ขอคำแนะนำพี่ๆครับ เรือรั่ว น้ำเข้าครับ
- Prelude
- Verified User
- โพสต์: 50
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำพี่ๆครับ เรือรั่ว น้ำเข้าครับ
โพสต์ที่ 1
สวัสดีครับ พี่ๆทุกคน ผมเป็นคนหนึ่งที่ติดตามบอร์ดนี้มานาน แต่ไม่เคยออกความเห็นครับ เป็นนักอ่านมากกว่าครับ ผมจะขอคำปรึกษาครับ
มีหุ้นที่ผมถืออยู่ 2 ตัว ทำให้เรือรั่วครับ (มี U กับ T ครับ)
ทั้ง 2 ตัว ผมถือมาหลายเดือนแล้วครับ เรียกว่าทำกำไรให้อย่างงดงามเลย มีตัวหนึ่งเป็นหุ้น 2 เด้งด้วย
แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันครับ คือ อยู่ๆราคามันก็ลงมาอย่างถล่มทลาย ซึ่งผมเองทีแรกก็ไม่ตกใจครับ คิดว่ามันลงมา เราก็ซื้อเพิ่มเพราะคิดว่าเป็นโอกาส ก็เลยขายหุ้นตัวอื่นทีละตัว มาเก็บ 2 ตัวนี้
จากเดิม มีหุ้นในพอร์ต 7 - 8 ตัวครับ ตอนนี้ กลายเป็นผมเหลือแค่ 2 ตัวข้างต้นครับ แดงเถือกเต็มพอร์ตเลย กลายเป็นว่ากำไรที่สะสมมากว่าครึ่งปี หายไปหมดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ เพิ่งเคยเจอแบบนี้ครั้งแรกครับ มึนไปเลย ตกใจมากครับ (จากเดิม ไม่ตกใจนะครับเนี่ย)
ผมเลยจะขอคำแนะนำครับว่า ถ้าเป็นพี่ๆ จะทำอย่างผมไหม หรือว่ามีวิธีบริหารพอร์ตแบบไหน ในสถานการณ์แบบนี้ครับ แล้วผมควรจะทำอย่างไรต่อดี ใจเย็นถือต่อไปแล้วดูมันร่วงไปเรื่อยๆ หรือว่าควรยอมรับการขาดทุน ขายเพื่อลดความเสี่ยงลงไปบ้าง
ขอบคุณครับ
มีหุ้นที่ผมถืออยู่ 2 ตัว ทำให้เรือรั่วครับ (มี U กับ T ครับ)
ทั้ง 2 ตัว ผมถือมาหลายเดือนแล้วครับ เรียกว่าทำกำไรให้อย่างงดงามเลย มีตัวหนึ่งเป็นหุ้น 2 เด้งด้วย
แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันครับ คือ อยู่ๆราคามันก็ลงมาอย่างถล่มทลาย ซึ่งผมเองทีแรกก็ไม่ตกใจครับ คิดว่ามันลงมา เราก็ซื้อเพิ่มเพราะคิดว่าเป็นโอกาส ก็เลยขายหุ้นตัวอื่นทีละตัว มาเก็บ 2 ตัวนี้
จากเดิม มีหุ้นในพอร์ต 7 - 8 ตัวครับ ตอนนี้ กลายเป็นผมเหลือแค่ 2 ตัวข้างต้นครับ แดงเถือกเต็มพอร์ตเลย กลายเป็นว่ากำไรที่สะสมมากว่าครึ่งปี หายไปหมดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ เพิ่งเคยเจอแบบนี้ครั้งแรกครับ มึนไปเลย ตกใจมากครับ (จากเดิม ไม่ตกใจนะครับเนี่ย)
ผมเลยจะขอคำแนะนำครับว่า ถ้าเป็นพี่ๆ จะทำอย่างผมไหม หรือว่ามีวิธีบริหารพอร์ตแบบไหน ในสถานการณ์แบบนี้ครับ แล้วผมควรจะทำอย่างไรต่อดี ใจเย็นถือต่อไปแล้วดูมันร่วงไปเรื่อยๆ หรือว่าควรยอมรับการขาดทุน ขายเพื่อลดความเสี่ยงลงไปบ้าง
ขอบคุณครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำพี่ๆครับ เรือรั่ว น้ำเข้าครับ
