ขำขำ คลายเครียด
-
- Verified User
- โพสต์: 1296
- ผู้ติดตาม: 1
ขำขำ คลายเครียด
โพสต์ที่ 122
ช่วงนี้ใกล้วันเข้าพรรษา พอดีมีเรื่องของคนถือศีลวันเข้าพรรษามาเล่าให้ฟัง
มีพี่น้องสองคนพอเลิกงานทุกเย็นจะไปดื่มเบียร์กันคนละเหยือกเป็นประจำ
วันหนึ่งมีแต่น้องชายเข้ามาในร้านคนเดียว แล้วสั่งเบียร์มาสองเหยือก
คนขายเบียร์ อ้าวพี่ชายไปไหนเสียละ
ชายผู้นั้น เขาไปทำงานอยู่ต่างประเทศ
คนขายเบียร์ แล้วทำไมต้องสั่งเบียร์มาตั้ง 2 เหยือก
ชายผู้นั้น อ๋อ พี่ชายผมสั่งให้ดื่มแทนเขาด้วยเหยือกหนึ่ง
เหตุการณ์ก็เป็นเช่นนี้ไปอีกพักใหญ่
วันหนึ่งชายผู้นี้ก็เข้ามาดื่มเบียร์เหมือนเดิม แต่คราวนี้เขาสั่งเบียร์มาแค่
เหยือกเดียว คนขายเบียร์ก็คิดว่าคงเกิดอะไรกับพี่ชายเขาแน่ ซึ่งอาจจะ
เสียชีวิตก็ได้
คนขายเบียร์ ผมเสียใจด้วยที่พี่ชายคุณเสียชีวิต
ชายผู้นั้น ใครบอกคุณว่าพี่ชายผมเสียชีวิต
คนขายเบียร์ ก็วันนี้ผมเห็นคุณสั่งเบียร์มาแค่เหยือกเดียว จึงคิดว่าน่าจะ
เกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายของคุณ
ชายผู้นั้น เปล่า พี่ชายผมสบายดี ที่ผมสั่งเบียร์มาแค่เหยือกเดียว
เป็นเพราะว่าช่วงนี้เป็นช่วงเข้าพรรษา ผมงดดื่มของมึนเมา
มีพี่น้องสองคนพอเลิกงานทุกเย็นจะไปดื่มเบียร์กันคนละเหยือกเป็นประจำ
วันหนึ่งมีแต่น้องชายเข้ามาในร้านคนเดียว แล้วสั่งเบียร์มาสองเหยือก
คนขายเบียร์ อ้าวพี่ชายไปไหนเสียละ
ชายผู้นั้น เขาไปทำงานอยู่ต่างประเทศ
คนขายเบียร์ แล้วทำไมต้องสั่งเบียร์มาตั้ง 2 เหยือก
ชายผู้นั้น อ๋อ พี่ชายผมสั่งให้ดื่มแทนเขาด้วยเหยือกหนึ่ง
เหตุการณ์ก็เป็นเช่นนี้ไปอีกพักใหญ่
วันหนึ่งชายผู้นี้ก็เข้ามาดื่มเบียร์เหมือนเดิม แต่คราวนี้เขาสั่งเบียร์มาแค่
เหยือกเดียว คนขายเบียร์ก็คิดว่าคงเกิดอะไรกับพี่ชายเขาแน่ ซึ่งอาจจะ
เสียชีวิตก็ได้
คนขายเบียร์ ผมเสียใจด้วยที่พี่ชายคุณเสียชีวิต
ชายผู้นั้น ใครบอกคุณว่าพี่ชายผมเสียชีวิต
คนขายเบียร์ ก็วันนี้ผมเห็นคุณสั่งเบียร์มาแค่เหยือกเดียว จึงคิดว่าน่าจะ
เกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายของคุณ
ชายผู้นั้น เปล่า พี่ชายผมสบายดี ที่ผมสั่งเบียร์มาแค่เหยือกเดียว
เป็นเพราะว่าช่วงนี้เป็นช่วงเข้าพรรษา ผมงดดื่มของมึนเมา
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
ขำขำ คลายเครียด
โพสต์ที่ 124
เรียนผู้จัดการฝ่ายบุคคล
> กระผมนายจู๋มีความประสงค์ขอขึ้นเงินเดือนโดยมีเหตุผลดังต่อไปนี้
> 1.กระผมเป็นผู้ใช้แรงงาน
> 2.กระผมทำงานในที่ลึกมาก......
> 3.กระผมต้ องสอดหัวเข้าไปก่อนทุกครั้งที่ทำงาน
> 4.กระผมไม่มีวันหยุดสุดสัปดาห์และไม่เคยหยุดวันนักขัตฤกษ์
> 5.กระผมทำงานในที่มีสภาวะแวดล้อมอับชื้น!!!
> 6.กระผมทำงานในที่มืดและไม่มีอากาศถ่ายเท
> 7.กระผมทำงานในที ่ร้อนอบอ้าว
> 8.กระผมไม่เคยได้รับค่าล่วงเวลา
> 9.กระผมทำงานที่เสี่ยงกับโรคติดต่อ
>
> จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
>
> นายจู๋ กาเจี้ยว
>
> --------------------------------------------------------------------------------------------------------------
> จดหมายตอบจากทางฝ่ายบุคคล เนื่องจะคณะกรรมการได้พิจารณาแล้วเห็นว่า
> คุณไม่สมควรได้รับการขึ้นเงินเดือนเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติ
> เป็นพนักงานที่ดีหลายประการ
> ดังที่ได้แจ้งหลายละเอียดดังนี้
> 1.คุณไม่ได้ทำงาน 8 ช.ม. / วัน
> 2.คุณงีบหลับหลังจากเสร็จงานเสมอ
> 3.คุณไม่ทำตามคำสั่งบ่อยๆ
> 4.คุณไม่ชอบทำงานในที่ประจำของคุณ และชอบแว๊บไปรับงานที่อื่นบ่อยๆ
> 5.คุณมักไม่ทำงานโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า และหลายครั้งที่หยุดงานกลางคัน
> 6.คุณไม่มีความเป็นผู้นำ ต้องอาศัยแรงกระตุ้นจากภายนอกให้ทำงาน
> 7.คุณทิ้งให้ที่ทำงาน สกปรกเลอะเทอะทุกครั้งเมื่อเสร็จงาน
> 8.คุณมักไม่ชอบปฎิบัติตามกฎแห่งความปลอดภัย โดยไม่สวมอุปกรณ์ป้องกัน
> 9.หลายครั้งคุณไม่สามารถทำงานควบสองกะต่อเนื่องได้ ==
>
> จึงเรียนมาเพื่อทราบ
>
> กระผมนายจู๋มีความประสงค์ขอขึ้นเงินเดือนโดยมีเหตุผลดังต่อไปนี้
> 1.กระผมเป็นผู้ใช้แรงงาน
> 2.กระผมทำงานในที่ลึกมาก......
> 3.กระผมต้ องสอดหัวเข้าไปก่อนทุกครั้งที่ทำงาน
> 4.กระผมไม่มีวันหยุดสุดสัปดาห์และไม่เคยหยุดวันนักขัตฤกษ์
> 5.กระผมทำงานในที่มีสภาวะแวดล้อมอับชื้น!!!
> 6.กระผมทำงานในที่มืดและไม่มีอากาศถ่ายเท
> 7.กระผมทำงานในที ่ร้อนอบอ้าว
> 8.กระผมไม่เคยได้รับค่าล่วงเวลา
> 9.กระผมทำงานที่เสี่ยงกับโรคติดต่อ
>
> จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
>
> นายจู๋ กาเจี้ยว
>
> --------------------------------------------------------------------------------------------------------------
> จดหมายตอบจากทางฝ่ายบุคคล เนื่องจะคณะกรรมการได้พิจารณาแล้วเห็นว่า
> คุณไม่สมควรได้รับการขึ้นเงินเดือนเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติ
> เป็นพนักงานที่ดีหลายประการ
> ดังที่ได้แจ้งหลายละเอียดดังนี้
> 1.คุณไม่ได้ทำงาน 8 ช.ม. / วัน
> 2.คุณงีบหลับหลังจากเสร็จงานเสมอ
> 3.คุณไม่ทำตามคำสั่งบ่อยๆ
> 4.คุณไม่ชอบทำงานในที่ประจำของคุณ และชอบแว๊บไปรับงานที่อื่นบ่อยๆ
> 5.คุณมักไม่ทำงานโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า และหลายครั้งที่หยุดงานกลางคัน
> 6.คุณไม่มีความเป็นผู้นำ ต้องอาศัยแรงกระตุ้นจากภายนอกให้ทำงาน
> 7.คุณทิ้งให้ที่ทำงาน สกปรกเลอะเทอะทุกครั้งเมื่อเสร็จงาน
> 8.คุณมักไม่ชอบปฎิบัติตามกฎแห่งความปลอดภัย โดยไม่สวมอุปกรณ์ป้องกัน
> 9.หลายครั้งคุณไม่สามารถทำงานควบสองกะต่อเนื่องได้ ==
>
> จึงเรียนมาเพื่อทราบ
>
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
ขำขำ คลายเครียด
โพสต์ที่ 125
1) คนพาลถ้าจริงใจก็ไม่ผิด คบบัณฑิตไม่จริงใจก็ไร้ผล
2) ทำดี ย่อมได้ดี ทำอัปปรีย์ มันจะได้ดีได้ยังไง
3) บางสิ่งเราก็ไม่ควรจำ ... ถ้ามันทำให้ใจเจ็บ แต่บางสิ่งเราก็ควรจะเก็บ .. ถ้ามันเป็นความเจ็บที่น่าจำ ! ( โอ้โห ... คิดได้งัย )
4) อย่ามีหัว .. ไว้ให้แค่ผมขึ้น .( รู้จักใช้ซะบ้างสมองอ่ะ .. เดี๋ยวมันจะฝ่อ )
5) ความดีก็เหมือนกางเกงใน ต้องมีติดตัวไว้ แต่ไม่ต้องเอามาโชว์
6) เจ็บแล้วจำ คือ คน เจ็บแล้วทน คือควาย
7) พอใจเท่าที่มี ... ยินดีเท่าที่ได้
8) สิ่งที่สอนคนเราไม่ได้ ก็คือ " สามัญสำนึก "
9) ไปให้สุด .......... แล้วหยุดแค่คำว่าพอ ........
10) สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร
11) จงซื่อสัตย์กับแฟนตัวเอง แล้วจงครื้นเครงกับแฟนคนอื่น
12) หากเดินตามรอยเท้าคนอื่น ก็ไม่มีวันมีรอยเท้าเป็นของตัวเอง
13) มาสาย กลับก่อน นอนกลางวัน มันส์กลางคืน
14) สุราไม่ได้สร้างวีรบุรุษ ...... แต่วีรบุรุษก็ขาดสุราไม่ได้
15) ความพยามครั้งที่ 100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ
16) ทำคืนนี้ให้ดีที่สุด และอย่าหยุดถ้าไม่ถึงจุดสุดยอด ( อันนี้ขำขำแอบทะลึ่งเล็กน้อย )
17) ทุกนาง ... งามสรรพ ... เมื่อดับเทียน 555)
18) สุขใดไม่เท่าล้วงกระเป๋า แล้วเจอตังค์ 555
19) คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด .. คนฉลาดย่อมเป็นเหยื่อของ .. คนฉลาดที่แกล้งโง่
20) สามีคือเป้าหมาย ผู้ชายคือทางผ่าน คบเด็กคือนิพพาน ขึ้นคานคือตายทั้งเป็น
21) การดื่มเหล้าให้เมาไม่ใช่ยี่ห้อของสุรา .. การศึกษาคือความรู้ที่ได้มาไม่ใช่สถาบัน
22) = อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
23) ยามศึกเรารบ ยามสงบเราปฏิวัติ ( อันนี้ขำขำนะ อย่าเครียด เอิ้ก ๆ ๆ )
24) อ่อนโยน แต่อย่าอ่อนแอ
25) เมียซื้อเงินสด รถซื้อเงินผ่อน ( สำหรับคนจะแต่งงาน อิอิ )
26) ถ้าคนเราไม่ปล่อยวางอดีต ก็จะไม่รู้จักอนาคต
27) มนุษย์ แท้จริงแล้วไม่ได้โตด้วยอาหาร แต่โตได้ด้วยความลำบาก
28) เมียรวยช่วยเราได้ (555)
29) เพื่อนกิน เพื่อนกัน เพื่อนกินไม่ทัน เพื่อนกันเอาไปกิน
30) ชะตาฟ้าลิขิต ... แต่ชีวิตนะของกู
31) รักแท้ต้องแย่งชิง .. รักจริงต้องปล่อยไป
32) ตัดกระดาษต้องใช้กรรไกร . แต่ตัดใจต้องใช้เวลา
33) กาเม มอระนัง ทุกขัง โลเก ...( กามตายด้านเป็นทุกข์ในโลก )
34) รักดีกินถั่ว รักชั่วกินเหล้า .. รักดีรักชั่ว กินถั่วแกล้มกะเหล้าเอิ้ก ๆ ๆ
35) สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วชนะก็คือ " การที่คนดีนิ่งดูดาย "
36) กำขี้ดีกว่ากำตด แต่ถ้ากำขี้สดๆกำตดจะดีกว่ากำขี้ ( นะ )
37) ทำแล้วเสียใจยังดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
38) จุดยืนของเราทุกคนคือ " xxxxx " ( มีใครจะเถียงมั๊ย )
39) กระบี่อยู่ที่ใจ แค่ไม้ไผ่ก้อไร้เทียมทาน
40) เห็นงานเป็นลม เห็นนมสู้ตาย สู้ว้อยยยยยยยยยย
41) ตัวอย่างที่ดี ... มีค่ากว่าคำสอน
42) ดี - ชั่วไม่ได้เป็นกรรมพันธุ์ ...
2) ทำดี ย่อมได้ดี ทำอัปปรีย์ มันจะได้ดีได้ยังไง
3) บางสิ่งเราก็ไม่ควรจำ ... ถ้ามันทำให้ใจเจ็บ แต่บางสิ่งเราก็ควรจะเก็บ .. ถ้ามันเป็นความเจ็บที่น่าจำ ! ( โอ้โห ... คิดได้งัย )
4) อย่ามีหัว .. ไว้ให้แค่ผมขึ้น .( รู้จักใช้ซะบ้างสมองอ่ะ .. เดี๋ยวมันจะฝ่อ )
5) ความดีก็เหมือนกางเกงใน ต้องมีติดตัวไว้ แต่ไม่ต้องเอามาโชว์
6) เจ็บแล้วจำ คือ คน เจ็บแล้วทน คือควาย
7) พอใจเท่าที่มี ... ยินดีเท่าที่ได้
8) สิ่งที่สอนคนเราไม่ได้ ก็คือ " สามัญสำนึก "
9) ไปให้สุด .......... แล้วหยุดแค่คำว่าพอ ........
10) สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร
11) จงซื่อสัตย์กับแฟนตัวเอง แล้วจงครื้นเครงกับแฟนคนอื่น
12) หากเดินตามรอยเท้าคนอื่น ก็ไม่มีวันมีรอยเท้าเป็นของตัวเอง
13) มาสาย กลับก่อน นอนกลางวัน มันส์กลางคืน
14) สุราไม่ได้สร้างวีรบุรุษ ...... แต่วีรบุรุษก็ขาดสุราไม่ได้
15) ความพยามครั้งที่ 100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ
16) ทำคืนนี้ให้ดีที่สุด และอย่าหยุดถ้าไม่ถึงจุดสุดยอด ( อันนี้ขำขำแอบทะลึ่งเล็กน้อย )
17) ทุกนาง ... งามสรรพ ... เมื่อดับเทียน 555)
18) สุขใดไม่เท่าล้วงกระเป๋า แล้วเจอตังค์ 555
19) คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด .. คนฉลาดย่อมเป็นเหยื่อของ .. คนฉลาดที่แกล้งโง่
20) สามีคือเป้าหมาย ผู้ชายคือทางผ่าน คบเด็กคือนิพพาน ขึ้นคานคือตายทั้งเป็น
21) การดื่มเหล้าให้เมาไม่ใช่ยี่ห้อของสุรา .. การศึกษาคือความรู้ที่ได้มาไม่ใช่สถาบัน
22) = อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
23) ยามศึกเรารบ ยามสงบเราปฏิวัติ ( อันนี้ขำขำนะ อย่าเครียด เอิ้ก ๆ ๆ )
24) อ่อนโยน แต่อย่าอ่อนแอ
25) เมียซื้อเงินสด รถซื้อเงินผ่อน ( สำหรับคนจะแต่งงาน อิอิ )
26) ถ้าคนเราไม่ปล่อยวางอดีต ก็จะไม่รู้จักอนาคต
27) มนุษย์ แท้จริงแล้วไม่ได้โตด้วยอาหาร แต่โตได้ด้วยความลำบาก
28) เมียรวยช่วยเราได้ (555)
29) เพื่อนกิน เพื่อนกัน เพื่อนกินไม่ทัน เพื่อนกันเอาไปกิน
30) ชะตาฟ้าลิขิต ... แต่ชีวิตนะของกู
31) รักแท้ต้องแย่งชิง .. รักจริงต้องปล่อยไป
32) ตัดกระดาษต้องใช้กรรไกร . แต่ตัดใจต้องใช้เวลา
33) กาเม มอระนัง ทุกขัง โลเก ...( กามตายด้านเป็นทุกข์ในโลก )
34) รักดีกินถั่ว รักชั่วกินเหล้า .. รักดีรักชั่ว กินถั่วแกล้มกะเหล้าเอิ้ก ๆ ๆ
35) สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วชนะก็คือ " การที่คนดีนิ่งดูดาย "
36) กำขี้ดีกว่ากำตด แต่ถ้ากำขี้สดๆกำตดจะดีกว่ากำขี้ ( นะ )
37) ทำแล้วเสียใจยังดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
38) จุดยืนของเราทุกคนคือ " xxxxx " ( มีใครจะเถียงมั๊ย )
39) กระบี่อยู่ที่ใจ แค่ไม้ไผ่ก้อไร้เทียมทาน
40) เห็นงานเป็นลม เห็นนมสู้ตาย สู้ว้อยยยยยยยยยย
41) ตัวอย่างที่ดี ... มีค่ากว่าคำสอน
42) ดี - ชั่วไม่ได้เป็นกรรมพันธุ์ ...
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
- Basketman
- Verified User
- โพสต์: 1208
- ผู้ติดตาม: 0
ขำขำ คลายเครียด
โพสต์ที่ 126
"ที่รัก.....ผมมีอะไรจะบอก"
ที่รักผมมีอะไรจะบอกคุณ...........
ชายผู้ถูกรถชนขณะกำลังข้ามถนน และสลบไป2วันเต็มๆ ก่อนที่จะฟื้น
รู้สึกตัวขึ้นมา
ลืมตาขึ้นช้าๆ ผ่านม่านมัว ของน้ำตา ภาพแรกที่เห็นคือภรรยาเขา
นั่งเกาะอยู่ข้างๆ เตียง นั่นเอง
น้ำตาแห่งความปิติ ของเธอไหลอาบแก้มที่เขาฟื้นขึ้นมา เขากุมมือเธอไว้แน่น
อบอุ่น มั่นคง
หลังจากพยายามอยู่นาน เขาหลุดคำพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เต็มตื้น
"คุณเป็นคนเดียว จริงนะ ที่อยู่ข้างกายผมเสมอมา"
"ตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย ตอนเรายังเป็นแฟนกันใหม่ๆ ผมสอบตกแล้วตกอีก
ก็มีคุณอยู่เคียงข้างให้กำลังใจผมสู้ใหม่ ไม่ท้อถอย "
เธอบีบมือเขาแน่นขึ้น น้ำตารินเรื่อยๆ ขณะเขาพูดต่อ
"เมื่อผมตระเวนสมัครงานตามบริษัทใหญ่ๆ
แล้วก็ไม่เคยถูกเรียกตัวแม้ซักครั้งเดียว ก็ยังมีคุณอยู่ข้างกาย
คอยตัดโฆษณาสมัครงานให้ผม... "
" กระทั่ง ผ มได้ เริ่มงานในบริษัทเล็กๆ จนได้รับผิดชอบงานใหญ่มาชิ้นนึง
แต่ที่สุดผมทำมันพังเพราะความเลินเล่อ ก็ยังเป็นคุณ
อีกนั่นแหละที่อยู่เคียงคู่ผมตรงนั้น" เขาพูดต่อ
มองจ้องไปในดวงตาที่เอ่อคลอด้วยน้ำตาของเธอ
"แม้จนกระทั่งผมได้งานใหม่หลังจากโดนไล่ออกมาพักใหญ่ๆ
แต่ผมก็ไม่เคยได้เลื่อนตำแหน่ง ความขยันผมไม่เคยมีใครเห็น
ผมต้องอยู่ในตำแหน่งเดิม ตั้งแต่วันเริ่มงาน มาจนถึงวันนี้
ก็ยังมีคุณเคียงข้างผม ไม่เคยห่าง หรือหนีไปไหนตลอดมา
ด้วยน้ำตาเอ่อคลอเต็มนัยน์ตา เธอ ฟังสามีพูดต่อ ไป
"แล้วตอนนี้ผมประสบอุบัติเหตุ ตื่นฟื้นขึ้นมา
ก็มีแต่คุณเพียงคนเดียวอยู่เคียงข้างผมตรงนี้........
ที่รัก...................
ผมคิดว่าผมมีบางอย่างในใจ ที่อยากจะบอกคุณให้รู้เหลือเกิน...
เธอโถมตัวลงบนเตียงกอดเขาไว้ แนบแก้มชุ่มน้ำตา กับแผ่นอกอบอุ่นของเขา
สะอื้นฮักด้วยความตื้นตัน
แล้วเขาก็พูดต่อไปว่า....
."ผมคิดๆ ดู แล้วนะ ...คุณ นี่มัน ตัวซวยจริงๆ
ที่รักผมมีอะไรจะบอกคุณ...........
ชายผู้ถูกรถชนขณะกำลังข้ามถนน และสลบไป2วันเต็มๆ ก่อนที่จะฟื้น
รู้สึกตัวขึ้นมา
ลืมตาขึ้นช้าๆ ผ่านม่านมัว ของน้ำตา ภาพแรกที่เห็นคือภรรยาเขา
นั่งเกาะอยู่ข้างๆ เตียง นั่นเอง
น้ำตาแห่งความปิติ ของเธอไหลอาบแก้มที่เขาฟื้นขึ้นมา เขากุมมือเธอไว้แน่น
อบอุ่น มั่นคง
หลังจากพยายามอยู่นาน เขาหลุดคำพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เต็มตื้น
"คุณเป็นคนเดียว จริงนะ ที่อยู่ข้างกายผมเสมอมา"
"ตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย ตอนเรายังเป็นแฟนกันใหม่ๆ ผมสอบตกแล้วตกอีก
ก็มีคุณอยู่เคียงข้างให้กำลังใจผมสู้ใหม่ ไม่ท้อถอย "
เธอบีบมือเขาแน่นขึ้น น้ำตารินเรื่อยๆ ขณะเขาพูดต่อ
"เมื่อผมตระเวนสมัครงานตามบริษัทใหญ่ๆ
แล้วก็ไม่เคยถูกเรียกตัวแม้ซักครั้งเดียว ก็ยังมีคุณอยู่ข้างกาย
คอยตัดโฆษณาสมัครงานให้ผม... "
" กระทั่ง ผ มได้ เริ่มงานในบริษัทเล็กๆ จนได้รับผิดชอบงานใหญ่มาชิ้นนึง
แต่ที่สุดผมทำมันพังเพราะความเลินเล่อ ก็ยังเป็นคุณ
อีกนั่นแหละที่อยู่เคียงคู่ผมตรงนั้น" เขาพูดต่อ
มองจ้องไปในดวงตาที่เอ่อคลอด้วยน้ำตาของเธอ
"แม้จนกระทั่งผมได้งานใหม่หลังจากโดนไล่ออกมาพักใหญ่ๆ
แต่ผมก็ไม่เคยได้เลื่อนตำแหน่ง ความขยันผมไม่เคยมีใครเห็น
ผมต้องอยู่ในตำแหน่งเดิม ตั้งแต่วันเริ่มงาน มาจนถึงวันนี้
ก็ยังมีคุณเคียงข้างผม ไม่เคยห่าง หรือหนีไปไหนตลอดมา
ด้วยน้ำตาเอ่อคลอเต็มนัยน์ตา เธอ ฟังสามีพูดต่อ ไป
"แล้วตอนนี้ผมประสบอุบัติเหตุ ตื่นฟื้นขึ้นมา
ก็มีแต่คุณเพียงคนเดียวอยู่เคียงข้างผมตรงนี้........
ที่รัก...................
ผมคิดว่าผมมีบางอย่างในใจ ที่อยากจะบอกคุณให้รู้เหลือเกิน...
เธอโถมตัวลงบนเตียงกอดเขาไว้ แนบแก้มชุ่มน้ำตา กับแผ่นอกอบอุ่นของเขา
สะอื้นฮักด้วยความตื้นตัน
แล้วเขาก็พูดต่อไปว่า....
."ผมคิดๆ ดู แล้วนะ ...คุณ นี่มัน ตัวซวยจริงๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 2032
- ผู้ติดตาม: 0
ขำขำ คลายเครียด
โพสต์ที่ 127
พยากรณ์อากาศ
พอถึงฤดูใบไม้ผลิ พวกอินเดียนแดงในเขตป่าสงวนแห่งหนึ่งถามหัวหน้าเผ่าคนใหม่ว่าฤดูหนาวปีนี้จะหนาวจัดหรือเปล่า
หัวหน้าเป็นคนสมัยใหม่ ไม่ได้เรียนเคล็ดวิชาอ่านลมฟ้าอากาศจากบรรพบุรุษ แต่ด้วยความกลัวเสียฟอร์ม 8)
หัวหน้าเผ่าจึงทำทีแหงนมองฟ้าแล้วบอกว่า ปีนี้จะหนาวทารุณ ขอให้คนในเผ่าเตรียมฟืนไว้ก่อไฟผิงให้มากๆ
เมื่อตอบแล้วหัวหน้าเผ่าก็แอบโทร.ไปถามกรมอุตุนิยมวิทยา เจ้าหน้าที่พยากรณ์ตอบว่า ท่าทางจะหนาวจัด หัวหน้าเผ่าจึงย้ำให้คนในเผ่าเร่งหาฟืนเพิ่มขึ้น
สองสามวันต่อมาหัวหน้าเผ่าโทร.ถามกรมอุตุนิยมวิทยาให้แน่ใจอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ตอบว่า ปีนี้ต้องหนาวแน่นอน หัวหน้าจึงสั่งให้คนในเผ่าเก็บเศษไม้ทุกชนิดที่หาได้
พอใกล้ฤดูหนาว หัวหน้าเผ่าโทร.ไปถามที่กรมอุตุนิยมวิทยาอีกครั้ง "แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์นะว่าปีนี้จะหนาวจัด"
"ร้อยเปอร์เซ็นต์" เจ้าหน้าที่ตอบหนักแน่น
หัวหน้าเผ่าถาม "ทำไมถึงมั่นใจขนาดนั้น" :!:
กรมอุตุนิยมวิทยาตอบว่า "เพราะพวกอินเดียนแดงพากันออกหาฟืนไม่หยุดเลยครับ!!!" :lovl:
พอถึงฤดูใบไม้ผลิ พวกอินเดียนแดงในเขตป่าสงวนแห่งหนึ่งถามหัวหน้าเผ่าคนใหม่ว่าฤดูหนาวปีนี้จะหนาวจัดหรือเปล่า
หัวหน้าเป็นคนสมัยใหม่ ไม่ได้เรียนเคล็ดวิชาอ่านลมฟ้าอากาศจากบรรพบุรุษ แต่ด้วยความกลัวเสียฟอร์ม 8)
หัวหน้าเผ่าจึงทำทีแหงนมองฟ้าแล้วบอกว่า ปีนี้จะหนาวทารุณ ขอให้คนในเผ่าเตรียมฟืนไว้ก่อไฟผิงให้มากๆ
เมื่อตอบแล้วหัวหน้าเผ่าก็แอบโทร.ไปถามกรมอุตุนิยมวิทยา เจ้าหน้าที่พยากรณ์ตอบว่า ท่าทางจะหนาวจัด หัวหน้าเผ่าจึงย้ำให้คนในเผ่าเร่งหาฟืนเพิ่มขึ้น
สองสามวันต่อมาหัวหน้าเผ่าโทร.ถามกรมอุตุนิยมวิทยาให้แน่ใจอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ตอบว่า ปีนี้ต้องหนาวแน่นอน หัวหน้าจึงสั่งให้คนในเผ่าเก็บเศษไม้ทุกชนิดที่หาได้
พอใกล้ฤดูหนาว หัวหน้าเผ่าโทร.ไปถามที่กรมอุตุนิยมวิทยาอีกครั้ง "แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์นะว่าปีนี้จะหนาวจัด"
"ร้อยเปอร์เซ็นต์" เจ้าหน้าที่ตอบหนักแน่น
หัวหน้าเผ่าถาม "ทำไมถึงมั่นใจขนาดนั้น" :!:
กรมอุตุนิยมวิทยาตอบว่า "เพราะพวกอินเดียนแดงพากันออกหาฟืนไม่หยุดเลยครับ!!!" :lovl:
- Basketman
- Verified User
- โพสต์: 1208
- ผู้ติดตาม: 0
ขำขำ คลายเครียด
โพสต์ที่ 128
รู้มั้ยผมเป็นใคร ?
ที่ช่องออกบัตรที่นั่งผู้โดยสารเครื่องบินในวันที่มีผู้โดยสารต่อคิวยาวมากเป็นพิเศษเพราะวันต่อไปเป็นวันหยุดราชการหลายวันติดต่อกัน
พนักงานออกบัตรที่นั่งพยายามที่จะทำงานให้เป็นที่ถูกใจแก่ผู้โดยสารทุกคนโดยการพูดจาอย่างสุภาพและทำงานโดยรวดเร็ว
แต่ถึงกระนั้นผู้โดยสารที่อยู่ในคิวแถวก็ยังมีท่าทีกระวนกระวายต่างชะเง้อชะแง้ดูว่าเมื่อไหร่จะถึงคิวของตัวเองสักที
ผู้โดยสารชายคนหนึ่งเดินมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาจากมุมไหนไม่มีใครสังเกต ขอให้พนักงานหญิงคนนั้นออกบัตรที่นั่งให้เขาก่อนโดยด่วน
พนักงานสาวหายใจเข้าปอดอย่างแรง พยายามระงับอารมณ์โกรธแล้วพูดอย่างสุภาพว่า
" คุณขา ใครใครเขาก็ต่อแถวเรียงคิวเป็นระเบียบนะคะ ดิฉันไม่สามารถจัดการให้คุณก่อนหรอกค่ะ กรุณาไปต่อแถวเหมือนคนอื่นๆ ถอะค่ะ "
ชายผู้นั้นหน้าแดงก่ำ พูดเสียงดังด้วยความโกรธว่า
" คุณรู้หรือเปล่าว่าผมเป็นใคร พนักงานสาวหันไปมองหน้าผู้โดยสารคนนั้น หายใจเข้าแรงๆอีกครั้งแล้วกดสวิทช์ไมโครโฟน พูดประกาศออกไปว่า
" ท่านผู้โดยสารโปรดทราบขณะนี้มีชายคนหนึ่งอยู่ที่ช่องออกบัตรที่นั่งผู้โดยสารหมายเลข 13 ไม่ทราบว่า ตนเองเป็นใคร ถ้าท่านผู้โดยสารคนใดสามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้ กรุณาแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ด้วยค่ะ ขอบคุณ "
แล้วต่อด้วยภาษาอังกฤษว่า
"Attention please! There is a man at the ticket counter No.13 who does not know who he is. Anyone who may be able to identify this man is asked to please step forward and identify him. Thankyou"
ชายผู้นั้นรู้สึกอับอายขายหน้าไม่รู้จะทำอย่างไรดีนอกจากด่ากลับไปว่า
"f__k you!!!"
พนักงานสาวก็สวนกลับทันควันด้วยเสียงอันสุภาพว่า
" เรื่องนั้นก็ต้องต่อคิวเหมือนกันค่ะ " :lol:
ที่ช่องออกบัตรที่นั่งผู้โดยสารเครื่องบินในวันที่มีผู้โดยสารต่อคิวยาวมากเป็นพิเศษเพราะวันต่อไปเป็นวันหยุดราชการหลายวันติดต่อกัน
พนักงานออกบัตรที่นั่งพยายามที่จะทำงานให้เป็นที่ถูกใจแก่ผู้โดยสารทุกคนโดยการพูดจาอย่างสุภาพและทำงานโดยรวดเร็ว
แต่ถึงกระนั้นผู้โดยสารที่อยู่ในคิวแถวก็ยังมีท่าทีกระวนกระวายต่างชะเง้อชะแง้ดูว่าเมื่อไหร่จะถึงคิวของตัวเองสักที
ผู้โดยสารชายคนหนึ่งเดินมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาจากมุมไหนไม่มีใครสังเกต ขอให้พนักงานหญิงคนนั้นออกบัตรที่นั่งให้เขาก่อนโดยด่วน
พนักงานสาวหายใจเข้าปอดอย่างแรง พยายามระงับอารมณ์โกรธแล้วพูดอย่างสุภาพว่า
" คุณขา ใครใครเขาก็ต่อแถวเรียงคิวเป็นระเบียบนะคะ ดิฉันไม่สามารถจัดการให้คุณก่อนหรอกค่ะ กรุณาไปต่อแถวเหมือนคนอื่นๆ ถอะค่ะ "
ชายผู้นั้นหน้าแดงก่ำ พูดเสียงดังด้วยความโกรธว่า
" คุณรู้หรือเปล่าว่าผมเป็นใคร พนักงานสาวหันไปมองหน้าผู้โดยสารคนนั้น หายใจเข้าแรงๆอีกครั้งแล้วกดสวิทช์ไมโครโฟน พูดประกาศออกไปว่า
" ท่านผู้โดยสารโปรดทราบขณะนี้มีชายคนหนึ่งอยู่ที่ช่องออกบัตรที่นั่งผู้โดยสารหมายเลข 13 ไม่ทราบว่า ตนเองเป็นใคร ถ้าท่านผู้โดยสารคนใดสามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้ กรุณาแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ด้วยค่ะ ขอบคุณ "
แล้วต่อด้วยภาษาอังกฤษว่า
"Attention please! There is a man at the ticket counter No.13 who does not know who he is. Anyone who may be able to identify this man is asked to please step forward and identify him. Thankyou"
ชายผู้นั้นรู้สึกอับอายขายหน้าไม่รู้จะทำอย่างไรดีนอกจากด่ากลับไปว่า
"f__k you!!!"
