ระวังหุ้นน้ำมันไหม้ตลาด3 เสี่ยเตือนภัยร้อนแรงเกิน

[vichit]

ระวังหุ้นน้ำมันไหม้ตลาด3 เสี่ยเตือนภัยร้อนแรงเกิน โดย กระแสหุ้น

เสี่ยปู่ เสี่ยแตงโม เสี่ยยักษ์ ประสานเสียง หุ้นน้ำมันร้อนแรงเกิน เตือนอย่าเสี่ยงเข้ามาลุยระวังไฟเผามือ หวั่นถ้าตะวันออกกลางยุติ ไม่มีสงคราม ราคาน้ำมันลด ต่างชาติทิ้งหุ้นพลังงาน ยอมรับที่ผ่านมาเข้ามาเก็บหุ้นพวกนี้จริง ปัจจุบันเริ่มขายทำกำไร แนะรายย่อยถ้าอยากเล่นให้ใจเย็น รอซื้อจังหวะหุ้นอ่อนตัว

นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล หรือ เสี่ยปู่ ในฐานะนักลงทุนรายหนึ่ง กล่าวยอมรับว่าปัจจุบันราคาหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีค่อนข้างร้อนแรงมาก และถือว่ามีความเสี่ยงในการเทขายทำกำไรช่วงระยะสั้น จากนั้นราคาหุ้นกลุ่มพลังงานจะสามารถดีดกลับขึ้นมาอีกครั้ง จากปัจจัยความกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันและสงครามแถบตะวันออกกลางที่ยังไม่มีข้อยุติ

ทั้งนี้ส่วนตัวได้ตั้งข้อสังเกตว่าช่วงที่ผ่านมาการลงทุนของนักลงทุนส่วนใหญ่มักจะอิงการเก็งกำไรตามราคาน้ำมันในตลาดโลก แต่หากสถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลาย สงครามยุติ และไม่มีความกังวลอะไร อาจส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงได้เช่นกัน ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่งที่อาจต้องจับตาดู

นายสมพงษ์ ยอมรับว่าตนเองได้เข้าลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ซึ่งปัจจุบันได้ทยอยลดสัดส่วนการลงทุนบางส่วน โดยเฉพาะ PTTEP และ PTTCH เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานที่ดี ราคาหุ้นต่ำกว่าที่ควรจะเป็นแต่ปัจจุบันได้ขายทำกำไรทั้งหมด เนื่องจากราคาหุ้นปรับขึ้นมาสูงค่อนข้างมาก โดย PTTEP ขายทำกำไรที่ระดับกว่า 170 บาทต่อหุ้น และ PTTCH ขายที่ระดับ 137-138 บาทต่อหุ้น ถือเป็นการลงทุนที่มีกำไรที่ดี ส่งผลให้ตนเองมีกำไรจากการลงทุนกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีช่วงที่ผ่านมากว่า 500 ล้านบาท

ช่วงที่ตลาดหุ้นปรับเพิ่มขึ้นนี้ เราต้องทยอยลดพอร์ตลงทุนบางส่วนเพราะถือว่าราคาปรับขึ้นมาค่อนข้างสูงมาก โดยเฉพาะหุ้นพลังงานและปิโตรเคมีค่อนข้างน่าห่วงมาก อาจจะมีการเทขายทำกำไรออกมาได้ทุกช่วง ส่วนจังหวะช้อนซื้อที่ดีอาจต้องรอหุ้นอ่อนตัวลงมาก่อน นายสมพงษ์ กล่าว

สำหรับพอร์ตการลงทุนในปัจจุบัน ส่วนตัวถือลงทุนในหุ้น ดังนี้ CCET และใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ(วอร์แรนต์) CCET-W1,W2 เนื่องจากบริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และออเดอร์ผลิตสินค้าต่อเนื่อง BAY และ BAY-W1 เนื่องจากมั่นใจทีมบริหารของ BAY ที่ค่อนข้างเก่ง รวมทั้ง BCP ที่จะมีการปิดปรับปรุงหน่วยกลั่นทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นและมีประสิทธิภาพการผลิตที่มีคุณภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ยังถือลงทุนในหุ้น CP ALL เนื่องจากธุรกิจมีการเติบโต แต่ราคาหุ้นปัจจุบันอาจจะอยู่ระดับสูง ดังนั้นหากราคาหุ้นลดลง ส่วนตัวสนใจทยอยซื้อสะสมต่อเนื่อง รวมทั้ง MINT และ MINT-W3 เนื่องจากมีธุรกิจบริการที่ครบวงจร

ส่วนหุ้นในกลุ่ม PTT ตัวอื่นๆ และ BANPU อาจต้องรอจังหวะซื้อ โดยเฉพาะหากราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าวปรับลดลงมาเกินกว่า 20% โดยส่วนตัวสนใจทยอยซื้อสะสมอย่างแน่นอน โดยเฉพาะ PTTEP ถือว่าราคาปรับลดลงมาต่ำกว่าพื้นฐานและ พีอีต่ำ

การเข้าลงทุนหุ้นพลังงานช่วงนี้อาจต้องอาศัยจังหวะลงทุนที่ดี อาจต้องรอจังหวะตลาดหุ้นปรับฐานลงมาก่อนค่อนสะสมเพิ่ม นายสมพงษ์ กล่าว

