ทำไมเราควรเชื่อพุทธศาสนา

[Jeng]

สำหรับคนที่ไม่เคยทุกข์ คงไม่ต้องเชื่อ เพราะไม่มีประโยชน์มั๊ง

เพราะศาสนาพทธ สอนเรื่องทุกข์ และการดับทุกข์

สำหรับคนที่อยากรวย เว็บ vi ก็คงจะมีส่วนช่วยบ้าง ไม่มาก ก็น้อย

ศาสนาพุทธ ก็เช่นเดียวกันครับ

ผมเคยคุยกับพี่ชาย พี่ชายผมบอกว่า รับไม่ได้ ไม่เข้าใจ ที่บอกว่า ทุกอย่าง เป็นอนัตตา คือไม่มีตัวตน

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

อนิจัง ความไม่เที่ยง ทุกขัง ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ อนัตตา ไม่มีตัวตน

ตรองดูแล้วก็จริงหมด

ในสภาพของความเป็นคน ที่มี กิเลส รัก โลภ โกรธ หลง

เมื่อเกิด รัก โลภ โกรธ หลง ก็จะเข้าไตรลักษณ์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

อะไรที่เราได้มา ไม่ว่าอะไรก็ตาม เช่น ตามองเห็น หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่นลิ้นรับรส กายรับสัมผัส จิตใจ รับอารมณ์สุข หรือทุกข์  สุดท้าย ก็ต้องคืนกลับ

ตามองไม่ค่อยเห็น หูไม่ค่อยได้ยิน จมูกไม่ค่อยได้กลิ่น ลิ้นไม่ค่อยรับรส กายไม่ค่อยรับสัมผัส จิตใจไม่อยู่กับเนื่อกับตัว

อะไรๆก็ไม่สามารถ ยึดมั่นถือมั่นได้ อะไรที่ก็ไม่เที่ยง อะไรก็ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้

[Jeng]

ในเมื่อธรรมชาติเป็นแบบนี้ แล้วทำไมต้องนับถือศาสนาพุทธ

คำตอบคือ หากยังร้องไห้ คร่ำครวญ เศร้าโศก ร่ำไรรำพัน หรือยังมีทุกข์จากอะไรก็แล้วแต่

เมื่อศึกษาหลักพุทธศาสนาจะเข้าใจ และไม่ต้องทุกข์อีกต่อไป

เช่น ในเมื่อเรารู้แน่ๆว่า เราต้องตาย อะไรที่เป็นของเรา เราก็เอาไปไม่ได้ ในเมื่อเราต้องสูญเสียของเหล่านั้นไป ทำไมเราต้องทุกข์ด้วย

เรากำลังเศร้าโศก เสียใจ กับสิ่งที่ ชัวร์เลย ว่า ต้องจากเราไปอย่างแน่นอน

ทุกข์ จากการไม่ได้ในสิ่งที่อยากได้ ทุกข์จากการได้ในสิ่งที่ไม่อยากได้ ทุกข์จากการสูญเสียของรัก ของหวง

แล้วเราจะทุกข์ไปทำไม ในกรณี ไม่ได้ในสิ่งที่อยากได้ เช่น ลาภ ยศ สรรเสริญ เพราะสิ่งเหล่านี้ มีสภาพ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แม้แต่ตัวเราก็ยังมีสภาพ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เราไม่ได้ ก็คือไม่ได้ ถึงได้มา ก็ต้องเสียมันไป เพราะสุดท้ายก็ตายอยู่ดี

ในกรณีอื่นก็เช่นเดียวกัน คือ ได้ในสิ่งที่ไม่อยากได้ เช่น หนี้สิน ศัตรู คนไม่เข้าใจ สังคมไม่ยอมรับ และอื่นๆ แล้วเราจะทุกข์ไปทำไม ในเมื่อ สิ่งเหล่านั้น ก็ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แม้แต่ตัวเราก็ เช่นเดียวกัน

ทุกข์จากการสูญเสียของรัก ของหวง เรากำลังทุกข์กับสิ่งที่จะต้องสูญเสียไปแน่ๆ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

[Jeng]

แล้วพวกเรายังเป็นมนุษย์ ที่ยังไม่ได้สละแล้วทุกอย่าง ไปออกบวช เราจะเชื่อศาสนาพุทธไปทำไม

คำตอบคือ ลดทุกข์ เพิ่มสุข ครับ

เพราะ สุข คือทุกข์ที่ลดลง

หากลดทุกข์ได้ สุขก็จะเพิ่มขึ้นเอง

ลด รัก โลภ โกรธ หลง ให้ได้บ้าง ก็จะมีความสุขมากขึ้นครับ

[Jeng]

