ขอความเห็นคุณหมอเรื่องโรคภูมิแพ้และอาการคออักเสบ
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความเห็นคุณหมอเรื่องโรคภูมิแพ้และอาการคออักเสบ
โพสต์ที่ 1
เริ่มจากการเล่าอาการนะครับ
เป็นคนที่ร่างกายแข็งแรงเป็นปกตินะครับ ความดันและ pulse ปกติ
แต่มีอาการของโรคภูมิแพ้ และเวลาไม่สบายมักจะมีอาการคออักเสบร่วมด้วย
อีกไม่กี่วันก็ถึงกำหนดตรวจสุขภาพประจำปีครับ
อาการ
ภูมิแพ้
อาการก็มักจะมีน้ำมูกไหลลงคอ แล้วก็มีเสมหะ อาการนี้เป็นทั้งวัน
มีจามตอนเช้าบ้าง ทำให้เรารู้สึกอึดอัดและรำคาญครับ
คออักเสบ
เวลาป่วยหรือไม่สบายทีไร ก็มักจะมาคู่กับอาการคออักเสบ/ทอนซิลอักเสบทุกครั้งไป
ประวัติการรักษา
ขอเล่าเรื่องคออักเสบก่อน
เมื่อไม่สบายแล้วไปหาหมอ
แต่ก่อนหมอก็จะแจกยา Amoxy เช้าเย็น ครั้งละ 2 เม็ด
ติดต่อกัน 5 วันก็หายนะครับ
แต่ปัจจุบันเหมือนมันจะไม่ค่อยหายซะแล้ว
หมอเปลี่ยนยาจาก Amoxy เป็น ออกเมนติน
ก็รู้สึกว่าจะเอาไม่อยู่เหมือนกัน
*** หมอบอกว่าเป็นกลุ่มยาเพนนิซิลินเหมือนกัน
ปัจจุบันเลยเปลี่ยนมาทานยา KLACID 500 mg เช้าเย็น 5 วัน
ทานแล้วมีอาการขมปากนิดหน่อย
ยาตัวนี้เอาอยู่ครับ
คำถามครับ
1. ยังงี้แปลว่าผมมีอาการดื้อยาในกลุ่มเพนนิซิลินหรือเปล่าครับ
2. เวลาคออักเสบก็ต้องทาน Klacid ไปเรื่อยๆหรือเปล่าครับ
3. ยาแก้อักเสบพวกนี้มันจะมีผลตกค้างต่อร่างกายหรือเปล่าครับ
4. ทำไมอยู่ดีๆ ร่างกายมันดื้อยาล่ะครับ
ปกติเวลาทานยาแก้อักเสบ ทานครบตลอด
มาถึงเรื่องภูมิแพ้
เมื่อก่อนทาน Zyrtec 10 mg. 1 เม็ดก่อนนอน
ก็ไม่เห็นผลแตกแต่งอย่างชัดเจน ระหว่างทานกับไม่ทาน
Maxiphed ก็ไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่
เคย X-Ray ไม่มีอาการของไซนัสครับ
ล่าสุดหมอให้ Rhinophen-C ทานก่อนนอนหนึ่งเม็ด
แล้วมียาพ่นจมูก Rhinocort-Aqua - พ่นข้างละ 2 ฟี๊ด ก่อนนอน
เช้าก็ทานยา Zyrtec อีกเม็ดก่อนไปทำงาน
ตอนนี้ยาหมดเลยลองหยุดไปซักอาทิตย์เพื่อดูว่ามีข้อแตกต่างมั้ย
ก็พบว่าแตกต่างครับ คือว่าตอนนี้เริ่มรู้สึกรำคาญจากน้ำมูกไหลลงคอ
แปลว่ายาพวกนี้ก็น่าจะเอาอยู่เหมือนกัน
เดี๋ยวอาทิตย์นี้คงไปหาหมอเพื่อ follow up และเอายามาทานต่อ
เบี้ยวหมอมา 2 อาทิตย์แล้ว :lol:
คำถามครับ
1. ที่กลัวที่สุดเลย - ทานยาต่อกันเรื่อยๆแบบนี้มันจะมีผลตกค้างหรือเปล่า
2. หมอบอกว่าภูมิแพ้รักษาไม่หาย มันเป็นกรรมพันธุ์
ทำได้แค่รักษาไปตามอาการ
ผมเลยคิดว่า ถ้าเป็นแบบนี้ ผมก็ต้องกินยาไปเรื่อยๆแบบนี้หรือ
ผมว่าไม่ค่อย work เลย เพราะความกังวลในข้อ 1
3. มีโอกาสที่หยุดยาและอาการของโรคภูมิแพ้เหล่านี้หายหรือเปล่าครับ
ผมว่าจะลองทดลองด้วยการ ออกกำลังกายหนักๆ พักผ่อนเยอะๆ นั่งสมาธิ
ดูว่ามันจะดีขึ้นหรือเปล่า แต่ไม่เคยทำได้เลย เพราะปกติเป็นคนนอนดึก
พักผ่อนไม่ค่อยจะพอ
ขอบคุณสำหรับ second opinion ของคุณหมอทุกท่านนะครับ
พี่ๆที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ก็รบกวนมาแชร์ด้วยนะครับ
เป็นคนที่ร่างกายแข็งแรงเป็นปกตินะครับ ความดันและ pulse ปกติ
แต่มีอาการของโรคภูมิแพ้ และเวลาไม่สบายมักจะมีอาการคออักเสบร่วมด้วย
อีกไม่กี่วันก็ถึงกำหนดตรวจสุขภาพประจำปีครับ
อาการ
ภูมิแพ้
อาการก็มักจะมีน้ำมูกไหลลงคอ แล้วก็มีเสมหะ อาการนี้เป็นทั้งวัน
มีจามตอนเช้าบ้าง ทำให้เรารู้สึกอึดอัดและรำคาญครับ
คออักเสบ
เวลาป่วยหรือไม่สบายทีไร ก็มักจะมาคู่กับอาการคออักเสบ/ทอนซิลอักเสบทุกครั้งไป
ประวัติการรักษา
ขอเล่าเรื่องคออักเสบก่อน
เมื่อไม่สบายแล้วไปหาหมอ
แต่ก่อนหมอก็จะแจกยา Amoxy เช้าเย็น ครั้งละ 2 เม็ด
ติดต่อกัน 5 วันก็หายนะครับ
แต่ปัจจุบันเหมือนมันจะไม่ค่อยหายซะแล้ว
หมอเปลี่ยนยาจาก Amoxy เป็น ออกเมนติน
ก็รู้สึกว่าจะเอาไม่อยู่เหมือนกัน
*** หมอบอกว่าเป็นกลุ่มยาเพนนิซิลินเหมือนกัน
ปัจจุบันเลยเปลี่ยนมาทานยา KLACID 500 mg เช้าเย็น 5 วัน
ทานแล้วมีอาการขมปากนิดหน่อย
ยาตัวนี้เอาอยู่ครับ
คำถามครับ
1. ยังงี้แปลว่าผมมีอาการดื้อยาในกลุ่มเพนนิซิลินหรือเปล่าครับ
2. เวลาคออักเสบก็ต้องทาน Klacid ไปเรื่อยๆหรือเปล่าครับ
3. ยาแก้อักเสบพวกนี้มันจะมีผลตกค้างต่อร่างกายหรือเปล่าครับ
4. ทำไมอยู่ดีๆ ร่างกายมันดื้อยาล่ะครับ
ปกติเวลาทานยาแก้อักเสบ ทานครบตลอด
มาถึงเรื่องภูมิแพ้
เมื่อก่อนทาน Zyrtec 10 mg. 1 เม็ดก่อนนอน
ก็ไม่เห็นผลแตกแต่งอย่างชัดเจน ระหว่างทานกับไม่ทาน
Maxiphed ก็ไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่
เคย X-Ray ไม่มีอาการของไซนัสครับ
ล่าสุดหมอให้ Rhinophen-C ทานก่อนนอนหนึ่งเม็ด
แล้วมียาพ่นจมูก Rhinocort-Aqua - พ่นข้างละ 2 ฟี๊ด ก่อนนอน
เช้าก็ทานยา Zyrtec อีกเม็ดก่อนไปทำงาน
ตอนนี้ยาหมดเลยลองหยุดไปซักอาทิตย์เพื่อดูว่ามีข้อแตกต่างมั้ย
ก็พบว่าแตกต่างครับ คือว่าตอนนี้เริ่มรู้สึกรำคาญจากน้ำมูกไหลลงคอ
แปลว่ายาพวกนี้ก็น่าจะเอาอยู่เหมือนกัน
เดี๋ยวอาทิตย์นี้คงไปหาหมอเพื่อ follow up และเอายามาทานต่อ
เบี้ยวหมอมา 2 อาทิตย์แล้ว :lol:
คำถามครับ
1. ที่กลัวที่สุดเลย - ทานยาต่อกันเรื่อยๆแบบนี้มันจะมีผลตกค้างหรือเปล่า
2. หมอบอกว่าภูมิแพ้รักษาไม่หาย มันเป็นกรรมพันธุ์
ทำได้แค่รักษาไปตามอาการ
ผมเลยคิดว่า ถ้าเป็นแบบนี้ ผมก็ต้องกินยาไปเรื่อยๆแบบนี้หรือ
ผมว่าไม่ค่อย work เลย เพราะความกังวลในข้อ 1
3. มีโอกาสที่หยุดยาและอาการของโรคภูมิแพ้เหล่านี้หายหรือเปล่าครับ
ผมว่าจะลองทดลองด้วยการ ออกกำลังกายหนักๆ พักผ่อนเยอะๆ นั่งสมาธิ
ดูว่ามันจะดีขึ้นหรือเปล่า แต่ไม่เคยทำได้เลย เพราะปกติเป็นคนนอนดึก
พักผ่อนไม่ค่อยจะพอ
ขอบคุณสำหรับ second opinion ของคุณหมอทุกท่านนะครับ
พี่ๆที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ก็รบกวนมาแชร์ด้วยนะครับ
"Winners never quit, and quitters never win."
