คุยกับคุณลุงขับ Taxi

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

คุยกับคุณลุงขับ Taxi

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เวลาผมได้มีโอกาสนั่ง Taxi คนเดียว
ถ้าคนขับดูแล้วอัธยาศัยดี ผมชอบชวนคนขับคุยครับ
ผมว่าได้ความรู้และทำให้เข้าใจมุมมองที่แตกแต่งออกไปได้เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะหากคนขับมีอายุหน่อย เป็นคนต่างจังหวัดซื่อๆ
แกจะมีเรื่องต่างๆเยอะแยะมาเล่าให้เราฟัง

ชวนลุงคุยเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆ

ผม: ลุงว่าเศรษฐกิจเป็นยังไง
ลุง: โอ้ย...แย่ครับ หากินลำบาก
ตั้งแต่มีการปฏิวัติ
อย่างเมื่อวานนี้ลุงขาดทุนไป 3 ร้อย
ผม: โห...ขนาดนั้นเลยเหรอลุง
รถลุงเองหรือเช่า
ลุง: เช่าครับ ค่าเช่าวันนึงก็ 5 ร้อย
เติมแก๊สอีกวันนึงก็ประมาณ 3 ร้อย
อย่างเมื่อวานตอนคืนรถต้องควักกระเป๋าตัวเองอีก 3 ร้อย
ผม: ทำไมลุงไม่ไปวิ่งแถวที่มีพวกนักท่องเที่ยว
ลุง: แถวนั้นก็ไม่ง่ายนะครับ รถแท๊กซี่เยอะไปหมด กว่าจะได้ผู้โดยสารแต่ละคน
ไม่เหมือนเมื่อก่อน หาผู้โดยสารได้ง่ายกว่านี้เยอะ
อย่างแถวบ้านลุง แม่ค้าก็แย่ เลิกขายไปหลายราย
ขายแพงก็ไม่มีคนซื้อ

:idea:
...
...
...

แล้วก็คุยเรื่อยเปื่อย
...
...
...

ผม: ลุงชอบทัก...มั้ย
ลุง: ชอบครับ ชอบมาก
ลุงชอบโครงการ 30 บาท กองทุนหมู่บ้าน
ตั้งแต่ลุงเกิดมาจนป่านนี้ไม่เห็นจะเคยมีแบบนี้เลย

:idea:
...
...

คุยเรื่อยเปื่อยๆ

...
...

ผม: ทำไมลุงไม่หาซื้อรถมือสองแล้วมาทำเอง จะได้ไม่ต้องเสีย 5 ร้อย
ลุง: ค่าใช้จ่ายมันเยอะครับ ดาว์นก็เป็นแสน
ผ่อนวันนึงก็เจ็ดร้อย เวลารถเสียที ค่าซ่อมก็ไม่ใช่ถูก
ลุงชอบแบบนี้มากกว่า ถ้ารถเสียเถ้าแก่ก็ซ่อมให้
ยิ่งถ้าต้องไปก็หนี้ยืมสินมาดาว์นไม่ต้องพูดถึงเลย ส่วนใหญ่ไปไม่รอดทั้งนั้น

:idea:

คุยเรื่อยเปื่อยๆ

...
...

ผม: ลุงมีครอบครัวมั้ย
ลุง: มีครับ เนี่ยเพิ่งเรียนจบรามครับ เพิ่งทำงานได้  2 เดือน
ก็ดีขึ้นหน่อยนึง เมื่อก่อนก็เดือนนึง 7 พันๆ
(คิดในใจลุงเก่งจัง)
ผม: เดี๋ยวอีกหน่อยก็สบายแล้วลุง ให้ลูกหาเลี้ยง

แฮ่... ขี้เกียจเล่าแล้ว ... จบ
"Winners never quit, and quitters never win."
ภาพประจำตัวสมาชิก
poppo
Verified User
โพสต์: 1356
ผู้ติดตาม: 0

คุยกับคุณลุงขับ Taxi

โพสต์ที่ 2

โพสต์

:roll:  :roll:  :roll:

สงสารคนที่หาเช้ากินค่ำ ที่ต้องมารับกรรมเพราะคนไม่กี่คนต้องการเอาชนะกัน

แล้วในสิบปีข้างหน้า เราจะจดจำตัวละครการเมืองที่กำลังเล่นอยู่ในทุกวันนี้ในแง่มุมไหน

