+ตลาดหุ้นขานรับมาตรการเร่งด่วนสหรัฐฯ+

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
beammy
Verified User
โพสต์: 3345
ผู้ติดตาม: 0

+ตลาดหุ้นขานรับมาตรการเร่งด่วนสหรัฐฯ+

โพสต์ที่ 1

โพสต์

หุ้นไทยพุ่ง30จุดตามตลาดต่างประเทศ ขานรับมาตรการคืนภาษีกู้ศก.สหรัฐ

(Update) หุ้นภาคบ่ายพุ่งตามตลาดต่างประเทศ ล่าสุดเมื่อเวลา 15.55 น. ดัชนีพุ่งขึ้นกว่า 30 จุด หรือคิดเป็น 4% คาดต่างชาติเริ่มซื้อกลับ ขานรับมาตรการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐ หลัง"บุช"ประกาศคืนภาษี 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ชะลอปัญหาเศรษฐกิจถดถอย

บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยวันนี้ หลังเปิดตลาดดัชนีทะยานในแดนบวกต่อเนื่อง โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายดัชนีปรับตัวสูงสุดที่ 746.69 จุด ก่อนปิดตลาดภาคเช้าที่ 746.53 จุด บวก 17.95 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8,210.47 ล้านบาท

ขณะที่เปิดตลาดภาคบ่ายดัชนีทะยานตัวต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อเวลา 15.55 น. ดัชนีอยู่ที่ 759.00 จุด บวก 30.42 จุด หรือ 4.18% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 16,503.46 ล้านบาท

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรกประกอบด้วย PTT อยู่ที่ 312.00 บาท บวก 24.00 บาท PTTEP อยู่ที่ 139.00 บาท บวก 9.00 บาท BANPU อยู่ที่ 392.00 บาท บวก 22.00 บาท PTTAR อยู่ที่ 37.50 บาท บวก 1.50 บาท และ SCB อยู่ที่ 75.50 บาท บวก 3.50 บาท

"ตลาดหุ้นภาคบ่ายปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามทิศทางตลดาหุ้นต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าวันนี้ต่างชาติน่าจะเริ่มกลับเข้ามาซื้อ สอดคล้องกับการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นในภูมิภาค ที่ต่างก็ขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ"

ตลาดหุ้นขานรับมาตการคืนภาษีกู้เศรษฐกิจสหรัฐถดถอย

นางวิริยา ลาภพรหมรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคิน จำกัด กล่าวว่า เปิดตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ในช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 10 จุด ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ ที่เมื่อคืนตลาดหุ้นดาวโจนส์ของสหรัฐอเมริกา ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 108.44 จุด ขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ที่สภาคองเกรสเห็นชอบแผนคืนภาษีให้กับประชาชน1.5 แสนล้านดอลลาสหรัฐ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ธนาคารกลางสหรัฐหรือ เฟด ปรับลดดอกเบี้ยลงถึงร้อยละ 0.75

'บุช'คืนภาษี1.5แสนล้านเหรียญชะลอปัญหาเศรษฐกิจถดถอย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ (25 ม.ค.) ระบุว่า นายจอร์จ ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และผู้นำรัฐสภาของสหรัฐอเมริกาบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจประชากรสหรัฐอเมริกา 117 ล้าน ครัวเรือน ประมาณ 150,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยการคืนภาษีให้แก่ประชาชน 600 เหรียญสหรัฐฯ ต่อคนและ 1,200 เหรียญสหรัฐฯ ต่อคู่สามีภรรยาที่แต่งงานกัน ส่วนครอบครัวที่มีบุตรจะได้รับเงินเพิ่มอีก 300 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบุตร 1 คน

รายงานระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือกันระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กับรัฐสภาสหรัฐอเมริกา ที่มีพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากที่ต้องการอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังเกิดปัญหาวิกฤติจากการปล่อยสินเชื่อการเคหะสำหรับผู้กู้ที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ หรือ ซับไพรม์ และ หนี้บัตรเครดิตครั้งใหญ่

ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวเป็นผลมาจากการหารือกันอย่างเคร่งเครียดและจริงจัง จนทำให้เกิดความร่วมมือที่หลายคนไม่คาดว่าจะเกิดขึ้นในประเทษสหรัฐอเมริกา ขณะที่นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครตกล่าวว่า สมาชิกพรรคเดโมแครตอาจจะเสนอร่างกฎหมายเพิ่มเติม หากมาตรการของประธานาธิบดีบุชไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตามที่คาดไว้ และอาจจะมีการปรับแก้ไขมาตรการบางส่วน เมื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาด้วย