พนักงานสาวก็สวนกลับทันควันด้วยเสียงอันสุภาพว่า
" เรื่องนั้นก็ต้องต่อคิวเหมือนกันค่ะ " :lol:
- Basketman
- Verified User
- โพสต์: 1208
- ผู้ติดตาม: 0
ขำขำ คลายเครียด
โพสต์ที่ 129
การตลาดใหม่ Marketing 101
อาจารย์กำลังอธิบายหลักการตลาดให้นักศึกษาฟัง
1. คุณพบสาวสวยสุดเซ็กซี่ในงานปาร์ตี้ คุณเข้าไปหาเธอและพูดว่า "ผมรวย
แต่ง งานกับผมเถอะ!" - นี่คือ Direct Marketing
2. คุณอยู่ที่งานปาร์ตี้กับพรรคพวกของคุณและพบสาวสวยสุดเซ็กซี่คนหนึ่ง เพื่อนของคุณคนหนึ่งเดินเข้าไปหาเธอ ชี้มาที่คุณแล้วพูดว่า "เขารวยมาก แต่งงาน กับเขาเถอะ!" - นี่คือการโฆษณา
3. คุณพบสาวสวยสุดเซ็กซี่ในงานปาร์ตี้ คุณเข้าไปหาเธอและขอเบอร์โทร วันรุ่งขึ้นคุณจึงโทรไปหาและพูดว่า "สวัสดีครับ ผมรวยมาก แต่งงานกันผมเถอะ" - นี่ คือ Telemarketing
4. คุณอยู่ที่งานปาร์ตี้และพบสาวสวยสุดเซ็กซี่คนหนึ่ง คุณยืนขึ้น จัดเนคไท ให้เรียบร้อย เดินเข้าไปหาเธอเลี้ยงเครื่องดื่มเธอคุณเปิดประตู (รถยนต์) ให้ เธอ ถือกระเป๋าให้เธอจนเธอนั่งเรียบร้อย ช่วยขับรถให้เธอ แล้วพูดว่า "ผมรวย คุณ จะแต่งงานกับผมไหม?" -นี่คือพีอาร์
5. คุณอยู่ที่งานปาร์ตี้และพบสาวสวยสุดเซ็กซี่คนหนึ่ง เธอเดินเข้ามาหาคุณ และพูดว่า "คุณรวยมาก! แต่งงานกับฉันไหม?" - นี่คือ Brand Recognition
6. คุณพบสาวสวยสุดเซ็กซี่ในงานปาร์ตี้ คุณเข้าไปหาเธอและพูดว่า "ผมรวย แต่งงานกับผมเถอะ!" เธอตบหน้าคุณอย่างแรง - นี่คือ Customer Feedback
7. คุณพบสาวสวยสุดเซ็กซี่ในงานปาร์ตี้ คุณเข้าไปหาเธอและพูดว่า ผมรวยมากแต่งงานกับผมเถอะ!" แล้วเธอก็แนะนำให้คุณรู้จักกับสามีของเธอ -นี่คือช่องว่าง ระหว่าง demand และ supply
8. คุณพบสาวสวยสุดเซ็กซี่ในงานปาร์ตี้ คุณเข้าไปหาเธอและก่อนที่จะได้พูด อะไรก็มีผู้ชายอีกคนเดินเข้ามาและพูดกับเธอว่า "ผมรวย คุณจะแต่งงานกับผมไหม?"แล้วเธอก็ไปกับผู้ชายคนนั้น - นี่คือการแข่งขันแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาด
9. คุณพบสาวสวยสุดเซ็กซี่ในงานปาร์ตี้ คุณเข้าไปหาเธอและก่อนที่จะได้พูด ว่า "ผมรวย แต่งงานกับผมเถอะ!" ภรรยาของคุณก็มาถึง - นี่คือข้อจำกัดในการเข้า สู่ตลาดใหม่
อาจารย์กำลังอธิบายหลักการตลาดให้นักศึกษาฟัง
1. คุณพบสาวสวยสุดเซ็กซี่ในงานปาร์ตี้ คุณเข้าไปหาเธอและพูดว่า "ผมรวย
แต่ง งานกับผมเถอะ!" - นี่คือ Direct Marketing
2. คุณอยู่ที่งานปาร์ตี้กับพรรคพวกของคุณและพบสาวสวยสุดเซ็กซี่คนหนึ่ง เพื่อนของคุณคนหนึ่งเดินเข้าไปหาเธอ ชี้มาที่คุณแล้วพูดว่า "เขารวยมาก แต่งงาน กับเขาเถอะ!" - นี่คือการโฆษณา
3. คุณพบสาวสวยสุดเซ็กซี่ในงานปาร์ตี้ คุณเข้าไปหาเธอและขอเบอร์โทร วันรุ่งขึ้นคุณจึงโทรไปหาและพูดว่า "สวัสดีครับ ผมรวยมาก แต่งงานกันผมเถอะ" - นี่ คือ Telemarketing
4. คุณอยู่ที่งานปาร์ตี้และพบสาวสวยสุดเซ็กซี่คนหนึ่ง คุณยืนขึ้น จัดเนคไท ให้เรียบร้อย เดินเข้าไปหาเธอเลี้ยงเครื่องดื่มเธอคุณเปิดประตู (รถยนต์) ให้ เธอ ถือกระเป๋าให้เธอจนเธอนั่งเรียบร้อย ช่วยขับรถให้เธอ แล้วพูดว่า "ผมรวย คุณ จะแต่งงานกับผมไหม?" -นี่คือพีอาร์
5. คุณอยู่ที่งานปาร์ตี้และพบสาวสวยสุดเซ็กซี่คนหนึ่ง เธอเดินเข้ามาหาคุณ และพูดว่า "คุณรวยมาก! แต่งงานกับฉันไหม?" - นี่คือ Brand Recognition
6. คุณพบสาวสวยสุดเซ็กซี่ในงานปาร์ตี้ คุณเข้าไปหาเธอและพูดว่า "ผมรวย แต่งงานกับผมเถอะ!" เธอตบหน้าคุณอย่างแรง - นี่คือ Customer Feedback
7. คุณพบสาวสวยสุดเซ็กซี่ในงานปาร์ตี้ คุณเข้าไปหาเธอและพูดว่า ผมรวยมากแต่งงานกับผมเถอะ!" แล้วเธอก็แนะนำให้คุณรู้จักกับสามีของเธอ -นี่คือช่องว่าง ระหว่าง demand และ supply
8. คุณพบสาวสวยสุดเซ็กซี่ในงานปาร์ตี้ คุณเข้าไปหาเธอและก่อนที่จะได้พูด อะไรก็มีผู้ชายอีกคนเดินเข้ามาและพูดกับเธอว่า "ผมรวย คุณจะแต่งงานกับผมไหม?"แล้วเธอก็ไปกับผู้ชายคนนั้น - นี่คือการแข่งขันแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาด
9. คุณพบสาวสวยสุดเซ็กซี่ในงานปาร์ตี้ คุณเข้าไปหาเธอและก่อนที่จะได้พูด ว่า "ผมรวย แต่งงานกับผมเถอะ!" ภรรยาของคุณก็มาถึง - นี่คือข้อจำกัดในการเข้า สู่ตลาดใหม่
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
ขำขำ คลายเครียด
โพสต์ที่ 130
สวัสดีค่ะ อาหมอที่เคารพ
หนูติดตามอ่านคอลัมภ์ของอาหมอมานานแล้วค่ะ จากถุงกล้วยแขกที่แม่หนูขาย
หนูชอบอ่านเรื่องความทุกข์ ความเจ็บปวดของชาวบ้านค่ะ นึกไม่ถึงว่าวันนี้มันย้อนมาหาหนูเข้าเต็มเปา คราวนี้หัวเราะไม่ออกค่ะ อาหมอคะ หนูอายุ 17 ขวบแล้ว เมื่อต้นปีที่ผ่านมา หนูได้รู้จักกับผู้ชายที่โรงเรียน เขาชอบมองหนูค่ะ แต่หนูพยายามไม่สนใจเขา เพราะเราต้องตั้งใจเล่าเรียนจริงไหมค่ะ
เขามาชวนหนูคุยหนูก็พยายามเลี่ยง พอเขาชวนกินข้าวหนูก็กินค่ะ เพราะเขาออกเงินให้นี่คะ เราคบกันอยู่นานค่ะ เกือบ 2 วัน เขาก็ชวนหนูไปดูหนังค่ะ หนูรีบปฏิเสธค่ะ
แต่พอเขาบอกว่าเขาเลี้ยงเองหนูก็โอเค ในโรงหนังเขาพยายามจับมือจับไม้หนู หนูไม่ยอม เพราะข้าวโพดคั่ว มันจะหก หนูเสียดายค่ะ พอดูหนังเสร็จเราก็นั่งรถเมล์กลับบ้าน
แต่เขากลับชวนหนูลงกลางทาง หนูเหลือบมองเห็นป้ายด้านหน้าทางเข้า เขียนว่าโรงแรมก็ทั้งโกรธทั้งอายคนเขาค่ะ หนูต่อว่าเขา แล้วรีบวิ่งหนีเข้าไปข้างในห้องไปนั่งอยู่บนเตียง
แล้วเขาเข้ามากอดจูบหนู
หนูก็ผลักเขาออก แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้ามานุ่งผ้าเช็ดตัว หนูกลัวเสื้อยับค่ะ
อาหมอคะ หนูสู้แรงเขาไม่ไหวจริงๆ ค่ะ หนูตกเป็นของเขา ก็ผู้หญิงตัวเล็กๆ
จะเอาแรงที่ไหนไปสู้จริงไหมคะ หนูเลยสั่งลิโพมาดื่ม 2 ขวด ก็พอมีแรงหิ้วเขาออกจากห้องกลับบ้านได้ค่ะ หลังจากวันนั้นเขาก็พยายามชวนหนูอีก
หนูต้องให้เขารับปากว่า เขาต้องเป็นคนจ่ายค่าห้อง กับค่าลิ โพ! หนูถึงตกลงค่ะ
อาหมอว่าหนูเสียเปรียบไหมคะ เพราะหนูต้องออกค่ารถเมล์เองอะ ค่ะ
...หลังจากนั้น เราแอบได้เสียกันเรื่อยมา..
จนเริ่มมีปัญหา ค่ะ
หนูกลุ้มใจมาก อยากให้อาหมอช่วยรีบตอบด้วยคะ
ถาม :oops:
อาหมอคะตอนนี้ประจำเดือนหนูไม่มาเกือบ 6 เดือนแล้ว ค่ะ
ท้องหนูก็โย้ออกมามาก จนใส่กางเกงไม่ได้แล้ว อาหมอว่าหนูจะท้อง ไหมคะ
ตอบ
อาหมอไม่แน่ใจนะคะต้องลองไปตรวจดูก่อน
ถาม :oops:
ถ้าหนูท้องขึ้นมาจริงๆ จะทำไงคะหนูควรจะออกค่าทำคลอด หรือให้ เขา ออกคะ
หนูกลุ้มมาก เพราะตอนแรกเขาก็ออกค่าโรงแรมแล้ว
ตอบ
หนูน่าจะเป็นคนออกเงินนะคะ
เพราะเขาอาจท้วงได้ว่า...หนูไม่ต้องจ่ายค่าผ้าอนามัยมาตั้งหลาย เดือนแล้วนี่
ถาม :oops:
อาหมอว่าเขาจะเบื่อหนูไหมคะ พักหลังเขาไม่สั่งลิโพให้หนูดื่ม เลย
เขาชอบสั่งแต่แรงเยอร์ค่ะทั้งที่รู้ว่าหนูชอบลิ โพ
ตอบ
หนูอย่าไปคิดมากเลยค่ะ เพราะอาหมอเองก็หันมาดื่มแรงเยอร์เหมือน กัน
เพราะใต้ฝามีรางวัลด้วยค่ะ
ถาม :oops:
อาหมอคะทำไมโรงแรมนี้แอร์ถึงไม่ค่อยเย็นคะ แล้วข้าวต้มก็ใส่ กุ้ง แค่ 2-3 ตัวเอง ค่ะ
อาหมอว่าหนูควรจะฟ้องผู้จัดการมั๊ยคะ
สุดท้ายนี้ขอให้คุณอาหมอมีความสุขนะคะ ช่วยรีบตอบหนูด้วยเพราะ หนูกลุ้มมาก
และแม่หนูก็จะเลิกใช้ถุงกระดาษใส่กล้วยแขกแล้ว ด้วย
ตอบ
อาหมอว่าหนูน่าจะเปลี่ยนโรงแรมดีกว่าค่ะ ลองมาที่แถวรัชดาฯ น่า จะดีกว่า
ที่นี่แอร์เย็นเหมือนห้องดับจิต อาหาร ก็อร่อย มีกระจกโดยรอบ แม้กระทั่งในส้วม
แถมมีวิดีโอให้ดูทั้งคืน
หนูติดตามอ่านคอลัมภ์ของอาหมอมานานแล้วค่ะ จากถุงกล้วยแขกที่แม่หนูขาย
หนูชอบอ่านเรื่องความทุกข์ ความเจ็บปวดของชาวบ้านค่ะ นึกไม่ถึงว่าวันนี้มันย้อนมาหาหนูเข้าเต็มเปา คราวนี้หัวเราะไม่ออกค่ะ อาหมอคะ หนูอายุ 17 ขวบแล้ว เมื่อต้นปีที่ผ่านมา หนูได้รู้จักกับผู้ชายที่โรงเรียน เขาชอบมองหนูค่ะ แต่หนูพยายามไม่สนใจเขา เพราะเราต้องตั้งใจเล่าเรียนจริงไหมค่ะ
เขามาชวนหนูคุยหนูก็พยายามเลี่ยง พอเขาชวนกินข้าวหนูก็กินค่ะ เพราะเขาออกเงินให้นี่คะ เราคบกันอยู่นานค่ะ เกือบ 2 วัน เขาก็ชวนหนูไปดูหนังค่ะ หนูรีบปฏิเสธค่ะ
แต่พอเขาบอกว่าเขาเลี้ยงเองหนูก็โอเค ในโรงหนังเขาพยายามจับมือจับไม้หนู หนูไม่ยอม เพราะข้าวโพดคั่ว มันจะหก หนูเสียดายค่ะ พอดูหนังเสร็จเราก็นั่งรถเมล์กลับบ้าน
แต่เขากลับชวนหนูลงกลางทาง หนูเหลือบมองเห็นป้ายด้านหน้าทางเข้า เขียนว่าโรงแรมก็ทั้งโกรธทั้งอายคนเขาค่ะ หนูต่อว่าเขา แล้วรีบวิ่งหนีเข้าไปข้างในห้องไปนั่งอยู่บนเตียง
แล้วเขาเข้ามากอดจูบหนู
หนูก็ผลักเขาออก แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้ามานุ่งผ้าเช็ดตัว หนูกลัวเสื้อยับค่ะ
อาหมอคะ หนูสู้แรงเขาไม่ไหวจริงๆ ค่ะ หนูตกเป็นของเขา ก็ผู้หญิงตัวเล็กๆ
จะเอาแรงที่ไหนไปสู้จริงไหมคะ หนูเลยสั่งลิโพมาดื่ม 2 ขวด ก็พอมีแรงหิ้วเขาออกจากห้องกลับบ้านได้ค่ะ หลังจากวันนั้นเขาก็พยายามชวนหนูอีก
หนูต้องให้เขารับปากว่า เขาต้องเป็นคนจ่ายค่าห้อง กับค่าลิ โพ! หนูถึงตกลงค่ะ
อาหมอว่าหนูเสียเปรียบไหมคะ เพราะหนูต้องออกค่ารถเมล์เองอะ ค่ะ
...หลังจากนั้น เราแอบได้เสียกันเรื่อยมา..
จนเริ่มมีปัญหา ค่ะ
หนูกลุ้มใจมาก อยากให้อาหมอช่วยรีบตอบด้วยคะ
ถาม :oops:
อาหมอคะตอนนี้ประจำเดือนหนูไม่มาเกือบ 6 เดือนแล้ว ค่ะ
ท้องหนูก็โย้ออกมามาก จนใส่กางเกงไม่ได้แล้ว อาหมอว่าหนูจะท้อง ไหมคะ
ตอบ
อาหมอไม่แน่ใจนะคะต้องลองไปตรวจดูก่อน
ถาม :oops:
ถ้าหนูท้องขึ้นมาจริงๆ จะทำไงคะหนูควรจะออกค่าทำคลอด หรือให้ เขา ออกคะ
หนูกลุ้มมาก เพราะตอนแรกเขาก็ออกค่าโรงแรมแล้ว
ตอบ
หนูน่าจะเป็นคนออกเงินนะคะ
เพราะเขาอาจท้วงได้ว่า...หนูไม่ต้องจ่ายค่าผ้าอนามัยมาตั้งหลาย เดือนแล้วนี่
ถาม :oops:
อาหมอว่าเขาจะเบื่อหนูไหมคะ พักหลังเขาไม่สั่งลิโพให้หนูดื่ม เลย
เขาชอบสั่งแต่แรงเยอร์ค่ะทั้งที่รู้ว่าหนูชอบลิ โพ
ตอบ
หนูอย่าไปคิดมากเลยค่ะ เพราะอาหมอเองก็หันมาดื่มแรงเยอร์เหมือน กัน
เพราะใต้ฝามีรางวัลด้วยค่ะ
ถาม :oops:
อาหมอคะทำไมโรงแรมนี้แอร์ถึงไม่ค่อยเย็นคะ แล้วข้าวต้มก็ใส่ กุ้ง แค่ 2-3 ตัวเอง ค่ะ
อาหมอว่าหนูควรจะฟ้องผู้จัดการมั๊ยคะ
สุดท้ายนี้ขอให้คุณอาหมอมีความสุขนะคะ ช่วยรีบตอบหนูด้วยเพราะ หนูกลุ้มมาก
และแม่หนูก็จะเลิกใช้ถุงกระดาษใส่กล้วยแขกแล้ว ด้วย
ตอบ
อาหมอว่าหนูน่าจะเปลี่ยนโรงแรมดีกว่าค่ะ ลองมาที่แถวรัชดาฯ น่า จะดีกว่า
ที่นี่แอร์เย็นเหมือนห้องดับจิต อาหาร ก็อร่อย มีกระจกโดยรอบ แม้กระทั่งในส้วม
แถมมีวิดีโอให้ดูทั้งคืน
-
- Verified User
- โพสต์: 1296
- ผู้ติดตาม: 1
ขำขำ คลายเครียด
โพสต์ที่ 136
เด็กชายเด็กหญิงสองคนเป็นเพื่อนเล่นที่สนิทกัน
วันหนึ่งเด็กชายพูดกับเด็กหญิง
เด็กชาย นี่ตัว โตขึ้นตัวต้องแต่งงานกับเค้านะ
เด็กหญิง ไม่ได้หรอก
เด็กชาย ทำไม่ล่ะ ตัวไม่ชอบเค้าหรือ
เด็กหญิง ไม่ใช่หรอก เค้าชอบตัวมาก แต่ครอบครัวเค้าต้องแต่งงานกับญาติทั้งนั้น
เช่น ตาเค้าก็แต่งงานกับยาย ปู่เค้าก็แต่งงานกับย่า ลุงเค้าก็แต่งงานกับป้า
ดังนั้นเค้าก็ต้องแต่งงานกับญาติเค้าเท่านั้น
วันหนึ่งเด็กชายพูดกับเด็กหญิง
เด็กชาย นี่ตัว โตขึ้นตัวต้องแต่งงานกับเค้านะ
เด็กหญิง ไม่ได้หรอก
เด็กชาย ทำไม่ล่ะ ตัวไม่ชอบเค้าหรือ
เด็กหญิง ไม่ใช่หรอก เค้าชอบตัวมาก แต่ครอบครัวเค้าต้องแต่งงานกับญาติทั้งนั้น
เช่น ตาเค้าก็แต่งงานกับยาย ปู่เค้าก็แต่งงานกับย่า ลุงเค้าก็แต่งงานกับป้า
ดังนั้นเค้าก็ต้องแต่งงานกับญาติเค้าเท่านั้น
- Basketman
- Verified User
- โพสต์: 1208
- ผู้ติดตาม: 0
ขำขำ คลายเครียด
โพสต์ที่ 138
วันเสาร์ว่างๆขอจัดชุดยาวๆให้นะครับ .. ไว้อ่านกันเพลินๆ
เรื่องแรกมา....
ขนมปัง หรือ ไก่ทอด
หลังจากเฝ้าดูยอดขายที่ตกต่ำลงมา 3 เดือนของไก่ทอดเคนตั๊กกี้
ผู้พันแซนเดอร์ส(คนคิดสูตร KFC)ได้โทรศัพท์หาพระสันตปาปาเพื่อขอความช่วยเหลือ
พระสันตปาปากล่าว
"พ่อจะช่วยอะไรลูกได้บ้าง"
ผู้พันตอบ"ผมอยากให้คุณพ่อช่วยเปลี่ยนบทสวดประจำวันจาก"ขอบคุณพระเจ้าที่ประทานขนมปังให้แก่เรา" เป็น "ขอบคุณพระเจ้าที่ประทานไก่ทอดให้แก่เรา ถ้าหากคุณพ่อทำได้นะ ผมจะบริจาคให้วาติกัน 10 ล้านดอลลาร์"
พระสันตปาปาตอบ
"พ่อเสียใจนะลูกนั่นเป็นบทสวดของพระผู้เป็นเจ้า พ่อเปลี่ยนแปลงไม่ได้หรอก"
หลังจากนั้นอีกเดือนหนึ่ง ยอดขาดยังคง ตกต่ำลงกว่าเก่าอีก ผู้พันเริ่มเครียดจึงโทรหาพระสันตปาปาอีกครั้ง
"ฟังนะครับคุณพ่อ ผมต้องการความช่วยเหลือของท่านมาก ผมจะบริจาค 50 ล้านดอลลาร์ถ้าท่านเปลี่ยน
คาถาในบทสวดจาก "ขนมปัง" เป็น "ไก่ทอดเท่านั้นเอง"
พระสันตปาปาตอบกลับมาว่า
"ลูกเริ่มทำให้พ่อลังเลแล้วนะ ผู้พันแซนเดอร์ส โบสถ์สามารถใช้เงินที่ลูกบริจาค ทำประโยชน์แก่สาธารณชนได้มากมาย แต่พ่อคงต้องขอยืนกราน นั่นเป็นบทสวดของพระผู้เป็นเจ้า พ่อคงเปลี่ยนแปลงไม่ได้"
ผู้พันแซนเดอร์สต้องผิดหวังกลับไปอีกครั้ง แต่เมื่อสองเดือนผ่านไปพร้อมกับยอดขายที่ย่ำแย่ถึงขีดสุด
"คุณพ่อครับ นี่เป็นคำขอร้องครั้งสุดท้าย ถ้าพ่อเปลี่ยนคำในบทสวดจาก"ขนมปัง" เป็น "ไก่ทอด" ผมจะ บริจาคให้สำนักวาติกัน 100 ล้านดอลลาร์
พระสันตปาปาตอบ
"ขอเวลาพ่อคิดก่อนนะ แล้วพ่อจะติดต่อกลับไป"
วันต่อมา พระสันตปาปาเรียก ประชุมบิชอปทั้งหมดในคณะและเริ่มแถลงว่า
"พ่อมีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายนะ ข่าวดีคือ KFC กำลังจะบริจาคเงินให้สำนักวาติกันของเรา 100 ล้านดอลลาร์"
เหล่าบิชอปต่างพากันปลาบปลื้มกับข่าวดีนี้ บิชอปท่านหนึ่งจึงถามถึงข่าวร้ายบ้าง
พระสันตปาปาตอบ
"ข่าวร้ายก็คือ เราคงต้องยกเลิกสัญญากับบริษัทขนมปังฟาร์มเฮาส์แล้วน่ะ" :shock: :shock: :shock:
ห้องน้ำชาย vs ห้องน้ำหญิง
วันหนึ่ง สมชาย เกิดปวดท้องขนาดหนัก
หลังจากวิ่งหาห้องน้ำสาธารณะอยู่พักใหญ่
ในที่สุดเขาก็เจอเป้าหมายที่ต้องการจนได้
แต่โชคไม่เข้าข้างเขาแม้แต่น้อย
หลังจากที่สมชายตรงดิ่งเข้าไปในห้องน้ำชายและสำรวจทุกห้องที่มีอยู่
ปรากฏว่าห้องทั้งหมด ล้วนแต่กำลังมีคนใช้ทั้งสิ้น
หลังจากที่เขาเดินกระวนกระวายอยู่หลายนาที
มีหญิงสาวคนหนึ่งสังเกตเห็นเข้า
เดาได้ไม่ยากว่าสมชายกำลังประสบกับปัญหาทุกข์หนักเช่นใด
หญิงสาวจึงตรงเข้ามาหาพร้อมกับพูดด้วยความเห็นใจว่า
คุณคะ ๆ ห้องน้ำหญิงว่างอยู่ค่ะ
แต่ว่าอ่า สมชายยังมีอาการลังเล ชั้นเห็นใจค่ะ
ชั้นยินดีจะเฝ้าเอาไว้ให้ ถ้าคุณจะสัญญา
กับชั้น 3 ข้อ หญิงสาวยื่นเงื่อนไข
ครับ ๆ ๆ ๆผมตกลง สัญญาอะไรบ้างครับ
สมชายรับปากด้วยความเต็มใจยิ่ง
เนื่องจากอะไรต่อมิอะไรในท้องกำลังจะระเบิดออกมา
ให้ขายขี้หน้าอยู่มะรอมมะร่อ ข้อแรก
คุณต้องรีบใช้ห้องน้ำให้เร็วที่สุดในระหว่างที่ชั้นเฝ้าให้
เพราะว่าชั้นอยู่เฝ้าได้ไม่นาน
เดี๋ยวอาจจะมีสุภาพสตรีที่ต้องการใช้ห้องน้ำมาที่นี่
แล้วเธออาจจะตกใจได้ถ้าเจอคุณอยู่ในนั้น
หญิงสาวเอ่ยขอคำสัญญาข้อแรก
อูยยยเร็ว ๆ ครับ รีบบอกข้อ 2 ข้อ 3 มาด่วนเลย ข้อ
2 คุณต้องใช้ห้องน้ำหญิงอย่างสะอาด
ห้ามทำให้เลอะเทอะสกปรกเด็ดขาด พวกผู้ชายน่ะ
ชอบใช้ห้องน้ำสกปรก
ข้อ 3 มาเลยครับ เร็ว ๆ ๆ ๆ
ข้อสุดท้ายนี้สำคัญที่สุด คุณต้องสัญญาว่า
ห้ามกดปุ่มใด ๆ ทั้งสิ้นในห้องน้ำหญิง นอกเหนือจากปุ่มชักโครก
ซึ่งข้อสุดท้ายนี้ สมชายแม้ค่อนข้างจะงง ๆ ว่า
มันจะมีปุ่มอะไรในห้องน้ำหญิง
แต่เขาก็รับคำเนื่องจากปวดท้องจนทนไม่ไหวแล้ว
โอเคครับ โอเค. ว่าแล้วสมชายก็วิ่งปร๊าดเข้าไปในห้องน้ำ
ปิดประตูปัง หลังจากนั้นเสียงปู้ดป้าดก็ตามมาสนั่นหวั่นไหว
หลังจากกิจธุระอันหนักหน่วงเรียบร้อย
สมชายจึงมีโอกาสได้เหลียวมองพิจารณาบรรยากาศในห้องเล็ก ๆ
โดยรอบ มันก็ไม่ต่างกับห้องน้ำชายสักเท่าไรนะสมชายนึกในใจ
แต่แล้ว เขาก็อดทำหน้าสงสัยไม่ได้ เมื่อเขาพบกับปุ่มแปลกประหลาดจำนวน
3 ปุ่ม สีเขียว สีฟ้าและสีแดงอยู่ที่ผนังห้องน้ำ
มันปรากฏอักษรย่อที่ปุ่ม ติดว่า น.อ. ที่ปุ่มสีเขียว พ.ล.
ที่ปุ่มสีฟ้า และก็ ด.ผ.อ.น.ม. ที่ปุ่มสีแดง
เอที่ห้องน้ำชายมันไม่ยักมีปุ่มพวกนี้นี่หว่า
สมชายคิด ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
อดไม่ได้ที่ต้องล่วงละเมิดคำสัญญาลองกดปุ่มแรกที่เขียนว่า
น.อ. ดู ทันใดนั้น สิ่งน่าประหลาดใจก็เกิดขึ้น
ปรากฏมีสายน้ำอุ่นพุ่งขึ้นฉีดล้างทำความสะอาด
ก้นของเขาอย่างนุ่มนวล แผ่วเบา และอุ่นสบาย โอ้โห น.อ.
ย่อมาจากน้ำอุ่นนี่เอง ทำไมห้องน้ำขายไม่มีอย่างนี้บ้างวะเนี่ย
สมชายนึกอิจฉาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับห้องน้ำหญิง
เสียไม่ได้ไหน ๆ ลองอีกปุ่มดูซิ หลังจากกดปุ่มที่เขียนว่า
พ.ล. ทันใดนั้น ก็มีสายลมพัดพุ่งตรงใส่ก้นของเขา
เป่าให้แห้งอย่างนุ่มนวล แผ่วเบาและอุ่นสบายเช่นเคย
โอ้โห แจ๋วจริงๆ เลย พ.ล.แปลว่าพัดลมนั่นเอง
ทำไมห้องน้ำชายไม่มีอย่างนี้บ้างวะเนี่ย สุดยอด ๆ
สมชายอดรำพึงขึ้นมาไม่ได้ และแล้ว แน่นอนว่า
สมชายอดไม่ได้ที่จะลองกดปุ่มที่มีอักษรย่อยาวที่สุดว่า
ด.ผ.อ.น.ม. ว่าแล้วเขาก็เอื้อมมือไปกดปุ่มสุดท้าย
พลางนึกว่าปุ่มนี้น่าจะเป็นทีเด็ดสุดยอดแน่ ๆ ทันใดนั้น
เกิดเหตุการณ์รวดเร็วราวกับสายฟ้าแล่บขึ้นมา
สมชายมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ฟื้นขึ้นที่โรงพยาบาล
ทันทีที่ลืมตาขึ้น เขาก็ถามพยาบาลที่อยู่ตรงหน้าทันทีว่า
นี่มันที่ไหนกัน ผมอยู่ที่ไหนเนี่ย เกิดอะไรขึ้น
ผมจำได้ว่าผมเข้าไปใช้บริการที่ห้องน้ำหญิงมา
แล้วผมมาอยู่นี่ได้ไง
คุณอยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ
ที่คุณต้องมาอยู่ที่นี่ก็เพราะว่าคุณไปกดปุ่มสีแดงเข้านะซิ
เมื่อเห็นสมชายทำหน้างง พยาบาลสาวนางนั้นจึงเฉลยว่า
ก็ปุ่มสีแดงที่มีอักษรย่อว่า ด.ผ.อ.น.ม.
มันแปลว่า ดึงผ้าอนามัย ไง"
อ้อแล้วเสียใจด้วยนะคะ คุณหมอต่อให้คุณไม่สำเร็จค่ะ
เครื่องมันจัดการดึงแล้วยัดลงชักโครกไปแล้วล่ะค่ะ
เรื่องแรกมา....
ขนมปัง หรือ ไก่ทอด
หลังจากเฝ้าดูยอดขายที่ตกต่ำลงมา 3 เดือนของไก่ทอดเคนตั๊กกี้
ผู้พันแซนเดอร์ส(คนคิดสูตร KFC)ได้โทรศัพท์หาพระสันตปาปาเพื่อขอความช่วยเหลือ
พระสันตปาปากล่าว
"พ่อจะช่วยอะไรลูกได้บ้าง"
ผู้พันตอบ"ผมอยากให้คุณพ่อช่วยเปลี่ยนบทสวดประจำวันจาก"ขอบคุณพระเจ้าที่ประทานขนมปังให้แก่เรา" เป็น "ขอบคุณพระเจ้าที่ประทานไก่ทอดให้แก่เรา ถ้าหากคุณพ่อทำได้นะ ผมจะบริจาคให้วาติกัน 10 ล้านดอลลาร์"
พระสันตปาปาตอบ
"พ่อเสียใจนะลูกนั่นเป็นบทสวดของพระผู้เป็นเจ้า พ่อเปลี่ยนแปลงไม่ได้หรอก"
หลังจากนั้นอีกเดือนหนึ่ง ยอดขาดยังคง ตกต่ำลงกว่าเก่าอีก ผู้พันเริ่มเครียดจึงโทรหาพระสันตปาปาอีกครั้ง
"ฟังนะครับคุณพ่อ ผมต้องการความช่วยเหลือของท่านมาก ผมจะบริจาค 50 ล้านดอลลาร์ถ้าท่านเปลี่ยน
คาถาในบทสวดจาก "ขนมปัง" เป็น "ไก่ทอดเท่านั้นเอง"
พระสันตปาปาตอบกลับมาว่า
"ลูกเริ่มทำให้พ่อลังเลแล้วนะ ผู้พันแซนเดอร์ส โบสถ์สามารถใช้เงินที่ลูกบริจาค ทำประโยชน์แก่สาธารณชนได้มากมาย แต่พ่อคงต้องขอยืนกราน นั่นเป็นบทสวดของพระผู้เป็นเจ้า พ่อคงเปลี่ยนแปลงไม่ได้"
ผู้พันแซนเดอร์สต้องผิดหวังกลับไปอีกครั้ง แต่เมื่อสองเดือนผ่านไปพร้อมกับยอดขายที่ย่ำแย่ถึงขีดสุด
"คุณพ่อครับ นี่เป็นคำขอร้องครั้งสุดท้าย ถ้าพ่อเปลี่ยนคำในบทสวดจาก"ขนมปัง" เป็น "ไก่ทอด" ผมจะ บริจาคให้สำนักวาติกัน 100 ล้านดอลลาร์
พระสันตปาปาตอบ
"ขอเวลาพ่อคิดก่อนนะ แล้วพ่อจะติดต่อกลับไป"
วันต่อมา พระสันตปาปาเรียก ประชุมบิชอปทั้งหมดในคณะและเริ่มแถลงว่า
"พ่อมีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายนะ ข่าวดีคือ KFC กำลังจะบริจาคเงินให้สำนักวาติกันของเรา 100 ล้านดอลลาร์"
เหล่าบิชอปต่างพากันปลาบปลื้มกับข่าวดีนี้ บิชอปท่านหนึ่งจึงถามถึงข่าวร้ายบ้าง
พระสันตปาปาตอบ
"ข่าวร้ายก็คือ เราคงต้องยกเลิกสัญญากับบริษัทขนมปังฟาร์มเฮาส์แล้วน่ะ" :shock: :shock: :shock:
ห้องน้ำชาย vs ห้องน้ำหญิง
วันหนึ่ง สมชาย เกิดปวดท้องขนาดหนัก
หลังจากวิ่งหาห้องน้ำสาธารณะอยู่พักใหญ่
ในที่สุดเขาก็เจอเป้าหมายที่ต้องการจนได้
แต่โชคไม่เข้าข้างเขาแม้แต่น้อย
หลังจากที่สมชายตรงดิ่งเข้าไปในห้องน้ำชายและสำรวจทุกห้องที่มีอยู่
ปรากฏว่าห้องทั้งหมด ล้วนแต่กำลังมีคนใช้ทั้งสิ้น
หลังจากที่เขาเดินกระวนกระวายอยู่หลายนาที
มีหญิงสาวคนหนึ่งสังเกตเห็นเข้า
เดาได้ไม่ยากว่าสมชายกำลังประสบกับปัญหาทุกข์หนักเช่นใด
หญิงสาวจึงตรงเข้ามาหาพร้อมกับพูดด้วยความเห็นใจว่า
คุณคะ ๆ ห้องน้ำหญิงว่างอยู่ค่ะ
แต่ว่าอ่า สมชายยังมีอาการลังเล ชั้นเห็นใจค่ะ
ชั้นยินดีจะเฝ้าเอาไว้ให้ ถ้าคุณจะสัญญา
กับชั้น 3 ข้อ หญิงสาวยื่นเงื่อนไข
ครับ ๆ ๆ ๆผมตกลง สัญญาอะไรบ้างครับ
สมชายรับปากด้วยความเต็มใจยิ่ง
เนื่องจากอะไรต่อมิอะไรในท้องกำลังจะระเบิดออกมา
ให้ขายขี้หน้าอยู่มะรอมมะร่อ ข้อแรก
คุณต้องรีบใช้ห้องน้ำให้เร็วที่สุดในระหว่างที่ชั้นเฝ้าให้
เพราะว่าชั้นอยู่เฝ้าได้ไม่นาน
เดี๋ยวอาจจะมีสุภาพสตรีที่ต้องการใช้ห้องน้ำมาที่นี่
แล้วเธออาจจะตกใจได้ถ้าเจอคุณอยู่ในนั้น
หญิงสาวเอ่ยขอคำสัญญาข้อแรก
อูยยยเร็ว ๆ ครับ รีบบอกข้อ 2 ข้อ 3 มาด่วนเลย ข้อ
2 คุณต้องใช้ห้องน้ำหญิงอย่างสะอาด
ห้ามทำให้เลอะเทอะสกปรกเด็ดขาด พวกผู้ชายน่ะ
ชอบใช้ห้องน้ำสกปรก
ข้อ 3 มาเลยครับ เร็ว ๆ ๆ ๆ
ข้อสุดท้ายนี้สำคัญที่สุด คุณต้องสัญญาว่า
ห้ามกดปุ่มใด ๆ ทั้งสิ้นในห้องน้ำหญิง นอกเหนือจากปุ่มชักโครก
ซึ่งข้อสุดท้ายนี้ สมชายแม้ค่อนข้างจะงง ๆ ว่า
มันจะมีปุ่มอะไรในห้องน้ำหญิง
แต่เขาก็รับคำเนื่องจากปวดท้องจนทนไม่ไหวแล้ว
โอเคครับ โอเค. ว่าแล้วสมชายก็วิ่งปร๊าดเข้าไปในห้องน้ำ
ปิดประตูปัง หลังจากนั้นเสียงปู้ดป้าดก็ตามมาสนั่นหวั่นไหว
หลังจากกิจธุระอันหนักหน่วงเรียบร้อย
สมชายจึงมีโอกาสได้เหลียวมองพิจารณาบรรยากาศในห้องเล็ก ๆ
โดยรอบ มันก็ไม่ต่างกับห้องน้ำชายสักเท่าไรนะสมชายนึกในใจ
แต่แล้ว เขาก็อดทำหน้าสงสัยไม่ได้ เมื่อเขาพบกับปุ่มแปลกประหลาดจำนวน
3 ปุ่ม สีเขียว สีฟ้าและสีแดงอยู่ที่ผนังห้องน้ำ
มันปรากฏอักษรย่อที่ปุ่ม ติดว่า น.อ. ที่ปุ่มสีเขียว พ.ล.
