ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 1
ผมผักภาระการสอนเลขไปให้โรงเรียนตลอด จนลูกอายุ 6 ขวบแล้ว ลูกสาวคิดเลขเร็ว จนเป้นที่ชื่นชมของพ่อแม่อยู่ตลอด
จนอาทิตย์ทิตย์ที่แล้ว ผมเริ่มถามเลขลูกปัญหาโจทย์ ลูกจะไม่อยากอ่านเลย อยากจะทำแต่ ตัวเลข เพราะ เหมือนกับการทำซ้ำ ง่าย ๆ เขาคิดเลขเร็วก็จริง แต่โจทย์ไม่เอา พอเจอโจทย์ง่ายอย่าง มีพิซซ่า แปดชิ้น มีคน 4 คน จะแบ่งคนละกี่ชิ้น ลูกอึ้งไปพักเลย จากคนคิดเลขเร็วๆ ...
ผมคิดได้ทันที เพราะพ่อผมเคยถามผมมานานมากแล้วเมื่อ 30 กว่าปีก่อน ถามลูกว่า "เรียนเลขไปทำไม"
ตอนนั้นผมก็ตอบพ่อไมได้
ลูกก็ตอบไม่ได้ ลูกนั่งนิ่งแล้วน้ำตาก็ไหล "..................." ตอนนี้ ถึงต้องมานั่งกลุ้มใจ ผมเสียใจมาก
ไม่อยากเชื่อเลยว่า ทั้งๆ ที่พ่อสอนเลขผมมาแท้ ๆแต่ผมไม่ได้สอนลูกเลย
ผมจำได้ พ่อบอกว่า "เราเรียนเลข จะได้รู้จักแก้ปัญหา คำตอบที่ได้ไม่สำคัญ หากวิธีการที่ได้มาสำคัญมากกว่า มิฉะนั้นคำตอบแทบจะไม่มีความหมายเลย"
ลูกผมไม่คิดให้ดี สักแต่ว่าทำเสร็จ เพื่อให้ได้คำตอบอย่างรวดเร็วเท่านั้น ไม่ทบทวนวิธีคิดให้ดีก่อนจนติดเป็นนิสัยไปแล้ว
เออ....เมื่อวานผมลองใช้ mind map สอนดูครับ เขียนเลข 10 ลงบนกระดาษ พ่อใบ ลูกใบ แล้วให้เขาไปสำรวจสิ่งที่เป็นรูปธรรมในสวน อย่างให้เขาไปนับว่าสิ่งใดบ้างที่นับได้ 10 เขาก็นับใบไม่แต่ละต้น พ่อก็ช่วยทำ พ่อก็เขียน เลข 10 มันอยู่ในนาฬิกาก็มี ก็วาดรูปนาฬิกา ในรองเท้าลูกก็เป็นเบอร์ 10 ดอก รำเพยมี 10 กลีบ พอดีเลย ฝาท่อก็มี 10 รูพอดีเลย
เชื่อไหมครับ ลูกสาวชอบมาก เขาคิดเร็วก็จริง แต่ผมไม่เคยเห็นเขาสนุกเท่านี้เลย
ตอนนี้เลยต้องถอยหลังมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ครับ ต้องมาขอคำแนะนำจากเพื่อนๆใน web แล้วมาวิเคราะห์ว่า จะทำไงต่อไปครับ
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 2
8) อย่าไปเสียใจอะไรเลยครับโหน่ง
ที่แล้วก็แล้วไป
รู้วันนี้ก็ยังทันว่ารู้วันนี้
ควรจะดีใจด้วยว่า เออ..เราโชคดีนะถ้าอีกสิบปีแล้วค่อยรู้คงแย่
อะไรประมาณนี้ มากกว่า
อะไรก็ไม่สำคัญครับ ปัจจุบันสำคัญสุด
ที่แล้วก็แล้วไป
รู้วันนี้ก็ยังทันว่ารู้วันนี้
ควรจะดีใจด้วยว่า เออ..เราโชคดีนะถ้าอีกสิบปีแล้วค่อยรู้คงแย่
อะไรประมาณนี้ มากกว่า
อะไรก็ไม่สำคัญครับ ปัจจุบันสำคัญสุด
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 3
ชอบมากเลยค่ะผมจำได้ พ่อบอกว่า "เราเรียนเลข จะได้รู้จักแก้ปัญหา คำตอบที่ได้ไม่สำคัญ หากวิธีการที่ได้มาสำคัญมากกว่า มิฉะนั้นคำตอบแทบจะไม่มีความหมายเลย"
จำได้ว่า ตั้งแต่เด็กแล้ว ดิฉันชอบเรียนวิชาเลขมากที่สุด สาเหตุมาจาก ชอบอาจารย์ที่สอนเลข จากนั้นค่อยชอบวิธีการคิดและการทำความเข้าใจในโจทย์เลข
ยังจำความได้ เรื่อง แบ่งส้มเป็นกองๆ เอาเข้าเอาออก บวกๆลบๆ
การเรียนเลขด้วยการสร้างมโนภาพประกอบเรื่องราว ทำให้เข้าใจความหมายของวิธีการมากขึ้น
จำไม่ได้แม่น มีนิทานเรื่องนึงของวิชาการตลาดมั้ง(ฟังมาอีกที)
ซีอีโอกะลังจะเกษียนหรือไง แล้วเรียกรองเข้ามาพบทีละคน ว่ากะลังคิดว่าจะเลื่อนตำแหน่งให้ใครดี....ถามว่า 1+1= เท่าไหร่(จำโจทย์ไม่ได้แม่น แต่ง่ายๆประมาณนี้)
รองแต่ละสาขาก็ตอบโจทย์ไปตามที่เรียนมา(คำตอบไม่เท่ากัน)
คนสุดท้ายเรียนการขายมา ตอบว่า.....
ท่านประธานอยากได้เท่าไหร่ละคับ เด๋วผมทำได้
ชอบมากค่ะ"เราเรียนเลข จะได้รู้จักแก้ปัญหา คำตอบที่ได้ไม่สำคัญ หากวิธีการที่ได้มาสำคัญมากกว่า มิฉะนั้นคำตอบแทบจะไม่มีความหมายเลย"
-
- Verified User
- โพสต์: 1435
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 4
จริงครับ ดร.โหน่ง แต่ไม่ใช่เฉพาะวิชาเลขนะครับ ทุกวิชาเลย เน้นการนำมาใช้จริงมากกว่าครับ
อ่านแล้ว ผมก็คงจะสอนเลขลูกด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้ ผมคงต้อง ผลิตลูกออกมาก่อนนะครับ 555
อ่านแล้ว ผมก็คงจะสอนเลขลูกด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้ ผมคงต้อง ผลิตลูกออกมาก่อนนะครับ 555
กฎข้อที่1 อย่ายอมขาดทุน กฎข้อที่2 กลับไปดูกฎข้อที่ 1
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 5
ก่อนผลิตลูกต้องมีแม่พิมพ์ก่อนนะForrestGump เขียน:จริงครับ ดร.โหน่ง แต่ไม่ใช่เฉพาะวิชาเลขนะครับ ทุกวิชาเลย เน้นการนำมาใช้จริงมากกว่าครับ
อ่านแล้ว ผมก็คงจะสอนเลขลูกด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้ ผมคงต้อง ผลิตลูกออกมาก่อนนะครับ 555
หาได้แล้วเหรอ...
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- Qคุง
- Verified User
- โพสต์: 1328
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 6
ดีจังครับพี่โหน่งวิธีสอนลูกของพี่
ผมเองก็เคยคิดเหมือนกันว่าการศึกษาบ้านเราสอนเด็กเก่ง สอนท่องสูตรคูณถึงแม่ 25, ยกกำลังยากๆ, ถอดรูท, ตรีโกน, ล๊อกกาลิธึ่ม, ดิฟเฟอเรนเชียว,.....
สุดท้ายก็ใช้แค่บวก, ลบ, คูณ และ หาร ธรรมดาๆ แถมจิ้มจากเครื่องคิดเลขกันด้วย
แต่ไอ้เหตุและผลพร้อมกับวิธีการคิดและวิเคราะห์ไม่ค่อยสอนกัน
จนเด็กๆเหมือนถูกจับใส่เครื่องถ่ายเอกสารกันออก มาคล้ายๆกันไปหมด
รู้สึกดีครับที่พี่มาเล่าให้ฟัง
ผมรู้สึกสนใจซะแล้ว Mind Map ไม่ทราบว่าจะแนะนำให้หาข้อมูลจากไหนได้บ้างครับ เผื่อจะได้นำไปประยุกต์สอนลูกๆบ้าง
ผมเองก็เคยคิดเหมือนกันว่าการศึกษาบ้านเราสอนเด็กเก่ง สอนท่องสูตรคูณถึงแม่ 25, ยกกำลังยากๆ, ถอดรูท, ตรีโกน, ล๊อกกาลิธึ่ม, ดิฟเฟอเรนเชียว,.....