รายงานระบุว่า ปฏิกิริยาตลาดน้ำมัน และตลาดหุ้นทั่วโลก ภายหลังบรรลุข้อตกลงดังกล่าวปรากฏว่า ราคาหุ้นและน้ำมันต่างปรับตัวสูงขึ้น ตอบรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา
beammy
Verified User
โพสต์: 3345
ผู้ติดตาม: 0

+ตลาดหุ้นขานรับมาตรการเร่งด่วนสหรัฐฯ+

โพสต์ที่ 2

โพสต์

วันนี้ต่างชาติ net buy ครั้งแรกหรือป่าวครับนี่  8)  ...
beammy
Verified User
โพสต์: 3345
ผู้ติดตาม: 0

+ตลาดหุ้นขานรับมาตรการเร่งด่วนสหรัฐฯ+

โพสต์ที่ 3

โพสต์

โปรดระวังวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ระเบิดเวลายังตามมาอีกหลายลูก
____________________________________________

ถ้าหากรัฐมนตรีเศรษฐกิจชุดใหม่ของเรา เป็นแค่ "เด็กฝึกงาน" หรือ "คนของนาย" พวกเราชาวบ้านก็เตรียมรับผลพวงจากวิกฤติเศรษฐกิจของมะกัน ที่จะลามมาถึงบ้านเราได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :    เพราะถ้าถามว่าการฟื้นตัวของตลาดหุ้นในเอเชียเล็กน้อย หรือ rebound เมื่อวันพุธ หลังจากโดนถล่มอย่างหนักมาหลายวันเป็นเรื่องระยะสั้นหรือระยะยาว

คำตอบของคนที่เฝ้าติดตามเบื้องหลังหลายคนก็บอกว่า นี่เป็นเพียงอาการ "ถูกกระตุ้น" ระยะสั้นเท่านั้น เอาเข้าจริงๆ สุขภาพเศรษฐกิจของอเมริกานั้นหนักหน่วงกว่าที่เราเห็นอยู่อย่างแน่นอน

บางสำนักบอกด้วยซ้ำว่า ปีนี้อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐ อาจจะต่ำกว่าร้อยละ 1 ด้วยซ้ำไป (ขณะที่จีนทำท่าจะโตได้กว่า 10 เปอร์เซ็นต์)

เฉพาะ "ระเบิดเวลา" อย่าง sub-prime crisis หรือเงินกู้คุณภาพต่ำที่ธนาคารมะกัน ให้ลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์กู้ไปนั้น ก็อาจจะระเบิดขึ้นมาอีกก็ได้

ระเบิดเวลานี้อาจจะตูมตามทีละลูก หรืออาจจะตูมทีเดียวใหญ่โต จนมีผลกระทบอย่างรุนแรงในจังหวะเวลาในอนาคตอันใกล้นี้ก็ได้

ข่าววงในที่สร้างความระทึกใจให้กับผู้รับผิดชอบแก้ปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐ ก็คือว่าในสัญญาปล่อยกู้ให้กับลูกค้า sub-prime นั้น อัตราดอกเบี้ยที่คิดกันในช่วงสองสามปีแรกมักจะต่ำ...และค่อยๆ ไปสูงเอาในปีต่อๆ ไป

ปีที่ดอกเบี้ยเริ่มจะสูงขึ้นก็คือปีนี้ และตัวเลขบางตัวบอกว่า เจ้าตัวเลขหนี้ที่ทำท่าจะโผล่มาหลอกหลอนให้ต้องนอนไม่หลับกันในปีนี้ จะตกอยู่ใกล้ๆ 1 ล้านล้านดอลลาร์ (หรือ 33 ล้านล้านบาทไทยเรา!)

"ฝันร้าย" นี่แหละที่บีบให้ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ต้องเร่งออก "มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ" ด้วยการอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ 1.5 แสนล้านดอลลาร์ หรือ 6 แสนล้านบาทขณะที่ธนาคารกลางของเขาประกาศตัดดอกเบี้ยทีเดียวร้อยละ 0.75 ซึ่งเป็นอัตราลดที่สูงที่สุดในแต่ละครั้งในประวัติศาสตร์ของสหรัฐทีเดียวเชียวแหละ

จะบอกว่า นี่คืออาการ "แตกตื่น" ก็ได้ หรือจะตีความว่า เป็นการ "ด่วนสกัดกั้นวิกฤติให้ทันการ" ก็ได้อีกเหมือนกัน