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความเห็นคุณหมอเรื่องโรคภูมิแพ้และอาการคออักเสบ
โพสต์ที่ 2
อยากได้ความเห็นหมอดูมั้ยคับ :lol: แหะๆ มาแซวนิโหน่ย :lol:HVI เขียน:ขอความเห็นคุณหมอเรื่องโรคภูมิแพ้และอาการคออักเสบ
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความเห็นคุณหมอเรื่องโรคภูมิแพ้และอาการคออักเสบ
โพสต์ที่ 3
หมอดูก็ได้ครับ เป็น third opinion ละกันRyuga เขียน: อยากได้ความเห็นหมอดูมั้ยคับ :lol: แหะๆ มาแซวนิโหน่ย :lol:
ผมต้องบอกอารายมั่งอ่ะ :lol:
"Winners never quit, and quitters never win."
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความเห็นคุณหมอเรื่องโรคภูมิแพ้และอาการคออักเสบ
โพสต์ที่ 4
อย่างน้อยก็ดูวันเดือนปีเกิดก่อนครับ วันเจ้าเรือนอะไร ธาตุอะไร ช่วงอายุเสวยอะไร เผื่อผมรู้สมุติฐานของโรคแล้วจะได้จัดเครื่องยาพวกประสะหรือพวกเบญจกูลให้ ปรับธาตุต่างๆ ให้สมดุล :lol:
แต่อย่าพึ่งบอกวันเดือนปีเกิดให้ผมรู้นะ :\/: ดูดวงผู้หญิงผมดูฟรี ดวงผู้ชายคิดตังค์ เหอๆ
แต่อย่าพึ่งบอกวันเดือนปีเกิดให้ผมรู้นะ :\/: ดูดวงผู้หญิงผมดูฟรี ดวงผู้ชายคิดตังค์ เหอๆ
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความเห็นคุณหมอเรื่องโรคภูมิแพ้และอาการคออักเสบ
โพสต์ที่ 5
Ryuga เขียน:อย่างน้อยก็ดูวันเดือนปีเกิดก่อนครับ วันเจ้าเรือนอะไร ธาตุอะไร ช่วงอายุเสวยอะไร เผื่อผมรู้สมุติฐานของโรคแล้วจะได้จัดเครื่องยาพวกประสะหรือพวกเบญจกูลให้ ปรับธาตุต่างๆ ให้สมดุล :lol:
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 306
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความเห็นคุณหมอเรื่องโรคภูมิแพ้และอาการคออักเสบ
โพสต์ที่ 6
จากที่ฟังๆ พี่หวีน่าจะเป็นภูมิแพ้แหละค่ะ ภูมิแพ้เป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด แต่มีช่วงที่อาการดีขึ้น แย่ลงได้ และสามารถควบคุมอาการด้วยยาและการหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ได้ แต่ละคนก็ความรุนแรงไม่เท่ากันอีก
คำถาม
1. ยังงี้แปลว่าผมมีอาการดื้อยาในกลุ่มเพนนิซิลินหรือเปล่าครับ
ยาฆ่าเชื้อจะมีการออกฤทธิ์ที่ต่างกะยาทั่วไปค่ะ คือมันไม่ได้ออกฤทธิ์กับร่างกายเราเหมือนยาอื่น เช่นยาขับปัสสาวะ ผู้กินก็ปัสสาวะมาก แต่ยาฆ่าเชื้อเป็นยาที่เรากินเข้าไปเพื่อไปฆ่าเชื้อโรคเราอีกทีหนึ่ง ฉะนั้นพี่หวีคงไม่ได้ดื้อยา แต่ที่ดื้อคือเชื้อโรคค่ะ อีกอย่างหลายครั้งที่เรากินยาฆ่าเชื้อเกินความจำเป็น คือไม่ได้เป็นหวัดติดเชื้อแบคทีเรียซะหน่อย แต่เป็นหวัดไวรัส เราก็กินยาฆ่าเชื้อ (antibiotic) ซึ่ง antibiotic ฆ่า virus ไม่ได้ แต่อันนี้พูดยากค่ะว่า ที่พี่กินมาเหมาะสมป่าว เพราะต้องดูรายละเอียดของการป่วยแต่ละครั้ง
2. เวลาคออักเสบก็ต้องทาน Klacid ไปเรื่อยๆหรือเปล่าครับ
อย่างที่บอกค่ะ ต้องดูรายละเอียดการป่วยแต่ละครั้ง ประวัติประกอบการตรวจร่างกาย
3. ยาแก้อักเสบพวกนี้มันจะมีผลตกค้างต่อร่างกายหรือเปล่าครับ
เท่าที่ทราบไม่มีผลตกค้างค่ะ
4.ที่กลัวที่สุดเลย - ทานยาต่อกันเรื่อยๆแบบนี้มันจะมีผลตกค้างหรือเปล่า
ยาพวกแก้แพ้ ทานได้ระยะยาวค่ะ ไม่อันตราย
5. มีโอกาสที่หยุดยาและอาการของโรคภูมิแพ้เหล่านี้หายหรือเปล่าครับ
คนเป็นภูมิแพ้หลายคนที่สามารถหาสาเหตุของการแพ้ได้ และหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ อันนี้ช่วยได้มากค่ะ มีการทำ skin test เพื่อหาสาเหตุ แล้วรักษาด้วยการกระตุ้นภูมิก็เป็นอีกวิธีการรักษาหนึ่งค่ะ นอกจากการใช้ยา สรุปน่าจะปรึกษาหมอภูมิแพ้นะคะ ลองถามเรื่องการทำ skin test ดูก็ได้
ความคิดเห็นจากหมอเด็ก(ๆ) รอดูความคิดเห็นของท่านอาจารย์ทั้งหลายเพิ่มเติมนะคะ
คำถาม
1. ยังงี้แปลว่าผมมีอาการดื้อยาในกลุ่มเพนนิซิลินหรือเปล่าครับ
ยาฆ่าเชื้อจะมีการออกฤทธิ์ที่ต่างกะยาทั่วไปค่ะ คือมันไม่ได้ออกฤทธิ์กับร่างกายเราเหมือนยาอื่น เช่นยาขับปัสสาวะ ผู้กินก็ปัสสาวะมาก แต่ยาฆ่าเชื้อเป็นยาที่เรากินเข้าไปเพื่อไปฆ่าเชื้อโรคเราอีกทีหนึ่ง ฉะนั้นพี่หวีคงไม่ได้ดื้อยา แต่ที่ดื้อคือเชื้อโรคค่ะ อีกอย่างหลายครั้งที่เรากินยาฆ่าเชื้อเกินความจำเป็น คือไม่ได้เป็นหวัดติดเชื้อแบคทีเรียซะหน่อย แต่เป็นหวัดไวรัส เราก็กินยาฆ่าเชื้อ (antibiotic) ซึ่ง antibiotic ฆ่า virus ไม่ได้ แต่อันนี้พูดยากค่ะว่า ที่พี่กินมาเหมาะสมป่าว เพราะต้องดูรายละเอียดของการป่วยแต่ละครั้ง
2. เวลาคออักเสบก็ต้องทาน Klacid ไปเรื่อยๆหรือเปล่าครับ
อย่างที่บอกค่ะ ต้องดูรายละเอียดการป่วยแต่ละครั้ง ประวัติประกอบการตรวจร่างกาย
3. ยาแก้อักเสบพวกนี้มันจะมีผลตกค้างต่อร่างกายหรือเปล่าครับ
เท่าที่ทราบไม่มีผลตกค้างค่ะ
4.ที่กลัวที่สุดเลย - ทานยาต่อกันเรื่อยๆแบบนี้มันจะมีผลตกค้างหรือเปล่า
ยาพวกแก้แพ้ ทานได้ระยะยาวค่ะ ไม่อันตราย
5. มีโอกาสที่หยุดยาและอาการของโรคภูมิแพ้เหล่านี้หายหรือเปล่าครับ
คนเป็นภูมิแพ้หลายคนที่สามารถหาสาเหตุของการแพ้ได้ และหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ อันนี้ช่วยได้มากค่ะ มีการทำ skin test เพื่อหาสาเหตุ แล้วรักษาด้วยการกระตุ้นภูมิก็เป็นอีกวิธีการรักษาหนึ่งค่ะ นอกจากการใช้ยา สรุปน่าจะปรึกษาหมอภูมิแพ้นะคะ ลองถามเรื่องการทำ skin test ดูก็ได้
ความคิดเห็นจากหมอเด็ก(ๆ) รอดูความคิดเห็นของท่านอาจารย์ทั้งหลายเพิ่มเติมนะคะ
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคุณหมอเรื่องโรคภูมิแพ้และอาการคออักเสบ
โพสต์ที่ 8
ตอบสำหรับข้อ 1, 2 และ 4HVI เขียน: คำถามครับ
1. ยังงี้แปลว่าผมมีอาการดื้อยาในกลุ่มเพนนิซิลินหรือเปล่าครับ
2. เวลาคออักเสบก็ต้องทาน Klacid ไปเรื่อยๆหรือเปล่าครับ
3. ยาแก้อักเสบพวกนี้มันจะมีผลตกค้างต่อร่างกายหรือเปล่าครับ
4. ทำไมอยู่ดีๆ ร่างกายมันดื้อยาล่ะครับ
ปกติเวลาทานยาแก้อักเสบ ทานครบตลอด