สุดท้ายก็ใช้แค่บวก, ลบ, คูณ และ หาร ธรรมดาๆ แถมจิ้มจากเครื่องคิดเลขกันด้วย
แต่ไอ้เหตุและผลพร้อมกับวิธีการคิดและวิเคราะห์ไม่ค่อยสอนกัน
จนเด็กๆเหมือนถูกจับใส่เครื่องถ่ายเอกสารกันออก มาคล้ายๆกันไปหมด
รู้สึกดีครับที่พี่มาเล่าให้ฟัง
ผมรู้สึกสนใจซะแล้ว Mind Map ไม่ทราบว่าจะแนะนำให้หาข้อมูลจากไหนได้บ้างครับ เผื่อจะได้นำไปประยุกต์สอนลูกๆบ้าง
- house
- Verified User
- โพสต์: 683
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 7
กระทู้ในตำนานของ รักลูกแฟมิลี่กรุ๊ปครับ หกขวบน่าจะยังทัน
http://www.raklukefamilygroup.com/webbo ... cd3c637dd3
แนวคิดในการสอนเลขกระัทู้นี้สุดยอดที่สุดตั้งแต่ผมเคยอ่าน
http://www.raklukefamilygroup.com/webbo ... cd3c637dd3
แนวคิดในการสอนเลขกระัทู้นี้สุดยอดที่สุดตั้งแต่ผมเคยอ่าน
ทำให้เต็มที่ เพื่อจะไม่เสียใจภายหลัง
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 8
ขอบคุณป๋ามากครับ ฟังป๋าพูดทีไร แล้วอบอุ่นใจทุกครั้ง
เรื่อง mind map คุณคุงลองไปหาหนังสือที่ร้านซีเอ็ดดูนะครับ ในเน็ตก็มีข้อมูลอยู่เยอะ เล่มที่ผมชอบที่สุดชื่อ "แบบฝึกหัดคิดพิชิต mind map" เคยเห็นหนูดีพูดถึงเรื่องนี้เหมือนกันครับ
หลัก ๆ คือ ....การเชื่อมโยงครับ
วันนี้เตรียมให้เขาเข้าใจว่าเลขเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง จะลองใช้เลข 12 แล้วลองให้เขาเชื่องโยงเข้ากับสิ่งอื่นๆ ลูกโยงเข้ากับ12 ราสี โยงเข้ากับเดือน เขาลองใช้สายวัด วัดส่วนต่างๆ ของร่างกาย จากข้อแขนถึงรกแร้ยาว 12 นิ้วพอดี
ผมสังเกตุว่า.....ยิ่งเขาเชื่อมโยงได้มากและกว้างขวาง ก็ยิ่งมีความเข้าใจในสิ่งนั้นๆ มากขึ้น ความเข้าใจต่างกับความจำตรงที่ความจำเป้นเพีงข้อมูลจุดเดียว ไม่มีการเชื่อมโยงไปหาข้อมูลอื่นๆ ตรงนี้ได้เรียนรู้เพิ่มจากลูกไปโดยไม่รู้ตัว
อีกอย่าง........เขาสามารถเชื่อมโยงสิ่งหนึ่งเข้ากับสิ่งต่างๆ ไม่มีที่สิ้นสุด ความเข้าใจก็น่าจะไม่มีที่สิ้นสุดด้วย
ที่จริง.....ยิ่งเชื่อมโยงมากเท่าใด เราก็ยิ่งเข้าใจสิ่งนั้นมากขึ้นเท่านั้น เราสามารถนำความเข้าใจนี้ไปใช้ประโยชน์ได้มากมายมากกว่าการจำอย่างเดียว
ลองคิดสนุก ๆ
เลข 12 เกี่ยวกับชีวิตประจำวันเพื่อนๆ วีไออย่างไรบ้างครับ :roll:
เรื่อง mind map คุณคุงลองไปหาหนังสือที่ร้านซีเอ็ดดูนะครับ ในเน็ตก็มีข้อมูลอยู่เยอะ เล่มที่ผมชอบที่สุดชื่อ "แบบฝึกหัดคิดพิชิต mind map" เคยเห็นหนูดีพูดถึงเรื่องนี้เหมือนกันครับ
หลัก ๆ คือ ....การเชื่อมโยงครับ
วันนี้เตรียมให้เขาเข้าใจว่าเลขเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง จะลองใช้เลข 12 แล้วลองให้เขาเชื่องโยงเข้ากับสิ่งอื่นๆ ลูกโยงเข้ากับ12 ราสี โยงเข้ากับเดือน เขาลองใช้สายวัด วัดส่วนต่างๆ ของร่างกาย จากข้อแขนถึงรกแร้ยาว 12 นิ้วพอดี
ผมสังเกตุว่า.....ยิ่งเขาเชื่อมโยงได้มากและกว้างขวาง ก็ยิ่งมีความเข้าใจในสิ่งนั้นๆ มากขึ้น ความเข้าใจต่างกับความจำตรงที่ความจำเป้นเพีงข้อมูลจุดเดียว ไม่มีการเชื่อมโยงไปหาข้อมูลอื่นๆ ตรงนี้ได้เรียนรู้เพิ่มจากลูกไปโดยไม่รู้ตัว
อีกอย่าง........เขาสามารถเชื่อมโยงสิ่งหนึ่งเข้ากับสิ่งต่างๆ ไม่มีที่สิ้นสุด ความเข้าใจก็น่าจะไม่มีที่สิ้นสุดด้วย
ที่จริง.....ยิ่งเชื่อมโยงมากเท่าใด เราก็ยิ่งเข้าใจสิ่งนั้นมากขึ้นเท่านั้น เราสามารถนำความเข้าใจนี้ไปใช้ประโยชน์ได้มากมายมากกว่าการจำอย่างเดียว
ลองคิดสนุก ๆ
เลข 12 เกี่ยวกับชีวิตประจำวันเพื่อนๆ วีไออย่างไรบ้างครับ :roll:
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 9
อย่างหนังสือเรื่อง Jerome becomes a genius เล่มนี้ก็น่าสนุกค่ะ
ดิฉันอ่านแล้ว ก็ไม่ถึงกะเห็นด้วยไปทั้งหมด แต่ที่ชอบคือ มีเทคนิคที่น่าสนใจ เกี่ยวกะการคิด และการจำ
เทคนิคการเชื่อมโยงก็มี อย่างพี่โหน่งบอก เห็นเลขนี้ แล้วคิดถึงอะไร
แต่ที่ชอบที่สุด และนำไปใช้ จากหนังสือเล่มนี้คือ วิธีการเขียน การจดบันทึก
เราไม่มีความจำเป็นเลยที่จะต้อง เขียนเป็นแผงพรืดๆติดกันทั้งหน้า จากซ้ายไปขวา เสมอกัน เราสามารถจัดเป็นคอลัมภ์ใหม่ได้ อันไหนสำคัญ อันไหนเป็นสรุป อันไหนเนื้อหา ไหนรายละเอียด เหมือนเราจัดรูปหน้าหนังสือพิมพ์ หรือวารสารอะไรซักอย่างของเราเอง
ปล. สำหรับเลข 12 ถ้านึกถึงว่าเกี่ยวกันยังไงกะชีวิตการลงทุน ..ดิฉันจะนึกถึงพอร์ทการลงทุน
คือ จะไม่มีหุ้นเกิน 12 ตัว(ปกติไม่ถึงอ่ะค่ะ มากสุด 10-11) และต้องทบทวนพอร์ทในเวลาไม่เกินกว่า 12 เดือน
เลข 12 ก็เลยนึกถึงพอร์ทการลงทุนค่ะ
ดิฉันอ่านแล้ว ก็ไม่ถึงกะเห็นด้วยไปทั้งหมด แต่ที่ชอบคือ มีเทคนิคที่น่าสนใจ เกี่ยวกะการคิด และการจำ
เทคนิคการเชื่อมโยงก็มี อย่างพี่โหน่งบอก เห็นเลขนี้ แล้วคิดถึงอะไร
แต่ที่ชอบที่สุด และนำไปใช้ จากหนังสือเล่มนี้คือ วิธีการเขียน การจดบันทึก
เราไม่มีความจำเป็นเลยที่จะต้อง เขียนเป็นแผงพรืดๆติดกันทั้งหน้า จากซ้ายไปขวา เสมอกัน เราสามารถจัดเป็นคอลัมภ์ใหม่ได้ อันไหนสำคัญ อันไหนเป็นสรุป อันไหนเนื้อหา ไหนรายละเอียด เหมือนเราจัดรูปหน้าหนังสือพิมพ์ หรือวารสารอะไรซักอย่างของเราเอง
ปล. สำหรับเลข 12 ถ้านึกถึงว่าเกี่ยวกันยังไงกะชีวิตการลงทุน ..ดิฉันจะนึกถึงพอร์ทการลงทุน
คือ จะไม่มีหุ้นเกิน 12 ตัว(ปกติไม่ถึงอ่ะค่ะ มากสุด 10-11) และต้องทบทวนพอร์ทในเวลาไม่เกินกว่า 12 เดือน
เลข 12 ก็เลยนึกถึงพอร์ทการลงทุนค่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 1817
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 10
สุดยอดจริงๆด้วยครับhouse เขียน:กระทู้ในตำนานของ รักลูกแฟมิลี่กรุ๊ปครับ หกขวบน่าจะยังทัน
http://www.raklukefamilygroup.com/webbo ... cd3c637dd3
แนวคิดในการสอนเลขกระัทู้นี้สุดยอดที่สุดตั้งแต่ผมเคยอ่าน
ตอนนี้ผมกลัวแต่ว่าพ่อแม่จะแข่งกันสอนให้ลูกตัวเองเก่งจนลืมสอนให้ลูกเป็นคนดีไปซะงั้น ^^"
แข่งขันกันมากๆแต่ถ้าไม่มีธรรมมะในใจควบคู่ไปด้วยก็น่ากลัวเหมือนกันนะครับ :?
