80% ของเงินอยู่ในมือคนแค่ 20%
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
80% ของเงินอยู่ในมือคนแค่ 20%
โพสต์ที่ 1
Vilfredo Pareto ชาวอิตาลี ได้ตั้งข้อสังเกตุอันโด่งดังที่ชื่อ
"The 80:20 Rule -- Pareto's Principle" ซึ่งมีใจความว่า
"A minority of input produces the majority of results."
แปลคร่าวๆว่าคนส่วนน้อยเป็นผู้ผลิตผลส่วนใหญ่
ถ้าตลาด(ห)ลักทรัพย์เป็น zero-sum game คือได้เท่ากับเสีย
แสดงว่าถ้ามีการกำไร 100 บาท ก็มีคนขาดทุน 100 บาท
ถ้ามีคน 100 คนเล่นหุ้น มีแค่ 20 คนที่ได้กำไร 80 บาท
ส่วนที่เหลืออีก 80 คน ได้กำไรแค่ 20 บาท และขาดทุน 100 บาท
สรุปแล้ว 80 คนที่เหลือ ขาดทุน 80 บาทครับ
คน 80 คนตอนได้กำไร 20 บาท ก็ดีใจกันใหญ่
พอ ขาดทุน 100 บาท ก็หายหน้าหายตาไปจากตลาด
"The 80:20 Rule -- Pareto's Principle" ซึ่งมีใจความว่า
"A minority of input produces the majority of results."
แปลคร่าวๆว่าคนส่วนน้อยเป็นผู้ผลิตผลส่วนใหญ่
ถ้าตลาด(ห)ลักทรัพย์เป็น zero-sum game คือได้เท่ากับเสีย
แสดงว่าถ้ามีการกำไร 100 บาท ก็มีคนขาดทุน 100 บาท
ถ้ามีคน 100 คนเล่นหุ้น มีแค่ 20 คนที่ได้กำไร 80 บาท
ส่วนที่เหลืออีก 80 คน ได้กำไรแค่ 20 บาท และขาดทุน 100 บาท
สรุปแล้ว 80 คนที่เหลือ ขาดทุน 80 บาทครับ
คน 80 คนตอนได้กำไร 20 บาท ก็ดีใจกันใหญ่
พอ ขาดทุน 100 บาท ก็หายหน้าหายตาไปจากตลาด
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
80% ของเงินอยู่ในมือคนแค่ 20%
โพสต์ที่ 2
ผมว่าน้อยกว่า 20 % อีกล่ะ รายย่อยมีเป็นหมื่นๆ รายใหญ่มีไม่ถึง 1000 หรอก
- ครรชิต ไพศาล
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4623
- ผู้ติดตาม: 1
80% ของเงินอยู่ในมือคนแค่ 20%
โพสต์ที่ 3
ถ้าเรา คอยเลือกซื้อหุ้น กำไรดี ปันผลดี ที่ราคาต่ำๆ อย่าไปไล่ซื้อ เมื่อราคามันวิ่ง แล้วถือยาวไปเลย รับปันผลไรเรื่อยๆ นานๆไป มันก็บวกเงินปันผลไปเรื่อยๆ
อย่างนี้ดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร ไปช้าๆ ผลรวมคงไม่เป็น 0 นะครับ
อย่างนี้ดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร ไปช้าๆ ผลรวมคงไม่เป็น 0 นะครับ
- ปรัชญา1
- Verified User
- โพสต์: 1092
- ผู้ติดตาม: 0
80% ของเงินอยู่ในมือคนแค่ 20%
โพสต์ที่ 4
จริงอย่างพี่ครรชิตว่าครับ ผมก็ทำแบบพี่ว่าอยู่ถึง70%ของพอท์ต และในโอกาสหน้าก็คงจะเต็มร้อย%ครับครรชิต ไพศาล เขียน:ถ้าเรา คอยเลือกซื้อหุ้น กำไรดี ปันผลดี ที่ราคาต่ำๆ อย่าไปไล่ซื้อ เมื่อราคามันวิ่ง แล้วถือยาวไปเลย รับปันผลไรเรื่อยๆ นานๆไป มันก็บวกเงินปันผลไปเรื่อยๆ
อย่างนี้ดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร ไปช้าๆ ผลรวมคงไม่เป็น 0 นะครับ
คุณCK ก็ให้นิยามถูกครับ แต่คนได้คงเหลือแค่10%แล้วครับเพราะบางส่วนต้องกันไว้คนถือยาวแบบพี่ครรชิตนับวันจะมีเพิ่มขึ้น ส่วนค่าต๋ง ค่าคอมมิชชั่นที่ต้องจ่ายให้โบรกก็จะหายออกจากตลาดเหมือนกันครับ ว่างๆพ่อมดการเงินอย่าลืมหาข้อมูลมาแบ่งกันนะครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
80% ของเงินอยู่ในมือคนแค่ 20%
โพสต์ที่ 5
แต่น่าแปลกนะครับที่ชาวเก็งกำไรก็ยังมองตลาดหุ้นเป็น zero-sum เพราะพอมีปันผลออกไป 10 บาท ราคาหุ้นก็ตกไปสิบบาท
ส่วนใหญ่นักเก็งกำไรจะคิดกันแค่ช่วงสั้นๆครับ ซื้อได้ที่โลว์ ขายได้ที่ไฮ ในวันเดียวกันถือว่าเท่ห์สุดๆ และเก่งกว่าตลาด ถ้าทำได้ทุกรอบ ถือเป็นสุดยอดเซียนหุ้น
แต่ในหมื่นจะมีอยู่หนึ่งครับ ผมยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่าฝีมือไม่ถึง
รอปันผลอย่างเดียว และนั่งชื่นชมกับพอร์ตที่โตวันโตคืนก็มีความสุขตามอัตภาพครับ
ส่วนใหญ่นักเก็งกำไรจะคิดกันแค่ช่วงสั้นๆครับ ซื้อได้ที่โลว์ ขายได้ที่ไฮ ในวันเดียวกันถือว่าเท่ห์สุดๆ และเก่งกว่าตลาด ถ้าทำได้ทุกรอบ ถือเป็นสุดยอดเซียนหุ้น
แต่ในหมื่นจะมีอยู่หนึ่งครับ ผมยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่าฝีมือไม่ถึง
รอปันผลอย่างเดียว และนั่งชื่นชมกับพอร์ตที่โตวันโตคืนก็มีความสุขตามอัตภาพครับ
- moo
- Verified User
- โพสต์: 1150
- ผู้ติดตาม: 0
80% ของเงินอยู่ในมือคนแค่ 20%
โพสต์ที่ 8
จริงอย่างที่พี่ครรชิตว่าละครับ เล่นหุ้นอาจโดนหุ้น เล่น เอา สำหรับผมแล้วถือเป็นการลงทุนครับ ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยแบงค์ก็พอใจแล้วละครับ ขอบคุณพี่ c k ที่โพสเตือนกัน อ่านแล้วเตือนสติได้ดี เวลารับข่าวอะไรมาจะได้ไว้เตือนตัวเอง เล่นหุ้น ระยะยาวแล้วอาจเสียหายหมดเนื้อหมดตัวได้จริงๆครับ[/i][/u][/b]