เสือ พาต้า รักษาหุ่น ส่วน คิงคองจะตายเมื่ออยู่บนดิน ????
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4526
- ผู้ติดตาม: 0
เสือ พาต้า รักษาหุ่น ส่วน คิงคองจะตายเมื่ออยู่บนดิน ????
โพสต์ที่ 1
ฮือฮา "คิงคอง" พาต้า ซึมเศร้า!
กลายเป็นประเด็น Talk of the town และเป็น ข่าว ฮือฮา มากเมื่อมีคนร้องเรียน ว่า คิงคอง ที่ สวนสัตว์ พาต้า ซึมเศร้า ด้าน องค์การ สวนสัตว์ รุดตรวจสอบ สวนสัตว์ พาต้า เป็นการด่วน เผื่อ ตรวจดูสภาพ ของ คิงคอง ที่ สวนสัตว์พาต้า
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
จากกรณีนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวชมสวนสัตว์พาต้า ภายในห้างสรรพสินค้าพาต้า สาขาปิ่นเกล้า ร้องเรียนว่า นกเพนกวิน เสือโคร่ง ลิงกอริลลาหรือคิงคอง อยู่ในสภาพที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากถูกกักขังในสถานที่คับแคบและทึบมาเป็นเวลานานมากกว่าสิบปีแล้ว โดย คิงคอง มีอาการซึมเศร้าร้องไห้น้ำตาไหล "เพนกวิน" เป็นขี้เรื้อนจนขนร่วง ส่วน เสือโคร่ง ผอมโซ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด นายคณิต เสริมศิริมงคล ผอ.สวนสัตว์พาต้า ชี้แจงว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะไม่ได้มาดูของจริง แต่ดูทางอินเตอร์เน็ต เมื่อเห็นสัตว์จึงเชื่อและสงสาร แต่ความเป็นจริงแล้วคิงคองร้องไห้ไม่เป็นคนที่นำมาโพสต์รู้ว่าคนไทยเป็นคนขี้สงสาร สวนสัตว์พาต้าตกเป็นเหยื่อของความไม่เป็นธรรม เราต้องพิจารณาเป็นตัวๆ ไป อย่างคิงคองที่อยู่บนพื้นคอนกรีต มีสวนสัตว์ในเอเชียนำคิงคองไปเลี้ยงบนพื้นดิน ทำให้คิงคองตายเนื่องจากมีแบคทีเรียเยอะ การที่สวนสัตว์พาต้านำสัตว์ไปเลี้ยงบนตึกเพราะกำจัดเชื้อโรค การทำความสะอาดจนไม่มีสิ่งหมักหมม ทุกอย่างลงท่อหมด
จากสภาพปัจจุบันคิงคองมีความเป็นอยู่ที่ดี แสดงพฤติกรรมตามที่เขาต้องการเป็นธรรมชาติของเขา คนที่มาเที่ยวอาจจะไปเห็นตอนที่คิงคองเพิ่งถ่ายอุจจาระ ทำให้ส่งกลิ่นเหม็น ส่วนเรื่องกระจกกั้นนั้น ทางสวนสัตว์ติดตั้งนานแล้วตั้งแต่นำคิงคองมา เพราะทางสวนสัตว์พาต้าห่วงเรื่องเชื้อโรค ไม่ได้ห่วงว่าสัตว์จะนำเชื้อมาสู่คน แต่กลัวว่าคนที่มาชมอาจเป็นไข้หวัด เวลาไอหรือจามสัตว์จะติดเชื้อทันที จึงสร้างกระจกเพื่อป้องกัน
ส่วนเสือโคร่งที่ผอมโซนั้น เรากลัวว่าสัตว์ที่เราเลี้ยงจะอ้วนและพยายามที่จะควบคุมเขา การที่จะให้สัตว์อ้วนนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่จะให้ได้รูปทรงที่เราต้องการนั้นเรื่องใหญ่ ต้องลดอาหารกว่าจะได้ตามที่ต้องการ ต้องใช้เวลากว่าที่เราจะได้เสือโคร่งที่มีรูปร่างเช่นนี้ กินเวลาพอสมควร เพราะฉะนั้นถ้าจะทำให้อ้วน ไม่กี่วันก็อ้วนได้ เพราะสัตว์ชอบกินอยู่แล้ว ให้อาหารมากขนาดไหนมันก็กิน