ที่ปุ่มสีฟ้า และก็ ด.ผ.อ.น.ม. ที่ปุ่มสีแดง
เอที่ห้องน้ำชายมันไม่ยักมีปุ่มพวกนี้นี่หว่า
สมชายคิด ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
อดไม่ได้ที่ต้องล่วงละเมิดคำสัญญาลองกดปุ่มแรกที่เขียนว่า
น.อ. ดู ทันใดนั้น สิ่งน่าประหลาดใจก็เกิดขึ้น
ปรากฏมีสายน้ำอุ่นพุ่งขึ้นฉีดล้างทำความสะอาด
ก้นของเขาอย่างนุ่มนวล แผ่วเบา และอุ่นสบาย โอ้โห น.อ.
ย่อมาจากน้ำอุ่นนี่เอง ทำไมห้องน้ำขายไม่มีอย่างนี้บ้างวะเนี่ย
สมชายนึกอิจฉาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับห้องน้ำหญิง
เสียไม่ได้ไหน ๆ ลองอีกปุ่มดูซิ หลังจากกดปุ่มที่เขียนว่า
พ.ล. ทันใดนั้น ก็มีสายลมพัดพุ่งตรงใส่ก้นของเขา
เป่าให้แห้งอย่างนุ่มนวล แผ่วเบาและอุ่นสบายเช่นเคย
โอ้โห แจ๋วจริงๆ เลย พ.ล.แปลว่าพัดลมนั่นเอง
ทำไมห้องน้ำชายไม่มีอย่างนี้บ้างวะเนี่ย สุดยอด ๆ
สมชายอดรำพึงขึ้นมาไม่ได้ และแล้ว แน่นอนว่า
สมชายอดไม่ได้ที่จะลองกดปุ่มที่มีอักษรย่อยาวที่สุดว่า
ด.ผ.อ.น.ม. ว่าแล้วเขาก็เอื้อมมือไปกดปุ่มสุดท้าย
พลางนึกว่าปุ่มนี้น่าจะเป็นทีเด็ดสุดยอดแน่ ๆ ทันใดนั้น
เกิดเหตุการณ์รวดเร็วราวกับสายฟ้าแล่บขึ้นมา
สมชายมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ฟื้นขึ้นที่โรงพยาบาล
ทันทีที่ลืมตาขึ้น เขาก็ถามพยาบาลที่อยู่ตรงหน้าทันทีว่า
นี่มันที่ไหนกัน ผมอยู่ที่ไหนเนี่ย เกิดอะไรขึ้น
ผมจำได้ว่าผมเข้าไปใช้บริการที่ห้องน้ำหญิงมา
แล้วผมมาอยู่นี่ได้ไง
คุณอยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ
ที่คุณต้องมาอยู่ที่นี่ก็เพราะว่าคุณไปกดปุ่มสีแดงเข้านะซิ
เมื่อเห็นสมชายทำหน้างง พยาบาลสาวนางนั้นจึงเฉลยว่า
ก็ปุ่มสีแดงที่มีอักษรย่อว่า ด.ผ.อ.น.ม.
มันแปลว่า ดึงผ้าอนามัย ไง"
อ้อแล้วเสียใจด้วยนะคะ คุณหมอต่อให้คุณไม่สำเร็จค่ะ
เครื่องมันจัดการดึงแล้วยัดลงชักโครกไปแล้วล่ะค่ะ
"สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องไปปั่นเอาเอง"
- Basketman
- Verified User
- โพสต์: 1208
- ผู้ติดตาม: 0
ขำขำ คลายเครียด
โพสต์ที่ 139
ประโยคที่คนไข้ไม่อยากได้ยินจากหมอระหว่างการผ่าตัด
1.เฮ้ย!! เก็บชิ้นส่วนอวัยวะนั้นไว้ก่อนเผื่อนิติเวชใช้เป็นหลักฐานตอนผ่าชันสูตรศพ
2.ใครก็ได้เรียกภารโรงที ให้เอาไม้ถูพื้นมาด่วน เลือดนองพื้นแล้ว!!
3.โอ้!พระเจ้า โปรดรับรู้การบูชายัญของลูกในครั้งนี้ด้วย..
4.เฮ้ย!! ชิ้วๆๆๆไล่ไอ้หมาตัวนี้ออกไปเดี๋ยวนี้
5.อ้าว ถ้าอันที่ผมถืออยู่เป็นม้าม แล้วอันตะกี้มันอะไรอ่ะ??
6.เฮ้ย อย่าเพิ่งปิดแผลนาฬิกาโรเล็กซ์ ผมหาย!!
7.เอ้อ ใครรู้บ้างว่าเคยมีใครรอดไม๊ถ้าให้ยาตัวนี้ไปเกิน 500ml??
8.เอ้ย!!! ไฟดับอีกแล้ว
9.นี่ๆพวกคุณรู้มั้ยว่าไตมนุษย์แต่ละข้างหนะขายได้ราคาตั้งเท่าไรในตลาดมืด
แถมแต่ละคนยังมีตั้ง 2 ข้างตัดไปข้างใครจะรู้
วิธีอาบน้ำแมว จาก ชมรมคนรักหมา
จดหมายจากผู้หวังดี - วิธีอาบน้ำแมว
เรื่อง วิธีอาบน้ำแมว
เรียน ท่านผู้อ่าน
สืบเนื่องจาก email ของท่าน
ดิฉันขอเสนอเทคนิคอันเป็นประโยชน์ในการอาบน้ำแมว
เพื่อเผยแพร่แก่ผู้อ่านทราบโดยทั่วกันดังนี้
1. ในตอนบ่ายที่อบอุ่น ปล่อยให้แมวนอนหลับ อย่าไปกวน
2. แอบหนีมาทำความสะอาดชักโครก ... อย่าให้แมวรู้ตัว
3. เปิดฝาชักโครกทิ้งไว้
4. หยดแชมพูลงในคอห่าน แล้วตีเบาๆ ให้เป็นฟอง
5. อุ้มแมว เกาคางและปลอบใจ ขณะพาเดินเข้าไปในห้องน้ำ
6. โดยการกระทำอย่างนุ่มนวล ไม่ให้ไหวทัน ...
หย่อนแมวลงไปในชักโครก แล้วปิดฝาทันที
(บางครั้งอาจต้องยืน หรือนั่งทับบนฝาชักโครก เพื่อป้องกันการหลบหนี)
คำเตือน :
ระวังอย่าแง้มฝาดู และอย่าให้ส่วนใดของร่างกายอยู่ใกล้ชักโครก
เพราะอุ้งเล็บแมวจะความหา วัตถุทุกชนิดที่เกี่ยวเกาะได้
7. กดชักโครก 3-4 ครั้งตามความเหมาะสม ช่วยให้อาบน้ำได้สะอาดขึ้น
เนื่องจากเป็นระบบน้ำวนคล้ายเครื่องซักผ้าอัตโนมัติ
8. หาคนช่วยเปิดประตูห้องน้ำ กองผ้าขนหนูไว้มุมห้อง
ปิดประตูห้องอื่นให้หมด บอกทุกคนในบ้านให้หลบอยู่ในที่ปลอดภัย
9. กระโดดลงจากฝาชักโครกเข้าที่กำบัง แล้วใช้ไม้กวาดเขี่ยฝาชักโครกให้เปิดออก
10. แมวน้อยสะอาดใสจะพุ่งออกมาจากชักโครกเหมือนจรวด
ขอแสดงความนับถือ
คนรักหมา
1.เฮ้ย!! เก็บชิ้นส่วนอวัยวะนั้นไว้ก่อนเผื่อนิติเวชใช้เป็นหลักฐานตอนผ่าชันสูตรศพ
2.ใครก็ได้เรียกภารโรงที ให้เอาไม้ถูพื้นมาด่วน เลือดนองพื้นแล้ว!!
3.โอ้!พระเจ้า โปรดรับรู้การบูชายัญของลูกในครั้งนี้ด้วย..
4.เฮ้ย!! ชิ้วๆๆๆไล่ไอ้หมาตัวนี้ออกไปเดี๋ยวนี้
5.อ้าว ถ้าอันที่ผมถืออยู่เป็นม้าม แล้วอันตะกี้มันอะไรอ่ะ??
6.เฮ้ย อย่าเพิ่งปิดแผลนาฬิกาโรเล็กซ์ ผมหาย!!
7.เอ้อ ใครรู้บ้างว่าเคยมีใครรอดไม๊ถ้าให้ยาตัวนี้ไปเกิน 500ml??
8.เอ้ย!!! ไฟดับอีกแล้ว
9.นี่ๆพวกคุณรู้มั้ยว่าไตมนุษย์แต่ละข้างหนะขายได้ราคาตั้งเท่าไรในตลาดมืด
แถมแต่ละคนยังมีตั้ง 2 ข้างตัดไปข้างใครจะรู้
วิธีอาบน้ำแมว จาก ชมรมคนรักหมา
จดหมายจากผู้หวังดี - วิธีอาบน้ำแมว
เรื่อง วิธีอาบน้ำแมว
เรียน ท่านผู้อ่าน
สืบเนื่องจาก email ของท่าน
ดิฉันขอเสนอเทคนิคอันเป็นประโยชน์ในการอาบน้ำแมว
เพื่อเผยแพร่แก่ผู้อ่านทราบโดยทั่วกันดังนี้
1. ในตอนบ่ายที่อบอุ่น ปล่อยให้แมวนอนหลับ อย่าไปกวน
2. แอบหนีมาทำความสะอาดชักโครก ... อย่าให้แมวรู้ตัว
3. เปิดฝาชักโครกทิ้งไว้
4. หยดแชมพูลงในคอห่าน แล้วตีเบาๆ ให้เป็นฟอง
5. อุ้มแมว เกาคางและปลอบใจ ขณะพาเดินเข้าไปในห้องน้ำ
6. โดยการกระทำอย่างนุ่มนวล ไม่ให้ไหวทัน ...
หย่อนแมวลงไปในชักโครก แล้วปิดฝาทันที
(บางครั้งอาจต้องยืน หรือนั่งทับบนฝาชักโครก เพื่อป้องกันการหลบหนี)
คำเตือน :
ระวังอย่าแง้มฝาดู และอย่าให้ส่วนใดของร่างกายอยู่ใกล้ชักโครก
เพราะอุ้งเล็บแมวจะความหา วัตถุทุกชนิดที่เกี่ยวเกาะได้
7. กดชักโครก 3-4 ครั้งตามความเหมาะสม ช่วยให้อาบน้ำได้สะอาดขึ้น
เนื่องจากเป็นระบบน้ำวนคล้ายเครื่องซักผ้าอัตโนมัติ
8. หาคนช่วยเปิดประตูห้องน้ำ กองผ้าขนหนูไว้มุมห้อง
ปิดประตูห้องอื่นให้หมด บอกทุกคนในบ้านให้หลบอยู่ในที่ปลอดภัย
9. กระโดดลงจากฝาชักโครกเข้าที่กำบัง แล้วใช้ไม้กวาดเขี่ยฝาชักโครกให้เปิดออก
10. แมวน้อยสะอาดใสจะพุ่งออกมาจากชักโครกเหมือนจรวด
ขอแสดงความนับถือ
คนรักหมา
"สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องไปปั่นเอาเอง"
- Basketman
- Verified User
- โพสต์: 1208
- ผู้ติดตาม: 0
ขำขำ คลายเครียด
โพสต์ที่ 140
ฮากลิ้งขององค์กรนาซา
องค์การนาซ่ามีภารกิจในการส่งยานอวกาศและ
มนุษย์อวกาศออกไปในท้องฟ้าอันมืดมิดอยู่ทั้งปีทั้งชาติ
ก็เลยต้องพัฒนาเครื่องมือเครื่องใช้ให้มนุษย์อวกาศได้มีคุณภาพที่ดีบนยานอวกาศด้วย
ดังนั้นเครื่องมือทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือออกกำลังกาย
จาน ช้อน แก้วน้ำ โถส้วมจึงต้องถูกออกแบบให้สามารถใช้ในอวกาศได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นั่นไร้แรงดึงดูด
... ทีนี้ก็มาถึงปากกา
คนเราลองให้ไปอยู่ที่ไหนมันก็ต้องเขียนต้องจดกันบ้าง
ทั้งปากกาหมึกแห้งปากกาหมึกซึมที่เคยเอาขึ้นไปใช้ในสภาพไร้แรงดึงดูด
เวลาเขียนทีหมึกกระจายลอยละล่องไปทั่วยาน ไม่สะดวกด้วยประการทั้งปวง
ก็เลยมีการคิดค้นปากกาหรือเครื่องมือชิ้นนี้ขึ้น
ลงหนังสือพิมพ์ป่าวประกาศให้นักประดิษฐ์ทั้งหลายช่วยกันคิดด้วย
ก็มีการเสนอสิ่งประดิษฐ์นี้ขึ้นมากันใหญ่
บางคนเสนอให้ใช้หมึกที่สารผสมของเหล็กเพื่อเขียนบนกระดาษผสมสารแม่เหล็ก
บางคนเสนอการใช้ปากกาที่ต้องมีแบตเตอรี่
และเขียนด้วยเลเซอร์ลงบนกระดาษที่คล้ายๆ แผ่นฟิล์มรับแสง
เสนอกันไปต่างๆ นานา องค์การนาซ่าเองก็ต้องคอยพิจารณาหลายๆ ทางเลือก
เพราะบางชิ้นแก้ปัญหาสภาวะไร้แรงดึงดูดได้
แต่น้ำหนักมากเกินไปที่จะเป็นเครื่องมือเขียน
บางชิ้นแก้ปัญหาทุกอย่างได้หมด และน้ำหนักก็เบาพอแล้ว แต่ราคาหนักเกินไปเสียอีก
แก้กันอยู่หลายเดือน วันดีคืนดีก็มีโทรศัพท์จากแม่บ้านคนหนึ่งโทรเข้ามาที่นาซ่า
ปัญหาทั้งหมดก็คลี่คลายลงด้วยคำแนะนำง่ายๆ สั้นๆ จากแม่บ้านท่านนั้น
เธอโทรศัพท์มาบอกว่า
"ทำไมไม่ลองดินสอดูบ้างละคะ"
แล้วเสียงหัวเราะก็ดังลั่นไปทั่วจักรวาล.....
:lovl: :lovl: :lovl:
คำพูดที่ อาจารย์สอนพิเศษ พูดในคอร์ท
@ นี่คือตำนาน..นี่คือวีรกรรมที่ยิ่งใหญ่..(เน้น)นี่คือผู้หญิงงงง.....อ.Lilly -pinacle
@ ใครไม่ปิดมือถือเดี๋ยวพี่เอาไขมันทั้งหมดของพี่ทุ่มเลย.....พี่ช้าง -The Brain
@ ส่วนใหญ่เด็กที่ร้องเพลงดังๆ จะเป็นเด็ก จุฬา ธรรมศาสตร์ พวกรามจะร้องอยู่ในลำคอ.....พี่โบ๊ท -เดอะติวเตอร์
@ ไม่เอานะคำตอบข้อนี้ไม่เกี๊ยวกุ้งด้วย.....อ.ลิลลี่ -pinnacle
@ ถึงว่า หญ้าแถวสยามฯหายไปไหนหมด.....พี่มัก -idealphysics
@ ข้อนี้ผมเก็งจนส่วนหนึ่งของตัวแข็งแลยนะ.....อาจารย์สุธน -เคมีอ.สุธน
@ พี่ไม่ได้ทะลึ่งนะ แต่น้องคิดไปเอง และน้องคิดถูก.....อ.มัค -ideal physics
@ อ่า นร.ทดเลขในชีสเพื่อนน้า อย่าทดในชีสเรา เดี๋ยวมันจะเปื้อน.....อ.ช่วง -Applied Physics
@ ขอร้องนะ อย่าอ่านว่า แอมปลิตูดล่ะ ลาวสุดๆ อ่านว่า แอมปลิจูดนะ.....อ.ประกิตเผ่า -Applied Physics
@ น้องเรียนที่นี่น่ะน้องจะรู้ทุกอย่าง ยกเว้นฟิสิกส์.....อ.มัค -ideal physics
@ ข้อความนี้ขีดเส้นใต้พันเส้น และอย่าลืม หัวใจคู่ธนูจิกเลือดสาดดด นะคะ.....เจเจ้.Art Pinacle -MV.TUTOR
@ ร้อนเป็นลูกชิ้นปลาสุกแล้ว.....อ.มนต์ชัย -pinacle
@ สวยซีเกมส์นะค่ะหนู.....อ.lilly -pinacle
@ พูดเป็นครั้งที่ 4 แล้วน่ะบอกให้ปิดมือถือ มันไม่เทห์หรอกน่ะหมาบ้าน อ.เผ่า มีห้อยคอทุกตัว.....อ.เผ่า -APPLIED
@ ข้อต่อไปเป็นข้อสอบที่อาจารย์เอาคะแนนมาไล่เขวี้ยงหัว.....พี่ช้าง -the brain
@ ไอ้พวกนี้หนิ่...ท่องได้แต่ไม่เอาคำแปลมา!!!!!!.....ครูสมศรี -อังกฤษ ครูสมศรี
@ ที่นี่มีอุปกรณ์ดับไฟแต่ไม่มีเครื่องกันฟ้าผ่า นักเรียนชายแถว B อย่าจีบกัน.....อ.เผ่า -Applied Physic
@ ใครจะไปทนใช้คำไทยได้เมาส์คอมพิวเตอร์เรียกแท่งชี้เต้างี้ จอยเรียกแท่งหฤหรรย์งี้สยอง!!!.....อ.ปิง -ดาว้องก์
@ ใครตอบไม่ได้เดี๋ยวลงไปเอาบัตรลดพิซซ่า หน้าฟางนะออกใหม่กินรึยัง.....ต๊อบ/พี่โบ๊ต -tutor
@ น้องๆ คะ ไม่ใช่ว่าพี่จะงกนะคะ แต่.......(ขนหน้าแข้งร่วงค่ะ).....P\' Nan -Encocept
@ วันนี้พอแค่นี้ครับ...ขอให้กลับบ้านกันอย่างสวัสดิภาพ...ขึ้นรถแท๊กซี่มีที่นั่งกันทุกคน.....p่ เหน่ง -PEP
@ เอ้า..ทุกคนช่วยด้วย!!.....พี่เทพ -เดอะเบรน
@ ค่ะ แล้วทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวกับบทเรียนนะฮ้า เป็นความรู้เสริมฮ่ะ!!.....อ.สมศรี -อังกฤษครูสมศรี
@ ประเทศไทยในแผนที่เล็กเท่าเม็ดหูด แต่เราก็ภูมิใจในความเป็นหูดของเรา...นี่!!!.....อ.ปิง -ดาวองก์
@ หมดค่ะ จบนะนร. วันนี้ปิดคอร์ส เชิดเงินนน!!!!.....Eng. ครูสมศรี -ครูสมศรี
@ ชาติที่แล้วชั้นไม่ได้ทำบุญด้วย ซิลิโคนนี่จะได้อึ๋มแบบพวกนั้น.....อ.Art -Pinacle
@ ข้อนี้ถ้าใครคิดไม่ได้ไปเอาหัวชนก้อนเต้าหู้ตายซะ.....พี่ช้าง -the brain
@ ฮ่าๆๆๆ แปลกใจล่ะสิ กระดานที่นี่เลื่อนได้ วู้ว~~.....อ.ชัชชัย -Access
@ วง!!...ตุ๊ง...ใครไม่วงแช่งให้แฟนเป็นตุ๊ด......บึกๆ.....ขนดกๆ.....อ.เผ่า -Applied Physics
@ โอ๊ยยย....ให้ตายเถอะโรบิน ให้ดิ้นเถอะโรเบิร์ต.....อ.เจี๋ย -JIA
@ ข้อสอบเอนท์เอาคะแนนมาเฟี่ยงหัวเธอไม่ต้องโชว์ความสามารถใส่หมวกกันน็อคกระโดดหลบหรอกนะ.....อ.เผ่า -แอพพลาย
@ ก้อขอย้ำอีกทีนะจ๊ะ...ใครมีข้อสอบเก่าก็เอามาแลกกับหนังสือ เราก็ขายบ้างแจกบ้าง.....อ.ช่วง -แอพพลาย
@ ข้อเนี้ยนะขี้ ขี้ จะจิ้มก็เละ.....อ.เจี๋ย -JIA
@ อ.ถามนักเรียน(ชาย)ว่าเป็นนักกีฬาของ ร.ร. หรือเปล่า ถ้าเป็นนักบอล อ.อาท ขอเป็นประตู.....อ.art -pinnacle
@ อย่าหยิบโบร์ชัวครูไปเล่นนะคะ หยิบไปพอดีนะคะเพราะครูเสียดายเนื่ยใบละตั้ง 2 บาท.....อุ๊ -เคมี อ.อุ๊
@ อย่าคิดนาน เยี่ยวเหลือง.....พี่เก๋ -the brain
@ ไม่ต้องกลัวครูนะ แม้ว่ารูปร่างหน้าตาครูจะน่าเกลียดน่ากลัวแต่จิตใจครูอำมหิตมากกว่า.....อ.สมาน
@ เอาล่ะๆๆๆ สำหรับคนที่ยังทำหน้า question mark เดี๋ยวจะอธิบายใฟ้ฟังอีกที.....อ.เผ่า -Applied Physics
@ นักเรียนจ้องครู....เดี๋ยวไม่รู้เรื่องนะจ๊ะ.....อ.ช่วง -Appiled Physics
@ ทำไมชื่อกบหรอ ไม่รู้สิ นมเขียวมั๊ง.....พี่โบ๊ท -the tutor
@ น้องๆ คะ คำนี้สำคัญค่ะ กาดอกจันเจ็ดร้อยดอก!!!.....P\' Nan -ENCONCEPT
@ q ส่วน m เท่ากับ v ส่วน สบู่หอม br.....อ.ช่วง -applied physics
@ ข้อนี้สำคัญมากนะครับ โดยเฉพาะประโยคแรก...\"คุณพิสิฏฐ์ซึ่งหล่อมาก มีมวล 50 กิโลกรัม.....\".....อ.พิสิฏฐ์ -Neo Physics Center
@ จีฉ่อยมีทุกอย่าง แต่ไม่รู้ว่าจะมีเสื้อในที่ข้างเป็นรูปดาวและอีกข้างนึงเป็นรูปกระต่าย.....จีฉ่อย อาจารย์อาร์ท pinnacle
@ โอ๊ย..ถ้าแปลคำนี้ไม่ได้ ก็..โง่จะตายควายเรียกแม่แล้ว.....อ.ชัยวิชิต -NISIT
@ เดี๋ยวครูจะฟาด synonyms ให้หนูค่ะ.....อ.มณชัย -pinnacle
@ ผู้หญิงห้ามนั่งหน้านะ ต้องผู้ชายจะได้สอนเต็มที่.....aj.tob -the tutor
@ น้องครับ อย่าเงยหน้ามากเดี๋ยว เขา ทิ่มฝ้าเพดานเป็นรู.....พี่เต้ย -the brain
@ กุศลกรรมบท 10 อย่าเชื่อเพราะเขาหน้าตาดี.....พี่ช้าง -the brain
@ ขยันจัง ปล่อยหนูกลับบ้านมืดทุกวันเลย.....อ.ปิยะ -nisit
@ น้องคริสเตียนคนนี้เก่งมากค่ะ ตอบแต่ละทีพี่งี้ใจละลาย ๆ.....พี่ยู -PEP
@ การบ้านวันนี้ ไปดูหนังเรื่อง เรือนนพเก้า.....อ.art -pinnacle
@ มาเรียนผู้หญิงห้ามนั่งหน้าเพราะให้ผู้ชายมานั่งแล้วเว้นโต๊ะ 2 ตัวข้างหน้าไว้ทำเตียง.....อ.art -pinnacle
@ นักเรียนชายที่ปลดกระดุม วันหลังต้องปลดหั้ยหมดนะ.....อ.Art- - -Pinnacle
@ นี่ฉันเห็นว่าอุตส่าห์เสี่ยงชีวิตมาเรียน จะบอกให้เอาบุญ.....อ.กันยา -pep
@ cattle แปลว่า (ชี้มือไปทางนักเรียน) วัว ควาย.....อ.เสนอ -บัณฑิตแนะแนว
@ ที่นี่เลิกและเริ่มตรงเวลาเป๊ะเป็นวินาที.....อ.เผ่า -แอพพลาย
@ เดี๋ยวนักเรียนชายจะโดนตีซิบแตก.....อาจารย์อาท -pinnacle
@ ผิดเป็นครู แต่หลายครั้ง ผิดเป็นควาย ค่ะ.....พี่ยู -PEP4 ปิ่นเกล้า
@ ไม่ KASET THAMMASAT ก็ CHULA ติดแล้วมาหา I บ้างอย่าร้างลืม.....อ.ชัยวิชิต -NISIT
@ ถ้าไม่ตอบ ขอให้ริดสีดวงขึ้นหน้า 3เม็ด.....อ.สมศรี
@ นักเรียนชายที่พึ่งมานั่งบนเก้าอี้ นักเรียนหญิงนั่งพื้น.....อ.Art -Pinnacle
@ ถึงพี่จะสอน Grammar แต่รับรองสนุกยิ่งกว่า Grammy.....อ.บอย -NISIT
@ อ้า ครูขอเพิ่มสูตรลัดนะครับ ครูไม่บังคับให้จำนะครับ แต่ครูมั่นใจว่านักเรียนจำครับ.....อ.พิสิฏฐ์ -NEO
@ พวกเธอนี่จดไม่เป็นสัปปะรดหมาเลย.....อ.กันยา -กันยา
@ นร.ชายที่เพิ่งมาๆนั่งตักครูเร็ว.....อ.art -pinnacle
@ นักเรียนชายถ้าไม่มานั่งหน้า ครูไม่สอนนะ.....อ. Tob -tuter
@ ปกิณกะตะติ๊กมโนสาเร่ช้ำฉุ่ยหยุมหยิมจุกจิกจู้จี้.....อ.ปิง - Davance
@ หยิบเมจิคสีที่หนูจะเข้ามหาลัย จุฬาสีชมพู ธรรมศาสตร์สีเหลือง ถ้าดินสอนี้ ม.กรุงเทพ จ๊ะ.....อ. Lilly
@ เอ้าถ้าทำวิธีตรงต้องใช้เขาเถือกเข้าไป.....พี่ช้าง - the brain
@ สอน 2 ชั่วโมง พูดว่า xxxx ประมาณ 250 ครั้ง.....อ.ชัยวิชิต - นิสิต
@ ข้อสอบหนีรอด ผมแถมเงิน อัดเทปไว้ได้เลย.....เคมีอาจารย์สำราญ
@ อ.LILLY สวยด้วยหมอพรทิพย์.....อ.LILLY
@ ไอ้...นักเรียนไทย.......ชีวะ อ.กันยา
@ ชีวิตจะมีค่า อย่ามาซ่ากับเจ๊ลี่.....อ.lilly
@ วันนี้มีหนังสือใหม่น่ะจ่ะ น่ะจ่ะ น่ะจ่ะ น่ะจ่ะ.....อ.ช่วง แอพลพาย
@ คำเตือน : ควรย้ายคอร์สหากได้นั่งหน้าสุด รอบสด.....อ.JIA
@ ใครเหลืบมองที่จดขอให้บ้านกระจายอาม่ามานั่งอยู่หน้าบ้าน.....อ.ชัชชัย Access
@ ใครจำตรงนี้ไม่ได้ ไม่ต้องเอ็นฯเอาเงินสมัครเอ็นฯไปซื้อขนมครกกิน.....อ.กันยา
@ เอ้าตอบเร็วค่ะ นิสิตจุฬา ธรรมศาสตร์ ลาดกระบัง.....พี่เบส enconcept
@ นร.หญิงทำผิดครูจะให้ไปวิดพื้น..ถ้านร.ชายทำผิดมานั่งตักครู..ครูเป็นครูที่ยุติธรรมค่ะ.....พี่ art Tutor
@ ปราดเปรียวและเปรี้ยวที่สุดในวงการนางแบบ (เอ้ย!!อาจารย์).....พี่ art Tutor
@ ถ้าตอบไม่ได้เราไม่ว่า แต่เราจะเอาพริกไทยมาราดตูด.....อ.ชัชชัย
@ โจทย์ข้อนี้พื้นๆ พื้นสนิด.....อ.ฐิติกร - GOK
@ หน้านี้...ข้อไหนสงสัย ฮ้าววว.....เคมี อ.อุ๊
@ เดี๋ยวครูเอาลิ้นไปทำความสะอาดในปากเธอให้.....อ.พีรพัชร เดอะเบรน
@ ขยันตอบจังนะ ครูอยากรู้นักใครเข้าฝันให้ตอบผิดอยู่เรื่อย.....อ.ศุภชัย - GSMC
@ คำนี้สำคัญมากค่ะ หยิบ hilight 7 สีขึ้นมา น้องๆมีกันมั๊ยค่ะ.....พี่แนน enconcept
@ ใช่ซี่..ไม่เคยแคร์กันเลย.....พี่ดัสต์ altermath
@ ข้อนี้นะอยากเอาตัดกันเด็ดขาด ถ้าตัดนะเธอ เอ๊ยยยยย ควายวิ่งออกมาจากหัวเชียวล่ะ.....อาจารย์สมชาย - บ้านคำนวณ
@ คุณครูจะหาเงินเยอะๆไปทำ ติ่ง อะไรหล่ะคะ ลูกก็มีไม่ได้.....คุณครู Lilly - Pinnacle
@ \"ก้อครูเป็นกระเทยมหัศจรรย์\" หรือไม่ก้อ \"กระเทยสัพพัญญู\" แล้วก้อเต้นกันสุดเหวี่ยง.....อ.โบ๊ท + อ.ต๊อบ - Tutor
@ ตอบผิดเราไม่ว่าครับแต่เราจะประนาม.....อ.ชัชชัย access
@ ที่ครูต้องใส่แว่นเพราะวันหนึ่งครูมองเชียงใหม่จาก กรุงเทพไม่เห็น.....อ.กมล - PEP7 ชลบุรี
@ ใครออกจากห้องเอ็นฯไม่ติด.....อ.ต๊อบ TUTOR
@ มาทำเบ่งกะชั้นนะว่าได้ A ชั้นเห็นเอ็นฯทีไร เซลล์เหี่ยวเล็กยี่งกว่าไวรัสทุกที.....อ.กันยา
@ เข้าช้า ปล่อยเลท เม๊าแหลกลาน.....อ.ปิง Davance
@ นี่ชั้นโกรธแล้วนะ.. วันนี้งดมหรสพ (แกว่งมือแล้วหมุนตัว1รอบ).....อ.ลิลลี่ - Pinnacle
@ ใครลอกขอให้มีแฟนหน้าตรงข้ามกับอาจารย์.....อ.เผ่า applied
@ นี่ชั้นอยากมีคอร์ท วีดีโอ มั่งจังเลย.....อ.แกะ Nisit
@ ชั้นไปเจอพี่บีม มาด้วยแหละ เดี๋ยวจะเอารูปมาให้ดู.....อ.ชัยวิชิต Nisit
@ เอ้า นักเรียน ทางสถาบันของเรามี กาแฟ โอวันติน ไว้บริการด้วยนะค่ะ.....คุณป้า Nisit
@ วันนั้นชั้นไปเจอปิง บราเทอ ที่เซนทรัสมาด้วย.....อ.ชัยวิชิต Nisit
@ นี่กี่โมงกี่ยามแล้วจ๊ะ มาทำไมเอาป่านนี้.....อ.ชัยวิชิต Nisit
@ ถ้ามี เคมี อ.แกะ มั่งก็น่าจะดีเนอะ.....อ.แกะ Nisit
@ วันนี้น่ารักมากมาย.....อ.ชัยวิชิต Nisit
@ ท่าทางน้องๆจะก๊งกันแล้ว.....พี่จ๋า Nisit
@ เมื่อคืนใครดูบอลมั่ง.....พี่เบียร์ Nisit
องค์การนาซ่ามีภารกิจในการส่งยานอวกาศและ
มนุษย์อวกาศออกไปในท้องฟ้าอันมืดมิดอยู่ทั้งปีทั้งชาติ
ก็เลยต้องพัฒนาเครื่องมือเครื่องใช้ให้มนุษย์อวกาศได้มีคุณภาพที่ดีบนยานอวกาศด้วย
ดังนั้นเครื่องมือทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือออกกำลังกาย
จาน ช้อน แก้วน้ำ โถส้วมจึงต้องถูกออกแบบให้สามารถใช้ในอวกาศได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นั่นไร้แรงดึงดูด
... ทีนี้ก็มาถึงปากกา
คนเราลองให้ไปอยู่ที่ไหนมันก็ต้องเขียนต้องจดกันบ้าง
ทั้งปากกาหมึกแห้งปากกาหมึกซึมที่เคยเอาขึ้นไปใช้ในสภาพไร้แรงดึงดูด
เวลาเขียนทีหมึกกระจายลอยละล่องไปทั่วยาน ไม่สะดวกด้วยประการทั้งปวง
ก็เลยมีการคิดค้นปากกาหรือเครื่องมือชิ้นนี้ขึ้น
ลงหนังสือพิมพ์ป่าวประกาศให้นักประดิษฐ์ทั้งหลายช่วยกันคิดด้วย
ก็มีการเสนอสิ่งประดิษฐ์นี้ขึ้นมากันใหญ่
บางคนเสนอให้ใช้หมึกที่สารผสมของเหล็กเพื่อเขียนบนกระดาษผสมสารแม่เหล็ก
บางคนเสนอการใช้ปากกาที่ต้องมีแบตเตอรี่
และเขียนด้วยเลเซอร์ลงบนกระดาษที่คล้ายๆ แผ่นฟิล์มรับแสง
เสนอกันไปต่างๆ นานา องค์การนาซ่าเองก็ต้องคอยพิจารณาหลายๆ ทางเลือก
เพราะบางชิ้นแก้ปัญหาสภาวะไร้แรงดึงดูดได้
แต่น้ำหนักมากเกินไปที่จะเป็นเครื่องมือเขียน
บางชิ้นแก้ปัญหาทุกอย่างได้หมด และน้ำหนักก็เบาพอแล้ว แต่ราคาหนักเกินไปเสียอีก
แก้กันอยู่หลายเดือน วันดีคืนดีก็มีโทรศัพท์จากแม่บ้านคนหนึ่งโทรเข้ามาที่นาซ่า
ปัญหาทั้งหมดก็คลี่คลายลงด้วยคำแนะนำง่ายๆ สั้นๆ จากแม่บ้านท่านนั้น
เธอโทรศัพท์มาบอกว่า
"ทำไมไม่ลองดินสอดูบ้างละคะ"
แล้วเสียงหัวเราะก็ดังลั่นไปทั่วจักรวาล.....
