กองทุนอสังหาTHOSสะดุด เอ็มเอฟซีจ่อระดมทุนใหม่ต้นปีหน้า

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
encodeo
Verified User
โพสต์: 27
ผู้ติดตาม: 0

กองทุนอสังหาTHOSสะดุด เอ็มเอฟซีจ่อระดมทุนใหม่ต้นปีหน้า

โพสต์ที่ 1

โพสต์

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 ธันวาคม 2550 09:57 น.
http://www.manager.co.th/MutualFund/Vie ... 0000153938

      กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยฮอสพิทัลลิตี้ฟันด์ ค่ายเอ็มเอฟซีสะดุด เหตุนักลงทุนต่างชาติติดปัญหาทางเทคนิดไม่สามารถนำเงินเข้ามาลงทุนได้ "พิชิต" แจงไม่เป็นปัญหาสำหรับผู้จองซื้อหน่วยรายอื่น ระบุเป็นโอกาสดีให้ประเมินตลาดอีกครั้ง หลังเลือกตั้งผ่านฉลุย มีลุ้น 30% ยกเลิก เผยเตรียมยื่น ก.ล.ต. ขอจัดตั้งกองทุนใหม่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า


 
นายพิชิต อัคราทิตย์  
 

      นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากบริษัทเปิดขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยฮอสพิทัลลิตี้ฟันด์ (THOS) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) ที่ลงทุนในโรงแรมและรีสอร์ท มูลค่าโครงการรวม 5,625 ล้านบาทไปเมื่อวันที่ 13 -19 ธันวาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่ากองทุนดังกล่าวไม่สามารภจัดตั้งกองทุนได้ เนื่องจากนักลงทุนสถาบันต่างชาติบางส่วนที่แสดงความจำนงจะลงทุน มีปัญหาทางเทคนิคในการนำเงินเข้ามาลงทุน ส่งผลให้กองทุนไม่สามารถระดมทุนได้ตามมูลค่าโครงการ
     
      ทั้งนี้ จากปัญหาทางเทคนิคที่เกิดขึ้นดังกล่าว ไม่ได้ส่งผลต่อผู้ถือหน่วยลงทุนรายอื่นที่ของซื้อหน่วยลงทุนเข้ามาแล้ว เนื่องจากบริษัทได้แจ้งให้ผู้ถือหน่วยทั้งหมดทราบก่อนแล้ว ซึ่งในแง่รายได้ของบลจ.เอ็มเอฟซีเอง ก็ไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ บริษัทจะดำเนินการยื่นขอจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยฮอสพิทัลลิตี้ฟันด์ กับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ใหม่อีกครั้ง
     
     "สาเหตุที่กองทุนไม่สามารถจัดตั้งกองทุนได้ เนื่องจากนักลงทุนสถาบันต่างชาติมีปัญหาทางเทคนิคในการนำเงินเข้ามาลงทุน ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวถือเป็นจำนวนเงินที่สูงพอสมควร โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกันเงินสำรอง 30% ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีนักลงทุนสถาบันในประเทศบางส่วนที่ติดปัญหาเงินลงทุนด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ไม่กระทบกับผู้ลงทุนรายอื่นที่จองซื้อหน่วยลงทุนเข้ามาแล้ว"นายพิชิตกล่าว
     
      นายพิชิตกล่าวว่า กองทุนดังกล่าวได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ถึงแม้ยังมีต้นทุนจากการป้องกันความเสี่ยงจากมาตรการกันเงินสำรอง 30% ที่ยังมีผลสำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์อยู่ก็ตาม ซึ่งนักลงทุนส่วนหนึ่งมองว่า เป็นการลงทุนเพื่อหาผลตอบแทนในระยะยาว ถึงแม้จะต้องหักต้นทุนเพื่อสำรองเงินเอาไว้ 1 ปีแต่ก็เชื่อว่าผลตอบแทนที่ได้รับจะสามารถชดเชยต้นทุนดังกล่าวได้ และที่สำคัญนักลงทุนเหล่านี้ ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาลงทุนเพื่อเก็งกำไรจากค่าเงินแต่อย่างใด
     
      สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ คงต้องขอจัดตั้งกองทุนกับสำนักงาน ก.ล.ต.ใหม่อีกครั้ง โดยอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงบ้างในแง่ของกองทุนรวมถึงผลตอบแทน แต่ในแง่ของสินทรัพย์ที่กองทุนลงทุนจะยังคงเป็นสินทรัพย์เดิม ทั้งนี้ คาดว่าจะมีความชัดเจนและสามารถระดมทุนได้อีกครั้งประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ซึ่งในช่วงนี้หลังจากผ่านการเลือกตั้งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถือเป็นโอกาสที่ผู้ลงทุนเองจะได้ประเมินตลาดใหม่อีกครั้งภายใต้สถานการณ์บ้านเมืองที่เปลี่ยนไป
     