แมงเม่าบินเข้ากลางใจ
-
- Verified User
- โพสต์: 987
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 11
อ่านกระทู้ของคุณโหน่ง แรกๆก็รู้สึกผิวเผิน
เหมือนเป็นปัญหาของเด็กเล็กๆทั่วไปที่ยังไม่พร้อม
แต่ถ้าใช้เวลาตรองชั่วครู่ จะรู้เลยนี่คือจุดเริ่มของปัญหาเด็กไทยขณะนี้
คือทุกอย่างได้มาง่ายเกินไป จนไม่รู้ว่าจะทำไปอะไรยากๆทำไม
อยู่กับตัวเลขเก่าๆ ที่คุ้นเคย ก็เหมือนมีเกราะป้องกันอยู่แล้ว
ไม่เสี่ยงดีกว่า
และความรู้สึก "ปลอดภัย" นี่แหละที่จะติดตัวไปจนถึงระดับผู้ใหญ่
เอาทุกอย่างง่ายเข้าไว้ เลือกเรียนวิชาที่ง่าย จบไวๆ
เลือกทำงานที่ง่ายๆ เงินเยอะๆ( เอ..ไม่รู้จะมีเหลือหรือเปล่าถึงตอนนั้น)
หรือหากจะต้องเรียนหนัก ทำรายงานหนักสมองที่ต้องใช้การขบคิด
ก็หาทางคัดลอกคำตอบจากอินเตอร์เน็ท
ซึ่งมีบล็อก เวปไซค์เฉลยคำตอบเยอะแยะ อีกทั้งรับจ้างทำก็มี
นี่แหละคือผลิตผลของความ ง่ายเข้าไว้ ที่กำลังเกิดขึ้นและเป็นไป
ไม่โทษเด็กหรอกนะ เพราะเด็กก็คือเด็ก ใครปั้นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น
อยู่ที่ผู้ใหญ่ต่างหากที่จะคอยชี้ทางให้
เด็กอาจจะทำงานได้ไม่สมบูรณ์ แต่เต็มความพยายามแล้ว
ผู้ใหญ่ก็น่าจะให้กำลังใจต่อ เพราะดีกว่า ไปลอกคนอื่นมา
แล้วค่อยชี้แนะว่า ทำให้ดีกว่านี้อีกได้นิด ยากกว่านี้อีกหน่อยได้มั้ย
เด็กๆก็จะเริ่มตระหนักเองแหละว่า ความยากอีกนิด
แม้จะใช้เวลามากกว่าคนอื่น แต่ผลออกมาคุ้มค่า
เพราะระหว่างทางมีการเรียนรู้ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย
เหมือนกับหนทางไปสู่ยอดเขา
แทนที่จะรีบเดินดุ่มๆ ตั้งหน้าตั้งตาไปทางลัด แป๊บเดียวก็ถึง
จะหรรษากว่ามั้ย ถ้าได้แวะเวียนไปดูลำธารตรงนั้นนิด หนองน้ำตรงนี้หน่อย
แมลงปีกแปลกตา เออ..นกตัวนี้สีสวยจัง
แล้วเราก็ถึงยอดเขาเหมือนกัน
พูดถึงการเชื่อมโยง
อันนี้คือศาสตร์และศิลปะอย่างหนึ่งของการดำรงอยู่เลยก็ได้
บ่อเกิดของนวัตกรรมทั้งหลายมาจากการเชื่อมโยงทั้งนั้น
จากศาสตร์หนึ่งสู่อีกศาสตร์หนึ่ง
เช่น เรือบนน้ำ เชื่อมกับนกบนฟ้า ก็จินตนาการเป็น เรือบิน เป็นต้น (คิดให้เวอร์ๆไปเลย จะได้เห็นภาพ)
เพราะศาสตร์ของการเชื่อมโยงนี่แหละที่ทำให้มนุษย์หูตากว้างไกล
ไม่จมจ่อมอยู่กับโลกของตัวเองจนมืดมิด
สมัยเด็กๆ ไม่ชอบท่องสูตรคูณ เพราะฟังดูแล้วก็เหมือนกันหมด
จนมาฟัง เพลงสูตรคูณของ อาจารย์ สดใส พันธุมโกมล
ที่เอาเพลง เปียนโนเคาะมาผสม ร้องสนุกสนาน อย่าง
" อ๊อบ อ๊อบ อ๊อบ เสียงกบมันร้องเพราะจริง
มาท่องแม่หกกันมั้ย เสียงกบดังมันร้องอ๊อบ อ๊อบ
หก หนึ่ง หก..อ๊อบ อ๊อบ หก สอง สิบสอง อ๊อบ อ๊อบ......"
เออ..ดนตรีก็เอามาใส่ตัวเลขได้ ฟังจำง่ายดี
หรือศาสตร์ของการเชื่อมโยงมุมองศาทางเรขาคณิต
กับการเต้นบัลเล่ต์ สเก็ตน้ำแข็ง ก็เป็นความสนุกเพลิดเพลินที่ท้าทายกว่า
แค่การเต้นธรรมดาหรือการคำนวณองศาในกระดาษ
เช่น การกระโดดขึ้นสปริงท่ากลางอากาศแล้วตกลงมาในมุมต่างๆ
จะทำให้ความเร็วของจังหวะเท้าเปลี่ยนไปด้วย
เคยดูหนังเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับการใช้ คอมพิวเตอร์กราฟฟิค
คำนวณมุมองศาของบรรดานักสเก็ตน้ำแข็งขณะเหวี่ยงตัวลงกระแทกพื้น
ว่าจังหวะไหนจะได้ท่าที่สวยที่สุด เป็นต้น
หรือเอาง่ายๆ ถ้าลูกคุณโหน่งเรียนบัลเลต์ ผมควรจะผูกหางม้าไว้
เพราะจังหวะการหมุนของนักบัลเล่ต์ทุกคนจะเหวี่ยงไปตามโคนผมที่ผูก
เพื่อให้เกิดภาวะสมดุล และมองไปที่จุดเบื้องหน้าจุดเดียว ไม่ให้เวียนหัว
เช่นนี้ เราจึงห็นนักบัลเล่ต์ทั้งหลายรวบผมหางม้าทั้งสิ้น
นี่คือศาสตร์ของการเคลื่อนไหวสรีระกับการใช้องศาทางคณิตศาสตร์มาร่ายรำ
การเชื่อมโยงนี่แหละ ที่จะทำให้เกิดการค้นหา ค้นคว้า และค้นพบสิ่งใหม่ๆ
ไหนๆพูดถึงตัวเลขมหัศจรรย์ 12 แล้ว
ก็ขอยกตัวเลขมหัศจรรย์ 7 บ้าง
ไม่ว่าจะเป็น 7 วันพระเจ้าสร้างโลก
7 ปีชีวิตสมรสจะอยู่หรือจะไป ( 7 year itch)
7 ประจัญบาน
สวรรค์ชั้น 7 (ใช่หรือเปล่า)
พระสุธน โนราห์ กินรีทั้ง 7
ส่วนเลข 12 นึกได้อีกข้อคือ นางสิบสอง ในตำนานจักรๆวงศ์ๆของไทยครับ :lol:
เหมือนเป็นปัญหาของเด็กเล็กๆทั่วไปที่ยังไม่พร้อม
แต่ถ้าใช้เวลาตรองชั่วครู่ จะรู้เลยนี่คือจุดเริ่มของปัญหาเด็กไทยขณะนี้
คือทุกอย่างได้มาง่ายเกินไป จนไม่รู้ว่าจะทำไปอะไรยากๆทำไม
อยู่กับตัวเลขเก่าๆ ที่คุ้นเคย ก็เหมือนมีเกราะป้องกันอยู่แล้ว
ไม่เสี่ยงดีกว่า
และความรู้สึก "ปลอดภัย" นี่แหละที่จะติดตัวไปจนถึงระดับผู้ใหญ่
เอาทุกอย่างง่ายเข้าไว้ เลือกเรียนวิชาที่ง่าย จบไวๆ
เลือกทำงานที่ง่ายๆ เงินเยอะๆ( เอ..ไม่รู้จะมีเหลือหรือเปล่าถึงตอนนั้น)
หรือหากจะต้องเรียนหนัก ทำรายงานหนักสมองที่ต้องใช้การขบคิด
ก็หาทางคัดลอกคำตอบจากอินเตอร์เน็ท
ซึ่งมีบล็อก เวปไซค์เฉลยคำตอบเยอะแยะ อีกทั้งรับจ้างทำก็มี
นี่แหละคือผลิตผลของความ ง่ายเข้าไว้ ที่กำลังเกิดขึ้นและเป็นไป
ไม่โทษเด็กหรอกนะ เพราะเด็กก็คือเด็ก ใครปั้นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น
อยู่ที่ผู้ใหญ่ต่างหากที่จะคอยชี้ทางให้
เด็กอาจจะทำงานได้ไม่สมบูรณ์ แต่เต็มความพยายามแล้ว
ผู้ใหญ่ก็น่าจะให้กำลังใจต่อ เพราะดีกว่า ไปลอกคนอื่นมา
แล้วค่อยชี้แนะว่า ทำให้ดีกว่านี้อีกได้นิด ยากกว่านี้อีกหน่อยได้มั้ย
เด็กๆก็จะเริ่มตระหนักเองแหละว่า ความยากอีกนิด
แม้จะใช้เวลามากกว่าคนอื่น แต่ผลออกมาคุ้มค่า
เพราะระหว่างทางมีการเรียนรู้ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย
เหมือนกับหนทางไปสู่ยอดเขา
แทนที่จะรีบเดินดุ่มๆ ตั้งหน้าตั้งตาไปทางลัด แป๊บเดียวก็ถึง
จะหรรษากว่ามั้ย ถ้าได้แวะเวียนไปดูลำธารตรงนั้นนิด หนองน้ำตรงนี้หน่อย
แมลงปีกแปลกตา เออ..นกตัวนี้สีสวยจัง
แล้วเราก็ถึงยอดเขาเหมือนกัน
พูดถึงการเชื่อมโยง
อันนี้คือศาสตร์และศิลปะอย่างหนึ่งของการดำรงอยู่เลยก็ได้
บ่อเกิดของนวัตกรรมทั้งหลายมาจากการเชื่อมโยงทั้งนั้น
จากศาสตร์หนึ่งสู่อีกศาสตร์หนึ่ง
เช่น เรือบนน้ำ เชื่อมกับนกบนฟ้า ก็จินตนาการเป็น เรือบิน เป็นต้น (คิดให้เวอร์ๆไปเลย จะได้เห็นภาพ)
เพราะศาสตร์ของการเชื่อมโยงนี่แหละที่ทำให้มนุษย์หูตากว้างไกล
ไม่จมจ่อมอยู่กับโลกของตัวเองจนมืดมิด
สมัยเด็กๆ ไม่ชอบท่องสูตรคูณ เพราะฟังดูแล้วก็เหมือนกันหมด
จนมาฟัง เพลงสูตรคูณของ อาจารย์ สดใส พันธุมโกมล
ที่เอาเพลง เปียนโนเคาะมาผสม ร้องสนุกสนาน อย่าง
" อ๊อบ อ๊อบ อ๊อบ เสียงกบมันร้องเพราะจริง
มาท่องแม่หกกันมั้ย เสียงกบดังมันร้องอ๊อบ อ๊อบ
หก หนึ่ง หก..อ๊อบ อ๊อบ หก สอง สิบสอง อ๊อบ อ๊อบ......"