:lovl: :lovl: :lovl:
คำพูดที่ อาจารย์สอนพิเศษ พูดในคอร์ท
@ นี่คือตำนาน..นี่คือวีรกรรมที่ยิ่งใหญ่..(เน้น)นี่คือผู้หญิงงงง.....อ.Lilly -pinacle
@ ใครไม่ปิดมือถือเดี๋ยวพี่เอาไขมันทั้งหมดของพี่ทุ่มเลย.....พี่ช้าง -The Brain
@ ส่วนใหญ่เด็กที่ร้องเพลงดังๆ จะเป็นเด็ก จุฬา ธรรมศาสตร์ พวกรามจะร้องอยู่ในลำคอ.....พี่โบ๊ท -เดอะติวเตอร์
@ ไม่เอานะคำตอบข้อนี้ไม่เกี๊ยวกุ้งด้วย.....อ.ลิลลี่ -pinnacle
@ ถึงว่า หญ้าแถวสยามฯหายไปไหนหมด.....พี่มัก -idealphysics
@ ข้อนี้ผมเก็งจนส่วนหนึ่งของตัวแข็งแลยนะ.....อาจารย์สุธน -เคมีอ.สุธน
@ พี่ไม่ได้ทะลึ่งนะ แต่น้องคิดไปเอง และน้องคิดถูก.....อ.มัค -ideal physics
@ อ่า นร.ทดเลขในชีสเพื่อนน้า อย่าทดในชีสเรา เดี๋ยวมันจะเปื้อน.....อ.ช่วง -Applied Physics
@ ขอร้องนะ อย่าอ่านว่า แอมปลิตูดล่ะ ลาวสุดๆ อ่านว่า แอมปลิจูดนะ.....อ.ประกิตเผ่า -Applied Physics
@ น้องเรียนที่นี่น่ะน้องจะรู้ทุกอย่าง ยกเว้นฟิสิกส์.....อ.มัค -ideal physics
@ ข้อความนี้ขีดเส้นใต้พันเส้น และอย่าลืม หัวใจคู่ธนูจิกเลือดสาดดด นะคะ.....เจเจ้.Art Pinacle -MV.TUTOR
@ ร้อนเป็นลูกชิ้นปลาสุกแล้ว.....อ.มนต์ชัย -pinacle
@ สวยซีเกมส์นะค่ะหนู.....อ.lilly -pinacle
@ พูดเป็นครั้งที่ 4 แล้วน่ะบอกให้ปิดมือถือ มันไม่เทห์หรอกน่ะหมาบ้าน อ.เผ่า มีห้อยคอทุกตัว.....อ.เผ่า -APPLIED
@ ข้อต่อไปเป็นข้อสอบที่อาจารย์เอาคะแนนมาไล่เขวี้ยงหัว.....พี่ช้าง -the brain
@ ไอ้พวกนี้หนิ่...ท่องได้แต่ไม่เอาคำแปลมา!!!!!!.....ครูสมศรี -อังกฤษ ครูสมศรี
@ ที่นี่มีอุปกรณ์ดับไฟแต่ไม่มีเครื่องกันฟ้าผ่า นักเรียนชายแถว B อย่าจีบกัน.....อ.เผ่า -Applied Physic
@ ใครจะไปทนใช้คำไทยได้เมาส์คอมพิวเตอร์เรียกแท่งชี้เต้างี้ จอยเรียกแท่งหฤหรรย์งี้สยอง!!!.....อ.ปิง -ดาว้องก์
@ ใครตอบไม่ได้เดี๋ยวลงไปเอาบัตรลดพิซซ่า หน้าฟางนะออกใหม่กินรึยัง.....ต๊อบ/พี่โบ๊ต -tutor
@ น้องๆ คะ ไม่ใช่ว่าพี่จะงกนะคะ แต่.......(ขนหน้าแข้งร่วงค่ะ).....P\' Nan -Encocept
@ วันนี้พอแค่นี้ครับ...ขอให้กลับบ้านกันอย่างสวัสดิภาพ...ขึ้นรถแท๊กซี่มีที่นั่งกันทุกคน.....p่ เหน่ง -PEP
@ เอ้า..ทุกคนช่วยด้วย!!.....พี่เทพ -เดอะเบรน
@ ค่ะ แล้วทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวกับบทเรียนนะฮ้า เป็นความรู้เสริมฮ่ะ!!.....อ.สมศรี -อังกฤษครูสมศรี
@ ประเทศไทยในแผนที่เล็กเท่าเม็ดหูด แต่เราก็ภูมิใจในความเป็นหูดของเรา...นี่!!!.....อ.ปิง -ดาวองก์
@ หมดค่ะ จบนะนร. วันนี้ปิดคอร์ส เชิดเงินนน!!!!.....Eng. ครูสมศรี -ครูสมศรี
@ ชาติที่แล้วชั้นไม่ได้ทำบุญด้วย ซิลิโคนนี่จะได้อึ๋มแบบพวกนั้น.....อ.Art -Pinacle
@ ข้อนี้ถ้าใครคิดไม่ได้ไปเอาหัวชนก้อนเต้าหู้ตายซะ.....พี่ช้าง -the brain
@ ฮ่าๆๆๆ แปลกใจล่ะสิ กระดานที่นี่เลื่อนได้ วู้ว~~.....อ.ชัชชัย -Access
@ วง!!...ตุ๊ง...ใครไม่วงแช่งให้แฟนเป็นตุ๊ด......บึกๆ.....ขนดกๆ.....อ.เผ่า -Applied Physics
@ โอ๊ยยย....ให้ตายเถอะโรบิน ให้ดิ้นเถอะโรเบิร์ต.....อ.เจี๋ย -JIA
@ ข้อสอบเอนท์เอาคะแนนมาเฟี่ยงหัวเธอไม่ต้องโชว์ความสามารถใส่หมวกกันน็อคกระโดดหลบหรอกนะ.....อ.เผ่า -แอพพลาย
@ ก้อขอย้ำอีกทีนะจ๊ะ...ใครมีข้อสอบเก่าก็เอามาแลกกับหนังสือ เราก็ขายบ้างแจกบ้าง.....อ.ช่วง -แอพพลาย
@ ข้อเนี้ยนะขี้ ขี้ จะจิ้มก็เละ.....อ.เจี๋ย -JIA
@ อ.ถามนักเรียน(ชาย)ว่าเป็นนักกีฬาของ ร.ร. หรือเปล่า ถ้าเป็นนักบอล อ.อาท ขอเป็นประตู.....อ.art -pinnacle
@ อย่าหยิบโบร์ชัวครูไปเล่นนะคะ หยิบไปพอดีนะคะเพราะครูเสียดายเนื่ยใบละตั้ง 2 บาท.....อุ๊ -เคมี อ.อุ๊
@ อย่าคิดนาน เยี่ยวเหลือง.....พี่เก๋ -the brain
@ ไม่ต้องกลัวครูนะ แม้ว่ารูปร่างหน้าตาครูจะน่าเกลียดน่ากลัวแต่จิตใจครูอำมหิตมากกว่า.....อ.สมาน
@ เอาล่ะๆๆๆ สำหรับคนที่ยังทำหน้า question mark เดี๋ยวจะอธิบายใฟ้ฟังอีกที.....อ.เผ่า -Applied Physics
@ นักเรียนจ้องครู....เดี๋ยวไม่รู้เรื่องนะจ๊ะ.....อ.ช่วง -Appiled Physics
@ ทำไมชื่อกบหรอ ไม่รู้สิ นมเขียวมั๊ง.....พี่โบ๊ท -the tutor
@ น้องๆ คะ คำนี้สำคัญค่ะ กาดอกจันเจ็ดร้อยดอก!!!.....P\' Nan -ENCONCEPT
@ q ส่วน m เท่ากับ v ส่วน สบู่หอม br.....อ.ช่วง -applied physics
@ ข้อนี้สำคัญมากนะครับ โดยเฉพาะประโยคแรก...\"คุณพิสิฏฐ์ซึ่งหล่อมาก มีมวล 50 กิโลกรัม.....\".....อ.พิสิฏฐ์ -Neo Physics Center
@ จีฉ่อยมีทุกอย่าง แต่ไม่รู้ว่าจะมีเสื้อในที่ข้างเป็นรูปดาวและอีกข้างนึงเป็นรูปกระต่าย.....จีฉ่อย อาจารย์อาร์ท pinnacle
@ โอ๊ย..ถ้าแปลคำนี้ไม่ได้ ก็..โง่จะตายควายเรียกแม่แล้ว.....อ.ชัยวิชิต -NISIT
@ เดี๋ยวครูจะฟาด synonyms ให้หนูค่ะ.....อ.มณชัย -pinnacle
@ ผู้หญิงห้ามนั่งหน้านะ ต้องผู้ชายจะได้สอนเต็มที่.....aj.tob -the tutor
@ น้องครับ อย่าเงยหน้ามากเดี๋ยว เขา ทิ่มฝ้าเพดานเป็นรู.....พี่เต้ย -the brain
@ กุศลกรรมบท 10 อย่าเชื่อเพราะเขาหน้าตาดี.....พี่ช้าง -the brain
@ ขยันจัง ปล่อยหนูกลับบ้านมืดทุกวันเลย.....อ.ปิยะ -nisit
@ น้องคริสเตียนคนนี้เก่งมากค่ะ ตอบแต่ละทีพี่งี้ใจละลาย ๆ.....พี่ยู -PEP
@ การบ้านวันนี้ ไปดูหนังเรื่อง เรือนนพเก้า.....อ.art -pinnacle
@ มาเรียนผู้หญิงห้ามนั่งหน้าเพราะให้ผู้ชายมานั่งแล้วเว้นโต๊ะ 2 ตัวข้างหน้าไว้ทำเตียง.....อ.art -pinnacle
@ นักเรียนชายที่ปลดกระดุม วันหลังต้องปลดหั้ยหมดนะ.....อ.Art- - -Pinnacle
@ นี่ฉันเห็นว่าอุตส่าห์เสี่ยงชีวิตมาเรียน จะบอกให้เอาบุญ.....อ.กันยา -pep
@ cattle แปลว่า (ชี้มือไปทางนักเรียน) วัว ควาย.....อ.เสนอ -บัณฑิตแนะแนว
@ ที่นี่เลิกและเริ่มตรงเวลาเป๊ะเป็นวินาที.....อ.เผ่า -แอพพลาย
@ เดี๋ยวนักเรียนชายจะโดนตีซิบแตก.....อาจารย์อาท -pinnacle
@ ผิดเป็นครู แต่หลายครั้ง ผิดเป็นควาย ค่ะ.....พี่ยู -PEP4 ปิ่นเกล้า
@ ไม่ KASET THAMMASAT ก็ CHULA ติดแล้วมาหา I บ้างอย่าร้างลืม.....อ.ชัยวิชิต -NISIT
@ ถ้าไม่ตอบ ขอให้ริดสีดวงขึ้นหน้า 3เม็ด.....อ.สมศรี
@ นักเรียนชายที่พึ่งมานั่งบนเก้าอี้ นักเรียนหญิงนั่งพื้น.....อ.Art -Pinnacle
@ ถึงพี่จะสอน Grammar แต่รับรองสนุกยิ่งกว่า Grammy.....อ.บอย -NISIT
@ อ้า ครูขอเพิ่มสูตรลัดนะครับ ครูไม่บังคับให้จำนะครับ แต่ครูมั่นใจว่านักเรียนจำครับ.....อ.พิสิฏฐ์ -NEO
@ พวกเธอนี่จดไม่เป็นสัปปะรดหมาเลย.....อ.กันยา -กันยา
@ นร.ชายที่เพิ่งมาๆนั่งตักครูเร็ว.....อ.art -pinnacle
@ นักเรียนชายถ้าไม่มานั่งหน้า ครูไม่สอนนะ.....อ. Tob -tuter
@ ปกิณกะตะติ๊กมโนสาเร่ช้ำฉุ่ยหยุมหยิมจุกจิกจู้จี้.....อ.ปิง - Davance
@ หยิบเมจิคสีที่หนูจะเข้ามหาลัย จุฬาสีชมพู ธรรมศาสตร์สีเหลือง ถ้าดินสอนี้ ม.กรุงเทพ จ๊ะ.....อ. Lilly
@ เอ้าถ้าทำวิธีตรงต้องใช้เขาเถือกเข้าไป.....พี่ช้าง - the brain
@ สอน 2 ชั่วโมง พูดว่า xxxx ประมาณ 250 ครั้ง.....อ.ชัยวิชิต - นิสิต
@ ข้อสอบหนีรอด ผมแถมเงิน อัดเทปไว้ได้เลย.....เคมีอาจารย์สำราญ
@ อ.LILLY สวยด้วยหมอพรทิพย์.....อ.LILLY
@ ไอ้...นักเรียนไทย.......ชีวะ อ.กันยา
@ ชีวิตจะมีค่า อย่ามาซ่ากับเจ๊ลี่.....อ.lilly
@ วันนี้มีหนังสือใหม่น่ะจ่ะ น่ะจ่ะ น่ะจ่ะ น่ะจ่ะ.....อ.ช่วง แอพลพาย
@ คำเตือน : ควรย้ายคอร์สหากได้นั่งหน้าสุด รอบสด.....อ.JIA
@ ใครเหลืบมองที่จดขอให้บ้านกระจายอาม่ามานั่งอยู่หน้าบ้าน.....อ.ชัชชัย Access
@ ใครจำตรงนี้ไม่ได้ ไม่ต้องเอ็นฯเอาเงินสมัครเอ็นฯไปซื้อขนมครกกิน.....อ.กันยา
@ เอ้าตอบเร็วค่ะ นิสิตจุฬา ธรรมศาสตร์ ลาดกระบัง.....พี่เบส enconcept
@ นร.หญิงทำผิดครูจะให้ไปวิดพื้น..ถ้านร.ชายทำผิดมานั่งตักครู..ครูเป็นครูที่ยุติธรรมค่ะ.....พี่ art Tutor
@ ปราดเปรียวและเปรี้ยวที่สุดในวงการนางแบบ (เอ้ย!!อาจารย์).....พี่ art Tutor
@ ถ้าตอบไม่ได้เราไม่ว่า แต่เราจะเอาพริกไทยมาราดตูด.....อ.ชัชชัย
@ โจทย์ข้อนี้พื้นๆ พื้นสนิด.....อ.ฐิติกร - GOK
@ หน้านี้...ข้อไหนสงสัย ฮ้าววว.....เคมี อ.อุ๊
@ เดี๋ยวครูเอาลิ้นไปทำความสะอาดในปากเธอให้.....อ.พีรพัชร เดอะเบรน
@ ขยันตอบจังนะ ครูอยากรู้นักใครเข้าฝันให้ตอบผิดอยู่เรื่อย.....อ.ศุภชัย - GSMC
@ คำนี้สำคัญมากค่ะ หยิบ hilight 7 สีขึ้นมา น้องๆมีกันมั๊ยค่ะ.....พี่แนน enconcept
@ ใช่ซี่..ไม่เคยแคร์กันเลย.....พี่ดัสต์ altermath
@ ข้อนี้นะอยากเอาตัดกันเด็ดขาด ถ้าตัดนะเธอ เอ๊ยยยยย ควายวิ่งออกมาจากหัวเชียวล่ะ.....อาจารย์สมชาย - บ้านคำนวณ
@ คุณครูจะหาเงินเยอะๆไปทำ ติ่ง อะไรหล่ะคะ ลูกก็มีไม่ได้.....คุณครู Lilly - Pinnacle
@ \"ก้อครูเป็นกระเทยมหัศจรรย์\" หรือไม่ก้อ \"กระเทยสัพพัญญู\" แล้วก้อเต้นกันสุดเหวี่ยง.....อ.โบ๊ท + อ.ต๊อบ - Tutor
@ ตอบผิดเราไม่ว่าครับแต่เราจะประนาม.....อ.ชัชชัย access
@ ที่ครูต้องใส่แว่นเพราะวันหนึ่งครูมองเชียงใหม่จาก กรุงเทพไม่เห็น.....อ.กมล - PEP7 ชลบุรี
@ ใครออกจากห้องเอ็นฯไม่ติด.....อ.ต๊อบ TUTOR
@ มาทำเบ่งกะชั้นนะว่าได้ A ชั้นเห็นเอ็นฯทีไร เซลล์เหี่ยวเล็กยี่งกว่าไวรัสทุกที.....อ.กันยา
@ เข้าช้า ปล่อยเลท เม๊าแหลกลาน.....อ.ปิง Davance
@ นี่ชั้นโกรธแล้วนะ.. วันนี้งดมหรสพ (แกว่งมือแล้วหมุนตัว1รอบ).....อ.ลิลลี่ - Pinnacle
@ ใครลอกขอให้มีแฟนหน้าตรงข้ามกับอาจารย์.....อ.เผ่า applied
@ นี่ชั้นอยากมีคอร์ท วีดีโอ มั่งจังเลย.....อ.แกะ Nisit
@ ชั้นไปเจอพี่บีม มาด้วยแหละ เดี๋ยวจะเอารูปมาให้ดู.....อ.ชัยวิชิต Nisit
@ เอ้า นักเรียน ทางสถาบันของเรามี กาแฟ โอวันติน ไว้บริการด้วยนะค่ะ.....คุณป้า Nisit
@ วันนั้นชั้นไปเจอปิง บราเทอ ที่เซนทรัสมาด้วย.....อ.ชัยวิชิต Nisit
@ นี่กี่โมงกี่ยามแล้วจ๊ะ มาทำไมเอาป่านนี้.....อ.ชัยวิชิต Nisit
@ ถ้ามี เคมี อ.แกะ มั่งก็น่าจะดีเนอะ.....อ.แกะ Nisit
@ วันนี้น่ารักมากมาย.....อ.ชัยวิชิต Nisit
@ ท่าทางน้องๆจะก๊งกันแล้ว.....พี่จ๋า Nisit
@ เมื่อคืนใครดูบอลมั่ง.....พี่เบียร์ Nisit
"สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องไปปั่นเอาเอง"
- Basketman
- Verified User
- โพสต์: 1208
- ผู้ติดตาม: 0
ขำขำ คลายเครียด
โพสต์ที่ 141
ฮา..อันไหนติด"เรท"มากไปลบได้นะครับ.....
เหตุใด ชายหนุ่งถึงตายก่อนวัยอันควร
มีผู้หญิงคนหนึ่ง
ชอบสะสมอายุไว้เป็นเพื่อน แก้เหงา
และมีทรัพย์สิน บ้าน ที่ดิน รถ รวมมูลค่าหลายสิบล้านบาท(สกุลเงินไทย )
ปีนี้เธอสะสมอายุไว้ได้ 80 ปีแล้ว
แต่ยังไม่มีชายสามารถชนะยายได้
วันหนึ่ง
ฝนไม่ตก และแดดไม่ออก แต่อากาศค่อนข้างหนาว
เธอก็นึกขึ้นมาได้ และรู้สึกว่า.....อยาก....
ใช่ เธออยากแต่งงาน
แล้วฝันเธอ ก็เป็นจริง
เมื่อมีชายหนุ่มอายุ ยี่สิบกว่า ๆ ( 27 ปี เห็นจะได้)
หน้าตาดี รู้สึกอยากแต่งงานเหมือนกัน
และ...อยากแต่งกับผู้หญิงที่ชอบสะสมอายุ ซะด้วย
ด้วยความหวัง กับทรัพย์สมบัติที่จะได้
มากกว่าอย่างอื่น (...)
วันแต่งงานเกิดขึ้น
วันนั้นฝนตกตอนเช้า และแดดออกตอนเย็น( จำได้)
ท่ามกลางความอิจฉาของสาว ๆ หลายต่อหลายคน
สองวันผ่านไป
มีคนพบศพชายที่หน้าตาดีคนดังกล่าว
หลายคนสงสัยว่า ทำไม
เค้าเป็นอะไรตาย
วันที่สามอ่านเจอในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง
มีรูปลงด้วย ( เอ๊ะ ...ผู้ชายคนนั้น นี่)
แพทย์ตรวจพบสาเหตุการตายเพราะ
" ดื่มนมหมดอายุ" :vm: :vm: :vm:
แม่ชี
แม่ชี (เมืองนอก) 4 คน รถคว่ำ ตายหมด
วิญญาณก็ขึ้นไปบนสวรรค์
แต่ก่อนเข้าประตูจะมีผู้พิพากษาเฝ้าประตูเพื่อพิจารณาโทษ
เมื่อแม่ชีมาถึง ผู้พิพากษาก็ถามว่า
"ถ้าลูกทำผิดอะไรก็สารภาพมา"
แม่ชีคนแรกก็เดินมาบอกว่า
"ลูกเคยเห็น....ไอ้นั่นของผู้ชาย"
ผู้พิพากษาก็ บอกว่า
"ลูกเห็นชามนั่นไม๊ ให้ก้มเอาตาแช่น้ำซะ แล้วจะขึ้นสวรรค์ได้"
แม่ชีคนที่สองก็เดินตามมา บอกว่า
"ลูกเคย......จับไอ้นั่นของผู้ชาย"
ว่าแล้ว ผู้พิพากษาก็บอกว่า "เอามือแช่น้ำในชามนั้นซะ"
แล้วก็ให้ขึ้นสวรรค์ไป
ทันใดนั้น แม่ชีคนที่สี่ก็พรวดพราดวิ่งชนแม่ชีคนที่สามซะกระเด็น
ผู้พิพากษาเห็นอย่างนั้น ก็ทักว่า
"ทำไมต้องรีบเร่งขนาดนั้นละ" แม่ชีคนที่สี่ก็ตอบว่า
"ขอให้ลูกได้ล้างปากก่อนยายนั่นล้างตูดเถิดเจ้าค่าาาาาาาา
เหตุใด ชายหนุ่งถึงตายก่อนวัยอันควร
มีผู้หญิงคนหนึ่ง
ชอบสะสมอายุไว้เป็นเพื่อน แก้เหงา
และมีทรัพย์สิน บ้าน ที่ดิน รถ รวมมูลค่าหลายสิบล้านบาท(สกุลเงินไทย )
ปีนี้เธอสะสมอายุไว้ได้ 80 ปีแล้ว
แต่ยังไม่มีชายสามารถชนะยายได้
วันหนึ่ง
ฝนไม่ตก และแดดไม่ออก แต่อากาศค่อนข้างหนาว
เธอก็นึกขึ้นมาได้ และรู้สึกว่า.....อยาก....
ใช่ เธออยากแต่งงาน
แล้วฝันเธอ ก็เป็นจริง
เมื่อมีชายหนุ่มอายุ ยี่สิบกว่า ๆ ( 27 ปี เห็นจะได้)
หน้าตาดี รู้สึกอยากแต่งงานเหมือนกัน
และ...อยากแต่งกับผู้หญิงที่ชอบสะสมอายุ ซะด้วย
ด้วยความหวัง กับทรัพย์สมบัติที่จะได้
มากกว่าอย่างอื่น (...)
วันแต่งงานเกิดขึ้น
วันนั้นฝนตกตอนเช้า และแดดออกตอนเย็น( จำได้)
ท่ามกลางความอิจฉาของสาว ๆ หลายต่อหลายคน
สองวันผ่านไป
มีคนพบศพชายที่หน้าตาดีคนดังกล่าว
หลายคนสงสัยว่า ทำไม
เค้าเป็นอะไรตาย
วันที่สามอ่านเจอในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง
มีรูปลงด้วย ( เอ๊ะ ...ผู้ชายคนนั้น นี่)
แพทย์ตรวจพบสาเหตุการตายเพราะ
" ดื่มนมหมดอายุ" :vm: :vm: :vm:
แม่ชี
แม่ชี (เมืองนอก) 4 คน รถคว่ำ ตายหมด
วิญญาณก็ขึ้นไปบนสวรรค์
แต่ก่อนเข้าประตูจะมีผู้พิพากษาเฝ้าประตูเพื่อพิจารณาโทษ
เมื่อแม่ชีมาถึง ผู้พิพากษาก็ถามว่า
"ถ้าลูกทำผิดอะไรก็สารภาพมา"
แม่ชีคนแรกก็เดินมาบอกว่า
"ลูกเคยเห็น....ไอ้นั่นของผู้ชาย"
ผู้พิพากษาก็ บอกว่า
"ลูกเห็นชามนั่นไม๊ ให้ก้มเอาตาแช่น้ำซะ แล้วจะขึ้นสวรรค์ได้"
แม่ชีคนที่สองก็เดินตามมา บอกว่า
"ลูกเคย......จับไอ้นั่นของผู้ชาย"
ว่าแล้ว ผู้พิพากษาก็บอกว่า "เอามือแช่น้ำในชามนั้นซะ"
แล้วก็ให้ขึ้นสวรรค์ไป
ทันใดนั้น แม่ชีคนที่สี่ก็พรวดพราดวิ่งชนแม่ชีคนที่สามซะกระเด็น
ผู้พิพากษาเห็นอย่างนั้น ก็ทักว่า
"ทำไมต้องรีบเร่งขนาดนั้นละ" แม่ชีคนที่สี่ก็ตอบว่า
"ขอให้ลูกได้ล้างปากก่อนยายนั่นล้างตูดเถิดเจ้าค่าาาาาาาา
"สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องไปปั่นเอาเอง"
- Basketman
- Verified User
- โพสต์: 1208
- ผู้ติดตาม: 0
ขำขำ คลายเครียด
โพสต์ที่ 142
เรื่องของกลิ่น
ปัจจุบันนี้...
รถเมล์ปรับอากาศมีกฎห้ามนำของมีกลิ่นขึ้นรถเด็ดขาด
บรรดาแม่ค้า พวกป้า ๆ อาซิ้มที่ไม่รู้เรื่อง
หรือไม่ทันอ่านประกาศที่ติดเอาไว้
หรืออ่านแล้วทำเป็นไม่สนใจ
จะถูกกระเป๋ารถเมล์ไล่ลงจากรถทุกทีที่ขึ้นมาบนรถ
เมื่อติดของที่ส่งกลิ่นแรงมาด้วย
ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจะสงสารหรือสมน้ำหน้าดี
จนกระทั่งวันหนึ่ง
วันนั้นผมขึ้นรถเมล์ปรับอากาศกลับบ้านตามปกติ
และเป็นคันที่ผมใช้บริการบ่อยที่สุด
แต่ท่าทางกระเป๋ารถเมล์จะไม่ถูกชะตากับผมเอาเสียเลย
มักทำหน้าบอกบุญไม่รับใส่ผมอยู่เรื่อย
จังหวะที่รถติดไฟแดง กระเป๋ารถเมล์มีท่าทีลุกลี้ลุกลน
ทำจมูกฟุตฟิต เดินผ่านไปผ่านมาแถวที่นั่งผมบ่อยครั้ง
สักพักผมเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกตินั้น
เมื่อกลิ่นอันไม่น่าพึงประสงค์โชยมาสัมผัสกับจมูกผม
"ใครตดกรุณาลงจากรถด้วย"
คำพูดของกระเป๋ารถเมล์ทำให้คนในรถสะดุ้ง
ทุกคนพากันหันรีหันขวาง
ทำอย่างกับช่วยกันตามหาเจ้าของกลิ่น
บ้างก็หัวเราะคิกคักเห็นเป็นเรื่องตลก
แต่ผมกลับหงุดหงิด รำคาญทั้งกลิ่น
และเจ้าของกลิ่นที่ไม่รู้จักสำรวมอัดอั้นเอาไว้บ้าง
เขาจะรู้ตัวบ้างไหมว่า
กำลังจะทำให้ผู้บริสุทธิ์คนหนึ่งต้องเดือดร้อน
ผมไม่ได้เป็นคนก่อกลิ่น
แต่กลิ่นนี้ล่ะกำลังสร้างปัญหาให้ผม
เพราะผมกำลังจะลงรถเมล์ป้ายหน้าพอดี!
ถึงตาคนแก่
เมื่อกระเป๋ารถเมย์ขี้เล่นรายหนึ่ง มาเจอวาทะของคนแก่เข้า เรื่องบนรถเมล์
จึงเกิดขึ้น.... ทุกครั้งที่รถเมล์จอดป้ายให้ผู้โดยสารขึ้น - ลง กระเป๋าขี้เล่น ก็จะตะโกน
บอกลูกพี่ตลอดเวลา... อย่างเช่นมีผู้โดยสาร (สตรี) ลงป้ายที่ 1
กระเป๋า : ลูกพี่จอดนิ่งๆ... ผู้หญิงจะลง
พอเลยมาป้ายที่ 2 ผู้หญิงหน้าตาสวย รูปร่างดี ยืนขึ้นเตรียมลง
กระเป๋า : ลูกพี่จอดด้วยๆ... คนสวยจะลง
พอมาถึงป้ายที่ 3 ผู้หญิงหน้าตาออกจีนๆ หน่อย ยืนขึ้นเตรียมลง
กระเป๋า : ลูกพี่ จอดสวยๆ... อาหมวยจะลง
คราวนี้ถึงป้ายที่ 4 คุณยายแก่ๆ ยืนขึ้นเพื่อเตรียมตัวลง
กระเป๋า : ร้องตะโกน
ลูกพี่ จอดแน่ๆ (ยังไม่ทันพูดต่อ)
คุณยายตะโกนสวนขึ้นมาทันที : ไม่ต้อง ไม่ต้อง กูบอกเอง
ลูกพี่ จอดแน่ๆ "แ ม่ มึ ง จะลง"
ปัจจุบันนี้...
รถเมล์ปรับอากาศมีกฎห้ามนำของมีกลิ่นขึ้นรถเด็ดขาด
บรรดาแม่ค้า พวกป้า ๆ อาซิ้มที่ไม่รู้เรื่อง
หรือไม่ทันอ่านประกาศที่ติดเอาไว้
หรืออ่านแล้วทำเป็นไม่สนใจ
จะถูกกระเป๋ารถเมล์ไล่ลงจากรถทุกทีที่ขึ้นมาบนรถ
เมื่อติดของที่ส่งกลิ่นแรงมาด้วย
ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจะสงสารหรือสมน้ำหน้าดี
จนกระทั่งวันหนึ่ง
วันนั้นผมขึ้นรถเมล์ปรับอากาศกลับบ้านตามปกติ
และเป็นคันที่ผมใช้บริการบ่อยที่สุด
แต่ท่าทางกระเป๋ารถเมล์จะไม่ถูกชะตากับผมเอาเสียเลย
มักทำหน้าบอกบุญไม่รับใส่ผมอยู่เรื่อย
จังหวะที่รถติดไฟแดง กระเป๋ารถเมล์มีท่าทีลุกลี้ลุกลน
ทำจมูกฟุตฟิต เดินผ่านไปผ่านมาแถวที่นั่งผมบ่อยครั้ง
สักพักผมเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกตินั้น
เมื่อกลิ่นอันไม่น่าพึงประสงค์โชยมาสัมผัสกับจมูกผม
"ใครตดกรุณาลงจากรถด้วย"
คำพูดของกระเป๋ารถเมล์ทำให้คนในรถสะดุ้ง
ทุกคนพากันหันรีหันขวาง
ทำอย่างกับช่วยกันตามหาเจ้าของกลิ่น
บ้างก็หัวเราะคิกคักเห็นเป็นเรื่องตลก
แต่ผมกลับหงุดหงิด รำคาญทั้งกลิ่น
และเจ้าของกลิ่นที่ไม่รู้จักสำรวมอัดอั้นเอาไว้บ้าง
เขาจะรู้ตัวบ้างไหมว่า
กำลังจะทำให้ผู้บริสุทธิ์คนหนึ่งต้องเดือดร้อน
ผมไม่ได้เป็นคนก่อกลิ่น
แต่กลิ่นนี้ล่ะกำลังสร้างปัญหาให้ผม
เพราะผมกำลังจะลงรถเมล์ป้ายหน้าพอดี!
