เทรดบิ๊กแคปเจอขุมนรก เล่นตัวเล็กเจออเวจี
- vichit
- Verified User
- โพสต์: 15833
- ผู้ติดตาม: 0
เทรดบิ๊กแคปเจอขุมนรก เล่นตัวเล็กเจออเวจี
โพสต์ที่ 1
เทรดบิ๊กแคปเจอขุมนรก เล่นตัวเล็กเจออเวจี
เศร้า ! วิบากกรรมหุ้นไทยยังไม่จบ เล่นหุ้นเล็กก็ช้ำใจ เล่นหุ้นใหญ่ก็เสียน้ำตา เปิดศักราชใหม่ 4 วัน SET INDEX ร่วงเกือบ 35 จุด ต่างชาติถล่มขายกว่า 1 หมื่นลบ.หลังเจอมรสุมปัญหาซับไพร์มสหรัฐฯ กลับมาอีกระลอก นักลงทุนทั่วโลกหวั่นศก.สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย เพราะตัวเลข ศก.หลายตัวส่งสัญญาณไม่ดี เซียนหุ้น ชี้ต้องรอดูทาง การสหรัฐจะให้ความช่วยเหลืออย่างไร แนะช่วงนี้ถือเงินสดในพอร์ต 50-75% ดีที่สุด ด้านกองทุนในประเทศทยอยขายหุ้นแล้วกว่า 5% เพื่อลดความเสี่ยง
เปิดศักราชใหม่ไม่กี่วันหุ้นไทยก็เดินหน้ารูดไม่เป็นท่าเสียแล้ว นักลงทุนน้อยใหญ่ต่างร้องระงม เพราะเล่นหุ้นบิ๊กแคปก็ช้ำใจ เนื่องจากราคาหุ้นร่วงไม่เป็นท่า แถมโยกมา
เล่นหุ้นเล็กก็เข้าออกไม่ทันเจ้ามือ ผสมโรงกับตลาดหุ้นที่ผันผวน ทำเอานักลงทุนหลายรายถึงกับกุมขมับกับพอร์ตการลงทุนสีแดงเถือกทีเดียว งานนี้สืบเนื่องมาจากผลกระทบ
จากซับไพร์มสหรัฐฯ ทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากที่สหรัฐฯประกาศตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวเป็นที่น่าผิดหวัง โดยเมื่อ
คืนวันศุกร์ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 1.8 หมื่นตำแหน่ง น่าผิดหวังมากเมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของตลาดที่ 7 หมื่นตำแหน่ง ขณะที่
อัตราการว่างงานพุ่งแตะ 5% ซึ่งสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี ยิ่งตอกย้ำความกังวลของนักลงทุนทั่วโลก
และในสัปดาห์นี้จะมีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคือ ตัวเลขบ้านที่รอการขาย (Pending home sale) และตัวเลขสินเชื่อผู้บริโภค (Consumer Credit) ในคืน
วันอังคาร, ปริมาณน้ำมันสำรองในคืนวันพุธ และ ดุลการค้า (Trade Balance) ในคืนวันศุกร์ และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในวันที่ 30 ม.ค.50
ส่วนความเคลื่อนไหวของการเมืองในประเทศ ล่าสุด กกต. ได้ประกาศรับรองผลเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เพิ่มเติมอีก 6 คน เมื่อรวมกับที่ได้รับรองไป
ก่อนหน้า 397 คน รวมเป็น 403 คน คิดเป็น 84% จากทั้งหมด 480 คน คาดว่า กกต. จะทยอยประกาศรับรอง ส.ส. ที่เหลือ จนทำให้สามารถเปิดสภาฯ เพื่อสรรหาตำแหน่งนายกฯ
ได้ทันตามกำหนด 22 ม.ค. 2551 แต่อย่างไรก็ตามต้องติดตามผลการพิจารณาของศาลฏีกาในวันที่ 15 ม.ค. นี้ ต่อกรณีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงษ์ ยื่นฟ้องให้ศาลฯ พิจารณาว่าพรรค
พปช. เป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทย อันอาจทำให้พรรค พปช. ไม่สามารถเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันตลาดในระยะสั้น
ทั้งนี้จากการรวบรวมข้อมูลการเคลื่อนไหวของ SET Index ในช่วง 4 วันทำการ (2 -7 ม.ค.51) โดยวันที่ 2 ม.ค.51 SET Index ปิดตลาดที่ 842.97 จุด เปรียบเทียบกับ
วันที่ 7 ม.ค.51 ที่ SET Index ปิดตลาดที่ 808.31 จุด ปรากฎว่าปรับลดลง 34.66 จุด หรือ 4.28% ในขณะที่ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.51 จนถึงวันนี้ปรากฎว่านักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ
รวมทั้งสิ้น 10,468.68 ล้านบาท
***กิมเอ็ง-เกียรตินาคิน ผสานเสียงช่วงนี้ถือเงินสด 75% ของพอร์ตปลอดภัยสุด
เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง เปิดเผยว่ากลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทยช่วงผันผวนและปรับลดลงต่อเนื่องตั้งแต่เปิดทำการหลังปีใหม่ 2551 ที่ผ่าน
