อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
- poppo
- Verified User
- โพสต์: 1356
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 31
เรื่องนี้เถียงกันยังไงก็ไม่จบ เพราะกรอบความคิดต่างกัน
ผู้ป่วยคิดว่าป่วยแล้ว แค่ไส้ติ่งอักเสบเอง ยังไงหมอก็ต้องรักษาหาย
แต่ความจริงมันมีปัจจัยอื่นๆอีกมาก เช่นโรคเดิมของผู้ป่วย ที่เราอาจทราบหรือไม่ทราบ การแพ้ยา ซึ่งถ้าเป็นครั้งแรกก็ไม่มีใครรู้และอาจตายไปเลย หรือการตอบสนองต่อยาที่ต่างกันของผู้ป่วย ซึ่งเราไม่มีทางรู้
คนไม่ใช่รถยนต์ครับ ถ้ารุ่นนี้เสียอย่างนี้ เปลี่ยนอะไหล่นี้แล้วหาย มันไม่ใช่ครับ
หมอเรารักษาตามสถิติครับ เป็น evidence base medicine
คือถ้าโรคนี้ เคยมีคนรักษาอย่างนี้ มีโอกาสหายมากกว่า
แต่ไม่สามารถรับรองร้อยเปอร์เซนต์ได้ครับ ว่าเป็นแค่ไส้ติ่งอักเสบ รักษาตามมาตรฐานแล้วไม่ตายแน่นอน หายร้อยเปอร์เซนต์
และไม่สามารถรับรองด้วยว่า ฉีดยาชาเข้าไขสันหลังแล้ว จะไม่มีข้อแทรกซ้อนร้อยเปอร์เซนต์
เมื่อเทียบสถิติแล้ว อัตราตายจากการวินิจฉัยไส้ติ่งอักเสบในไทยต่ำกว่าอเมริกา ทั้งๆที่ของอเมริกามีวิสัญญีพร้อม แพทย์ผ่าตัดเฉพาะทางพร้อม investigate เต็มที่ เรายังไม่พอใจหรือครับ
ผมยังยืนยันอย่างเดิม ว่าต้องทำให้คนเข้าใจคำว่า incidence ของข้อแทรกซ้อนทางการแพทย์ แปลว่าอาจเกิดขึ้นได้แม้รักษาตามมาตรฐานแล้ว
ผู้ป่วยคิดว่าป่วยแล้ว แค่ไส้ติ่งอักเสบเอง ยังไงหมอก็ต้องรักษาหาย
แต่ความจริงมันมีปัจจัยอื่นๆอีกมาก เช่นโรคเดิมของผู้ป่วย ที่เราอาจทราบหรือไม่ทราบ การแพ้ยา ซึ่งถ้าเป็นครั้งแรกก็ไม่มีใครรู้และอาจตายไปเลย หรือการตอบสนองต่อยาที่ต่างกันของผู้ป่วย ซึ่งเราไม่มีทางรู้
คนไม่ใช่รถยนต์ครับ ถ้ารุ่นนี้เสียอย่างนี้ เปลี่ยนอะไหล่นี้แล้วหาย มันไม่ใช่ครับ
หมอเรารักษาตามสถิติครับ เป็น evidence base medicine
คือถ้าโรคนี้ เคยมีคนรักษาอย่างนี้ มีโอกาสหายมากกว่า
แต่ไม่สามารถรับรองร้อยเปอร์เซนต์ได้ครับ ว่าเป็นแค่ไส้ติ่งอักเสบ รักษาตามมาตรฐานแล้วไม่ตายแน่นอน หายร้อยเปอร์เซนต์
และไม่สามารถรับรองด้วยว่า ฉีดยาชาเข้าไขสันหลังแล้ว จะไม่มีข้อแทรกซ้อนร้อยเปอร์เซนต์
เมื่อเทียบสถิติแล้ว อัตราตายจากการวินิจฉัยไส้ติ่งอักเสบในไทยต่ำกว่าอเมริกา ทั้งๆที่ของอเมริกามีวิสัญญีพร้อม แพทย์ผ่าตัดเฉพาะทางพร้อม investigate เต็มที่ เรายังไม่พอใจหรือครับ
ผมยังยืนยันอย่างเดิม ว่าต้องทำให้คนเข้าใจคำว่า incidence ของข้อแทรกซ้อนทางการแพทย์ แปลว่าอาจเกิดขึ้นได้แม้รักษาตามมาตรฐานแล้ว
จงทนอด และอดทน
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 32
[quote="Pn3um0n1a"]
ชีวิต ป้าๆ ลุงๆ นะครับ คุณต้องตัดสินใจเอง
ก่อนตัดสินใจ ต้องเข้าใจก่อน
ต้องเข้าใจทุกเรื่องที่เป็น
ต้องเข้าใจมากกว่าที่ผมเข้าใจ ให้ได้ เพราะคุณเป็นแค่ไม่กี่โรค แต่ผมต้องรู้เป็นร้อยเป็นพันโรค
บลาๆๆๆๆ
ชีวิต ป้าๆ ลุงๆ นะครับ คุณต้องตัดสินใจเอง
ก่อนตัดสินใจ ต้องเข้าใจก่อน
ต้องเข้าใจทุกเรื่องที่เป็น
ต้องเข้าใจมากกว่าที่ผมเข้าใจ ให้ได้ เพราะคุณเป็นแค่ไม่กี่โรค แต่ผมต้องรู้เป็นร้อยเป็นพันโรค
บลาๆๆๆๆ
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
-
- Verified User
- โพสต์: 689
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 33
ผมไม่ได้เจตนาหมายความว่า หมอเห็นแก่เงินนะครับ...ผมถึงบอกว่าคุยกันคนละเรื่องไงครับเสียหายเพราะ หมอ เห็นแก่เงิน จริง หรือไม่? ครับ พี่ลุง
ผมแค่อยากจะเน้นว่าคนเป็นหมอ เวลารักษาคนไข้ ให้นึกถึงความรู้สึกถึงตัวคนไข้ ถึงความเจ็บป่วยของคนไข้ด้วยครับ...เพื่อให้เวลารักษาจะได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความไม่ประมาท
เพราะจากที่อ่านๆมาช่วงแรกๆ...ไม่มีใครคิดถึงผู้ป่วยผู้ได้รับความเสียหายกัน มีแต่เห็นใจหมอกันทั้งนั้น เลยอยากให้มองอีกมุมหนึ่งบ้าง
ส่วนเรื่องโทษของหมอถึงแม้ว่าเค้้าจะผิดจริง...ผมก็ยังว่าติดคุกมันมากเกินไป ลองย้อนกลับไปอ่านใหม่ดูนะครับ
ที่พี่ nanchan เขียนมาก็ถูกหลายอย่าง
ขอย้ำอีกรอบครับ...ข้างล่างเนี่ย
ห้องนี้ดีครับคุยได้เหตุผล...ไม่โหวกเหวก ใช้อารมเหมือนห้องอื่นๆ...ที่เขียนมาก็แค่อยากให้นึกถึงผู้ที่ได้รับความเสียหายบ้าง...
อย่านึกถึงแต่ เงิน หรือ วัตถุนิยม หรือ ตัวเองมากไป จนลืมสามัญสำนึก หรือ คุณธรรมในใจ ที่ควรจะมีอยู่ในใจ โดยเฉพาะ ผู้ประกอบวิชาชีพ "หมอ" ที่มีแต่ชาวบ้าน ตาดำๆให้ความเคารพและนับถือ...
แต่ถ้าหมอคนนั้นไหนไม่ได้เป็นแบบที่ว่า...ก็ผ่านๆไปครับ
Quote:
...เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเข้าโรงหมอ...ชาวบ้านตาดำๆ ก็ต้องเชื่อฟังหมอ...หมอบอกอะไร ก็ต้องเชื่อ...ใครๆก็ต้องกัวตายทั้งนั้นแหละครับ...จิงมั้ยครับ...
ถ้ามีคนอื่นที่สามารถช่วยให้ตัวเองพ้นจากความตายได้...ถามว่าเค้าจะมาหาหมอมั้ยครับ
ปล...อีกอย่างอย่าเรียกผมพี่เลยครับ...ผมว่าผมก็ไม่ได้แก่กว่าหมอหลายท่านในนี้ซักเท่าไหร่... :lol: :lol: :lol:
ปล...อีกที...อาชีพทุกอาชีพ ที่ต้องให้ความรับผิดชอบ ต้องเกี่ยวข้องกับชีวิตคนทั้งชีวิต ผมว่าคนที่่ให้ความรับผิดชอบ ต้องมีสามัญสำนึกอย่างสูงครับ ทั้ง
หมอ นักบิน นักการเมือง ทหาร ตำรวจ อื่นๆ หรือ แม้แต่ สามี...จิงมั้ยครับ :shock: :shock:
-
- Verified User
- โพสต์: 391
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 34
สมมติว่า
สาเหตุจริงๆของเรื่องนี้
เกิดจากยาชาไม่ได้มาตรฐาน
และยาชาตัวนี้นี่แหละที่เป็นสาเหตุให้เกิดอาการช็อคจนเสียชีวิต
(เห็นว่าเคสนี้ใช้ marcaine)
และเจ้า marcaine ตัวนี้
มีประวัติก่อให้เกิดอาการแบบนี้มาหลายครั้งหลายครา
แต่ผู้ที่มีหน้าที่ตรวจสอบซึ่งได้แก่ อย.
