ปรึกษาบัญชีของบจ.แห่งหนึ่ง
-
- Verified User
- โพสต์: 91
- ผู้ติดตาม: 0
ปรึกษาบัญชีของบจ.แห่งหนึ่ง
โพสต์ที่ 1
อ่านดูในงบเงินสด
พบว่ากำไรจากการดำเนินงานติดลบเพราะว่ามีการเอาเงินไปลงทุนขยายกิจการ
โดยกำไรจากการลงทุนเป็นบวกนิดหน่อย แต่ก็มีกำไรจากการจัดหาเงินมามากทีเดียว เพราะว่าไปกู้มา
ทีนี้เรื่องปันผลเราจะพิจารณาอย่างไรว่าเขาทำได้ดีเพียงไร
ต้องขอโทษด้วยครับที่ไม่ลงชื่อ บจ. ที่มีลักษณะอย่างนี้
แต่เมื่อว่านเจอไปหลายตัวใน sector เดียวกัน
ไม่ค่อยกล้าโพสชื่อตรง ๆ เดี๋ยวว่าผมไม่ประสงค์ดี
พบว่ากำไรจากการดำเนินงานติดลบเพราะว่ามีการเอาเงินไปลงทุนขยายกิจการ
โดยกำไรจากการลงทุนเป็นบวกนิดหน่อย แต่ก็มีกำไรจากการจัดหาเงินมามากทีเดียว เพราะว่าไปกู้มา
ทีนี้เรื่องปันผลเราจะพิจารณาอย่างไรว่าเขาทำได้ดีเพียงไร
ต้องขอโทษด้วยครับที่ไม่ลงชื่อ บจ. ที่มีลักษณะอย่างนี้
แต่เมื่อว่านเจอไปหลายตัวใน sector เดียวกัน
ไม่ค่อยกล้าโพสชื่อตรง ๆ เดี๋ยวว่าผมไม่ประสงค์ดี
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
ปรึกษาบัญชีของบจ.แห่งหนึ่ง
โพสต์ที่ 2
โค้ด: เลือกทั้งหมด
พบว่ากำไรจากการดำเนินงานติดลบเพราะว่ามีการเอาเงินไปลงทุนขยายกิจการ
โดยกำไรจากการลงทุนเป็นบวกนิดหน่อย แต่ก็มีกำไรจากการจัดหาเงินมามากทีเดียว เพราะว่าไปกู้มา
กระแสเงินสด มี 3 แบบ
1. กิจกรรมดำเนินงาน
2. กิจกรรมการลงทุน
3. กิจกรรมจัดหาเงิน
ทั้ง 3 ตัวเป็นกระแสเงินสด เพื่อบอกว่า บริษัทมีเงินสด มากขึ้น หรือน้อยลง ด้วยสาเหตุใดเป็นหลัก ถ้าไม่แยกจะดูไม่ออก
แต่ไม่เกี่ยวกับกำไรนะครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Jeng เมื่อ อังคาร มี.ค. 23, 2004 2:20 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
ปรึกษาบัญชีของบจ.แห่งหนึ่ง
โพสต์ที่ 4
เป็นไปไม่ได้ที่กำไรจากการดำเนินงาน (อ้อขอเปลี่ยนเป็นกระแสเงินสดสุทธิ)ดีกว่า ติดลบเพราะเอาเงินไปลงทุนพบว่ากำไรจากการดำเนินงานติดลบเพราะว่ามีการเอาเงินไปลงทุนขยายกิจการ
โดยกำไรจากการลงทุนเป็นบวกนิดหน่อย แต่ก็มีกำไรจากการจัดหาเงินมามากทีเดียว เพราะว่าไปกู้มา
เป็นไปไม่ได้ที่กระแสเงินสดสุทธิจากการลงทุนเป็นบวก แต่ลงทุนเพิ่ม
เท่าที่เดาได้คือ บริษัทน่าจะมีกระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงานเป็นบวก แต่กระแสเงินสดสุทธิจากการลงทุนเป็นลบจำนวนมากกว่าที่จะใช้เงินสดที่กิจการสร้างได้ ทำให้ต้องไปกู้เงินมาลงทุนซึ่งจะอยู่ในส่วนสุดท้ายคือกิจกรรมการหาเงิน
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
ปรึกษาบัญชีของบจ.แห่งหนึ่ง
โพสต์ที่ 5
คณแม่นยำไม่บอกชื่อบริษัท ผมเลยไม่ร้รายละเอียด เอาเป็นว่าพดแบบรวมๆแล้วกันนะครับ
เรื่องเงินสดจากผลการดำเนินงานติดลบ เราคงต้องพิจารณาสาเหตที่ทำให้บริษัทมีเงินสดจากการดำเนินงานติดลบครับ