อาจจะไม่ใช่ก็ได้ครับ อาการต่าง ๆ ที่ว่ามาภาษาหมอเขาเรียกย่อ ๆ ว่า URI (upper respiratory tract infection; upper = ส่วนบน, respiratory tract = ทางเดินหายใจ, infection = การติดเชื้อ) เรียกรวมเป็นภาษาไทยว่า การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน
ปัญหาอยู่ที่ สาเหตุของ URI ส่วนใหญ่คือการติดเชื้อไวรัสครับ เชื้อนี้ไม่มียาฆ่ามัน แค่รักษาตามอาการแล้วหายไปได้เอง ส่วนน้อยเท่านั้นที่ติดเชื้อแบคทีเรียที่ใช้ยาปฏิชีวนะทั้งหลายแล้วได้ประโยชน์
สิ่งที่บ่งชี้มั่งว่าน่าจะติดเชื้อแบคทีเรียซะมากกว่าได้แก่ อาการไข้สูง, กินไม่ได้, เจ็บคอและพบว่าคอแดงมาก (เจ็บคอเฉย ๆ ไม่เอา, คอแดงนิด ๆ ก็ไม่เอา), ทอนซิลโตและมีจุดหนอง (ทอนซิลโตเฉย ๆ ก็ไม่เอาเหมือนกัน), มีต่อมน้ำเหลืองที่คอโตและเจ็บ, มีเสมหะเหลืองหรือเขียว
การสั่งยาปฏิชีวนะโดยไม่มีข้อบ่งชี้ (overuse, แต่หมอ รพ.เอกชน หรือแม้ รพ.รัฐหลายแห่ง ก็ทำกันประจำ) เป็นตัวการสำคัญที่จะทำให้เกิดเชื้อดื้อยา เพราะเชื้อในธรรมชาติรอบ ๆ ตัวเราจะได้ยานี้ไปด้วย แต่ในปริมาณนิด ๆ หน่อย ๆ (ยามันถูกขับออกทางเหงื่อมั่ง, น้ำลายมั่ง, ปัสสาวะอุจจาระมั่ง) เชื้อที่ได้ยาเล็ก ๆ น้อย ๆ จะไม่ตาย (แค่บาดเจ็บนิดหน่อย) แต่กระตุ้นให้ดื้อยาได้ง่าย
ผมแนะนำให้เลี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็นดีกว่า เป็นหวัด เจ็บคอนิด ๆ หน่อย ๆ มักเป็นแล้วหายเองได้ แค่กินยาลดน้ำมูก, ยาแก้ไข, ยาลดไข้ สามสี่วันก็พอ ถ้ามันมีอะไรน่าสงสัยเหมือนที่ผมว่า ค่อยกินก็ได้
ตอบสำหรับข้อ 3
ยาปฏิชีวนะเกือบทุกตัวขับออกทางไตเป็นหลัก โดยทั่วไปยาจะขับออกจนเกือบหมดเมื่อหยุดยาไปอย่างน้อย 5 half-life (T 1/2) ถ้าการทำงานของไตปกติดี ยาที่กินวันละครั้ง (เช่น Klacid) ควรจะขับออกได้หมดเมื่อผ่านไปแล้ว 4-5 วัน
HVI เขียน: มาถึงเรื่องภูมิแพ้
เมื่อก่อนทาน Zyrtec 10 mg. 1 เม็ดก่อนนอน
ก็ไม่เห็นผลแตกแต่งอย่างชัดเจน ระหว่างทานกับไม่ทาน
Maxiphed ก็ไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่
เคย X-Ray ไม่มีอาการของไซนัสครับ
ล่าสุดหมอให้ Rhinophen-C ทานก่อนนอนหนึ่งเม็ด
แล้วมียาพ่นจมูก Rhinocort-Aqua - พ่นข้างละ 2 ฟี๊ด ก่อนนอน
เช้าก็ทานยา Zyrtec อีกเม็ดก่อนไปทำงาน
ตอนนี้ยาหมดเลยลองหยุดไปซักอาทิตย์เพื่อดูว่ามีข้อแตกต่างมั้ย
ก็พบว่าแตกต่างครับ คือว่าตอนนี้เริ่มรู้สึกรำคาญจากน้ำมูกไหลลงคอ
แปลว่ายาพวกนี้ก็น่าจะเอาอยู่เหมือนกัน
เดี๋ยวอาทิตย์นี้คงไปหาหมอเพื่อ follow up และเอายามาทานต่อ
เบี้ยวหมอมา 2 อาทิตย์แล้ว
- Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคุณหมอเรื่องโรคภูมิแพ้และอาการคออักเสบ
โพสต์ที่ 9
ขอเสริมจากพี่ ano ละกันนะครับ
คำถามต่อคือว่า มีอาการบ่อยแค่ไหน ทุกวัน หรือ สัปดาห์ละกี่วัน
ทั้งปี เป็นตลอดเลย หรือเป็นช่วงๆปี
โรคภูมิแพ้นี้ อย่างที่เข้าใจกันอยู่แล้วคือ ยังไม่มีการรักษาที่มีประสิทธิภาพที่รักษาได้หายขาดทันที นอกจากการเลี่ยงสิ่งที่แพ้ (ซึ่งส่วนมากก็ไม่ทราบว่าแพ้อะไร )
การรักษาจึงเป็นการประทังอาการ ไม่ให้รบกวนชีวิตประจำวัน ทำงาน พักผ่อนได้อย่างคนปกติมากที่สุด
ปัจจุบันเชื่อว่า การใช้ยาป้องกัน จะช่วยให้หายได้ดีกว่ากินยาเท่าที่จำเป็นครับ ซึ่งการใช้ยาป้องกันเหล่านี้ก็ขึ้นกับ ปริมาณอาการครับ
แต่ก็ไม่ต้องตกใจไปนะครับ มีคนจำนวนหนึ่ง พออายุมากขึ้น ออกกำลังกาย ควบคุมอาการดีๆ ก็หายไปได้ครับ
ที่สำคัญที่ผมเดาว่าอย่างนี้ เพราะว่า
90% ของการเป็น ไข้ เจ็บคอ น้ำมูก ก็ยังป็น viral cold คือไข้หวัดธรรมดา
(ถ้าให้บอกคือ ในการป่วยที่พี่ว่า 10 ครั้ง มีโอกาสที่พี่หวี จะเป็นไข้ไวรัสเนี่ย ตั้ง 9 ครั้ง)
และพวกนี้ ยาไม่มีผลครับ อย่างที่พี่ ano ว่าไว้
และพวกนี้ หายช้าหายเร็ว ก็ขึ้นกับสภาพร่างกายเรามากกว่า
ผม เดาว่า พอหายช้า ก็ เปลี่ยนยาให้แรงขึ้น พอแรงขึ้นไปแล้วครั้งหนึ่ง ก็ต้องแรงขึ้นไปเรื่อยๆ อีก (ตามความเชื่อ) ทั้งที่ตอนนั้น อาจจะไม่ได้เป็นไข้หวัดแบคทีเรีย ครับ เลยกลายเป็นว่า คิดว่าดื้อยาไปแล้ว
แต่ก็จะมีคนบางคนนะครับ ที่เป็นไข้ ทอนซิลอักเสบ ติดเชื้อแบคทีเรีย บ่อยๆ ได้เหมือนกัน พวกนี้ต้องไปคุยกับ หมอ หูคอจมูก เผื่อว่ามีข้อบ่งชี้ในการ ตัดต่อมทอนซิลออกไปเลยครับ
ดังนั้น อันนี้ผมเดาไปก่อนนะครับ เพราะวาแต่ละครั้งที่พี่หวีป่วย ผมไม่เห็นคอ(และหน้า)พี่หวีครับ :lol: คงตอบ ข้อ 1+2 ได้
ส่วนว่าทำไมอยู่ๆ ดื้อยา (ถ้าเป็น การดื้อยาของแบคทีเรียจริงๆ)
มีมีหลายกลไกมากๆ 4-5 อย่างมั้งครับ
ถ้าอยากได้รายละเอียด ค่อยว่ากันละกันครับ
ผมยกตัวอย่างสั้นๆ สัก 2 อย่าง
1. กลไกการดื้อโดยการสร้าง enzyme ของ เชื้อ ออกมาทำลายยา
เช่น beta lactamase ออกมาทำลายยากลุ่ม beta lactam ซึ่ง penicillin ก็เป็นยากลุ่มนี้เหมือนกัน
ถ้าดื้อจริง การแก้ ที่ทำมาแล้ว ก็อย่างเช่น การเติมยาที่ไปยับยั้ง enzyme เหล่านี้ อย่างที่พี่หวียกตัวอย่างมา จากการใช้ยา amoxi เปลี่ยนไปใช้ augmentin ซึ่งบอกเป็น penicillin เหมือนกัน
จริงๆ สองัวนี้ เป็น amoxi เหมือนกัน เพียงแต่ตัวหลังเติม clavolunic acid ซึ่งเป็นตัวยับยั้ง enzyme ที่เชื้อสร้างขึ้นมาครับ
2. กลไกอื่นๆ เช่น เปลี่ยนโครงสร้างเชื้อ เปลี่ยนตัวที่ยาจะไปจับ เป็นต้น
ช่างมันละกัน
แต่สรุปว่า การดื้อยา เกิดจาก เชื้อมันอยากเอาตัวรอดครับ และเกิดจาก กินยาไม่ครบ ทำให้เชื้อตายไม่หมด เชื้อเหล่านั้นมันก็เรียนรู้ ว่าทำยังไงถึงจะอยู่รอดได้ (ประมาณนี้ละกัน) อธิบายให้ฟังดูง่ายๆ หน่อย เด๋วพี่เจ๋งจะมาบ่นอีก 555 :lol:
คงต้องถามต่อว่า อาการคออักเสบที่ว่านั้น เป็นขนาดไหน อย่างที่พี่ ano เกริ่นไว้แล้ว คือเป็น viral / bacterialHVI เขียน:เป็นคนที่ร่างกายแข็งแรงเป็นปกตินะครับ ความดันและ pulse ปกติ
แต่มีอาการของโรคภูมิแพ้ และเวลาไม่สบายมักจะมีอาการคออักเสบร่วมด้วย
คออักเสบ
เวลาป่วยหรือไม่สบายทีไร ก็มักจะมาคู่กับอาการคออักเสบ/ทอนซิลอักเสบทุกครั้งไป