นายสมเกียรติ วงศ์คุณทรัพย์ หรือ เสี่ยแตงโม หนึ่งในผู้ลงทุนรายใหญ่ ยอมรับว่าราคาหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีในปัจจุบันค่อนข้างปรับขึ้นมาสูงมากและอาจจะมีความเสี่ยงด้านการขายทำกำไรออกมา แต่มองว่ายังคงเป็นจังหวะการลงทุนที่ดีเพียงแต่อาจต้องระมัดระวังในการเข้าลงทุน เนื่องจากแนวโน้มการเคลื่อนไหวในหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีน่าจะสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่อง ตามแรงเก็งกำไรราคาน้ำมันในตลาดโลกและความกังวลเรื่องสงครามในต่างประเทศที่ยังไม่มีข้อยุติ

ทั้งนี้ส่วนตัวถือลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี 100% โดยแบ่งเป็นหุ้นกลุ่มพลังงาน 90% และปิโตรเคมี 10% ซึ่งการขายทำกำไรช่วงที่ผ่านมารับรู้กำไรราว 50%ต่อครั้ง ขณะที่ต้นทุนการลงทุน อยู่ที่ราว 10% โดยที่ผ่านมาการลงทุนจะเป็นลักษณะขายทำกำไรเมื่อราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานมีการย่อฐานราคาลง และทยอยซื้อเมื่อราคาหุ้นมีสัญญาณที่ดีขึ้น

ตอนนี้ยังมองว่าราคาหุ้นกลุ่มพลังงานยังไปต่อได้แน่นอน เพียงแต่มีความเสี่ยงว่าอาจจะมีการเทขายทำกำไรออกมาบ้าง ซึ่งก็ต้องระมัดระวังในการเข้าลงทุนกันให้ดีด้วย นายสมเกียรติ กล่าว

ส่วนนายวิชัย วชิรพงศ์ หรือ เสี่ยยักษ์ ในฐานะนักลงทุนรายหนึ่ง กล่าวว่า การลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงานตอนนี้ถือเป็นการวัดดวงของนักลงทุนที่ถือหุ้น ซึ่งจะไม่ทยอยลงทุนเพิ่มก็ไม่ได้ เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปัจจุบันปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนนักลงทุนที่ยังไม่ได้ถือลงทุนหุ้นพลังงานมาตั้งแต่ต้นคงแนะนำให้รอดูเฉยๆดีกว่าเพราะถ้าซื้อลงทุนตอนนี้อาจเจ็บตัวได้ง่าย จากราคาหุ้นปรับตัวอยู่ระดับที่สูงมากอาจมีการย่อตัวลงเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงสูง

ทั้งนี้ส่วนตัวยอมรับว่าตอนนี้ถือลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเลียม 100% ตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะ PTT ซึ่งถือต้นทุนที่กว่า 200 บาท โดยปัจจุบันราคาขึ้นมากว่า 100% ส่วน PTTEP ถือลงทุนที่ราคา 135 บาท ถือว่าตอนนี้ตนเองมีกำไรจากการลงทุนทั้งสองตัวสูงมาก ส่วนการลงทุนหุ้นกลุ่มอื่นนั้น มองว่าตอนนี้ประเด็นหลักอยู่ที่ราคาน้ำมันดังนั้นหุ้นที่เกี่ยวกับน้ำมันจะได้รับผลประโยชน์ที่สุด ส่วนหุ้นกลุ่มอื่นนั้นมองว่าจะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นจึงยังไม่น่าสนใจเข้าลงทุน

ด้านนักวิเคราะห์เทคนิค บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สัญญาณการเคลื่อนไหวหุ้น PTT PTTEP และ BANPU ยังมีสัญญาณซิกแซกเพิ่มขึ้นได้ แต่คงแนะนำถือหรือรอจังหวะทยอยซื้อสะสม สำหรับนักลงทุนที่ถือลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ส่วนนักลงทุนที่ยังไม่ถือลงทุนคงไม่แนะนำเข้าลงทุน เนื่องจากราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าวในปัจจุบันถือว่าปรับเพิ่มขึ้นมากเกินไป

ทั้งนี้สำหรับกลยุทธ์การลงทุน PTT คงแนะนำซื้อตามแนวรับหรือถือลงทุน ส่วนแนวต้านแรก 436-440 บาท แนวต้านถัดไป 470 บาท BANPU หากราคาลงมาปิดต่ำกว่าระดับ 412 บาท เป็นจังหวะตัดขายขาดทุน โดยให้แนวรับแรก 440 บาท แนวรับถัดไป 424 บาท ส่วนแนวต้านแรก 476,480 บาท แนวต้านถัดไป 500 บาท และ PTTEP แนวต้านแรก 173, 176 บาท แนวต้านถัดไป 181,190 บาท

[ครรชิต ไพศาล]

30/10/07
OIL(NYM) $90.38 ลดลง -3.15 คิดเป็น -3.37%  

ไม่รู้จะลดแรงๆแบบนี้ได้อีกกี้วัน


อยากเห็นน้ำมันลดลงเร็วๆ อุตสาหกรรมอื่นที่ใช้น้ำมัน จะได้หน้าชื่่นกับเขาบ้าง

[hot]

เรื่องน้ำมันขึ้นเพราะสงครามผมว่าเป็นเรือ่งการเก็งกำไรปกติของตลาดโลก

แต่ที่น่ากังวลน่าเป็นเกี่ยวกับภาวะอากาศมากกว่าอันนี้แหละของจริง