ปรกติแล้วบริษัทที่มีผลการดำเนินงานที่ดีเมื่อบวกกับค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายตัดจ่ายแล้ว บริษัทน่าจะมีเงินสดสทธิจากการดำเนินงานเป็นบวก
บางบริษัทมีกำไรสทธิ แต่มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานติดลบ ก็เนื่องจากบริษัทไม่ได้มีกำไรจากการดำเนินงานจริงครับ เพราะมีกำไรจากรายการพิเศษเป็นจำนวนมาก เช่น กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง มีรายการกลับค่าสำรองต่างๆ หรืออาจจะกำไรจากบริษัทย่อย เป็นต้น
ถ้าบริษัทมีเงินสดติดลบเนื่องจากมีการลงทนใน ลกหนี้การค้า และสินค้าคงคลังเป็นจำนวนมาก ก็คงต้องระวังว่าสอดคล้องกับยอดขายที่เพิ่มขึ้นของบริษัทหรือไม่ บางครั้งบริษัทมียอดขายมาก แต่เก็บเงินไม่ได้ สดท้ายเป็นหนี้เสียก็เยอะครับ
ถ้าติดลบเพราะชำระเจ้าหนี้การค้า ก็โอเคครับ แต่ก็คงต้องตรวจสอบถ้าชำระมากกว่าปรกติ
ติดลบเพราะลงทนในสินทรัพย์หมนเวียนอื่นๆ คงต้องตรวจสอบว่าสินทรัพย์รายการนั้นคืออะไร และมีเหตผลหรือไม่ รายการนี้ต้องระวังพอควรครับ
เรื่องเงินสดจากการลงทนเป็นบวก
ถ้าบริษัทมีเงินสดรับที่ไม่ใช่การขายสินทรัพย์ก็จะดีครับ แต่ถ้าเกิดจากการขายสินทรัพย์ก็ต้องตรวจสอบว่าสินทรัพย์นั้นมีประโยชน์ต่อบริษัทในการดำเนินงานหรือไม่ ถ้าใช่ก็คงไม่ดีครับ เหมือนการขายสินทรัพย์กิน
การจัดหาเงินเป็นบวกจากการก้เงิน
การก้เงินเพิ่มนั้นย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยดีครับ ยิ่งไม่ใช่การก้ยืมเงินมาเพื่อลงทนขยายกิจการ ถ้าบริษัทยังคงต้องพิ่งพากระแสเงินสดจากการก้ยืมเงิน แล้วผ้ถือห้นจะได้รับเงินปันผลที่ดีได้อย่างไรครับ บางบริษัทอาจจะก้เงินมาจ่ายปันผล แต่ก็คงทำได้ไม่นานครับ
ประเด็นหลักคงต้องพิจารณาถึงรรั่วในกิจกรรมดำเนินงานครับ ว่าเหมาะสมและดีต่อบริษัทหรือไม่ครับ
เรื่องเงินสดจากผลการดำเนินงานติดลบ เราคงต้องพิจารณาสาเหตที่ทำให้บริษัทมีเงินสดจากการดำเนินงานติดลบครับ
ปรกติแล้วบริษัทที่มีผลการดำเนินงานที่ดีเมื่อบวกกับค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายตัดจ่ายแล้ว บริษัทน่าจะมีเงินสดสทธิจากการดำเนินงานเป็นบวก
บางบริษัทมีกำไรสทธิ แต่มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานติดลบ ก็เนื่องจากบริษัทไม่ได้มีกำไรจากการดำเนินงานจริงครับ เพราะมีกำไรจากรายการพิเศษเป็นจำนวนมาก เช่น กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง มีรายการกลับค่าสำรองต่างๆ หรืออาจจะกำไรจากบริษัทย่อย เป็นต้น
ถ้าบริษัทมีเงินสดติดลบเนื่องจากมีการลงทนใน ลกหนี้การค้า และสินค้าคงคลังเป็นจำนวนมาก ก็คงต้องระวังว่าสอดคล้องกับยอดขายที่เพิ่มขึ้นของบริษัทหรือไม่ บางครั้งบริษัทมียอดขายมาก แต่เก็บเงินไม่ได้ สดท้ายเป็นหนี้เสียก็เยอะครับ
ถ้าติดลบเพราะชำระเจ้าหนี้การค้า ก็โอเคครับ แต่ก็คงต้องตรวจสอบถ้าชำระมากกว่าปรกติ