      "ในแง่ของเราเองต้องพิจารณาความเสี่ยงในการจัดตั้งกองทุนด้วย ถ้าหากรอจังหวะที่เหมาะสมอีกสักพักก็คงไม่เสียหายอะไร และน่าจะส่งผลดีทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะมาตรการ 30% ที่หลายคนคาดการณ์ว่าจะถูกยกเลิกไปหลังได้รัฐบาลใหม่เข้ามา ซึ่งส่งผลดีต่อนักลงทุนบางกลุ่มที่จะเอาเงินเข้ามาลงทุน เพราะจากการโรดโชว์ทั้งในสิงคโปร์ และฮ่องกงเอง ยังเป็นห่วงเรื่องของการเมืองในประเทศอยู่ แต่หลังจากมีความชัดเจนแล้ว น่าจะเป็นจังหวะที่ดีขึ้น"นายพิชิตกล่าว
     
      สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยฮอสพิทัลลิตี้ฟันด์ ลงทุนในสินทรัพย์ 2 ประเภทในจำนวน 2 โครงการ ซึ่งประกอบด้วย อาคารสาธร ยูนีค ที่เป็นโรงแรมและคอนโดมีเนียมในกรุงเทพฯ มูลค่า 4,055 ล้านบาท และโรงแรม เลอ รอยัล เมอริเดียล ภูเก็ต ยอร์ช คลับ รีสอร์ทระดับ 5 ดาวในจังหวัดภูเก็ต มูลค่า 1,570 ล้านบาท ซึ่งสินทรัพย์ทั้ง 2 โครงการ เป็นการลงทุนโดยได้กรรมสิทธิ์เป็นสินทรัพย์ของกองทุนรวมโดยสมบูรณ์ (Freehold)
     
      โดยในส่วนของโครงการสาธร ยูนีค เป็นสินทรัพย์ประเภทโรงแรมระดัม 5 ดาว และคอนโดมีเนียมหรูใจกลางกรุงเทพ จำนวน 47 ชั้น ซึ่งปัจจุบันสร้างเสร็จแล้วประมาณ 80-90% เหลือเฉพาะงานระบบและงานตกแต่ง โดยหลังจากสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วจะดำเนินการเป็นโรงแรมและจะมีการขายพื้นที่ในส่วนของชั้น 25-44 เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับกองทุนภายใน 1-2 ปี ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีอัตราห้องพักเริ่มต้นที่ประมาณ 8,000 บาทต่อคืน ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่สามารถแข่งขันในตลาดได้ โดยในส่วนของโรงแรมบริหารงานโดย Puravarna ทีมงานบริหารโรงแรมจากสเปน
     
      ขณะที่โรงแรม เลอ รอยัล เมอริเดียล ภูเก็ต ยอร์ช คลับ จะบริหารงานโดย Puravarna เช่นกัน โดยสินทรัพย์ดังกล่าวเป็นรีสอร์ทระดับ 5 ดาว เปิดดำเนินงานมากว่า 20ปี ตั้งอยู่ในหาดในหานซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ซึ่งมีอัตราเช่าห้องพักเฉลี่ยประมาณ 60.09% ตั้งแค่ปี 2000-2006 ที่ผ่านมา      

      รายงานข่าวเปิดเผยว่า ผู้ลงทุนจะได้รับการการันตีผลตอบแทนในช่วง 5 ปีแรกในอัตรา 7% ต่อปี โดยเป็นการรับประกันรายได้จาก Puravarna ซึ่งเป็นผู้บริหารโครงการ ซึ่งหลังจากนั้น คาดดารณ์ว่ากองทุนน่าจะสามารถจ่ายผลตอบแทนได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากส่วนหนึ่งจากมาจากรายได้ของโรงแรมที่ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ
     
      ทั้งนี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยฮอสพิทัลลิตี้ฟันด์ ถือเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์กองแรกที่ลงทุนในสินทรัพย์ประเภทโรงแรมและรีสอร์ท โดยมีการกระจายความเสี่ยงการลงทุนไปยังเมืองท่องเที่ยวทั้งในเขตกรุงเทพและภูเก็ต ขณะเดียวกัน สินทรัพย์ที่ลงทุนก็เป็นกรรมสิทธิ์โดยสมบุรณ์ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะมีมูลค่าสูงขึ้นในอนาคต โดยกองทุนจะมีการบริหารกองทุนแบบ Active ที่เน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการลงทุน ซึ่งนอกจากรายได้ที่มาในรูปของค่าเช่าแล้ว กองทุนยังเน้นผลตอบแทนจากกำไรการขายสินทรัพย์ออกไปในช่วงเวลาที่เหมาะสมด้วย


เอาข่าวมาแปะเพิ่มเป็นอีกทางเลือกสำหรับกองทุนอสังหาฯนะครับ น่าสนใจที่เป็น Free hold ,รับประกันผลตอบแทน 5ปีแรก
ที่ 7% และ บริหารงานแบบ Active ครับ แต่ไว้ค่อยดูรายละเอียดอีกที กพ. ปีหน้า
nannan
Verified User
โพสต์: 28
ผู้ติดตาม: 0

กองทุนอสังหาTHOSสะดุด เอ็มเอฟซีจ่อระดมทุนใหม่ต้นปีหน้า

โพสต์ที่ 2

โพสต์

free hold ซะด้วย

ไม่น่าเกิดปัญหาเลยเนอะ

คิดถึง ing ทีชอบขาย property fund
โพสต์โพสต์