เออ..ดนตรีก็เอามาใส่ตัวเลขได้ ฟังจำง่ายดี
หรือศาสตร์ของการเชื่อมโยงมุมองศาทางเรขาคณิต
กับการเต้นบัลเล่ต์ สเก็ตน้ำแข็ง ก็เป็นความสนุกเพลิดเพลินที่ท้าทายกว่า
แค่การเต้นธรรมดาหรือการคำนวณองศาในกระดาษ
เช่น การกระโดดขึ้นสปริงท่ากลางอากาศแล้วตกลงมาในมุมต่างๆ
จะทำให้ความเร็วของจังหวะเท้าเปลี่ยนไปด้วย
เคยดูหนังเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับการใช้ คอมพิวเตอร์กราฟฟิค
คำนวณมุมองศาของบรรดานักสเก็ตน้ำแข็งขณะเหวี่ยงตัวลงกระแทกพื้น
ว่าจังหวะไหนจะได้ท่าที่สวยที่สุด เป็นต้น
หรือเอาง่ายๆ ถ้าลูกคุณโหน่งเรียนบัลเลต์ ผมควรจะผูกหางม้าไว้
เพราะจังหวะการหมุนของนักบัลเล่ต์ทุกคนจะเหวี่ยงไปตามโคนผมที่ผูก
เพื่อให้เกิดภาวะสมดุล และมองไปที่จุดเบื้องหน้าจุดเดียว ไม่ให้เวียนหัว
เช่นนี้ เราจึงห็นนักบัลเล่ต์ทั้งหลายรวบผมหางม้าทั้งสิ้น
นี่คือศาสตร์ของการเคลื่อนไหวสรีระกับการใช้องศาทางคณิตศาสตร์มาร่ายรำ
การเชื่อมโยงนี่แหละ ที่จะทำให้เกิดการค้นหา ค้นคว้า และค้นพบสิ่งใหม่ๆ
ไหนๆพูดถึงตัวเลขมหัศจรรย์ 12 แล้ว
ก็ขอยกตัวเลขมหัศจรรย์ 7 บ้าง
ไม่ว่าจะเป็น 7 วันพระเจ้าสร้างโลก
7 ปีชีวิตสมรสจะอยู่หรือจะไป ( 7 year itch)
7 ประจัญบาน
สวรรค์ชั้น 7 (ใช่หรือเปล่า)
พระสุธน โนราห์ กินรีทั้ง 7
ส่วนเลข 12 นึกได้อีกข้อคือ นางสิบสอง ในตำนานจักรๆวงศ์ๆของไทยครับ :lol:
ชีวิตเกิดและตายเพียงอย่างละหน ส่วนที่เหลือตรงกลางต้องค้นพบเอง
-
- Verified User
- โพสต์: 1289
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 13
คุณโหน่ง ลองgoogle เอาตัวเลข Fibonacci ไว้ให้ลูกเล่นดูครับ ได้ความมันส์อีกเยอะ
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 14
[quote=".^O-O^"]
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 15
[quote="por_jai"]8) อย่าไปเสียใจอะไรเลยครับโหน่ง
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
-
- Verified User
- โพสต์: 1372
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 17
เมื่อวานได้อ่านกระทู้ของพี่โหน่ง เลยคิดถึงลูกขึ้นมา
ลูกสาวผมอายุ 6 ขวบครึ่งคงไล่เลี่ยกับลูกพี่โหน่ง
ปกติผมจะไม่ค่อยเข้มงวดกับลูกมากนัก โดยเฉพาะเรื่องเรียนถ้าเค้าชอบเรียนอะไรก็จะสนับสนุน
ถ้าไม่ชอบแต่ต้องเรียนก็ให้กำลังใจ โดยไม่ค่อยตั้งเงื่อนไขอะไรมากนัก
ผมลองเอาไปลองกับลูกสาวผมบ้าง
ถามเค้าว่า ถ้ามีขนม 12 ชิ้น มีคน 6 คนจะแบ่งได้คนละเท่าไร
ตอนแรกลูกก็งงๆ และก็อ้ำๆ อึ้งๆอยู่พักนึง
ผมเลยถามใหม่โดยแนะให้หาของมาเป็นขนม
เค้าสมมุติเอาดินสอสีเป็นขนมแล้วกองไว้
เค้าจะคิดโดยสมมุติว่าเป็นคนเดินมาทีละคนแล้วหยิบขนมทีละชิ้นวนจนครบ
แล้วทำอีกรอบ แล้วหันมาตอบว่าคนละ 2 ชิ้น
พอลองถามใหม่ว่าแล้วถ้ามีขนม 6 ชิ้น แล้วมีคน 12 คนละ
เค้าตอบทันทีว่าก็เอาไปคนละชิ้น 6 คนแล้วแบ่งครึ่งให้อีก 6 คนที่เหลือ
ขอบคุณมากครับ พี่โหน่ง ทำให้ได้คิดเรื่องวิธีสอนลูก
ขอบคุณพี่ house ที่แนะนำกระทู้ดีๆ
ลูกสาวผมอายุ 6 ขวบครึ่งคงไล่เลี่ยกับลูกพี่โหน่ง
ปกติผมจะไม่ค่อยเข้มงวดกับลูกมากนัก โดยเฉพาะเรื่องเรียนถ้าเค้าชอบเรียนอะไรก็จะสนับสนุน
ถ้าไม่ชอบแต่ต้องเรียนก็ให้กำลังใจ โดยไม่ค่อยตั้งเงื่อนไขอะไรมากนัก
ผมลองเอาไปลองกับลูกสาวผมบ้าง
ถามเค้าว่า ถ้ามีขนม 12 ชิ้น มีคน 6 คนจะแบ่งได้คนละเท่าไร
ตอนแรกลูกก็งงๆ และก็อ้ำๆ อึ้งๆอยู่พักนึง
ผมเลยถามใหม่โดยแนะให้หาของมาเป็นขนม
เค้าสมมุติเอาดินสอสีเป็นขนมแล้วกองไว้
เค้าจะคิดโดยสมมุติว่าเป็นคนเดินมาทีละคนแล้วหยิบขนมทีละชิ้นวนจนครบ
แล้วทำอีกรอบ แล้วหันมาตอบว่าคนละ 2 ชิ้น
พอลองถามใหม่ว่าแล้วถ้ามีขนม 6 ชิ้น แล้วมีคน 12 คนละ
เค้าตอบทันทีว่าก็เอาไปคนละชิ้น 6 คนแล้วแบ่งครึ่งให้อีก 6 คนที่เหลือ
ขอบคุณมากครับ พี่โหน่ง ทำให้ได้คิดเรื่องวิธีสอนลูก
ขอบคุณพี่ house ที่แนะนำกระทู้ดีๆ
สติมา ปัญญาเกิด
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 18
จริง ๆ แล้ว พี่สัทยา คิดเองได้มากกว่านะครับ ผมไม่ได้ช่วยอะไรเลยครับ :oops:
คิดถึงคำพูดฝรั่งนานมาแล้วที่บอกว่า
"การสอนลูก ไม่ใช่การเติมน้ำให้เต็มกาละมัง แต่เป็นการจุดประกายไฟซะมากกว่า" อะไรทำนองนี้ครับ
เรื่องเว็บรักลูก ผมอ่านมานานแล้วครับ ไปหาซื้อหนังสือ 64 ตารางไม่เจอเหมือนกัน วันนี้จะลองไปหาที่ร้าน B2S ดูครับ
เมื่อวานผมลองตั้งคำถามเป็นภาษาคณิตศาสตร์ว่า
4 + 3 = 7
แล้วให้ลูกลองแปลเป็นโจทย์ภาษาไทย ลูกก็ไม่เข้าใจ ผมเลยให้เล่าเป็นนิทาน คราวนี้เขาลองเล่าว่า มีเต่าสี่ตัว เจอกระต่าย 3 ตัว แล้ว ก็เดินกลับบ้านพร้อมกันทั้งหมด 7 ตัว
อ๊ะ.....ผมก็เลยลองถามต่อว่า มีกี่วิธีบ้างที่จะทำให้พ่อดูว่า
4 + 3 = 7
เขาบอกว่า หนูเล่าไปแล้ว ผมก็บอิกว่า มันมีเป้นร้อยๆ วิธีเลยที่จะบอกว่า สี่บวกสามเท่ากับเจ็ด
วีธีที่ 1
ผมชี้ไปที่นาฬิกา ชี้ให้ดูเลข 4 นับไปอีก 3 ช่องก็ตกเลข 7 พอดี
วิธีที่ 2
ผมใช้ชอล์ค วาด ตารางสี่เหลี่มลงบนพื้นแบ่งเป็น 8 ช่องตามแนวตั้ง แล้ว เขียน 1 2 3 4 5 6 7 8 ลงในช่องเหล่านี้น จากนั้น ผมกะโดดขาเดียวไปก่อน 4 ครั้ง ไปตกที่ 4 ผมก็บอกว่าบวกอีก 3 ก็กระโดดอีก 3 ครั้ง ก็ไปตกเลข 7 พอดี
วิธีที่ 3
ใช้ขวดนม 3 ขวด ขวด 1 ว่างๆ ขวด 2 มีน้ำ 4 cc ขวด 3 น้ำ 3 cc
เทขวด 2 ลงขวด 1 จากนั้น ให้เขาวัดระดับน้ำในขวด 1
"อยู่ที่ตำแหน่งเลข 4 พอดีพ่อ" ลูกสาวเริ่มสนุกแล้ว
ผมเทขวด 3 ลงในขวด 1 ตามลงไป คราวนี้น้ำอยู่ที่ไหน
"เลข 7 พอดีเลย"
"ยูเรกา"
วิธีที่ 4 ใช้ ถ้วยใส่น้ำ 4 ถ้วย เทลงไปในหม้อใบเล็ก จากนั้น ใช้ถ้วยน้ำอีก 3 ถ้วย เทลงไปในหม้อใบเดิม ผมหันไปถามลูกว่าในนี้มีน้ำ 7 ถ้วย เพราะพ่อพึ่งเทลงไป หนูก็เห็น ถามว่าเลข 7 ไปไหนลูก ทำไมมันไม่เท่ากับ 7 มันเท่ากับ 1 เอง คือ เหลือแค่หม้อใบเดียวที่ใส่น้ำอยู่
ผมเขียนลงบนพื้นที่แท้นอกจาก 4 +3 =7 แล้ว
4 + 3 = 1 ก็ยังได้
ลูกสาวเริ่มตื่นเต้น แล้วบอกว่า ให้หนูลองเอาถ้วยตักน้ำกลับออกจากหม้อซิพ่อซิ ผมส่งถ้วยให้
"1 2 3 4 5 6" เขาตักจนถึงแก้วที่ 7 น้ำก็หมดหม้อพอดี คราวนี้เขาหันมาบอกพ่อ
" 7 ยังอยู่พ่อ แต่มองไม่เห้น" แล้วก็ยิ้ม
วิธีที่ 5 ผมเขียนว่า 4+3 - 11 แล้วถามว่าลุกสาวรู้จักร้านนี้ไหม จริงๆ มันไม่เกี่ยวข้องกับเลข 7 เหมือนกันนะลูก ลูกสาวมองสักพักคราวนี้หัวเราะออกมาดังไม่หยุด
"ร้าน 7-11 พ่อ"
ถึงตอนน้ ผมเลยพาเขาไปที่ 7-11 เพือให้ดูป้ายหน้าร้าน ซึ่งเขาใช้เลข 7 แล้วใช้ภาษาอังกฤษว่า
"ทำไม n ถึงเป็นตัวเล็กพ่อ"
เออ...นั่นซิครับ ผมไม่เคยนึกมาก่อนเลย
ผมตอบว่า พ่อก็ไม่รู้เหมือนกัน เออ...จริงแฮะ ....ขนาดชื่อร้านยังเขียนไม่ถูกเลย
พรุ่งนี้ ขายเลยดีกว่า....555555
" พ่อก็โง่เป็นเหมือนกันลูก" :lol:
ความเป็นเด็กมักช่างสงสัยมากกว่าผู้ใหญ่เสมอ บางทีผมอาจใช้จุดแข็งของเด็ก ๆ ข้อนี้ มาช่วยประโยชน์ทำอะไรสักอย่าง มันต้องมีซิน้า :roll:
" ลูกรอเดี๋ยวนะ"
ผมหันไปที่กระเป๋า แล้วก็หยิบงบการเงิน Se-Ed ให้ลูก
"ช่วยดูให้พ่อทีว่า ลูกเห็นอะไรผิดปกติไหม?"