อันนี้ ก็เป็น allergic rhinitis ครับ หรือ ภูมิแพ้จมูก ภูมิแพ้อากาศ แล้วแต่ใครจะเรียกครับHVI เขียน: อาการก็มักจะมีน้ำมูกไหลลงคอ แล้วก็มีเสมหะ อาการนี้เป็นทั้งวัน
มีจามตอนเช้าบ้าง ทำให้เรารู้สึกอึดอัดและรำคาญครับ
คำถามต่อคือว่า มีอาการบ่อยแค่ไหน ทุกวัน หรือ สัปดาห์ละกี่วัน
ทั้งปี เป็นตลอดเลย หรือเป็นช่วงๆปี
โรคภูมิแพ้นี้ อย่างที่เข้าใจกันอยู่แล้วคือ ยังไม่มีการรักษาที่มีประสิทธิภาพที่รักษาได้หายขาดทันที นอกจากการเลี่ยงสิ่งที่แพ้ (ซึ่งส่วนมากก็ไม่ทราบว่าแพ้อะไร )
การรักษาจึงเป็นการประทังอาการ ไม่ให้รบกวนชีวิตประจำวัน ทำงาน พักผ่อนได้อย่างคนปกติมากที่สุด
ปัจจุบันเชื่อว่า การใช้ยาป้องกัน จะช่วยให้หายได้ดีกว่ากินยาเท่าที่จำเป็นครับ ซึ่งการใช้ยาป้องกันเหล่านี้ก็ขึ้นกับ ปริมาณอาการครับ
แต่ก็ไม่ต้องตกใจไปนะครับ มีคนจำนวนหนึ่ง พออายุมากขึ้น ออกกำลังกาย ควบคุมอาการดีๆ ก็หายไปได้ครับ
จริงๆ ผมว่าไม่น่าเกี่ยวกับดื้อยานะครับ เพราะ เชื้อคออักเสบที่เป็น bacteria ปัจจุบัน อัตราการดื้อยาก็ไม่ได้สูงเท่าไหร่HVI เขียน: เมื่อไม่สบายแล้วไปหาหมอ
แต่ก่อนหมอก็จะแจกยา Amoxy เช้าเย็น ครั้งละ 2 เม็ด
ติดต่อกัน 5 วันก็หายนะครับ
แต่ปัจจุบันเหมือนมันจะไม่ค่อยหายซะแล้ว
หมอเปลี่ยนยาจาก Amoxy เป็น ออกเมนติน
ก็รู้สึกว่าจะเอาไม่อยู่เหมือนกัน
*** หมอบอกว่าเป็นกลุ่มยาเพนนิซิลินเหมือนกัน
ปัจจุบันเลยเปลี่ยนมาทานยา KLACID 500 mg เช้าเย็น 5 วัน
ทานแล้วมีอาการขมปากนิดหน่อย
ยาตัวนี้เอาอยู่ครับ
คำถามครับ
1. ยังงี้แปลว่าผมมีอาการดื้อยาในกลุ่มเพนนิซิลินหรือเปล่าครับ
2. เวลาคออักเสบก็ต้องทาน Klacid ไปเรื่อยๆหรือเปล่าครับ
3. ยาแก้อักเสบพวกนี้มันจะมีผลตกค้างต่อร่างกายหรือเปล่าครับ
4. ทำไมอยู่ดีๆ ร่างกายมันดื้อยาล่ะครับ
ปกติเวลาทานยาแก้อักเสบ ทานครบตลอด
ที่สำคัญที่ผมเดาว่าอย่างนี้ เพราะว่า
90% ของการเป็น ไข้ เจ็บคอ น้ำมูก ก็ยังป็น viral cold คือไข้หวัดธรรมดา
(ถ้าให้บอกคือ ในการป่วยที่พี่ว่า 10 ครั้ง มีโอกาสที่พี่หวี จะเป็นไข้ไวรัสเนี่ย ตั้ง 9 ครั้ง)
และพวกนี้ ยาไม่มีผลครับ อย่างที่พี่ ano ว่าไว้
และพวกนี้ หายช้าหายเร็ว ก็ขึ้นกับสภาพร่างกายเรามากกว่า
ผม เดาว่า พอหายช้า ก็ เปลี่ยนยาให้แรงขึ้น พอแรงขึ้นไปแล้วครั้งหนึ่ง ก็ต้องแรงขึ้นไปเรื่อยๆ อีก (ตามความเชื่อ) ทั้งที่ตอนนั้น อาจจะไม่ได้เป็นไข้หวัดแบคทีเรีย ครับ เลยกลายเป็นว่า คิดว่าดื้อยาไปแล้ว
แต่ก็จะมีคนบางคนนะครับ ที่เป็นไข้ ทอนซิลอักเสบ ติดเชื้อแบคทีเรีย บ่อยๆ ได้เหมือนกัน พวกนี้ต้องไปคุยกับ หมอ หูคอจมูก เผื่อว่ามีข้อบ่งชี้ในการ ตัดต่อมทอนซิลออกไปเลยครับ
ดังนั้น อันนี้ผมเดาไปก่อนนะครับ เพราะวาแต่ละครั้งที่พี่หวีป่วย ผมไม่เห็นคอ(และหน้า)พี่หวีครับ :lol: คงตอบ ข้อ 1+2 ได้
ส่วนว่าทำไมอยู่ๆ ดื้อยา (ถ้าเป็น การดื้อยาของแบคทีเรียจริงๆ)
มีมีหลายกลไกมากๆ 4-5 อย่างมั้งครับ
ถ้าอยากได้รายละเอียด ค่อยว่ากันละกันครับ
ผมยกตัวอย่างสั้นๆ สัก 2 อย่าง
1. กลไกการดื้อโดยการสร้าง enzyme ของ เชื้อ ออกมาทำลายยา
เช่น beta lactamase ออกมาทำลายยากลุ่ม beta lactam ซึ่ง penicillin ก็เป็นยากลุ่มนี้เหมือนกัน
ถ้าดื้อจริง การแก้ ที่ทำมาแล้ว ก็อย่างเช่น การเติมยาที่ไปยับยั้ง enzyme เหล่านี้ อย่างที่พี่หวียกตัวอย่างมา จากการใช้ยา amoxi เปลี่ยนไปใช้ augmentin ซึ่งบอกเป็น penicillin เหมือนกัน
จริงๆ สองัวนี้ เป็น amoxi เหมือนกัน เพียงแต่ตัวหลังเติม clavolunic acid ซึ่งเป็นตัวยับยั้ง enzyme ที่เชื้อสร้างขึ้นมาครับ
2. กลไกอื่นๆ เช่น เปลี่ยนโครงสร้างเชื้อ เปลี่ยนตัวที่ยาจะไปจับ เป็นต้น
ช่างมันละกัน
แต่สรุปว่า การดื้อยา เกิดจาก เชื้อมันอยากเอาตัวรอดครับ และเกิดจาก กินยาไม่ครบ ทำให้เชื้อตายไม่หมด เชื้อเหล่านั้นมันก็เรียนรู้ ว่าทำยังไงถึงจะอยู่รอดได้ (ประมาณนี้ละกัน) อธิบายให้ฟังดูง่ายๆ หน่อย เด๋วพี่เจ๋งจะมาบ่นอีก 555 :lol:
HVI เขียน:
มาถึงเรื่องภูมิแพ้
เมื่อก่อนทาน Zyrtec 10 mg. 1 เม็ดก่อนนอน
ก็ไม่เห็นผลแตกแต่งอย่างชัดเจน ระหว่างทานกับไม่ทาน
Maxiphed ก็ไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่
เคย X-Ray ไม่มีอาการของไซนัสครับ
ล่าสุดหมอให้ Rhinophen-C ทานก่อนนอนหนึ่งเม็ด
แล้วมียาพ่นจมูก Rhinocort-Aqua - พ่นข้างละ 2 ฟี๊ด ก่อนนอน
เช้าก็ทานยา Zyrtec อีกเม็ดก่อนไปทำงาน
ตอนนี้ยาหมดเลยลองหยุดไปซักอาทิตย์เพื่อดูว่ามีข้อแตกต่างมั้ย
ก็พบว่าแตกต่างครับ คือว่าตอนนี้เริ่มรู้สึกรำคาญจากน้ำมูกไหลลงคอ
แปลว่ายาพวกนี้ก็น่าจะเอาอยู่เหมือนกัน
เดี๋ยวอาทิตย์นี้คงไปหาหมอเพื่อ follow up และเอายามาทานต่อ
เบี้ยวหมอมา 2 อาทิตย์แล้ว
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความเห็นคุณหมอเรื่องโรคภูมิแพ้และอาการคออักเสบ
โพสต์ที่ 12
ต้องอายุน้อยกว่าผมด้วยนะครับ :lol:Ano เขียน: งั้นรบกวนดูให้หน่อยดิคะ
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความเห็นคุณหมอเรื่องโรคภูมิแพ้และอาการคออักเสบ
โพสต์ที่ 14
ขอบคุณมากๆนะครับ
ทั้งหมอเด็ก (หมอ Ano) หมอใหม่ (หมอนิว) และหมอใหญ่ (อาจารย์หมอ prandy)
ทั้งหมอเด็ก (หมอ Ano) หมอใหม่ (หมอนิว) และหมอใหญ่ (อาจารย์หมอ prandy)
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความเห็นคุณหมอเรื่องโรคภูมิแพ้และอาการคออักเสบ
โพสต์ที่ 15
ตอนที่ผมถามน้องว่าหมอเปลี่ยนยาใหม่
จาก Amoxi เป็น Augmentin
น้องผมก็อธิบายเหมือนหมอนิวนี่แหละครับ
ผมเรียกว่ายา Loso กับ Hiso แล้วกัน
ทีนี้พอเปลี่ยนมาเป็น Klacid
น้องก็บอกว่า grade เทียบเท่ากับ Augmentin
เป็นยานอก Hiso เหมือนกัน (แพงเหมือนกัน)
แต่เป็นตัวยาคนละกลุ่ม
คำถาม (อีกแล้ว)
ขอถามหน่อยนะครับ เก็บความสงสัยไว้นานแล้ว
1. การที่เราเคยทานยา Loso แล้วไปทานยา Hiso แบบนี้