ยังไม่สามารถแก้ปัญหาให้รพ.ต่างๆได้จากเหตุผลอะไรก็ตาม
แล้วยกให้หมอเป็นผู้ผิดติดคุก 3 ปี
ถามว่า
จริงๆแล้วหมอผู้รักษาจะล่วงรู้ได้อย่างไรว่ายานี้ยานั้นไม่ได้มาตรฐาน
หมอมีห้องแล็บที่ไหนจะไปเช็คว่ายาแต่ละตัวแต่ละบริษัทผ่านเกณฑ์หรือไม่
เพราะมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่นี้โดยตรงอยู่แล้ว
ที่สมมติเหตุการณ์นี้
เพราะมีเหตุเกิดเมื่อสักประมาณ 2- 3 ปีมาแล้ว
ที่รพ.ในภาคอิสาน ภาคกลาง(เหนือใต้ไม่มีข้อมูล)
หลายๆ รพ.พากันส่งคืนยา marcaineกลับ
เพราะเมื่อให้ยาผู้ป่วยแล้ว
ผู้ป่วยมีอาการความดันเลือดตกอย่างรุนแรงแรวดเร็ว
เพียงแต่อาการไม่หนักถึงชีวิต จึงไม่เป็นข่าวดังขึ้นมา
และยาล็อตที่ส่งคืนเหล่านั้นได้รับการตรวจสอบหรือไม่ ก็ไม่มีความคืบหน้า
ตามมาด้วยเหตุการณ์ขาดแคลนยา marcaine และ heavy xylocaine อยู่ช่วงใหญ่ๆ
เพราะไม่ค่อยมีบริษัทไหนผลิตกัน
เนื่องจากยากลุ่มนี้มีอัตราการใช้น้อยเมื่อเทียบกับยากลุ่มอื่นที่มี scale ใหญ่กว่ามาก
และเกิดเหตุคล้ายๆกันนี้กับยานำสลบกลุ่ม thyopental
จนหมอหลายๆรพ.ไม่กล้าใช้ยานี้
เหตุสมมตินี้มีโอกาสเป็นไปได้สูงมากแค่ไหนครับ
สาเหตุจริงๆของเรื่องนี้
เกิดจากยาชาไม่ได้มาตรฐาน
และยาชาตัวนี้นี่แหละที่เป็นสาเหตุให้เกิดอาการช็อคจนเสียชีวิต
(เห็นว่าเคสนี้ใช้ marcaine)
และเจ้า marcaine ตัวนี้
มีประวัติก่อให้เกิดอาการแบบนี้มาหลายครั้งหลายครา
แต่ผู้ที่มีหน้าที่ตรวจสอบซึ่งได้แก่ อย.
ยังไม่สามารถแก้ปัญหาให้รพ.ต่างๆได้จากเหตุผลอะไรก็ตาม
แล้วยกให้หมอเป็นผู้ผิดติดคุก 3 ปี
ถามว่า
จริงๆแล้วหมอผู้รักษาจะล่วงรู้ได้อย่างไรว่ายานี้ยานั้นไม่ได้มาตรฐาน
หมอมีห้องแล็บที่ไหนจะไปเช็คว่ายาแต่ละตัวแต่ละบริษัทผ่านเกณฑ์หรือไม่
เพราะมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่นี้โดยตรงอยู่แล้ว
ที่สมมติเหตุการณ์นี้
เพราะมีเหตุเกิดเมื่อสักประมาณ 2- 3 ปีมาแล้ว
ที่รพ.ในภาคอิสาน ภาคกลาง(เหนือใต้ไม่มีข้อมูล)
หลายๆ รพ.พากันส่งคืนยา marcaineกลับ
เพราะเมื่อให้ยาผู้ป่วยแล้ว
ผู้ป่วยมีอาการความดันเลือดตกอย่างรุนแรงแรวดเร็ว
เพียงแต่อาการไม่หนักถึงชีวิต จึงไม่เป็นข่าวดังขึ้นมา
และยาล็อตที่ส่งคืนเหล่านั้นได้รับการตรวจสอบหรือไม่ ก็ไม่มีความคืบหน้า
ตามมาด้วยเหตุการณ์ขาดแคลนยา marcaine และ heavy xylocaine อยู่ช่วงใหญ่ๆ
เพราะไม่ค่อยมีบริษัทไหนผลิตกัน
เนื่องจากยากลุ่มนี้มีอัตราการใช้น้อยเมื่อเทียบกับยากลุ่มอื่นที่มี scale ใหญ่กว่ามาก
และเกิดเหตุคล้ายๆกันนี้กับยานำสลบกลุ่ม thyopental
จนหมอหลายๆรพ.ไม่กล้าใช้ยานี้
เหตุสมมตินี้มีโอกาสเป็นไปได้สูงมากแค่ไหนครับ
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 35
[quote="nanchan"][quote="Pn3um0n1a"]
ชีวิต ป้าๆ ลุงๆ นะครับ คุณต้องตัดสินใจเอง
ก่อนตัดสินใจ ต้องเข้าใจก่อน
ต้องเข้าใจทุกเรื่องที่เป็น
ต้องเข้าใจมากกว่าที่ผมเข้าใจ ให้ได้ เพราะคุณเป็นแค่ไม่กี่โรค แต่ผมต้องรู้เป็นร้อยเป็นพันโรค
บลาๆๆๆๆ
ชีวิต ป้าๆ ลุงๆ นะครับ คุณต้องตัดสินใจเอง
ก่อนตัดสินใจ ต้องเข้าใจก่อน
ต้องเข้าใจทุกเรื่องที่เป็น
ต้องเข้าใจมากกว่าที่ผมเข้าใจ ให้ได้ เพราะคุณเป็นแค่ไม่กี่โรค แต่ผมต้องรู้เป็นร้อยเป็นพันโรค
บลาๆๆๆๆ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 36
ไม่มีหลักเกณฑ์ตัดสินหรอกครับ
แต่ผมว่ามันเป็นเรื่องของความรู้สึกและสามัญสำนึกมากกว่าครับ
ถ้าคนเป็นหมอบอกว่า คนเป็นไข้ต้องเข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไรให้ได้
เพราะคนไข้เป็นไม่กี่โรค แล้วคนไข้จะรู้ได้ไงหละครับ ว่าตัวคนไข้เองเป็นโรคอะไร แล้วบางทีโรคแทรกซ้อนต่างๆก็มี คนไข้จะมีความรู้อะไรมาวินิจฉัยตัวเองได้หละครับ ผมว่าถ้าหมอคิดกันแบบนี้ ก็เท่ากับปัดความรับผิดชอบตัวเองออกไปเลยนะครับ คือถ้าหมอให้ยาผิดนี่เท่ากับ คนไข้ไม่รู้เรื่องเอง หมอจึงสั่งยาผิดประเภท
หมอมีหน้าที่วินิจฉัยนะครับ
โดยหน้าที่หมอถ้าไม่สามารถวินิจฉัยได้ หรือไม่มั่นใจในหน้าที่ที่ตัวเองทำอยู่
ก็หาจำเป็นต้องเป็นหมอต่อไปนะครับ
หมอยังไงก็ต้องรู้มากกว่าคนไข้ จะมาบอกให้คนไข้รู้มากกว่าหมอ ผมว่าต้องนี้ไม่เข้าท่า และเท่ากับปัดความรู้ผิดชอบ
ถ้าเป็นหมอทั่วไป ไม่เฉพาะทาง ผมว่าก็น่าจะควรวินิจฉัยได้ในระดับหนึ่งว่าคนไข้เป็นโรคอะไร หรือเกี่ยวข้องกับโรคเฉพาะด้านไหน
ถ้าหมอเฉพาะทาง ก็น่าจะวินิจฉัยต่อได้ว่าควรรักษาอย่างไร
หรือจะให้คนไข้หาทางรักษาเองครับ
ที่สำคัญอย่าเข้าใจว่าผมว่าหมอนะครับ ผมว่าอาชีพอะไรก็แล้วแต่
ถ้าเราบอกว่าเราทำหน้าที่นั้นอยู่ แต่คนที่เดินเข้ามาหาเรามาถามเรา
เรากลับถามเขากลับว่าแล้วคุณไม่รู้เหรอว่าสิ่งนั้นมันเป็นอะไร ยังไง
เออ ถ้ารู้จะมาหาหรือถาม ทำไมว่ะ
เอะ หรือว่าพี่พอใจคิดว่าเข้าท่าครับ ถ้าพี่คิดว่าเข้าท่า ช่วยบอกด้วยนะครับ
ว่าเข้าท่ายังไง เพราะผมก็เขียนในสิ่งที่คิดว่าไม่เข้าท่าไปเยอะ
แต่ผมว่ามันเป็นเรื่องของความรู้สึกและสามัญสำนึกมากกว่าครับ
ถ้าคนเป็นหมอบอกว่า คนเป็นไข้ต้องเข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไรให้ได้
เพราะคนไข้เป็นไม่กี่โรค แล้วคนไข้จะรู้ได้ไงหละครับ ว่าตัวคนไข้เองเป็นโรคอะไร แล้วบางทีโรคแทรกซ้อนต่างๆก็มี คนไข้จะมีความรู้อะไรมาวินิจฉัยตัวเองได้หละครับ ผมว่าถ้าหมอคิดกันแบบนี้ ก็เท่ากับปัดความรับผิดชอบตัวเองออกไปเลยนะครับ คือถ้าหมอให้ยาผิดนี่เท่ากับ คนไข้ไม่รู้เรื่องเอง หมอจึงสั่งยาผิดประเภท
หมอมีหน้าที่วินิจฉัยนะครับ
โดยหน้าที่หมอถ้าไม่สามารถวินิจฉัยได้ หรือไม่มั่นใจในหน้าที่ที่ตัวเองทำอยู่
ก็หาจำเป็นต้องเป็นหมอต่อไปนะครับ
หมอยังไงก็ต้องรู้มากกว่าคนไข้ จะมาบอกให้คนไข้รู้มากกว่าหมอ ผมว่าต้องนี้ไม่เข้าท่า และเท่ากับปัดความรู้ผิดชอบ
ถ้าเป็นหมอทั่วไป ไม่เฉพาะทาง ผมว่าก็น่าจะควรวินิจฉัยได้ในระดับหนึ่งว่าคนไข้เป็นโรคอะไร หรือเกี่ยวข้องกับโรคเฉพาะด้านไหน
ถ้าหมอเฉพาะทาง ก็น่าจะวินิจฉัยต่อได้ว่าควรรักษาอย่างไร
หรือจะให้คนไข้หาทางรักษาเองครับ
ที่สำคัญอย่าเข้าใจว่าผมว่าหมอนะครับ ผมว่าอาชีพอะไรก็แล้วแต่
ถ้าเราบอกว่าเราทำหน้าที่นั้นอยู่ แต่คนที่เดินเข้ามาหาเรามาถามเรา
เรากลับถามเขากลับว่าแล้วคุณไม่รู้เหรอว่าสิ่งนั้นมันเป็นอะไร ยังไง
เออ ถ้ารู้จะมาหาหรือถาม ทำไมว่ะ
เอะ หรือว่าพี่พอใจคิดว่าเข้าท่าครับ ถ้าพี่คิดว่าเข้าท่า ช่วยบอกด้วยนะครับ
ว่าเข้าท่ายังไง เพราะผมก็เขียนในสิ่งที่คิดว่าไม่เข้าท่าไปเยอะ
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 37
อย่าเถียงกันเลยคับ
ผมโบ้ยไปเรื่องอื่นให้ดีกว่าคับ
วันนี้อยู่เวร เจอป้าคนนึงมาตรวจด้วยเรื่องเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด
ออกเป็นน้ำท่วมทุ่งคับ
ใส่คีมปากเป็ดไปดู น้ำเลือดเจิ่งนองคับ
ก้อคงต้องขูดมดลูก ไปอะคับ เลือดจะได้หยุด
ป้า แกก้อกำลังช็อกๆอยู่ด้วย (ให้น้ำเกลืออยู่นะคับ)
คุยไปคุยมา แกไปขูดมาแล้ว สองอาทิตย์ก่อน
ที่รพ. รัฐบาลแห่งนึง แต่เนื่องจากแกไม่มีสิทธิ์ในการรักษา
ก้อคือ ไม่มีบัตรประชาชน แกบอกว่า ใบเกิดแก ดันไปอยู่ใต้หมอน
ของพ่อแก และดันเผาไปพร้อมๆกัน ผมฟังแล้วก้องงๆ อยู่ไม่ใช่น้อยคับ และก้อบอกว่าแกไปทวงที่อ.แห่งนึง
ในจ.สระแก้ว มานานแล้ว ก้อยังไม่ได้เรื่องซะที
ทำให้ล่าสุดแกต้องไปติดเงินค่า รักษา เกือบ หมื่น ที่ รพ.รัฐบาลแห่งนั้น แล้วเขาก้อบอกว่า รักษาต่อไม่ได้หรอกป้า
ต้องไปเคลียร์สิทธิ์ป้าให้เรียบร้อยก่อน แต่พอไปถามปลัดฯ
บอกว่า ปลัดยุ่งอยู่ ต้องเคลียร์เรื่องคนในบ้านแต่งงานก่อน
จากนั้น พอผลัดมาอีก ก้อบอกว่า รอเรื่องวุ่นๆหลังเลือกตั้งเสร็จก่อน
ผมฟังมาทั้งหมด ก้องงๆ นะคับ เรื่องอย่างนี้ มันมีกันจริงๆ้ด้วยหรือไงฟะเนี่ย.....