...................................................................
คิดถึงคำพูดฝรั่งนานมาแล้วที่บอกว่า
"การสอนลูก ไม่ใช่การเติมน้ำให้เต็มกาละมัง แต่เป็นการจุดประกายไฟซะมากกว่า" อะไรทำนองนี้ครับ
เรื่องเว็บรักลูก ผมอ่านมานานแล้วครับ ไปหาซื้อหนังสือ 64 ตารางไม่เจอเหมือนกัน วันนี้จะลองไปหาที่ร้าน B2S ดูครับ
เมื่อวานผมลองตั้งคำถามเป็นภาษาคณิตศาสตร์ว่า
4 + 3 = 7
แล้วให้ลูกลองแปลเป็นโจทย์ภาษาไทย ลูกก็ไม่เข้าใจ ผมเลยให้เล่าเป็นนิทาน คราวนี้เขาลองเล่าว่า มีเต่าสี่ตัว เจอกระต่าย 3 ตัว แล้ว ก็เดินกลับบ้านพร้อมกันทั้งหมด 7 ตัว
อ๊ะ.....ผมก็เลยลองถามต่อว่า มีกี่วิธีบ้างที่จะทำให้พ่อดูว่า
4 + 3 = 7
เขาบอกว่า หนูเล่าไปแล้ว ผมก็บอิกว่า มันมีเป้นร้อยๆ วิธีเลยที่จะบอกว่า สี่บวกสามเท่ากับเจ็ด
วีธีที่ 1
ผมชี้ไปที่นาฬิกา ชี้ให้ดูเลข 4 นับไปอีก 3 ช่องก็ตกเลข 7 พอดี
วิธีที่ 2
ผมใช้ชอล์ค วาด ตารางสี่เหลี่มลงบนพื้นแบ่งเป็น 8 ช่องตามแนวตั้ง แล้ว เขียน 1 2 3 4 5 6 7 8 ลงในช่องเหล่านี้น จากนั้น ผมกะโดดขาเดียวไปก่อน 4 ครั้ง ไปตกที่ 4 ผมก็บอกว่าบวกอีก 3 ก็กระโดดอีก 3 ครั้ง ก็ไปตกเลข 7 พอดี
วิธีที่ 3
ใช้ขวดนม 3 ขวด ขวด 1 ว่างๆ ขวด 2 มีน้ำ 4 cc ขวด 3 น้ำ 3 cc
เทขวด 2 ลงขวด 1 จากนั้น ให้เขาวัดระดับน้ำในขวด 1
"อยู่ที่ตำแหน่งเลข 4 พอดีพ่อ" ลูกสาวเริ่มสนุกแล้ว
ผมเทขวด 3 ลงในขวด 1 ตามลงไป คราวนี้น้ำอยู่ที่ไหน
"เลข 7 พอดีเลย"
"ยูเรกา"
วิธีที่ 4 ใช้ ถ้วยใส่น้ำ 4 ถ้วย เทลงไปในหม้อใบเล็ก จากนั้น ใช้ถ้วยน้ำอีก 3 ถ้วย เทลงไปในหม้อใบเดิม ผมหันไปถามลูกว่าในนี้มีน้ำ 7 ถ้วย เพราะพ่อพึ่งเทลงไป หนูก็เห็น ถามว่าเลข 7 ไปไหนลูก ทำไมมันไม่เท่ากับ 7 มันเท่ากับ 1 เอง คือ เหลือแค่หม้อใบเดียวที่ใส่น้ำอยู่
ผมเขียนลงบนพื้นที่แท้นอกจาก 4 +3 =7 แล้ว
4 + 3 = 1 ก็ยังได้
ลูกสาวเริ่มตื่นเต้น แล้วบอกว่า ให้หนูลองเอาถ้วยตักน้ำกลับออกจากหม้อซิพ่อซิ ผมส่งถ้วยให้
"1 2 3 4 5 6" เขาตักจนถึงแก้วที่ 7 น้ำก็หมดหม้อพอดี คราวนี้เขาหันมาบอกพ่อ
" 7 ยังอยู่พ่อ แต่มองไม่เห้น" แล้วก็ยิ้ม
วิธีที่ 5 ผมเขียนว่า 4+3 - 11 แล้วถามว่าลุกสาวรู้จักร้านนี้ไหม จริงๆ มันไม่เกี่ยวข้องกับเลข 7 เหมือนกันนะลูก ลูกสาวมองสักพักคราวนี้หัวเราะออกมาดังไม่หยุด
"ร้าน 7-11 พ่อ"
ถึงตอนน้ ผมเลยพาเขาไปที่ 7-11 เพือให้ดูป้ายหน้าร้าน ซึ่งเขาใช้เลข 7 แล้วใช้ภาษาอังกฤษว่า
"ทำไม n ถึงเป็นตัวเล็กพ่อ"
เออ...นั่นซิครับ ผมไม่เคยนึกมาก่อนเลย
ผมตอบว่า พ่อก็ไม่รู้เหมือนกัน เออ...จริงแฮะ ....ขนาดชื่อร้านยังเขียนไม่ถูกเลย
พรุ่งนี้ ขายเลยดีกว่า....555555
" พ่อก็โง่เป็นเหมือนกันลูก" :lol:
ความเป็นเด็กมักช่างสงสัยมากกว่าผู้ใหญ่เสมอ บางทีผมอาจใช้จุดแข็งของเด็ก ๆ ข้อนี้ มาช่วยประโยชน์ทำอะไรสักอย่าง มันต้องมีซิน้า :roll:
" ลูกรอเดี๋ยวนะ"
ผมหันไปที่กระเป๋า แล้วก็หยิบงบการเงิน Se-Ed ให้ลูก
"ช่วยดูให้พ่อทีว่า ลูกเห็นอะไรผิดปกติไหม?"
...................................................................
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 19
พี่โหน่งสอนลูกเก่งมากๆเลยนะนี่ .....
อยากเอากระทู้นี่เข้าคลังกระทู้คุณค่าจัง .. จะเก็บไว้ตอนตัวเองมีลูก ( จะอีกกี่ปีหว่าเนี่ย)
ชอบข้อ 4 มาก... ชอบข้อ 5 รองลงมา ลูกสาวพี่นี่ไหวพริบดีเหมือนกันนะเนี่ย
อยากเอากระทู้นี่เข้าคลังกระทู้คุณค่าจัง .. จะเก็บไว้ตอนตัวเองมีลูก ( จะอีกกี่ปีหว่าเนี่ย)
ชอบข้อ 4 มาก... ชอบข้อ 5 รองลงมา ลูกสาวพี่นี่ไหวพริบดีเหมือนกันนะเนี่ย
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 20
แต่ไอ้ข้อ 4 ผมกลัวอยู่อย่างนึงอ่ะพี่ ..
กลัวว่าไปโรงเรียนแล้วอาจารย์ถามว่า 5+4 ได้เท่าไหร่ .. แล้วน้องตอบว่า 1 อธิบายให้อาจารย์ฟังเรื่องตักน้ำ แล้วอาจารย์หัวโบราณจะว่าว่าเด็กก้าวร้าว สอนไม่รู้จักจำ ... ผมว่าน่าห่วงจริงๆนะพี่โหน่ง
เคยอ่านว่าโรงเรียนช่างกลแห่งหนึ่งให้นักเรียนวาดรูปแก้วน้ำ ... แต่ละคนก็วาดกันออกมาสวยต่างรูปแบบกันไป... มีอยู่คนหนึ่งวาดไปแล้วอาจารย์ให้คะแนน 0 .... เพราะวาดมาวงกลมวงเดียว อาจารย์ให้เหตุผลว่าทำไม่ตรงคำสั่ง ...
นักเรียนคนนั้นวาดแก้วน้ำจากมุมบนครับ ... ผมว่าภาพอาจจะไม่ดูสวย แต่ความคิดสร้างสรรค์ การคิดนอกกรอบนี่ผมว่าควรได้เต็มเลยด้วย ... โชคร้านที่อ.เป็นคนหัวโบราณไปหน่อย .. ผมว่าถ้าเป็นพวกอ.จบนอก ความคิดเปิดกว้างหน่อย ผมว่าอาจจะได้เต็มเลยก็ได้
กลัวว่าไปโรงเรียนแล้วอาจารย์ถามว่า 5+4 ได้เท่าไหร่ .. แล้วน้องตอบว่า 1 อธิบายให้อาจารย์ฟังเรื่องตักน้ำ แล้วอาจารย์หัวโบราณจะว่าว่าเด็กก้าวร้าว สอนไม่รู้จักจำ ... ผมว่าน่าห่วงจริงๆนะพี่โหน่ง
เคยอ่านว่าโรงเรียนช่างกลแห่งหนึ่งให้นักเรียนวาดรูปแก้วน้ำ ... แต่ละคนก็วาดกันออกมาสวยต่างรูปแบบกันไป... มีอยู่คนหนึ่งวาดไปแล้วอาจารย์ให้คะแนน 0 .... เพราะวาดมาวงกลมวงเดียว อาจารย์ให้เหตุผลว่าทำไม่ตรงคำสั่ง ...