พอกลับมาทานยา Loso อีก มันจะมีผลอะไรมั้ย
เช่น เชื้อโรคไม่ตอบสนอง
จำเป็นมั้ยที่ทานยา Hiso แล้วก็ต้องทานยา Hiso ไปตลอด ไม่งั้นไม่ได้ผล
2. Klacid กับ Augmentin เป็นยาคนละกลุ่ม
2 ตัวนี้มีข้อดี ข้อเสีย ต่างกันอย่างไร (ผมรู้แต่ว่า แพงไม่ต่างกันเลย)
จาก Amoxi เป็น Augmentin
น้องผมก็อธิบายเหมือนหมอนิวนี่แหละครับ
ผมเรียกว่ายา Loso กับ Hiso แล้วกัน
ทีนี้พอเปลี่ยนมาเป็น Klacid
น้องก็บอกว่า grade เทียบเท่ากับ Augmentin
เป็นยานอก Hiso เหมือนกัน (แพงเหมือนกัน)
แต่เป็นตัวยาคนละกลุ่ม
คำถาม (อีกแล้ว)
ขอถามหน่อยนะครับ เก็บความสงสัยไว้นานแล้ว
1. การที่เราเคยทานยา Loso แล้วไปทานยา Hiso แบบนี้
พอกลับมาทานยา Loso อีก มันจะมีผลอะไรมั้ย
เช่น เชื้อโรคไม่ตอบสนอง
จำเป็นมั้ยที่ทานยา Hiso แล้วก็ต้องทานยา Hiso ไปตลอด ไม่งั้นไม่ได้ผล
2. Klacid กับ Augmentin เป็นยาคนละกลุ่ม
2 ตัวนี้มีข้อดี ข้อเสีย ต่างกันอย่างไร (ผมรู้แต่ว่า แพงไม่ต่างกันเลย)
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความเห็นคุณหมอเรื่องโรคภูมิแพ้และอาการคออักเสบ
โพสต์ที่ 16
ส่วนอาการภูมิแพ้
ทานยาต่อเนื่อง ไม่มีผลข้างเคียง
และการทานยาดีกว่าไม่ทาน
การทานยาติดต่อกันไปนานๆ อาจทำให้หายจากอาการภูมิแพ้ได้
ได้ยินแบบนี้ก็สบายใจครับ
(คุณหมอ Ano แนะนำตัวยามาด้วย ขอบคุณอีกครั้ง)
ส่วนเรื่องแพ้อะไรเนี่ย... เดี๋ยวจะลองสังเกตดูครับ
แต่ที่มั่นใจคือแพ้สาวสวย
คำถามครับ
1. ปกติทานกาแฟ วันละ 1 - 2 แก้ว
มีผลอะไรกับภูมิแพ้มั้ย
2. การออกกำลังกายจากการว่ายน้ำ
คลอรีนในน้ำจะมีผลอะไรกับภูมิแพ้มั้ย
หรือจะตอบคำถามเหล่านี้ได้ต้องรู้ก่อนว่าเราแพ้อะไร
ทานยาต่อเนื่อง ไม่มีผลข้างเคียง
และการทานยาดีกว่าไม่ทาน
การทานยาติดต่อกันไปนานๆ อาจทำให้หายจากอาการภูมิแพ้ได้
ได้ยินแบบนี้ก็สบายใจครับ
(คุณหมอ Ano แนะนำตัวยามาด้วย ขอบคุณอีกครั้ง)
ส่วนเรื่องแพ้อะไรเนี่ย... เดี๋ยวจะลองสังเกตดูครับ
แต่ที่มั่นใจคือแพ้สาวสวย
คำถามครับ
1. ปกติทานกาแฟ วันละ 1 - 2 แก้ว
มีผลอะไรกับภูมิแพ้มั้ย
2. การออกกำลังกายจากการว่ายน้ำ
คลอรีนในน้ำจะมีผลอะไรกับภูมิแพ้มั้ย
หรือจะตอบคำถามเหล่านี้ได้ต้องรู้ก่อนว่าเราแพ้อะไร
"Winners never quit, and quitters never win."
- Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความเห็นคุณหมอเรื่องโรคภูมิแพ้และอาการคออักเสบ
โพสต์ที่ 17
ถ..ถ..ถ..ถ.. ถะ ... ถูกต้องนะคร้าบHVI เขียน: ผมขอสรุปจากอาการคออักเสบก่อนนะครับ ถ้าตรงไหนผิดรบกวนชี้แนะด้วย
1. ผมเชื่อว่าอาการคออักเสบที่เป็นบ่อยๆเมื่อไม่สบาย เกิดจากไวรัส ไม่ใช่แบคทีเรีย
แต่ยาปฏิชีวนะดังกล่าวเป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียไม่ใช่ไวรัส
มันเลยไม่ตอบสนองเท่าที่ควร ไม่น่าจะเกิดจากเชื้อโรคดื้อยา
เท่าที่สังเกตจากน้ำมูก
น้ำมูกจะเป็นสีขาวข้น ไม่ได้เหลืองเขียว ส่วนใหญ่จะมีไข้ต่ำๆ ไม่ใช่ไข้สูง รับประทานอาหารได้ตามปกติ
ดังนั้นอาการดังกล่าวควรจะเป็นอาการจากเชื้อไวรัส
ปัจจุบันไม่มียาฆ่าเชื้อดังกล่าว แต่ร่างกายจะสามารถกำจัดไปได้เอง
อาการเหล่านี้มักจะเกิดเมื่อร่างกายอ่อนแอ ซึ่งเป็นช่วงที่มีภูมิต้านทานต่ำ
เช่น พักผ่อนไม่เพียงพอ มีอาการเครียดจากการทำงาน หรือสภาพอากาศเปลี่ยน เป็นต้น
การปฏิบัติตัว
- ใช้วิธีทานยาตามอาการ เช่นยาแก้ปวด ลดน้ำมูก
ไม่จำเป็นต้องทานยาปฏิชีวนะ
- พักผ่อนและดื่มน้ำอุ่นมากๆ จะช่วยให้หายเร็วขึ้น
มีที่อยากเสริมนิดหน่อย คือ ยังไงถ้าไม่ลำบากนักก็น่าจะไปให้หมอดูคอหน่อย
หรือ ไม่งั้นก็ ให้คนใกล้ตัวดูก็ได้ จริงๆ แล้วดูไม่ยากเลยครับ
เพราะ โอกาส 9/10 ก็ไม่ได้แปลว่าต้องเป็นไวรัสเสมอไป และ บางครั้ง อาจเป็นกรณีที่ว่า แบคทีเรียติดซ้ำเติมก็ได้
แต่เท่าที่ฟัง พี่หวี มีความรู้ และ ดูอาการตัวเองได้ดีเลยครับ อาจจะไม่จำเป็นก็ได้ ถ้ามีอาการหนักผิดปกติ ก็ค่อยว่ากันก็ได้
ผมว่าอันนี้ยังคงเป็นศิลปะได้อยู่HVI เขียน: คำถาม
1. ผมจะรู้ตัวว่า อืม... ตอนนี้ชักจะไม่ปกติแล้วนะ
พรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาต้องป่วยแน่
เคยได้ยินว่า "ให้ทานยาดักไปก่อน"
หมายถึงให้ทานยาฆ่าเชื้อหรือยาปฏิชีวนะไปเลย จะได้ไม่เป็นมาก
จากข้อมูลของอาจารย์หมอ prandy แปลว่าความเชื่อนี้ไม่ถูกต้องใช่มั้ยครับ
ผมไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ว่ามี evidence เรื่องนี้มั้ย แต่การแพทย์รู้สึกว่า ยังไม่มีการทานยาดักไข้หวัดนะครับ
แต่เป็นคำถามที่เจอบ่อยมากๆ และผมเข้าใจว่าคนที่ถามหมายถึง
ทาน"ยาฆ่าเชื้อ"ดักไปก่อน อย่างที่พี่หวีว่า
ผมก็จะให้คำแนะนำไปดังนี้ครับ
(จากการซักประวัติ ตรวจร่างกายแล้ว เราเดาในใจแล้วว่าคนนี้เป็นไข้หวัด common cold = acute nasopharyngitis นั่นเอง) พอเค้าถามมา ผมก็จะให้คำแนะนำไปอย่างนี้ครับ
ผมคิดว่า อาการอย่างนี้น่าจะเป้นไข้หวัดธรรมดา
และยาฆ่าเชื้อคงไม่ได้มีผลให้ไม่เป็นหนักขึ้น หรือหายเร็วขึ้น เพราะยาฆ่าเชื้อนั้น สำหรับ แบคทีเรีย .... บลาๆๆ (ว่าไปตามที่เราคุยกันแล้ว)
ส่วนว่า ทานยาดักก่อน ผมว่าก็ได้ ถ้าอยาก และสังเกตมานานและมั่นใจได้ว่า อาการอย่างที่ว่านั้น กำลังจะเป็นหวัด
ถ้าเริ่มรู้สึกเหมือนจะมีไข้ น้ำมูกมานิดๆ มึนๆ หัวนิดหน่อย ผมจะแนะนำให้ทาน paracetamol และ ยาแก้แพ้ลดน้ำมูก (พวกที่ง่วงๆ) สักเม็ด ตอนก่อนนอน ให้กินน้ำเยอะๆ และก็นอนแต่หัวค่ำ นอนยาวไปเลย น่าจะได้ผลมากกว่าครับ
จากประสบการณ์อันน้อยนิด ก็พบว่าได้ผลนะครับ (สงสัยพวกที่ไม่ได้ผล หรือ ไม่เชื่อเรา อยากได้ยากินอยู่ดีก็ไม่มา follow up ไปหาหมอคนอื่น หรือซื้อยากินเองแทน ไปแล้ว :lol: )
สรุปว่ากินยาดักไว้ก่อน ผมว่า ไม่ถูกไม่ผิดนะครับ เพราะผมเองก็ทำอย่างที่แนะนำเหมือนกัน :oops:
ผมว่าดูจากอาการดีกว่าครับ ถ้าอาการหนักก็พักผ่อน นอนห่มผ้าอุ่นๆ นอนมากๆ กินน้ำเยอะๆ น่าจะหายไวกว่าHVI เขียน: 2. ในขณะที่ป่วยเป็นไข้หวัดแบบเนี้ย