โพสต์ที่ 2
คงไม่เกี่ยวกับราคาที่ลดลง หรือเพิ่มขึ้นชั่วคราว หากเรารู้ราคาของหุ้นตัวนั้นๆ
เช่น หุ้น A เราดูทุกอย่างแล้วให้ราคา XX หากเราซื้อแล้วราคาขึ้นไป เป็น XX+YY
เราก็ดีใจใช่ปะ เพราะซื้อแล้วราคาขึ้น แต่ราคาที่เราคิดว่า เหมาะสมสำหรับเราก็ยังคงเป็น XX
สักพัก ราคาไหลลงมาเป็น XX- ZZ
เราก็ตกใจ เอ๊ะ หุ้นดีทำไมราคาลง
จะซื้อเพิ่ม หรือจะ cut loss
ก็ต้องกลับไป ดูกิจการแหละครับ มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่
แล้วราคา XX ที่เราเคยคำนวณไว้นั้น เรายังคิดอย่างนั้นหรือไม่ เพราะอะไร
สำหรับผมแล้ว ปัญหานี้ คือปัญหาเรื่องการซื้อแพง โดยมากก็คือซื้อหุ้น PE แพงๆ แล้วให้เหตุผลเข้าข้างตัวเอง ว่า ยังดีอยู่ ยังไปต่อได้ หุ้นที่ PE แพงๆ ส่วนใหญ่ ไม่ได้มีอัตราการเติบโตอย่างมากอีกต่อไปแล้ว เพราะ ราคาขึ้นมาสะท้อนอนาคต จนกระทั่งอนาคตไม่สามารถทำกำไรได้ทัน ผลคือ PE ก็เลยสูงมาก
ถ้าเรามั่นใจกิจการ และตรวจสอบแล้วว่า ทุกอย่างดำเนินการตามปกติ กำไรก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราก็ต้องมาดูกันครับ ว่า ราคา XX ที่เราให้ไว้ อาจจะผิดพลาด ตรง เราซื้อแพงไปครับ ทางแก้คือ รอให้ราคากลับมาที่ XX แล้วค่อยว่ากัน
ทำไมถึงบอกให้รอราคากลับมาที่เดิม เพราะเหตุว่า กิจการยังดี และพื้นฐานยังแกร่ง และเคยเทรดที่ราคาสูงกว่า XX
เช่น หุ้น A เราดูทุกอย่างแล้วให้ราคา XX หากเราซื้อแล้วราคาขึ้นไป เป็น XX+YY
เราก็ดีใจใช่ปะ เพราะซื้อแล้วราคาขึ้น แต่ราคาที่เราคิดว่า เหมาะสมสำหรับเราก็ยังคงเป็น XX
สักพัก ราคาไหลลงมาเป็น XX- ZZ
เราก็ตกใจ เอ๊ะ หุ้นดีทำไมราคาลง
จะซื้อเพิ่ม หรือจะ cut loss
ก็ต้องกลับไป ดูกิจการแหละครับ มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่
แล้วราคา XX ที่เราเคยคำนวณไว้นั้น เรายังคิดอย่างนั้นหรือไม่ เพราะอะไร
สำหรับผมแล้ว ปัญหานี้ คือปัญหาเรื่องการซื้อแพง โดยมากก็คือซื้อหุ้น PE แพงๆ แล้วให้เหตุผลเข้าข้างตัวเอง ว่า ยังดีอยู่ ยังไปต่อได้ หุ้นที่ PE แพงๆ ส่วนใหญ่ ไม่ได้มีอัตราการเติบโตอย่างมากอีกต่อไปแล้ว เพราะ ราคาขึ้นมาสะท้อนอนาคต จนกระทั่งอนาคตไม่สามารถทำกำไรได้ทัน ผลคือ PE ก็เลยสูงมาก
ถ้าเรามั่นใจกิจการ และตรวจสอบแล้วว่า ทุกอย่างดำเนินการตามปกติ กำไรก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราก็ต้องมาดูกันครับ ว่า ราคา XX ที่เราให้ไว้ อาจจะผิดพลาด ตรง เราซื้อแพงไปครับ ทางแก้คือ รอให้ราคากลับมาที่ XX แล้วค่อยว่ากัน