:?  :?  :?
จงทนอด และอดทน
MindTrick
Verified User
โพสต์: 1289
ผู้ติดตาม: 0

คุยกับคุณลุงขับ Taxi

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ผมก็ชอบชวนคุยครับ แต่พอเริ่มแหย่เข้าประเด็นทัก.... มักจะเห็นสิ่งที่อยู่ในใจของ แต่ละคนออกมาเลยครับ

แต่เด๋วนี้ไม่ค่อยได้ขึ้นแล้ว ไปไหนๆก็รถไฟฟ้า :D
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Little Boy
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1318
ผู้ติดตาม: 0

คุยกับคุณลุงขับ Taxi

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ใช้บริการแท๊กซี่บ่อย และมักชวนพูดคุยไปเรื่อย

บทสนทนา 4-5 ปีก่อน
ผม : พี่ขับรถอย่างนี้เฉลี่ยรายได้หลังหักน้ำมัน ค่าเช่ารถแล้ว เหลือวันเท่าไหร่ครับ?
แท๊กซี่ : ก็พออยู่ได้ล่ะน้อง วันนึงเฉลี่ยก็ได้ประมาณ 8-900 บาท
ผม : โห..งั้นพี่ก็ได้เดือนละสองหมื่นกว่าซิ ดีกว่าคนทำงานประจำอีกหลายคนอีก

ระยะเวลาผ่านไป เข้าสู่ปัจจุบัน พร้อมกับจำนวนแท๊กซี่ที่เพิ่มมากขึ้น
ผม : พี่ขับรถอย่างนี้เฉลี่ยรายได้หลังหักน้ำมัน ค่าเช่ารถแล้ว เหลือวันเท่าไหร่ครับ?
แท๊กซี่ : พูดยากครับ แล้วแต่วัน บางวันก็กำไร บางวันก็ขาดทุนค่าแก๊ส (เริ่มใช้แก๊สมากขึ้น) เมื่อวานพี่ขาดทุนไป300 แต่วันนี้กำไรแล้ว เฉลี่ยก็น่าจะได้ประมาณวันละ 3-400 บาท มั้งครับ
ผม : (คิดในใจ) โห..รายได้มันลดมาเยอะเลยน่ะเนี่ยะ

อุปสงค์ อุปทาน การเข้ามาของคู่แข่ง แบ่งรายได้ของคนอาชีพนี้ไปเกือบครึ่งเลยทีเดียวในระยะเวลา 4-5 ปี ไม่อยากคิดว่าอนาคตจะเหลือรายได้วันละเท่าไหร่ แต่นั่นยังไม่น่ากลัวเท่ากับกรณี วันดีคือดี ก็รวมกลุ่มกัน แล้วก็ขอขึ้นราคาค่าโดยสาร แล้วผู้บริโภคอย่างเราก็รับภาระไป
ความรู้..อาจมีขอบเขตจำกัด แต่จินตนาการ..ไร้ขีดจำกัด
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

คุยกับคุณลุงขับ Taxi

โพสต์ที่ 5

โพสต์

แท็กซี่ก็มีหัวใจ  
ค่าครองชีพมันสูง

ส่วนท่านทัก  ผมก็ว่าเท่าที่คุยตามชุมชนแออัดกับคนบ้านนอกคนด้อยโอกาส
ยังเป็นขวัญใจคนเดิม
ภาพประจำตัวสมาชิก
Akajon
Verified User
โพสต์: 530
ผู้ติดตาม: 0

คุยกับคุณลุงขับ Taxi

โพสต์ที่ 6

โพสต์

เป็นเหมือนกันครับ ขึ้นแท็กซี่ ชวนแท็กซี่คุยบ่อยๆ ที่บ้านทำแท็กซี่ด้วย ทำมาเกือบ 20-30 ปี ตั้งแต่ 1ท 2ท หลังๆ นี้มีน้อยแล้ว แต่ญาติก็ยังทำต่อ

เสาร์-อาทิตย์ ก็เริ่มเห็นมีนักศึกษาออกมาขับรถ taxi หารายได้พิเศษด้วย บางคน 20 กว่าๆ อยากหาเงินรายได้เสริม ก็มาขับเวลาว่าง บวกกับอู่รถส่วนใหญ่ มีรถจอดเยอะ เห็นหน้ากันบ่อยๆ ไว้ใจได้ ก็ให้ขับ เพราะดีกว่าจอด