แล้วทำไมไม่ตั้งหน้าตั้งตา เพิ่มสุข มัวไปลดทุกข์ เพื่อเพิ่มสุขทำไม

คำตอบ คือ การเพิ่มสุข คือการเพิ่มกิเลสให้แรงขึ้น ทำให้เกิดการยึดมั่นถือมั่นมากขึ้น และยิ่งทำให้ทุกข์มากขึ้น เมื่อต้องสูญเสียสุขนั้นไป

สรุปคือ เน้น ลดทุกข์ เพิ่มสุข แต่ถ้าเน้น เพิ่มสุข จะเพิ่มทุกข์

[Jeng]

ถ้าพูดอย่างนี้ แล้วการที่เราทำอะไรบางอย่างแล้วมีความสุข เช่น กตัญญู พ่อแม่

แบบนี้เราก็ไม่ต้องทำหรือ

คำตอบคือ กตัญญู มีสองแบบ แบบหนึ่ง คือกตัญญู เพื่อให้ตัวเองมีความสุข จากการกตัญญู ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้ากตัญญู แบบเป็นการให้ล้วนๆ คือประมาณว่า ไปเจอพ่อแม่ ขี้บ่น จู้จี้ ไม่ถูกใจซักเรื่อง เช่น มีมรดกก็ยกให้วัดหมด เรายังสามารถกตัญญูได้เต็มร้อย โดยที่ไม่ได้มองมาที่ตัวเองว่าได้อะไร แต่มองไปที่บุพการี ว่า ท่านต้องการอะไร แล้วเราทำให้ได้หรือไม่ เกินตัวหรือไม่ ผิดศิลธรรมหรือไม่ หากกตัญญูแบบการให้ โดยไม่ต้องหวังว่าเราจะมีสุข แบบนั้น ก็ถือว่าประเสริฐสุดๆ

[แผ่วเบา]

ทำไมเราควรเชื่อพุทธศาสนา

The religion of the future will be a cosmic religion. The religion which based on experience,which refuses dogmatic. If there is any religion that would cope the scientific needs it will be Buddhism......

ศาสนาแห่งอนาคตจะเป็นศาสนาจักรวาล. ศาสนาซึ่งตั้งอยู่บนประสบการณ์, ซึ่งปฏิเสธสิทธันต์(คำสอนต้องเชื่อ). หากมีศาสนาใดศาสนาหนุ่งที่จะรับมือกับสิ่งที่ต้องการทางวิทยาศาสตร์ได้ละก็ ศาสนานั้นจะต้องเป็นศาสนาพุทธ.......อัลเบิร์ต  ไอน์สไตน์

[Jeng]

แล้วเรามาเล่นหุ้นทำไม เราจะหาเงินไปทำไม ในเมื่อสิ่งเหล่านี้ยึดมั่นถือมั่นไม่ได้ ตายไปก็เอาไปไม่ได้

การหาเงิน เพื่อความเป็นอยู่ทางโลก เราต้องกิน ต้องใช้ หากเราหาเงินแบบ สัมมาอาชีพ ทำกิจการงานที่ไม่เป็นโทษ ประกอบไปด้วย ฉันทะ วิริยะ อุตสาหะ วิมังสา แล้วละก็

ถูกต้องตามหลักศาสนา เราก็ทำไปแบบสายกลาง แบบพอเพียง ไม่เบียดเบียนตัวเอง ไม่เบียดเบียนครอบครัว สังคม และอื่นๆ

ผลคือ เราก็จะร่ำรวยอย่างพอเพียง ร่ำรวยมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยหลายอย่างมาประชุมกัน

เราก็เล่นหุ้นไป ลงทุนไป ตามกำลังความสามารถ ตามกำลังความคิด ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับใคร เพราะใครๆก็ไม่ใช่ตัวเรา และสภาพแวดล้อม เงินทุน ความรู้ ความสามารถ ในการตัดสินใจ ล้วนแล้วแต่แตกต่างกันหมด เราจะไปเทียบกับใครเพื่อให้ทุกข์ไปทำไม

การศึกษาจาก กูรู ทั้งหลายเป็นเรื่องดี แต่อย่าไปเทียบให้ทุกข์ คนนั้นทำได้มาก ในระยะเวลาอันสั้น คนนี้ขุดหุ้นเก่ง คนโน้น เก็งกำไรเก่ง โอ๊ย ทำไมเราโง่อย่างนี้ อย่าไปคิดแบบนั้น

เราก็คือเราเอง ค่อยๆลงทุนกันไป เรียนรู้กันไป ปรับปรุง พัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็จะดีเอง

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

The religion of the future will be a cosmic religion. The religion which based on experience,which refuses dogmatic. If there is any religion that would cope the scientific needs it will be Buddhism...... 