สำหรับนกเพนกวินที่บอกว่าเป็นขี้เรื้อนจนขนร่วง นกเพนกวินทั้งสองตัวเป็นเพนกวินจากทวีปอเมริกาใต้ อากาศจึงใกล้เคียงบ้านเรา เลี้ยงในห้องที่มีอุณหภูมิ 20 องศา คือบางคนไม่เข้าใจธรรมชาติของสัตว์ นกเพนกวินต้องมีการผลัดขน มีฤดูของการผลัดขนทุกพันธุ์ พอขนตามตัวขึ้นก็กลับมาเงางามเหมือนเดิม แต่จะให้มันสวยงามเหมือนตอนหนุ่มสาวมันก็ทำไม่ได้ เพราะว่านกเพนกวิน 2 ตัวนี้ค่อนข้างจะมีอายุแล้ว คล้ายกับคนซึ่งเป็นธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
"มีความเข้าใจว่าที่สวนสัตว์พาต้าไม่มีคนมาเที่ยว ทำให้สัตว์ไม่มีอาหารกิน อย่างวันธรรมดาคนก็น้อย แต่คนจะมากช่วงวันหยุด แต่ไม่ได้หมายความว่าคนมาเที่ยวน้อยแล้วสัตว์จะไม่มีอาหาร คิงคองตัวนึงราคาหลายล้านบาท เป็นไปไม่ได้ที่เราจะให้สัตว์อดอาหาร อยากจะให้ประชาชนสบายใจได้ เพราะที่สวนสัตว์พาต้าดูแลสัตว์ทุกตัวอย่างดี สัตว์ในสวนสัตว์อาจจะขาดอิสรภาพ แต่มันมีสวัสดิภาพ แต่สัตว์ที่อยู่ในธรรมชาติไม่มีสวัสดิภาพ แต่มันอาจจะมีอิสรภาพ ถ้าเราจะอนุรักษ์ไว้เราควรจะต้องเลี้ยงดูมันก่อน ถ้ามีอะไรให้เราแก้ไขเรายินดี และเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไปทรมานสัตว์" นายคณิตกล่าว
กลายเป็นประเด็น Talk of the town และเป็น ข่าว ฮือฮา มากเมื่อมีคนร้องเรียน ว่า คิงคอง ที่ สวนสัตว์ พาต้า ซึมเศร้า ด้าน องค์การ สวนสัตว์ รุดตรวจสอบ สวนสัตว์ พาต้า เป็นการด่วน เผื่อ ตรวจดูสภาพ ของ คิงคอง ที่ สวนสัตว์พาต้า
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
จากกรณีนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวชมสวนสัตว์พาต้า ภายในห้างสรรพสินค้าพาต้า สาขาปิ่นเกล้า ร้องเรียนว่า นกเพนกวิน เสือโคร่ง ลิงกอริลลาหรือคิงคอง อยู่ในสภาพที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากถูกกักขังในสถานที่คับแคบและทึบมาเป็นเวลานานมากกว่าสิบปีแล้ว โดย คิงคอง มีอาการซึมเศร้าร้องไห้น้ำตาไหล "เพนกวิน" เป็นขี้เรื้อนจนขนร่วง ส่วน เสือโคร่ง ผอมโซ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด นายคณิต เสริมศิริมงคล ผอ.สวนสัตว์พาต้า ชี้แจงว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะไม่ได้มาดูของจริง แต่ดูทางอินเตอร์เน็ต เมื่อเห็นสัตว์จึงเชื่อและสงสาร แต่ความเป็นจริงแล้วคิงคองร้องไห้ไม่เป็นคนที่นำมาโพสต์รู้ว่าคนไทยเป็นคนขี้สงสาร สวนสัตว์พาต้าตกเป็นเหยื่อของความไม่เป็นธรรม เราต้องพิจารณาเป็นตัวๆ ไป อย่างคิงคองที่อยู่บนพื้นคอนกรีต มีสวนสัตว์ในเอเชียนำคิงคองไปเลี้ยงบนพื้นดิน ทำให้คิงคองตายเนื่องจากมีแบคทีเรียเยอะ การที่สวนสัตว์พาต้านำสัตว์ไปเลี้ยงบนตึกเพราะกำจัดเชื้อโรค การทำความสะอาดจนไม่มีสิ่งหมักหมม ทุกอย่างลงท่อหมด