ทำไมถึงบอกให้รอราคากลับมาที่เดิม เพราะเหตุว่า กิจการยังดี และพื้นฐานยังแกร่ง และเคยเทรดที่ราคาสูงกว่า XX
- jung_oh
- Verified User
- โพสต์: 734
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำพี่ๆครับ เรือรั่ว น้ำเข้าครับ
โพสต์ที่ 3
อ่านแล้วโดนคับJeng เขียน:คงไม่เกี่ยวกับราคาที่ลดลง หรือเพิ่มขึ้นชั่วคราว หากเรารู้ราคาของหุ้นตัวนั้นๆ
เช่น หุ้น A เราดูทุกอย่างแล้วให้ราคา XX หากเราซื้อแล้วราคาขึ้นไป เป็น XX+YY
เราก็ดีใจใช่ปะ เพราะซื้อแล้วราคาขึ้น แต่ราคาที่เราคิดว่า เหมาะสมสำหรับเราก็ยังคงเป็น XX
สักพัก ราคาไหลลงมาเป็น XX- ZZ
เราก็ตกใจ เอ๊ะ หุ้นดีทำไมราคาลง
จะซื้อเพิ่ม หรือจะ cut loss
ก็ต้องกลับไป ดูกิจการแหละครับ มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่
แล้วราคา XX ที่เราเคยคำนวณไว้นั้น เรายังคิดอย่างนั้นหรือไม่ เพราะอะไร
สำหรับผมแล้ว ปัญหานี้ คือปัญหาเรื่องการซื้อแพง โดยมากก็คือซื้อหุ้น PE แพงๆ แล้วให้เหตุผลเข้าข้างตัวเอง ว่า ยังดีอยู่ ยังไปต่อได้ หุ้นที่ PE แพงๆ ส่วนใหญ่ ไม่ได้มีอัตราการเติบโตอย่างมากอีกต่อไปแล้ว เพราะ ราคาขึ้นมาสะท้อนอนาคต จนกระทั่งอนาคตไม่สามารถทำกำไรได้ทัน ผลคือ PE ก็เลยสูงมาก
ถ้าเรามั่นใจกิจการ และตรวจสอบแล้วว่า ทุกอย่างดำเนินการตามปกติ กำไรก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราก็ต้องมาดูกันครับ ว่า ราคา XX ที่เราให้ไว้ อาจจะผิดพลาด ตรง เราซื้อแพงไปครับ ทางแก้คือ รอให้ราคากลับมาที่ XX แล้วค่อยว่ากัน
ทำไมถึงบอกให้รอราคากลับมาที่เดิม เพราะเหตุว่า กิจการยังดี และพื้นฐานยังแกร่ง และเคยเทรดที่ราคาสูงกว่า XX
-
- Verified User
- โพสต์: 1976
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำพี่ๆครับ เรือรั่ว น้ำเข้าครับ
โพสต์ที่ 4
กลุ่มเรือน่าจะเกิดจากราคาค่าระวางที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ การชะลอตัวของจีนที่เริ่มแสดงออกมาอาจทำให้เห็นว่ากลุ่มนี้การเติบโตน่าจะอยู่นะระดับที่ชะลอลงครับ
สิ่งที่ไม่แน่ใจคือค่าระวางจะทรงอยู่ระดับนี้ไปได้นานแค่ไหน มันเสถียรแค่ไหน ตรงนี้ผมไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่หุ้นกลุ่มเรือลองกลับไปอ่านที่เค้าโพสไว้เก่าๆก็ได้นะครับ ช่วงตอนวัฏจักรใกล้ๆกัน ผมว่ามีประโยชน์มากที่จะตอบคำถามของคุณได้ครับ
สิ่งที่ไม่แน่ใจคือค่าระวางจะทรงอยู่ระดับนี้ไปได้นานแค่ไหน มันเสถียรแค่ไหน ตรงนี้ผมไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่หุ้นกลุ่มเรือลองกลับไปอ่านที่เค้าโพสไว้เก่าๆก็ได้นะครับ ช่วงตอนวัฏจักรใกล้ๆกัน ผมว่ามีประโยชน์มากที่จะตอบคำถามของคุณได้ครับ