ติดลบเพราะลงทนในสินทรัพย์หมนเวียนอื่นๆ คงต้องตรวจสอบว่าสินทรัพย์รายการนั้นคืออะไร และมีเหตผลหรือไม่ รายการนี้ต้องระวังพอควรครับ
เรื่องเงินสดจากการลงทนเป็นบวก
ถ้าบริษัทมีเงินสดรับที่ไม่ใช่การขายสินทรัพย์ก็จะดีครับ แต่ถ้าเกิดจากการขายสินทรัพย์ก็ต้องตรวจสอบว่าสินทรัพย์นั้นมีประโยชน์ต่อบริษัทในการดำเนินงานหรือไม่ ถ้าใช่ก็คงไม่ดีครับ เหมือนการขายสินทรัพย์กิน
การจัดหาเงินเป็นบวกจากการก้เงิน
การก้เงินเพิ่มนั้นย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยดีครับ ยิ่งไม่ใช่การก้ยืมเงินมาเพื่อลงทนขยายกิจการ ถ้าบริษัทยังคงต้องพิ่งพากระแสเงินสดจากการก้ยืมเงิน แล้วผ้ถือห้นจะได้รับเงินปันผลที่ดีได้อย่างไรครับ บางบริษัทอาจจะก้เงินมาจ่ายปันผล แต่ก็คงทำได้ไม่นานครับ
ประเด็นหลักคงต้องพิจารณาถึงรรั่วในกิจกรรมดำเนินงานครับ ว่าเหมาะสมและดีต่อบริษัทหรือไม่ครับ
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
ปรึกษาบัญชีของบจ.แห่งหนึ่ง
โพสต์ที่ 7
ลองไปดูมาแล้วนะครับ
กระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงานเป็นลบ ผมอ่านแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจครับ อาจเป็นเพราะไม่เข้าใจวิธีการรับรู้รายได้ของ Noble ก็ได้ ติดลบไป 480 ล้าน ผมดูในหมายเหตุงบที่ 21 แล้วยังไม่แน่ใจว่ามันเกี่ยวกับการลงทุนเพิ่มครับ (เอ สางบ้านเพิ่มไม่น่าเรียกว่าเป็นการลงทุนเพิ่ม นิ)
กระแสเงินสดสุทธิจากการลงทุนเป็นบวกเพราะมีการคืนเงินกู้จากบริษัทบางพลีวิว (บริษัทใครก็ไม่รู้) เป็นเงิน 200 ล้าน สรุปยอดเป็นบวกประมาณ 100 กว่าล้าน
กระแสเงินสดสุทธิจากการจัดหาเงินเป็นบวกจำนวนมหาศาลเพราะเข้าใจว่าเพิ่งออกหุ้นกู้มูลค่า 1000 กว่าล้านบาท ทั้งๆ ที่ปีที่แล้วเพิ่งเพิ่มทุนไป 1000 กว่าล้านบาทเช่นกัน
ว่ากันตามงบล้วนๆ ครับ ไม่ได้บอกว่าดีหรือไม่ดีนะครับ
กระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงานเป็นลบ ผมอ่านแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจครับ อาจเป็นเพราะไม่เข้าใจวิธีการรับรู้รายได้ของ Noble ก็ได้ ติดลบไป 480 ล้าน ผมดูในหมายเหตุงบที่ 21 แล้วยังไม่แน่ใจว่ามันเกี่ยวกับการลงทุนเพิ่มครับ (เอ สางบ้านเพิ่มไม่น่าเรียกว่าเป็นการลงทุนเพิ่ม นิ)
กระแสเงินสดสุทธิจากการลงทุนเป็นบวกเพราะมีการคืนเงินกู้จากบริษัทบางพลีวิว (บริษัทใครก็ไม่รู้) เป็นเงิน 200 ล้าน สรุปยอดเป็นบวกประมาณ 100 กว่าล้าน
กระแสเงินสดสุทธิจากการจัดหาเงินเป็นบวกจำนวนมหาศาลเพราะเข้าใจว่าเพิ่งออกหุ้นกู้มูลค่า 1000 กว่าล้านบาท ทั้งๆ ที่ปีที่แล้วเพิ่งเพิ่มทุนไป 1000 กว่าล้านบาทเช่นกัน
ว่ากันตามงบล้วนๆ ครับ ไม่ได้บอกว่าดีหรือไม่ดีนะครับ
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
ปรึกษาบัญชีของบจ.แห่งหนึ่ง
โพสต์ที่ 12
ชมกันเกินไปครับ