ไปออกกำลังกายเช่น จ๊อกกิ้ง จะช่วยให้การ recovery เร็วขึ้นมั้ยครับ
หรือการพักผ่อนมากๆจะได้ผลมากกว่า
หลังๆ ผมรู้สึกว่ากว่าจะดีขึ้นบางทีเป็นอาทิตย์หรือมากกว่านั้น
เรื่องออกกำลังกาย ผมก็เคยทำครับ ตอนที่ เริ่มๆ มีน้ำมูกนิดหน่อย มึนๆ ก็ไปว่ายน้ำซะเลย ว่ายหนักๆกว่าปกติด้วย ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่าแต่มันหายไปเลย เช้าวันถัดมาก็ปกติไปเลย
อันนี้ผมตอบไม่ได้ครับ ไม่มีความรู้ ยังไม่มีหลักฐานยืนยัน ขอติดไว้ก่อนครับพี่หวี
ผมไม่แน่ใจครับHVI เขียน: 3. การฉีดวัคซีน Influenza จะช่วยให้เราเจ็บป่วยในลักษณะนี้น้อยลงมั้ย
ผมว่าอันนี้หมอเด็กจะตอบได้ดีกว่ามากๆ
แต่ ไข้หวัดของพวกเราที่เป็นกันนั้น มากกว่า 80% มาจาก Rhinovirus Adenovirus (ถ้าจำไม่ผิด) ซึ่งไม่ได้เป็นญาติอะไรกับ influenza
ฉีดไปก็ไม่ได้ทำให้เป็นหวัดน้อยลงมั้งครับ
เท่าที่ทราบตอนนี้ที่มีประโยชน์ชัดเจนของ วัคซีนตัวนี้คือ ในกลุ่มผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังครับ
รอพี่ อโน มายืนยัน :oops:
มีความสัมพันธ์กันอยู่บ้างครับHVI เขียน: 4. อาการ URI แบบนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับภูมิแพ้หรือเปล่าครับ
เช่นเพราะเป็นภูมิแพ้ถึงเป็น URI บ่อยและง่ายขึ้น
1. การเป็น allergic rhinitis มีผลอย่างไร ต่อ การเป็นหวัด
เท่าที่ทราบไม่ได้เพิ่มโอกาสการเป็นหวัดครับ แต่ถ้าเป็นจะไปเพิ่มพวกการเป็นไซนัสอักเสบติดเชื้อ หรือ หูชั้นกลางติดเชื้อพวกนี้มากกว่า
และคนที่เป็น allergic rhinitis มีโอกาสเกิดผลแทรกซ้อนจากการเป็นหวัดมากกว่า
2. แต่กลับกันการเป็นหวัด มีผลทำให้อาการของ allergic rhinitis เป็นมากขึ้นได้ครับ
คือเป็นตัว precipitate ให้อาการภูมิแพ้เป็นมากขึ้น ถี่ขึ้นได้ครับ
อันนี้ผมไม่มีข้อมูลยืนยัน นะครับ แต่มาจากความรู้ที่เรียนมาครับ
ผิดอย่างไรขอโทษและรบกวนแก้ด้วยละกันครับ
- Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความเห็นคุณหมอเรื่องโรคภูมิแพ้และอาการคออักเสบ
โพสต์ที่ 19
ไม่จำเป็นครับ (ถ้าอ้างถึงการเป็นหวัด)HVI เขียน: คำถาม (อีกแล้ว)
ขอถามหน่อยนะครับ เก็บความสงสัยไว้นานแล้ว
1. การที่เราเคยทานยา Loso แล้วไปทานยา Hiso แบบนี้
พอกลับมาทานยา Loso อีก มันจะมีผลอะไรมั้ย
เช่น เชื้อโรคไม่ตอบสนอง
จำเป็นมั้ยที่ทานยา Hiso แล้วก็ต้องทานยา Hiso ไปตลอด ไม่งั้นไม่ได้ผล
มีเหตุผลสนับสนุน 2 ข้อ
1. ส่วนมากเป็นไวรัส - แบคทีเรียไม่ได้ดื้อยานี่ครับ
2. การติดเชื้อ (สมมติว่าเป็นแบคทีเรีย) แต่ละครั้ง ไม่ได้เป็นเชื้อตัวเดิม ยกเว้น พิสูจน์ ได้ว่าเป็นเชื้อตัวเดิม เช่น เป็น course การป่วยเดียวกัน คือ รอบเดียวกัน กินยา แรก อย่างถูกต้องครบถ้วนแล้ว ไม่หาย หรือ อย่างเช่น HIV (มันไม่หาย) กินยาไป แล้วดื้อยา (ก็มัน HIV ตัวเดิมนี่นา) ก็จะต้องเปลี่ยนยาให้ครอบคลุมมากขึ้นตามตำรา (ซึ่งตำราเค้าก็จะบอกว่า เออ กรณี ติดเชื้อตรงส่วนนี้ โอกาสเป็นเชื้อนี้เท่าไหร่ๆ เชื้อนี้เท่าไหร่) เราก็เปลี่ยนยาไป ระหว่าง รอการเพาะเชื้อและทดสอบความไวยา (ในกรณีจำเป็น)
แต่โดยทั่วไป การเป็นหวัด ถ้าแบคทีเรีย ก็มักไม่ค่อยดื้อยาหรอกครับ แล้ว ติดครั้งนี้เป็นเชื้อหนึ่ง ไม่จำเป็นว่า ติดครั้งหน้า จะเป็นเชื้อเดิมที่ดื้อยา
สรุป เหมือนเดิม ว่า กรณีเรื่องนี้ ส่วนมากเป็นความเข้าใจผิดของคนไข้
และ ในไข้หวัด คออักเสบธรรมดา (ที่ไม่ได้เป็น ไซนัสอักเสบ หรือ ฯลฯ ที่จะเป็นเชื้ออื่นๆ เพิ่มมา เช่น anaerobes) ส่วนมาก PenV Amoxi ก็เอาอยู่แล้วครับ
สรุปคำถามว่า ไม่จำเป็นครับ (และไม่น่าเกี่ยวกันด้วยซ้ำ)
ไม่รู้ผมอธิบายงงงงเกินไปรึเปล่า :oops:
2. Klacid กับ Augmentin เป็นยาคนละกลุ่ม
2 ตัวนี้มีข้อดี ข้อเสีย ต่างกันอย่างไร (ผมรู้แต่ว่า แพงไม่ต่างกันเลย)[/quote]
Augmentin = amoxi + clavolinic acid
ซึ่ง ตัวหลังช่วยไปทำลาย enzyme ที่เชื้อสร้างมาทำลายยา amoxi
ถ้าเป็นเชื้อที่ดื้อ amoxi ด้วยกลไกนี้ ยานี้จะช่วยได้ครับ
แต่ถ้าดื้อด้วยกลไกอื่น amoxi ใช้ไม่ได้ augmentin ก็ใช้ไม่ได้ครับ
ยาตัวนี้ครอบคลุมเชื้อ gram+ (เชื้อแบคทีเรียที่ย้อมด้วยวิธีเรียก gram ได้เป็นสีม่วง - รู้ไว้เล่นๆ ละกัน ถ้าเป็น - จะเป็นสีแดงๆ)
การเพิ่ม clavolinic acid ช่วยให้ ยับยั้งเชื้อ anaerobes ได้บางตัวด้วย ส่วน gram - ไม่ดี
ข้อเสีย ส่วนมาก ตัวทีเพิ่มมาอาจทำให้บางคนท้องเสียได้
คนที่แพ้ penicillin ใช้ไม่ได้ (ซึ่ง พบได้บ่อยความคนที่แพ้ erythromycins)
Klacid เป็น Clarythromycin มีข้อดี ฆ่าเชื้อกลุ่มคล้ายๆ กันกับอันแรก
แต่ข้อดีกว่า คือฆ่าพวก atypical bacteria ได้ (พวกนี้ ทำให้ปอดบวม แบบ walking pneumonia ได้ ซึ่งปอดบวมแบบนี้ จะไม่หนักหนาเท่าไหร่ ทำให้อาการคล้ายกันได้)
โอกาสแพ้น้อยกว่า
- Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความเห็นคุณหมอเรื่องโรคภูมิแพ้และอาการคออักเสบ
โพสต์ที่ 20
555 อันนี้ผมก็แพ้นะ อิอิHVI เขียน:ส่วนอาการภูมิแพ้
ทานยาต่อเนื่อง ไม่มีผลข้างเคียง
และการทานยาดีกว่าไม่ทาน
การทานยาติดต่อกันไปนานๆ อาจทำให้หายจากอาการภูมิแพ้ได้
ได้ยินแบบนี้ก็สบายใจครับ
ส่วนเรื่องแพ้อะไรเนี่ย... เดี๋ยวจะลองสังเกตดูครับ
แต่ที่มั่นใจคือแพ้สาวสวย
อย่างของพี่หวี บอกว่า เป็นเกือบทุกวันทุกหน้าฤดู
น่าจะจัดอยู่ในกลุ่ม severe persistent allergic rhinitis แล้ว
กินไม่น่าจะพอ
แนะนำว่าต้องพ่น steroid เฉพาะที่แล้วครับ
rhinocort
nasacort
nasonex
แล้วแต่กำลังทรัพย์
ยากินช่วยเสริม
กาแฟ จำไม่ได้ ขอเวลาไปหาก่อน ว่ากลไก เป็นอย่างไรHVI เขียน: คำถามครับ
1. ปกติทานกาแฟ วันละ 1 - 2 แก้ว
มีผลอะไรกับภูมิแพ้มั้ย
2. การออกกำลังกายจากการว่ายน้ำ
คลอรีนในน้ำจะมีผลอะไรกับภูมิแพ้มั้ย
หรือ รอท่านอื่นมาตอบละกัน
ส่วนคลอรีนไม่เกี่ยวนาครับ
แต่ถ้า อาการสงบดีแล้ว การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกาย
ถ้าทำสม่ำเสมอ ช่วยให้หายจากภูมิแพ้ได้เลยครับ
อีกอย่างมันก็เหมือนการเอาน้ำล้างจมูกด้วย ก็ดี เหมือนการเอา NSS ล้างจมูกในคนที่เป็นไซนัสอักเสบ 8)
-
- Verified User
- โพสต์: 1822
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความเห็นคุณหมอเรื่องโรคภูมิแพ้และอาการคออักเสบ
โพสต์ที่ 22
ผมก็เป็นภูมิแพ้ เช้าๆน้ำมูกจะไหลเยอะ ถึงตอนสายๆ ยิ่งอ่านหนังสือพิมพ์ยิ่งออกเยอะมาก
หมอบอกแพ้ฝุ่น
ผมไปหาหมอที่ลาดพร้าว 72 ครับ กินยาแล้วหายดีมากๆเลย แต่ยาเค้าสงสัยจ้างผลิตเอง ไม่ได้สั่งพวกบริษัทยาโดยตรง เพราะไปหาซื้อตามร้านขายยา เภสัชกร บอกไม่มีในตำรับยา
ผมก็พยายามไปออกกำลังกายครับ เป็นคำแนะนำที่ดีที่สุดแล้ว ก็หาเรื่องไปตีแบดกับพี่พอใจครับ แต่มันก็มีธุระให้ไม่ได้ไป ก็หาเรื่องทำให้เหนื่อยที่บ้านด้วยการทำงานบ้านแทน
หมอบอกแพ้ฝุ่น
ผมไปหาหมอที่ลาดพร้าว 72 ครับ กินยาแล้วหายดีมากๆเลย แต่ยาเค้าสงสัยจ้างผลิตเอง ไม่ได้สั่งพวกบริษัทยาโดยตรง เพราะไปหาซื้อตามร้านขายยา เภสัชกร บอกไม่มีในตำรับยา
ผมก็พยายามไปออกกำลังกายครับ เป็นคำแนะนำที่ดีที่สุดแล้ว ก็หาเรื่องไปตีแบดกับพี่พอใจครับ แต่มันก็มีธุระให้ไม่ได้ไป ก็หาเรื่องทำให้เหนื่อยที่บ้านด้วยการทำงานบ้านแทน
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความเห็นคุณหมอเรื่องโรคภูมิแพ้และอาการคออักเสบ
โพสต์ที่ 23
ครับตอนนี้ทั้งกินทั้งพ่น แต่ยาหมดแล้วครับPn3um0n1a เขียน: อย่างของพี่หวี บอกว่า เป็นเกือบทุกวันทุกหน้าฤดู
น่าจะจัดอยู่ในกลุ่ม severe persistent allergic rhinitis แล้ว
กินไม่น่าจะพอ
แนะนำว่าต้องพ่น steroid เฉพาะที่แล้วครับ
rhinocort
nasacort
nasonex
แล้วแต่กำลังทรัพย์
ยากินช่วยเสริม
เดี๋ยวไปหาหมอใหม่ครับ
ตอนพ่นแรกๆรู้สึกว่า
ตื่นเช้าขึ้นมา รู้สึกจมูกโล่งอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
แต่ยากินเนี่ย รู้สึกกินแล้วง่วงจริงๆ ง่วงข้ามวัน สมองช้าๆยังไงไม่รู้
หรือว่าเราอุปทานไปเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
ขอบคุณหมอนิวนะครับ
แล้วหมอนิวจะเรียนต่อบอร์ดหรือเปล่าครับหรือว่ากำลังเรียนอยู่
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความเห็นคุณหมอเรื่องโรคภูมิแพ้และอาการคออักเสบ
โพสต์ที่ 24
ใช่ที่เขียนโฆษณาติดข้างตึกตัวใหญ่ๆหรือเปล่าครับBHT เขียน:ผมก็เป็นภูมิแพ้ เช้าๆน้ำมูกจะไหลเยอะ ถึงตอนสายๆ ยิ่งอ่านหนังสือพิมพ์ยิ่งออกเยอะมาก
หมอบอกแพ้ฝุ่น
ผมไปหาหมอที่ลาดพร้าว 72 ครับ กินยาแล้วหายดีมากๆเลย แต่ยาเค้าสงสัยจ้างผลิตเอง ไม่ได้สั่งพวกบริษัทยาโดยตรง เพราะไปหาซื้อตามร้านขายยา เภสัชกร บอกไม่มีในตำรับยา
ผมก็พยายามไปออกกำลังกายครับ เป็นคำแนะนำที่ดีที่สุดแล้ว ก็หาเรื่องไปตีแบดกับพี่พอใจครับ แต่มันก็มีธุระให้ไม่ได้ไป ก็หาเรื่องทำให้เหนื่อยที่บ้านด้วยการทำงานบ้านแทน
"ภูมิแพ้รักษาได้ แล้วก็มีเบอร์โทร"
ปัจจุบันคุณ BHT ยังต้องทานยาหรือเปล่า
หรือว่าพอดีขึ้นแล้วก็ไม่ต้องทานยาคุมอาการเลย
ขอบคุณที่แนะนำครับ
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความเห็นคุณหมอเรื่องโรคภูมิแพ้และอาการคออักเสบ
โพสต์ที่ 25
1. เชื้อไม่มีสมอง ไม่เหมือนคนที่พอใช้ Patek แล้วกลับมาใช้ Casio แบบเดิม ๆ ไม่ได้ :lovl:HVI เขียน:ตอนที่ผมถามน้องว่าหมอเปลี่ยนยาใหม่
จาก Amoxi เป็น Augmentin
น้องผมก็อธิบายเหมือนหมอนิวนี่แหละครับ
ผมเรียกว่ายา Loso กับ Hiso แล้วกัน
ทีนี้พอเปลี่ยนมาเป็น Klacid
น้องก็บอกว่า grade เทียบเท่ากับ Augmentin
เป็นยานอก Hiso เหมือนกัน (แพงเหมือนกัน)
แต่เป็นตัวยาคนละกลุ่ม
คำถาม (อีกแล้ว)
ขอถามหน่อยนะครับ เก็บความสงสัยไว้นานแล้ว
1. การที่เราเคยทานยา Loso แล้วไปทานยา Hiso แบบนี้
พอกลับมาทานยา Loso อีก มันจะมีผลอะไรมั้ย
เช่น เชื้อโรคไม่ตอบสนอง
จำเป็นมั้ยที่ทานยา Hiso แล้วก็ต้องทานยา Hiso ไปตลอด ไม่งั้นไม่ได้ผล
2. Klacid กับ Augmentin เป็นยาคนละกลุ่ม
2 ตัวนี้มีข้อดี ข้อเสีย ต่างกันอย่างไร (ผมรู้แต่ว่า แพงไม่ต่างกันเลย)
ถ้าเชื้อไวต่อยาเหมือน ๆ กัน ใช้ตัวไหนก็เหมือนกันครับ มันไม่รู้หรอกว่ายาตัวไหนแพงตัวไหนถูก ถ้าเชื้อดื้อยาก็ค่อยมาดูอีกที Augmentin มีความครอบคลุมกว่า Amoxy แต่สำหรับ Klacid ความครอบคลุมไม่ต่างกับ Amoxy เท่าไหร่หรอก เพียงแต่ว่ากินง่ายกว่า
2. ข้อดีของ Klacid คือกินง่าย ผลข้างเคียงเรื่องคลื่นไส้อะไรทำนองนี้น้อย กินแค่วันละครั้ง ข้อเสียคือแพงครับ ผลการครอบคลุมเชื้อต่างกันนิดหน่อย
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความเห็นคุณหมอเรื่องโรคภูมิแพ้และอาการคออักเสบ
โพสต์ที่ 26
ขออนุญาติหมอเดามั่ง ค่อนข้างออกไปทางเถื่อนนิโหน่ย.. :lol: :lol:
วิธีรักษาง่าย ๆ ทำตัวให้ว่าง หาเวลาลางาน (บ่อย ๆ ) ไปสูดอากาศต่างจังหวัด กลับมาสดชื่นแน่นอน
ผมว่าตอนนี้คนกรุงเทพฯ ส่วนมากนอนอมโรคนะ..[/code]
วิธีรักษาง่าย ๆ ทำตัวให้ว่าง หาเวลาลางาน (บ่อย ๆ ) ไปสูดอากาศต่างจังหวัด กลับมาสดชื่นแน่นอน
ผมว่าตอนนี้คนกรุงเทพฯ ส่วนมากนอนอมโรคนะ..[/code]
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
-
- Verified User
- โพสต์: 306
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความเห็นคุณหมอเรื่องโรคภูมิแพ้และอาการคออักเสบ
โพสต์ที่ 27
คำถาม
1. "ให้ทานยาดักไปก่อน"
หมายถึงให้ทานยาฆ่าเชื้อหรือยาปฏิชีวนะไปเลย จะได้ไม่เป็นมาก
ความเชื่อนี้ไม่ถูกต้องใช่มั้ยครับ
การที่เราเพิ่งทราบว่าเราชักจะไม่สบาย เราจะทราบได้อย่างไรคะว่าเราติดเชื้อแบคทีเรียรึเปล่า ถ้าเป็นจะเป็นเชื้อไหน ฉะนั้นการกินยาฆ่าเชื้อไม่น่าจะมีประโยชน์ในกรณีที่ครั่นเนื้อครั่นตัว เหมือนจะเป็นหวัดค่ะ แต่โดยส่วนตัวการพักผ่อน นอนมากๆช่วยได้จริง ลองมาหลายครั้งค่ะ โดยอธิบายทางการแพทย์ได้ว่าให้ภูมิต้านทานตัวเองจัดการ เพราะภูมิต้านทานเราเก่งค่ะ จัดการได้ทั้งแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้ออื่นๆ