ถึงตาคนแก่
เมื่อกระเป๋ารถเมย์ขี้เล่นรายหนึ่ง มาเจอวาทะของคนแก่เข้า เรื่องบนรถเมล์
จึงเกิดขึ้น.... ทุกครั้งที่รถเมล์จอดป้ายให้ผู้โดยสารขึ้น - ลง กระเป๋าขี้เล่น ก็จะตะโกน
บอกลูกพี่ตลอดเวลา... อย่างเช่นมีผู้โดยสาร (สตรี) ลงป้ายที่ 1
กระเป๋า : ลูกพี่จอดนิ่งๆ... ผู้หญิงจะลง
พอเลยมาป้ายที่ 2 ผู้หญิงหน้าตาสวย รูปร่างดี ยืนขึ้นเตรียมลง
กระเป๋า : ลูกพี่จอดด้วยๆ... คนสวยจะลง
พอมาถึงป้ายที่ 3 ผู้หญิงหน้าตาออกจีนๆ หน่อย ยืนขึ้นเตรียมลง
กระเป๋า : ลูกพี่ จอดสวยๆ... อาหมวยจะลง
คราวนี้ถึงป้ายที่ 4 คุณยายแก่ๆ ยืนขึ้นเพื่อเตรียมตัวลง
กระเป๋า : ร้องตะโกน
ลูกพี่ จอดแน่ๆ (ยังไม่ทันพูดต่อ)
คุณยายตะโกนสวนขึ้นมาทันที : ไม่ต้อง ไม่ต้อง กูบอกเอง
ลูกพี่ จอดแน่ๆ "แ ม่ มึ ง จะลง"
"สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องไปปั่นเอาเอง"
- Basketman
- Verified User
- โพสต์: 1208
- ผู้ติดตาม: 0
ขำขำ คลายเครียด
โพสต์ที่ 143
เรื่องเลวร้ายกลับกลายเป็นเรื่องร้ายกว่า
เรื่องร้าย: หนังสือโป๊หาย
ร้ายกว่า: ลูกสาวของคุณแอบหยิบไปดูกับแฟน
เรื่องร้าย: สามีของคุณแต่งกายแย่มาก
ร้ายกว่า: แต่เพื่อนยังชมว่าดูดีกว่าคุณ
เรื่องร้าย: ลูกสาวคุณเข้าร่วมพิธีบูชาซาตาน
ร้ายกว่า: ในฐานะผู้ถูกบูชายัญ
เรื่องร้าย: ภริยาฟ้องหย่าจากคุณ
ร้ายกว่า: พี่ชายเธอเป็นผู้พิพากษา
เรื่องร้าย: สามีคุณหนีออกจากบ้าน
ร้ายกว่า: ไปกับคู่ขารูปหล่อ
เรื่องร้าย: ลูกน้องที่ทำงานถูกจับกุมข้อหาเสพยาบ้า
ร้ายกว่า: เขาสารภาพว่าซื้อจากคุณ
เรื่องร้าย: มีคนเห็นคุณเริงสวาท กับชายหนุ่มในพุ่มไม้
ร้ายกว่า: คนที่เห็นคือสามีคุณ
เรื่องร้าย: เลขานุการของคุณบอก "ก็ได้ค่ะ"
ร้ายกว่า: ภริยาของคุณบอก "ห้ามเด็ดขาด"
เรื่องร้าย: คุณครูชอบลูกชายคุณมาก
ร้ายกว่า: คุณครูเป็นเกย์
เรื่องร้าย: คุณเจอวีดีโอหนังโป๊ในห้องลูกชายคุณ
ร้ายกว่า: มีภาพคุณแสดงในนั้นด้วย
เรื่องร้าย: ลูกสาวคุณมีอะไรกับหนุ่มข้างบ้าน
ร้ายกว่า: ทุกคน
เรื่องร้าย: คุณลุงทิ้งมรดกเป็นรถเก๋งซอมซ่อ
ร้ายกว่า: ให้คุณผ่อนต่อ
เรื่องร้าย: ลูกสาวของคุณไม่ยอมแต่งงาน
ร้ายกว่า: เธอรอหญิงในฝัน
เรื่องดี: คุณมีโอกาสหลบงานมาเล่นจ้ำจี้ที่บ้านตอนกลางวัน
เรื่องร้าย: ภริยาคุณกลับมาพอดี
เรื่องดี: บริษัทหยุดพิเศษประจำปี 4 วัน
เรื่องร้าย: คุณท้องเสียตลอดวันหยุด
เรื่องดี: คุณได้รับตั๋วชมระบำโป๊แถวหน้า
เรื่องร้าย: ลูกสาวคุณเป็นดารานำ
เรื่องดี: ลูกสาวคุณรู้จักวิธีคุมกำเนิดอย่างดี
เรื่องร้าย: เธอกินยาคุมทุกวันทั้งที่เพิ่งอายุสิบสี่
ณ ลานประหาร
ณ ลานประหาร...
นักศึกษาชายชาวอเมริกัน 3 คน เดินทางไปเที่ยวที่แม็กซิโก
ในคืนวันหนึ่งทั้ง 3 คน ดื่มเหล้าในบาร์หนักไปหน่อย
พอตอนเช้า ก็พบว่าทั้ง 3 คน ติดอยู่ในคุกและโดนตัดสินประหารชีวิตไปเรียบร้อย
แต่ทั้ง 3 คนไม่มีใครจำได้ว่าไปทำอะไรมาบ้างเนื่องจากเมาจัด
เลยเชื่อว่าตัวเองไม่ได้ทำผิด
พอถึงวันประหารหลังจากที่นักศึกษาคนแรกถูกนำเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ไฟฟ้า
เขาก็พูดสั่งเสียออกมาว่า
"ผมเป็นนักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยแถบแกรนด์แคนยอน
ผมเชื่อในพลังของพระเจ้าและเชื่อว่าพระเจ้าจะเข้าข้างผู้บริสุทธิ์"
พอสิ้นเสียงเจ้าหน้าที่ก็สับสวิทช์เก้าอี้ไฟฟ้า ปรากฎว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เจ้าหน้าที่เลยเชื่อว่าพระเจ้าไม่ต้องการให้นักศึกษาคนนี้ตายจึงปล่อยตัวไป
เสร็จแล้วนักศึกษาคนที่ 2 ก็ถูกนำมานั่งเก้าอี้ไฟฟ้า
แต่ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสับสวิทช์ไฟ นักศึกษาคนที่ 2 ก็กล่าวมาว่า
"ผมเป็นนักศึกษากฏหมายอยู่ที่ มหาวิทยาลัยอริโซน่า
ผมเชื่อว่ากฏหมายอันศักดิสิทธิ์จะเข้าข้างผู้บริสุทธิ์เสมอ"
พูดจบเจ้าหน้าที่ก็สับสวิทช์ทันทีปรากฏว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เจ้าหน้าที่เชื่อว่ากฏหมายอันศักดิสิทธิ์ไม่ต้องการให้ชายผู้นี้ตายก็เลยยอมปล่อยตัวไป
หลังจากนั้นพอนักศึกษาคนที่ 3
ถูกนำมานั่งเก้าอี้ไฟฟ้าเขาก็กล่าวว่า
"ผมเป็นนักศึกษาวิศวะไฟฟ้าที่มหาวิทยาลัย(ขอสงวนสิทธิ์ไม่เอ่ยนามสถาบัน)
และผมจะขอบอกพวกคุณว่าถ้าพวกคุณไม่ต่อสายไฟ 2 เส้นที่ขาดอยู่นั้นเข้าด้วยกัน
ไอ้เก้าอี้ไฟฟ้าตัวนี้ก็จะไม่มีวันใช้การได้"
หลังจากนั้นอีก 5 นาที วิญญานของนักศึกษาคนที่ 3 ก็ไปสู่สุขคติ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา
แต่สุดท้าย...รู้รักษาตัวรอดน่าจะเป็นยอดดีกว่า มั้ง
เรื่องร้าย: หนังสือโป๊หาย
ร้ายกว่า: ลูกสาวของคุณแอบหยิบไปดูกับแฟน
เรื่องร้าย: สามีของคุณแต่งกายแย่มาก
ร้ายกว่า: แต่เพื่อนยังชมว่าดูดีกว่าคุณ
เรื่องร้าย: ลูกสาวคุณเข้าร่วมพิธีบูชาซาตาน
ร้ายกว่า: ในฐานะผู้ถูกบูชายัญ
เรื่องร้าย: ภริยาฟ้องหย่าจากคุณ
ร้ายกว่า: พี่ชายเธอเป็นผู้พิพากษา
เรื่องร้าย: สามีคุณหนีออกจากบ้าน
ร้ายกว่า: ไปกับคู่ขารูปหล่อ
เรื่องร้าย: ลูกน้องที่ทำงานถูกจับกุมข้อหาเสพยาบ้า
ร้ายกว่า: เขาสารภาพว่าซื้อจากคุณ
เรื่องร้าย: มีคนเห็นคุณเริงสวาท กับชายหนุ่มในพุ่มไม้
ร้ายกว่า: คนที่เห็นคือสามีคุณ
เรื่องร้าย: เลขานุการของคุณบอก "ก็ได้ค่ะ"
ร้ายกว่า: ภริยาของคุณบอก "ห้ามเด็ดขาด"
เรื่องร้าย: คุณครูชอบลูกชายคุณมาก
ร้ายกว่า: คุณครูเป็นเกย์
เรื่องร้าย: คุณเจอวีดีโอหนังโป๊ในห้องลูกชายคุณ
ร้ายกว่า: มีภาพคุณแสดงในนั้นด้วย
เรื่องร้าย: ลูกสาวคุณมีอะไรกับหนุ่มข้างบ้าน
ร้ายกว่า: ทุกคน
เรื่องร้าย: คุณลุงทิ้งมรดกเป็นรถเก๋งซอมซ่อ
ร้ายกว่า: ให้คุณผ่อนต่อ
เรื่องร้าย: ลูกสาวของคุณไม่ยอมแต่งงาน
ร้ายกว่า: เธอรอหญิงในฝัน
เรื่องดี: คุณมีโอกาสหลบงานมาเล่นจ้ำจี้ที่บ้านตอนกลางวัน
เรื่องร้าย: ภริยาคุณกลับมาพอดี
เรื่องดี: บริษัทหยุดพิเศษประจำปี 4 วัน
เรื่องร้าย: คุณท้องเสียตลอดวันหยุด
เรื่องดี: คุณได้รับตั๋วชมระบำโป๊แถวหน้า
เรื่องร้าย: ลูกสาวคุณเป็นดารานำ
เรื่องดี: ลูกสาวคุณรู้จักวิธีคุมกำเนิดอย่างดี
เรื่องร้าย: เธอกินยาคุมทุกวันทั้งที่เพิ่งอายุสิบสี่
ณ ลานประหาร
ณ ลานประหาร...
นักศึกษาชายชาวอเมริกัน 3 คน เดินทางไปเที่ยวที่แม็กซิโก
ในคืนวันหนึ่งทั้ง 3 คน ดื่มเหล้าในบาร์หนักไปหน่อย
พอตอนเช้า ก็พบว่าทั้ง 3 คน ติดอยู่ในคุกและโดนตัดสินประหารชีวิตไปเรียบร้อย
แต่ทั้ง 3 คนไม่มีใครจำได้ว่าไปทำอะไรมาบ้างเนื่องจากเมาจัด
เลยเชื่อว่าตัวเองไม่ได้ทำผิด
พอถึงวันประหารหลังจากที่นักศึกษาคนแรกถูกนำเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ไฟฟ้า
เขาก็พูดสั่งเสียออกมาว่า
"ผมเป็นนักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยแถบแกรนด์แคนยอน
ผมเชื่อในพลังของพระเจ้าและเชื่อว่าพระเจ้าจะเข้าข้างผู้บริสุทธิ์"
พอสิ้นเสียงเจ้าหน้าที่ก็สับสวิทช์เก้าอี้ไฟฟ้า ปรากฎว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เจ้าหน้าที่เลยเชื่อว่าพระเจ้าไม่ต้องการให้นักศึกษาคนนี้ตายจึงปล่อยตัวไป
เสร็จแล้วนักศึกษาคนที่ 2 ก็ถูกนำมานั่งเก้าอี้ไฟฟ้า
แต่ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสับสวิทช์ไฟ นักศึกษาคนที่ 2 ก็กล่าวมาว่า
"ผมเป็นนักศึกษากฏหมายอยู่ที่ มหาวิทยาลัยอริโซน่า
ผมเชื่อว่ากฏหมายอันศักดิสิทธิ์จะเข้าข้างผู้บริสุทธิ์เสมอ"
พูดจบเจ้าหน้าที่ก็สับสวิทช์ทันทีปรากฏว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เจ้าหน้าที่เชื่อว่ากฏหมายอันศักดิสิทธิ์ไม่ต้องการให้ชายผู้นี้ตายก็เลยยอมปล่อยตัวไป
หลังจากนั้นพอนักศึกษาคนที่ 3
ถูกนำมานั่งเก้าอี้ไฟฟ้าเขาก็กล่าวว่า
"ผมเป็นนักศึกษาวิศวะไฟฟ้าที่มหาวิทยาลัย(ขอสงวนสิทธิ์ไม่เอ่ยนามสถาบัน)
และผมจะขอบอกพวกคุณว่าถ้าพวกคุณไม่ต่อสายไฟ 2 เส้นที่ขาดอยู่นั้นเข้าด้วยกัน
ไอ้เก้าอี้ไฟฟ้าตัวนี้ก็จะไม่มีวันใช้การได้"
หลังจากนั้นอีก 5 นาที วิญญานของนักศึกษาคนที่ 3 ก็ไปสู่สุขคติ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา
แต่สุดท้าย...รู้รักษาตัวรอดน่าจะเป็นยอดดีกว่า มั้ง
"สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องไปปั่นเอาเอง"
- Basketman
- Verified User
- โพสต์: 1208
- ผู้ติดตาม: 0
ขำขำ คลายเครียด
โพสต์ที่ 144
นักโทษชั้นดี
เด็ก 2 คนติดคุกด้วยข้อหาเสพยาบ้าในโรงเรียน ในวันพิจารณาโทษศาลวินิจฉัยว่าเด็กทั้งสองนั้นยังเด็กอยู่มาก และเพิ่งกระทำผิดป็นครั้งแรก แถมยังหน้าตาดี
"ศาลขอสั่งให้เธอทั้งสองไปทำความดีในวันหยุดนี้เป็นการไถ่โทษ เนื่องจากศาลเห็นว่าเธอทั้ง 2 น่าจะมีอนาคตที่ดี ศาลขอสั่งให้เธอไปชักชวนคนที่ติดยาบ้าจงเลิกเสพเลิกขายไปตลอดชีวิต ได้ความว่าอย่างไร ให้กลับมารายงานตัวในวันจันทร์นี้ด้วย"
.....ในวันจันทร์
"ตกลงว่าเธอทั้งสองได้ไปทำอะไรบ้างตามคำสั่งศาล เอ้า จำเลยคนแรกมารายงานต่อศาล"
"เอ่อ..กระผมได้ไปเกลี้ยกล่อมคนติดยาบ้า 15 คนไห้เลิกเสพตลอดชีวิตเลยครับใต้เท้า"
"โอ้..amazing มาก แล้วเธอทำอย่างไรล่ะ เล่าให้ศาลฟังซิ"
"กระผมใช้แผนภาพครับผม" แล้วก็วาดวงกลมสองวง ใหญ่วง และวงเล็กๆอีก 1 วง (ชี้ไปที่วงกลมใหญ่ก่อน) "กระผมบอกว่า นี่เป็นขนาดสมองของพวกคุณก่อนเสพยาบ้า และนี่เป็นขนาดสมองของคุณหลังจากที่เสพยาบ้าแล้ว"
(ศาลตบมือด้วยความชื่นชม) "ดีมาก เอ้าแล้วจำเลยคนที่สองล่ะ เธอไปทำอะไรมาบ้างล่ะ"
"เอ่อ กระผมได้ไปชักชวนคนที่เสพยาบ้า 150 คนให้เลิกเสพไปตลอดชีวิตเลยครับผม"
(เสียงฮือฮาในศาล)...."โอ้ว...ศาลแปลกใจมาก เธอไปทำวิธีไหนล่ะ ถึงเกลี้ยกล่อมคนได้ตั้ง 150 คน"
"เอ่อ กระผมใช้วิธีคล้ายกันนี่แหละครับ" (ชี้ไปที่วงกลมเล็กๆ) "ผมพูดว่า นี่คือขนาดของรูตูดของคุณก่อนที่จะโดนจับเข้าคุก และนี่ขนาดของรูตูดเมื่อเข้าคุกไปแค่วันเดียว"
ระดับของการเมา
สถาบันด๊อกเตอร์มาร์ตินได้แบ่งระดับความเมาเหล้าของมนุษย์ไว้ 5 ระดับด้วยกัน คือ:
ระดับที่ 1: SMART (ฉลาด)
เมื่อคนดื่มเหล้าเข้าไปเมาจนถึงระดับนี้ซึ่งเป็นระดับแรกจะรอบรู้ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาล และมักจะชอบเผื่อแผ่ความรู้ให้ทุกๆ คนในบาร์ความเป็นจริงทุกอย่างในจักรวาลจะถูกนำออกมาเปิดเผยหมด ไม่ว่าใครจะพูดเรื่องอะไรคุณจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนั้นพอดิบพอดีและคุณจะรู้สึกว่าทุกๆ อย่างที่คนอื่นพูดมา จะเป็นเรื่องผิดไปหมด ไม่ตรงกับข้อมูลที่คุณมี จึงจะมีการเริ่มตั้งข้อโต้แย้งต่างๆกัน
ระดับที่ 2: GOOD LOOKING (ดูดี)
คุณจะเริ่มค้นพบว่า คุณมีรูปร่างหน้าตาที่ดูดีที่สุดในละแวกนั้น และทุกๆ คนเริ่มที่จะหันมาสนใจคุณ เพราะคุณดูดี แน่นอนคุณสามารถเดินไปคุยกับทุกๆ คนได้ทุกๆ เรื่องด้วย เพราะคุณทั้งดูดีและฉลาด
ระดับที่ 3: RICH (รวย)
เมื่อเมาถึงระดับนี้คุณจะค้นพบว่าตัวเองนั้นมีเงินมหาศาล คุณสามารถที่จะเลี้ยงเหล้าทุกคนในบาร์ได้ เพราะคุณมีเงินมหาศาล และถ้าใครพูดอะไรผิดหู คุณสามารถที่จะท้าพนันได้ทุกเรื่อง เพราะคุณยังฉลาดกว่าด้วย นอกจากนี้คุณยังดูดีมากๆด้วย
ระดับที่ 4: BULLET PROOF (คงกระพัน)
เมื่อเมาถึงระดับนี้ ตัวคุณจะมีวิชาคงกระพันแก่กล้ากว่าคนทั่วไป และพร้อมที่จะเข้าห้ำหั่นกับทุกๆ คนได้ เพราะไม่มีใครจะทำอันตรายคุณได้ คุณสามารถท้าพนันตีต่อยกับเพื่อนคุณก็ได้ และคุณก็ไม่กลัวแพ้ด้วย เพราะว่าคุณทั้งฉลาด, ทั้งดูดี, ทั้งรวยและต่อสู้เก่งระดับนักมวยอาชีพ
ระดับที่ 5: INVISIBLE (หายตัว)
ระดับความเมาสุดยอด คุณต้องดื่มมากจึงจะเมาถึงระดับนี้ได้ ด้วยความเมาที่ระดับนี้ คุณสามารถทำอะไรก็ได้ เพราะไม่มีใครเห็นคุณ, จะไปเต้นรำบนโต๊ะ, แหกปากร้องเพลงกลางถนน, ไล่ตีหัวคนอื่นก็ทำได้ เพราะไม่มีใครเห็นคุณ
แล้วคุณหล่ะ อยู่ในระดับที่เท่าไหร่...
เด็ก 2 คนติดคุกด้วยข้อหาเสพยาบ้าในโรงเรียน ในวันพิจารณาโทษศาลวินิจฉัยว่าเด็กทั้งสองนั้นยังเด็กอยู่มาก และเพิ่งกระทำผิดป็นครั้งแรก แถมยังหน้าตาดี
"ศาลขอสั่งให้เธอทั้งสองไปทำความดีในวันหยุดนี้เป็นการไถ่โทษ เนื่องจากศาลเห็นว่าเธอทั้ง 2 น่าจะมีอนาคตที่ดี ศาลขอสั่งให้เธอไปชักชวนคนที่ติดยาบ้าจงเลิกเสพเลิกขายไปตลอดชีวิต ได้ความว่าอย่างไร ให้กลับมารายงานตัวในวันจันทร์นี้ด้วย"
.....ในวันจันทร์
"ตกลงว่าเธอทั้งสองได้ไปทำอะไรบ้างตามคำสั่งศาล เอ้า จำเลยคนแรกมารายงานต่อศาล"
"เอ่อ..กระผมได้ไปเกลี้ยกล่อมคนติดยาบ้า 15 คนไห้เลิกเสพตลอดชีวิตเลยครับใต้เท้า"
"โอ้..amazing มาก แล้วเธอทำอย่างไรล่ะ เล่าให้ศาลฟังซิ"
"กระผมใช้แผนภาพครับผม" แล้วก็วาดวงกลมสองวง ใหญ่วง และวงเล็กๆอีก 1 วง (ชี้ไปที่วงกลมใหญ่ก่อน) "กระผมบอกว่า นี่เป็นขนาดสมองของพวกคุณก่อนเสพยาบ้า และนี่เป็นขนาดสมองของคุณหลังจากที่เสพยาบ้าแล้ว"
(ศาลตบมือด้วยความชื่นชม) "ดีมาก เอ้าแล้วจำเลยคนที่สองล่ะ เธอไปทำอะไรมาบ้างล่ะ"
"เอ่อ กระผมได้ไปชักชวนคนที่เสพยาบ้า 150 คนให้เลิกเสพไปตลอดชีวิตเลยครับผม"
(เสียงฮือฮาในศาล)...."โอ้ว...ศาลแปลกใจมาก เธอไปทำวิธีไหนล่ะ ถึงเกลี้ยกล่อมคนได้ตั้ง 150 คน"
"เอ่อ กระผมใช้วิธีคล้ายกันนี่แหละครับ" (ชี้ไปที่วงกลมเล็กๆ) "ผมพูดว่า นี่คือขนาดของรูตูดของคุณก่อนที่จะโดนจับเข้าคุก และนี่ขนาดของรูตูดเมื่อเข้าคุกไปแค่วันเดียว"
ระดับของการเมา
สถาบันด๊อกเตอร์มาร์ตินได้แบ่งระดับความเมาเหล้าของมนุษย์ไว้ 5 ระดับด้วยกัน คือ:
ระดับที่ 1: SMART (ฉลาด)
เมื่อคนดื่มเหล้าเข้าไปเมาจนถึงระดับนี้ซึ่งเป็นระดับแรกจะรอบรู้ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาล และมักจะชอบเผื่อแผ่ความรู้ให้ทุกๆ คนในบาร์ความเป็นจริงทุกอย่างในจักรวาลจะถูกนำออกมาเปิดเผยหมด ไม่ว่าใครจะพูดเรื่องอะไรคุณจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนั้นพอดิบพอดีและคุณจะรู้สึกว่าทุกๆ อย่างที่คนอื่นพูดมา จะเป็นเรื่องผิดไปหมด ไม่ตรงกับข้อมูลที่คุณมี จึงจะมีการเริ่มตั้งข้อโต้แย้งต่างๆกัน
ระดับที่ 2: GOOD LOOKING (ดูดี)
คุณจะเริ่มค้นพบว่า คุณมีรูปร่างหน้าตาที่ดูดีที่สุดในละแวกนั้น และทุกๆ คนเริ่มที่จะหันมาสนใจคุณ เพราะคุณดูดี แน่นอนคุณสามารถเดินไปคุยกับทุกๆ คนได้ทุกๆ เรื่องด้วย เพราะคุณทั้งดูดีและฉลาด
ระดับที่ 3: RICH (รวย)
เมื่อเมาถึงระดับนี้คุณจะค้นพบว่าตัวเองนั้นมีเงินมหาศาล คุณสามารถที่จะเลี้ยงเหล้าทุกคนในบาร์ได้ เพราะคุณมีเงินมหาศาล และถ้าใครพูดอะไรผิดหู คุณสามารถที่จะท้าพนันได้ทุกเรื่อง เพราะคุณยังฉลาดกว่าด้วย นอกจากนี้คุณยังดูดีมากๆด้วย
ระดับที่ 4: BULLET PROOF (คงกระพัน)
เมื่อเมาถึงระดับนี้ ตัวคุณจะมีวิชาคงกระพันแก่กล้ากว่าคนทั่วไป และพร้อมที่จะเข้าห้ำหั่นกับทุกๆ คนได้ เพราะไม่มีใครจะทำอันตรายคุณได้ คุณสามารถท้าพนันตีต่อยกับเพื่อนคุณก็ได้ และคุณก็ไม่กลัวแพ้ด้วย เพราะว่าคุณทั้งฉลาด, ทั้งดูดี, ทั้งรวยและต่อสู้เก่งระดับนักมวยอาชีพ
ระดับที่ 5: INVISIBLE (หายตัว)
ระดับความเมาสุดยอด คุณต้องดื่มมากจึงจะเมาถึงระดับนี้ได้ ด้วยความเมาที่ระดับนี้ คุณสามารถทำอะไรก็ได้ เพราะไม่มีใครเห็นคุณ, จะไปเต้นรำบนโต๊ะ, แหกปากร้องเพลงกลางถนน, ไล่ตีหัวคนอื่นก็ทำได้ เพราะไม่มีใครเห็นคุณ
แล้วคุณหล่ะ อยู่ในระดับที่เท่าไหร่...
"สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องไปปั่นเอาเอง"
- Basketman
- Verified User
- โพสต์: 1208
- ผู้ติดตาม: 0
ขำขำ คลายเครียด
โพสต์ที่ 145
ไก่กรูเป็นเกย์
ชาวไร่คนหนึ่งตัดสินใจว่าได้เวลาที่จะซื้อพ่อไก่ตัวใหม่แล้ว
เพราะถึงแม้ว่าพ่อไก่ตัวเก่าจะยังทำหน้าที่ได้ดี
อยู่แต่มันก็มีอายุมากแล้ว
และการที่จะมีพ่อไก่ตัวใหม่อีกสักตัวก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร
ดังนั้นเมื่อได้พ่อไก่หนุ่มมา
เขาก็เอามันไปปล่อยไว้ในเล้าไก่ร่วมกับแม่ไก่อีกหลายตัวและพ่อไก่แก่ตัวเดิม
พ่อไก่แก่เห็นพ่อไก่หนุ่มผู้มาใหม่
มันรู้สึกกังวลถึงอนาคตของตัวเอง
ดูท่า เขาจะเอามันมาแทนเราแน่
มันคิดสงสัยต้องทำอะไรสักอย่าง
มันเดินไปหาพ่อไก่หนุ่มแล้วพูด
"ไง ไอ้หน้าใหม่ แกคงคิดว่าแกแน่ล่ะสิ
ถึงข้าจะแก่แต่ข้าก็ยังคิดว่าข้ายังแน่กว่าแก
แน่จริงมาแข่งวิ่งรอบเล้ากันไหมล่ะ
ถ้าแกวิ่งรอบเล้าได้ครบสิบรอบก่อนข้า
แกเอาพวกสาวๆพวกนี้ไปได้หมดเลย"
พ่อไก่หนุ่มมั่นใจมาก
มันคิดว่าพ่อไก่แก่นี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อด้วยซ้ำ
"ได้เลย" มันตอบ
"แต่อย่างลุงนี่
ผมต่อให้ก่อนครึ่งรอบ ผมยังชนะสบายเลย"
ดังนั้นทั้งสองตัวจึงเริ่มวิ่งแข่งกัน
พ่อไก่หนุ่มต่อให้พ่อไก่แก่ครึ่งรอบ
โดยมีแม่ไก่ทั้งเล้าเป็นกองเชียร์
หลังจากรอบแรก
พ่อไก่แก่ยังคงนำอยู่
พอรอบที่สองระยะนำเริ่มร่นลงมา
แต่พ่อไก่แก่ก็ยังฮึดสู้อยู่ แต่ว่า
แต่ละรอบที่ผ่านไประยะก็ร่นหเลือน้อยลงเรื่อยๆ
จนกระทั่งถึงรอบที่ห้าพ่อไก่แก่ก็นำพ่อไก่หนุ่มอยู่เพียงนิดเดียว
ตอนนั้นเอง
ชาวไร่ได้ยินเสียงวุ่นวายดังมาจากเล้าไก่
เขาคว้าปืนลูกซองแล้ววิ่งมาดู
เมื่อมาถึง
เขาเห็นพ่อไก่สองตัววิ่งไล่กันไปรอบๆเล้าไก่
โดยมีพ่อไก่แก่วิ่งนำอยู่
เขายกปืนลูกซองขึ้นมาเล็งแล้วยิงเปรี้ยง
พ่อไก่หนุ่มถูกยิงกระจุยอยู่ตรงนั้น
ชาวไร่หันหลังเดินกลับไปที่บ้านแล้วบ่นกับตัวเอง
เฮงซวยจริงๆ ซื้อพ่อไก่ตุ๊ดมาซะได้
แซวหนัง
spiderman...ผู้ชายลายแมงมุม
riding in cars with boys...ขับรถเล่นกับเด็กชายหลายคน
vanilla sky..ท้องฟ้าน่าอร่อย
the queen of the damned....ราชินีของคำพูดหยาบคาย
hannibal...ห่า-นี่-บ้า
true lies...สัจจะโกหก
The mummy returns : มัมมี่กลับมาแล้ว The Mummy Returns มัมมี่ตีวง
james bond : นักสืบหื่นกาม
Titanic - ชู้รักเรือล่ม
Titanic เรือล่มปากอ่าว
The story of us เรื่องของผมใครอย่ายุ่ง
The X-file รูปโป๊
Star wars ไอศกรีมรูปดาว
the matrix เลขคณิตคิดจนตาย
Psi เลขคณิตคิดจนตาย สอง
Perfect storm พายุคลั่ง
The X-men ผู้ชายขายรัก
Nothing Hill เขาหัวโล้น
Chinken run KFC รสชาดใหม่ วิ่ง เพื่อชีวิต
Mercury raising จันทร์ ฉาย
Deep Impact กระแทกลึก
as good as it get แค่นี้ก้อดีตาย อ่า แล้ว
Face off ออกนอกหน้า
Drive Me Crazy : ขับฉันอย่างบ้าคลั่ง
Con Air : แอร์ขอนแก่น
Runaway Bride : เจ้าสาวที่วิ่งหนี (ตามชู้) ไป
Runaway Bride --- วิ่งสิจ๊ะ..ชะนี
From Hell --- นรก...บ้านกรู
the lord of the ring --- อภินิหารแหวนทองเหลือง
Braveheart ใจกล้า(จังเลยพี่)
Fear กลัว(เหมือนกันแหละน้อง)
U-571 อู๊ !!! เลขเด็ด
Dr. dolittle คุณหมอทำเล็กๆ
never been kissed ยังไม่เคยโดน
never been kissed หนูอยากจังเลยค่ะ
il mare มารีป่วย(ill mare)
step mom ท่าเต้นของแม่(โอ้โฮ้ dance กระจาย)
scary movie กลัวโคตรๆ
sex and the city พัฒน์พงษ์
the powder ผู้ชายสไตรล์แคร์
babe โอ้ ที่รัก
mars attack ชวนกันซักผ้า
uve got mail ไม่ fwd mail ก็รูปโป๊
return of the jedi บักเจไดเลี้ยวรถ
harry potter ++เเฮรี่หน้าหม้อ
I know what you did last summer - ข้อยฮู้สูเฮ็ดอิหยังหน้าฮ้อนก่อน
I still know what you did last summer -ข้อยก็หยังฮู้สูเฮ็ดอิหยังหน้าฮ้อนก่อนสิ
Eyes Wide Shut : จะอายทำไม ก็เห็นอยู่ชัดๆ
A Beautiful Mind ใจดีจัง
Farewell to My Concubine เมียน้อยจ๋าผัวลาก่อน
Someone Like You คนอย่างแก
Friends เสี่ยว
The Parents Trap กับดักบุพการี
Braveheart ใจกล้าหน้าด้าน
The Scorpion King เจ้าพ่อแมงป่อง
The Thin Red Line เส้นเล็กเย็นตาโฟ
ชาวไร่คนหนึ่งตัดสินใจว่าได้เวลาที่จะซื้อพ่อไก่ตัวใหม่แล้ว
เพราะถึงแม้ว่าพ่อไก่ตัวเก่าจะยังทำหน้าที่ได้ดี
อยู่แต่มันก็มีอายุมากแล้ว
และการที่จะมีพ่อไก่ตัวใหม่อีกสักตัวก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร
ดังนั้นเมื่อได้พ่อไก่หนุ่มมา
เขาก็เอามันไปปล่อยไว้ในเล้าไก่ร่วมกับแม่ไก่อีกหลายตัวและพ่อไก่แก่ตัวเดิม
พ่อไก่แก่เห็นพ่อไก่หนุ่มผู้มาใหม่
มันรู้สึกกังวลถึงอนาคตของตัวเอง
ดูท่า เขาจะเอามันมาแทนเราแน่
มันคิดสงสัยต้องทำอะไรสักอย่าง
มันเดินไปหาพ่อไก่หนุ่มแล้วพูด
"ไง ไอ้หน้าใหม่ แกคงคิดว่าแกแน่ล่ะสิ
ถึงข้าจะแก่แต่ข้าก็ยังคิดว่าข้ายังแน่กว่าแก
แน่จริงมาแข่งวิ่งรอบเล้ากันไหมล่ะ
ถ้าแกวิ่งรอบเล้าได้ครบสิบรอบก่อนข้า
แกเอาพวกสาวๆพวกนี้ไปได้หมดเลย"
พ่อไก่หนุ่มมั่นใจมาก
มันคิดว่าพ่อไก่แก่นี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อด้วยซ้ำ
"ได้เลย" มันตอบ
"แต่อย่างลุงนี่
ผมต่อให้ก่อนครึ่งรอบ ผมยังชนะสบายเลย"
ดังนั้นทั้งสองตัวจึงเริ่มวิ่งแข่งกัน
พ่อไก่หนุ่มต่อให้พ่อไก่แก่ครึ่งรอบ
โดยมีแม่ไก่ทั้งเล้าเป็นกองเชียร์
หลังจากรอบแรก
พ่อไก่แก่ยังคงนำอยู่
พอรอบที่สองระยะนำเริ่มร่นลงมา
แต่พ่อไก่แก่ก็ยังฮึดสู้อยู่ แต่ว่า
แต่ละรอบที่ผ่านไประยะก็ร่นหเลือน้อยลงเรื่อยๆ
จนกระทั่งถึงรอบที่ห้าพ่อไก่แก่ก็นำพ่อไก่หนุ่มอยู่เพียงนิดเดียว
ตอนนั้นเอง
ชาวไร่ได้ยินเสียงวุ่นวายดังมาจากเล้าไก่
เขาคว้าปืนลูกซองแล้ววิ่งมาดู
เมื่อมาถึง
เขาเห็นพ่อไก่สองตัววิ่งไล่กันไปรอบๆเล้าไก่
โดยมีพ่อไก่แก่วิ่งนำอยู่
เขายกปืนลูกซองขึ้นมาเล็งแล้วยิงเปรี้ยง
พ่อไก่หนุ่มถูกยิงกระจุยอยู่ตรงนั้น
ชาวไร่หันหลังเดินกลับไปที่บ้านแล้วบ่นกับตัวเอง
เฮงซวยจริงๆ ซื้อพ่อไก่ตุ๊ดมาซะได้
แซวหนัง
spiderman...ผู้ชายลายแมงมุม
riding in cars with boys...ขับรถเล่นกับเด็กชายหลายคน
vanilla sky..ท้องฟ้าน่าอร่อย
the queen of the damned....ราชินีของคำพูดหยาบคาย
hannibal...ห่า-นี่-บ้า
true lies...สัจจะโกหก
The mummy returns : มัมมี่กลับมาแล้ว The Mummy Returns มัมมี่ตีวง
james bond : นักสืบหื่นกาม
Titanic - ชู้รักเรือล่ม
Titanic เรือล่มปากอ่าว
The story of us เรื่องของผมใครอย่ายุ่ง
The X-file รูปโป๊
Star wars ไอศกรีมรูปดาว
the matrix เลขคณิตคิดจนตาย
Psi เลขคณิตคิดจนตาย สอง
Perfect storm พายุคลั่ง
The X-men ผู้ชายขายรัก
Nothing Hill เขาหัวโล้น
Chinken run KFC รสชาดใหม่ วิ่ง เพื่อชีวิต
Mercury raising จันทร์ ฉาย
Deep Impact กระแทกลึก
as good as it get แค่นี้ก้อดีตาย อ่า แล้ว
Face off ออกนอกหน้า
Drive Me Crazy : ขับฉันอย่างบ้าคลั่ง
Con Air : แอร์ขอนแก่น
Runaway Bride : เจ้าสาวที่วิ่งหนี (ตามชู้) ไป
Runaway Bride --- วิ่งสิจ๊ะ..ชะนี
From Hell --- นรก...บ้านกรู
the lord of the ring --- อภินิหารแหวนทองเหลือง
Braveheart ใจกล้า(จังเลยพี่)
Fear กลัว(เหมือนกันแหละน้อง)
U-571 อู๊ !!! เลขเด็ด
Dr. dolittle คุณหมอทำเล็กๆ
never been kissed ยังไม่เคยโดน
never been kissed หนูอยากจังเลยค่ะ
il mare มารีป่วย(ill mare)
step mom ท่าเต้นของแม่(โอ้โฮ้ dance กระจาย)
scary movie กลัวโคตรๆ
sex and the city พัฒน์พงษ์
the powder ผู้ชายสไตรล์แคร์
babe โอ้ ที่รัก
mars attack ชวนกันซักผ้า
uve got mail ไม่ fwd mail ก็รูปโป๊
return of the jedi บักเจไดเลี้ยวรถ
harry potter ++เเฮรี่หน้าหม้อ
I know what you did last summer - ข้อยฮู้สูเฮ็ดอิหยังหน้าฮ้อนก่อน
I still know what you did last summer -ข้อยก็หยังฮู้สูเฮ็ดอิหยังหน้าฮ้อนก่อนสิ
Eyes Wide Shut : จะอายทำไม ก็เห็นอยู่ชัดๆ
A Beautiful Mind ใจดีจัง
Farewell to My Concubine เมียน้อยจ๋าผัวลาก่อน
Someone Like You คนอย่างแก
Friends เสี่ยว
The Parents Trap กับดักบุพการี
Braveheart ใจกล้าหน้าด้าน
The Scorpion King เจ้าพ่อแมงป่อง
The Thin Red Line เส้นเล็กเย็นตาโฟ
"สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องไปปั่นเอาเอง"
- Basketman
- Verified User
- โพสต์: 1208
- ผู้ติดตาม: 0
ขำขำ คลายเครียด
โพสต์ที่ 146
ถ้าคุณได้เป็นนางเอก ละครไทย
1.หมั่นซ้อมบทผู้ชายไว้
คุณอาจต้องปลอมตัว
2.ทุกคนจะโง่ไม่รู้ว่าคุณเป็นหญิง
ทั้งที่นมตูมและคิ้วบางขนาดนั้น
3.ถ้าเป็นสาวแก่น
จ้องนายอำเภอหรือปลัดไว้ นั่นล่ะพระเอก
4.คุณจะเกิดมาเพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติและชาติตระกูล
ถ้าไม่ใช่อย่ากังวล สุดท้ายคุณจะเป็นทายาทหรือได้ผัวรวย
5.นอกจากบทผู้ชายแล้วให้ซ้อมบทคนใช้ไว้
เพราะคุณอาจต้องปลอมตัวเพื่อ
สืบอะไรบางอย่าง/ทำวิทยานิพนธ์/เขียนบทละคร/หาชาติกำเนิด
6.คุณบางคนอาจเติบโตมาในซ่อง
แต่ไม่เป็นไรคุณจะบริสุทธิ์ผุดผ่องและใฝ่ดีอยู่เสมอ
7.ถ้าผู้ร้ายปล้ำอย่าตกใจ
เดี๋ยวพระเอกจะมาช่วยเอง
ไม่ยุติธรรมนี่นา
หนุ่มหนึ่งไปเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน..พอผัวเขารู้เข้า หนุ่มก็ถูกยิงตาย
ในการพิพากษาในนรก....!