โชคดีคับ ที่เลือดแกค่อยๆ หยุดได้เอง หลังจากให้ยาไปสักพัก
แต่เดี๋ยวอีกไม่นาน แกอาจจะกลับมาใหม่ก้อได้คับ
นิทานเรื่องนี้ บอกให้รู้ว่า
เรายังโชคดี ที่มีสิทธิการรักษา มีคนอีกมากมาย ที่ไม่มีแม้กระทั่งเงิน และสิทธิในการรักษาโรคของตัวเอง...
ผมโบ้ยไปเรื่องอื่นให้ดีกว่าคับ
วันนี้อยู่เวร เจอป้าคนนึงมาตรวจด้วยเรื่องเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด
ออกเป็นน้ำท่วมทุ่งคับ
ใส่คีมปากเป็ดไปดู น้ำเลือดเจิ่งนองคับ
ก้อคงต้องขูดมดลูก ไปอะคับ เลือดจะได้หยุด
ป้า แกก้อกำลังช็อกๆอยู่ด้วย (ให้น้ำเกลืออยู่นะคับ)
คุยไปคุยมา แกไปขูดมาแล้ว สองอาทิตย์ก่อน
ที่รพ. รัฐบาลแห่งนึง แต่เนื่องจากแกไม่มีสิทธิ์ในการรักษา
ก้อคือ ไม่มีบัตรประชาชน แกบอกว่า ใบเกิดแก ดันไปอยู่ใต้หมอน
ของพ่อแก และดันเผาไปพร้อมๆกัน ผมฟังแล้วก้องงๆ อยู่ไม่ใช่น้อยคับ และก้อบอกว่าแกไปทวงที่อ.แห่งนึง
ในจ.สระแก้ว มานานแล้ว ก้อยังไม่ได้เรื่องซะที
ทำให้ล่าสุดแกต้องไปติดเงินค่า รักษา เกือบ หมื่น ที่ รพ.รัฐบาลแห่งนั้น แล้วเขาก้อบอกว่า รักษาต่อไม่ได้หรอกป้า
ต้องไปเคลียร์สิทธิ์ป้าให้เรียบร้อยก่อน แต่พอไปถามปลัดฯ
บอกว่า ปลัดยุ่งอยู่ ต้องเคลียร์เรื่องคนในบ้านแต่งงานก่อน
จากนั้น พอผลัดมาอีก ก้อบอกว่า รอเรื่องวุ่นๆหลังเลือกตั้งเสร็จก่อน
ผมฟังมาทั้งหมด ก้องงๆ นะคับ เรื่องอย่างนี้ มันมีกันจริงๆ้ด้วยหรือไงฟะเนี่ย.....
โชคดีคับ ที่เลือดแกค่อยๆ หยุดได้เอง หลังจากให้ยาไปสักพัก
แต่เดี๋ยวอีกไม่นาน แกอาจจะกลับมาใหม่ก้อได้คับ
นิทานเรื่องนี้ บอกให้รู้ว่า
เรายังโชคดี ที่มีสิทธิการรักษา มีคนอีกมากมาย ที่ไม่มีแม้กระทั่งเงิน และสิทธิในการรักษาโรคของตัวเอง...
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 39
ขอบคุณพี่ลุงทีมครับ
ผมคิดว่าผมเข้าใจพี่ครับ
และผมก็คิดว่า พี่ก็เข้าใจ หมอ เหมือนกัน
[quote="nanchan"][quote="Pn3um0n1a"]
ชีวิต ป้าๆ ลุงๆ นะครับ คุณต้องตัดสินใจเอง
ก่อนตัดสินใจ ต้องเข้าใจก่อน
ต้องเข้าใจทุกเรื่องที่เป็น
ต้องเข้าใจมากกว่าที่ผมเข้าใจ ให้ได้ เพราะคุณเป็นแค่ไม่กี่โรค แต่ผมต้องรู้เป็นร้อยเป็นพันโรค
บลาๆๆๆๆ
ผมคิดว่าผมเข้าใจพี่ครับ
และผมก็คิดว่า พี่ก็เข้าใจ หมอ เหมือนกัน
[quote="nanchan"][quote="Pn3um0n1a"]
ชีวิต ป้าๆ ลุงๆ นะครับ คุณต้องตัดสินใจเอง
ก่อนตัดสินใจ ต้องเข้าใจก่อน
ต้องเข้าใจทุกเรื่องที่เป็น
ต้องเข้าใจมากกว่าที่ผมเข้าใจ ให้ได้ เพราะคุณเป็นแค่ไม่กี่โรค แต่ผมต้องรู้เป็นร้อยเป็นพันโรค
บลาๆๆๆๆ
- Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 41
พี่ด่วนสรุปไปนะครับ ผมว่าnanchan เขียน:โดยหน้าที่หมอถ้าไม่สามารถวินิจฉัยได้ หรือไม่มั่นใจในหน้าที่ที่ตัวเองทำอยู่
ก็หาจำเป็นต้องเป็นหมอต่อไปนะครับ
หมอยังไงก็ต้องรู้มากกว่าคนไข้ จะมาบอกให้คนไข้รู้มากกว่าหมอ ผมว่าต้องนี้ไม่เข้าท่า และเท่ากับปัดความรู้ผิดชอบ
ผมก็พยายามจะอธิบาย แต่ดูท่าจะไม่รับฟังแล้ว
ขอยืนยันว่าผมไม่เคยพูดnanchan เขียน: เรากลับถามเขากลับว่าแล้วคุณไม่รู้เหรอว่าสิ่งนั้นมันเป็นอะไร ยังไง
เออ ถ้ารู้จะมาหาหรือถาม ทำไมว่ะ
มีแต่คอยอธิบาย แต่ คนไข้สะเองที่ไม่ค่อยอยากจะฟัง
ผมก็ต้องคอยบอก คอยถามว่าตกลงรู้รึยัง สงสัยอะไรตรงไหนอีก ทุกครั้งที่นัดมาเจอกัน
คนไข้หลายๆ คน ก็รู้เรื่องโรคของเขามากกว่าที่ผมรู้ด้วย จริงๆ ครับ
ปล. ตัวแดงข้างบนสุด เจ็บจริงๆครับ
ไม่ต้องกลัวครับ ผมจะไม่พยายามเข้าไปเป็นหมอของพี่นันให้ได้หรอกครับ
เพราะผมไม่เข้าท่า สำหรับพี่
- poppo
- Verified User
- โพสต์: 1356
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 42
ใจเย็นๆครับ จริงๆไม่อยากให้ใครมาทะเลาะกันในกระทู้นี้นะครับ
แต่ผมว่าเรื่องนี้ ระหว่างผู้ป่วยกับแพทย์มีกรอบความคิดที่ต่างกันครับ
ผู้ป่วยจะรู้สึกว่า เราเป็นอะไรก็ตาม ไปหาหมอ หมอก็ต้องเป็นคนบอกเราว่าจะต้องทำยังไง เราไม่ต้องคิดอะไรอีก ฝากชีวิตไว้กับหมอเลย
แต่ความจริง แพทย์เป็นผู้ที่ทำหน้าที่ให้ข้อมูลกับคนไข้ครับ แต่ตัดสินใจแทนไม่ได้
ผมมีคนไข้สูงอายุ กระดูกสะโพกหักที่ต้องผ่าตัด ผมรู้ว่าการรักษาที่ดีที่สุดคือการผ่าตัด แต่ผมไปบอกเขาไม่ได้ว่าคุณต้องผ่าตัด เพราะถ้าเราไม่ผ่า อย่างมากก็แค่เดินไม่ได้ ต้องนอนเฉยๆบนเตียง เป็นแผลกดทับ ต่อมาปอดบวม แล้วก็ตาย แต่ไม่ได้ตายจากเรา
แต่ถ้าเราแนะนำผู้ป่วยเต็มที่ว่า ถ้าผ่าตัดต้องดมยาสลบ อาจแพ้ยาสลบถึงตาย อาจมีข้อแทรกซ้อนจากการที่ยาชาเคลื่อนไปในระดับที่สูงก็อาจจะตาย อาจเสียเลือดมากก็อาจจะตาย คิดว่าจะมีคนไข้กี่คนที่อยากจะรักษาโดยการผ่าตัด ทั้งๆที่ไม่ผ่าสุดท้ายก็ตายอยู่ดี แถมมากกว่าแบบที่ผ่าตัดด้วย
ตอนแรกๆ ผมก็แนะนำเต็มที่แบบที่เรียนมา ผลปรากฏว่า มีหลายคนที่เลือกไม่ผ่า สุดท้ายก็เลยพิการ เดินไม่ได้ อยู่บนเตียงเฉยๆ ต่อมาก็ปอดบวม เป็นแผลกดทับและเสียไป