มาคือแนะนำให้ถือเงินสด 75% เลือกลงทุนในหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วย PTT, ADVANC, KBANK, LH และ PTTEP ในสัดส่วน 8% หุ้นที่ไวต่อการเคลื่อนไหว
ของ SET Index ซึ่งประกอบด้วย TTA, BAY, TRUE, AP, LPN, IRPC และ PTTCH ในสัดส่วน 8% หุ้นที่มีประเด็นข่าวบวกใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน ซึ่งประกอบด้วย MCOT, CPF,
BEC, BJC, AP, CPN และ PS ในสัดส่วน 5% และหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดเล็ก ซึ่งประกอบด้วย TRC, MFEC, TPC, MCS, OISHI, TKS, และ SIS ในสัดส่วน 4% เพราะหาก
ตลาดฯ ปรับลดลงแรงไปจนต่ำกว่า 800 จุด อย่างรวดเร็วจะเป็นสัญญานการขายมากเกินไปในระยะสั้นๆ ซึ่งหากนักเก็งกำไรจะเข้าไปช้อนก็ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีแต่ควรเลือกซื้อหุ้น
พื้นฐานดีเป็นหลัก
นอกจากนี้ปัจจัยทางการเมืองที่ยังคงวุ่นวายอยู่รวมทั้งหากคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. ประกาศรับรองสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสส. ใหม่ไม่ทันการเปิด
ประชุมสภาครั้งแรกที่ได้กำหนดไว้ในวันที่ 22 มกราคม 2551 โดยเฉพาะหากมีปัญหามากจนส่งผลให้การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าออกไปอีก ซึ่งอาจจะส่งผลให้ภาวะการเมืองยังไม่มี
เสถียรภาพและส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน ดังนั้นประเด็นดังกล่าวควรที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนได้
" ตลาดหุ้นไทยน่าจะเป็นอย่างนี้สักระยะหนึ่ง คือปรับลดลงอย่างนี้สักพัก จนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่แล้วเสร็จและมีความชัดเจน ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนใน
ช่วงนี้จึงควรให้น้ำหนักกับการถือเงินสดมากกว่า เพราะจะปลอดภัยมากกว่าการเลือกลงทุน " แหล่งข่าวรายเดิม กล่าว
ด้านบทวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในปี 51 ซึ่งสวนทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปิดในแดนบวก หลังจาก
ที่มีแรงเทขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะ PTT ทำให้ SET ปิดที่ 821.71 จุด ลดลง 10.92 จุด หรือ -1.31% ด้วยมูลค่าการซื้อขายจำนวน 22,434.69 ล้านบาท ในขณะที่นัก
ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,895.65 ล้านบาท เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้จึงแนะนำทยอยขายเมื่อดัชนีฯ ดีดขึ้น โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มหลัก ซึ่งประเมิน
แนวรับของ SET Index ระยะนี้ไว้ที่ 795-800 จุด ส่วนแนวต้านประเมินไว้ที่ 825 จุด ขณะที่สัดส่วนการลงทุนในระยะสั้นแนะนำถือหุ้น 25% และถือเงินสด 75%
นอกจากนี้ควรที่จะติดตามการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และอังกฤษ (BOE) ในวันที่ 9-10 ม.ค.2551 รวมทั้ง ควรที่จะต้องติดตามความคืบหน้าของ
การฟอร์มทีมรัฐบาลชุดใหม่ โดยมีพรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคประชาราช พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และพรรคมัชฌิมาธิปไตยด้วย เพราะ
เรื่องดังกล่าวอาจจะมีอิทะพลและส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุนด้วย
*** นักวิเคราะห์ กุมขมับประเมิน SET INDEX ยาก หลังเจอมรสุมปัจจัยนอกและประเทศ แนะถือเงินสด 50%
นางสาวศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยยังคงมีแนวโน้มที่ปรับตัวลดลงต่อ
แต่ทั้งนี้คงประเมินได้ค่อนข้างลำบากว่าจะปรับตัวลดลงต่ำกว่า 800 จุดหรือไม่ โดยปัจจัยที่ยังคงกดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นยังคงมาจากความกังวลปัญหาเศรษฐกิจ