ศาสนาแห่งอนาคตจะเป็นศาสนาจักรวาล. ศาสนาซึ่งตั้งอยู่บนประสบการณ์, ซึ่งปฏิเสธสิทธันต์(คำสอนต้องเชื่อ). หากมีศาสนาใดศาสนาหนุ่งที่จะรับมือกับสิ่งที่ต้องการทางวิทยาศาสตร์ได้ละก็ ศาสนานั้นจะต้องเป็นศาสนาพุทธ.......อัลเบิร์ต  ไอน์สไตน์ 

ขอบคุณครับ คุณแผ่วเบา

อันนี้หามานาน แต่ไม่เคยเจอ เคยแต่ได้ยินว่า ไอสไตน์ นับถือศาสนาพุทธ ก็แค่ได้ยิน

[แผ่วเบา]

Scinence without religion is lame, religion without science is blind.

วิทยาศาสตร์ที่ปราศจากศาสนาคือคนขาพิการ, ส่วนศาสนาที่ปราศจากวิทยาศาสตร์คือคนตาพิการ

Albert Einstein

[แผ่วเบา]

[quote="Jeng"]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

The religion of the future will be a cosmic religion. The religion which based on experience,which refuses dogmatic. If there is any religion that would cope the scientific needs it will be Buddhism...... 

ศาสนาแห่งอนาคตจะเป็นศาสนาจักรวาล. ศาสนาซึ่งตั้งอยู่บนประสบการณ์, ซึ่งปฏิเสธสิทธันต์(คำสอนต้องเชื่อ). หากมีศาสนาใดศาสนาหนุ่งที่จะรับมือกับสิ่งที่ต้องการทางวิทยาศาสตร์ได้ละก็ ศาสนานั้นจะต้องเป็นศาสนาพุทธ.......อัลเบิร์ต

[noooon010]

เพราะพุทธศาสนา สอนให้เรา คิด และ เชื่อ อย่างมีเหตุผลครับ

นำมาใช้กับการลงทุนในหุ้น และ การดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี

[Jeng]

ผมเกิดมาบนโลก ปีนี้ก็ย่าง 44 ผ่านมาสารพัด สารเพ

ตั้งแต่ นังดูดกัญชา กับเพื่อนหมอจุฬา 4 คน ถึงขนาดดวล ชีวาส แบล๊ค ตากิล่า ว๊อดก๊า กัญชา และเบียร์ ทั้งหมดนั้น ดวลกับสาวสวย นางหนึ่ง ริมทะเลที่เสม็ด

เคยนอนเสม็ด 7 วัน ขับสกู๊ตเตอร์รอบเกาะเสม็ด หรือเดินไปเรื่อยๆที่เกาะภูเก็ต ค่ำไหนก็นอนนั่น ไม่ได้พักโรงแรม
เคยไปมาแล้ว 17 ประเทศ
เคยสุขมากตอนอุ้มลูกชาย ทั้งสองคน
เคยเศร้ามากตอนลูกชาย ทั้งสองคนจากไป
เคยมาหลายอย่าง แม้กระทั่งเป่าปากภรรยาที่จมน้ำตาย
เคยจับเงินเป็นล้านของตัวเอง สมัยเด็กๆ
เคยมาหลายรูปแบบยกเว้น เรื่องเถื่อนๆ เช่น เอาปืนไปยิงชาวบ้าน หรือ สั่งฆ่าคน

สรุปว่า เกิดมาคุ้มค่าในระดับหนึ่ง

แต่ก็ไม่มีอะไรเลย ทุกวันก็ก่อนนอนก็คิดนะ ถ้าไม่ตื่น อะไรๆก็ ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว

ไม่ใช่ว่าเหลือแล้วนะ เพราะไม่รู้จะยึดมั่นถือมั่นอะไรอีกต่อไปเพื่ออะไรต่างหาก

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

มีอีกเยอะครับ ถ้าสนใจผมจะโพสท์ต่อครับ

สนครับ ท่านแผ่วต่อเลย

[แผ่วเบา]

