กระทู้นี้แตกประเด็นจากกระทู้ของคุณลูกอิสาน
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=27202
อ่านไปแล้วกี่เล่มครับ...100 หนังสือที่คนไทยควรอ่าน
ตอบไปตอบมากำลังพูดถึงวรรณกรรมคลาสสิคตะวันตก คอหนังสือวรรณกรรมระดับโลกเชิญทัศนากันตามสบาย
ขณะที่กำลังพูดถึงวรรณกรรมของรัสเซียอยู่ ก็เลยนึกถึงหนังสือเด็กน่ารักๆเล่มหนึ่งของนักเขียนรัสเซีย Alexander Raskin แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า When Daddy was a Little Boy หรือแปลเป็นไทย(และจีน)ว่า เมื่อคุณพ่อ(ปะป๊า)ยังเด็ก เนื้อเรื่องเกี่ยวกับคุณพ่อคนหนึ่งต้องเล่านิทานก่อนนอนให้ลูกฟังทุกคืน เล่าไปเล่ามาหมดกรุแล้ว เลยต้องแต่งเอง ก็เอาเรื่องราวสมัยตัวเองยังเด็กๆซุกซน เปิ่น เท่อ ทำผิดพลาดมาขยายต่อให้ลูกรู้ว่า ตอนพ่อยังเด็กๆก็ทำผิดเป็นเหมือนกัน (ฉะนั้นอย่าหัวเสียกับลูกๆเลย ถ้าเจ้าตัวเล็กนึกอยากจะแหย่นิ้วลงไปในปลั๊กไฟบ้าง หรือขว้างแจกันใบสวยตกแตกแล้วยิ้มแฉ่ง โธ่ โธ่ ก็อยากจะรู้น่ะว่ามันจะประกอบใหม่ได้เหมือนในหนัง Harry Potter หรือเปล่านี่นา)
หนังสือเล่มนี้กลายเป็นหนึ่งในวรรณกรรมเยาวชนขายดีในรัสเซีย และมีอิทธิพลต่อนักเขียนหนังสือเด็กทั่วโลกเคยแปลมาขายในบ้านเราด้วย ลองดูความผิดพลาดในเยาว์วัยของคุณพ่อท่านนี้บ้าง
ขนมปังก้อนสุดท้าย
เมื่อคุณพ่อยังเด็ก กินแต่ขนมปังอาหารหลักของรัสเซีย กินไปกินมา ก็เริ่มเบื่อ หนักเข้าก็อาละวาดจนโยนทิ้งขนมปังลงถังขยะยังไม่แยแส จนโดนพี่เลี้ยงตำหนิว่า ยังมีเด็กมากมายทั่วรัสเซียที่โหยหิวขนมปังแม้เพียงกะบิเล็กๆ คุณหนูน่ะโชคดีกว่าพวกเด็กจนๆเหล่านั้นตั้งเยอะ ทำไมกินทิ้งกินขว้างขนมปัง (เหมือนพวกเราเทข้าวทั้งจานทิ้งอย่างไม่รู้คุณ) คุณพ่อยังเด็กปิดหู ไม่สนใจฟัง ก็มันเบื่อนิ(ฟะ) อ้ายก้อนขาวๆฟูๆนี่ แสนจะจืดชืดไร้รสชาติ สิ้นดี กินเข้าไปอยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน จนคูณปู่ทราบเรื่อง คุณพ่อเลยถูกทำโทษให้อดมื้อเย็น คุณพ่ออึดด้วยทิษฐิแบบเด็กๆ เป็นไงเป็นกัน ไม่กินก็ได้ ตกดึกคืนนั้นคุณพ่อยังเด็กนอนไม่หลับ เกิดอาการหิวทุรนทุราย ปวดท้องจนถึงเช้า เมื่อเห็นขนมปังตั้งบนโต๊ะ ก็จัดการฟาดเสียเรียบ และหลังจากนั้นคุณพ่อยังเด็กก็ไม่เคยกินทิ้งกินขว้างขนมปังอีกเลย
เอาล่ะครับ นั่นเป็นส่วนหนึ่งของความสนุก น่าหยิกน่าชังในหนังสือ ลองมาดูวัยเยาว์ของพวกเราชาวคุณพ่อ คุณแม่ ปะป๊า มะม้าตัวจริงกันบ้างครับ ทุกคนต้องเคยมีประสบการณ์ความเปิ่นเท้อ...ประเภทเรื่องนี้ต้องขยายเล่าสู่กันฟังสนุกๆ เผื่อวันดีคืนดีอาจจะมีใครรวบรวมไปตีพิมพ์เป็นนิทานก่อนนอนให้กับบรรดาลูกๆหลานๆรุ่นหลังๆให้หัวเราะขำขัน ขอเริ่มเรื่องของตัวเองก่อนเลยครับ