2. ในขณะที่ป่วยเป็นไข้หวัดแบบเนี้ย
ไปออกกำลังกายเช่น จ๊อกกิ้ง จะช่วยให้การ recovery เร็วขึ้นมั้ยครับ
หรือการพักผ่อนมากๆจะได้ผลมากกว่า
การออกำลังกายไม่ทราบ แต่ถ้ามันหักโหมเกินไป จนร่างกายเพลีย คงไม่ดีแน่ค่ะ แต่แนะนำพักผ่อนจะดีกว่าค่ะ
3. การฉีดวัคซีน Influenza จะช่วยให้เราเจ็บป่วยในลักษณะนี้น้อยลงมั้ย เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ร้อยละ 21-50 จากข้อมูลของ ปท.ไทยปี 44-47 ค่ะ พบบ่อยช่วงฤดูฝนกับหนาว
ข้อบ่งชี้ในการให้วัคซีน
1.โรคปอดเรื้อรังและโรคหอบหืด (อย่างที่น้องนิวว่ามาค่ะ)
2.โรคหัวใจที่การไหลเวียนโลหิตไม่ดี
3.ภาวะภูมิต้านทานบ่งพร่อง (ถ้าพี่หวี เปลี่ยนจาก HVI เป็น HIV ก็เข้าค่ายในข้อนี้ค่ะ)
4.โรคเลือด เช่น ธาลัสซีเมีย
5.ต้องกินแอสไพรินนาน
6.โรคไตเรื้อรัง
7.โรคเบาหวาน
8.คนท้อง ช่วงท้ายที่มีการระบาดของโรคค่ะ
แต่ CDC ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้จัดกลุ่มให้ชัดเจนขึ้นค่ะเป็น
กลุ่มที่ควรได้อันดับแรกๆนะคะ
1.อายุมากกว่า 65 ปีค่ะ (อันนี้พี่ๆหลายคนอาจเข้าค่ายค่ะ)
2.คนที่อาศัยในสถานดูแลคนชรา หรือได้รับการดูแลทางการแพทย์นาน
3.ผู้ที่อายุ 2-64 ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังหรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
4.เด็กอายุ 6-23 เดือน
5.บุคคลากรทางการแพทย์ (ลดการผสมเชื้อกะ เชื้อหวัดนกค่ะ ไม่งั้นเราอาจเป็นตัวผสมทำให้เกิดสายพันธุ์ใหม่ ที่หวัดนก ติดจากคนสู่คนได้ เรียกว่าลด reassortment ค่ะ)
6.ผู้ดูแลเด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือนค่ะ
กลุ่มที่อาจพิจารณาให้วัคซีน
1.ผู้ดูแลกลุ่มเสี่ยงหรืออยู่บ้านเดียวกะกลุ่มเส่ียง
2.ผูใหญ่อายุ 50-64 ปี
ใครอยู่กลุ่มไหนก็พิจารณาดูนะคะ โดยส่วนตัวฉีดทุกปี (ต้องฉีดปีละครั้งค่ะ) แล้วก็ให้คุณพ่อคุณแม่ฉีดด้วย เพราะว่าถึงเราจะคุมเชื้อไม่ได้ทั้งหมดแต่อย่างน้อยเราก็ลดการเกิดการติดเชื้อ Influenza ได้โดยแค่เจ็บเหมือนมดกัดตอนฉีดปีละครั้งเอง เดินเตะขาเก้าอี้ยังเจ็บกว่าตั้งเยอะค่ะ ราคาวัคซีนก็ไม่แพงอะไร รพ.รัฐ สามร้อยกว่าบาท เอกชนประมาณ 500 กว่ามั้งคะ
เป็นหวัดทีหาหมอจ่ายแพงกว่านี้อีก
4. อาการ URI แบบนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับภูมิแพ้หรือเปล่าครับ
เช่นเพราะเป็นภูมิแพ้ถึงเป็น URI บ่อยและง่ายขึ้
ค่ะ ใช่เพราะคนที่เป็นภูมิแพ้ จะมีการอักเสบของทางเดินหายใจทำให้ง่ายต่อการที่เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายค่ะ
1. "ให้ทานยาดักไปก่อน"
หมายถึงให้ทานยาฆ่าเชื้อหรือยาปฏิชีวนะไปเลย จะได้ไม่เป็นมาก
ความเชื่อนี้ไม่ถูกต้องใช่มั้ยครับ
การที่เราเพิ่งทราบว่าเราชักจะไม่สบาย เราจะทราบได้อย่างไรคะว่าเราติดเชื้อแบคทีเรียรึเปล่า ถ้าเป็นจะเป็นเชื้อไหน ฉะนั้นการกินยาฆ่าเชื้อไม่น่าจะมีประโยชน์ในกรณีที่ครั่นเนื้อครั่นตัว เหมือนจะเป็นหวัดค่ะ แต่โดยส่วนตัวการพักผ่อน นอนมากๆช่วยได้จริง ลองมาหลายครั้งค่ะ โดยอธิบายทางการแพทย์ได้ว่าให้ภูมิต้านทานตัวเองจัดการ เพราะภูมิต้านทานเราเก่งค่ะ จัดการได้ทั้งแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้ออื่นๆ
2. ในขณะที่ป่วยเป็นไข้หวัดแบบเนี้ย
ไปออกกำลังกายเช่น จ๊อกกิ้ง จะช่วยให้การ recovery เร็วขึ้นมั้ยครับ
หรือการพักผ่อนมากๆจะได้ผลมากกว่า
การออกำลังกายไม่ทราบ แต่ถ้ามันหักโหมเกินไป จนร่างกายเพลีย คงไม่ดีแน่ค่ะ แต่แนะนำพักผ่อนจะดีกว่าค่ะ
3. การฉีดวัคซีน Influenza จะช่วยให้เราเจ็บป่วยในลักษณะนี้น้อยลงมั้ย เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ร้อยละ 21-50 จากข้อมูลของ ปท.ไทยปี 44-47 ค่ะ พบบ่อยช่วงฤดูฝนกับหนาว
ข้อบ่งชี้ในการให้วัคซีน
1.โรคปอดเรื้อรังและโรคหอบหืด (อย่างที่น้องนิวว่ามาค่ะ)
2.โรคหัวใจที่การไหลเวียนโลหิตไม่ดี
3.ภาวะภูมิต้านทานบ่งพร่อง (ถ้าพี่หวี เปลี่ยนจาก HVI เป็น HIV ก็เข้าค่ายในข้อนี้ค่ะ)
4.โรคเลือด เช่น ธาลัสซีเมีย
5.ต้องกินแอสไพรินนาน
6.โรคไตเรื้อรัง
7.โรคเบาหวาน
8.คนท้อง ช่วงท้ายที่มีการระบาดของโรคค่ะ
แต่ CDC ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้จัดกลุ่มให้ชัดเจนขึ้นค่ะเป็น
กลุ่มที่ควรได้อันดับแรกๆนะคะ
1.อายุมากกว่า 65 ปีค่ะ (อันนี้พี่ๆหลายคนอาจเข้าค่ายค่ะ)
2.คนที่อาศัยในสถานดูแลคนชรา หรือได้รับการดูแลทางการแพทย์นาน
3.ผู้ที่อายุ 2-64 ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังหรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
4.เด็กอายุ 6-23 เดือน
5.บุคคลากรทางการแพทย์ (ลดการผสมเชื้อกะ เชื้อหวัดนกค่ะ ไม่งั้นเราอาจเป็นตัวผสมทำให้เกิดสายพันธุ์ใหม่ ที่หวัดนก ติดจากคนสู่คนได้ เรียกว่าลด reassortment ค่ะ)
6.ผู้ดูแลเด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือนค่ะ
กลุ่มที่อาจพิจารณาให้วัคซีน
1.ผู้ดูแลกลุ่มเสี่ยงหรืออยู่บ้านเดียวกะกลุ่มเส่ียง
2.ผูใหญ่อายุ 50-64 ปี
ใครอยู่กลุ่มไหนก็พิจารณาดูนะคะ โดยส่วนตัวฉีดทุกปี (ต้องฉีดปีละครั้งค่ะ) แล้วก็ให้คุณพ่อคุณแม่ฉีดด้วย เพราะว่าถึงเราจะคุมเชื้อไม่ได้ทั้งหมดแต่อย่างน้อยเราก็ลดการเกิดการติดเชื้อ Influenza ได้โดยแค่เจ็บเหมือนมดกัดตอนฉีดปีละครั้งเอง เดินเตะขาเก้าอี้ยังเจ็บกว่าตั้งเยอะค่ะ ราคาวัคซีนก็ไม่แพงอะไร รพ.รัฐ สามร้อยกว่าบาท เอกชนประมาณ 500 กว่ามั้งคะ
เป็นหวัดทีหาหมอจ่ายแพงกว่านี้อีก
4. อาการ URI แบบนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับภูมิแพ้หรือเปล่าครับ
เช่นเพราะเป็นภูมิแพ้ถึงเป็น URI บ่อยและง่ายขึ้
ค่ะ ใช่เพราะคนที่เป็นภูมิแพ้ จะมีการอักเสบของทางเดินหายใจทำให้ง่ายต่อการที่เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายค่ะ