ที่จริงผมทำผิดกฏของเว็บ(หรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าผิดก็ลบได้ครับ)

เว็บไม่ให้ตั้งกระทู้ที่หมิ่นเหม่ต่อความขัดแย้งทางศาสนา

เท่าที่อ่านทบทวนดูก็รู้สึกว่าถ้าไม่โพสท์ต่อเนี่ย  น่าจะไม่ดี

จริงๆแล้วทุกศาสนาล้วนแล้วมุ่งให้คนทำความดีเพื่อให้สังคมมีสันติสุข  อาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกันบ้าง แต่จุดประสงค์หลักเป็นอย่างนั้นจริงๆและเป็นเหมือนกันหมด

และผมก็เคารพทุกศาสนา(แม้ผมจะเป็นชาวพุทธก็ตาม)

แต่ละศาสนาต้องมีดีครับ  ผมเชื่ออย่างนั้น  

แต่ละศาสนาผ่านระยะเวลามาหลายร้อยหลายพันปี  ถ้าไม่ดีจริง  ก็อยู่ไม่ได้จนถึงวันนี้หรอกครับ

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

เพราะพุทธศาสนา สอนให้เรา คิด และ เชื่อ อย่างมีเหตุผลครับ 

นำมาใช้กับการลงทุนในหุ้น และ การดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี

ดูเหมือนใช่นะ noooon010

แต่พี่ว่า ไม่เชิง

หลายอย่างไม่สามารถคิดได้นะ

ต้องพิสูจน์ และรู้ด้วยตัวเอง หนะใช่

ส่วนการรู้ด้วยตัวเอง ทางพุทธ ไม่ได้เน้นที่คิด และ เชื่ออย่างมีเหตุผลเท่านั้น

แต่เพิ่มเติม ด้วย การรู้แจ้งเห็นจริงด้วยตัวเอง โดยไม่ได้คิดนะ

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ที่จริงผมทำผิดกฏของเว็บ(หรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าผิดก็ลบได้ครับ) 

เว็บไม่ให้ตั้งกระทู้ที่หมิ่นเหม่ต่อความขัดแย้งทางศาสนา 

เท่าที่อ่านทบทวนดูก็รู้สึกว่าถ้าไม่โพสท์ต่อเนี่ย  น่าจะไม่ดี 

จริงๆแล้วทุกศาสนาล้วนแล้วมุ่งให้คนทำความดีเพื่อให้สังคมมีสันติสุข  อาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกันบ้าง แต่จุดประสงค์หลักเป็นอย่างนั้นจริงๆและเป็นเหมือนกันหมด 

และผมก็เคารพทุกศาสนา(แม้ผมจะเป็นชาวพุทธก็ตาม) 

แต่ละศาสนาต้องมีดีครับ  ผมเชื่ออย่างนั้น   

แต่ละศาสนาผ่านระยะเวลามาหลายร้อยหลายพันปี  ถ้าไม่ดีจริง  ก็อยู่ไม่ได้จนถึงวันนี้หรอกครับ

เราจะทะเลาะกันทำไมเรื่องศาสนา

ไม่มีประโยชน์อยู่แล้ว

หน้าที่ของพวกเราก็คือการใช้ หลักศาสนาใด ศาสนาหนึ่ง ให้เกิดประโยชน์ ก็แค่นั้น

[แผ่วเบา]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

มีอีกเยอะครับ ถ้าสนใจผมจะโพสท์ต่อครับ

สนครับ ท่านแผ่วต่อเลย

เอาที่ผมชอบนะครับ  บางเรื่องอาจจะไม่เกี่ยวกับศาสนาพุทธนักแต่เป็นคำคมที่ประทับใจครับ

Try not to become a mannof success but rather to become a man of value.

จงอย่าพยายามเป็นคนมีชื่อเสียงมีหน้ามีตา แต่จงเป็นคนที่มีคุณค่ามากกว่า

อัลเบิร์ต  ไอน์สไตน์

ผมชอบอันนี้มากเพราะมีคำว่า value  ถ้าไอน์สไตน์มาเล่นหุ้น  ผมว่าเขาจะต้องเป็น VI แน่ๆเลย อิอิ

ชีวิตไอน์สไตน์เป็นชีวิตที่โด่งดังมีคนรู้จักทั่วโลก  เขาพูดคำนี้ออกมาผมว่าน่าคิดมากครับว่าอะไรอยู่เบื้องหลังคำพูดนี้

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

Try not to become a mannof success but rather to become a man of value. 