ที่จริงแล้วผมก็ไม่ได้เป็นแบบอย่างที่ดีอะไรเลย ผมอาจเป็นเพียงคนที่ไม่มีความสามารถอะไรก็ได้ครับ
เพียงแต่ว่าผมสามารถนำเงินไปลงทน แล้วได้ผลตอบแทนมากพอเพียงกับค่าใช้จ่ายของครอบครัวเท่านั้นครับ
พอดีครอบครัวของผมมีค่าใช้จ่ายไม่เยอะมากครับ เลยสามารถทำได้
และมีปัจจัยอีก 2 ประการครับที่สำคัญที่ทำให้ผมไม่ได้ทำงานอะไรนอกจากการลงทนคือ
1. ผมมีลก 2 คนครับ ยังเล็กๆอย่เลยครับ 5 ขวบ กับ 2 ขวบครึ่งครับ เลยอยากจะให้เวลากับครอบครัวเต็มที่หน่อย ช่วงนี้แกยังอยากอย่กับพ่อแม่ เดี๋ยวโตแล้วก็ไม่อยากอย่แล้วครับ ติดเพื่อน
2. ผมยังไม่มีความร้ หรือความสนใจในการงาน หรืออาชีพอื่นใดเลยครับ
มีคนอื่นอีกมากมายที่ได้รับผลตอบแทนจากการลงทนที่มากพอต่อค่าใช้จ่าย แต่ยังคงทำงานอย่ เนื่องจากท่านเหล่านั้นมีความสขจากการได้ทำงานนั้นๆครับ
อนาคตถ้าผมมีความสนใจที่จะทำงานอะไร อาจทำให้ผมกลับไปทำงานอีกครั้งก็ได้ครับ
ที่จริงแล้วผมก็ไม่ได้เป็นแบบอย่างที่ดีอะไรเลย ผมอาจเป็นเพียงคนที่ไม่มีความสามารถอะไรก็ได้ครับ
เพียงแต่ว่าผมสามารถนำเงินไปลงทน แล้วได้ผลตอบแทนมากพอเพียงกับค่าใช้จ่ายของครอบครัวเท่านั้นครับ
พอดีครอบครัวของผมมีค่าใช้จ่ายไม่เยอะมากครับ เลยสามารถทำได้
และมีปัจจัยอีก 2 ประการครับที่สำคัญที่ทำให้ผมไม่ได้ทำงานอะไรนอกจากการลงทนคือ
1. ผมมีลก 2 คนครับ ยังเล็กๆอย่เลยครับ 5 ขวบ กับ 2 ขวบครึ่งครับ เลยอยากจะให้เวลากับครอบครัวเต็มที่หน่อย ช่วงนี้แกยังอยากอย่กับพ่อแม่ เดี๋ยวโตแล้วก็ไม่อยากอย่แล้วครับ ติดเพื่อน
2. ผมยังไม่มีความร้ หรือความสนใจในการงาน หรืออาชีพอื่นใดเลยครับ
มีคนอื่นอีกมากมายที่ได้รับผลตอบแทนจากการลงทนที่มากพอต่อค่าใช้จ่าย แต่ยังคงทำงานอย่ เนื่องจากท่านเหล่านั้นมีความสขจากการได้ทำงานนั้นๆครับ
อนาคตถ้าผมมีความสนใจที่จะทำงานอะไร อาจทำให้ผมกลับไปทำงานอีกครั้งก็ได้ครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ปรึกษาบัญชีของบจ.แห่งหนึ่ง
โพสต์ที่ 13
ไม่ทราบคุณ chatchai สนใจการวิเคราะห์งบการเงินเป็นอาชีพไหมครับ
หรือไม่ก็คำนวณงบกระแสเงินสดของบริษัทจดทะเบียนในตลาดขาย
ผมคิดว่าคุณ chatchai ชอบวิเคราะห์นะครับ เลยทำออกมาได้ดีมาก
คนเราถ้าไม่ชอบเสียอย่าง คงทำออกมาแบบงั้นๆนะครับ
หรือไม่ก็คำนวณงบกระแสเงินสดของบริษัทจดทะเบียนในตลาดขาย
ผมคิดว่าคุณ chatchai ชอบวิเคราะห์นะครับ เลยทำออกมาได้ดีมาก
คนเราถ้าไม่ชอบเสียอย่าง คงทำออกมาแบบงั้นๆนะครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
ปรึกษาบัญชีของบจ.แห่งหนึ่ง
โพสต์ที่ 14
เรื่องงบ NOBLE นั้น ผมดงบการเงินของบริษัทแล้วครับ
จริงๆแล้ว ผมมักจะไม่พิจารณางบการเงินของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่จำหน่ายแบบผ่อนชำระครับ
เพราะการบันทึกบัญชีนั้น ผมร้สึกว่ามันไม่ตรงไปตรงมาเหมือนธรกิจซื้อมาขายไปครับ