มัจจุราช--- เจ้าเป็นชู้ สมสู่กับเมียชาวบ้าน.. ถูกลงโทษปีนต้นงิ้วเป็น
เวลา10 ปีนรก... เจ้าจะยอมรับหรือไม่
หนุ่ม--- ยอมครับ.. จากนั้นหนุ่มก็ถูกยมทูตพาตัวไปปีนต้นงิ้ว..
ขณะที่กำลังเริ่มปีนอยู่นั้น หนุ่มก็แหงนไปเห็นหนุ่ม 4 คนกำลังรุมโทรม
หญิงนางหนึ่งอยู่ข้างๆ ต้นงิ้ว..ด้วยความสงสัย หนุ่มจึงหันไปถามยมทูต..
หนุ่ม--- ท่านยมทูตครับ..พวกนั้นเขาทำผิดอะไร ถึงมีโทษเช่นนั้นครับ
ยมทูต--- อ๋อ! ความผิดเหมือนเจ้านั่นแหละ ผิดลูกผิดเมียชาวบ้านน่ะ.
หนุ่ม--- โอ้โห..งั้นก็ไม่ยุติธรรมสิครับ..ทำไมผมถึงต้องปีนต้นงิ้วด้วยล่ะ.
แต่ พวกนั้น. โห! สบายเลย..ผมขอเปลี่ยนเป็นแบบนั้นดีกว่า..
ยมทูต--- เอ๊ย! ไม่ได้ มันผิดระเบียบ..
หนุ่ม--- ถ้าไม่ได้..อืม! เดี๋ยวผมจะไปฟ้องท่านมัจจุราช.. แล้วท่านจะหนาว
ยมทูต--- เออๆๆ..ข้ายอมเอ็งแล้ว..
พลางท่านยมทูตหันไปพูดกับหนุ่มพวกนั้น..
ยมทูต--- เอ๊ยๆ..พวกเอ็ง
เลิกข่มขืนนางนั่นได้แล้ว..เอานางนั่นไปปีนต้นงิ้ว
แล้วพวกเอ็งมารุมข่มขืนไอ้นี่แทน..มันขอข้าว่ะ ผั๊บผ่าสิ.!
ไทย vs พม่า
ชาวไทยครับ พม่า เป็นประเทศที่ฉลาดกว่าไทยจริงๆ?
ด้านการค้า
ไทยส่งสินค้าไปขาย พม่าส่งยาบ้าเข้ามาขาย กำไรกว่า
ได้เปรียบดุลการค้ามหาศาล
แถมยังเป็นบ่อนทำลายกำลังพลของไทยด้วย
ด้านการทหาร
ไทยส่งหน่วยสอดแนม เข้าไปพม่า 20 คน
พม่าส่งหน่วยจารกรรม สอดแนม มาเป้นคนงาน กว่า 600,000 คน
เข้าไปทั่วทุกจังหวัดของประเทศไทย แม้กระทั้งในคุก
ด้านการลงทุน
นักธุรกิจไทยนำเงินและวิชาการบริหารไปให้พม่าฟรีๆ
เพียงแต่พม่าให้เช่าที่ดินทำบ่อนการพนันเท่านั้น
การต่างประเทศ
พม่าอยู่เฉยๆ ไทยก็ต้องเข้าไปหา
ไปรายงานตัวเหมือนเป็นเมืองขึ้น
ถ้าไทยมีผู้นำคนใหม่
จะต้องรีบไปรายงายตัวกับพม่าเป็นประเทศแรก
ด้านประมง
ไทยส่งเรือไปจับปลาที่พม่า
ส่วนพม่าด้านเงินค้าสัมประทานฟรีๆ
แถมถ้าอยากได้ปลา ก็ส่งเรือรบมายึดเรือประมงไป
ได้ทั้งเงินค่าสัมประทาน
ได้ทั้งเรือ ได้ทั้งปลา ได้ทั้งลุกเรือชาวประมง
(อะไรจะฉลาดปานนั้น)
ด้านยุทธวิธีการรบ
ไทยยิงกระสุนไปที่พม่าหลายนัด ลงไปตกในพงหญ้า ป่าเขา
ส่วนพม่ายิงนัดเดียว ลงในเมือง
ไทยต้องสั่งปิดพรมแดนทันที
แทบจะยกธงขาวก็ว่าได้ ต้องอพยพชาวบ้านกันอุตลุด
ระส่ำระสายไม่เป็นอันได้หลับได้นอน และทำมาหากินกันเลย
แถมยังทำให้ไทยต้องกัดกันเองด้วย
เมื่อยแล้วครับ ... ขอพักก่อน มีอีกเยอะ ถ้าเรื่องซ้ำต้องขออภัยด้วยครับ 8)
1.หมั่นซ้อมบทผู้ชายไว้
คุณอาจต้องปลอมตัว
2.ทุกคนจะโง่ไม่รู้ว่าคุณเป็นหญิง
ทั้งที่นมตูมและคิ้วบางขนาดนั้น
3.ถ้าเป็นสาวแก่น
จ้องนายอำเภอหรือปลัดไว้ นั่นล่ะพระเอก
4.คุณจะเกิดมาเพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติและชาติตระกูล
ถ้าไม่ใช่อย่ากังวล สุดท้ายคุณจะเป็นทายาทหรือได้ผัวรวย
5.นอกจากบทผู้ชายแล้วให้ซ้อมบทคนใช้ไว้
เพราะคุณอาจต้องปลอมตัวเพื่อ
สืบอะไรบางอย่าง/ทำวิทยานิพนธ์/เขียนบทละคร/หาชาติกำเนิด
6.คุณบางคนอาจเติบโตมาในซ่อง
แต่ไม่เป็นไรคุณจะบริสุทธิ์ผุดผ่องและใฝ่ดีอยู่เสมอ
7.ถ้าผู้ร้ายปล้ำอย่าตกใจ
เดี๋ยวพระเอกจะมาช่วยเอง
ไม่ยุติธรรมนี่นา
หนุ่มหนึ่งไปเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน..พอผัวเขารู้เข้า หนุ่มก็ถูกยิงตาย
ในการพิพากษาในนรก....!
มัจจุราช--- เจ้าเป็นชู้ สมสู่กับเมียชาวบ้าน.. ถูกลงโทษปีนต้นงิ้วเป็น
เวลา10 ปีนรก... เจ้าจะยอมรับหรือไม่
หนุ่ม--- ยอมครับ.. จากนั้นหนุ่มก็ถูกยมทูตพาตัวไปปีนต้นงิ้ว..
ขณะที่กำลังเริ่มปีนอยู่นั้น หนุ่มก็แหงนไปเห็นหนุ่ม 4 คนกำลังรุมโทรม
หญิงนางหนึ่งอยู่ข้างๆ ต้นงิ้ว..ด้วยความสงสัย หนุ่มจึงหันไปถามยมทูต..
หนุ่ม--- ท่านยมทูตครับ..พวกนั้นเขาทำผิดอะไร ถึงมีโทษเช่นนั้นครับ
ยมทูต--- อ๋อ! ความผิดเหมือนเจ้านั่นแหละ ผิดลูกผิดเมียชาวบ้านน่ะ.
หนุ่ม--- โอ้โห..งั้นก็ไม่ยุติธรรมสิครับ..ทำไมผมถึงต้องปีนต้นงิ้วด้วยล่ะ.
แต่ พวกนั้น. โห! สบายเลย..ผมขอเปลี่ยนเป็นแบบนั้นดีกว่า..
ยมทูต--- เอ๊ย! ไม่ได้ มันผิดระเบียบ..
หนุ่ม--- ถ้าไม่ได้..อืม! เดี๋ยวผมจะไปฟ้องท่านมัจจุราช.. แล้วท่านจะหนาว
ยมทูต--- เออๆๆ..ข้ายอมเอ็งแล้ว..
พลางท่านยมทูตหันไปพูดกับหนุ่มพวกนั้น..
ยมทูต--- เอ๊ยๆ..พวกเอ็ง
เลิกข่มขืนนางนั่นได้แล้ว..เอานางนั่นไปปีนต้นงิ้ว
แล้วพวกเอ็งมารุมข่มขืนไอ้นี่แทน..มันขอข้าว่ะ ผั๊บผ่าสิ.!
ไทย vs พม่า
ชาวไทยครับ พม่า เป็นประเทศที่ฉลาดกว่าไทยจริงๆ?
ด้านการค้า
ไทยส่งสินค้าไปขาย พม่าส่งยาบ้าเข้ามาขาย กำไรกว่า
ได้เปรียบดุลการค้ามหาศาล
แถมยังเป็นบ่อนทำลายกำลังพลของไทยด้วย
ด้านการทหาร
ไทยส่งหน่วยสอดแนม เข้าไปพม่า 20 คน
พม่าส่งหน่วยจารกรรม สอดแนม มาเป้นคนงาน กว่า 600,000 คน
เข้าไปทั่วทุกจังหวัดของประเทศไทย แม้กระทั้งในคุก
ด้านการลงทุน
นักธุรกิจไทยนำเงินและวิชาการบริหารไปให้พม่าฟรีๆ
เพียงแต่พม่าให้เช่าที่ดินทำบ่อนการพนันเท่านั้น
การต่างประเทศ
พม่าอยู่เฉยๆ ไทยก็ต้องเข้าไปหา
ไปรายงานตัวเหมือนเป็นเมืองขึ้น
ถ้าไทยมีผู้นำคนใหม่
จะต้องรีบไปรายงายตัวกับพม่าเป็นประเทศแรก
ด้านประมง
ไทยส่งเรือไปจับปลาที่พม่า
ส่วนพม่าด้านเงินค้าสัมประทานฟรีๆ
แถมถ้าอยากได้ปลา ก็ส่งเรือรบมายึดเรือประมงไป
ได้ทั้งเงินค่าสัมประทาน
ได้ทั้งเรือ ได้ทั้งปลา ได้ทั้งลุกเรือชาวประมง
(อะไรจะฉลาดปานนั้น)
ด้านยุทธวิธีการรบ
ไทยยิงกระสุนไปที่พม่าหลายนัด ลงไปตกในพงหญ้า ป่าเขา
ส่วนพม่ายิงนัดเดียว ลงในเมือง
ไทยต้องสั่งปิดพรมแดนทันที
แทบจะยกธงขาวก็ว่าได้ ต้องอพยพชาวบ้านกันอุตลุด
ระส่ำระสายไม่เป็นอันได้หลับได้นอน และทำมาหากินกันเลย
แถมยังทำให้ไทยต้องกัดกันเองด้วย
เมื่อยแล้วครับ ... ขอพักก่อน มีอีกเยอะ ถ้าเรื่องซ้ำต้องขออภัยด้วยครับ 8)
"สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องไปปั่นเอาเอง"
-
- Verified User
- โพสต์: 1468
- ผู้ติดตาม: 0
เพราะแบบนี้ถึงควรลงทุนกะบริษัทแขกบ้างนิ อิ อิ
โพสต์ที่ 149
ชายอินเดียคนหนึ่งย้ายไปอยู่ที่มอนทรีล
เขาไปสมัครงานที่ห้างใหญ่แห่งหนึ่ง
ผู้จัดการถามเขาว่า:
" คุณเคยมีประสบการณ์ด้านการขายมาบ้างไม๊ ?"
เขาตอบว่า ตอนอยู่ที่บ้านเดิมเคยเป็นพนักงานขาย ผู้จัดการจึงรับเข้าทำงาน
" ยูมาเริ่มงานพรุ่งนี้เลยนะ หลังจากปิดร้าน
ไอจะลงมาตรวจ ว่ายูทำอะไรไปบ้าง แต่ ขอแนะนำอะไรหน่อยนะ
อย่างถ้าลูกค้ามาซื้อยาสีฟัน นายก็น่าจะแนะนำให้เขาซื้อแปรงสีฟัน
และครีมโกนหนวดไปด้วย อะไรประมาณนี้นะ เข้าใจไม๊ ?"
" ชัวร์ อีนี้ ฉานเข้าใจครับ"
การทำงานวันแรกแม้จะยากแต่แขกบ้าคนนี้ก็ผ่านมันมาได้
หลังจากปิดร้านผู้จัดการก็มาดู "เป็นไง ได้ลูกค้ากี่รายวันนี้? "
" อีนี้ รายเดียวขอรับ"ผู้จัดการร้องลั่น "หา !!!!! รายเดียวเองเหรอ?
รู้ไม๊ว่า ทั่วไปเค้า ขายกันได้เฉลี่ยวันละ20 หรือ 30
รายเชียวนะ....... ... แล้ว ยูขายได้เงินมาเท่าใหร่ฟะ "
ผู้จัดการเริ่มออกอาการไม่พอใจ ขนาดหนัก
แขกตอบว่า " 201,237 ดอลล่าร์ครับ" ผู้จัดการตกใจ "หา? 201,237 ดอลล่าร์
เหรอ?
" ท่าน" ขายอะไรให้เค้าไปน่ะ ?" ( สรรพนามเริ่มเปลี่ยนทันที)
" ทีแรกก็เบ็ดตกปลาขนาดเล็ก แล้วก็เบ็ดขนาดกลาง แล้วก็เบ็ดขนาดใหญ่
จากนั้นพอ ฉาน ถามเขาว่าจะไปตกปลาที่ไหน เขาตอบว่าจะไปที่ชายฝั่ง
ฉานเลยเสนอว่า เขาน่าจะมีเรือสักลำ เราเลยลงไปดูที่แผนกเรือ
แล้วก็ขายเรือ Chris เครื่องยนต์คู่ให้เขา
แล้วเขาก็บอกว่า สงสัยรถ Honda Civic ของเขาคงจะลากเรือลำนี้ไม่ ไหว
ฉานเลยพาเขาลงไป ที่แผนกรถยนต์แล้วก็ขาย TOYOTA LAND CRUISER 4X4
ให้เขาไปได้อีกคันครับ"
ผู้จัดการถามว่า:
" หมายความว่ามีชายคนนึงมาที่นี่เพื่อที่จะซื้อขอเบ็ดอันเดียว
แต่ท่านขายเรือกับรถกระบะให้เค้าได้งั้นเหรอ ?"
แขกก็ตอบว่า:
" โอ้ โนๆๆๆ อีนี้เปล่าครับ เปล่า เขาแค่มาซื้อผ้าอนามัยให้เมีย
แต่อีนี้ฉาน เลยบอกเขาว่า " ถ้างั้นไหนๆสุดสัปดาห์นี้
ยังไงนายก็ไม่ได้จู๋จี๋กะเมียแน่ๆ
ดังนั้น อีนี้ อย่าช้า ไปตกปลาดีกว่ามั้ง!! ... "
เขาไปสมัครงานที่ห้างใหญ่แห่งหนึ่ง
ผู้จัดการถามเขาว่า:
" คุณเคยมีประสบการณ์ด้านการขายมาบ้างไม๊ ?"
เขาตอบว่า ตอนอยู่ที่บ้านเดิมเคยเป็นพนักงานขาย ผู้จัดการจึงรับเข้าทำงาน
" ยูมาเริ่มงานพรุ่งนี้เลยนะ หลังจากปิดร้าน
ไอจะลงมาตรวจ ว่ายูทำอะไรไปบ้าง แต่ ขอแนะนำอะไรหน่อยนะ
อย่างถ้าลูกค้ามาซื้อยาสีฟัน นายก็น่าจะแนะนำให้เขาซื้อแปรงสีฟัน
และครีมโกนหนวดไปด้วย อะไรประมาณนี้นะ เข้าใจไม๊ ?"
" ชัวร์ อีนี้ ฉานเข้าใจครับ"
การทำงานวันแรกแม้จะยากแต่แขกบ้าคนนี้ก็ผ่านมันมาได้
หลังจากปิดร้านผู้จัดการก็มาดู "เป็นไง ได้ลูกค้ากี่รายวันนี้? "
" อีนี้ รายเดียวขอรับ"ผู้จัดการร้องลั่น "หา !!!!! รายเดียวเองเหรอ?
รู้ไม๊ว่า ทั่วไปเค้า ขายกันได้เฉลี่ยวันละ20 หรือ 30
รายเชียวนะ....... ... แล้ว ยูขายได้เงินมาเท่าใหร่ฟะ "
ผู้จัดการเริ่มออกอาการไม่พอใจ ขนาดหนัก
แขกตอบว่า " 201,237 ดอลล่าร์ครับ" ผู้จัดการตกใจ "หา? 201,237 ดอลล่าร์
เหรอ?
" ท่าน" ขายอะไรให้เค้าไปน่ะ ?" ( สรรพนามเริ่มเปลี่ยนทันที)
" ทีแรกก็เบ็ดตกปลาขนาดเล็ก แล้วก็เบ็ดขนาดกลาง แล้วก็เบ็ดขนาดใหญ่
จากนั้นพอ ฉาน ถามเขาว่าจะไปตกปลาที่ไหน เขาตอบว่าจะไปที่ชายฝั่ง
ฉานเลยเสนอว่า เขาน่าจะมีเรือสักลำ เราเลยลงไปดูที่แผนกเรือ
แล้วก็ขายเรือ Chris เครื่องยนต์คู่ให้เขา
แล้วเขาก็บอกว่า สงสัยรถ Honda Civic ของเขาคงจะลากเรือลำนี้ไม่ ไหว
ฉานเลยพาเขาลงไป ที่แผนกรถยนต์แล้วก็ขาย TOYOTA LAND CRUISER 4X4
ให้เขาไปได้อีกคันครับ"
ผู้จัดการถามว่า:
" หมายความว่ามีชายคนนึงมาที่นี่เพื่อที่จะซื้อขอเบ็ดอันเดียว
แต่ท่านขายเรือกับรถกระบะให้เค้าได้งั้นเหรอ ?"
แขกก็ตอบว่า:
" โอ้ โนๆๆๆ อีนี้เปล่าครับ เปล่า เขาแค่มาซื้อผ้าอนามัยให้เมีย
แต่อีนี้ฉาน เลยบอกเขาว่า " ถ้างั้นไหนๆสุดสัปดาห์นี้
ยังไงนายก็ไม่ได้จู๋จี๋กะเมียแน่ๆ
ดังนั้น อีนี้ อย่าช้า ไปตกปลาดีกว่ามั้ง!! ... "
..สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง..
-
- Verified User
- โพสต์: 1468
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ไม่รู้จะแปะที่ไหน (อีกแระ)
โพสต์ที่ 150
น่าอ่านอีกแหละ แต่ยาวววววมากๆ เลย
จากเบื่อหุ้น อ่านจะเบื่อบอร์ดไปเลย อิอิ
อาจารย์ที่เขียนก็คนเดิม "thaihypn"
มหกรรม พ่อแม่รังแกฉัน
หลายสิบราย ที่พ่อแม่พาลูกๆ มีตั้งแต่อายุ 12-13 ไปจนถึง 24-25 มาพบผม ขอให้ช่วยว่าทำไงให้พูดกันรู้เรื่อง ให้มีความรับผิดชอบ
และให้เรียนหนังสือเก่งๆ ให้กลับมาเป็นผู้เป็นคน ผมก็ช่วยได้บ้างช่วยไม่ได้บ้างตามแต่ว่าใครไปไกลเลยเถิดเกินแก้ไข
และบางทีพ่อแม่เป็นอย่างไรก็ได้ลูกอย่างนั้น หรือพ่อแม่บ่มเพาะนิสัยร้ายๆของลูกโดยที่ตัวเองไม่รู้
ต้องแก้ที่พ่อแม่ก่อนถึงจะแก้ลูกได้ แต่ถ้าพ่อแม่เองยังไม่ยอมรับ ว่าตัวเองนั่นแหละเป็นต้นเหตุของปัญหา ก็ได้แต่กลุ้มใจแทนลูก
ว่ามีกรรมโดยแท้ที่เกิดมาได้พ่อแม่อย่างนี้
เด็กชายอารมณ์เอ็กซ์
รายแรกเป็นเด็กชายวัย 11 ปี โดนไล่ออกมาแล้ว 3 โรงเรียน เพราะชอบบู๊ และทำผิดซ้ำซากไม่รู้จักหลาบจำ
ครั้งแรกฉุดนักเรียนหญิงเข้าไปขังในห้องน้ำ (ไม่รู้ว่าตั้งใจจะทำอะไร) เผอิญคนเห็นกันเยอะเลยไปช่วยนักเรียนหญิงและ
จับตัวเด็กชายมาได้ พ่อแม่เขาจะเอาเรื่องอย่างหนัก โรงเรียนจึงไล่ออกทันที ครั้งที่สองจับกลุ่มตีกันกับเด็กในโรงเรียน
ตีครั้งแรกถูกภาคฑัณฑ์ ยังไม่ข้ามเดือนไปตีกันอีก จึงโดนไล่ออก ครั้งสุดท้ายไปเปิดกระโปรงนักเรียนหญิง
เผอิญที่โรงเรียนเดียวกันก็มีนักเรียนคนหนึ่งที่มีพฤติกรรมคล้ายกัน คือชอบไปเปิดกระโปรงนักเรียนหญิง เด็กบอกว่าจิตใจไม่ได้นึกอะไร
แต่พอเห็นนักเรียนหญิงนุ่งกระโปรงแล้วอยากไปเปิดทุกที แม่พามาให้ผมสะกดจิตไป 3 ครั้ง แกบอกว่าเดี๋ยวนี้รู้สึกเฉยๆ
พ่อแม่รายนั้นเลยแนะนำให้แม่ของเด็กชายอายุ 11 ที่โดนไล่ออกให้มาหาพบบ้าง
รายนี้คุณแม่เลิกกับคุณพ่อตั้งแต่เด็กยังเล็กๆ คุณแม่หันไปคบทอมเป็นแฟน คุณแม่มีอารมณ์ขึ้นๆลงๆ ขี้โมโห เจ้าอารมณ์
และเลิกกับสามีเพราะสามีเป็นคนอารมณ์รุนแรง และชอบทำร้ายร่างกายลูกและภรรยา
เหล่านี้คือสิ่งที่ปลูกฝังและซึมซับเข้าในจิตใต้สำนึกของลูกชาย ทำไมลูกชายรู้สึกว้าเหว่โดยไม่รู้ตัว และเป็นคนก้าวร้าว
ขาดความยับยั้งช่างใจ ซึ่งทั้งหมดเกิดจากพฤติกรรมซ้ำซากที่เห็นและสัมผัสจากการใช้ชีวิตของผู้คนรอบข้าง คนที่เลี้ยงดู
เราใช้การสะกดจิตแก้ปัญหารายนี้อยู่ระยะหนึ่ง เห็นว่าเขามีความยับยั้งช่างใจเพิ่มมากขึ้น และตัวแม่สารภาพว่า
เพิ่งเข้าใจและเห็นจริงว่าตัวเองมีส่วนสำคัญกับอารมณ์และความรู้สึกของลูก เพราะพอลูกชายมีอารมณ์สงบ ก็จะเริ่มอยู่ติดบ้านมากขึ้น
ตัวแม่เสียอีกที่พอมีโอกาสอยู่ใกล้ลูกชายมากขึ้น กลับแสดงความฉุนเฉียวใส่ลูก คุณแม่รายนี้จึงขอรับการสะกดจิต
เพื่อเรียนรู้วิธีการไปแก้ปัญหากับตัวเองบ้าง
จะประชดแม่จนตัวตายเลยหรือไง
รายที่สอง เป็นวัยรุ่น อายุ 17 ปี วันที่แม่พามาเจ้าตัวจะกลับบ้านท่าเดียว ญาติที่พามาด้วยล็อคประตูไม่ให้ออก
(พอดีห้องที่ผมจัดไว้ให้ ล็อคประตูจากด้านนอกได้) ทีนี้พ่อเลยถีบประตูหลายโครมเพื่อให้ได้ออกไป แม่เข้าไปห้ามถึงขนาดตะคอกแม่ว่า
xxxx กูบอกมึงแล้วไงว่ากูไม่คุยกับใครทั้งสิ้น อีxxx
แม่บอกว่า ลูกชายตอนเด็กๆน่ารัก หล่อด้วย เรียนเก่ง เคยถ่ายแบบโฆษณา จู่ๆ 2-3 ปีหลังก็เริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าว
ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ เมื่อวานเพิ่งต่อยกับพ่อ พ่อเป็นคนใจดี ลูกขออะไรก็ให้หมด อยากได้เงินอยากได้ของอะไรก็ให้ ไม่รู้จะทำไงแล้ว
ให้ไปเรียนก็ไม่ไปเรียน ตอนนี้ก็ห้ามไม่ให้ออกจากบ้าน กลัวไปคบเพื่อนไม่ดี (อื่นๆอีกมากมาย) ฯลฯ
คุณลูกชายก็ไม่มีทีท่าว่าอยากจะคุยกับผมเลย
มีประโยคหนึ่งที่ผมถามและเขาอึ้งไปพักใหญ่ คำถามนั้นก็คือ
ที่ทำอยู่นี้ประชดแม่อยู่หรือเปล่า
คนอายุ 17 ปี ย่อมรู้ว่าพฤติกรรมแบบไหนมีประโยชน์ต่อตัวเอง ไม่มีใครไม่อยากเป็นคนดี ไม่มีใครไม่อยากมีความสุขหรอก
คุณทำอย่างนี้คุณมีความสุขหรือ ไม่อยากแก้ปัญหาหรือ ต้องมีใครสักคนที่เราพอจะคุยได้ และสักทางที่จะแก้ปัญหาของเราได้
หลังจากเขานิ่งไปพักหนึ่ง ผมจึงบอกกับแม่ว่าขอผมอยู่กับลูกชาย ให้คุณแม่ออกไปก่อน คุณแม่ปฏิเสธ ลูกชายจึงเริ่มอาละวาด
มากขึ้น และจบลงด้วยผมต้องบอกให้กลับไป เพราะกลัวประตูพัง
หลังจากนั้นเธอก็แวะมาปรึกษา ผมบอกเธอตรงๆว่า
พูดตรงๆ พฤติกรรมของคนเราไม่มีคำว่าจู่ๆเป็นอย่างนั้นอย่างนี้หรอกครับ มีสาเหตุทั้งนั้น ส่วนใหญ่เกิดจากการเลี้ยงดู
ผมอยากบอกตรงๆว่า คุณแม่อาจเข้าใจไปเองว่าตอนเด็กๆทำไมลูกเป็นเด็กดี น่ารัก เรียนหนังสือเก่ง เชื่อฟังพ่อแม่
พอโตแล้วทำไมถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ เป็นเพราะว่าเราไม่เปิดโอกาสให้เขาแสดงความเป็นตัวตนของตัวเองให้เราเห็นหรือเปล่า
หรือเราพยายามที่จะไม่เห็นไม่มอง
ผมแนะนำคุณแม่ให้มาอบรม เพื่อเรียนรู้กระบวนการ และเข้าใจหลักการของจิต เพื่อสแวงหาวิธีที่เหมาะสมในการ
แก้ปัญหาลูกชายด้วยตัวเอง
เธอยอมมารับการอบรมด้วยดี เมื่อเข้าใจอะไรต่ออะไรแล้ว ก็ยอมรับกับผมว่า
หลังจากมาอบรมกับอาจารย์แล้ว ดิฉันยอมรับเลยว่าตัวเองเป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่อง เพราะทุกอย่างที่อาจารย์พูดและแสดง
ให้เห็นถึงต้นเหตุที่ทำให้ลูกเป็นคนมีปัญหา ดิฉันทำทุกข้อเลยค่ะ
ตอนนี้น้ำตาไหลเอ่อนองแก้มทั้งสอง
ดิฉันชอบเปรียบเทียบลูกชายกับลูกคนอื่นที่เก่งๆ เพราะเข้าใจว่าจะทำให้ลูกอยากเป็นคนเก่งบ้าง ดิฉันปิดบังอาจารย์ว่า
ครอบครัวมีความสุขดี จริงๆแล้วดิฉันกับสามีทะเลาะกันตั้งแต่ยังสาวๆ ตอนนั้นฉันชอบด่าว่าพ่อเด็กให้ลูกฟังเสมอ
เพราะคิดว่าลูกจะได้ไม่เอาอย่างพ่อ และก็เพื่อความสะใจด้วย ไม่ได้คิดว่าจะเป็นการสร้างปมลึกในใจของลูก
ฉันตะหวาดตะคอกลูกเป็นประจำ เพราะตัวเองก็โมโหง่าย อารมณ์เสียง่าย ฉันไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆ อาจารย์ขา
บอกฉันมาเถอะค่ะ จะทำยังไงถึงจะได้ลูกกลับมา ชีวิตทั้งชีวิตของฉันก็เพื่อลูกนี่แหละค่ะ ถ้าลูกชายยังเป็นอยู่อย่างนี้
ฉันคงมีความสุขไปไม่ได้ เงินทองที่ทำมาหากินมาอย่างเหนื่อยยากก็จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย
ทั้งเสียงและน้ำตา หลั่งไหล พรั่งพรู สั่นเครือ
ผมบอกเธอว่า โชคดีแล้ว ที่วันนี้เธอรู้และเข้าใจที่มาของปัญหา อย่างน้อยเราจะได้เริ่มได้ถูกทาง ผมแนะนำให้เธอย้อนรอยเดิม
และกลับไปทำและปฏิบัติต่อลูกเสียใหม่ในทางที่ถูกต้อง
สิ่งแรกคือ เริ่มที่ตัวเธอเอง จงฝึกฝนจนเป็นนิสัย ให้ตัวเอง สุขภาพจิตดี ยิ้มง่าย เป็นมิตร โมโหยาก และให้อภัยกับสิ่งต่างๆรอบตัว
แม้แต่ที่หลอกล่อให้ลูกมาพบผมก็จงเลิก เพราะเป็นการสร้างบรรยากาศของความไม่ไว้วางใจกัน ทำให้เกิดการต่อต้าน
และทำให้ลูกรู้สึกว่า แม่ไม่ให้เกียรติ แม่ปฏิบัติกับลูกเหมือนคนไม่มีสติปัญญา และแม่เป็นคนไว้ใจไม่ได้ เชื่อถือไม่ได้
จงยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น และส่งเสริมในสิ่งที่เขามี ให้อภัยกับความผิดพลาด สอนอย่างเมตตาในความไม่รู้
ใส่ใจเขาอย่างที่เขาเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง ให้เกียรติเขาในความเป็นตัวของตัวเองของเขา แล้วคุณจะเห็นความมหัศจรรย์
บังเกิดขึ้นกับตาอย่างแน่นอน อาจนานแรมเดือนหรือเป็นแรมปี คุณต้องอดทน
ผมมอบคัมภีร์แห่งการเลี้ยงลูกแก่เธอ
ให้บอกและพูดคุยกันตรงๆ ว่าทุกคนกำลังพยายามแก้ปัญหา เราผิดเราขอโทษลูก ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เราทำไม่ถูก
เราเปลี่ยนวิธีเสียใหม่ ไม่ใช่เรื่องเสียหน้า ลูกของเราถ้าไม่รักลูกอย่างถูกทาง และไม่ทำให้ลูกรักพ่อแม่อย่างถูกต้อง
แล้วชีวิตนี้จะมีอะไรที่ทรงคุณค่าที่จะทำอีก
เธอกล่าวขอบคุณทั้งน้ำตา บอกว่าจะพยายาม จะพยายามเป็นอย่างยิ่ง ผมสำทับว่าจงพยายามเถิด ผมเห็นมามากแล้ว
ลูกที่ยอมประชดพ่อแม่จนตัวตายมีถมไป
หลังจากนั้นอีกสามเดือนเศษ คุณแม่วัยกลางคนโทรมาหาผม บอกว่าเมื่อวาน ลูกชายวัย 17 เดินเข้ามากอดเธอด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก
น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ แต่มันเปื้อนไปด้วยความปิติระคนความขอบคุณจากเบื้องลึกของจิตใจ
รักนรกแฟนคลับ
อ๊อดเป็นเด็กชายวัย 13 ขวบ ติดเกมส์รักนรก (Ragnarok) คุณพ่อเป็นนายแพทย์ และมีภรรยาหลายคน คุณแม่เสียแล้ว
ตั้งแต่ตัวเองยังเด็กๆ พ่อมีลูกคนนี้ตอนอายุประมาณ 50 กว่าแล้ว จึงยกลูกให้ป้าซึ่งเป็นสาวโสดไม่มีสามีคอยเลี้ยงดู
อ๊อดการเรียนตกต่ำเมื่อเริ่มโตเป็นวัยรุ่น ติดร้านเล่นเกมส์จนสี่ห้าทุ่มถึงจะกลับบ้าน บางวันป้าต้องไปตามที่ร้านเกมส์
ป้าเลยซื้อคอมพิวเตอร์ให้ ด้วยหวังว่าหลานชายจะได้ไม่ต้องไปอยู่นอกบ้านทั้งวัน พฤติกรรมหลานชายจึงเปลี่ยนไป
คือเลิกเรียนแล้วรีบกลับบ้าน แต่ทีนี้หมกตัวอยู่แต่ในห้องนอน บางวันเลยเล่นเกมส์จนเช้า
รายนี้ผมถามว่าตอนเด็กๆปล่อยมากน้อยแค่ไหน ยกตัวอย่างเช่น เวลากลับมาจากโรงเรียนแล้วปล่อยให้นั่งดูทีวีจนสว่างหรือไม่
คุณป้าบอกใช่เลย เพราะสงสาร เห็นว่าไม่มีคุณแม่ เลยไม่อยากไปบังคับกะเกณฑ์ ให้รับผิดชอบเรื่องเรียนหนังสือ
อย่างเดียว พูดบอกทุกวันให้ขยันเรียนจะได้เก่งๆเหมือนพ่อเหมือนป้า และทุกๆคนในตระกูล