จงอย่าพยายามเป็นคนมีชื่อเสียงมีหน้ามีตา แต่จงเป็นคนที่มีคุณค่ามากกว่า 

การพยายามมีชื่อเสียง คือความต้องการ ยกย่อง สรรเสริญ ซึ่ง ทำให้เกิดทุกข์

ส่วนการทำให้ตัวเองมีคุณค่า โดยการทำสิ่งที่มีคุณค่า โดยไม่ได้หวังว่าใครจะมาให้คุณค่า

แบบนี้ คือ ทำความดี เป็นคนดี ทำให้คนอื่นได้ประโยชน์ ทำให้ตัวเองมีคุณค่า แล้ว คนอื่นจะเข้าใจ ไม่เข้าใจ ยกย่อง ไม่ยกย่อง ไม่ต้องสน

[แผ่วเบา]

เราจะทะเลาะกันทำไมเรื่องศาสนา

ไม่มีประโยชน์อยู่แล้ว

หน้าที่ของพวกเราก็คือการใช้ หลักศาสนาใด ศาสนาหนึ่ง ให้เกิดประโยชน์ ก็แค่นั้น

ผมหมายถึงว่า ผมยกคำของไอน์สไตน์มาที่ว่า ศาสนาพุทธ ดีอย่างนั้นดีอย่างนี้  อาจจะทำให้ศาสนาอื่นเข้าใจว่า ศาสนาอื่นสู้ศาสนาพุทธไม่ได้หรืออย่างไร  ตรงนี้อาจจะเป็นบ่อเกิดแห่งความขัดแย้งได้

จริงๆแล้วศาสนาอื่นก็ดีด้วยกันทั้งนั้น เพราะแต่ละศาสนานั้นผ่านระยะเวลาแห่งการพิสูจน์มาหลายร้อยหลายพันปี  ถ้าไม่ดีจริง  ก็อยู่ไม่ได้จนถึงวันนี้  :lol:

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ผมหมายถึงว่า ผมยกคำของไอน์สไตน์มาที่ว่า ศาสนาพุทธ ดีอย่างนั้นดีอย่างนี้  อาจจะทำให้ศาสนาอื่นเข้าใจว่า ศาสนาอื่นสู้ศาสนาพุทธไม่ได้หรืออย่างไร  ตรงนี้อาจจะเป็นบ่อเกิดแห่งความขัดแย้งได้ 

จริงๆแล้วศาสนาอื่นก็ดีด้วยกันทั้งนั้น เพราะแต่ละศาสนานั้นผ่านระยะเวลาแห่งการพิสูจน์มาหลายร้อยหลายพันปี  ถ้าไม่ดีจริง  ก็อยู่ไม่ได้จนถึงวันนี้  

อ๋อ ช่างเขาเหอะ ใครจะขัดแย้ง คนเราบางที เป็นแบบ i am ok you are not ok

ต่อให้ไม่ใช่ ไอสไตน์ พูด ใครพูดก็ขัดแย้งได้ทั้งนั้น ช่างเขาเถิด เราว่าของเรา

[Pn3um0n1a]

ผม เชื่อ ใน พระธรรม ครับ  

[ShexShy]

ในตอนเย็น เสาร์-อาทิตย์ 17.45 จะมีการ์ตูนธรรมมะ เรื่อง มิลินทปัญหา

เนื้อหานี้ ผมว่าสำหรับผู้ใหญ่ดูเลย ครับ เพราะ หนัก และ เข้าใจยาก ...

แต่ผมชอบนะ ...

ศาสนาพุทธ ถ้าอยากจะเข้าใจต้องลองครับ ลองปฎิบัติ จึงจะ รู้สึกได้ ... หลักคำสอนต่าง ๆ ของพระพุทธเจ้า ก็คือวิธการปฏิบัติ และ การครองสถานะ

กาลเวลา ผ่านไป ความศรัทธา ของคน + กรรมวิธิปฏิบัติ เพื่อแสดงถึงความเคารพ ก็หล่อหลอมรวมกันเป็นศาสนา ...

ทำดีรู้สึกได้ระดับหนึ่ง

ฝึกสมาธิ ได้รู้สึกอีกระดับหนึ่ง

.
..
.

ควบคุมจิตให้สงบ และ ดับได้ คือ นิพพาน

... ต้องลองครับถึงจะเข้าใจ (ผมได้แค่นั่งสมาธิ ให้ใจมันสงบบ้าง ก็ช่วยได้เยอะแล้ว ครับ )

...