เสื้อหนาวซามูไร
สมัยกูรูยังเด็ก เสื้อหนาวไหมพรมเป็นเครื่องนุ่งห่มที่ราคาแพงมาก (แทบไม่น่าเชื่อ) ทุกตัวต้องนำเข้าจากเมืองนอก ฉะนั้นเด็กที่มีโอกาสใส่เสื้อหนาวไหมพรมต้องมีฐานะพอสมควร (และชอบอวด) ถ้าญาติผู้ใหญ่ของใครมีฝีมือก็จะถักนิ้ตติ้งเสื้อไหมพรมเส้นหยาบๆให้ ถึงกระนั้นลายถักด้วยมือหรือจะเรียบเนียนสู้เครื่องจักรได้
อาม่าของกูรูพอมีฝีมือตัดเย็บบ้างก็เลยตัดผ้าสำลีเป็นเสื้อคลุมตัวเล็กๆทรงซามูไรให้พี่ๆน้องๆของกูรูใส่คนละตัว เนื้อผ้าสีน้ำตาลตุ่นๆดูไม่สดใสเอาเสียเลย แรกที่ตัดเสร็จ กูรูก็ไม่ยอมใส่ไปโรงเรียน เพราะเพื่อนคนอื่นๆมีเสื้อหนาวสวยๆเท่ๆทั้งนั้นเลย เลยยอมทนหนาวไม่สวมเสื้อทับ อ้างกับเพื่อนๆว่า อากาศเย็นสบายดี เดี๋ยววิ่งไปวิ่งมาก็หายหนาวแล้ว (ตอนเข้าแถวเคารพธงชาติ ฟันก็กระทบกึกๆ อากาศหน้าหนาวเมื่อหลายสิบปีก่อนจะหนาวจริงๆครับ และหนาวนานด้วย) จนกระทั่งตัวเองไม่สบายเป็นหวัด จำต้องใส่เสื้อหนาวไปโรงเรียน ก็ยังดื้อ(และโง่)ไม่ยอมใส่ อ้างว่า ผ้าสำลีบางเกิน ไป ร้อนถึงมะม้าของกูรูต้องซื้อเสื้อหนาวไหมพรม (แพงระยับ) จึงค่อยเชิดหน้าชูตาหน่อย
แต่แปลกเสื้อไหมพรมที่ซื้อมา ใส่แล้วไม่รู้สึกอุ่นเหมือนเสื้อซามูไรของอาม่าเลย
ทุกวันนี้ เสื้อหนาวซามูไรสีตุ่นก็ยังถูกเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าเก่าแก่ ไม่ได้ให้ใครใส่ต่ออีกเพราะเนื้อผ้าเริ่มยุ่ย วันดีคืนดีก็เอามาปัดๆใส่โครงแขวนไว้ ดูเป็นที่ระลึกนึกถึงอาม่า แล้วก็เก็บพับเรียบร้อยตามเดิม
ถึงตอนนี้อยากจะเสกตัวเองให้ขนาดเล็กจิ๋วเพื่อกลับไปใส่เสื้อหนาวซามูไรสีตุ่นตัวเดิมได้อีก โอม..เพี้ยง ไหงยังเห็นเจ้ายักษ์ปักหลั่น ผมขาวแซมประปรายยืนมู่ทู่ตรงหน้าล่ะ
เพื่อนๆล่ะครับ ช่วยเล่ากันฟังหน่อยสมัยที่พวกเรายังเด็กอยู่มีความทรงจำอะไรที่ควรขยายบ้าง คนที่กำลังจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ (ทั้งปัจจุบันและอนาคต)ก็มาร่วมแชร์ได้ด้วยครับ
ปล.ขอบคุณเพื่อนๆที่ไถ่ถามอาการเจ็บมือเพราะถูกแมวตะบบ ข่วน ตะกุย ตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้วครับ แต่ต้องไม่ลืมฉีดกันบาดทะยักอีกหลายเข็ม
เมื่อปะป๊ายังเด็ก
-
- Verified User
- โพสต์: 1301
- ผู้ติดตาม: 0
เมื่อปะป๊ายังเด็ก
โพสต์ที่ 2
ลองดูของ คอลสตอย
ภาษี
ผู้ใหญ่ เดินเข้ามาในกระท่อมที่จะพังมิพังแหล่ ขณะนั้นเด็กหญิงอายุ 7 ปี ชื่อ ครุชกา กำลังอยู่ตามลำพัง ผู้ใหญ่หันมองรอบๆห้อง
ผู้ใหญ่ : ไม่มีใครอยู่เลยหรือนี่?