เช่นการรับร้รายได้ ก็มีการทะยอยรับร้ตามงวดผ่อนและเปอร์เซ็นต์การก่อสร้าง ซึ่งก็เป็นไปได้ที่ลกค้าที่ผ่อนชำระมาบางงวดแล้วจะยกเลิกการซื้อครับ
เข้าเรื่องงบของ NOBLE ดีกว่าครับ
โดยรวมบริษัทก็มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานมากพอสมควรครับ เพียงแต่บริษัทมีการลงทนโครงการเพื่อขายเพิ่มเติมและให้บริษัทลกก้ยืมเป็นจำนวนเงิน 862.71 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดไม่เพียงพอจึงต้องมีการก้ยืมเงินเพิ่ม
ซึ่งบริษัทลกที่ก้ยืมเงินจาก NOBLE ไปนั้นก็นำเงินไปซื้อที่ดินครับ
ที่นี้มีจดที่ผมสงสัยและต้องระวังอย่ 2 จดครับ คือ
1. จากหมายเหตของบริษัท ลกหนี้การค้าของบริษัทคือ มลหนี้ที่ครบกำหนดชำระแล้วแต่ยังไม่ชำระ ซึ่งก็คือหนี้ผิดนัดนั้นเองครับ จากปี 2545 ในงบรวม บริษัทมีลกหนี้การค้าเพียง 13.37 ล้านบาท แต่เพิ่มขึ้นเป็น 48.11 ล้านบาทในปี 2546 ซึ่งเพิ่มขึ้นพอสมควรครับ และยังไม่มีการตั้งสำรองหนี้สญเลยครับ
2. ในส่วนหมายเหตงบข้อ 8 ต้นทนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นั้น
ในงบรวม ปี 2546 มีการโอนไปเป็นต้นทนการขายจำนวน 1,939.36 ล้านบาท แต่ในงบกำไรขาดทน บริษัทมีต้นทนการขายเพียง 1,798.57 ล้านบาทเองครับ ไงในงบกำไรขาดทนจึงน้อยกว่าได้ครับ ไม่เข้าใจเลย
จริงๆแล้ว ผมมักจะไม่พิจารณางบการเงินของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่จำหน่ายแบบผ่อนชำระครับ
เพราะการบันทึกบัญชีนั้น ผมร้สึกว่ามันไม่ตรงไปตรงมาเหมือนธรกิจซื้อมาขายไปครับ
เช่นการรับร้รายได้ ก็มีการทะยอยรับร้ตามงวดผ่อนและเปอร์เซ็นต์การก่อสร้าง ซึ่งก็เป็นไปได้ที่ลกค้าที่ผ่อนชำระมาบางงวดแล้วจะยกเลิกการซื้อครับ
เข้าเรื่องงบของ NOBLE ดีกว่าครับ
โดยรวมบริษัทก็มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานมากพอสมควรครับ เพียงแต่บริษัทมีการลงทนโครงการเพื่อขายเพิ่มเติมและให้บริษัทลกก้ยืมเป็นจำนวนเงิน 862.71 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดไม่เพียงพอจึงต้องมีการก้ยืมเงินเพิ่ม
ซึ่งบริษัทลกที่ก้ยืมเงินจาก NOBLE ไปนั้นก็นำเงินไปซื้อที่ดินครับ
ที่นี้มีจดที่ผมสงสัยและต้องระวังอย่ 2 จดครับ คือ
1. จากหมายเหตของบริษัท ลกหนี้การค้าของบริษัทคือ มลหนี้ที่ครบกำหนดชำระแล้วแต่ยังไม่ชำระ ซึ่งก็คือหนี้ผิดนัดนั้นเองครับ จากปี 2545 ในงบรวม บริษัทมีลกหนี้การค้าเพียง 13.37 ล้านบาท แต่เพิ่มขึ้นเป็น 48.11 ล้านบาทในปี 2546 ซึ่งเพิ่มขึ้นพอสมควรครับ และยังไม่มีการตั้งสำรองหนี้สญเลยครับ
2. ในส่วนหมายเหตงบข้อ 8 ต้นทนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นั้น
ในงบรวม ปี 2546 มีการโอนไปเป็นต้นทนการขายจำนวน 1,939.36 ล้านบาท แต่ในงบกำไรขาดทน บริษัทมีต้นทนการขายเพียง 1,798.57 ล้านบาทเองครับ ไงในงบกำไรขาดทนจึงน้อยกว่าได้ครับ ไม่เข้าใจเลย