จากสภาพปัจจุบันคิงคองมีความเป็นอยู่ที่ดี แสดงพฤติกรรมตามที่เขาต้องการเป็นธรรมชาติของเขา คนที่มาเที่ยวอาจจะไปเห็นตอนที่คิงคองเพิ่งถ่ายอุจจาระ ทำให้ส่งกลิ่นเหม็น ส่วนเรื่องกระจกกั้นนั้น ทางสวนสัตว์ติดตั้งนานแล้วตั้งแต่นำคิงคองมา เพราะทางสวนสัตว์พาต้าห่วงเรื่องเชื้อโรค ไม่ได้ห่วงว่าสัตว์จะนำเชื้อมาสู่คน แต่กลัวว่าคนที่มาชมอาจเป็นไข้หวัด เวลาไอหรือจามสัตว์จะติดเชื้อทันที จึงสร้างกระจกเพื่อป้องกัน
ส่วนเสือโคร่งที่ผอมโซนั้น เรากลัวว่าสัตว์ที่เราเลี้ยงจะอ้วนและพยายามที่จะควบคุมเขา การที่จะให้สัตว์อ้วนนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่จะให้ได้รูปทรงที่เราต้องการนั้นเรื่องใหญ่ ต้องลดอาหารกว่าจะได้ตามที่ต้องการ ต้องใช้เวลากว่าที่เราจะได้เสือโคร่งที่มีรูปร่างเช่นนี้ กินเวลาพอสมควร เพราะฉะนั้นถ้าจะทำให้อ้วน ไม่กี่วันก็อ้วนได้ เพราะสัตว์ชอบกินอยู่แล้ว ให้อาหารมากขนาดไหนมันก็กิน
สำหรับนกเพนกวินที่บอกว่าเป็นขี้เรื้อนจนขนร่วง นกเพนกวินทั้งสองตัวเป็นเพนกวินจากทวีปอเมริกาใต้ อากาศจึงใกล้เคียงบ้านเรา เลี้ยงในห้องที่มีอุณหภูมิ 20 องศา คือบางคนไม่เข้าใจธรรมชาติของสัตว์ นกเพนกวินต้องมีการผลัดขน มีฤดูของการผลัดขนทุกพันธุ์ พอขนตามตัวขึ้นก็กลับมาเงางามเหมือนเดิม แต่จะให้มันสวยงามเหมือนตอนหนุ่มสาวมันก็ทำไม่ได้ เพราะว่านกเพนกวิน 2 ตัวนี้ค่อนข้างจะมีอายุแล้ว คล้ายกับคนซึ่งเป็นธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
"มีความเข้าใจว่าที่สวนสัตว์พาต้าไม่มีคนมาเที่ยว ทำให้สัตว์ไม่มีอาหารกิน อย่างวันธรรมดาคนก็น้อย แต่คนจะมากช่วงวันหยุด แต่ไม่ได้หมายความว่าคนมาเที่ยวน้อยแล้วสัตว์จะไม่มีอาหาร คิงคองตัวนึงราคาหลายล้านบาท เป็นไปไม่ได้ที่เราจะให้สัตว์อดอาหาร อยากจะให้ประชาชนสบายใจได้ เพราะที่สวนสัตว์พาต้าดูแลสัตว์ทุกตัวอย่างดี สัตว์ในสวนสัตว์อาจจะขาดอิสรภาพ แต่มันมีสวัสดิภาพ แต่สัตว์ที่อยู่ในธรรมชาติไม่มีสวัสดิภาพ แต่มันอาจจะมีอิสรภาพ ถ้าเราจะอนุรักษ์ไว้เราควรจะต้องเลี้ยงดูมันก่อน ถ้ามีอะไรให้เราแก้ไขเรายินดี และเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไปทรมานสัตว์" นายคณิตกล่าว