ผมเลือกที่จะบอกข้อเสี่ยงของการผ่าตัดให้น้อยๆลง เพื่อที่จะได้ผ่าตัดให้เขาเดินได้ แต่ผมยังโชคดีที่ไม่มีใครตายคาเขียงผม
ผมทำอย่างนี้ผิดไหม
แต่ผมว่าเรื่องนี้ ระหว่างผู้ป่วยกับแพทย์มีกรอบความคิดที่ต่างกันครับ
ผู้ป่วยจะรู้สึกว่า เราเป็นอะไรก็ตาม ไปหาหมอ หมอก็ต้องเป็นคนบอกเราว่าจะต้องทำยังไง เราไม่ต้องคิดอะไรอีก ฝากชีวิตไว้กับหมอเลย
แต่ความจริง แพทย์เป็นผู้ที่ทำหน้าที่ให้ข้อมูลกับคนไข้ครับ แต่ตัดสินใจแทนไม่ได้
ผมมีคนไข้สูงอายุ กระดูกสะโพกหักที่ต้องผ่าตัด ผมรู้ว่าการรักษาที่ดีที่สุดคือการผ่าตัด แต่ผมไปบอกเขาไม่ได้ว่าคุณต้องผ่าตัด เพราะถ้าเราไม่ผ่า อย่างมากก็แค่เดินไม่ได้ ต้องนอนเฉยๆบนเตียง เป็นแผลกดทับ ต่อมาปอดบวม แล้วก็ตาย แต่ไม่ได้ตายจากเรา
แต่ถ้าเราแนะนำผู้ป่วยเต็มที่ว่า ถ้าผ่าตัดต้องดมยาสลบ อาจแพ้ยาสลบถึงตาย อาจมีข้อแทรกซ้อนจากการที่ยาชาเคลื่อนไปในระดับที่สูงก็อาจจะตาย อาจเสียเลือดมากก็อาจจะตาย คิดว่าจะมีคนไข้กี่คนที่อยากจะรักษาโดยการผ่าตัด ทั้งๆที่ไม่ผ่าสุดท้ายก็ตายอยู่ดี แถมมากกว่าแบบที่ผ่าตัดด้วย
ตอนแรกๆ ผมก็แนะนำเต็มที่แบบที่เรียนมา ผลปรากฏว่า มีหลายคนที่เลือกไม่ผ่า สุดท้ายก็เลยพิการ เดินไม่ได้ อยู่บนเตียงเฉยๆ ต่อมาก็ปอดบวม เป็นแผลกดทับและเสียไป
ผมเลือกที่จะบอกข้อเสี่ยงของการผ่าตัดให้น้อยๆลง เพื่อที่จะได้ผ่าตัดให้เขาเดินได้ แต่ผมยังโชคดีที่ไม่มีใครตายคาเขียงผม
ผมทำอย่างนี้ผิดไหม
จงทนอด และอดทน
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 43
พี่ป้อมครับ ถ้าหากว่าผมเป็นลม หรือ หมดสติไป อย่าส่งผมไปหาหมอกันต์ เชียวนะครับ :) :)
คล้าย ๆ จำได้ว่า เคยถกเรื่องนี้มาครั้หนึ่งแล้วนะ ประมาณว่า จรรยาบรรณของแพทย์ ทำนองเนี๊ยะ :?:
คล้าย ๆ จำได้ว่า เคยถกเรื่องนี้มาครั้หนึ่งแล้วนะ ประมาณว่า จรรยาบรรณของแพทย์ ทำนองเนี๊ยะ :?:
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
-
- Verified User
- โพสต์: 391
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 44
พี่ป้อม พี่นัน พี่นิวครับ
อาจจะเกิดการเข้าใจผิดในเรื่องการสื่อสาร
พี่นิวบอกว่า
พอรู้แล้วถ้าทางเลือกในการรักษามีทางเดียว
หมอนิวก็สั่งยาเลย ก็จะไปยากอะไรครับ และก็เป็นแบบนี่บ่อยๆ
ที่จริงระบบแบบนี้ก็มีให้เห็นจนเราชินตานั่นแหละ ใครไม่เคยเห็นยกมือขึ้น
อ้าว....แล้วหมอนิวยกเรื่องนี้มาพูดทำไม
ยกมาก็เพราะหมอนิวหมายถึงระบบที่ไม่ใช่ปกติที่เราเห็นชินตาไงครับ
ไม่อย่างนั้นจะเอาเรื่องชินตามาพูดทำไม
บางโรคมันมีทางเลือกหลายทางก้ำกึ่งกันและมีทั้งข้อดีข้อเสียด้วยกัน
ยกตัวอย่าง
สามีภรรยาคู่หนึ่งมาหาหมอ
ภรรยาอายุมากแล้ว แต่เพิ่งจะตั้งท้องลูกคนแรก
หมอก็บอกว่าการท้องเมื่ออายุมากนั้นมีความเสี่ยงที่ลูกจะเป็นดาวน์ซินโดรม
เอ๊ะ......เหรอคะ งั้นต้องทำอย่างไรดีคะ
หมอนิว : มี 2 วิธีครับ
1. เจาะถุงน้ำคร่ำ เพื่อตรวจ DNA ถ้าเป็นก็สามารถทำแท้งได้ ถ้าไม่เป็นก็ไม่ต้องทำอะไร
คนไข้: น่ากลัวจัง แต่ก็ต้องเจาะใช่ไหมคะ งั้นก็เอาเลยตามที่หมอว่า
หมอนิว : ยังครับ หมอต้องบอกก่อนว่า การเจาะถุงน้ำคร่ำนี้
แม้สมัยนี้จะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดการแท้งได้
คนไข้ : กี่เปอร์เซนต์คะ
หมอนิว : สัก 2-5 %ครับ
คนไข้ : อืม....สูงเหมือนกันนะคะ ไม่ค่อยอยากเสี่ยงเลยอ่ะ
หมอนิว : มีวิธีที่ 2 ครับ คือ ไม่ต้องทำอะไร ลูกก็จะไม่เสี่ยงแต่พ่อแม่จะเป็นคนเสี่ยงเอง คือเสี่ยงว่าจะได้ลูกปัญญาอ่อน
คนไข้ : มีโอกาสกี่เปอร์เซนต์คะที่จะปัญญาอ่อน
หมอนิว : ตัวเลขชัดๆเป๊ะๆ ผมไม่มีนะครับ แต่น่าจะประมาณ 1/5000 ครับ เป็นตัวเลขล่าสุด
คนไข้ : อืม....ไม่เยอะเท่าไหร่ แล้วถ้าเป็นหมอๆจะทำอย่างไรคะ
หมอนิว : หมอตัดสินใจแทนคุณไม่ได้หรอก หมอบอกทางเลือกและโอกาสได้
แต่ตัดสินใจแทนไม่ได้
คนไข้ : ทำไมล่ะคะ ก็ในเมื่อหมอมีความรู้มากกว่า
หมอนิว : ก็เพราะว่าแต่ละวิธีล้วนแล้วแต่มีความเสี่ยง
และถ้าผลออกมาในทางแย่
ตัวคุณเองนั่นแหละที่เป็นคนรับผลนั้น หมอไม่ได้รับด้วย
และถ้าคุณตัดสินใจเอง
คุณก็ย่อมจะรู้สึกรับผิดชอบในการตัดสินใจได้ดีกว่าให้หมอตัดสินใจให้
คนไข้ : อืม.....ค่ะ งั้นขอปรึกษากันก่อนนะคะ
ผ่านไป 30 นาที
คนไข้ : คุณหมอคะ สามีถามว่า ถ้าเป็นแฟนหมอเองคุณหมอจะตัดสินใจอย่างไรคะ
หมอนิว : ถ้าเป็นแฟนผม ผมเลือกที่จะไม่เจาะตรวจครับ
และขอลุ้น 1ใน 5000 และถ้าเกิดออกมาปัญญาอ่อนจริง
ผมก็ยินดีจะเลี้ยงเขาไปตลอดชีวิต
เพราะแฟนผมอายุมากแล้ว คงไม่สามารถตั้งท้องได้อีกแล้ว
แต่ที่ผมบอกคุณ ไม่ใช่บอกให้คุณทำตามนะ
เพราะคุณกับผมอาจจะคิดไม่เหมือนกันก็ได้
และคุณมีสิทธิที่จะเลือก จะโทษหมอทีหลังก็ไม่ได้เช่นกัน
คนไข้ : เข้าใจแล้วค่ะคุณหมอ ดิฉันจะเลือกเอง และก็จะไม่โทษคุณหมอ
ว่าแต่คุณหมอไปเรียนรู้วิธีแบบนี้มาจากที่ไหนคะ ดีจังเลยค่ะ
หมอนิว : อ๋อ....ผมอ่านใน tvi บ่อยๆครับ