นักเรียนคนนั้นวาดแก้วน้ำจากมุมบนครับ ... ผมว่าภาพอาจจะไม่ดูสวย แต่ความคิดสร้างสรรค์ การคิดนอกกรอบนี่ผมว่าควรได้เต็มเลยด้วย ... โชคร้านที่อ.เป็นคนหัวโบราณไปหน่อย .. ผมว่าถ้าเป็นพวกอ.จบนอก ความคิดเปิดกว้างหน่อย ผมว่าอาจจะได้เต็มเลยก็ได้
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 21
รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้มีโรงเรียนกวดวิชาคณิตศาสตร์ที่เน้นการบวกลบเลขเร็วๆมากมาย เน้นวิธีการให้เด็กทำการบวกลบมากๆจนคล่อง
ซึ่งผมคิดว่าไม่ค่อยจำเป็นเลย โตขึ้นเวลาทำข้อสอบคณิตศาสตร์ ไม่เคยมีปัญหาว่าบวกลบคูณหารไม่ทัน มีแต่ไม่รู้จะคิดยังไง ใช้สูตรไหนมาคำนวณซะมากกว่า
ซึ่งผมคิดว่าไม่ค่อยจำเป็นเลย โตขึ้นเวลาทำข้อสอบคณิตศาสตร์ ไม่เคยมีปัญหาว่าบวกลบคูณหารไม่ทัน มีแต่ไม่รู้จะคิดยังไง ใช้สูตรไหนมาคำนวณซะมากกว่า
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 1289
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 23
ที่ 7-11 ใช้ n เล็ก เพราะเป็นเรื่องของ ฮวงจุ้ย ครับ
ปล.ชอบตอนให้ลูกดูงบ ถ้าฝึกดีๆ สบายเลยนะ :lol:
ปล.ชอบตอนให้ลูกดูงบ ถ้าฝึกดีๆ สบายเลยนะ :lol:
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 24
สวัสดีครับพี่ฉัตร
จริงๆ แล้ว หน้าที่สอนลุกทุกอย่าง ควรเป็นของพ่อแม่หรือปล่าวครับ ผมคิดถึง home school ขึ้นมาแล้ว จำได้ว่ามี มีฝรั่งอยู่คนชื่อ อีริค คีแมน จบโทตอน 16 จบเอกตอน 20 หลังจากนั้นสอนที่ MIT ผมอ่านประวัติเรียนที่บ้านตลอด ไม่เคยไปโรงเรียนเลย พ่อเป็นคนสอนทั้งหมด เขาเรียนตรีตั้งแต่ 12 มีพ่อเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ด้วย
ถ้าเราลองถามลุกซักครั้ง อยากเรียนอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเราลองถามลุกดูก่อนว่า อยากเรียนกับพ่อกรือเรียนกับครู อย่างลูกอยากไวโอลิน พ่อต้องไปเรียนก่อน แล้วค่อยมาสอนลุก เป็นเรื่องจริง ที่ผมกำลังทำอยู่ ผมไม่เคยให้ลูกเรียนพิเศษเลย เพราะคิดเสมอว่ามันเป็นหน้าที่เรานะ
เรียนรู้จากสัตว์เรื่องการสอนลุก
ที่ซาฟารี หมีขาวออกลูก ตอนนี้สัก 4เดือนแล้ว ผมชอบไปยืนดู มันสอนลูกดำน้ำ ว่ายน้ำ ไล่จับขนมปัง ผมดูแล้วมีความสุขมาก มันทำก่อนให้ดูทุกอย่างเลย อดชมแม่หมีไม่ได้ว่ามันสอนลูกเก่งนะ ถ้าไม่มีความอดทนสอนไมได้เลย เพราะลูกทำผิด แม่หมีจะอดทนมาก ไม่ช่วยสักนิดเลย อย่างจับขนมปังในน้ำ ลูกหมีว่ายตามขนมปัง ยิ่งเข้าใกล้ มันก็ลอยไปข้างหน้า แม่หมีก็ดำน้ำให้ลูกดู แล้วก็โผล่ขึ้นมางับขนมปังพอดี ผมเห็นแล้วก็จริงนะ ถ้ามองจากมุมใต้น้ำจะเห้นเป้าหมายชัดกว่า แถบขนมปังก็เป็นเป้านิ่งให้ใช้ปากงับง่ายกว่าด้วย
เรื่องเลี้ยงลูก ผมว่า สัตว์เลี้ยงลุกเก่งคนครับ
จริงๆ แล้ว หน้าที่สอนลุกทุกอย่าง ควรเป็นของพ่อแม่หรือปล่าวครับ ผมคิดถึง home school ขึ้นมาแล้ว จำได้ว่ามี มีฝรั่งอยู่คนชื่อ อีริค คีแมน จบโทตอน 16 จบเอกตอน 20 หลังจากนั้นสอนที่ MIT ผมอ่านประวัติเรียนที่บ้านตลอด ไม่เคยไปโรงเรียนเลย พ่อเป็นคนสอนทั้งหมด เขาเรียนตรีตั้งแต่ 12 มีพ่อเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ด้วย
ถ้าเราลองถามลุกซักครั้ง อยากเรียนอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเราลองถามลุกดูก่อนว่า อยากเรียนกับพ่อกรือเรียนกับครู อย่างลูกอยากไวโอลิน พ่อต้องไปเรียนก่อน แล้วค่อยมาสอนลุก เป็นเรื่องจริง ที่ผมกำลังทำอยู่ ผมไม่เคยให้ลูกเรียนพิเศษเลย เพราะคิดเสมอว่ามันเป็นหน้าที่เรานะ
เรียนรู้จากสัตว์เรื่องการสอนลุก
ที่ซาฟารี หมีขาวออกลูก ตอนนี้สัก 4เดือนแล้ว ผมชอบไปยืนดู มันสอนลูกดำน้ำ ว่ายน้ำ ไล่จับขนมปัง ผมดูแล้วมีความสุขมาก มันทำก่อนให้ดูทุกอย่างเลย อดชมแม่หมีไม่ได้ว่ามันสอนลูกเก่งนะ ถ้าไม่มีความอดทนสอนไมได้เลย เพราะลูกทำผิด แม่หมีจะอดทนมาก ไม่ช่วยสักนิดเลย อย่างจับขนมปังในน้ำ ลูกหมีว่ายตามขนมปัง ยิ่งเข้าใกล้ มันก็ลอยไปข้างหน้า แม่หมีก็ดำน้ำให้ลูกดู แล้วก็โผล่ขึ้นมางับขนมปังพอดี ผมเห็นแล้วก็จริงนะ ถ้ามองจากมุมใต้น้ำจะเห้นเป้าหมายชัดกว่า แถบขนมปังก็เป็นเป้านิ่งให้ใช้ปากงับง่ายกว่าด้วย
เรื่องเลี้ยงลูก ผมว่า สัตว์เลี้ยงลุกเก่งคนครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 25
สวัสดีครับพี่นัน
ผมคิดถึงพี่นันกับ แก๊ง VS มาก ๆ เลยครับ พี่อีโต้ คุณบอล ท่านแม่ทัพ ผมดีใจครับที่พี่เข้ามาทักทาย
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผมไปอ่านเจอข่าวนักเรียนสิงคโปร์ทำคะแนนเลขเป็นอันดับหนึ่งของโลก นักเรียนสคป 93 % ได้คะแนนเฉลี่ยมากกว่าคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนทั่วโลก ผมอ่านข่าวแล้วไม่แปลกใจเลย เพราะเมื่อ ปี 2525 ตอนที่เรียนที่อังกฤษ นักเรียนสคป ก็กินเกือบทุกวิชาแล้วเทียบกับเด็กทุกคนในโรงเรียน ผมจำได้เรื่องอัตราส่วนและสัดส่วน 36-24-36 เราเรียนตอน ม.1 แต่เด็กสคปเรียนตั้งแต่ป.5 แล้ว อีกอย่างครับ ของเขาเน้นเรื่องการประยุกต์ใช้เลขกับชีวิตจริงค่อนข้างมาก สังเกตว่าเรื่องสัดส่วน เงินและการวัด ค่าเฉลี่ย ความเร็ว ล้วนสำคัญต่อชีวิจจริงทั้งนั้นเลย คือ มันเอาไปใช้ได้นะ จุดเด่นอีกอย่างที่ผมสังเกตุคือ การเน้นการแก้ปัญหาโจทย์ เขาจะเก่งมากเลย ซึ่งเขาเรียนตั้งแต่ ป.6 ของเราไปอยู่ ม. ต้น
เรื่องสอนเลขลุกเมื่อวาน
ผมสอนลูกดูว่า ตัวเลขที่เราเห้น มันจำไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างเห็น คือเลข 7 ไม่จำเป็นต้องเป็นเลข 7 เสมอไป พอเอาไปต่อบนหัวมด มันก็อาจจะเป็นหนวด คำว่า เจ็ด ถ้าไปพูดที่ เขมร มันก็ไม่ได้แปลว่า 7 แต่มันหมายถึง ใจ ถึงตอนนี้ผมบอก เดี๋ยวโทรไปบอกอากงข้างบ้นว่า
"อากง 4 หรือยัง"
อากงคงด่ากลับมาแน่ มันบอกว่ามันใกล้เคียงกับคำว่า ตายมากในภาษาแต้จิ๋ว
"ตัวเลขบางตัวมีความหมายสำหรับเราอีกอย่าง แต่อาจมีความหมายที่แตกต่างกันสำหรับอีกคนก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าจะไปใช้ที่ไหน"
ลูกสาวยิ้มไม่หุบเลยครับทีนี่
ก่อนจบ วิชาเลข ผมเขียนเลขบนกระดาษ
" *#06# "
แล้วลองถามลุกว่า ลูกเห็นเลขอะไร
ลูกตอบว่า " 6 ไงพ่อ"
ผมลองกดเลขแบบเดิม *#06# แต่กดลงบน มือถือ ของผมบ้าง
คราวนีมีตัวเลขโผล่ออกมา 003652111145895 โดยอัตโนมัติ