และอย่าได้แปลกใจถ้าหากธนาคารแห่งชาติของสหรัฐ จะตัดสินใจในการประชุมปกติของเขาในปลายเดือนนี้ที่จะหั่นดอกเบี้ยจากร้อยละ 3.5 ลงไปอีกร้อยละ 0.5 หรือถ้าอาการแปรปรวนในตลาดโลกไม่สงบลง ก็อาจจะได้เห็นการขยับตัวครั้งใหญ่ที่คาดไม่ถึง ในเรื่องของการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงและฉับพลัน

ถ้าหั่นอีก 1 เปอร์เซ็นต์ก็อย่าได้ช็อกเกินเหตุ

เพราะแม้ "พ่อมดการเงิน" อย่างจอร์จ โซรอส ก็ยังมาร่วมวงทำนายความปั่นป่วนวุ่นวายของเศรษฐกิจมะกันที่จะมีผลต่อคนอื่นๆ ในโลกด้วย

โซรอส บอกว่า "วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์" ครั้งนี้ร้ายแรงที่สุดในรอบ 60 ปี คือหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา ก็ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเท่านี้

และถ้ายาแก้โรคธรรมดาไม่ได้ผลฉับพลัน หรือยาที่ใช้กับคนไข้ที่อาการไม่ยอมคืนภาวะปกติจะต้องแรงและเร็ว เพราะหาไม่แล้ว โรคร้ายนั้นจะลามไปสู่อวัยวะส่วนสำคัญอื่นๆ ที่กำลังทำท่าว่าจะโซซัดโซเซไปด้วย

พอธนาคารกลาง หรือ Fed ของเขาประกาศลดดอกเบี้ยอย่าง "หั่นแหลก" อย่างนี้ นักวิเคราะห์ที่นั่นก็เริ่มจะเห็นภาพที่น่ากลัว...เพราะการตัดสินใจของธนาคารกลางที่เด็ดขาดอย่างนี้ตอกย้ำความเชื่อที่ว่าอนาคตเศรษฐกิจของอเมริกานั้น "เลวร้ายกว่าที่คาดการณ์กันก่อนหน้านี้" เสียแล้ว

ส่วนใหญ่เชื่อกันว่า นี่เป็นเพียงการส่งคนไข้อาการหนักเข้าโรงพยาบาลเท่านั้น ตอนนี้คณะหมอกำลังวินิจฉัยโรคอยู่ เพื่อตัดสินว่าจะต้องส่งเข้าห้องไอซียูเพื่อผ่าตัดใหญ่หรือไม่

ประเด็นเรื่องจะผ่าตัดหรือไม่นั้น เห็นจะมีความเห็นสอดคล้องต้องกันแล้ว แต่คำถามใหญ่ ก็คือว่าจะผ่าตัดส่วนไหน และจะต้องผ่าตัดหลายๆ ส่วนพร้อมๆ กันหรือไม่

เพราะที่ผ่านมา คนไข้ใหญ่รายนี้ไม่ค่อยสนใจดูแลสุขภาพตัวเองเท่าไรนัก อีกทั้งยังยิ่งผยองว่าตัวเองมีความเข้มแข็งที่ไม่มีใครมาตรวจและวินิจฉัยได้

อยู่ดีๆ ก็ล้มครืนลง เพราะกินอาหาร "แดกด่วน" มากเกินไป...ตอนนี้ ก็ต้องลุ้นกันว่า คนไข้จะยอมให้ผ่าตัดจริงๆ หรือไม่ และผ่าแล้ว จะรอดหรือไม่?

ยังต้องวิเคราะห์วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์รอบนี้กันอีกหลายตอนครับ โปรดติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะโรคมะกันอย่างนี้สามารถระบาดได้กว้างไกลและไร้ความปรานียิ่งนัก...โดยเฉพาะสำหรับรัฐบาลใหม่ที่เมืองไทยของเรานี่แหละ
beammy
Verified User
โพสต์: 3345
ผู้ติดตาม: 0

+ตลาดหุ้นขานรับมาตรการเร่งด่วนสหรัฐฯ+

โพสต์ที่ 4

โพสต์

As of January 24, 2008
Type Buy Sell Net
Retail 9,789.89 11,810.33 -2,020.44
Foreign 8,091.72 7,782.88 308.84
Insti. 4,312.03 2,600.42 1,711.61
ซื้อแล้วว โอ้เย  8)  ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tanasit
Verified User
โพสต์: 63
ผู้ติดตาม: 0