ในนั้นมีแง่คิดดีๆเยอะเลย มีคนใจดีมาแนะนำหุ้น บอกเราทั้งข้อดีข้อเสีย แต่การตัดสินใจซื้อหุ้นต้องเป็นเรื่องของเราเอง เราจะไปโทษคนบอกไม่ได้
คนไข้ : อืม.....ดีจังเลยค่ะ ดิฉันต้องเข้า tvi บ้างแล้วล่ะ :lol:
อาจจะเกิดการเข้าใจผิดในเรื่องการสื่อสาร
พี่นิวบอกว่า
เจตนาก็คือ หมอน่ะรู้วินิจฉัย ไม่ใช่ไม่รู้ผมเอง ยังบอกคนไข้ผมทุกคน ที่ชอบบอกว่า หมอว่าไงก็ว่างั้นเถอะ
พอเจอคำนี้ คนไข้ได้ฟังผม เลคเชอร์ อีกอย่างน้อย 15 นาที แน่นอน
ชีวิต ป้าๆ ลุงๆ นะครับ คุณต้องตัดสินใจเอง
ก่อนตัดสินใจ ต้องเข้าใจก่อน
พอรู้แล้วถ้าทางเลือกในการรักษามีทางเดียว
หมอนิวก็สั่งยาเลย ก็จะไปยากอะไรครับ และก็เป็นแบบนี่บ่อยๆ
ที่จริงระบบแบบนี้ก็มีให้เห็นจนเราชินตานั่นแหละ ใครไม่เคยเห็นยกมือขึ้น
อ้าว....แล้วหมอนิวยกเรื่องนี้มาพูดทำไม
ยกมาก็เพราะหมอนิวหมายถึงระบบที่ไม่ใช่ปกติที่เราเห็นชินตาไงครับ
ไม่อย่างนั้นจะเอาเรื่องชินตามาพูดทำไม
บางโรคมันมีทางเลือกหลายทางก้ำกึ่งกันและมีทั้งข้อดีข้อเสียด้วยกัน
ยกตัวอย่าง
สามีภรรยาคู่หนึ่งมาหาหมอ
ภรรยาอายุมากแล้ว แต่เพิ่งจะตั้งท้องลูกคนแรก
หมอก็บอกว่าการท้องเมื่ออายุมากนั้นมีความเสี่ยงที่ลูกจะเป็นดาวน์ซินโดรม
เอ๊ะ......เหรอคะ งั้นต้องทำอย่างไรดีคะ
หมอนิว : มี 2 วิธีครับ
1. เจาะถุงน้ำคร่ำ เพื่อตรวจ DNA ถ้าเป็นก็สามารถทำแท้งได้ ถ้าไม่เป็นก็ไม่ต้องทำอะไร
คนไข้: น่ากลัวจัง แต่ก็ต้องเจาะใช่ไหมคะ งั้นก็เอาเลยตามที่หมอว่า
หมอนิว : ยังครับ หมอต้องบอกก่อนว่า การเจาะถุงน้ำคร่ำนี้
แม้สมัยนี้จะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดการแท้งได้
คนไข้ : กี่เปอร์เซนต์คะ
หมอนิว : สัก 2-5 %ครับ
คนไข้ : อืม....สูงเหมือนกันนะคะ ไม่ค่อยอยากเสี่ยงเลยอ่ะ
หมอนิว : มีวิธีที่ 2 ครับ คือ ไม่ต้องทำอะไร ลูกก็จะไม่เสี่ยงแต่พ่อแม่จะเป็นคนเสี่ยงเอง คือเสี่ยงว่าจะได้ลูกปัญญาอ่อน
คนไข้ : มีโอกาสกี่เปอร์เซนต์คะที่จะปัญญาอ่อน
หมอนิว : ตัวเลขชัดๆเป๊ะๆ ผมไม่มีนะครับ แต่น่าจะประมาณ 1/5000 ครับ เป็นตัวเลขล่าสุด
คนไข้ : อืม....ไม่เยอะเท่าไหร่ แล้วถ้าเป็นหมอๆจะทำอย่างไรคะ
หมอนิว : หมอตัดสินใจแทนคุณไม่ได้หรอก หมอบอกทางเลือกและโอกาสได้
แต่ตัดสินใจแทนไม่ได้
คนไข้ : ทำไมล่ะคะ ก็ในเมื่อหมอมีความรู้มากกว่า
หมอนิว : ก็เพราะว่าแต่ละวิธีล้วนแล้วแต่มีความเสี่ยง
และถ้าผลออกมาในทางแย่
ตัวคุณเองนั่นแหละที่เป็นคนรับผลนั้น หมอไม่ได้รับด้วย
และถ้าคุณตัดสินใจเอง
คุณก็ย่อมจะรู้สึกรับผิดชอบในการตัดสินใจได้ดีกว่าให้หมอตัดสินใจให้
คนไข้ : อืม.....ค่ะ งั้นขอปรึกษากันก่อนนะคะ
ผ่านไป 30 นาที
คนไข้ : คุณหมอคะ สามีถามว่า ถ้าเป็นแฟนหมอเองคุณหมอจะตัดสินใจอย่างไรคะ
หมอนิว : ถ้าเป็นแฟนผม ผมเลือกที่จะไม่เจาะตรวจครับ
และขอลุ้น 1ใน 5000 และถ้าเกิดออกมาปัญญาอ่อนจริง
ผมก็ยินดีจะเลี้ยงเขาไปตลอดชีวิต
เพราะแฟนผมอายุมากแล้ว คงไม่สามารถตั้งท้องได้อีกแล้ว
แต่ที่ผมบอกคุณ ไม่ใช่บอกให้คุณทำตามนะ
เพราะคุณกับผมอาจจะคิดไม่เหมือนกันก็ได้
และคุณมีสิทธิที่จะเลือก จะโทษหมอทีหลังก็ไม่ได้เช่นกัน
คนไข้ : เข้าใจแล้วค่ะคุณหมอ ดิฉันจะเลือกเอง และก็จะไม่โทษคุณหมอ
ว่าแต่คุณหมอไปเรียนรู้วิธีแบบนี้มาจากที่ไหนคะ ดีจังเลยค่ะ
หมอนิว : อ๋อ....ผมอ่านใน tvi บ่อยๆครับ
ในนั้นมีแง่คิดดีๆเยอะเลย มีคนใจดีมาแนะนำหุ้น บอกเราทั้งข้อดีข้อเสีย แต่การตัดสินใจซื้อหุ้นต้องเป็นเรื่องของเราเอง เราจะไปโทษคนบอกไม่ได้
คนไข้ : อืม.....ดีจังเลยค่ะ ดิฉันต้องเข้า tvi บ้างแล้วล่ะ :lol:
- Eyore
- Verified User
- โพสต์: 606
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 46
ไม่เห็นมีใครตอบคำถามผมเลยครับ
ขอถามใหม่
คำถามครับ
เห็นคนจะตกเขา
พยายามช่วยสุดชีวิต
หาเชือกเท่าที่มีมาช่วยดึง
แต่หมดแรง ทำเชือกหลุดมือ
คนตกเขาตาย
คนช่วย
สมควรตายตกตามกัน
หรือจำคุก 3 ปีไม่รอลงอาญา
เนื่องจากประมาท
หรือไม่ครับ
ถ้าคำตอบคือใช่
ตอนนี้ผมก็เริ่มคล้อยตามหมอหลายๆคนว่า
เดินไปหาคนช่วยที่หมู่บ้านที่ใกล้ที่สุดดีกว่า
ระหว่างทาง
คนนั้นอาจตกเขาตายไปก่อนก็ได้
แต่
ผมไม่ต้องตายตกตามกัน
จริงอยู่
คนที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ก็พูดได้ ว่าอย่าประมาท
แต่ใครจะรู้ล่ะครับ
ว่าเชือกจะหลุดมือหรือจะขาดตอนไหน
ผมมีทางเลือกมั้ยครับ ???
ขอถามใหม่
คำถามครับ
เห็นคนจะตกเขา
พยายามช่วยสุดชีวิต
หาเชือกเท่าที่มีมาช่วยดึง
แต่หมดแรง ทำเชือกหลุดมือ
คนตกเขาตาย
คนช่วย
สมควรตายตกตามกัน
หรือจำคุก 3 ปีไม่รอลงอาญา
เนื่องจากประมาท
หรือไม่ครับ
ถ้าคำตอบคือใช่
ตอนนี้ผมก็เริ่มคล้อยตามหมอหลายๆคนว่า
เดินไปหาคนช่วยที่หมู่บ้านที่ใกล้ที่สุดดีกว่า
ระหว่างทาง
คนนั้นอาจตกเขาตายไปก่อนก็ได้
แต่
ผมไม่ต้องตายตกตามกัน
จริงอยู่
คนที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ก็พูดได้ ว่าอย่าประมาท
แต่ใครจะรู้ล่ะครับ
ว่าเชือกจะหลุดมือหรือจะขาดตอนไหน
ผมมีทางเลือกมั้ยครับ ???