ลูกสาวร้อง...ฮา
"มันคือ serial number ของเครื่องลูก มันจะซ่อนอยู่ในเครื่อง เราสามารถดูตัวเลข 15 หลักนี้ได้โดยกด *#06# ที่โทรศัพท์ มีไว้เวลา มือถือ หาย หรือถูกโขมย ต้องแจ้งรหัสนี้แก่บริษัทเครื่อข่ายเพื่อทำให้โทรศัพท์ใช้ไมได้แม้จะเปลี่ยนซิมการ์ดก็ตาม "
ลูกสาว ยิ้ม ผมขอบมองเวลาแกค้นพบอะไรใหม่ ๆ และ ทำตาโต ยิ้มที่มทุมปาก ถ้าผมปล่อยให้ครูพิเศษสอน ผมคงไม่เคยเห็นโมเม้นนี้จากลูกแน่
"เห็นไหมค่ะ 6 ไม่จำเป็นต้องกับ 6 เสมอไป"
ผมคิดถึงพี่นันกับ แก๊ง VS มาก ๆ เลยครับ พี่อีโต้ คุณบอล ท่านแม่ทัพ ผมดีใจครับที่พี่เข้ามาทักทาย
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผมไปอ่านเจอข่าวนักเรียนสิงคโปร์ทำคะแนนเลขเป็นอันดับหนึ่งของโลก นักเรียนสคป 93 % ได้คะแนนเฉลี่ยมากกว่าคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนทั่วโลก ผมอ่านข่าวแล้วไม่แปลกใจเลย เพราะเมื่อ ปี 2525 ตอนที่เรียนที่อังกฤษ นักเรียนสคป ก็กินเกือบทุกวิชาแล้วเทียบกับเด็กทุกคนในโรงเรียน ผมจำได้เรื่องอัตราส่วนและสัดส่วน 36-24-36 เราเรียนตอน ม.1 แต่เด็กสคปเรียนตั้งแต่ป.5 แล้ว อีกอย่างครับ ของเขาเน้นเรื่องการประยุกต์ใช้เลขกับชีวิตจริงค่อนข้างมาก สังเกตว่าเรื่องสัดส่วน เงินและการวัด ค่าเฉลี่ย ความเร็ว ล้วนสำคัญต่อชีวิจจริงทั้งนั้นเลย คือ มันเอาไปใช้ได้นะ จุดเด่นอีกอย่างที่ผมสังเกตุคือ การเน้นการแก้ปัญหาโจทย์ เขาจะเก่งมากเลย ซึ่งเขาเรียนตั้งแต่ ป.6 ของเราไปอยู่ ม. ต้น
เรื่องสอนเลขลุกเมื่อวาน
ผมสอนลูกดูว่า ตัวเลขที่เราเห้น มันจำไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างเห็น คือเลข 7 ไม่จำเป็นต้องเป็นเลข 7 เสมอไป พอเอาไปต่อบนหัวมด มันก็อาจจะเป็นหนวด คำว่า เจ็ด ถ้าไปพูดที่ เขมร มันก็ไม่ได้แปลว่า 7 แต่มันหมายถึง ใจ ถึงตอนนี้ผมบอก เดี๋ยวโทรไปบอกอากงข้างบ้นว่า
"อากง 4 หรือยัง"
อากงคงด่ากลับมาแน่ มันบอกว่ามันใกล้เคียงกับคำว่า ตายมากในภาษาแต้จิ๋ว
"ตัวเลขบางตัวมีความหมายสำหรับเราอีกอย่าง แต่อาจมีความหมายที่แตกต่างกันสำหรับอีกคนก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าจะไปใช้ที่ไหน"
ลูกสาวยิ้มไม่หุบเลยครับทีนี่
ก่อนจบ วิชาเลข ผมเขียนเลขบนกระดาษ
" *#06# "
แล้วลองถามลุกว่า ลูกเห็นเลขอะไร
ลูกตอบว่า " 6 ไงพ่อ"
ผมลองกดเลขแบบเดิม *#06# แต่กดลงบน มือถือ ของผมบ้าง
คราวนีมีตัวเลขโผล่ออกมา 003652111145895 โดยอัตโนมัติ
ลูกสาวร้อง...ฮา
"มันคือ serial number ของเครื่องลูก มันจะซ่อนอยู่ในเครื่อง เราสามารถดูตัวเลข 15 หลักนี้ได้โดยกด *#06# ที่โทรศัพท์ มีไว้เวลา มือถือ หาย หรือถูกโขมย ต้องแจ้งรหัสนี้แก่บริษัทเครื่อข่ายเพื่อทำให้โทรศัพท์ใช้ไมได้แม้จะเปลี่ยนซิมการ์ดก็ตาม "
ลูกสาว ยิ้ม ผมขอบมองเวลาแกค้นพบอะไรใหม่ ๆ และ ทำตาโต ยิ้มที่มทุมปาก ถ้าผมปล่อยให้ครูพิเศษสอน ผมคงไม่เคยเห็นโมเม้นนี้จากลูกแน่
"เห็นไหมค่ะ 6 ไม่จำเป็นต้องกับ 6 เสมอไป"
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 26
Home school ผมว่าปัญหาใหญ่คือสังคมของลูกเราจะแคบลงไปเยอะเลยครับ กลัวจะมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคม การทำงานร่วมกับคนอื่นตามมาในอนาคต ผมว่าเรียนที่โรงเรียนไปด้วย เฮียโหน่งสอนเองอยู่ที่บ้านไปด้วยน่าจะ work กว่าป่ะคับ
แต่อากงอาจจะตอบกลับมาว่า
"กงยางม่ายปวก เลยยางม่ายล่ายฉี่"
ไม่แน่นะเฮียโหน่งอากงอาจจะไม่โกรธ ..."อากง 4 หรือยัง"
แต่อากงอาจจะตอบกลับมาว่า
"กงยางม่ายปวก เลยยางม่ายล่ายฉี่"
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 27
คิดว่า อีก 10-20 มาตรฐานกรสอนเลขในไทยจะเป็นไงครับ
ผมสอนเด็ก ม 3 คนหนึ่ง
เห็นหลักสูตรของโรงเรียน แล้ว สงสารเด็ก
เอาโจทย์ สอบเข้า โรงเรียน ดังๆ ฝากไปให้ครูทำ
ครูเลข ยังทำไม่ได้เลย
แล้ว เด็กจะเป็นไง ไม่รู้
ถ้าอยู่จนครบเวลา ผมว่า ผมอาจจะเอนท์ไม่ติดเล
ผมสอนเด็ก ม 3 คนหนึ่ง
เห็นหลักสูตรของโรงเรียน แล้ว สงสารเด็ก
เอาโจทย์ สอบเข้า โรงเรียน ดังๆ ฝากไปให้ครูทำ
ครูเลข ยังทำไม่ได้เลย
แล้ว เด็กจะเป็นไง ไม่รู้
ถ้าอยู่จนครบเวลา ผมว่า ผมอาจจะเอนท์ไม่ติดเล
คงไม่มีใคร หาเงินมากมาย ไว้ยัดใส่โลงศพตัวเอง
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 28
พี่โหน่งเคยได้ยินวิธีแบ่งของให้ยุติธรรมป่ะครับ ... ผมอ่านมาจากหนังสือของคุณประภาส อ่านแล้วชอบมากยังจำมาถึงทุกวันนี้เลยครับ เผื่อจะเอาไปสอนลูกได้อีก
ex1 - มีขนมเค้กอยู่ 1 ชิ้น ลูก 2 คนแย่งกัน ตัวเองก็อยากจะได้ชิ้นใหญ่กว่า สุดท้ายพ่อก็บอกให้ลูกแบ่งหน้าที่กัน ... คนหนึ่งเป็นคนตัด อีกคนหนึ่งเป็นคนเลือก คนที่ตัดก็จะพยายามตัดให้ขนาดใกล้เคียงกันมากที่สุด อีกคนก็จะเลือกชิ้นที่ตัวเองคิดว่าใหญ่กว่า คนเลือกก็จะพอใจที่ตัวเองเลือกได้ชิ้นใหญ่กว่า ส่วนคนตัดก็จะพอใจว่าทั้ง 2 ชิ้นมันเท่ากัน
ex2 - ลูก 2 คนโตขึ้นมากแล้ว พ่อก็แก่เลยตัดสินใจแบ่งที่ดินที่เป็นสมบัติเก่าเก็บให้กับลูก แต่ที่ดินมีอยู่แปลงเดียว ลูกๆคงจะลืมคำสอนของพ่อไปแล้ว จึงทะเลาะแย่งที่ดินกัน แต่พ่อยังจำสิ่งที่ตัวเองสอนไปได้อย่างแม่นยำ ... เลยให้คนนึงเป็นคนตัดแบ่งที่ดิน ส่วนอีกคนเป็นคนเลือก ปัญหาก็จบได้
ex3 - เวลาผ่านไปอีกไม่กี่ปี พ่อก็เสียชีวิตลง ทิ้งธุรกิจขนาดใหญ่ไว้ให้ลูกกับเงินฝากธนาคารก่อนเบ้อเริ่ม ... มรดกที่เป็นเงินก็แบ่งให้ลูกได้อย่างเท่าๆกัน ส่วนธุรกิจยังคงดำเนินการต่อไปได้ .. แต่ปัญหาคือลูกทั้ง 2 รู้ดีว่าทำธุรกิจด้วยกันไม่ได้แน่ๆ เพราะมีความคิดต่างกันมากและมีปากเสียงกันเป็นประจำ จะแบ่งหุ้นกันคนละ 50% บริษัทก็คงไปไม่รอด ลูกๆนึกถึงคำสอนของพ่อขึ้นมาได้ คุณคิดว่าลูกๆจะใช้วิธีอะไรในการแบ่งบริษัทให้ยุติธรรมครับ .... ลองทายกันดูเล่นๆ
คนอ่านหนังสือมาคงจะรู้เฉลยแล้ว อยากได้ความคิดเห็นของคนที่ไม่เคยอ่านดีกว่า เผื่อจะมีวิธีแปลกๆเพิ่มขึ้นมาอีก แล้วจะกลับมาเฉลยทีหลัง
จริงๆในหนังสือยังมีวิธีในการแบ่งของออกมาเป็น 3 ส่วน 4 ส่วน อีก แต่ผมจำไม่ได้แล้วว่าเค้าทำยังไง