ครุชกา : แม่ไปเลี้ยงวัวจ๊ะ พ่อกำลังทำงานอยู่ในทุ่งของนาย
ผู้ใหญ่ : นี่แน่ะหนู บอกแม่ด้วยว่าผู้ใหญ่มาหา มาตั้งสามครั้งแล้ว ถ้าไม่เอาเงินภาษีไปชำระในวันอาทิตย์หล่ะก็ ฉันจะยึดวัวแทน
ครุชกา : น้าจะยึดวัว? น้าเป็นขโมยหรือ? พวกเราไม่ยอมให้เอามันไปหรอก
ผู้ใหญ่ : (ยิ้ม) ช่างฉลาดจริงๆ! ชื่ออะไรจ๊ะ?
ครุชกา : ครุชกา
ผู้ใหญ่ : เอาหล่ะ ครุชกา หนูเป็นเด็กหัวดีมาก แต่ฟังนะ! บอกแม่ว่าฉันต้องยึดวัวเด็ดขาด ถึงฉันไม่ใช่ขโมยก็ตาม
ครุชกา : แล้วทำไมต้องยึดด้วย ถ้าน้าไม่ได้เป็นขโมย
ผู้ใหญ่ : เพราะว่าอะไรที่กฏหมายกำหนดไว้ก็ต้องชำระให้ครบ ฉันจะยึดวัวแทนค่าภาษี
ครุชกา : ภาษีเป็นยังไง?
ผู้ใหญ่ : หนูนี่หลักแหลมแท้ๆ! ภาษีคืออะไรหรือ? ก็คือสิ่งที่พระเจ้าซาร์รับสั่งให้ประชาชนชำระนั่นเอง
ครุชกา : ชำระให้ใคร
ผู้ใหญ่ : เอ้าแล้วกัน ให้พระเจ้าซาร์ล่ะสิ! จากนั้นพระองค์จะทรงวินิจฉัยว่าควรใช้เพื่อสิ่งใดบ้าง
ครุชกา : พระเจ้าซาร์ขัดสนมากเทียวหรือ? พวกเราต่างหากที่อนาถา แต่ท่านร่ำรวยอย่างกับอะไรดี แล้วทำไมยังเก็บภาษีจากเราอีกก็ไม่รู้?
ผู้ใหญ่ : ท่านไม่ได้เก็บเอาไปใช้จ่ายส่วนพระองค์หรอก เด็กโง่เอ๋ย ท่านทรงเก็บเพื่อพวกเราต่างหาก เพื่อจ่ายให้แก่ข้าราชการให้แก่กองทัพ ให้แก่การศึกษา เพื่อความสุขสมบูรณ์ของเราทั้งหลาย
ครุชกา : ถ้ายึดวัวไปแล้วจะดียังไง? ไม่เห็นว่าช่วยเราตรงไหนสักนิด
ผู้ใหญ่ : เมื่อโตขึ้นหนูจะเข้าใจ อย่าลืมบอกแม่ตามที่สั่งก็แล้วกัน
ครุชกา : เรื่องเหลวไหลพรรค์นี้ไม่บอกหรอก น้ากับพระเจ้าซาร์ต้องการอะไรก็หาเองเถอะ ส่วนเราจะหาของที่เราต้องการเหมือนกัน
ผู้ใหญ่ : อื้อ เติบโตขึ้นเมื่อไหร่ เด็กคนนี้จะกลายเป็นมหันตภัยแน่นอน!