+ตลาดหุ้นขานรับมาตรการเร่งด่วนสหรัฐฯ+

โพสต์ที่ 5

โพสต์

As of January 24, 2008
Type Buy Sell Net
Retail 9,789.89 11,810.33 -2,020.44
Foreign 8,091.72 7,782.88 308.84
Insti. 4,312.03 2,600.42 1,711.61
น่าจะ 25 นะครับ
ซื้อแล้วว โอ้เย    ...
แล้วคุณ beammy พร้อมซื้อแล้วยังครับ เผื่อจะได้ตามไปด้วยคน
beammy
Verified User
โพสต์: 3345
ผู้ติดตาม: 0

+ตลาดหุ้นขานรับมาตรการเร่งด่วนสหรัฐฯ+

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ยังครับ วันนี้เป็นเพียงการกระตุ้นระดับปานกลางเท่านั้นครับ

ยังมีคลื่นลมแรงรออยู่อีกเพียบบ  8)  ...

ป.ล. วันที่ 25 ถูกต้องครับ ผม copy มาผิด
MindTrick
Verified User
โพสต์: 1289
ผู้ติดตาม: 0

+ตลาดหุ้นขานรับมาตรการเร่งด่วนสหรัฐฯ+

โพสต์ที่ 7

โพสต์

การที่คืนภาษี เหมือน หาเสียงจัง เน้นชื่อพรรคเหลือเกิน

วันนี้ ซื้อ308 ล้าน มันดู หยุมหยิมจังครับ เพราะตั้งแต่ เดือน พย.เป็นต้นมา มี net buy ไม่เกิน 10วัน ซื้อ มากสุด 1200 เองครับ นอกนั้น  ของเค้า ขายดิบขายดี :lol:
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
ภาพประจำตัวสมาชิก
bankniti
Verified User
โพสต์: 627
ผู้ติดตาม: 0

+ตลาดหุ้นขานรับมาตรการเร่งด่วนสหรัฐฯ+

โพสต์ที่ 8

โพสต์

beammy เขียน:
ซื้อแล้วว โอ้เย
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0

+ตลาดหุ้นขานรับมาตรการเร่งด่วนสหรัฐฯ+

โพสต์ที่ 9

โพสต์

เคยอ่านหนังสือพิมพ์แล้วมี นักวิเคราะห์ นักวิจารณ์  เขียนลักษณะ นักลงทุนชาวไทยโง่

เวลาต่างชาติขายหุ้น  คนไทยชอบเข้าไปรับซื้อ

ผมก็อยากจะถามกลับว่า  ถ้าต่างชาติขายสุทธิ  แล้วใครจะซื้อสุทธิได้ละครับ  ถ้าไม่ใช่คนไทย  หรือว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว  :lol:
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
ภาพประจำตัวสมาชิก
ayethebing
Verified User
โพสต์: 2125
ผู้ติดตาม: 0

+ตลาดหุ้นขานรับมาตรการเร่งด่วนสหรัฐฯ+

โพสต์ที่ 10

โพสต์

[quote="chatchai"]เคยอ่านหนังสือพิมพ์แล้วมี นักวิเคราะห์ นักวิจารณ์
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
ภาพประจำตัวสมาชิก
tanate
Verified User
โพสต์: 307
ผู้ติดตาม: 0

+ตลาดหุ้นขานรับมาตรการเร่งด่วนสหรัฐฯ+

โพสต์ที่ 11

โพสต์

จริงคือเท็จ เท็จคือจริง
ต่างชาติ สถาบัน รายย่อย ใครจะชนะ
ต้องคิดให้รอบคอบและหนักแน่นเข้าไว้
หุ้นขึ้นสักแต่รู้ว่าหุ้นขึ้น หุ้นตกสักแต่รู้ว่าหุ้นตก
anakinnet
Verified User
โพสต์: 520
ผู้ติดตาม: 0

+ตลาดหุ้นขานรับมาตรการเร่งด่วนสหรัฐฯ+

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ต่างชาติ มีทั้งผู้ที่แพ้ และผู้ที่ชนะ อยู่รวมกัน
สถาบัน ก็ มีทั้งผู้ที่แพ้ และผู้ที่ชนะ อยู่รวมกัน
รายย่อย มีทั้งผู้ที่แพ้ และผู้ที่ชนะ อยู่รวมกัน เช่นเดียวกัน

มันสำคัญอยู่ตรงที่ว่า คุณน่ะเป็นผู้ชนะหรือเปล่า
In the long run, We are all dead.
โพสต์โพสต์