ex1 - มีขนมเค้กอยู่ 1 ชิ้น ลูก 2 คนแย่งกัน ตัวเองก็อยากจะได้ชิ้นใหญ่กว่า สุดท้ายพ่อก็บอกให้ลูกแบ่งหน้าที่กัน ... คนหนึ่งเป็นคนตัด อีกคนหนึ่งเป็นคนเลือก คนที่ตัดก็จะพยายามตัดให้ขนาดใกล้เคียงกันมากที่สุด อีกคนก็จะเลือกชิ้นที่ตัวเองคิดว่าใหญ่กว่า คนเลือกก็จะพอใจที่ตัวเองเลือกได้ชิ้นใหญ่กว่า ส่วนคนตัดก็จะพอใจว่าทั้ง 2 ชิ้นมันเท่ากัน
ex2 - ลูก 2 คนโตขึ้นมากแล้ว พ่อก็แก่เลยตัดสินใจแบ่งที่ดินที่เป็นสมบัติเก่าเก็บให้กับลูก แต่ที่ดินมีอยู่แปลงเดียว ลูกๆคงจะลืมคำสอนของพ่อไปแล้ว จึงทะเลาะแย่งที่ดินกัน แต่พ่อยังจำสิ่งที่ตัวเองสอนไปได้อย่างแม่นยำ ... เลยให้คนนึงเป็นคนตัดแบ่งที่ดิน ส่วนอีกคนเป็นคนเลือก ปัญหาก็จบได้
ex3 - เวลาผ่านไปอีกไม่กี่ปี พ่อก็เสียชีวิตลง ทิ้งธุรกิจขนาดใหญ่ไว้ให้ลูกกับเงินฝากธนาคารก่อนเบ้อเริ่ม ... มรดกที่เป็นเงินก็แบ่งให้ลูกได้อย่างเท่าๆกัน ส่วนธุรกิจยังคงดำเนินการต่อไปได้ .. แต่ปัญหาคือลูกทั้ง 2 รู้ดีว่าทำธุรกิจด้วยกันไม่ได้แน่ๆ เพราะมีความคิดต่างกันมากและมีปากเสียงกันเป็นประจำ จะแบ่งหุ้นกันคนละ 50% บริษัทก็คงไปไม่รอด ลูกๆนึกถึงคำสอนของพ่อขึ้นมาได้ คุณคิดว่าลูกๆจะใช้วิธีอะไรในการแบ่งบริษัทให้ยุติธรรมครับ .... ลองทายกันดูเล่นๆ
คนอ่านหนังสือมาคงจะรู้เฉลยแล้ว อยากได้ความคิดเห็นของคนที่ไม่เคยอ่านดีกว่า เผื่อจะมีวิธีแปลกๆเพิ่มขึ้นมาอีก แล้วจะกลับมาเฉลยทีหลัง
จริงๆในหนังสือยังมีวิธีในการแบ่งของออกมาเป็น 3 ส่วน 4 ส่วน อีก แต่ผมจำไม่ได้แล้วว่าเค้าทำยังไง
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 29
สวัสดีครับ พี่ตี่
จริงๆ แล้วพี่ตี๋ถามแล้วก็ตอบเองไปแล้วครับ
สมัยผมเป้นวัยรุ่น idol ที่เป็นแนวทางปฏิบัติ หลอมนิสัย ชีวิต การคิด จิตวิญญาณ นอกจากพ่อแล้ว ก็ไม่คนอื่นเลย ไมได้หมายความว่า ผมไม่มองคนอื่น ผมมองครับ ช่วงวัยรุ้นเราก็อยากหาหลักยืดให้เหมือนใครสักคนที่เรารักเรานับถือ แต่ในสังคมบ้านเรา ความเป็นฮีโร มันหาไม่ได้เลย คือสังคมเราเราพอมีใครเด่น ก็จะดัยในไม่ช้า คติโบราญที่ว่า
"ทำดีได้ แต่อย่าเด่นจะเป็นภัย"
มันแทบจะก้องอยู่ในหูตลอดเวลาก็ว่าได้ ไม่มีฮีโร่อื่นที่เป็นไทยจริงๆ ครับนอกจากพ่อ เพราะเห็นใกล้ตัวทุกวัน จนมันซึมไปทุกวัน
ต่างจากเด็กสมัยนี้ครับ......
ผมเห้นเทรนเรื่องเอาดาราที่เรียนเก่งมาเป็นแบบอย่างได้สักพักแล้ว มีน้องโต๋เรื่องเรียนเก่ง แล้วดนตรีก็ยังเก่ง
เมื่อวานนี้ ผมไปงาน ม. เกษร ซึ่งจัดงานตลาดนัดหลักสูตนอุดมศึกษาครั้งที่ 12 มีการอภิปายเรื่อง การเตรียมสอบ แออดมิสชั่น ต้องทำอย่างไร
คือมันมีเป้าหมายรออยู่ตรงนั้น เด็กก็วิ่งไปทางนั้น
โดยมีนักเรียนเต็มเลยครับที่มางาน งานนี้มี น้องวิน--ธาริน น้องนาวินต้า มาด้วย น้องวินเรียนปี 4 คณะวิดวะที่ ม.เกษรต น้องโบ๊ต เรียนประมง
ผมจับใจความได้ว่า น้อง ๆ ดารา ที่ตอนอยู่บนเวทีเขาฉายแสงออกมา
เป้นทั้งฮีโร่ ทั้งอะไรหลายอย่างของเด็กที่มองขั้นไปข้างบนมาก
"เคล็ดลับอยู่ที่การหาข้อมูล ติดตามข่าวเกี่ยวกับมหาลัยที่เราจะเข้า และคณะที่อยากเรียน คะแนนสูงสุด ต่ำสุด เวลาจะสมัคร ต้องหาตังเองให้เจอ จากนั้นก็มุงมั่น แงเวลาอ่านหนังสือ ฝึกนินัยทำตารางดูหนังสืออย่างสม่ำเสมอ"
น้องโบ๊ตนั้นชอบเลี้ยงปลา แต่ที่บ้านจะให่สอบบัญชี
น้องบอกไม่เอา สรุปไปได้คณะประมง คะแนนอันดับหนึ่งของปีนั้น
"สำหรับน้องๆที่จะสอบ ถามตัวเองว่า หวังอะไร มีคำตอบแล้ว ก็มีแร
งใจที่จะอ่านหนังสือ ค้นหาเป้าหมาย ทำได้มันมีความสุขมากการไปเรียนก็กระตือรือล้น ไม่ต้องมีใครมาบังคับ"
ถ้าเทรนเป้นดาราแล้วเรียนเก่งด้วยสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ผมฟังแล้ว อนาคตเด็กไทย ไปในทางที่ดีครับ
จริงๆ แล้วพี่ตี๋ถามแล้วก็ตอบเองไปแล้วครับ
สมัยผมเป้นวัยรุ่น idol ที่เป็นแนวทางปฏิบัติ หลอมนิสัย ชีวิต การคิด จิตวิญญาณ นอกจากพ่อแล้ว ก็ไม่คนอื่นเลย ไมได้หมายความว่า ผมไม่มองคนอื่น ผมมองครับ ช่วงวัยรุ้นเราก็อยากหาหลักยืดให้เหมือนใครสักคนที่เรารักเรานับถือ แต่ในสังคมบ้านเรา ความเป็นฮีโร มันหาไม่ได้เลย คือสังคมเราเราพอมีใครเด่น ก็จะดัยในไม่ช้า คติโบราญที่ว่า
"ทำดีได้ แต่อย่าเด่นจะเป็นภัย"
มันแทบจะก้องอยู่ในหูตลอดเวลาก็ว่าได้ ไม่มีฮีโร่อื่นที่เป็นไทยจริงๆ ครับนอกจากพ่อ เพราะเห็นใกล้ตัวทุกวัน จนมันซึมไปทุกวัน
ต่างจากเด็กสมัยนี้ครับ......
ผมเห้นเทรนเรื่องเอาดาราที่เรียนเก่งมาเป็นแบบอย่างได้สักพักแล้ว มีน้องโต๋เรื่องเรียนเก่ง แล้วดนตรีก็ยังเก่ง
เมื่อวานนี้ ผมไปงาน ม. เกษร ซึ่งจัดงานตลาดนัดหลักสูตนอุดมศึกษาครั้งที่ 12 มีการอภิปายเรื่อง การเตรียมสอบ แออดมิสชั่น ต้องทำอย่างไร
คือมันมีเป้าหมายรออยู่ตรงนั้น เด็กก็วิ่งไปทางนั้น
โดยมีนักเรียนเต็มเลยครับที่มางาน งานนี้มี น้องวิน--ธาริน น้องนาวินต้า มาด้วย น้องวินเรียนปี 4 คณะวิดวะที่ ม.เกษรต น้องโบ๊ต เรียนประมง
ผมจับใจความได้ว่า น้อง ๆ ดารา ที่ตอนอยู่บนเวทีเขาฉายแสงออกมา
เป้นทั้งฮีโร่ ทั้งอะไรหลายอย่างของเด็กที่มองขั้นไปข้างบนมาก
"เคล็ดลับอยู่ที่การหาข้อมูล ติดตามข่าวเกี่ยวกับมหาลัยที่เราจะเข้า และคณะที่อยากเรียน คะแนนสูงสุด ต่ำสุด เวลาจะสมัคร ต้องหาตังเองให้เจอ จากนั้นก็มุงมั่น แงเวลาอ่านหนังสือ ฝึกนินัยทำตารางดูหนังสืออย่างสม่ำเสมอ"
น้องโบ๊ตนั้นชอบเลี้ยงปลา แต่ที่บ้านจะให่สอบบัญชี
น้องบอกไม่เอา สรุปไปได้คณะประมง คะแนนอันดับหนึ่งของปีนั้น
"สำหรับน้องๆที่จะสอบ ถามตัวเองว่า หวังอะไร มีคำตอบแล้ว ก็มีแร
งใจที่จะอ่านหนังสือ ค้นหาเป้าหมาย ทำได้มันมีความสุขมากการไปเรียนก็กระตือรือล้น ไม่ต้องมีใครมาบังคับ"
ถ้าเทรนเป้นดาราแล้วเรียนเก่งด้วยสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ผมฟังแล้ว อนาคตเด็กไทย ไปในทางที่ดีครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
ผมเสียใจที่ไม่เคยสอนลูกเลย
โพสต์ที่ 30
ฟังแล้วคล้ายเรื่องกล้วยกับไวโอลิน คางคกกับถุงยางyoyo เขียน:คุณคิดว่าลูกๆจะใช้วิธีอะไรในการแบ่งบริษัทให้ยุติธรรมครับ .... ลองทายกันดูเล่นๆ คนอ่านหนังสือมาคงจะรู้เฉลยแล้ว อยากได้ความคิดเห็นของคนที่ไม่เคยอ่านดีกว่า เผื่อจะมีวิธีแปลกๆเพิ่มขึ้นมาอีก แล้วจะกลับมาเฉลยทีหลัง
ผมจะลองตอบดูครับ
ฟังแล้วเขาไม่อยากแยก ปัญหาเรื่องอย่างนี้ไม่ควรเอาตัวเลขมาตัดสิน ถึงมาแนวทางถูกดึงให้มาทางนี้ก็ตา คงหารสองไมได้คับ ถนัดตรงไหนก็ไปทำตรงนั้น ใครเลือกก่อนไม่สำคัญครับ