ภาษี
ผู้ใหญ่ เดินเข้ามาในกระท่อมที่จะพังมิพังแหล่ ขณะนั้นเด็กหญิงอายุ 7 ปี ชื่อ ครุชกา กำลังอยู่ตามลำพัง ผู้ใหญ่หันมองรอบๆห้อง
ผู้ใหญ่ : ไม่มีใครอยู่เลยหรือนี่?
ครุชกา : แม่ไปเลี้ยงวัวจ๊ะ พ่อกำลังทำงานอยู่ในทุ่งของนาย
ผู้ใหญ่ : นี่แน่ะหนู บอกแม่ด้วยว่าผู้ใหญ่มาหา มาตั้งสามครั้งแล้ว ถ้าไม่เอาเงินภาษีไปชำระในวันอาทิตย์หล่ะก็ ฉันจะยึดวัวแทน
ครุชกา : น้าจะยึดวัว? น้าเป็นขโมยหรือ? พวกเราไม่ยอมให้เอามันไปหรอก
ผู้ใหญ่ : (ยิ้ม) ช่างฉลาดจริงๆ! ชื่ออะไรจ๊ะ?
ครุชกา : ครุชกา
ผู้ใหญ่ : เอาหล่ะ ครุชกา หนูเป็นเด็กหัวดีมาก แต่ฟังนะ! บอกแม่ว่าฉันต้องยึดวัวเด็ดขาด ถึงฉันไม่ใช่ขโมยก็ตาม
ครุชกา : แล้วทำไมต้องยึดด้วย ถ้าน้าไม่ได้เป็นขโมย
ผู้ใหญ่ : เพราะว่าอะไรที่กฏหมายกำหนดไว้ก็ต้องชำระให้ครบ ฉันจะยึดวัวแทนค่าภาษี
ครุชกา : ภาษีเป็นยังไง?
ผู้ใหญ่ : หนูนี่หลักแหลมแท้ๆ! ภาษีคืออะไรหรือ? ก็คือสิ่งที่พระเจ้าซาร์รับสั่งให้ประชาชนชำระนั่นเอง
ครุชกา : ชำระให้ใคร
ผู้ใหญ่ : เอ้าแล้วกัน ให้พระเจ้าซาร์ล่ะสิ! จากนั้นพระองค์จะทรงวินิจฉัยว่าควรใช้เพื่อสิ่งใดบ้าง
ครุชกา : พระเจ้าซาร์ขัดสนมากเทียวหรือ? พวกเราต่างหากที่อนาถา แต่ท่านร่ำรวยอย่างกับอะไรดี แล้วทำไมยังเก็บภาษีจากเราอีกก็ไม่รู้?
ผู้ใหญ่ : ท่านไม่ได้เก็บเอาไปใช้จ่ายส่วนพระองค์หรอก เด็กโง่เอ๋ย ท่านทรงเก็บเพื่อพวกเราต่างหาก เพื่อจ่ายให้แก่ข้าราชการให้แก่กองทัพ ให้แก่การศึกษา เพื่อความสุขสมบูรณ์ของเราทั้งหลาย
ครุชกา : ถ้ายึดวัวไปแล้วจะดียังไง? ไม่เห็นว่าช่วยเราตรงไหนสักนิด
ผู้ใหญ่ : เมื่อโตขึ้นหนูจะเข้าใจ อย่าลืมบอกแม่ตามที่สั่งก็แล้วกัน
ครุชกา : เรื่องเหลวไหลพรรค์นี้ไม่บอกหรอก น้ากับพระเจ้าซาร์ต้องการอะไรก็หาเองเถอะ ส่วนเราจะหาของที่เราต้องการเหมือนกัน
ผู้ใหญ่ : อื้อ เติบโตขึ้นเมื่อไหร่ เด็กคนนี้จะกลายเป็นมหันตภัยแน่นอน!