เรื่องการเมือง ไม่ค่อยได้คุย จะคุยตามใจคนขับมากกว่า มีแนะนำคนขับให้ผ่อนรถเป็นของตัวเอง แต่ส่วนใหญ่จะติดไม่มีเงินดาวน์ แล้วก็กลัวปัญหาเวลาชน เวลาเสีย เพราะซ่อมเป็นหมื่นๆ ก็ไม่มีเหมือนกัน เลยอาศัยขับอู่ ปลอดภัยกว่า

ขับแท็กซี่รายได้ไม่เยอะครับ แถมนั่งทั้งวัน ร่างกายแย่

วันนึงวิ่งได้เท่าไหร่ หักแก๊ส หักค่าเช่า หักค่ากิน 2 มื้อ เหลือ 300-500 ก็เก่งแล้ว ยิ่งรถติดๆ รับผู้โดยสารได้น้อยลง รายได้วันนั้นก็ลดลงตามไปด้วย

ส่วนเรื่องการเมือง ไม่ค่อยได้คุย เพราะต่างคน ต่างความคิด แต่ก็รู้ว่าส่วนใหญ่ ชอบคุณทักษิณ เพราะมีลักษณะของการคิดจริง ทำจริง

แต่ถ้าคนใหม่ๆ เข้ามา อย่างคุณอภิสิทธิ์ ถ้าทำได้ดี เชื่อว่าคนก็รักครับ
BHT
Verified User
โพสต์: 1822
ผู้ติดตาม: 0

คุยกับคุณลุงขับ Taxi

โพสต์ที่ 7

โพสต์

นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้น แต่พวกนักการเมืองที่ได้มาบริหาร ไม่เคยรู้หรอกครับ มีกินมีอยู่สบาย เข้ามาแล้วก็โกงกินรวยขึ้นอีก
noooon010
Verified User
โพสต์: 2712
ผู้ติดตาม: 0

คุยกับคุณลุงขับ Taxi

โพสต์ที่ 8

โพสต์

มีคนบอกว่า ถ้าเราอยากรู้จักใครสักคน ไม่ว่าเค้าคนนั้นจะทำงานอะไร ถ้าเราลองไปพูดคุยดู เรามักจะได้สิ่งดีๆกลับมา ไม่มากก็น้อย

(แม้เค้าคนนั้น จะมี bad idea แต่เราก็จะได้สิ่งดีๆที่จะนำมา deal กับ bad idea นั้น)

ดังนั้น มาจีบสาวน่ารักๆแถวสยามดีกว่าเนอะ จะได้เจอสิ่ง ดีๆกลับไป
:lol:  (เกี่ยวกันบ่)
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ

มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม


นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
ShexShy
Verified User
โพสต์: 577
ผู้ติดตาม: 0

คุยกับคุณลุงขับ Taxi

โพสต์ที่ 9

โพสต์

น่าเสียดาย ...

อาจเป็นเพราะ โรงงานปิดเยอะ คยที่ตกงานเลยมาขับ Taxi เยอะ ขึ้น ... คู่แข่งก็เลยเยอะขึ้น ทำให้รายได้น้อยลง ...

อาจเป็นเพราะ ต่างชาติ โจมตีค่าเงินทำให้เงินบาทแข็ง ทำให้โรงงานเป็นเยอะ และทำให้ Taxi มีคู่แข่งเยอะขึ้น ทำให้รายได้น้อยลง ...

อาจเป็นเพราะ รัฐบาลเอเมริกา ยอมให้มี hedge fund หรือ การจัดตั้งกองทุน เลยทำให้มีการเกร็งกำไร ค่า เงิน ทำให้เงินบาทแข็ง ทำให้โรงงานเป็นเยอะ และทำให้ Taxi มีคู่แข่งเยอะขึ้น ทำให้รายได้น้อยลง ...

... มีใครคิดบ้งหรือเปล่าว่า เราเองก็ผิด .. ที่ไม่รู้ให้ทัน  ไม่รู้จักปรับตัว ...
... มีใครคิดบ้างไหม ว่า เราไม่ขยันเอง ถึงเป้นอย่างนี้ เพียงแค่ขยันทำงานตาม คือ ทำงานเต็มที่ ตามเวลาที่เขาจ้าง ก็ทำให้ประเทศเจริญได้ ...

... ทำไมเห็นแต่มีคนชอลบอกว่า เพราะ ๆๆๆๆ หลายสิ่งหลายอย่าง ... แต่ไม่เคยบอกว่าเป็นเพราะ ตัวเองเลย ...