ผมบอกว่านี่คือสาเหตุหนึ่งของปัญหา ทั้งคุณพ่อและคุณป้าบอกว่าไม่น่าใช่
พวกฉัน (คุณพ่อและคุณป้า) ก็ถูกเลี้ยงมาอย่างนี้
ทำไมไม่เห็นเป็น
เดี๋ยวนี้ก้าวร้าวด้วยนะ เถียงป้า บางวันก็ว่าป้าแรงๆ กลับจากโรงเรียนไม่ยอมทักกัน
ผมได้ฟังก็อึ้ง อยากจะบอกว่าเพราะพ่อแม่ของคุณทั้งสองคงทำมาหากินไปเลี้ยงลูกไป บางทีการเลี้ยงดูลูกตามมีตามเกิด
ของคนสมัยก่อน กลับดีกว่าคนสมัยนี้ โดยเฉพาะชีวิตของพ่อและป้าไม่เหมือนลูกคนนี้ ที่พ่อไปทาง แม่ก็ตาย
มีป้าสาวแก่ที่คอยเลี้ยงหลาน สาวโสดอายุมากๆ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคงเลี้ยงหลานเหมือนลูกแหง่ และนั่งเฝ้าทุกลมหายใจ
ใครที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างนี้ อย่าว่าแต่คนเลย หมีแพนด้าก็ยังเครียด
อย่างไรผมก็ยังยืนยันว่าเกมส์รักนรกไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหา แต่มันก็เป็นตัวปัญหาอันหนึ่ง เราต้องแก้หรือกันที่ต้นเหตุ
ปัญหาก็จะไม่เกิด ปัญหาของเด็กคนนี้คือ ขาดระเบียบวินัย ขาดความรับผิดชอบ มีความเครียด ไม่รู้จะหาอะไรเป็นทางออก
จึงไปเล่นเกมส์เป็นทางออก
ขาดระเบียบวินัยและความรับผิดชอบ เพราะถูกเลี้ยงอย่างคุณหนูคุณชาย ไม่ต้องช่วยเหลือตัวเองอะไรเลย เสียงพ่อและป้า
พูดกรอกหูทุกวัน ว่าสนใจแต่เรื่องเรียนพอแล้ว อย่างอื่นไม่ต้องยุ่ง คำพูดแบบนี้ไม่ได้สร้างสรรค์อะไรเลย เป็นคำพูด
ที่จะสร้างผู้ใหญ่ที่มีแต่ความเศร้าในอนาคต เพราะชีวิตคนเรายุ่งแต่เรื่องเรียนอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเรียนรู้ความรับผิดชอบ
และการมีวินัยในตัวเองแต่ต้น ไม่ใช่นั่งรอให้พ่อแม่มาคอยกำกับ
ส่วนความเครียดของเขา มีหลายสาเหตุ การที่ไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพ่อแม่ลูกก็ประเด็นหนึ่ง การที่มีคุณป้าเลี้ยง
เลี้ยงแบบเซเว่นอีเลเว่น (นั่งเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง) ก็ประเด็นหนึ่ง
ธรรมชาติของคนเราเหมือนอากาศในลูกโป่ง มันต้องมีทางออก มันต้องมีที่ไป ไปบีบไปกดตรงนี้ มันก็จะไปปูดที่อื่น
ไม่มีวันควบคุมได้หรอก ถ้าบีบคั้นมากไปก็จะเกิดการระเบิด
อ๊อดถือว่ากำลังจะพ้นจากวัยเด็กมาเป็นวัยรุ่นแล้ว เขาเริ่มเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เริ่มที่จะเลือกว่าตัวเองจะมีชีวิตแบบไหน
เข้าสู่วัยที่ต้องการอิสระ วัยที่ต้องการการยอมรับ
คนเราต้องมีความเป็นตัวของตัวเอง ต้องแสดงบุคลิกลักษณะของตัวเอง การเลี้ยงดูนั้นทำได้อย่างมากก็สร้างไม้บรรทัด
ให้เดินตามเท่านั้น เขาจะเดินตามหรือไม่ก็เรื่องหนึ่ง ส่วนจะเดินช้าเดินเร็ว เดินกระเผลกหรือสง่าผ่าเผยไม่มีวันควบคุมได้หรอก
พ่อแม่ส่วนใหญ่จึงพยายามกระชากลากถูลูกของตัวเองให้เดินตาม หรือควบคุมบังคับให้เดินได้อย่างพ่อแม่ และก็พบว่า
ช่องว่างระหว่างความรักก็จะห่างกันมากขึ้นทุกที สร้างปมชีวิตให้ลูก ให้เป็นคนมีปัญหา เก็บกด แสดงออกพิลึก
เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่เขาก็จะทำซ้ำ สร้างเงื่อนไขเดิมๆกับลูกตัวเอง ในขณะเดียวกันก็นึกโกรธและทำร้ายตัวเอง ว่าทำไมไปทำร้ายจิตใจลูก
ได้ลงคอ เหมือนที่เคยถูกพ่อแม่ตัวเองทำร้ายจิตใจมาแล้วในวัยเด็ก
รายนี้ เวลาผมพูดอะไรประมาณว่าจะกระทบกับวิธีการเลี้ยงดูของคุณป้า สีหน้าของคุณพ่อก็ดูดีขึ้นมาหน่อยหนึ่ง
ทำให้ผมรู้สึกได้ ว่างานนี้คุณหมอขอยืมปากผมสอนพี่สาวตัวเอง
ผมใคร่ครวญแล้วก็คิดว่าเป็นไปได้สูงทีเดียว ประการแรกคนนี้เป็นป้าของเด็ก ประการที่สองฝากให้เลี้ยงลูกแต่เล็กจนโต
ก็มีบุญคุณกันโขอยู่ ประการที่สาม ลักษณะเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงกันทั้งบ้าน จะสอนกันเองคงลำบาก
มาให้คนแปลกหน้าสอนหน่อยเหอะ
ทุกครั้งที่คนกลุ่มนี้มาพบผม ผมจึงเบนเนื้อหาหลักอ บังอาจแนะนำคุณป้าถึงวิธีเลี้ยงหลาน เธอบอกว่าหลานเล่นเกมส์
จนไม่รู้จักกินจักนอน ผมบอกว่าไม่น่าเชื่อ ไม่มีใครเล่นเกมส์จนยอมอดตายหรอก เธอบอกว่าต้องเอาข้าวไปส่งถึงในห้องนอนทุกมื้อ
อีกชั่วโมงก็จะไปเก็บจานออกมา ถ้ากินไม่หมดก็จะนั่งเฝ้าบังคับให้กินจนหมด เวลานอนก็จะไปนั่งเฝ้าเซ้าซี้ให้นอน
มีหนหนึ่งคุณป้ากับหลานนั่งอยู่ด้วยกัน ผมถามหลานชายว่า
รู้มั้ย สบู่อยู่ไหน
หลานชายก็ทำหน้างง ผมจึงถามใหม่ว่า
ถ้าอาบน้ำอยู่แล้วสบู่หมด รู้มั้ย่ว่าจะไปหยิบตรงไหน
หลานชายบอกว่าไม่รู้ เพราะสบู่ไม่เคยหมดจากห้องน้ำ
ผมฟังอย่างนี้ก็บอกกับคุณป้าว่า
ไม่ต่างอะไรกับเด็กที่เพิ่งมีข่าวว่าเขายิ่งคนอื่นตายและฆ่าตัวตายหลังจากนั้น เพราะแม่บอกว่าลูกชายไม่รู้ว่าเม็ดฝรั่งหน้าตาเป็นยังไง
พ่อแม่ไม่เคยฝึกให้ลูกช่วยเหลือตัวเอง คิดเองทำเอง ใช้วิจารณญาณของตัวเอง รับผิดชอบตัวเอง สอนแต่วิธีบำรุงบำเรอ
ความสุขให้ตัวเอง ให้ลืมสภาพแวดล้อม ลืมความเป็นอยู่ เพราะพ่อแม่แสวงหาทุกอย่างมาให้ เมื่อได้ลูกที่โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่
ที่ไม่สมบูรณ์แล้ว ไม่ควรโทษใคร นอกจากโทษตัวเอง
ผมบอกคุณป้าหลังจากหลานชายไม่ได้นั่งตรงนั้นแล้ว
หลานอายุ 13 แล้ว ลองไม่ใส่ใจมันสัก 15 วันคิดว่าจะตายมั้ยครับ
คุณป้างง พร้อมถามผมว่า
หมายถึงใคร หลานจะตายเหรอ
เปล่า คุณป้านั่นแหละ ลองไม่ใส่ใจหลานดู คิดว่าคุณป้าจะตายมั้ยครับ
เธอทำสีหน้าเคืองจัด แต่ก็รักษาความเป็นผู้ดีมีมารยาท ถามผมว่า
อาจารย์จะให้เดี๊ยนทำไงคะ
ก็ปล่อยให้เล่นเกมส์ไปเรื่อยๆครับ มันหิวเดี๋ยวก็ออกมากินเองแหละ กับค่งกับข้าวไม่ต้องทำนะครับ จะให้ไปซื้อกิน
หรือคุณป้าจะให้หลานทำกินเองในครัวก็ได้ ถ้าเด็กมันจะเล่นเกมส์จนรุ่งเช้าไม่อาบน้ำอาบท่า ไม่ไปเรียนหนังสือก็ปล่อยมันครับ..
แต่อีกสิ่งต้องทำควบคู่กันไป อย่างเช่น พอเห็นหลานเดินออกมาจากครัว ก็ชวนกันทำกับข้าวสองป้าหลาน
หรือชวนกันออกไปกินข้าว ลงทุนหน่อยครับ มีฐานะอย่างนี้ พาแกไปกินดีๆแพงๆ เบี่ยงเบนแก หรือจะเรียกว่าเอาอย่างอื่นเข้าล่อก็ได้
กินข้าวเสร็จถามหลานว่าอยากเล่นกีฬาอะไรไหม ไปซื้อกัน ไม้ปิงปอง ไม้เทนนิส โรลเลอร์เบลด ซื้อไปเหอะ
อยู่ดีๆไปห้ามเล่นเกมส์อย่างเดียวไม่ได้หรอก ต้องหาอย่างอื่นมาทดแทนด้วย และให้แกได้มีสังคม ได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆ
ในโลกของความเป็นจริง จะออกจากบ้าน
เขาอยากได้อะไร อยากไปเที่ยวไหน ให้อยู่ในการตัดสินใจของเขา คุณป้าอย่าร่วมตัดสินใจ เพราะด้วยความเป็นเด็ก
เขาก็จะรู้สึกว่าถูกควบคุมอยู่ตลอดเวลา สู้ไปเล่นรักนรกไม่ได้ เพราะเขาได้เป็นนายตัวเอง มีโอกาสเลือกและเป็นอิสระ
มากกว่าอยู่ในชีวิตจริง
เธอทำสีหน้าเดือดดาลแต่ก็ยอมรับปากจนผมเองยังแปลกใจ เธอหายไป 2 สัปดาห์และกลับมาหาผมอีก
เดี๊ยนสงสารเค้า ไม่ถึงกับให้ออกไปซื้อข้าวกินเองหรอกนะคะ ก็ทำไว้ให้แล้วไปบอกว่าให้มาเอาข้าวในครัว ส่วนเรื่องปล่อยให้เล่น
ทำไม่ได้หรอกค่ะ เดี๊ยนนั่งเฝ้าเค้าทั้งวันทั้งคืนจะปล่อยให้เล่นทั้งวันทั้งคืนได้ยังไง
เธอบอกกับผม พร้อมทำสีหน้าประมาณว่า
เนี่ย พยายามอย่างสุดชีวิตแล้วนะ
ผมบอกกับเธอตรงๆว่า คนที่ควรใช้วิธีการสะกดจิตอีกคนก็คือคุณป้า จะได้ทำใจว่างๆ ดูหลานอยู่ห่างๆ ไม่ไปเจ้ากี้เจ้าการ
ในชีวิตเขามากจนเกินไป หากิจกรรมอย่างอื่นทำ ไม่ไปนั่งเฝ้าหลานตลอดเวลา แล้วเธอจะมีโอกาสได้เห็นความเปลี่ยนแปลง
แน่นอน ไม่ว่าจะความสัมพันธ์ระหว่างป้ากับหลาน หรือการเป็นคนรับผิดชอบตัวเองมากขึ้นของหลาน
เธอทำสีหน้าหงุดหงิดแล้วจากไป ไม่มาอีกเลย นี่ก็เป็นคนตอบว่า เธอเห็นด้วยหรือไม่ และยอมรับหรือไม่ ว่าตัวเองนั่นแหละ
เป็นตัวปัญหา ในปัญหาของตัวเอง
อยากจะเปลี่ยนคนอื่น แต่ไม่ยอมเปลี่ยนตัวเอง เชอะ
คุณแม่เฮงซวยยังกลับตัวได้
ตี๋เล็ก เด็กชายอายุ 14 ปี หนีเรียน ใช้เงินเก่ง ไม่มีความรับผิดชอบในตัวเองเลย สอบตกมาสองหนแล้ว หนหน้าจะต้องถูกไล่ออก
รายนี้คุณแม่โวยวายว่าพาไปพบนักจิตวิทยาชื่อดัง จ่ายเงินจ่ายทองไปมากมาย แต่ไม่เห็นทำอะไร ยังไม่ทันได้เจอหน้า
ก็จ่ายไปแล้วหลายพัน ให้เข้าอบรม อบรมแล้วก็ไม่ได้อะไร ไม่ได้ช่วยอะไร บอกว่าให้พ่อแม่ทำใจ
รายนี้ผมสะกดจิตลูกชายแล้ว ให้เทปไปและก็ให้กลับมาอีกภายใน 7 วัน เมื่อกลับมาอีกครั้งคุณแม่บอกว่ารู้สึกดีขึ้น
ตื่นนอนและลุกขึ้นมาด้วยตัวเอง (ทุกครั้งต้องไปปลุกและลากจากเตียง) แต่ไม่ได้ให้ฟังเทป เพราะเครื่องเล่นเสียพอดี
ผมจึงบอกว่าให้เร่งทำด้วยวิธีใดก็ได้ให้ฟังเทปได้ คุณแม่รับปาก ครั้งนี้ผมให้มาอีกภายใน 7 วันเช่นกัน
ปรากฏว่าคุณแม่พาลูกชายมาอีกครั้งหลังจากการพบครั้งล่าสุดห่างกันถึง 20 วัน คุณแม่บอกว่าพอดีพาตี๋เล็กไปเที่ยวญี่ปุ่น 10 วัน
ก่อนไปก็ยุ่งๆ กลับมาก็เหนื่อยๆ หายเหนื่อยแล้วค่อยพามา บอกว่าลูกชายไม่ดีขึ้น เทปไม่ค่อยได้ฟังเพราะไปเที่ยว
ครั้งนี้ผมให้มาอีกภายใน 7 วัน
การมาพบครั้งที่ 4 ห่างจากการพบครั้งที่แล้ว 15 วัน คุณแม่บอกว่าพอดีมีญาติมาจากอเมริกา ก็เลยพาไปเที่ยวภูเก็ต
เลยพาตี๋เล็กไปด้วย เทปไม่ได้ฟังเพราะมัวแต่ไปเที่ยว
เนี่ย พาลูกมาหาอาจารย์ตั้ง 3 ครั้งแล้ว ทำไมลูกฉันยังไม่ดีขึ้นสักที
ผมถามคุณแม่ว่า
แต่ละปีพาตี๋เล็กไปเที่ยวเมืองนอก หรือไปเที่ยวไกลๆหลายๆวันบ่อยไหม
คุณแม่บอกว่า
ไม่บ่อย ปีละสองครั้งสามครั้ง
ปีนี้ถ้าไม่พาตี๋เล็กไปเที่ยวคิดว่าจะตายมั้ยครับ ผมมองหน้าคุณแม่แล้วถามซื่อๆ
หมายถึงยังไง คงไม่มีใครตายหรอก เธอทำสีหน้างงกับคำถามของผม
นั่นซีครับ บอกตรงๆ ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนกว่ามานี้ สรุปได้ว่า คุณแม่ต่างหากที่เป็นคนขาดระเบียบวินัย
และยังไม่มีความสามารถในการตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ เปรียบ เหมือนตี๋เล็กป่วยอยู่ คุณพาตี๋เล็กมาหาผม
ขอให้ผมช่วย แต่ไม่เคยทำตามคำแนะนำสักข้อเดียว ให้เทปไปม้วนเดียวเอาไปฟัง ตั้งเดือนกว่ายังตั้งท่าฟังไม่ได้
บอกว่าไม่ได้ให้ฟังเพราะมัวแต่พาลูกไปเที่ยว บอกให้มาเป็นประจำทุกสัปดาห์ ก็มาไม่ได้ กลับมีข้ออ้างแปลกๆ
แล้วจะเรียกร้องขอให้คนอื่นช่วย คุณยังไม่พยายามช่วยตัวเอง ลักษณะอย่างนี้นี่ก็ถ่ายทอดมาที่ลูก คิดว่าที่ลูกเป็นอย่างนี้เกิดจากอะไรครับ
เธอถึงกับหน้าเปลี่ยนสี หลังจากวันนั้นเธอไม่กลับมาอีก แต่ให้คนขับรถเป็นคนพาลูกชายมาพบผมเป็นประจำทุกสัปดาห์
มาอยู่ 5 สัปดาห์ ตี๋เล็กบอกว่าเดี๋ยวนี้รู้สึกเบื่อยาก กระตือรือล้นขึ้น แถมตื่นเช้าทุกวัน กลางคืนก็ง่วงนอนง่าย หลับสนิท
จริงๆแล้ว ปัญหาของตี๋เล็กไม่มีอะไรมากเลย เมื่อนอนเพียงพอ ก็ไปโรงเรียนเช้าได้ เรียนหนังสือรู้เรื่อง การบ้านก็มีเวลาทำส่งครูอาจารย์
ข้อสอบก็ทำได้ ทำให้ไม่ท้อแท้มีกำลังใจเรียน เมื่อเรียนตามเพื่อนทัน ทำข้อสอบได้ ก็คิดว่าชีวิตมีค่า จึงไม่อยากหันเหไปทำอย่างอื่น
ขอข้อเดียวเท่านั้นเอง คุณแม่คุณพ่อช่วยเป็นตัวอย่างที่ดีหน่อยเหอะ
ผมจึงบอกตี๋เล็กว่าไม่ต้องมาอีกแล้ว และฝากขอโทษคุณแม่ด้วย ฝากบอกว่าเหตุการณ์เมื่อ 5 สัปดาห์ที่แล้วเป็นการสะกดจิตขั้นสูง ไ
ม่งั้น คงไม่มีตี๋เล็กอย่างในวันนี้อย่างแน่นอน
รายสุดท้าย คุณแม่มากับคุณป้า(คุณป้าแนะนำให้มา) ไม่ได้พาลูกมาด้วย ผมยังไม่รู้เลยว่าลูกที่ว่านี่เป็นชายหรือหญิง
และอายุเท่าไหร่ เพราะคุยกับคุณแม่ยังไม่ถึง 10 นาทีเลย
คุณแม่ ลูกเมื่อก่อนเป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่าย เรียนหนังสือเก่ง ได้ที่หนึ่งของห้อง เคยสอบชิงทุนได้ ครอบครัวก็ไม่มีปัญหาอะไร
คุณพ่อรวย มีตำแหน่งใหญ่โต ประสบความสำเร็จในชีวิตมาก ใครๆก็นับหน้าถือตา คุณแม่ก็เก่ง มีญาติพี่น้องเก่งๆรวยๆทั้งนั้น
ลูกอยากได้อะไรก็หามาให้ได้ อยากซื้ออะไรก็ซื้อให้หมด พาไปเที่ยวเมืองนอกเป็นว่าเล่น ให้เรียน(มหาวิทยาลัยเอกชนที่แพงๆ)
แพงเท่าไหร่ก็มีปัญญาจ่าย
เดี๋ยวนี้ไม่เชื่อฟัง ชอบคบเพื่อน ไปเที่ยวกลับดึกๆ การเรียนตกต่ำ ชอบคุยโทรศัพท์ทั้งคืน พ่อแม่ห้ามก็โกรธ ด่าว่าพ่อแม่
ยึดกุญแจรถไม่ให้ไปเที่ยวก็หนีออกไป พ่อแม่ตามไปเรียกกลับบ้านก็โกรธไม่พอใจ ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่เอาใจใส่การเรียน
ไม่สนใจพ่อแม่ คนมันเลว ไม่รักตัวเอง คบเพื่อนไม่ดี ไม่เหมือนลูกคนนั้นคนนี้ที่เรียนเก่ง (อื่นๆอีกมากมาย ฯลฯ)
ผม ช่วยเล่าถึงวิธีการเลี้ยงดูให้ฟังได้มั้ยครับ
คุณแม่ หน้าตึงทันที และตะคอกใส่ผม
ถามอย่างนี้หมายความว่าฉันเลี้ยงลูกไม่เป็นหรือยังไง พูดอย่างนี้ได้ไง พ่อแม่มีตำแหน่งใหญ่โต ผู้คนนับหน้าถือตา
ทั้งรวยทั้งเก่งด้วยกันทั้งคุ่ ลูกอยากได้อะไรก็หามาให้ ไม่เคยขาดตกบกพร่อง ลูกมันไม่รักดีจะมาว่าพ่อแม่ได้ไง
อาจารย์พูดอย่างนี้เดี๋ยวสวยหรอก รู้มั้ยฉันเป็นใคร เดี๋ยวไม่ตายดีแน่ (อื่นๆอีกมากมาย ฯลฯ)
ผมเลยตะเพิดมันออกไปทันที
แปลกหรือไม่ คนที่มีปัญหาเหล่านี้ มีพ่อแม่คล้ายๆกัน คือเป็นคนเก่ง ประสบความสำเร็จในชีวิต เชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก
เลี้ยงลูกด้วยเงิน หรือไม่ก็มีอารมณ์แปรปรวน และรักลูกอย่างไม่ถูกต้อง ปรนเปรอทุกอย่าง ไม่วางระเบียบวินัย
บางทีพ่อแม่ยังเป็นเสียเอง ฯลฯ นิยมยกย่องว่าดีงามแต่เฉพาะไอคิว คือชมชอบความเก่งความฉลาด ไม่นิยมยกย่อง อีคิว
คือความสามารถในการบริหารอารมณ์และการตัดสินใจของเด็ก
ที่เห็นพฤติกรรมของเด็กเปลี่ยนไป ไม่ใช่เพราะเปลี่ยนหรอก วัยเด็กจนถึง 13 ปี เขาอยู่ในวัยกำลังถูกปลูกฝังเท่านั้นเอง
เมื่อถึงวัยที่จะมีโอกาสแสดงพฤติกรรมและเป็นตัวของตัวเองแล้ว ความเป็นตัวเขาที่พ่อแม่ฟูมฟักถึงได้แสดงออกมา
บางคนจนอายุเลยวัยรุ่นแล้วยังพูดด้วยไม่รู้เรื่อง ขาดความรับผิดชอบ ก็เพราะพ่อแม่ไม่เคยให้รับผิดชอบอะไร และไม่เคยอนุญาต
ให้ลูกใช้เหตุผล ให้ทำอย่างที่พ่อแม่ต้องการเป็นพอ
ไม่เคยปลูกฝังความเป็นคนดี ความเป็นคนเสียสละ และความเป็นคนรับผิดชอบ ปลูกฝังแต่ว่าบอกอะไรแล้วให้ทำตาม(ไม่ต้องคิด)
ไม่ต้องสนใจอย่างอื่นในชีวิต ไม่ต้องสนใจเรื่องของคนอื่น เรียนเก่งก็ใช้ได้แล้วและมีรางวัลให้ ปรนเปรอลูกๆแบบโง่ๆ
เด็กจึงเรียนรู้เพียงแต่ว่า ทำอะไรแล้วจะได้อะไร รู้เพียงแต่ว่าการมีชีวิตก็เพื่อการแสวงหาความสุขให้กับตัวเองด้วยการใช้จ่ายเงินเท่านั้น
ไม่รู้และไม่สนใจอะไรไปมากกว่านี้ เพราะพ่อแม่ไม่เคยบอกให้สนใจ หรืออาจเคยบอกว่าไม่ต้องไปสนใจด้วย มีหน้าที่เรียนอย่างเดียว
เด็กคนไหนเรียนไหวก็เรียนมันเข้าไป (แก่ตัวลงก็จะเป็นคนมีปัญหาอีกแบบหนึ่ง) เด็กคนไหนเรียนไม่ไหวก็หาทางออก
ด้วยการเป็นปฏิปักษ์กับพ่อแม่
ไม่เคยสนใจว่าลูกจะคิดอย่างไร ไม่เคยสงสัยว่าลูกรู้สึกอย่างไร และไม่เคยถามว่าลูกมีความสุขไหม เห็นมันเล่นของมันทั้งวัน
หรือเห็นมันเอาแต่เรียนหนังสือ ไม่ใช่เพราะมันมีความสุขหรอก เป็นเพราะมันไม่รู้จะทำอะไรมากไปกว่านี้ต่างหาก
จากเบื่อหุ้น อ่านจะเบื่อบอร์ดไปเลย อิอิ
อาจารย์ที่เขียนก็คนเดิม "thaihypn"
มหกรรม พ่อแม่รังแกฉัน
หลายสิบราย ที่พ่อแม่พาลูกๆ มีตั้งแต่อายุ 12-13 ไปจนถึง 24-25 มาพบผม ขอให้ช่วยว่าทำไงให้พูดกันรู้เรื่อง ให้มีความรับผิดชอบ
และให้เรียนหนังสือเก่งๆ ให้กลับมาเป็นผู้เป็นคน ผมก็ช่วยได้บ้างช่วยไม่ได้บ้างตามแต่ว่าใครไปไกลเลยเถิดเกินแก้ไข
และบางทีพ่อแม่เป็นอย่างไรก็ได้ลูกอย่างนั้น หรือพ่อแม่บ่มเพาะนิสัยร้ายๆของลูกโดยที่ตัวเองไม่รู้
ต้องแก้ที่พ่อแม่ก่อนถึงจะแก้ลูกได้ แต่ถ้าพ่อแม่เองยังไม่ยอมรับ ว่าตัวเองนั่นแหละเป็นต้นเหตุของปัญหา ก็ได้แต่กลุ้มใจแทนลูก
ว่ามีกรรมโดยแท้ที่เกิดมาได้พ่อแม่อย่างนี้
เด็กชายอารมณ์เอ็กซ์
รายแรกเป็นเด็กชายวัย 11 ปี โดนไล่ออกมาแล้ว 3 โรงเรียน เพราะชอบบู๊ และทำผิดซ้ำซากไม่รู้จักหลาบจำ
ครั้งแรกฉุดนักเรียนหญิงเข้าไปขังในห้องน้ำ (ไม่รู้ว่าตั้งใจจะทำอะไร) เผอิญคนเห็นกันเยอะเลยไปช่วยนักเรียนหญิงและ
จับตัวเด็กชายมาได้ พ่อแม่เขาจะเอาเรื่องอย่างหนัก โรงเรียนจึงไล่ออกทันที ครั้งที่สองจับกลุ่มตีกันกับเด็กในโรงเรียน
ตีครั้งแรกถูกภาคฑัณฑ์ ยังไม่ข้ามเดือนไปตีกันอีก จึงโดนไล่ออก ครั้งสุดท้ายไปเปิดกระโปรงนักเรียนหญิง
เผอิญที่โรงเรียนเดียวกันก็มีนักเรียนคนหนึ่งที่มีพฤติกรรมคล้ายกัน คือชอบไปเปิดกระโปรงนักเรียนหญิง เด็กบอกว่าจิตใจไม่ได้นึกอะไร
แต่พอเห็นนักเรียนหญิงนุ่งกระโปรงแล้วอยากไปเปิดทุกที แม่พามาให้ผมสะกดจิตไป 3 ครั้ง แกบอกว่าเดี๋ยวนี้รู้สึกเฉยๆ
พ่อแม่รายนั้นเลยแนะนำให้แม่ของเด็กชายอายุ 11 ที่โดนไล่ออกให้มาหาพบบ้าง
รายนี้คุณแม่เลิกกับคุณพ่อตั้งแต่เด็กยังเล็กๆ คุณแม่หันไปคบทอมเป็นแฟน คุณแม่มีอารมณ์ขึ้นๆลงๆ ขี้โมโห เจ้าอารมณ์
และเลิกกับสามีเพราะสามีเป็นคนอารมณ์รุนแรง และชอบทำร้ายร่างกายลูกและภรรยา
เหล่านี้คือสิ่งที่ปลูกฝังและซึมซับเข้าในจิตใต้สำนึกของลูกชาย ทำไมลูกชายรู้สึกว้าเหว่โดยไม่รู้ตัว และเป็นคนก้าวร้าว
ขาดความยับยั้งช่างใจ ซึ่งทั้งหมดเกิดจากพฤติกรรมซ้ำซากที่เห็นและสัมผัสจากการใช้ชีวิตของผู้คนรอบข้าง คนที่เลี้ยงดู
เราใช้การสะกดจิตแก้ปัญหารายนี้อยู่ระยะหนึ่ง เห็นว่าเขามีความยับยั้งช่างใจเพิ่มมากขึ้น และตัวแม่สารภาพว่า
เพิ่งเข้าใจและเห็นจริงว่าตัวเองมีส่วนสำคัญกับอารมณ์และความรู้สึกของลูก เพราะพอลูกชายมีอารมณ์สงบ ก็จะเริ่มอยู่ติดบ้านมากขึ้น
ตัวแม่เสียอีกที่พอมีโอกาสอยู่ใกล้ลูกชายมากขึ้น กลับแสดงความฉุนเฉียวใส่ลูก คุณแม่รายนี้จึงขอรับการสะกดจิต
เพื่อเรียนรู้วิธีการไปแก้ปัญหากับตัวเองบ้าง
จะประชดแม่จนตัวตายเลยหรือไง
รายที่สอง เป็นวัยรุ่น อายุ 17 ปี วันที่แม่พามาเจ้าตัวจะกลับบ้านท่าเดียว ญาติที่พามาด้วยล็อคประตูไม่ให้ออก
(พอดีห้องที่ผมจัดไว้ให้ ล็อคประตูจากด้านนอกได้) ทีนี้พ่อเลยถีบประตูหลายโครมเพื่อให้ได้ออกไป แม่เข้าไปห้ามถึงขนาดตะคอกแม่ว่า
xxxx กูบอกมึงแล้วไงว่ากูไม่คุยกับใครทั้งสิ้น อีxxx
แม่บอกว่า ลูกชายตอนเด็กๆน่ารัก หล่อด้วย เรียนเก่ง เคยถ่ายแบบโฆษณา จู่ๆ 2-3 ปีหลังก็เริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าว
ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ เมื่อวานเพิ่งต่อยกับพ่อ พ่อเป็นคนใจดี ลูกขออะไรก็ให้หมด อยากได้เงินอยากได้ของอะไรก็ให้ ไม่รู้จะทำไงแล้ว
ให้ไปเรียนก็ไม่ไปเรียน ตอนนี้ก็ห้ามไม่ให้ออกจากบ้าน กลัวไปคบเพื่อนไม่ดี (อื่นๆอีกมากมาย) ฯลฯ
คุณลูกชายก็ไม่มีทีท่าว่าอยากจะคุยกับผมเลย
มีประโยคหนึ่งที่ผมถามและเขาอึ้งไปพักใหญ่ คำถามนั้นก็คือ
ที่ทำอยู่นี้ประชดแม่อยู่หรือเปล่า
คนอายุ 17 ปี ย่อมรู้ว่าพฤติกรรมแบบไหนมีประโยชน์ต่อตัวเอง ไม่มีใครไม่อยากเป็นคนดี ไม่มีใครไม่อยากมีความสุขหรอก
คุณทำอย่างนี้คุณมีความสุขหรือ ไม่อยากแก้ปัญหาหรือ ต้องมีใครสักคนที่เราพอจะคุยได้ และสักทางที่จะแก้ปัญหาของเราได้
หลังจากเขานิ่งไปพักหนึ่ง ผมจึงบอกกับแม่ว่าขอผมอยู่กับลูกชาย ให้คุณแม่ออกไปก่อน คุณแม่ปฏิเสธ ลูกชายจึงเริ่มอาละวาด
มากขึ้น และจบลงด้วยผมต้องบอกให้กลับไป เพราะกลัวประตูพัง
หลังจากนั้นเธอก็แวะมาปรึกษา ผมบอกเธอตรงๆว่า
พูดตรงๆ พฤติกรรมของคนเราไม่มีคำว่าจู่ๆเป็นอย่างนั้นอย่างนี้หรอกครับ มีสาเหตุทั้งนั้น ส่วนใหญ่เกิดจากการเลี้ยงดู
ผมอยากบอกตรงๆว่า คุณแม่อาจเข้าใจไปเองว่าตอนเด็กๆทำไมลูกเป็นเด็กดี น่ารัก เรียนหนังสือเก่ง เชื่อฟังพ่อแม่
พอโตแล้วทำไมถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ เป็นเพราะว่าเราไม่เปิดโอกาสให้เขาแสดงความเป็นตัวตนของตัวเองให้เราเห็นหรือเปล่า