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 48
ขอชื่นชม พี่แผ่วเบา ที่เข้าใจสถานการณ์ได้อย่างลึกซึ้ง
และนำมาตอบ ด้วยการเล่าเรื่อง ที่สามารถอธิบายได้เป็นอย่างดี
กระผมเคยชินกับการที่เห็น กระทู้ล่อเป้า
โดยมีเรื่องเกี่ยวกับหมอ เป็นเป้าใหญ่ ๆ มาประจำคับ
จึงไม่ค่อยอยากตอบกระทู้ทำนองนี้เท่าไหร่นัก
แต่พอเห็น เพื่อนรัก หมอนิวกำลังมีการกระทบกระทั่งเล็กน้อย
ก้อเลยเข้ามา ช่วยอธิบายคับ
โดยส่วนตัวคับ หมอนิว เขาเป็นคนแบบเนี้ยแหละคับ
ตรงไปตรงมา บางทีก้อสื่อสาร ออกไปในทางเป็นคนแข็งๆ
ไปสักนิด แต่จิตใจเขาดีจริงๆนะคับ
ผมยังรู้สึกว่า เวลาเขาคุยกับคนไข้
ยังมีความเือื้ออาทร มากกว่า หมอหลายๆท่านซะอีกคับ
เพราะว่า เจ้าตัวเขาเชื่อในเรื่อง holistic approach
ก้อคือ แก้ปัญหาที่ต้นเหตุคับ
ซึ่งสังเกตไ้ด้ว่า
ปัจจุบันนี้ เวลาเป็นเงินเป็นทอง มากๆ
และเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มหมอ ที่นั่งคุย และอธิบายเรื่องวิธีการแก้ที่ต้นเหตุอยู่ได้นานสองนาน
(เดี๋ยวนี้หาได้ยากคับ แม้แต่ตัวผมเอง ยังยอมรับว่า ไม่ค่อยได้ทำเท่าไหร่คับ)
ผมยังเคยเห็นเขาเถียงกับเพื่อนพี่พอใจ เรื่อง การลดน้ำหนัก
และ ยังออกปาก บอกว่าจะขับรถพาไปตรวจสุขภาพให้เลยคับ
เรื่องนี้ไม่มีใครผิดถูกจริงๆนะคับ
เชื่อผมไหม เพราะมันเป็นเรื่องขอคำพูดผ่านตัวอักษร
การเถียงกันด้วยเรื่องตัวอักษรนั้น
เราจะเห็นได้ว่า เกิดปัญหา คล้ายๆน้ำผึ้งหยดเดียว
เป็นประจำ และส่วนใหญ่ปัญหานั้น มักไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่
รักกันเถอะคับ... จุ๊บ จุ๊บ
และนำมาตอบ ด้วยการเล่าเรื่อง ที่สามารถอธิบายได้เป็นอย่างดี
กระผมเคยชินกับการที่เห็น กระทู้ล่อเป้า
โดยมีเรื่องเกี่ยวกับหมอ เป็นเป้าใหญ่ ๆ มาประจำคับ
จึงไม่ค่อยอยากตอบกระทู้ทำนองนี้เท่าไหร่นัก
แต่พอเห็น เพื่อนรัก หมอนิวกำลังมีการกระทบกระทั่งเล็กน้อย
ก้อเลยเข้ามา ช่วยอธิบายคับ
โดยส่วนตัวคับ หมอนิว เขาเป็นคนแบบเนี้ยแหละคับ
ตรงไปตรงมา บางทีก้อสื่อสาร ออกไปในทางเป็นคนแข็งๆ
ไปสักนิด แต่จิตใจเขาดีจริงๆนะคับ
ผมยังรู้สึกว่า เวลาเขาคุยกับคนไข้
ยังมีความเือื้ออาทร มากกว่า หมอหลายๆท่านซะอีกคับ
เพราะว่า เจ้าตัวเขาเชื่อในเรื่อง holistic approach
ก้อคือ แก้ปัญหาที่ต้นเหตุคับ
ซึ่งสังเกตไ้ด้ว่า
ปัจจุบันนี้ เวลาเป็นเงินเป็นทอง มากๆ
และเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มหมอ ที่นั่งคุย และอธิบายเรื่องวิธีการแก้ที่ต้นเหตุอยู่ได้นานสองนาน
(เดี๋ยวนี้หาได้ยากคับ แม้แต่ตัวผมเอง ยังยอมรับว่า ไม่ค่อยได้ทำเท่าไหร่คับ)
ผมยังเคยเห็นเขาเถียงกับเพื่อนพี่พอใจ เรื่อง การลดน้ำหนัก
และ ยังออกปาก บอกว่าจะขับรถพาไปตรวจสุขภาพให้เลยคับ
เรื่องนี้ไม่มีใครผิดถูกจริงๆนะคับ
เชื่อผมไหม เพราะมันเป็นเรื่องขอคำพูดผ่านตัวอักษร
การเถียงกันด้วยเรื่องตัวอักษรนั้น
เราจะเห็นได้ว่า เกิดปัญหา คล้ายๆน้ำผึ้งหยดเดียว
เป็นประจำ และส่วนใหญ่ปัญหานั้น มักไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่
รักกันเถอะคับ... จุ๊บ จุ๊บ
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4549
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 49
ลืมบอกไปคับ
อีกอย่าง จริงๆ น่ายกย่องนะคับ
ต่างฝ่าย ต่างอยากให้ พื้นที่ที่เราอยู่นั้น เป็นไปในทางที่ดีขึ้นทั้งคู่
จริงๆน่าจะเป็นเรื่องดีนะคับ...
อีกอย่าง จริงๆ น่ายกย่องนะคับ
ต่างฝ่าย ต่างอยากให้ พื้นที่ที่เราอยู่นั้น เป็นไปในทางที่ดีขึ้นทั้งคู่
จริงๆน่าจะเป็นเรื่องดีนะคับ...
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
-
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 52
หมอก็เป็น คนครับ มีทั้งดี เเละไม่ดี
เเต่จะทำยังไง ที่จะส่งเสริมหมอ ดี
เเละป้องกัน หมอที่ไม่ดี ที่บางครั้งก็ประมาท
เคยเห็นบางประเทศ จะมีกองทุนเพื่อเยียวยา ผู้ป่วย อาจจะเก็บจากหมอทั้งประเทศ เพื่อมาชดเชยผู้ป่วยที่ได้รับผล จากการรักษาที่ผิดพลาด
หรือ อาจจะมีประกันให้หมอ ซื้อเวลารักษาคนไข้
อย่ามองหมอ เป็นสถาบันเลย คนไข้เองเวลามีปัญหากับ หมอ พอเเพทยสภา มาตรวจสอบ ก็กลัวว่าเป็นพวกหมอด้วยกัน จะช่วยกัน
ให้กำลังใจหมอทุกคนนะครับ อาชีพที่คุณทำอยู่ ยิ่งใหญ่มากๆ ได้บุญมากๆด้วย
8)
เเต่จะทำยังไง ที่จะส่งเสริมหมอ ดี
เเละป้องกัน หมอที่ไม่ดี ที่บางครั้งก็ประมาท
เคยเห็นบางประเทศ จะมีกองทุนเพื่อเยียวยา ผู้ป่วย อาจจะเก็บจากหมอทั้งประเทศ เพื่อมาชดเชยผู้ป่วยที่ได้รับผล จากการรักษาที่ผิดพลาด
หรือ อาจจะมีประกันให้หมอ ซื้อเวลารักษาคนไข้
อย่ามองหมอ เป็นสถาบันเลย คนไข้เองเวลามีปัญหากับ หมอ พอเเพทยสภา มาตรวจสอบ ก็กลัวว่าเป็นพวกหมอด้วยกัน จะช่วยกัน
ให้กำลังใจหมอทุกคนนะครับ อาชีพที่คุณทำอยู่ ยิ่งใหญ่มากๆ ได้บุญมากๆด้วย
8)
สิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นในเบื้องต้น ตั้งอยู่ เเละดับไปในที่สุด
- Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 53
ผมไม่ได้กระทบกระทั่งหรอก
ผมเชื่อคำที่คนที่ผมนับถือมากบอก
เค้าบอกว่า ไม่ต้องไปเปลี่ยนแปลงที่ตัวเค้าหรอก เราก็รับฟัง และแก้ไข
ถ้ามันไม่ตรงกัน เราก็อธิบาย ก็เท่านั้น เข้าใจก็ดีไป ไม่เข้าใจก็ปล่อยไป
แต่ก็ต้องยอมรับนะ บางคำมันเจ็บดีจริงๆ 555 :lol:
อย่างไรก็ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนนะครับ
พี่ eyore ครับ ปัจจุบันสังคมที่เจริญขึ้น แต่ จิตใจตกต่ำลง มาทำให้อะไรๆ มันคงเปลี่ยนไปจนแก้ไขได้ยาก ยิงแก้ ยิ่งพันกัน
คนมันก็มีหลายประเภท แต่เชื่อว่า เกิดจากคนส่วนน้อยมั้งครับ
คำถามนี้ ก็คงแล้วแต่คนมองล่ะครับ ว่า คนช่วยจะผิด หรือ ถูก
คนส่วนมากคงตอบว่าไม่ผิด
แต่มันก็มีคนบางคนที่ มีผลประโยชน์จากเรื่องนี้ ทำให้มันผิดจนได้....
และบังเอิญคนพวกนี้ ก็มักจะ ใหญ่กว่า หรือ มีคนพยายามทำให้ เรื่องมาใหญ่ ได้ง่ายกว่าซะด้วยเนี่ยสิครับ
ผมเชื่อคำที่คนที่ผมนับถือมากบอก
เค้าบอกว่า ไม่ต้องไปเปลี่ยนแปลงที่ตัวเค้าหรอก เราก็รับฟัง และแก้ไข
ถ้ามันไม่ตรงกัน เราก็อธิบาย ก็เท่านั้น เข้าใจก็ดีไป ไม่เข้าใจก็ปล่อยไป
แต่ก็ต้องยอมรับนะ บางคำมันเจ็บดีจริงๆ 555 :lol:
อย่างไรก็ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนนะครับ
พี่ eyore ครับ ปัจจุบันสังคมที่เจริญขึ้น แต่ จิตใจตกต่ำลง มาทำให้อะไรๆ มันคงเปลี่ยนไปจนแก้ไขได้ยาก ยิงแก้ ยิ่งพันกัน
คนมันก็มีหลายประเภท แต่เชื่อว่า เกิดจากคนส่วนน้อยมั้งครับ
คำถามนี้ ก็คงแล้วแต่คนมองล่ะครับ ว่า คนช่วยจะผิด หรือ ถูก
คนส่วนมากคงตอบว่าไม่ผิด
แต่มันก็มีคนบางคนที่ มีผลประโยชน์จากเรื่องนี้ ทำให้มันผิดจนได้....
และบังเอิญคนพวกนี้ ก็มักจะ ใหญ่กว่า หรือ มีคนพยายามทำให้ เรื่องมาใหญ่ ได้ง่ายกว่าซะด้วยเนี่ยสิครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 54
ผมไม่ใช่ผู้พิพากษานะครับEyore เขียน:ไม่เห็นมีใครตอบคำถามผมเลยครับ
ขอถามใหม่
คำถามครับ
เห็นคนจะตกเขา
พยายามช่วยสุดชีวิต
หาเชือกเท่าที่มีมาช่วยดึง
แต่หมดแรง ทำเชือกหลุดมือ
คนตกเขาตาย
คนช่วย
สมควรตายตกตามกัน
หรือจำคุก 3 ปีไม่รอลงอาญา
เนื่องจากประมาท
หรือไม่ครับ
ถ้าคำตอบคือใช่
ตอนนี้ผมก็เริ่มคล้อยตามหมอหลายๆคนว่า
เดินไปหาคนช่วยที่หมู่บ้านที่ใกล้ที่สุดดีกว่า
ระหว่างทาง
คนนั้นอาจตกเขาตายไปก่อนก็ได้
แต่
ผมไม่ต้องตายตกตามกัน
จริงอยู่
คนที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ก็พูดได้ ว่าอย่าประมาท
แต่ใครจะรู้ล่ะครับ
ว่าเชือกจะหลุดมือหรือจะขาดตอนไหน
ผมมีทางเลือกมั้ยครับ ???