... เพราะ ตัวเองไม่เก่ง พอ... ตัวเองไม่เก่งเพราะไม่ขยันพอ ...
...
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

คุยกับคุณลุงขับ Taxi

โพสต์ที่ 10

โพสต์

[quote="ShexShy"]
... มีใครคิดบ้งหรือเปล่าว่า เราเองก็ผิด .. ที่ไม่รู้ให้ทัน
"Winners never quit, and quitters never win."
ShexShy
Verified User
โพสต์: 577
ผู้ติดตาม: 0

คุยกับคุณลุงขับ Taxi

โพสต์ที่ 11

โพสต์

อ๋อ ... ไม่มีอะไรหรอกครับ พี่ HVI

ผมเพียงแต่น้อยใจ + เหนื่อยใจนิดหน่อย เวลา เจอกับเรื่องเปรียบเทียบอย่างนี้ ...

คือ มันก่อให้เกิดความคิดที่ปิดบังการได้รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริง ... หรือ อีกอย่างรู้สึกสิ้นหวังอย่างไรก้ไม่รู้ ... อาจเป็นเพราะผมไม่ค่อยอยากให้คนสิ้นหวัง สิ้นความพยายามกันน่ะ ...

ไม่รู้สิครับ ... ผมขอยกตัวอย่าง ที่ทำงานผมหน่อยแล้วกัน

... ในระบบการทำงานมีปัญหาเดิม ๆ มาเรื่อย ๆ ทุกคนก็เครียดกับปัญหา
บางครั้งถึงขั้น คุยกันแรง ๆ ก็มี
... ไม่ใช่ปัญหาหารเมืองในบริษัท นะครับ ... แต่เป็นเรื่องของทำไม่ได้ตามที่คาดหวัง ... มันรู้สึก เดินไปตรงไหน ก็สะดุดกับปัณหาหมด ...  จนคนทำงานทั้งเหยื่อ ทั้งเครียด

พอผมเข้ามา ... ผมก็สงสัยว่า ทำไมยังอยู่กับปัญหาอยู่ ... ไม่คิดแก้ซักที
... ก็มีคนตอบว่า ก็มันเป็นอย่างนี้ ไม่รู้จะแก้อย่างไร ... เพราะคนโน้นทำอย่างนี้ เพราะคนนั้นไม่ทำอย่างนี้ ... ก้เลยเป็นอย่างนี้ ...

ผมก็เลยคิดว่า เราชอบกับชีวิตที่เครียด ๆ อย่างนี้หรือ ... ถ้าชอบก็ปล่อยให้เป็นไปอย่างนี้ล่ะ ... ถ้าไม่ชอบก้ต้องทำอะไรสักอย่าง ..

ผมก็เริ่มทำงานหนัก ... อ่านหนังสือมากขึ้น คุยกับหัวหน้ามากขึ้น คุยกับคนในส่วนอื่น ๆ มากขึ้น ตะล่อมถาม ไปเรื่อย ๆ  พร้อมกับคิดปรับปรุงระบบการทำงานให้ดีขึ้น (ซึ่งก็ copy จาก ที่อื่น ๆ มา)

ค่อยทำทีล่ะนิด ... จนตอนนี้บรรยากาศการทำงานดีขึ้น ทะเลาะกันน้อยลง พุดคุยกันดีขึ้น ...

.... ผมอาจจะเขียนสื่อไม่ดีเท่าไรนัก ...
แต่สิ่งที่ผมพยายามบอกคือ ... เจอปัญหาแล้ว อย่าพยายามโทษใครเลย ให้หาสาเหตุก่อน แล้ว ค่อยคิดวิธีการแก้ปัญหา ...

อย่างลุง Taxi เค้าอาจจะพยายามทุกวิธีแล้วในการให้รายได้ที่มาจาก Taxi มาขึ้น ...

ถ้าเขาบอกว่า รัฐบาล เป็นต้นตอใหญ่ ๆ เลย ... เขาก็มุ่งเป้าไปที่รัฐบาล โดยที่ไม่มองถึงสาเหตุด้านอื่นเลย ... ซึ่ง ลุงเอง ก้คงเหนื่อยสิ จะเอาแรงที่ไหน ไปเปลี่ยนรัฐบาล ...

แต่ถ้าเรา ... บอกว่า ต้นตอคือเราด้วย ที่ไม่คิดหาทางอื่น ... ลุงเอง ก้อาจจะคิดหารายได้ทางอื่น เสริมด้วย แทนที่จะมัวขับ Taxi ที่นับวันมีแต่คู่แข่ง ...