หรือเราพยายามที่จะไม่เห็นไม่มอง
ผมแนะนำคุณแม่ให้มาอบรม เพื่อเรียนรู้กระบวนการ และเข้าใจหลักการของจิต เพื่อสแวงหาวิธีที่เหมาะสมในการ
แก้ปัญหาลูกชายด้วยตัวเอง
เธอยอมมารับการอบรมด้วยดี เมื่อเข้าใจอะไรต่ออะไรแล้ว ก็ยอมรับกับผมว่า
หลังจากมาอบรมกับอาจารย์แล้ว ดิฉันยอมรับเลยว่าตัวเองเป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่อง เพราะทุกอย่างที่อาจารย์พูดและแสดง
ให้เห็นถึงต้นเหตุที่ทำให้ลูกเป็นคนมีปัญหา ดิฉันทำทุกข้อเลยค่ะ
ตอนนี้น้ำตาไหลเอ่อนองแก้มทั้งสอง
ดิฉันชอบเปรียบเทียบลูกชายกับลูกคนอื่นที่เก่งๆ เพราะเข้าใจว่าจะทำให้ลูกอยากเป็นคนเก่งบ้าง ดิฉันปิดบังอาจารย์ว่า
ครอบครัวมีความสุขดี จริงๆแล้วดิฉันกับสามีทะเลาะกันตั้งแต่ยังสาวๆ ตอนนั้นฉันชอบด่าว่าพ่อเด็กให้ลูกฟังเสมอ
เพราะคิดว่าลูกจะได้ไม่เอาอย่างพ่อ และก็เพื่อความสะใจด้วย ไม่ได้คิดว่าจะเป็นการสร้างปมลึกในใจของลูก
ฉันตะหวาดตะคอกลูกเป็นประจำ เพราะตัวเองก็โมโหง่าย อารมณ์เสียง่าย ฉันไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆ อาจารย์ขา
บอกฉันมาเถอะค่ะ จะทำยังไงถึงจะได้ลูกกลับมา ชีวิตทั้งชีวิตของฉันก็เพื่อลูกนี่แหละค่ะ ถ้าลูกชายยังเป็นอยู่อย่างนี้
ฉันคงมีความสุขไปไม่ได้ เงินทองที่ทำมาหากินมาอย่างเหนื่อยยากก็จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย
ทั้งเสียงและน้ำตา หลั่งไหล พรั่งพรู สั่นเครือ
ผมบอกเธอว่า โชคดีแล้ว ที่วันนี้เธอรู้และเข้าใจที่มาของปัญหา อย่างน้อยเราจะได้เริ่มได้ถูกทาง ผมแนะนำให้เธอย้อนรอยเดิม
และกลับไปทำและปฏิบัติต่อลูกเสียใหม่ในทางที่ถูกต้อง
สิ่งแรกคือ เริ่มที่ตัวเธอเอง จงฝึกฝนจนเป็นนิสัย ให้ตัวเอง สุขภาพจิตดี ยิ้มง่าย เป็นมิตร โมโหยาก และให้อภัยกับสิ่งต่างๆรอบตัว
แม้แต่ที่หลอกล่อให้ลูกมาพบผมก็จงเลิก เพราะเป็นการสร้างบรรยากาศของความไม่ไว้วางใจกัน ทำให้เกิดการต่อต้าน
และทำให้ลูกรู้สึกว่า แม่ไม่ให้เกียรติ แม่ปฏิบัติกับลูกเหมือนคนไม่มีสติปัญญา และแม่เป็นคนไว้ใจไม่ได้ เชื่อถือไม่ได้
จงยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น และส่งเสริมในสิ่งที่เขามี ให้อภัยกับความผิดพลาด สอนอย่างเมตตาในความไม่รู้
ใส่ใจเขาอย่างที่เขาเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง ให้เกียรติเขาในความเป็นตัวของตัวเองของเขา แล้วคุณจะเห็นความมหัศจรรย์
บังเกิดขึ้นกับตาอย่างแน่นอน อาจนานแรมเดือนหรือเป็นแรมปี คุณต้องอดทน
ผมมอบคัมภีร์แห่งการเลี้ยงลูกแก่เธอ
ให้บอกและพูดคุยกันตรงๆ ว่าทุกคนกำลังพยายามแก้ปัญหา เราผิดเราขอโทษลูก ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เราทำไม่ถูก
เราเปลี่ยนวิธีเสียใหม่ ไม่ใช่เรื่องเสียหน้า ลูกของเราถ้าไม่รักลูกอย่างถูกทาง และไม่ทำให้ลูกรักพ่อแม่อย่างถูกต้อง
แล้วชีวิตนี้จะมีอะไรที่ทรงคุณค่าที่จะทำอีก
เธอกล่าวขอบคุณทั้งน้ำตา บอกว่าจะพยายาม จะพยายามเป็นอย่างยิ่ง ผมสำทับว่าจงพยายามเถิด ผมเห็นมามากแล้ว
ลูกที่ยอมประชดพ่อแม่จนตัวตายมีถมไป
หลังจากนั้นอีกสามเดือนเศษ คุณแม่วัยกลางคนโทรมาหาผม บอกว่าเมื่อวาน ลูกชายวัย 17 เดินเข้ามากอดเธอด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก
น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ แต่มันเปื้อนไปด้วยความปิติระคนความขอบคุณจากเบื้องลึกของจิตใจ
รักนรกแฟนคลับ
อ๊อดเป็นเด็กชายวัย 13 ขวบ ติดเกมส์รักนรก (Ragnarok) คุณพ่อเป็นนายแพทย์ และมีภรรยาหลายคน คุณแม่เสียแล้ว
ตั้งแต่ตัวเองยังเด็กๆ พ่อมีลูกคนนี้ตอนอายุประมาณ 50 กว่าแล้ว จึงยกลูกให้ป้าซึ่งเป็นสาวโสดไม่มีสามีคอยเลี้ยงดู
อ๊อดการเรียนตกต่ำเมื่อเริ่มโตเป็นวัยรุ่น ติดร้านเล่นเกมส์จนสี่ห้าทุ่มถึงจะกลับบ้าน บางวันป้าต้องไปตามที่ร้านเกมส์
ป้าเลยซื้อคอมพิวเตอร์ให้ ด้วยหวังว่าหลานชายจะได้ไม่ต้องไปอยู่นอกบ้านทั้งวัน พฤติกรรมหลานชายจึงเปลี่ยนไป
คือเลิกเรียนแล้วรีบกลับบ้าน แต่ทีนี้หมกตัวอยู่แต่ในห้องนอน บางวันเลยเล่นเกมส์จนเช้า
รายนี้ผมถามว่าตอนเด็กๆปล่อยมากน้อยแค่ไหน ยกตัวอย่างเช่น เวลากลับมาจากโรงเรียนแล้วปล่อยให้นั่งดูทีวีจนสว่างหรือไม่
คุณป้าบอกใช่เลย เพราะสงสาร เห็นว่าไม่มีคุณแม่ เลยไม่อยากไปบังคับกะเกณฑ์ ให้รับผิดชอบเรื่องเรียนหนังสือ
อย่างเดียว พูดบอกทุกวันให้ขยันเรียนจะได้เก่งๆเหมือนพ่อเหมือนป้า และทุกๆคนในตระกูล
ผมบอกว่านี่คือสาเหตุหนึ่งของปัญหา ทั้งคุณพ่อและคุณป้าบอกว่าไม่น่าใช่
พวกฉัน (คุณพ่อและคุณป้า) ก็ถูกเลี้ยงมาอย่างนี้
ทำไมไม่เห็นเป็น
เดี๋ยวนี้ก้าวร้าวด้วยนะ เถียงป้า บางวันก็ว่าป้าแรงๆ กลับจากโรงเรียนไม่ยอมทักกัน
ผมได้ฟังก็อึ้ง อยากจะบอกว่าเพราะพ่อแม่ของคุณทั้งสองคงทำมาหากินไปเลี้ยงลูกไป บางทีการเลี้ยงดูลูกตามมีตามเกิด
ของคนสมัยก่อน กลับดีกว่าคนสมัยนี้ โดยเฉพาะชีวิตของพ่อและป้าไม่เหมือนลูกคนนี้ ที่พ่อไปทาง แม่ก็ตาย
มีป้าสาวแก่ที่คอยเลี้ยงหลาน สาวโสดอายุมากๆ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคงเลี้ยงหลานเหมือนลูกแหง่ และนั่งเฝ้าทุกลมหายใจ
ใครที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างนี้ อย่าว่าแต่คนเลย หมีแพนด้าก็ยังเครียด
อย่างไรผมก็ยังยืนยันว่าเกมส์รักนรกไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหา แต่มันก็เป็นตัวปัญหาอันหนึ่ง เราต้องแก้หรือกันที่ต้นเหตุ
ปัญหาก็จะไม่เกิด ปัญหาของเด็กคนนี้คือ ขาดระเบียบวินัย ขาดความรับผิดชอบ มีความเครียด ไม่รู้จะหาอะไรเป็นทางออก
จึงไปเล่นเกมส์เป็นทางออก
ขาดระเบียบวินัยและความรับผิดชอบ เพราะถูกเลี้ยงอย่างคุณหนูคุณชาย ไม่ต้องช่วยเหลือตัวเองอะไรเลย เสียงพ่อและป้า
พูดกรอกหูทุกวัน ว่าสนใจแต่เรื่องเรียนพอแล้ว อย่างอื่นไม่ต้องยุ่ง คำพูดแบบนี้ไม่ได้สร้างสรรค์อะไรเลย เป็นคำพูด
ที่จะสร้างผู้ใหญ่ที่มีแต่ความเศร้าในอนาคต เพราะชีวิตคนเรายุ่งแต่เรื่องเรียนอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเรียนรู้ความรับผิดชอบ
และการมีวินัยในตัวเองแต่ต้น ไม่ใช่นั่งรอให้พ่อแม่มาคอยกำกับ
ส่วนความเครียดของเขา มีหลายสาเหตุ การที่ไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพ่อแม่ลูกก็ประเด็นหนึ่ง การที่มีคุณป้าเลี้ยง
เลี้ยงแบบเซเว่นอีเลเว่น (นั่งเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง) ก็ประเด็นหนึ่ง
ธรรมชาติของคนเราเหมือนอากาศในลูกโป่ง มันต้องมีทางออก มันต้องมีที่ไป ไปบีบไปกดตรงนี้ มันก็จะไปปูดที่อื่น
ไม่มีวันควบคุมได้หรอก ถ้าบีบคั้นมากไปก็จะเกิดการระเบิด
อ๊อดถือว่ากำลังจะพ้นจากวัยเด็กมาเป็นวัยรุ่นแล้ว เขาเริ่มเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เริ่มที่จะเลือกว่าตัวเองจะมีชีวิตแบบไหน
เข้าสู่วัยที่ต้องการอิสระ วัยที่ต้องการการยอมรับ
คนเราต้องมีความเป็นตัวของตัวเอง ต้องแสดงบุคลิกลักษณะของตัวเอง การเลี้ยงดูนั้นทำได้อย่างมากก็สร้างไม้บรรทัด
ให้เดินตามเท่านั้น เขาจะเดินตามหรือไม่ก็เรื่องหนึ่ง ส่วนจะเดินช้าเดินเร็ว เดินกระเผลกหรือสง่าผ่าเผยไม่มีวันควบคุมได้หรอก
พ่อแม่ส่วนใหญ่จึงพยายามกระชากลากถูลูกของตัวเองให้เดินตาม หรือควบคุมบังคับให้เดินได้อย่างพ่อแม่ และก็พบว่า
ช่องว่างระหว่างความรักก็จะห่างกันมากขึ้นทุกที สร้างปมชีวิตให้ลูก ให้เป็นคนมีปัญหา เก็บกด แสดงออกพิลึก
เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่เขาก็จะทำซ้ำ สร้างเงื่อนไขเดิมๆกับลูกตัวเอง ในขณะเดียวกันก็นึกโกรธและทำร้ายตัวเอง ว่าทำไมไปทำร้ายจิตใจลูก
ได้ลงคอ เหมือนที่เคยถูกพ่อแม่ตัวเองทำร้ายจิตใจมาแล้วในวัยเด็ก
รายนี้ เวลาผมพูดอะไรประมาณว่าจะกระทบกับวิธีการเลี้ยงดูของคุณป้า สีหน้าของคุณพ่อก็ดูดีขึ้นมาหน่อยหนึ่ง
ทำให้ผมรู้สึกได้ ว่างานนี้คุณหมอขอยืมปากผมสอนพี่สาวตัวเอง
ผมใคร่ครวญแล้วก็คิดว่าเป็นไปได้สูงทีเดียว ประการแรกคนนี้เป็นป้าของเด็ก ประการที่สองฝากให้เลี้ยงลูกแต่เล็กจนโต
ก็มีบุญคุณกันโขอยู่ ประการที่สาม ลักษณะเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงกันทั้งบ้าน จะสอนกันเองคงลำบาก
มาให้คนแปลกหน้าสอนหน่อยเหอะ
ทุกครั้งที่คนกลุ่มนี้มาพบผม ผมจึงเบนเนื้อหาหลักอ บังอาจแนะนำคุณป้าถึงวิธีเลี้ยงหลาน เธอบอกว่าหลานเล่นเกมส์
จนไม่รู้จักกินจักนอน ผมบอกว่าไม่น่าเชื่อ ไม่มีใครเล่นเกมส์จนยอมอดตายหรอก เธอบอกว่าต้องเอาข้าวไปส่งถึงในห้องนอนทุกมื้อ
อีกชั่วโมงก็จะไปเก็บจานออกมา ถ้ากินไม่หมดก็จะนั่งเฝ้าบังคับให้กินจนหมด เวลานอนก็จะไปนั่งเฝ้าเซ้าซี้ให้นอน
มีหนหนึ่งคุณป้ากับหลานนั่งอยู่ด้วยกัน ผมถามหลานชายว่า
รู้มั้ย สบู่อยู่ไหน
หลานชายก็ทำหน้างง ผมจึงถามใหม่ว่า
ถ้าอาบน้ำอยู่แล้วสบู่หมด รู้มั้ย่ว่าจะไปหยิบตรงไหน
หลานชายบอกว่าไม่รู้ เพราะสบู่ไม่เคยหมดจากห้องน้ำ
ผมฟังอย่างนี้ก็บอกกับคุณป้าว่า
ไม่ต่างอะไรกับเด็กที่เพิ่งมีข่าวว่าเขายิ่งคนอื่นตายและฆ่าตัวตายหลังจากนั้น เพราะแม่บอกว่าลูกชายไม่รู้ว่าเม็ดฝรั่งหน้าตาเป็นยังไง
พ่อแม่ไม่เคยฝึกให้ลูกช่วยเหลือตัวเอง คิดเองทำเอง ใช้วิจารณญาณของตัวเอง รับผิดชอบตัวเอง สอนแต่วิธีบำรุงบำเรอ
ความสุขให้ตัวเอง ให้ลืมสภาพแวดล้อม ลืมความเป็นอยู่ เพราะพ่อแม่แสวงหาทุกอย่างมาให้ เมื่อได้ลูกที่โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่
ที่ไม่สมบูรณ์แล้ว ไม่ควรโทษใคร นอกจากโทษตัวเอง
ผมบอกคุณป้าหลังจากหลานชายไม่ได้นั่งตรงนั้นแล้ว
หลานอายุ 13 แล้ว ลองไม่ใส่ใจมันสัก 15 วันคิดว่าจะตายมั้ยครับ
คุณป้างง พร้อมถามผมว่า
หมายถึงใคร หลานจะตายเหรอ
เปล่า คุณป้านั่นแหละ ลองไม่ใส่ใจหลานดู คิดว่าคุณป้าจะตายมั้ยครับ
เธอทำสีหน้าเคืองจัด แต่ก็รักษาความเป็นผู้ดีมีมารยาท ถามผมว่า
อาจารย์จะให้เดี๊ยนทำไงคะ
ก็ปล่อยให้เล่นเกมส์ไปเรื่อยๆครับ มันหิวเดี๋ยวก็ออกมากินเองแหละ กับค่งกับข้าวไม่ต้องทำนะครับ จะให้ไปซื้อกิน
หรือคุณป้าจะให้หลานทำกินเองในครัวก็ได้ ถ้าเด็กมันจะเล่นเกมส์จนรุ่งเช้าไม่อาบน้ำอาบท่า ไม่ไปเรียนหนังสือก็ปล่อยมันครับ..
แต่อีกสิ่งต้องทำควบคู่กันไป อย่างเช่น พอเห็นหลานเดินออกมาจากครัว ก็ชวนกันทำกับข้าวสองป้าหลาน
หรือชวนกันออกไปกินข้าว ลงทุนหน่อยครับ มีฐานะอย่างนี้ พาแกไปกินดีๆแพงๆ เบี่ยงเบนแก หรือจะเรียกว่าเอาอย่างอื่นเข้าล่อก็ได้
กินข้าวเสร็จถามหลานว่าอยากเล่นกีฬาอะไรไหม ไปซื้อกัน ไม้ปิงปอง ไม้เทนนิส โรลเลอร์เบลด ซื้อไปเหอะ
อยู่ดีๆไปห้ามเล่นเกมส์อย่างเดียวไม่ได้หรอก ต้องหาอย่างอื่นมาทดแทนด้วย และให้แกได้มีสังคม ได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆ
ในโลกของความเป็นจริง จะออกจากบ้าน
เขาอยากได้อะไร อยากไปเที่ยวไหน ให้อยู่ในการตัดสินใจของเขา คุณป้าอย่าร่วมตัดสินใจ เพราะด้วยความเป็นเด็ก
เขาก็จะรู้สึกว่าถูกควบคุมอยู่ตลอดเวลา สู้ไปเล่นรักนรกไม่ได้ เพราะเขาได้เป็นนายตัวเอง มีโอกาสเลือกและเป็นอิสระ
มากกว่าอยู่ในชีวิตจริง
เธอทำสีหน้าเดือดดาลแต่ก็ยอมรับปากจนผมเองยังแปลกใจ เธอหายไป 2 สัปดาห์และกลับมาหาผมอีก
เดี๊ยนสงสารเค้า ไม่ถึงกับให้ออกไปซื้อข้าวกินเองหรอกนะคะ ก็ทำไว้ให้แล้วไปบอกว่าให้มาเอาข้าวในครัว ส่วนเรื่องปล่อยให้เล่น
ทำไม่ได้หรอกค่ะ เดี๊ยนนั่งเฝ้าเค้าทั้งวันทั้งคืนจะปล่อยให้เล่นทั้งวันทั้งคืนได้ยังไง
เธอบอกกับผม พร้อมทำสีหน้าประมาณว่า
เนี่ย พยายามอย่างสุดชีวิตแล้วนะ
ผมบอกกับเธอตรงๆว่า คนที่ควรใช้วิธีการสะกดจิตอีกคนก็คือคุณป้า จะได้ทำใจว่างๆ ดูหลานอยู่ห่างๆ ไม่ไปเจ้ากี้เจ้าการ
ในชีวิตเขามากจนเกินไป หากิจกรรมอย่างอื่นทำ ไม่ไปนั่งเฝ้าหลานตลอดเวลา แล้วเธอจะมีโอกาสได้เห็นความเปลี่ยนแปลง
แน่นอน ไม่ว่าจะความสัมพันธ์ระหว่างป้ากับหลาน หรือการเป็นคนรับผิดชอบตัวเองมากขึ้นของหลาน
เธอทำสีหน้าหงุดหงิดแล้วจากไป ไม่มาอีกเลย นี่ก็เป็นคนตอบว่า เธอเห็นด้วยหรือไม่ และยอมรับหรือไม่ ว่าตัวเองนั่นแหละ
เป็นตัวปัญหา ในปัญหาของตัวเอง
อยากจะเปลี่ยนคนอื่น แต่ไม่ยอมเปลี่ยนตัวเอง เชอะ
คุณแม่เฮงซวยยังกลับตัวได้
ตี๋เล็ก เด็กชายอายุ 14 ปี หนีเรียน ใช้เงินเก่ง ไม่มีความรับผิดชอบในตัวเองเลย สอบตกมาสองหนแล้ว หนหน้าจะต้องถูกไล่ออก
รายนี้คุณแม่โวยวายว่าพาไปพบนักจิตวิทยาชื่อดัง จ่ายเงินจ่ายทองไปมากมาย แต่ไม่เห็นทำอะไร ยังไม่ทันได้เจอหน้า
ก็จ่ายไปแล้วหลายพัน ให้เข้าอบรม อบรมแล้วก็ไม่ได้อะไร ไม่ได้ช่วยอะไร บอกว่าให้พ่อแม่ทำใจ
รายนี้ผมสะกดจิตลูกชายแล้ว ให้เทปไปและก็ให้กลับมาอีกภายใน 7 วัน เมื่อกลับมาอีกครั้งคุณแม่บอกว่ารู้สึกดีขึ้น
ตื่นนอนและลุกขึ้นมาด้วยตัวเอง (ทุกครั้งต้องไปปลุกและลากจากเตียง) แต่ไม่ได้ให้ฟังเทป เพราะเครื่องเล่นเสียพอดี
ผมจึงบอกว่าให้เร่งทำด้วยวิธีใดก็ได้ให้ฟังเทปได้ คุณแม่รับปาก ครั้งนี้ผมให้มาอีกภายใน 7 วันเช่นกัน
ปรากฏว่าคุณแม่พาลูกชายมาอีกครั้งหลังจากการพบครั้งล่าสุดห่างกันถึง 20 วัน คุณแม่บอกว่าพอดีพาตี๋เล็กไปเที่ยวญี่ปุ่น 10 วัน
ก่อนไปก็ยุ่งๆ กลับมาก็เหนื่อยๆ หายเหนื่อยแล้วค่อยพามา บอกว่าลูกชายไม่ดีขึ้น เทปไม่ค่อยได้ฟังเพราะไปเที่ยว
ครั้งนี้ผมให้มาอีกภายใน 7 วัน
การมาพบครั้งที่ 4 ห่างจากการพบครั้งที่แล้ว 15 วัน คุณแม่บอกว่าพอดีมีญาติมาจากอเมริกา ก็เลยพาไปเที่ยวภูเก็ต
เลยพาตี๋เล็กไปด้วย เทปไม่ได้ฟังเพราะมัวแต่ไปเที่ยว
เนี่ย พาลูกมาหาอาจารย์ตั้ง 3 ครั้งแล้ว ทำไมลูกฉันยังไม่ดีขึ้นสักที
ผมถามคุณแม่ว่า
แต่ละปีพาตี๋เล็กไปเที่ยวเมืองนอก หรือไปเที่ยวไกลๆหลายๆวันบ่อยไหม
คุณแม่บอกว่า
ไม่บ่อย ปีละสองครั้งสามครั้ง
ปีนี้ถ้าไม่พาตี๋เล็กไปเที่ยวคิดว่าจะตายมั้ยครับ ผมมองหน้าคุณแม่แล้วถามซื่อๆ
หมายถึงยังไง คงไม่มีใครตายหรอก เธอทำสีหน้างงกับคำถามของผม
นั่นซีครับ บอกตรงๆ ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนกว่ามานี้ สรุปได้ว่า คุณแม่ต่างหากที่เป็นคนขาดระเบียบวินัย
และยังไม่มีความสามารถในการตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ เปรียบ เหมือนตี๋เล็กป่วยอยู่ คุณพาตี๋เล็กมาหาผม
ขอให้ผมช่วย แต่ไม่เคยทำตามคำแนะนำสักข้อเดียว ให้เทปไปม้วนเดียวเอาไปฟัง ตั้งเดือนกว่ายังตั้งท่าฟังไม่ได้
บอกว่าไม่ได้ให้ฟังเพราะมัวแต่พาลูกไปเที่ยว บอกให้มาเป็นประจำทุกสัปดาห์ ก็มาไม่ได้ กลับมีข้ออ้างแปลกๆ
แล้วจะเรียกร้องขอให้คนอื่นช่วย คุณยังไม่พยายามช่วยตัวเอง ลักษณะอย่างนี้นี่ก็ถ่ายทอดมาที่ลูก คิดว่าที่ลูกเป็นอย่างนี้เกิดจากอะไรครับ
เธอถึงกับหน้าเปลี่ยนสี หลังจากวันนั้นเธอไม่กลับมาอีก แต่ให้คนขับรถเป็นคนพาลูกชายมาพบผมเป็นประจำทุกสัปดาห์
มาอยู่ 5 สัปดาห์ ตี๋เล็กบอกว่าเดี๋ยวนี้รู้สึกเบื่อยาก กระตือรือล้นขึ้น แถมตื่นเช้าทุกวัน กลางคืนก็ง่วงนอนง่าย หลับสนิท
จริงๆแล้ว ปัญหาของตี๋เล็กไม่มีอะไรมากเลย เมื่อนอนเพียงพอ ก็ไปโรงเรียนเช้าได้ เรียนหนังสือรู้เรื่อง การบ้านก็มีเวลาทำส่งครูอาจารย์
ข้อสอบก็ทำได้ ทำให้ไม่ท้อแท้มีกำลังใจเรียน เมื่อเรียนตามเพื่อนทัน ทำข้อสอบได้ ก็คิดว่าชีวิตมีค่า จึงไม่อยากหันเหไปทำอย่างอื่น
ขอข้อเดียวเท่านั้นเอง คุณแม่คุณพ่อช่วยเป็นตัวอย่างที่ดีหน่อยเหอะ
ผมจึงบอกตี๋เล็กว่าไม่ต้องมาอีกแล้ว และฝากขอโทษคุณแม่ด้วย ฝากบอกว่าเหตุการณ์เมื่อ 5 สัปดาห์ที่แล้วเป็นการสะกดจิตขั้นสูง ไ
ม่งั้น คงไม่มีตี๋เล็กอย่างในวันนี้อย่างแน่นอน
รายสุดท้าย คุณแม่มากับคุณป้า(คุณป้าแนะนำให้มา) ไม่ได้พาลูกมาด้วย ผมยังไม่รู้เลยว่าลูกที่ว่านี่เป็นชายหรือหญิง
และอายุเท่าไหร่ เพราะคุยกับคุณแม่ยังไม่ถึง 10 นาทีเลย
คุณแม่ ลูกเมื่อก่อนเป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่าย เรียนหนังสือเก่ง ได้ที่หนึ่งของห้อง เคยสอบชิงทุนได้ ครอบครัวก็ไม่มีปัญหาอะไร
คุณพ่อรวย มีตำแหน่งใหญ่โต ประสบความสำเร็จในชีวิตมาก ใครๆก็นับหน้าถือตา คุณแม่ก็เก่ง มีญาติพี่น้องเก่งๆรวยๆทั้งนั้น
ลูกอยากได้อะไรก็หามาให้ได้ อยากซื้ออะไรก็ซื้อให้หมด พาไปเที่ยวเมืองนอกเป็นว่าเล่น ให้เรียน(มหาวิทยาลัยเอกชนที่แพงๆ)
แพงเท่าไหร่ก็มีปัญญาจ่าย
เดี๋ยวนี้ไม่เชื่อฟัง ชอบคบเพื่อน ไปเที่ยวกลับดึกๆ การเรียนตกต่ำ ชอบคุยโทรศัพท์ทั้งคืน พ่อแม่ห้ามก็โกรธ ด่าว่าพ่อแม่
ยึดกุญแจรถไม่ให้ไปเที่ยวก็หนีออกไป พ่อแม่ตามไปเรียกกลับบ้านก็โกรธไม่พอใจ ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่เอาใจใส่การเรียน
ไม่สนใจพ่อแม่ คนมันเลว ไม่รักตัวเอง คบเพื่อนไม่ดี ไม่เหมือนลูกคนนั้นคนนี้ที่เรียนเก่ง (อื่นๆอีกมากมาย ฯลฯ)
ผม ช่วยเล่าถึงวิธีการเลี้ยงดูให้ฟังได้มั้ยครับ
คุณแม่ หน้าตึงทันที และตะคอกใส่ผม
ถามอย่างนี้หมายความว่าฉันเลี้ยงลูกไม่เป็นหรือยังไง พูดอย่างนี้ได้ไง พ่อแม่มีตำแหน่งใหญ่โต ผู้คนนับหน้าถือตา
ทั้งรวยทั้งเก่งด้วยกันทั้งคุ่ ลูกอยากได้อะไรก็หามาให้ ไม่เคยขาดตกบกพร่อง ลูกมันไม่รักดีจะมาว่าพ่อแม่ได้ไง
อาจารย์พูดอย่างนี้เดี๋ยวสวยหรอก รู้มั้ยฉันเป็นใคร เดี๋ยวไม่ตายดีแน่ (อื่นๆอีกมากมาย ฯลฯ)
ผมเลยตะเพิดมันออกไปทันที
แปลกหรือไม่ คนที่มีปัญหาเหล่านี้ มีพ่อแม่คล้ายๆกัน คือเป็นคนเก่ง ประสบความสำเร็จในชีวิต เชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก
เลี้ยงลูกด้วยเงิน หรือไม่ก็มีอารมณ์แปรปรวน และรักลูกอย่างไม่ถูกต้อง ปรนเปรอทุกอย่าง ไม่วางระเบียบวินัย
บางทีพ่อแม่ยังเป็นเสียเอง ฯลฯ นิยมยกย่องว่าดีงามแต่เฉพาะไอคิว คือชมชอบความเก่งความฉลาด ไม่นิยมยกย่อง อีคิว
คือความสามารถในการบริหารอารมณ์และการตัดสินใจของเด็ก
ที่เห็นพฤติกรรมของเด็กเปลี่ยนไป ไม่ใช่เพราะเปลี่ยนหรอก วัยเด็กจนถึง 13 ปี เขาอยู่ในวัยกำลังถูกปลูกฝังเท่านั้นเอง
เมื่อถึงวัยที่จะมีโอกาสแสดงพฤติกรรมและเป็นตัวของตัวเองแล้ว ความเป็นตัวเขาที่พ่อแม่ฟูมฟักถึงได้แสดงออกมา
บางคนจนอายุเลยวัยรุ่นแล้วยังพูดด้วยไม่รู้เรื่อง ขาดความรับผิดชอบ ก็เพราะพ่อแม่ไม่เคยให้รับผิดชอบอะไร และไม่เคยอนุญาต
ให้ลูกใช้เหตุผล ให้ทำอย่างที่พ่อแม่ต้องการเป็นพอ
ไม่เคยปลูกฝังความเป็นคนดี ความเป็นคนเสียสละ และความเป็นคนรับผิดชอบ ปลูกฝังแต่ว่าบอกอะไรแล้วให้ทำตาม(ไม่ต้องคิด)
ไม่ต้องสนใจอย่างอื่นในชีวิต ไม่ต้องสนใจเรื่องของคนอื่น เรียนเก่งก็ใช้ได้แล้วและมีรางวัลให้ ปรนเปรอลูกๆแบบโง่ๆ
เด็กจึงเรียนรู้เพียงแต่ว่า ทำอะไรแล้วจะได้อะไร รู้เพียงแต่ว่าการมีชีวิตก็เพื่อการแสวงหาความสุขให้กับตัวเองด้วยการใช้จ่ายเงินเท่านั้น
ไม่รู้และไม่สนใจอะไรไปมากกว่านี้ เพราะพ่อแม่ไม่เคยบอกให้สนใจ หรืออาจเคยบอกว่าไม่ต้องไปสนใจด้วย มีหน้าที่เรียนอย่างเดียว
เด็กคนไหนเรียนไหวก็เรียนมันเข้าไป (แก่ตัวลงก็จะเป็นคนมีปัญหาอีกแบบหนึ่ง) เด็กคนไหนเรียนไม่ไหวก็หาทางออก
ด้วยการเป็นปฏิปักษ์กับพ่อแม่
ไม่เคยสนใจว่าลูกจะคิดอย่างไร ไม่เคยสงสัยว่าลูกรู้สึกอย่างไร และไม่เคยถามว่าลูกมีความสุขไหม เห็นมันเล่นของมันทั้งวัน
หรือเห็นมันเอาแต่เรียนหนังสือ ไม่ใช่เพราะมันมีความสุขหรอก เป็นเพราะมันไม่รู้จะทำอะไรมากไปกว่านี้ต่างหาก
..สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง..