เกมการเงิน

[ม้าเฉียว]

ท่ามกลางความวุ่นวายของวันปกติสามัญ มีตัวเลขขึ้นลง มีเสียงกรีดร้อง เสียงเคาะคีย์บอร์ด เคล้ากับเสียงโทรศัพท์ที่ดังไม่ขายสาย เขาพิมพ์ก๊อกแก๊กอยู่เงียบๆ เขาคือ กันฌา นักค้าตลาดหลักทรัพย์หนุ่มแห่ง “กลุ่มยี่สิบ” เขากำลังเทขายเงินดอลลาร์ แล้วหย่อนเบ็ดลงไปในตลาดที่มีโอกาสทำเงิน

ระบบการเงินโลกในยุคที่กลุ่มยี่สิบรุ่งเรื่องนั้น การเคลื่อนย้ายทุนคือพระเอก กลุ่มยี่สิบอาศัยการกู้ยืมจากแหล่งที่ดอกเบี้ยต่ำ เข้าซื้อหุ้นตลาดหลักทรัพย์ จากนั้นย้ายไปตลาดเงิน ตลาดทองคำ ตลาดน้ำมัน และตลาดโภคภัณฑ์ต่างๆ ที่กระจายอยู่ทั่วโลก หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามจังหวะและโอกาส ใช้กระแสเงินหมุนเวียนเปลี่ยนถ่ายเป็นอาวุธ  เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้เงินสามารถเคลื่อนย้ายไปทั่วโลกได้เร็วกว่าแสง เงินทุนสามารถเคลื่อนย้ายไปรอบโลกได้หลายครั้งต่อวันในแค่พริบตาเดียว การเคลื่อนย้ายทุนเพื่อแสวงหากำไรกลายมาเป็นกิจกรรมหลักและเป็นสิ่งเสพติดของเหล่าปัญญาชนที่เก่งกาจ กลุ่มยี่สิบ เป็นหนึ่งในนั้นที่ทำเงินมหาศาลในแต่ละปี

เงินที่หมุนอย่างรวดเร็ว ในขณะที่สิ่งของไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้เร็วมากขนาดนั้น ราคาจึงปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เงินไปที่ไหน ราคาก็พุ่งขึ้น เกิดเป็นฟองสบู่กระจายไปทั่วทุกแห่งที่มีตลาด เมื่อมีกำไรมากพอ เงินก็จะไหลไปสู่ตลาดอื่น และทิ้งความเสียหายอันเกิดจากฟองสบู่แตกเอาไว้ คนที่ไหวตัวช้ากว่าก็จะขาดทุนอย่างหนัก กันฌา เรียกกระบวนการนี้ว่า ซิคลอน-บี (Zyclon-B) ซึ่งหมายถึง กระบวนการกำจัดนักลงทุนที่ไม่ถึงขั้น

การเคลื่อนย้ายทุนที่ไวกว่าแสง ทำให้กลุ่มยี่สิบต้องมี นักวิเคราะห์การไหลของเงินทุน (Fund Flow Analyst) ธาดินี่ เป็นผู้รับภาระกิจดังกล่าว เขาทำหน้าที่เหมือนนักถอดรหัสในยามสงครามที่คอยดักสัญญาณต่างๆ แล้วนำมาวิเคราะห์การไหลของเงินทั่วโลก เพื่อให้รู้เท่าทันคู่แข่งที่พร้อมจะเหยียบผู้ที่พลาดพลั้งให้จมดินได้ทุกเมื่อที่มีโอกาส

กันฌา หลงไหลในเกมการเงินนี้ตังแต่วัยเยาว์ เขาเห็นว่ามันเป็นเกมที่มีเหตุผล เพียงแต่เป็นเหตุผลที่มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง ราคาหุ้นก็เป็นเพียงราคาเทียม ไม่มีใครรู้ว่าราคาที่แท้จริงเป็นเท่าใด ถ้าเรามองจากพื้นฐานที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ก็อาจจะได้ราคาประมาณการอันหนึ่ง และถ้าพ่วงเอาอนาคตของธุรกิจเข้าไปด้วย ก็จะได้ราคาอนาคตอีกอันหนึ่ง แต่เนื่องจากเป็นเกมการเงิน บางทีราคาหุ้นก็ขึ้นไปรอล่วงหน้าตามอนาคตที่คาดว่าจะดี ดังนั้นจึงบอกไม่ได้ว่า ราคาหุ้นหรือราคาหลักทรัพย์ใดในโลกควรจะอยู่ตรงไหน

กลุ่มยี่สิบมักจะชื่นชอบเศรษฐกิจในยามถดถอย เพราะมันทำให้ตลาดมักจะลืมอนาคตอันสดใสไปเสียสิ้น ราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ จะพยายามกลับไปสู่พื้นฐานของราคาหุ้นที่ควรจะเป็น หรือบางทีอาจจะต่ำกว่านั้น แต่แน่หละ ราคาพื้นฐานนั้นอยู่ที่ไหน ไม่มีใครล่วงรู้ได้ ในภาวะที่ตลาดมองว่าเศรษฐกิจไม่ดีหรือโลกไร้เสถียรภาพ ทำให้หลายคนคาดว่าราคาหลักทรัพย์ต่างๆจะต้องลดลงอย่างแน่นอน ก็จะเริ่มทะยอยขายออก และรอเวลาที่จะกลับมาซื้อ เพื่อหวังทำกำไรอย่างหิวกระหาย การรออย่างหิวกระหายของนักลงทุนที่ไม่ถึงขั้นนี้เอง ที่กลุ่มยี่สิบหยิบฉวยมาใช้ประโยชน์ กันฌาจะใช้กระแสเงินเข้ามาพยุงตลาด และค่อยๆดันราคาให้สูงขึ้น จนล่อให้นักลงทุนหลายคนหลวมตัวเข้าไปซื้อ เพราะหลงคิดว่า ความเชื่อที่ว่าแผ่นดินเศรษฐกิจกำลังจะไหวนั้น โง่สินดี แต่พอกระพริบตาอีกที ก็พบว่าเงินได้ไหลออกไปเสียแล้ว และราคาก็เริ่มดิ่งเหวอีกครั้ง

ส่วนในยามที่ตลาดสดใส กันฌา จะระมัดระวังเป็นพิเศษ กลยุทธ์ที่ใช้ถูกเรียกว่า “ดาบของแดมอคลีส” (Sword of Damocles) และเพื่อย้ำเตือนทุกคนในกลุ่ม ที่ฝาผนังห้องจะมีรูปของ แดมอคลีสขุนนางชาวกรีก ที่พร่ำเพ้อถึงความสุขของการเป็นพระราชา ไดโอนิซิอุสซึ่งเป็นราชา จึงให้เขานั่งเป็นประธานหัวโต๊ะในงานเลี้ยง โดยมีดาบที่ผูกไว้ด้วยเส้นผมเพียงเส้นเดียวแขวนอยู่เหนือศรีษะ โดยไม่รู้ว่าจะขาดตกลงมาเชือดตัวเขาเมื่อใด เป็นมหันตภัยที่คุกคามในยามรุ่งเรือง


ปล.ว่างเว้นจากภาระกิจเมื่อใด จะมาเล่าเรื่องของ กลุ่มยี่สิบ กันฌา และธาดินี่ กันต่อ

[สุมาอี้]

มาเร็วๆ นะ รออยู่ครับ

[woody]

ขอบคุณมากครับพี่ม้าเฉียว

[booklover]

ปูเสื่อรอครับ

[Luty97]

ชอบครับ เตือนใจได้ดี

[Saran]

ชอบมากครับ นั่งรอฟังอยู่แถวหน้าเลยครับ

[ตาหมูอ้วน.]

คุณม้าเฉียว หายไปไหนครับ