แต่ลองตอบแล้วกัน
เวลาที่คนกำลังตกเขา กำลังอยู่ในสถานการณ์คับขัน ผู้ช่วยกระทำไปโดยไม่สามารถตั้งตัวก่อนได้ หรือไม่มีการเตรียมพร้อมได้ก่อน
ผมว่าไม่ประมาท
แต่ถ้าสมมุติผู้ที่ช่วยเหลือ เป็นหน่วยกู้ภัย ผมอาจจะเรียกว่าเป็นความประมาทก็ได้นะครับ เพราะถ้าทำงานด้วยหน่วยกู้ภัยแล้ว ไม่เตรียมพร้อมเลย ก็แย่นะ
อยู่ที่ว่าสถานการณ์นั้น ใครเป็นผู้กระทำ
ส่วนเคสของหมอ ถ้าอะไรที่ทำประจำ หรือสามารถเตรียมพร้อมได้ก่อน
แต่หมอเฉยเมยและไม่ปฏิบัติตามระเบียบหรือมาตรฐานปฏิบัติ
ผมว่าหมอประมาทนะครับ
อย่างโรงพยาบาลก็มีห้องฉุกเฉิน และเครื่องมือเครื่องใช้ก็ควรอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เวลาเกิดภาวะฉุกเฉินก็ต้องหยิบฉวยได้สดวก
หมอผู้รับผิดชอบจะมาบอกว่าเครื่องขัดข้อง นี่มันก็กระไรอยู่
สรุปคือ ถ้าเป็นเหตุการณ์ที่สามารถหรือมีเวลาไตร่ตรองได้ก่อนหรือเตรียมพร้อมได้ การกระทำผิดพลาด น่าจะเป็นความประมาท
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
- Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 55
เห็นด้วยอย่างยิ่งterati20 เขียน:หมอก็เป็น คนครับ มีทั้งดี เเละไม่ดี
เเต่จะทำยังไง ที่จะส่งเสริมหมอ ดี
เเละป้องกัน หมอที่ไม่ดี ที่บางครั้งก็ประมาท
แต่ที่ผมเห็นว่า มีบางกลุ่มคนแก้ปัญหา ไปผิดทาง
คือการผลิตแพทย์เพิ่ม...
โดยไม่ได้ดูศักยภาพในการผลิตของประเทศเลย
อยย่างนี้ ผิดที่ข้อหลังของพี่เทราติ จังๆ
ถ้ามองโลกในแง่ร้าย อนาคตการแพทย์นี่ ไม่อยากนึกเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 2266
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 56
หมอนี่อีกกี่ปี ก็ไม่มีทางแก้จริงๆ
ถ้าตั้งใจทำงานเพราะประชาชนจะจน (ทำงานโรงพยาบาลรัฐ)
ถ้าทำงานสบายจะรวย (เอกชน)
ทำงานดีก็เสมอตัว ก็มรึงงงงเป็นหมอนี่มีหน้าที่รักษา
ทำงานพลาดคนไข้เสียชีวิต ก็กลุ้มใจเองอยู่แล้วยังโดนฟ้องได้อีก
ผมคิดว่าประเทศไทยต้องการแพทย์เพิ่งจริงๆนะหมอนิว
คนไทยมีหมอต่อประชากรน้อยจริงๆ
แต่ว่า เราต้องพร้อมกว่านี้หน่อย ทั้งด้านคน และเครื่องมือ
ความเป็นห่วงคืออีกไม่นาน คนเก่งๆ จะไม่เรียนหมอแล้วครับ
เมือก่อนจบแล้วเป็นที่นับหน้าถือตา ได้ช่วยเหลือคน
เดี๋ยวนี้กับเหมือนแพะ ไม่มีใครเคารพอีกแล้ว เห็นข่าวฟ้องกันเป็นว่าเล่น
เหมือนที่พี่นันบอกครับ ว่าถ้าไม่พร้อมควรผิด
แต่บางครั้งมันไม่มีคำตอบที่ถูกที่สุด....
เพื่อนเล่าให้ฟังว่า
มีคนป่วยมาที่โรงพยาบาลอำเภอที่มันอยู่
โอกาสตาย 50-50 แต่ถ้าส่งโรงพยาบาลใหญ่น่าจะรอดได้ แต่โรงพยาบาลประจำจังหวัด ต้องเดินทางอีก 2 ชม ซึ่งตอนนั้นไม่แน่ใจว่าคนไข้จะทนไหวหรือเปล่า
แต่ถ้าให้หมอฝึกหัดอย่างมันผ่า มันก็ไม่กล้าผ่าเพราะเป็น case แรก เคยเห็นแต่อาจารย์หมดผ่า มันยืนยันว่ามันผ่าไม่ได้
ครอบครัวคนไข้พยายามบอกให้มันผ่าให้ได้เพราะว่า มันเป็นหมอและมาถึงโรงพยาบาลแล้ว
สุดท้ายส่งโรงบาลใหญ่ แล้วคนไข้รอด
แต่ถ้าเพือนผมผ่าแล้วไม่รอด หรือถ้าคนไข้เสียชีวิตก่อนถึงมือหมอที่โรงพยาบาล
ผมอาจต้องไปเยียมมันในคุกหรือเปล่าก็ไม่รู้ แล้วใครผิดครับใน case อย่างนี้
ถ้าตั้งใจทำงานเพราะประชาชนจะจน (ทำงานโรงพยาบาลรัฐ)
ถ้าทำงานสบายจะรวย (เอกชน)
ทำงานดีก็เสมอตัว ก็มรึงงงงเป็นหมอนี่มีหน้าที่รักษา
ทำงานพลาดคนไข้เสียชีวิต ก็กลุ้มใจเองอยู่แล้วยังโดนฟ้องได้อีก
ผมคิดว่าประเทศไทยต้องการแพทย์เพิ่งจริงๆนะหมอนิว
คนไทยมีหมอต่อประชากรน้อยจริงๆ
แต่ว่า เราต้องพร้อมกว่านี้หน่อย ทั้งด้านคน และเครื่องมือ
ความเป็นห่วงคืออีกไม่นาน คนเก่งๆ จะไม่เรียนหมอแล้วครับ
เมือก่อนจบแล้วเป็นที่นับหน้าถือตา ได้ช่วยเหลือคน
เดี๋ยวนี้กับเหมือนแพะ ไม่มีใครเคารพอีกแล้ว เห็นข่าวฟ้องกันเป็นว่าเล่น
เหมือนที่พี่นันบอกครับ ว่าถ้าไม่พร้อมควรผิด
แต่บางครั้งมันไม่มีคำตอบที่ถูกที่สุด....
เพื่อนเล่าให้ฟังว่า
มีคนป่วยมาที่โรงพยาบาลอำเภอที่มันอยู่
โอกาสตาย 50-50 แต่ถ้าส่งโรงพยาบาลใหญ่น่าจะรอดได้ แต่โรงพยาบาลประจำจังหวัด ต้องเดินทางอีก 2 ชม ซึ่งตอนนั้นไม่แน่ใจว่าคนไข้จะทนไหวหรือเปล่า
แต่ถ้าให้หมอฝึกหัดอย่างมันผ่า มันก็ไม่กล้าผ่าเพราะเป็น case แรก เคยเห็นแต่อาจารย์หมดผ่า มันยืนยันว่ามันผ่าไม่ได้
ครอบครัวคนไข้พยายามบอกให้มันผ่าให้ได้เพราะว่า มันเป็นหมอและมาถึงโรงพยาบาลแล้ว
สุดท้ายส่งโรงบาลใหญ่ แล้วคนไข้รอด
แต่ถ้าเพือนผมผ่าแล้วไม่รอด หรือถ้าคนไข้เสียชีวิตก่อนถึงมือหมอที่โรงพยาบาล
ผมอาจต้องไปเยียมมันในคุกหรือเปล่าก็ไม่รู้ แล้วใครผิดครับใน case อย่างนี้
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
-
- Verified User
- โพสต์: 391
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 57
ตอบคำถามพี่ eyore ครับ
ตามความเห็นผมแล้ว
กรณีตัวอย่างไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับกรณีหมอได้
เพราะว่าหมอนั้นมี "หน้าที่" ที่จะต้องช่วยเหลือ
แต่คนที่เห็นคนกำลังตกเขา
เขาไม่ได้เงินเดือนประจำในการช่วยคนตกเขา
เขาจึงไม่มีหน้าที่โดยตรงจากข้อผูกพันเรื่องค่าตอบแทน
แต่เขาก็มีหน้าที่ในฐานะ "มนุษยธรรม"
และมีหน้าที่ตามกฏหมายว่าด้วยการมิให้ละเว้นการกระทำและปล่อยให้ผู้อื่นตกอยู่ในอันตราย
และถ้าเขาเข้าไปช่วยแล้วตามหลักมนุษยธรรมและกฏหมาย
แต่ไม่สามารถช่วยได้
เขาก็ไม่สมควรต้องรับผิด
ไม่อย่างนั้นจะก่อให้เกิดค่านิยมในการนิ่งดูดาย
พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสีย ตำลึงทอง
ซึ่งเป็นอันตรายกับสังคมมาก และจะเป็นสังคมที่แล้งน้ำใจ ไม่น่าอยู่
ตามความเห็นผมแล้ว
กรณีตัวอย่างไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับกรณีหมอได้
เพราะว่าหมอนั้นมี "หน้าที่" ที่จะต้องช่วยเหลือ
แต่คนที่เห็นคนกำลังตกเขา
เขาไม่ได้เงินเดือนประจำในการช่วยคนตกเขา
เขาจึงไม่มีหน้าที่โดยตรงจากข้อผูกพันเรื่องค่าตอบแทน
แต่เขาก็มีหน้าที่ในฐานะ "มนุษยธรรม"
และมีหน้าที่ตามกฏหมายว่าด้วยการมิให้ละเว้นการกระทำและปล่อยให้ผู้อื่นตกอยู่ในอันตราย
และถ้าเขาเข้าไปช่วยแล้วตามหลักมนุษยธรรมและกฏหมาย
แต่ไม่สามารถช่วยได้
เขาก็ไม่สมควรต้องรับผิด
ไม่อย่างนั้นจะก่อให้เกิดค่านิยมในการนิ่งดูดาย
พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสีย ตำลึงทอง
ซึ่งเป็นอันตรายกับสังคมมาก และจะเป็นสังคมที่แล้งน้ำใจ ไม่น่าอยู่
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 58
[quote="แผ่วเบา"]ตอบคำถามพี่ eyore ครับ
ตามความเห็นผมแล้ว
กรณีตัวอย่างไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับกรณีหมอได้
เพราะว่าหมอนั้นมี "หน้าที่" ที่จะต้องช่วยเหลือ
แต่คนที่เห็นคนกำลังตกเขา
เขาไม่ได้เงินเดือนประจำในการช่วยคนตกเขา
เขาจึงไม่มีหน้าที่โดยตรงจากข้อผูกพันเรื่องค่าตอบแทน
แต่เขาก็มีหน้าที่ในฐานะ "มนุษยธรรม"
และมีหน้าที่ตามกฏหมายว่าด้วยการมิให้ละเว้นการกระทำและปล่อยให้ผู้อื่นตกอยู่ในอันตราย
ตามความเห็นผมแล้ว
กรณีตัวอย่างไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับกรณีหมอได้
เพราะว่าหมอนั้นมี "หน้าที่" ที่จะต้องช่วยเหลือ
แต่คนที่เห็นคนกำลังตกเขา
เขาไม่ได้เงินเดือนประจำในการช่วยคนตกเขา
เขาจึงไม่มีหน้าที่โดยตรงจากข้อผูกพันเรื่องค่าตอบแทน
แต่เขาก็มีหน้าที่ในฐานะ "มนุษยธรรม"
และมีหน้าที่ตามกฏหมายว่าด้วยการมิให้ละเว้นการกระทำและปล่อยให้ผู้อื่นตกอยู่ในอันตราย
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 689
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 59
สรุปเลยนะครับ...ใครจะคิดว่าใครผิดก็ช่าง...<เพราะขี้เกียจมานั่งอ่านนั่งเถียงอีกแล้ว...>
...เวลาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ก็มานั่งวิจารณ์กัน โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้สูญเสีย และ ครอบครัวผู้สูญเสีย...