[Ryuga]

ผมเคยทำรายงานเรื่องมิลินทปัญหาตอนอยู่ ม.ปลาย สนุกมากครับ :lol:

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ผม เชื่อ ใน พระธรรม ครับ  

ดีแล้วครับเพราะพระพทธเจ้า ยังเชื่อตั้งพระธรรมไว้สูงกว่า

เคยฟังมาว่า บุคคลที่ไม่มีที่ยำเกรง ที่เคารพ ย่อมอยู่ยาก ประมาณนี้นะ

พระพุทธเจ้า ตรัสรู้ ได้ด้วยพระองค์เอง จะทรงต้อง ยำเกรง ต้องเคารพ สิ่งใดอีก

พระพุทธเจ้า ก็ทรงค้นพบ ว่าพระธรรมนี่ไง ที่พระพุทธเจ้า ต้องทรง เคารพ ต้องยำเกรง

ใครมีเนื้อหาเต็มๆ ก็ช่วยโพสนะครับ ข้อความด้านบน ผมฟังมา จาก CD ธรรมะ

[Jeng]

หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า ศาสนาพุทธไม่ได้สอนเรื่องยากเย็นแสนเข็ญอะไร แต่สอนเรื่อง การดับทุกข์ เป็นหลักเลย

                      ๑๒. กุลปุตตสูตรที่ ๒
                  ว่าด้วยธรรมอันสมควรแก่กุลบุตร
     [๓๔๓] พระนครสาวัตถี. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความเป็นผู้พิจารณาเห็นความไม่เที่ยง
ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขาร ในวิญญาณ นี้ย่อมเป็นธรรมสมควรแห่งกุลบุตรผู้บวช
ด้วยศรัทธา. เมื่อพิจารณาเห็นความไม่เที่ยง ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขาร ในวิญญาณ
ย่อมกำหนดรู้ซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เมื่อกำหนดรู้ซึ่งรูป เวทนา สัญญา
สังขาร วิญญาณ ย่อมหลุดพ้นไปจากรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ จากชาติ ชรา
มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส เรากล่าวว่า ย่อมหลุดพ้นไปจากทุกข์.

[Jeng]

๑๓. กุลปุตตสูตรที่ ๓
                  ว่าด้วยธรรมอันสมควรแก่กุลบุตร
     [๓๔๔] พระนครสาวัตถี. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความเป็นผู้พิจารณาเห็นความเป็นทุกข์
ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขาร ในวิญญาณ นี้ย่อมเป็นธรรมสมควรแห่งกุลบุตรผู้บวช
ด้วยศรัทธา ฯลฯ เรากล่าวว่า ย่อมหลุดพ้นไปจากทุกข์.

[Jeng]

๑๔. กุลปุตตสูตรที่ ๔
                  ว่าด้วยธรรมอันสมควรแก่กุลบุตร
     [๓๔๕] พระนครสาวัตถี. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความเป็นผู้พิจารณาเห็นความเป็น
อนัตตาในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขาร ในวิญญาณ นี้ย่อมเป็นธรรมสมควรแห่งกุลบุตร
ผู้บวชด้วยศรัทธา. เมื่อพิจารณาเห็นความเป็นอนัตตาในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขาร
ในวิญญาณ ย่อมกำหนดรู้ซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เมื่อกำหนดรู้ซึ่งรูป เวทนา
สัญญา สังขาร วิญญาณ ย่อมหลุดพ้นไปจากรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ จากชาติ
ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส เรากล่าวว่า ย่อมหลุดพ้นไปจากทุกข์.

[Rocker]

ขอบคุณพี่เจ๋งมากครับ  พี่เจ๋งเป็นพี่ชายของTVIที่ดีมากๆคน 1
ให้ทั้งความรู้และธรรม

[booklover]

[quote="Rocker"]ขอบคุณพี่เจ๋งมากครับ

[ShexShy]

พี่เจ๋ง ครับ

พี่เคยคิดที่จะ บวช หรือเปล่าครับ ... ผมเคยคิดนะครับ (หลังจากได้ อ่าน พระไตรปิฏก ฉบับประชาชน + หนังสือของท่านพระพุทธทาสภิกขุ ครับ)

แต่ เนื่องด้วยหลายสิ่งหลายอย่าง ทำให้เราไม่กล้าที่จะทำอย่างนั้น นอกจาก การทำบุญ หรือ นั่งสมาธิ คือ อยู่ในฐานะ ฆราวาส เท่านั่นเอง