... แล้งบางที สาเหตุ ก้อาจจะเกี่ยวกับเราด้วย ... ทั้ง ๆ ที่เรา เป็นผู้ที่ เชื่อได้ว่า น่าจะให้ทางออกอีกทางกับลุงได้ ... ทำไมเราไม่ชี้ทาง แนวคิด ให้ลุงเขาเจอทางที่ดีขึ้นได้ ... เพราะ หลังจากลงรถ taxi เราคงไม่มีโอกาสบอกลุงได้อีก ...

:o
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

คุยกับคุณลุงขับ Taxi

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ShexShy เขียน: ... แล้งบางที สาเหตุ ก้อาจจะเกี่ยวกับเราด้วย ... ทั้ง ๆ ที่เรา เป็นผู้ที่ เชื่อได้ว่า น่าจะให้ทางออกอีกทางกับลุงได้ ... ทำไมเราไม่ชี้ทาง แนวคิด ให้ลุงเขาเจอทางที่ดีขึ้นได้ ... เพราะ หลังจากลงรถ taxi เราคงไม่มีโอกาสบอกลุงได้อีก ...

:o
ซะงั้น ...  :lol:
เนี่ย... ผมให้ค่าโดยสาร โดยบอกลุงว่าไม่ต้องทอนแล้วนะเนี่ย
ลุงดีใจใหญ่เลย

สงสัยแบบนี้
ถ้าผมเดินผ่านขอทานกลางสะพานลอย
แล้วผมไม่ได้ชี้ทางให้เค้า บางทีสาเหตุอาจจะเป็นเพราะผมที่ทำให้ชีวิตเค้าเป็นแบบนี้ด้วยมั้ยเนี่ย
เพราะหลังจากเดินผ่านไปแล้ว ผมอาจจะไม่มีโอกาสบอกขอทานคนนั้นอีกเลย

ขำๆนะครับ  :lol:

เห็นด้วยกับแนวคิดของคุณ ShexShy ที่บอกว่า
เกิดปัญหาอะไร ให้มองมาที่ตัวเองก่อน
ทำสิ่งที่อยู่ในขอบเขตที่เรา control ได้ให้ดีที่สุดก่อน
ส่วนที่เรา control ไม่ได้ ก็อย่าไปโทษมันเลย

บางทีที่มีปัญหา เพราะเรายังไม่พยายามทำส่วนของเราให้ดีมากพอ  :D
"Winners never quit, and quitters never win."
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

คุยกับคุณลุงขับ Taxi

โพสต์ที่ 13

โพสต์

[quote="HVI"]
เห็นด้วยกับแนวคิดของคุณ ShexShy ที่บอกว่า
เกิดปัญหาอะไร ให้มองมาที่ตัวเองก่อน
ทำสิ่งที่อยู่ในขอบเขตที่เรา control ได้ให้ดีที่สุดก่อน
ส่วนที่เรา control ไม่ได้ ก็อย่าไปโทษมันเลย

บางทีที่มีปัญหา เพราะเรายังไม่พยายามทำส่วนของเราให้ดีมากพอ
"Winners never quit, and quitters never win."
ShexShy
Verified User
โพสต์: 577
ผู้ติดตาม: 0

คุยกับคุณลุงขับ Taxi

โพสต์ที่ 14

โพสต์

.. ไม่เป็นไรครับ ถือว่าลุงแก พลาดโอกาส ดี ๆ ที่จะได้รับ จาก พี่ HVI ไป ...

ถ้าคนไทยทุกคนคิดกันได้แบบนี้ บ้านเมืองเราคงไม่เป็นแบบนี้  
พูดงี้ ผมก็เขินแย่ ...

ถ้าผมมีแรงทำให้คนไทยทุกคนคิดได้  ก็คิดว่าจะทำนะ ...

แต่ตอนนี้ แค่ที่บ้าน เพื่อนผมก็เหนื่อยแล้ว ... ผมโดนด่าว่าบ้างาน อยู่เรื่อย เลย ...