สหรัฐฯ รวมถึงปัญหาการเมืองภายในประเทศ เกี่ยวกับการจัดตังรัฐบาลใหม่
ทั้งนี้ นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังตัวเลขของอัตราการว่างงานในสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ 5% ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 2 ปี สะท้อนถึงปัญหาเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอ
ตัวอย่าต่อเนื่อง ประกอบกับ ราคาน้ำมันในตลาดโลก ก็เริ่มปรับตัวลดลง จึงส่งผลต่อบรรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย
แต่อย่างไรก็ตาม เริ่มเห็นการรีบาวน์ขึ้นของดัชนีดาวโจนส์ ล่วงหน้า จึงได้แต่คาดหวังว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ จะมีโอกาสที่จะรีบาวน์กลับขึ้นมายืนในแดนบวกได้
ในบ้างขณะการซื้อขาย อีกทั้ง ยังคงประมาณการดัชนีฯทั้งปีนี้ไว้ที่ 1,000 จุด เนื่องจากเชื่อว่าแนวโน้มของผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนน่าจะดีขึ้นกว่าในปี 2550 อาทิ
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่ในปีนี้ไม่ได้ตั้งสำรองหนี้สูญ หลังจากในปีนี้ตั้งสำรองหนี้สูญไปค่อนข้างมาก
โดยดัชนี ดาวโจนส์ ล่วงหน้า: ตลาดหุ้นนิวยอร์ค เวลา 15:33 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 12,919.00 จุด เพิ่มขึ้น 32.00 จุด ปิดตลาดครั้งก่อนที่ระดับ
12,887.00จุด
ดังนั้น แนะนำ ถือเงินสด 50% หุ้น 50% ส่วนนักลงทุนระยะสั้น ซื้อเก็งกำไร หุ้นขนาดเล็ก ได้ และนักลงทุนระยะยาว แนะนำ ทยอยซื้อหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ อาทิ
หุ้นกลุ่มพลังงาน ธนาคารพาณิชย์ และหุ้นที่มีการจ่ายปันผลที่ค่อนข้างดี เนื่องจากเชือ่ว่าแนวโน้มของตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ หลังจากที่ภาพทางการเมืองชัดเจน โดย
รัฐบาลใหม่น่าจะมีนโยบายมากระตุ้นการลงทุนบ้าง
ประมาณการแนวรับดัชนีฯ ไว้ที่ 803-798 จุด ส่วนแนวต้านดัชนีฯ อยู่ที่ 813-817 จุด
บทวิเคราะห์บล.กรุงศรีอยุธยา ระบุว่า คาดแนวโน้มเศรษฐกิจระยะกลางฟื้นตัว หลังการเมืองนิ่ง และเป็นปัจจัยบวก แต่ระยะสั้นยังไม่รีบร้อนเพิ่มพอร์ต หลังจากตัวเลข
เศรษฐกิจเดือน พ.ย.ที่ ธปท.รายงานในวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมาจะเห็นว่าตัวเลขการลงทุน การบริโภคภาคเอกชนฟื้นตัวต่อเนื่อง ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตยังอยู่ในระดับสูงใกล้
80% รวมไปถึงภาคการส่งออกยังคงขยายตัวได้ดี 24.5% YoY ทั้งๆ ที่เศรษฐกิจโลกเริ่มชะลอตัว
ทั้งนี้เราเชื่อว่าเศรษฐกิจจะมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในระยะกลาง หลังมีการจัดตั้งรัฐบาลเกิดขึ้น และเศรษฐกิจจะถูกขับเคลื่อนโดยการลงทุนภาคเอกชน ภาครัฐฯ
และการบริโภคที่ฟื้นตัวเป็นหลัก และถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่ม Domestic Play โดยรวม...
อย่างไรก็ตามเราประเมินว่าปัจจัยดังกล่าวยังไม่สามารถทำให้ตลาดกลับตัวได้ในระยะสั้น (รอประชุม FED 29 30 ม.ค. และมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมจาก
ประธานาธิบดี บุช ปลายเดือน) เนื่องจากตลาดหุ้นต่างประเทศยังอ่อนแอ ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศยังต้องรอการรับรองผลการเลือกตั้งจาก กกต. จึงแนะนำนักลงทุนถือหุ้น
50% ของพอร์ตไปก่อน
นางสาวจิตติมา อังสุวรังษี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายที่ปรึกษาการลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อ ซึ่งหากหลุดต่ำกว่า
805 จุด มีแนวรับถัดไปที่ 797-790 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะการถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เข้าสู่ภาวะถดถ้อย จากตัวเลขการจ้างงานของเดือนธ.ค.