- dino
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1281
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำพี่ๆครับ เรือรั่ว น้ำเข้าครับ
โพสต์ที่ 5
8) แหะ แหะJeng เขียน:คงไม่เกี่ยวกับราคาที่ลดลง หรือเพิ่มขึ้นชั่วคราว หากเรารู้ราคาของหุ้นตัวนั้นๆ
เช่น หุ้น A เราดูทุกอย่างแล้วให้ราคา XX หากเราซื้อแล้วราคาขึ้นไป เป็น XX+YY
เราก็ดีใจใช่ปะ เพราะซื้อแล้วราคาขึ้น แต่ราคาที่เราคิดว่า เหมาะสมสำหรับเราก็ยังคงเป็น XX
สักพัก ราคาไหลลงมาเป็น XX- ZZ
เราก็ตกใจ เอ๊ะ หุ้นดีทำไมราคาลง
จะซื้อเพิ่ม หรือจะ cut loss
ก็ต้องกลับไป ดูกิจการแหละครับ มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่
แล้วราคา XX ที่เราเคยคำนวณไว้นั้น เรายังคิดอย่างนั้นหรือไม่ เพราะอะไร
สำหรับผมแล้ว ปัญหานี้ คือปัญหาเรื่องการซื้อแพง โดยมากก็คือซื้อหุ้น PE แพงๆ แล้วให้เหตุผลเข้าข้างตัวเอง ว่า ยังดีอยู่ ยังไปต่อได้ หุ้นที่ PE แพงๆ ส่วนใหญ่ ไม่ได้มีอัตราการเติบโตอย่างมากอีกต่อไปแล้ว เพราะ ราคาขึ้นมาสะท้อนอนาคต จนกระทั่งอนาคตไม่สามารถทำกำไรได้ทัน ผลคือ PE ก็เลยสูงมาก
ถ้าเรามั่นใจกิจการ และตรวจสอบแล้วว่า ทุกอย่างดำเนินการตามปกติ กำไรก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราก็ต้องมาดูกันครับ ว่า ราคา XX ที่เราให้ไว้ อาจจะผิดพลาด ตรง เราซื้อแพงไปครับ ทางแก้คือ รอให้ราคากลับมาที่ XX แล้วค่อยว่ากัน
ทำไมถึงบอกให้รอราคากลับมาที่เดิม เพราะเหตุว่า กิจการยังดี และพื้นฐานยังแกร่ง และเคยเทรดที่ราคาสูงกว่า XX

ไม่มีคำใดดีไปกว่า "เจ๋ง" จริงๆครับ ขอบคุณมาก

-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำพี่ๆครับ เรือรั่ว น้ำเข้าครับ
โพสต์ที่ 7
หุ้นตัวแรก เป็นหุ้นยอดนิยมของฝรั่งด้วย เลยติดร่างแห fund flow เข้าไป ราคามันเลยไปตามกลุ่มอื่น ๆ เช่น PTT, BANPU ซึ่งไม่แปลกอะไรที่ช่วงนี้จะลง แถมมี XW ด้วยเลยร่วงนำคนอื่นเขาPrelude เขียน:ขอบคุณครับ สำหรับคำแนะนำครับพี ฟังแล้วก็สบายใจขึ้นบ้างครับ
ที่ว่าเรือน้ำเข้า เป็นแค่คำเปรียบเทียบครับ ไม่ใช่หุ้นเรือ
หุ้น 2 ผมมีปัญหา เป็นหุ้นถ่านหิน กับผลิตขวดพลาสติกครับพี่
หุ้นตัวที่สอง ดูไปแล้ว ถ้าลงท้ายเป็นอย่างที่คิด น่าจะเรียกว่า panic sell ได้สบาย ๆ พื้นฐานไม่เปลี่ยน เป็นผม รอให้ราคาเริ่มนิ่ง ๆ (ภายในวันสองวันนี้ละมัง) ก็คงกระโจนเข้าใส่เลย ลดราคากระหน่ำ summer sale อย่างนี้ ถ้าเป็นห้างก็คงมีรายการเฮโลแย่งกันเหยียบกัน แต่พอดีเป็นตลาดหุ้น พฤติกรรมเลยตรงข้าม 8)