:lol:
sunrise
Verified User
โพสต์: 2266
ผู้ติดตาม: 0

คุยกับคุณลุงขับ Taxi

โพสต์ที่ 15

โพสต์

เคยคุยกับหลายๆคน

ผมว่าขึ้นกับว่าเค้ารู้จักใช้รู้จักหาหรือเปล่าเคยคุยกับแท๊กซี่
เค้าหาได้เดือนละ 40,000บาท โดยที่ขับวันละ 12 ชม
แต่เค้าจะรู้ว่าช่วงไหนต้องไปที่ไหน โดยมีหลายๆ ทางเลือก

อีกคนบอกว่ากำไรบ้างขาดทุนบ้าง
ผมพบว่าเค้ามักจะขับไปเรื่อยๆ

บางคนผมบอกไม่ต้องทอนถ้าคุยด้วยดีๆ
แค่นี้ก็เห็นคนยิ้มแล้วครับ  :wink:
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
ภาพประจำตัวสมาชิก
bsk(มหาชน)
Verified User
โพสต์: 3206
ผู้ติดตาม: 0

คุยกับคุณลุงขับ Taxi

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ผมคุยกับแม่ค้าข้าวโพดปิ้ง ซี้กัน..

อยู่สลัมริมคลอง รันทดจังชีวิต

แต่พี่แกขยันมาก นับถือ...

สู้ๆ.. :arrow:
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

คุยกับคุณลุงขับ Taxi

โพสต์ที่ 17

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

อ๋อ ... ไม่มีอะไรหรอกครับ พี่ HVI 

ผมเพียงแต่น้อยใจ + เหนื่อยใจนิดหน่อย เวลา เจอกับเรื่องเปรียบเทียบอย่างนี้ ... 

คือ มันก่อให้เกิดความคิดที่ปิดบังการได้รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริง ... หรือ อีกอย่างรู้สึกสิ้นหวังอย่างไรก้ไม่รู้ ... อาจเป็นเพราะผมไม่ค่อยอยากให้คนสิ้นหวัง สิ้นความพยายามกันน่ะ ... 

ไม่รู้สิครับ ... ผมขอยกตัวอย่าง ที่ทำงานผมหน่อยแล้วกัน 

... ในระบบการทำงานมีปัญหาเดิม ๆ มาเรื่อย ๆ ทุกคนก็เครียดกับปัญหา 
บางครั้งถึงขั้น คุยกันแรง ๆ ก็มี 
... ไม่ใช่ปัญหาหารเมืองในบริษัท นะครับ ... แต่เป็นเรื่องของทำไม่ได้ตามที่คาดหวัง ... มันรู้สึก เดินไปตรงไหน ก็สะดุดกับปัณหาหมด ...  จนคนทำงานทั้งเหยื่อ ทั้งเครียด 

พอผมเข้ามา ... ผมก็สงสัยว่า ทำไมยังอยู่กับปัญหาอยู่ ... ไม่คิดแก้ซักที 
... ก็มีคนตอบว่า ก็มันเป็นอย่างนี้ ไม่รู้จะแก้อย่างไร ... เพราะคนโน้นทำอย่างนี้ เพราะคนนั้นไม่ทำอย่างนี้ ... ก้เลยเป็นอย่างนี้ ... 

ผมก็เลยคิดว่า เราชอบกับชีวิตที่เครียด ๆ อย่างนี้หรือ ... ถ้าชอบก็ปล่อยให้เป็นไปอย่างนี้ล่ะ ... ถ้าไม่ชอบก้ต้องทำอะไรสักอย่าง .. 

ผมก็เริ่มทำงานหนัก ... อ่านหนังสือมากขึ้น คุยกับหัวหน้ามากขึ้น คุยกับคนในส่วนอื่น ๆ มากขึ้น ตะล่อมถาม ไปเรื่อย ๆ  พร้อมกับคิดปรับปรุงระบบการทำงานให้ดีขึ้น (ซึ่งก็ copy จาก ที่อื่น ๆ มา) 

ค่อยทำทีล่ะนิด ... จนตอนนี้บรรยากาศการทำงานดีขึ้น ทะเลาะกันน้อยลง พุดคุยกันดีขึ้น ... 

.... ผมอาจจะเขียนสื่อไม่ดีเท่าไรนัก ... 
แต่สิ่งที่ผมพยายามบอกคือ ... เจอปัญหาแล้ว อย่าพยายามโทษใครเลย ให้หาสาเหตุก่อน แล้ว ค่อยคิดวิธีการแก้ปัญหา ... 

อย่างลุง Taxi เค้าอาจจะพยายามทุกวิธีแล้วในการให้รายได้ที่มาจาก Taxi มาขึ้น ... 

ถ้าเขาบอกว่า รัฐบาล เป็นต้นตอใหญ่ ๆ เลย ... เขาก็มุ่งเป้าไปที่รัฐบาล โดยที่ไม่มองถึงสาเหตุด้านอื่นเลย ... ซึ่ง ลุงเอง ก้คงเหนื่อยสิ จะเอาแรงที่ไหน ไปเปลี่ยนรัฐบาล ... 

แต่ถ้าเรา ... บอกว่า ต้นตอคือเราด้วย ที่ไม่คิดหาทางอื่น ... ลุงเอง ก้อาจจะคิดหารายได้ทางอื่น เสริมด้วย แทนที่จะมัวขับ Taxi ที่นับวันมีแต่คู่แข่ง ... 

... แล้งบางที สาเหตุ ก้อาจจะเกี่ยวกับเราด้วย ... ทั้ง ๆ ที่เรา เป็นผู้ที่ เชื่อได้ว่า น่าจะให้ทางออกอีกทางกับลุงได้ ... ทำไมเราไม่ชี้ทาง แนวคิด ให้ลุงเขาเจอทางที่ดีขึ้นได้ ... เพราะ หลังจากลงรถ taxi เราคงไม่มีโอกาสบอกลุงได้อีก ... 
ShexShy

คนมีหลายแบบ เช่น

คนที่เก่งจริง เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์

คนที่เกิดมาฉกฉวย ก็เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์

แต่คนส่วนใหญ่ ที่ไม่เก่งจริง และไม่อยากฉกฉวยด้วย ก็ยังเป็นคนส่วนใหญ่ของสังคม คนเหล่านี้ดีนะ แต่ ไม่เก่ง ถึงมีโอกาส ก็ไม่สามารถฉกฉวยได้

จะว่าคนเหล่านี้ไม่ปรับตัวเอง หรือไม่ขยัน ก็ไม่แน่ใจ เพราะเวลาทำงาน เห็นแล้วเหนื่อยแทน

ถ้าเหล่าคนที่เก่ง ได้ครองเมืองแล้วคิดถึงคนส่วนใหญ่ ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกัน

ระบบ ที่สร้างขึ้น ก็จะทำให้คุณภาพชีวิต โดยรวมดีขึ้นครับ
กล้วยทอด
Verified User
โพสต์: 1468
ผู้ติดตาม: 0

คุยกับคุณลุงขับ Taxi

โพสต์ที่ 18

โพสต์

bsk(มหาชน) เขียน:ผมคุยกับแม่ค้าข้าวโพดปิ้ง ซี้กัน..

อยู่สลัมริมคลอง รันทดจังชีวิต

แต่พี่แกขยันมาก นับถือ...

สู้ๆ.. :arrow:
คุยว่าไงมั่งคะพี่
..สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง..
ShexShy
Verified User
โพสต์: 577
ผู้ติดตาม: 0

คุยกับคุณลุงขับ Taxi

โพสต์ที่ 19

โพสต์

Jeng เขียน: ShexShy

คนมีหลายแบบ เช่น

คนที่เก่งจริง เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์

คนที่เกิดมาฉกฉวย ก็เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์

แต่คนส่วนใหญ่ ที่ไม่เก่งจริง และไม่อยากฉกฉวยด้วย ก็ยังเป็นคนส่วนใหญ่ของสังคม คนเหล่านี้ดีนะ แต่ ไม่เก่ง ถึงมีโอกาส ก็ไม่สามารถฉกฉวยได้

จะว่าคนเหล่านี้ไม่ปรับตัวเอง หรือไม่ขยัน ก็ไม่แน่ใจ เพราะเวลาทำงาน เห็นแล้วเหนื่อยแทน

ถ้าเหล่าคนที่เก่ง ได้ครองเมืองแล้วคิดถึงคนส่วนใหญ่ ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกัน

ระบบ ที่สร้างขึ้น ก็จะทำให้คุณภาพชีวิต โดยรวมดีขึ้นครับ
ขอบคุณครับ พี่เจ๋ง ...

เรื่องการไม่พยายามนี้ ผมก็พยายามทำใจให้เข้าใจเขานั่นล่ะครับ  ...

อย่างเมื่อ 2 วันมานี้ ยามที่บริษัทผม นอนสั่นอยู่ป้อมยาม ตอนดึก ๆ ด้วย (พอดีผมพักที่บริษัท) ก็รีบไปดู ถามอาการคร่าว ๆ เขาบอกว่าคงเพราะแพ้ยา เพราะ หลังกินยาพวก บรรเทาปวดในช่องท้อง ก้เกิดอาการพวกนี้

พยายามบอกว่าไปโรงพยาบาลไหม เขาก็บอกว่าเดี๋ยวก็คงหายเอง เคยเป็นอยู่ครั้งหนึ่ง ผมเดา ๆ ว่าเป็นเรื่องค่าใช้จ่าย ล่ะ ... แต่ผมน่ะกลัวว่าจะเป็นอะไรรุนแรง เพราะ อาการแพ้ยานี้ ผมก้ไม่รู้ว่าแบบไหนรุนแรง หรือเปล่า ...

คืนนั้นก้พยายามโทรหาเพื่อนหมอ ... เที่ยงคืนกว่าแล้ว ... เพื่อนผมเขาก็นอนแล้วสิ ... ไม่รู้อย่างไร ก็เลย post ถามใน เวบบอร์ดที่ผมเล่นอยู่อีกที่ ... ให้รายละเอียด ยาในถุงยาของเขา...

วันต่อมามีพี่ที่เขาเป็นหมอ ก็โทรมาบอกว่า OK นะ พาไปโรงพยาบาลได้เลย
(ยามเขาอาการดีขึ้น กลับบ้านได้แล้ว แต่ดูอิดโรยนิดหน่อย)  พี่เขารู้จักคนที่โรงพยาบาลที่ช่วยเรื่องประกันสังคมได้ เพราะ โรคดี (แผลในทางเดินอาหาร) นี้ ประกันสังคมเขาดูแล โรงพยาบาลของรัฐทุกที่ รับหมด รัฐธรรมนูญ บังคับไว้เลย (ยามเขาบอกว่ามีประกันสังคมที่ โรงพยาบาลราชวิถี) เพราะฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย ... หรือถ้าไม่มีประกันสังคม มีแค่บัตรประชาชน เขาสามารถหาข้อมูลให้ได้ ย้นไปถึง 30 บาท ได้ด้วย...

หรือ ถ้าแกว่านั้น ไปโรงพยาบาลตำรวจ เขาสามารถขอให้ญาติเขา ดูแลให้ได้ ในการตรวจ และ รักษา...

ผมก็รวบรวมข้อมูล ชื่อ คนที่โรงพยาบาล บอกว่า ติดต่อคนี้นะ ที่แผนกไหน เขาจะช่วยดำเนินเรื่องให้ ... เขียนโน๊ต ให้ด้วย บอกชื่อคนอ้างอิงให้ด้วย

พอวันนี้ ถามเขาว่าได้ไปโรงพยาบาลไหม ... เขาบอกว่าไม่ได้ไป เพราะ ดูอาการดีขึ้นแล้ว กินข้าวได้แล้ว ...

ผมและรู้สึกแย่เลย ... อุตสาห์ แนะนำ เส้นทางให้แล้ว ... แต่ไม่ทำ ... ได้แต่ เฮ้ออ ... ปล่อยไปเถอะ ..

... พี่ที่เป็นหทอที่เขาโทรมาหาผมบอกว่า ... ประกันสังคมนี้ เขามีไว้ให้ ช่วยsupport คนที่ไม่สามารถจ่ายค่ารักษาได้สูง อย่างยามนี้ล่ะ  (และ เป็นสิทธิพื้นฐานของคนไทยทุกคน)  ... แต่เขาเคยทำวิจัยแล้วว่า คนจนนี่กลับไม่รู้ว่าตัวเองมีสิทธิ์ ... มีแต่คนรวยไปใช้สิทธิ กัน ... ก็เพราะ ไม่รู้ กลัวโน่น กลัวนี่ไปหมด ...

อย่าง case ยามนี้ เป็น ประสบการณ์ จริงได้เลย ... บอกชี้แนะหมดแล้ว เหลือแต่จะทำหรือไม่เท่านั่นล่ะ ...

... นี้อาจเป็นอีกสาเหตุ หนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึก น่าเบื่อกับคำพูดที่ชอบเปรียบเทียบ รัฐบาล ต่อ รัฐบาล ว่า คนโน้น ให้อย่างนี้ คนนั้นให้อย่างโน้น ... รู้สึกเหมือนเรียกร้อง โน่น เรียกร้องนี่ .. แต่ตัวเองไม่พยายามเอาซะเลย ...

...
โพสต์โพสต์