-
- Verified User
- โพสต์: 987
- ผู้ติดตาม: 0
เมื่อปะป๊ายังเด็ก
โพสต์ที่ 3
Boring Stock Lover เขียน:ลองดูของ คอลสตอย
ภาษี
ผู้ใหญ่ เดินเข้ามาในกระท่อมที่จะพังมิพังแหล่ ขณะนั้นเด็กหญิงอายุ 7 ปี ชื่อ ครุชกา กำลังอยู่ตามลำพัง ผู้ใหญ่หันมองรอบๆห้อง
ผู้ใหญ่ : ไม่มีใครอยู่เลยหรือนี่?
ครุชกา : แม่ไปเลี้ยงวัวจ๊ะ พ่อกำลังทำงานอยู่ในทุ่งของนาย
ผู้ใหญ่ : นี่แน่ะหนู บอกแม่ด้วยว่าผู้ใหญ่มาหา มาตั้งสามครั้งแล้ว ถ้าไม่เอาเงินภาษีไปชำระในวันอาทิตย์หล่ะก็ ฉันจะยึดวัวแทน
ครุชกา : น้าจะยึดวัว? น้าเป็นขโมยหรือ? พวกเราไม่ยอมให้เอามันไปหรอก
ผู้ใหญ่ : (ยิ้ม) ช่างฉลาดจริงๆ! ชื่ออะไรจ๊ะ?
ครุชกา : ครุชกา
ผู้ใหญ่ : เอาหล่ะ ครุชกา หนูเป็นเด็กหัวดีมาก แต่ฟังนะ! บอกแม่ว่าฉันต้องยึดวัวเด็ดขาด ถึงฉันไม่ใช่ขโมยก็ตาม
ครุชกา : แล้วทำไมต้องยึดด้วย ถ้าน้าไม่ได้เป็นขโมย
ผู้ใหญ่ : เพราะว่าอะไรที่กฏหมายกำหนดไว้ก็ต้องชำระให้ครบ ฉันจะยึดวัวแทนค่าภาษี
ครุชกา : ภาษีเป็นยังไง?
ผู้ใหญ่ : หนูนี่หลักแหลมแท้ๆ! ภาษีคืออะไรหรือ? ก็คือสิ่งที่พระเจ้าซาร์รับสั่งให้ประชาชนชำระนั่นเอง
ครุชกา : ชำระให้ใคร
ผู้ใหญ่ : เอ้าแล้วกัน ให้พระเจ้าซาร์ล่ะสิ! จากนั้นพระองค์จะทรงวินิจฉัยว่าควรใช้เพื่อสิ่งใดบ้าง
ครุชกา : พระเจ้าซาร์ขัดสนมากเทียวหรือ? พวกเราต่างหากที่อนาถา แต่ท่านร่ำรวยอย่างกับอะไรดี แล้วทำไมยังเก็บภาษีจากเราอีกก็ไม่รู้?
ผู้ใหญ่ : ท่านไม่ได้เก็บเอาไปใช้จ่ายส่วนพระองค์หรอก เด็กโง่เอ๋ย ท่านทรงเก็บเพื่อพวกเราต่างหาก เพื่อจ่ายให้แก่ข้าราชการให้แก่กองทัพ ให้แก่การศึกษา เพื่อความสุขสมบูรณ์ของเราทั้งหลาย
ครุชกา : ถ้ายึดวัวไปแล้วจะดียังไง? ไม่เห็นว่าช่วยเราตรงไหนสักนิด
ผู้ใหญ่ : เมื่อโตขึ้นหนูจะเข้าใจ อย่าลืมบอกแม่ตามที่สั่งก็แล้วกัน
ครุชกา : เรื่องเหลวไหลพรรค์นี้ไม่บอกหรอก น้ากับพระเจ้าซาร์ต้องการอะไรก็หาเองเถอะ ส่วนเราจะหาของที่เราต้องการเหมือนกัน
ผู้ใหญ่ : อื้อ เติบโตขึ้นเมื่อไหร่ เด็กคนนี้จะกลายเป็นมหันตภัยแน่นอน!

-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
เมื่อปะป๊ายังเด็ก
โพสต์ที่ 4
มือใหม่วรรณกรรมคลาสสิคเข้ามาดู :lol:
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==