ออกมาต่ำกว่าคาด ซึ่งเพิ่มขึ้นเพียง 18,000 คน ขณะที่อัตราการว่างงานพุ่งขึ้นมาที่ 5% สูงที่สุดในรอบ 2 ปี ประกอบกับยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆมาสนับสนุนการลงทุน
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ แนะ นักลงทุนถือเงินสดลดความเสี่ยง แต่หากต้องการซื้อเก็งกำไรแนะนำให้เล่นเก็งกำไรในระยะสั้น
ส่วนนักลงทุนระยะยาวรอซื้อที่แนวรับ 805 จุด อาทิ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ,บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ
PTTCH และบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP
***กองทุน ฉวยจังหวะลดพอร์ตการลงทุน หลังหุ้นร่วงต่อเนื่อง
นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าหลังจากที่ SET Index ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่
ผ่านมา ทาง บลจ. มีการปรับพอร์ตไปแล้ว โดยการขายหุ้นออกมาในสัดส่วนประมาณ 5% เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงและเป็นการทยอยขายทำกำไร ในขณะเดียวกันยังเข้าไปเลือก
ซื้อหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีด้วย เพราะถือว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสม แต่รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้
" ก็มีการขายหุ้นออกมาเพื่อเป็นการปรับพอร์ตช่วงตลาดหุ้นผันผวนบ้างประมาณ 5% แต่รายละเอียดบอกไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่ก็ยังคงถือหุ้นพื้นฐานดีและเข้าไปเก็บเพิ่มบ้าง
" นายมาริษ กล่าว
เศร้า ! วิบากกรรมหุ้นไทยยังไม่จบ เล่นหุ้นเล็กก็ช้ำใจ เล่นหุ้นใหญ่ก็เสียน้ำตา เปิดศักราชใหม่ 4 วัน SET INDEX ร่วงเกือบ 35 จุด ต่างชาติถล่มขายกว่า 1 หมื่นลบ.หลังเจอมรสุมปัญหาซับไพร์มสหรัฐฯ กลับมาอีกระลอก นักลงทุนทั่วโลกหวั่นศก.สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย เพราะตัวเลข ศก.หลายตัวส่งสัญญาณไม่ดี เซียนหุ้น ชี้ต้องรอดูทาง การสหรัฐจะให้ความช่วยเหลืออย่างไร แนะช่วงนี้ถือเงินสดในพอร์ต 50-75% ดีที่สุด ด้านกองทุนในประเทศทยอยขายหุ้นแล้วกว่า 5% เพื่อลดความเสี่ยง
เปิดศักราชใหม่ไม่กี่วันหุ้นไทยก็เดินหน้ารูดไม่เป็นท่าเสียแล้ว นักลงทุนน้อยใหญ่ต่างร้องระงม เพราะเล่นหุ้นบิ๊กแคปก็ช้ำใจ เนื่องจากราคาหุ้นร่วงไม่เป็นท่า แถมโยกมา
เล่นหุ้นเล็กก็เข้าออกไม่ทันเจ้ามือ ผสมโรงกับตลาดหุ้นที่ผันผวน ทำเอานักลงทุนหลายรายถึงกับกุมขมับกับพอร์ตการลงทุนสีแดงเถือกทีเดียว งานนี้สืบเนื่องมาจากผลกระทบ
จากซับไพร์มสหรัฐฯ ทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากที่สหรัฐฯประกาศตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวเป็นที่น่าผิดหวัง โดยเมื่อ
คืนวันศุกร์ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 1.8 หมื่นตำแหน่ง น่าผิดหวังมากเมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของตลาดที่ 7 หมื่นตำแหน่ง ขณะที่
อัตราการว่างงานพุ่งแตะ 5% ซึ่งสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี ยิ่งตอกย้ำความกังวลของนักลงทุนทั่วโลก
และในสัปดาห์นี้จะมีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคือ ตัวเลขบ้านที่รอการขาย (Pending home sale) และตัวเลขสินเชื่อผู้บริโภค (Consumer Credit) ในคืน
วันอังคาร, ปริมาณน้ำมันสำรองในคืนวันพุธ และ ดุลการค้า (Trade Balance) ในคืนวันศุกร์ และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในวันที่ 30 ม.ค.50
ส่วนความเคลื่อนไหวของการเมืองในประเทศ ล่าสุด กกต. ได้ประกาศรับรองผลเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เพิ่มเติมอีก 6 คน เมื่อรวมกับที่ได้รับรองไป
ก่อนหน้า 397 คน รวมเป็น 403 คน คิดเป็น 84% จากทั้งหมด 480 คน คาดว่า กกต. จะทยอยประกาศรับรอง ส.ส. ที่เหลือ จนทำให้สามารถเปิดสภาฯ เพื่อสรรหาตำแหน่งนายกฯ
ได้ทันตามกำหนด 22 ม.ค. 2551 แต่อย่างไรก็ตามต้องติดตามผลการพิจารณาของศาลฏีกาในวันที่ 15 ม.ค. นี้ ต่อกรณีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงษ์ ยื่นฟ้องให้ศาลฯ พิจารณาว่าพรรค
พปช. เป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทย อันอาจทำให้พรรค พปช. ไม่สามารถเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันตลาดในระยะสั้น
ทั้งนี้จากการรวบรวมข้อมูลการเคลื่อนไหวของ SET Index ในช่วง 4 วันทำการ (2 -7 ม.ค.51) โดยวันที่ 2 ม.ค.51 SET Index ปิดตลาดที่ 842.97 จุด เปรียบเทียบกับ
วันที่ 7 ม.ค.51 ที่ SET Index ปิดตลาดที่ 808.31 จุด ปรากฎว่าปรับลดลง 34.66 จุด หรือ 4.28% ในขณะที่ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.51 จนถึงวันนี้ปรากฎว่านักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ
รวมทั้งสิ้น 10,468.68 ล้านบาท
***กิมเอ็ง-เกียรตินาคิน ผสานเสียงช่วงนี้ถือเงินสด 75% ของพอร์ตปลอดภัยสุด
เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง เปิดเผยว่ากลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทยช่วงผันผวนและปรับลดลงต่อเนื่องตั้งแต่เปิดทำการหลังปีใหม่ 2551 ที่ผ่าน
มาคือแนะนำให้ถือเงินสด 75% เลือกลงทุนในหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วย PTT, ADVANC, KBANK, LH และ PTTEP ในสัดส่วน 8% หุ้นที่ไวต่อการเคลื่อนไหว
ของ SET Index ซึ่งประกอบด้วย TTA, BAY, TRUE, AP, LPN, IRPC และ PTTCH ในสัดส่วน 8% หุ้นที่มีประเด็นข่าวบวกใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน ซึ่งประกอบด้วย MCOT, CPF,
BEC, BJC, AP, CPN และ PS ในสัดส่วน 5% และหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดเล็ก ซึ่งประกอบด้วย TRC, MFEC, TPC, MCS, OISHI, TKS, และ SIS ในสัดส่วน 4% เพราะหาก
ตลาดฯ ปรับลดลงแรงไปจนต่ำกว่า 800 จุด อย่างรวดเร็วจะเป็นสัญญานการขายมากเกินไปในระยะสั้นๆ ซึ่งหากนักเก็งกำไรจะเข้าไปช้อนก็ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีแต่ควรเลือกซื้อหุ้น
พื้นฐานดีเป็นหลัก
นอกจากนี้ปัจจัยทางการเมืองที่ยังคงวุ่นวายอยู่รวมทั้งหากคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. ประกาศรับรองสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสส. ใหม่ไม่ทันการเปิด
ประชุมสภาครั้งแรกที่ได้กำหนดไว้ในวันที่ 22 มกราคม 2551 โดยเฉพาะหากมีปัญหามากจนส่งผลให้การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าออกไปอีก ซึ่งอาจจะส่งผลให้ภาวะการเมืองยังไม่มี
เสถียรภาพและส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน ดังนั้นประเด็นดังกล่าวควรที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนได้
" ตลาดหุ้นไทยน่าจะเป็นอย่างนี้สักระยะหนึ่ง คือปรับลดลงอย่างนี้สักพัก จนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่แล้วเสร็จและมีความชัดเจน ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนใน
ช่วงนี้จึงควรให้น้ำหนักกับการถือเงินสดมากกว่า เพราะจะปลอดภัยมากกว่าการเลือกลงทุน " แหล่งข่าวรายเดิม กล่าว
ด้านบทวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในปี 51 ซึ่งสวนทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปิดในแดนบวก หลังจาก
ที่มีแรงเทขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะ PTT ทำให้ SET ปิดที่ 821.71 จุด ลดลง 10.92 จุด หรือ -1.31% ด้วยมูลค่าการซื้อขายจำนวน 22,434.69 ล้านบาท ในขณะที่นัก
ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,895.65 ล้านบาท เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้จึงแนะนำทยอยขายเมื่อดัชนีฯ ดีดขึ้น โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มหลัก ซึ่งประเมิน
แนวรับของ SET Index ระยะนี้ไว้ที่ 795-800 จุด ส่วนแนวต้านประเมินไว้ที่ 825 จุด ขณะที่สัดส่วนการลงทุนในระยะสั้นแนะนำถือหุ้น 25% และถือเงินสด 75%
นอกจากนี้ควรที่จะติดตามการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และอังกฤษ (BOE) ในวันที่ 9-10 ม.ค.2551 รวมทั้ง ควรที่จะต้องติดตามความคืบหน้าของ
การฟอร์มทีมรัฐบาลชุดใหม่ โดยมีพรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคประชาราช พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และพรรคมัชฌิมาธิปไตยด้วย เพราะ
เรื่องดังกล่าวอาจจะมีอิทะพลและส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุนด้วย
*** นักวิเคราะห์ กุมขมับประเมิน SET INDEX ยาก หลังเจอมรสุมปัจจัยนอกและประเทศ แนะถือเงินสด 50%
นางสาวศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยยังคงมีแนวโน้มที่ปรับตัวลดลงต่อ
แต่ทั้งนี้คงประเมินได้ค่อนข้างลำบากว่าจะปรับตัวลดลงต่ำกว่า 800 จุดหรือไม่ โดยปัจจัยที่ยังคงกดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นยังคงมาจากความกังวลปัญหาเศรษฐกิจ
สหรัฐฯ รวมถึงปัญหาการเมืองภายในประเทศ เกี่ยวกับการจัดตังรัฐบาลใหม่
ทั้งนี้ นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังตัวเลขของอัตราการว่างงานในสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ 5% ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 2 ปี สะท้อนถึงปัญหาเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอ
ตัวอย่าต่อเนื่อง ประกอบกับ ราคาน้ำมันในตลาดโลก ก็เริ่มปรับตัวลดลง จึงส่งผลต่อบรรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย
แต่อย่างไรก็ตาม เริ่มเห็นการรีบาวน์ขึ้นของดัชนีดาวโจนส์ ล่วงหน้า จึงได้แต่คาดหวังว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ จะมีโอกาสที่จะรีบาวน์กลับขึ้นมายืนในแดนบวกได้
ในบ้างขณะการซื้อขาย อีกทั้ง ยังคงประมาณการดัชนีฯทั้งปีนี้ไว้ที่ 1,000 จุด เนื่องจากเชื่อว่าแนวโน้มของผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนน่าจะดีขึ้นกว่าในปี 2550 อาทิ
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่ในปีนี้ไม่ได้ตั้งสำรองหนี้สูญ หลังจากในปีนี้ตั้งสำรองหนี้สูญไปค่อนข้างมาก
โดยดัชนี ดาวโจนส์ ล่วงหน้า: ตลาดหุ้นนิวยอร์ค เวลา 15:33 น. (ตามเวลาประเทศไทย) อยู่ที่ระดับ 12,919.00 จุด เพิ่มขึ้น 32.00 จุด ปิดตลาดครั้งก่อนที่ระดับ
12,887.00จุด
ดังนั้น แนะนำ ถือเงินสด 50% หุ้น 50% ส่วนนักลงทุนระยะสั้น ซื้อเก็งกำไร หุ้นขนาดเล็ก ได้ และนักลงทุนระยะยาว แนะนำ ทยอยซื้อหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ อาทิ
หุ้นกลุ่มพลังงาน ธนาคารพาณิชย์ และหุ้นที่มีการจ่ายปันผลที่ค่อนข้างดี เนื่องจากเชือ่ว่าแนวโน้มของตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ หลังจากที่ภาพทางการเมืองชัดเจน โดย
รัฐบาลใหม่น่าจะมีนโยบายมากระตุ้นการลงทุนบ้าง
ประมาณการแนวรับดัชนีฯ ไว้ที่ 803-798 จุด ส่วนแนวต้านดัชนีฯ อยู่ที่ 813-817 จุด
บทวิเคราะห์บล.กรุงศรีอยุธยา ระบุว่า คาดแนวโน้มเศรษฐกิจระยะกลางฟื้นตัว หลังการเมืองนิ่ง และเป็นปัจจัยบวก แต่ระยะสั้นยังไม่รีบร้อนเพิ่มพอร์ต หลังจากตัวเลข
เศรษฐกิจเดือน พ.ย.ที่ ธปท.รายงานในวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมาจะเห็นว่าตัวเลขการลงทุน การบริโภคภาคเอกชนฟื้นตัวต่อเนื่อง ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตยังอยู่ในระดับสูงใกล้
80% รวมไปถึงภาคการส่งออกยังคงขยายตัวได้ดี 24.5% YoY ทั้งๆ ที่เศรษฐกิจโลกเริ่มชะลอตัว
ทั้งนี้เราเชื่อว่าเศรษฐกิจจะมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในระยะกลาง หลังมีการจัดตั้งรัฐบาลเกิดขึ้น และเศรษฐกิจจะถูกขับเคลื่อนโดยการลงทุนภาคเอกชน ภาครัฐฯ
และการบริโภคที่ฟื้นตัวเป็นหลัก และถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่ม Domestic Play โดยรวม...
อย่างไรก็ตามเราประเมินว่าปัจจัยดังกล่าวยังไม่สามารถทำให้ตลาดกลับตัวได้ในระยะสั้น (รอประชุม FED 29 30 ม.ค. และมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมจาก
ประธานาธิบดี บุช ปลายเดือน) เนื่องจากตลาดหุ้นต่างประเทศยังอ่อนแอ ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศยังต้องรอการรับรองผลการเลือกตั้งจาก กกต. จึงแนะนำนักลงทุนถือหุ้น
50% ของพอร์ตไปก่อน
นางสาวจิตติมา อังสุวรังษี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายที่ปรึกษาการลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อ ซึ่งหากหลุดต่ำกว่า
805 จุด มีแนวรับถัดไปที่ 797-790 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะการถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เข้าสู่ภาวะถดถ้อย จากตัวเลขการจ้างงานของเดือนธ.ค.
ออกมาต่ำกว่าคาด ซึ่งเพิ่มขึ้นเพียง 18,000 คน ขณะที่อัตราการว่างงานพุ่งขึ้นมาที่ 5% สูงที่สุดในรอบ 2 ปี ประกอบกับยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆมาสนับสนุนการลงทุน
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ แนะ นักลงทุนถือเงินสดลดความเสี่ยง แต่หากต้องการซื้อเก็งกำไรแนะนำให้เล่นเก็งกำไรในระยะสั้น
ส่วนนักลงทุนระยะยาวรอซื้อที่แนวรับ 805 จุด อาทิ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ,บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ
PTTCH และบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP
***กองทุน ฉวยจังหวะลดพอร์ตการลงทุน หลังหุ้นร่วงต่อเนื่อง
นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าหลังจากที่ SET Index ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่
ผ่านมา ทาง บลจ. มีการปรับพอร์ตไปแล้ว โดยการขายหุ้นออกมาในสัดส่วนประมาณ 5% เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงและเป็นการทยอยขายทำกำไร ในขณะเดียวกันยังเข้าไปเลือก
ซื้อหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีด้วย เพราะถือว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสม แต่รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้
" ก็มีการขายหุ้นออกมาเพื่อเป็นการปรับพอร์ตช่วงตลาดหุ้นผันผวนบ้างประมาณ 5% แต่รายละเอียดบอกไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่ก็ยังคงถือหุ้นพื้นฐานดีและเข้าไปเก็บเพิ่มบ้าง
" นายมาริษ กล่าว
- Kuruni
- Verified User
- โพสต์: 210
- ผู้ติดตาม: 0
เทรดบิ๊กแคปเจอขุมนรก เล่นตัวเล็กเจออเวจี
โพสต์ที่ 5
ดีครับ เราควรติดตามอัตราการว่างงาน อัตราเงินเฟ้อ คำเพ้อของกูรู้ พยากรณ์อากาศ ดัชนีเพื่อนบ้าน ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ลาว เขมร :lol: รายวัน รายสัปดาห์ ถ้าจะดีต้องมีรายนาที
แต่ไม่ต้องรู้หรอกเรื่องเกี่ยวกับบริษัทที่เราลงทุนอยู่หรือกำลังคิดจะเข้าไปลงทุนดูแต่ข่าวพวกเนี้ยทุกวัน
ฟังแต่ข่าวพรายกระซิบ หรือข่าวรายใหญ่ใจดีอยากให้รายย่อยรวยแล้วซื้อๆไป โอย!แป้บเด๊ยวเดี๋ยวรวยไปหมด มันไปหมดจิงๆนา 


-
- Verified User
- โพสต์: 1296
- ผู้ติดตาม: 1
เทรดบิ๊กแคปเจอขุมนรก เล่นตัวเล็กเจออเวจี
โพสต์ที่ 7
มีคนเปรียบเทียบว่า หุ้นทุกตัวเหมือน
เรืออยู่ในทะเลใหญ่ SET ก็เหมือนพายุหรือลมส่ง สามารถ
ทำลายเรือหรือส่งเรือไปได้ไกล การที่เรามีหุ้นดี ก็เปรียบ
เหมือนเรือที่แข็งแรง อย่างไรก็ตามเมื่อพายุมาย่อมมีความ
เสียหาย ไม่ว่าจะเป็นหุ้นดีหรือไม่ดี
ดังนั้นฟังไว้ก็ไม่เสียหาย หลายๆครั้งก็ทำให้เรา
ชลอการซื้อเพื่อรับของถูก หรือทำการ short เพื่อรอซื้อ
ที่ถูกกว่า
ความคิดของผมอาจจะสวนทางกับอีกหลายๆคนต้อง
ขอโทษด้วย คือการคาดเดา SET ก็มีประโยชน์
เรืออยู่ในทะเลใหญ่ SET ก็เหมือนพายุหรือลมส่ง สามารถ
ทำลายเรือหรือส่งเรือไปได้ไกล การที่เรามีหุ้นดี ก็เปรียบ
เหมือนเรือที่แข็งแรง อย่างไรก็ตามเมื่อพายุมาย่อมมีความ
เสียหาย ไม่ว่าจะเป็นหุ้นดีหรือไม่ดี
ดังนั้นฟังไว้ก็ไม่เสียหาย หลายๆครั้งก็ทำให้เรา
ชลอการซื้อเพื่อรับของถูก หรือทำการ short เพื่อรอซื้อ
ที่ถูกกว่า
ความคิดของผมอาจจะสวนทางกับอีกหลายๆคนต้อง
ขอโทษด้วย คือการคาดเดา SET ก็มีประโยชน์
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
เทรดบิ๊กแคปเจอขุมนรก เล่นตัวเล็กเจออเวจี
โพสต์ที่ 8
ปัญหาคือ การคาดเดาดัชนี มีความถูกต้องแม่นยำเพียงใด
และถึงแม้จะคาดเดาดัชนีได้ บ่อยครั้งที่ดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ก็ไม่ได้มีทิศทางเดียวกับราคาหุ้นที่เราสนใจลงทุน นอกเสียจากการตกต่ำอย่างมากของเศรษฐกิจ
และถึงแม้จะคาดเดาดัชนีได้ บ่อยครั้งที่ดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ก็ไม่ได้มีทิศทางเดียวกับราคาหุ้นที่เราสนใจลงทุน นอกเสียจากการตกต่ำอย่างมากของเศรษฐกิจ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- BOONPARUEY
- Verified User
- โพสต์: 184
- ผู้ติดตาม: 0
เทรดบิ๊กแคปเจอขุมนรก เล่นตัวเล็กเจออเวจี
โพสต์ที่ 9
... โบรกเกอร์ส่วนใหญ่วิเคราะห์ห่างความจริง ...
... บริษัทมากมายในตลาดแต่งบัญชีตบตานักลงทุน ...
... นักลงทุนมากมายชอบข้อมูลเชิงปริมาณ ...
... เทศกาลเจ้ามือร่าเริง ... :lol: :lol: :lol:
... นักลงทุนรุ่นเก๋า ( ประสบการณ์ ) เก็บตัวปรับพอร์ทเงียบ ๆ ...
:roll: :roll:
... นักลงทุนร้อนวิชา ( พอร์ทโตบ้าง , และ / หรือ พอร์ทลบไม่มาก ,อยู่ในตลาดไม่ถึง ๑๐ ปี ) ฟุ้งประสบการณ์ไปทั่ว ...
... ตลาดลักทรัพย์ เอ้ย หลักทรัพย์ เร่งระดมหาสมาชิกเพิ่ม ...
... ปีนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย คงต้องระวังดูแลรักษาสุขภาพกันให้ดี นะ
... ขอให้มีความสุขกับการลงทุน เน้อ ... :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl:
... บริษัทมากมายในตลาดแต่งบัญชีตบตานักลงทุน ...
... นักลงทุนมากมายชอบข้อมูลเชิงปริมาณ ...
... เทศกาลเจ้ามือร่าเริง ... :lol: :lol: :lol:
... นักลงทุนรุ่นเก๋า ( ประสบการณ์ ) เก็บตัวปรับพอร์ทเงียบ ๆ ...

... นักลงทุนร้อนวิชา ( พอร์ทโตบ้าง , และ / หรือ พอร์ทลบไม่มาก ,อยู่ในตลาดไม่ถึง ๑๐ ปี ) ฟุ้งประสบการณ์ไปทั่ว ...
... ตลาดลักทรัพย์ เอ้ย หลักทรัพย์ เร่งระดมหาสมาชิกเพิ่ม ...
... ปีนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย คงต้องระวังดูแลรักษาสุขภาพกันให้ดี นะ
... ขอให้มีความสุขกับการลงทุน เน้อ ... :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl: :lovl:
... " บุญ คือ เสบียงของคนไม่ประมาท " พุทธตรัส ...