'ปลาวาฬ' ยัน 'ปลาซิว' ต่างก็ 'เจ็บ' หุ้น ปตท

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
vichit
Verified User
โพสต์: 15833
ผู้ติดตาม: 0

'ปลาวาฬ' ยัน 'ปลาซิว' ต่างก็ 'เจ็บ' หุ้น ปตท

โพสต์ที่ 1

โพสต์

'ปลาวาฬ' ยัน 'ปลาซิว' ต่างก็ 'เจ็บ' หุ้น ปตท.

เมื่อวาน...มองเธอสุดสวย รวยทรัพย์ อยากจับจอง วันนี้...มองเธอมีชนัก รักถดถอย ใจคนแปรเปลี่ยนทุกเวลา ดั่งฟ้าดินแปรผันทุกโมงยาม น้ำขึ้น-น้ำลง "มีเวลา" ไม่มีโชคชะตาที่ไม่เปลี่ยนแปลงตลอดกาล "ปตท." วันนี้ ใครๆ ก็ "ติ" ว่าเธอ "ไม่สวย" เหมือนเดิม...


๐ คืน 'ของหลวง' ให้ 'กระทรวงการคลัง'

ทรัพย์สินของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ที่ต้องตกเป็นของกระทรวงการคลังตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด บมจ.ปตท.จะต้องแบ่งแยกให้กระทรวงการคลัง ประกอบด้วย 1. ที่ดินจำนวนเนื้อที่ประมาณ 32 ไร่ อยู่ในเขตจังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง มูลค่าทางบัญชี ณ วันที่ 30 กันยายน 2544 ประมาณ 7 ล้านบาท

2. สิทธิเหนือที่ดินของเอกชนซึ่งการปิโตรเลียมฯ ได้ใช้ อำนาจมหาชนและได้จ่ายเงินค่าทดแทน ที่ได้โอนให้กับ บมจ.ปตท. มูลค่าทางบัญชี ณ วันที่ 30 กันยายน 2544 ประมาณ 1,124 ล้านบาท

3.ทรัพย์สินที่เป็นท่อส่งก๊าซธรรมชาติและอุปกรณ์ ซึ่งรวมถึงระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ 3 โครงการ ที่ระบุในคำพิพากษาของศาล คือ โครงการท่อบางปะกง-วังน้อย โครงการท่อจาก ชายแดนไทยพม่า-ราชบุรี และโครงการท่อราชบุรี-วัง น้อย ซึ่งมีมูลค่าทางบัญชี ณ วันที่ 30 กันยายน 2544 ประมาณ 14,008 ล้านบาท

รวมมูลค่าทางบัญชีของทรัพย์สินที่เป็นของกระทรวงการคลังตามคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2544 ประมาณ 15,139 ล้านบาท

ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์จะรับไปดำเนินการ กำหนดหลักเกณฑ์ในการคิดอัตราค่าเช่าในส่วนของทรัพย์สินที่เป็นระบบท่อ ในเบื้องต้น คาดว่าอัตราค่าเช่าดังกล่าว จะไม่ต่ำกว่า 5% ของรายได้ค่าผ่านท่อ (หลังหักค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการ และบำรุงรักษา 3%)

ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับภาระภาษีที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่การแปลงสภาพการปิโตรเลียมฯ จนถึงวันที่ได้แบ่งแยกทรัพย์สินอย่างถูกต้อง เช่น ภาษีที่ดิน ภาษีโรงเรือน ภาษีจากค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน ภาษีจากการหักค่าเช่าย้อนหลัง และเบี้ยปรับต่างๆ กระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทย จะผู้รับไปพิจารณาต่อไป

๐ 'องค์กรผู้บริโภค' ชี้ประเมินทรัพย์สิน 'ต่ำเกินจริง'

