็นรายการ TV ที่เชิญหมอดูมาดูดวงให้สุนัขของดารา
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
สิ่งที่ได้เรียนรู้หลังหุ้นลงเนื่องจากปัญหาsubprime โดยคุณIH
โพสต์ที่ 20
ขายหมูเรื่องเล็ก แต่Cut Loss ไม่ทันนี่สิเรื่องใหญ่
แต่ถ้ามันจะลงไม่เปิดซื้อขาลงละครับ หยอกเล่น พอดีผมแวะมาอ่านอ่ะงับ
ผมเล่นแต่ทองคำกะน้ำมัน ใครมีข้อมูลมาคุยกันได้ครับ
ที่ [email protected] มาฝึกเล่นDemoกันก่อนลงสนามจริงๆ^^
แต่ถ้ามันจะลงไม่เปิดซื้อขาลงละครับ หยอกเล่น พอดีผมแวะมาอ่านอ่ะงับ
ผมเล่นแต่ทองคำกะน้ำมัน ใครมีข้อมูลมาคุยกันได้ครับ
ที่ [email protected] มาฝึกเล่นDemoกันก่อนลงสนามจริงๆ^^
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 152
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ได้เรียนรู้หลังหุ้นลงเนื่องจากปัญหาsubprime โดยคุ
โพสต์ที่ 22
หุ้นประเภทไหนน่ะครับที่คล้ายๆ การถือเงินสดKao เขียน:โดยคุณ Invisible Hand ครับ
หรือหาหุ้นที่คล้ายๆ การถือเงินสดไว้บ้าง ก็น่าจะเป็นความคิดที่ดี
มีเหตุผล, พอประมาณ, มีภูมิคุ้มกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 4
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สิ่งที่ได้เรียนรู้หลังหุ้นลงเนื่องจากปัญหาsubprime โดยคุ
โพสต์ที่ 26
โอเค
ทุกครั้งที่อ่านบทความของคุณ IH มักจะได้ ความรู้ที่ตกผลึก และอารมณ์ขันเสมอ
รู้สึกตัวเองพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ก็มาจากบทความของคุณIH ไม่น้อย
สิ่งที่ blueblood post เห็นด้วยมาก ๆ
ขอให้เขียนบทความดี ๆอย่างนี้เรื่อย ๆ ครับ ผมเป็นหนึ่งในผู้ชื่นชม และติดตาม
ทุกครั้งที่อ่านบทความของคุณ IH มักจะได้ ความรู้ที่ตกผลึก และอารมณ์ขันเสมอ
รู้สึกตัวเองพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ก็มาจากบทความของคุณIH ไม่น้อย
สิ่งที่ blueblood post เห็นด้วยมาก ๆ
ขอให้เขียนบทความดี ๆอย่างนี้เรื่อย ๆ ครับ ผมเป็นหนึ่งในผู้ชื่นชม และติดตาม
Re: สิ่งที่ได้เรียนรู้หลังหุ้นลงเนื่องจากปัญหาsubprime โดยคุณIH
โพสต์ที่ 28
ขอบคุณครับ