คิดแต่ว่าผู้สูญเสียจะเอาเปรียบ เรียกค่าเสียหายมโหฬาร บานตะไท
สังคม และ กฎกติกา มันไม่โหดร้ายต่อหมอขนาดนั้นหรอกนะครับ
เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่สามัญสำนึก อยู่ที่ความรับผิดชอบมากกว่า และ ก็อยู่บนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง
...บางท่านก็บอกว่าเสียกำลังใจมาก <หมายถึงที่อ่านๆมาในเวปอื่นๆนะครับ> ประเภทว่า ต่อไปไม่กล้าทำอะไรอีกแล้ว...<ถึงแม้ความรู้สึกที่เค้าเขียนมาอาจจะแค่ประชด หรือ คิดจริง ก็ไม่รู้> แต่แบบนี้มันผิดต่อหน้าที่
ผิีดต่อความรับผิดชอบของตัวเองรึป่าวครับ...
ผมถึงอยากบอก...ถ้าคิดได้แค่นี้ อย่ามาเป็นหมอเลย ...เอาเวลาไปเล่นหุ้นหรือ ทำอย่างอื่นดีกว่า...เหนื่อยน้อยกว่ากันเยอะ...ไม่ต้องคิดถึงผู้อื่น คิดถึงแต่ตัวเอง ไม่ต้องรับผิดชอบมากด้วย...จิงมั้ยครับ :lol: :lol: :lol: :lol:
ปล...ถ้าชาวบ้านตาดำๆเค้ามีความรู้ความเชี่ยวชาญดีกว่าหมอ เค้าคงไม่ต้องมาหาหมอหรอกนะครับ...
ผมเคยเข้าไปดูคนไข้ และ ญาติคนไข้ ต้องมานั่งเฝ้ารอหมอ เพื่อรับการตรวจรักษา ตามคิว ตาม รพ. รัฐ เป็นชม.ๆ บางคนดูสีหน้าก็รู้ว่าอาการไม่สู้ดี...แต่ต้องทน
ผมเห็นแล้วสงสารเค้าครับ...ถ้าผมช่วยเค้าได้ผมทำไปแล้ว...แต่ผมไม่ใช่หมอครับ...
เรื่องบางอย่างเข้าใจครับว่า มันอาจจะเกิดเหตุการณ์สุดวิสัยขึ้นได้ อาจจะ 1/100 หรือ 1/1000 แต่ถ้าเราทำอะไรอย่างรอบคอบแล้ว โอกาสสูญเสียอย่างนี้มันไม่เกิดหรอก หรือ อาจลดลงไปได้อีกมากครับ...แต่คนเป็นหมอทำอะไรก็ควรจะนึก ความเจ็บปวด ความรู้สึก ความทรมาน ของคนไข้ตลอดเวลา เวลาวินิจฉัยโรคอะไร จะได้อยู่บนพื้นฐานแห่งความไม่ประมาท..
...เวลาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ก็มานั่งวิจารณ์กัน โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้สูญเสีย และ ครอบครัวผู้สูญเสีย...
คิดแต่ว่าผู้สูญเสียจะเอาเปรียบ เรียกค่าเสียหายมโหฬาร บานตะไท
สังคม และ กฎกติกา มันไม่โหดร้ายต่อหมอขนาดนั้นหรอกนะครับ
เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่สามัญสำนึก อยู่ที่ความรับผิดชอบมากกว่า และ ก็อยู่บนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง
...บางท่านก็บอกว่าเสียกำลังใจมาก <หมายถึงที่อ่านๆมาในเวปอื่นๆนะครับ> ประเภทว่า ต่อไปไม่กล้าทำอะไรอีกแล้ว...<ถึงแม้ความรู้สึกที่เค้าเขียนมาอาจจะแค่ประชด หรือ คิดจริง ก็ไม่รู้> แต่แบบนี้มันผิดต่อหน้าที่
ผิีดต่อความรับผิดชอบของตัวเองรึป่าวครับ...
ผมถึงอยากบอก...ถ้าคิดได้แค่นี้ อย่ามาเป็นหมอเลย ...เอาเวลาไปเล่นหุ้นหรือ ทำอย่างอื่นดีกว่า...เหนื่อยน้อยกว่ากันเยอะ...ไม่ต้องคิดถึงผู้อื่น คิดถึงแต่ตัวเอง ไม่ต้องรับผิดชอบมากด้วย...จิงมั้ยครับ :lol: :lol: :lol: :lol:
ปล...ถ้าชาวบ้านตาดำๆเค้ามีความรู้ความเชี่ยวชาญดีกว่าหมอ เค้าคงไม่ต้องมาหาหมอหรอกนะครับ...
ผมเคยเข้าไปดูคนไข้ และ ญาติคนไข้ ต้องมานั่งเฝ้ารอหมอ เพื่อรับการตรวจรักษา ตามคิว ตาม รพ. รัฐ เป็นชม.ๆ บางคนดูสีหน้าก็รู้ว่าอาการไม่สู้ดี...แต่ต้องทน
ผมเห็นแล้วสงสารเค้าครับ...ถ้าผมช่วยเค้าได้ผมทำไปแล้ว...แต่ผมไม่ใช่หมอครับ...
-
- Verified User
- โพสต์: 2266
- ผู้ติดตาม: 0
อุทาหรณ์สอนใจหมอทั้งหลาย
โพสต์ที่ 60
เรื่องบางอย่างเข้าใจครับว่า มันอาจจะเกิดเหตุการณ์สุดวิสัยขึ้นได้ อาจจะ 1/100 หรือ 1/1000 แต่ถ้าเราทำอะไรอย่างรอบคอบแล้ว โอกาสสูญเสียอย่างนี้มันไม่เกิดหรอก หรือ อาจลดลงไปได้อีกมากครับ...ลุงทีม เขียน:สรุปเลยนะครับ...ใครจะคิดว่าใครผิดก็ช่าง...<เพราะขี้เกียจมานั่งอ่านนั่งเถียงอีกแล้ว...>
...เวลาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ก็มานั่งวิจารณ์กัน โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้สูญเสีย และ ครอบครัวผู้สูญเสีย...
คิดแต่ว่าผู้สูญเสียจะเอาเปรียบ เรียกค่าเสียหายมโหฬาร บานตะไท
สังคม และ กฎกติกา มันไม่โหดร้ายต่อหมอขนาดนั้นหรอกนะครับ
เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่สามัญสำนึก อยู่ที่ความรับผิดชอบมากกว่า และ ก็อยู่บนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง
...บางท่านก็บอกว่าเสียกำลังใจมาก <หมายถึงที่อ่านๆมาในเวปอื่นๆนะครับ> ประเภทว่า ต่อไปไม่กล้าทำอะไรอีกแล้ว...<ถึงแม้ความรู้สึกที่เค้าเขียนมาอาจจะแค่ประชด หรือ คิดจริง ก็ไม่รู้> แต่แบบนี้มันผิดต่อหน้าที่
ผิีดต่อความรับผิดชอบของตัวเองรึป่าวครับ...
ผมถึงอยากบอก...ถ้าคิดได้แค่นี้ อย่ามาเป็นหมอเลย ...เอาเวลาไปเล่นหุ้นหรือ ทำอย่างอื่นดีกว่า...เหนื่อยน้อยกว่ากันเยอะ...ไม่ต้องคิดถึงผู้อื่น คิดถึงแต่ตัวเอง ไม่ต้องรับผิดชอบมากด้วย...จิงมั้ยครับ :lol:
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่