องค์กรผู้บริโภค ออกแถลงการณ์ผิดหวังคณะรัฐมนตรีที่มีมติเห็นชอบกับกระทรวงพลังงาน ทั้งๆ ที่ตีความทรัพย์สินของชาติแบบคับแคบ และมีแนวโน้มไม่สอดคล้องกับคำพิพากษา เปรียบเสมือนเห็นแก่ปตท. มากกว่าทรัพย์สินของชาติ เพราะที่ผ่านมาทรัพย์สินซึ่งเป็นของรัฐลดลงจากการแถลงข่าวของปตท. จากเดิมที่อ้างว่าต้องคืน "แสนล้าน" วันนี้กลับแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์เพียง 15,139 ล้านบาท

ทั้งที่หากคิดเพียงมูลค่าท่อทางทะเลมีมูลค่าสูงถึง 150,000 ล้านบาทแล้ว หรือแม้แต่ท่อก๊าซไทยพม่าใช้เงินลงทุนมากถึง 16,500 ล้านบาท โดยยังไม่รวมการรอนสิทธิ์การเวนคืนที่ดิน หากพิจารณาเฉพาะระบบท่อขนส่งก๊าซทางทะเลก็มีมูลค่าสูงเกิน 100 เท่า ที่ทางปตท.แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แล้ว

สำหรับเรื่องภาษีควรเป็นภาระของปตท.ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐที่จะต้องจ่ายภาษีแทนบริษัทปตท. การคิดค่าเช่าราคาถูกเกินไปไม่สอดคล้องกับกำไรของปตท.และอนุมัติให้เช่าระยะยาวในราคาเดิมตลอดระยะเวลาการเช่า ทำให้รัฐสูญเสียประโยชน์ ขณะที่ปตท.มีกำไรมากกว่า 100,000 ล้านบาทต่อปีในปัจจุบัน

จึงเรียกร้องให้ปตท.รับผิดชอบต่อตลาดหลักทรัพย์ หากให้ข้อมูลเท็จหรือปั่นหุ้นต่อตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้

๐ 'แฟนคลับ' ประเมินผลกระทบ 'น้อยนิด'

พิชัย ชุณหวชิร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่การเงินและบัญชีองค์กร ปตท. กล่าวว่า การที่ปตท.ต้องโอนทรัพย์สินบางส่วนคืนกระทรวงการคลังตามคำสั่งศาลนั้น ประเมินว่าการโอนทรัพย์สิน การเสียค่าปรับภาษี รวมทั้งการจ่ายผลตอบแทนค่าเช่าย้อนหลัง จะไม่กระทบงบดุลและงบกำไรขาดทุนมากนัก

ส่วนการบันทึกค่าเช่าท่อก๊าซและภาษีโอนสินทรัพย์ คาดว่าจะบันทึกในงบการเงินไตรมาส 4 ปี 2550 มีมูลค่าประมาณ 3.2 พันล้านบาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายด้านภาษีประมาณ 2 พันล้านบาท และค่าเช่าย้อนหลัง 6 ปี ภายใต้สมมติฐานต้องจ่ายค่าเช่า 5% อีก 1.2 พันล้านบาท หรือคิดเป็นค่าเช่ารายปีประมาณปีละ 200 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม คาดว่ากระบวนการการโอนสินทรัพย์และท่อก๊าซจะเสร็จสิ้นต้นปี 2551 โดยรัฐจะเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์เป็นเจ้าของสิทธิ ส่วนการใช้งาน ปตท.ยังคงได้สิทธิเหมือนเดิมทุกประการ

ทางด้านสมาคมนักวิเคราะห์ได้จัดสัมมนาเรื่อง "เจาะลึกผลกระทบปตท.หลังโอนท่อก๊าซ" ไพบูลย์ นลินทรางกูร กรรมการผู้จัดการ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า มติครม.ถือว่าออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ทำให้มีผลกระทบไม่รุนแรง โดยประเมินผลกระทบคาดว่า ปตท.ต้องจ่ายเงินปีนี้ประมาณ 3-5 พันล้านบาท ส่งผลกระทบทำให้มูลค่าหุ้นปตท.หายไปไม่เกิน 1-2 บาทต่อหุ้น เท่านั้น

ผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นมี 2 แนวทาง คือ 1.ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นครั้งเดียว ปตท.ต้องจ่ายภาษีค่าโอน คาดว่าไม่เกิน 2 พันล้านบาท ค่าผ่านท่อที่ค้างจ่ายเป็นเวลา 6 ปี แต่ละปีไม่เกิน 200 ล้านบาท มูลค่ารวม 1.2 พันล้านบาท หากรวมดอกเบี้ยไม่เกิน 1.5 พันล้านบาท และ 2.ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในแต่ละปี ปตท.ต้องจ่าย โดยเฉพาะค่าเช่าท่อ หากคิดในอัตรา 5% มูลค่า 200-300 ล้านบาทต่อปี เมื่อเทียบกับความสามารถในการทำกำไรปีละ 8-9 หมื่นล้านบาท ถือว่าไม่สูงมากนัก

มนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ความรู้สึกของนักลงทุนในประเทศดีขึ้น เพราะเห็นความชัดเจนของคดี ทำให้ความเชื่อมั่นฟื้นคืนมาได้ระดับหนึ่ง ส่วนราคาหุ้น เชื่อว่าราคาจะฟื้นขึ้นได้ เพราะเมื่อคำตัดสินออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้มุมมองต่อหุ้นปตท.เป็นบวกมากขึ้น และประเมินว่าความเห็นของนักลงทุนสถาบันก็จะใกล้เคียงกัน

เนื่องจากก่อนหน้าคำตัดสิน นักลงทุนสถาบันส่วนมากก็ลดมูลค่าเหมาะสมหุ้นปตท.ลง 40 บาท เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ บล.กิมเอ็ง ประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ระดับ 450 บาท จากเดิมที่เคยปรับลดลงไปถึงระดับ 420 บาท ในช่วงที่ยังไม่มีการอ่านคำตัดสิน

๐ พี่ใหญ่ 'กบข.' เตรียม 'ลดน้ำหนัก' หุ้นพลังงาน

วิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ในปี 2550 กบข. ถือหุ้น ปตท.อยู่เหนือน้ำหนักในดัชนี SET50 ประมาณ 1% ส่วนกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นกับ ปตท.นั้น กบข.ได้ทำการวิเคราะห์ออกมาในทุกๆ กรณีแล้ว ตั้งแต่แย่สุด และดีสุดว่า ผลจะออกมาในรูปแบบไหน

โดยมีการวิเคราะห์ผลกระทบด้านราคาตั้งแต่ 10 บาทไปจนถึง 100 บาท ซึ่งหากดูจากราคาหุ้น ปตท.ที่ระดับ 400 บาท ปรับตัวลงมาอยู่ในระดับ 350 บาท ในช่วงที่ผ่านมา ก็ปรับตัวลงมาแล้วประมาณ 50 บาท ถือว่าราคาหุ้น ปตท.อาจจะรับรู้ข้อมูลตรงนี้ไประดับหนึ่งแล้ว เพราะถ้าผลกระทบกับราคาที่ 100 บาทนั้น น่าจะเป็นอะไรที่มากเกินไปและดูไม่สมเหตุสมผล

"กบข.ในปี 2551 คงจะมีการจัดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นใหม่ แต่ในส่วนของหุ้นกลุ่มพลังงาน เรายังคงต้องรักษาระดับการลงทุนต่อไปตามน้ำหนักของดัชนี แต่คงไม่เพิ่มน้ำหนักการลงทุนเหมือนปีนี้ ส่วนของหุ้น ปตท.ก็เช่นเดียวกัน โดยจะมุ่งเน้นไปในกลุ่มที่มีรายได้อิงกับการบริโภคภายในประเทศเป็นหลักมากขึ้น"
โพสต์โพสต์