BROCK= low risk, high uncertainty ?

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
ภาพประจำตัวสมาชิก
DeepTVI
Verified User
โพสต์: 439
ผู้ติดตาม: 0

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์ที่ 31

โพสต์

webuffet เขียน:เท่าที่ผมถามคนที่เป็นทัวร์ที่นั้นมา ราคาต่อไร่เฉลี่ยประมาณ 1.5-2 ล้านเท่านั้นครับ และที่ขายดีๆนั้นเป็นของภูเก็ตวิลล่าครับ และ P/S ต่ำมากครับ
ที่ว่าประมาณ 1.5-2 ล้านนะ บริเวณไหนของภูเก็ตครับ
เมื่อปีที่แล้วช่วงสงกรานต์ ผมมีโอกาสได้ไปที่ภูเก็ต
และได้ถามที่บริเวณบายพาส ราคาประมาณ 8-10 ล้าน
(แต่ไม่ค่อยชัวส์นะครับ เพราะถามไปเล่นๆ ไม่คิดต้องใช้ประโยชน์ตอนนี้)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Kuruni
Verified User
โพสต์: 210
ผู้ติดตาม: 0

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์ที่ 32

โพสต์

ที่ดินภูเก็ตไร่ละ1-2ล้านก็ได้ครับ ต้องเป็นชุมชนแออัดประมาณั้นครับ :lol:  :lol:
webuffet
Verified User
โพสต์: 77
ผู้ติดตาม: 0

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์ที่ 33

โพสต์

เห็นว่าที่ของ BROCK ที่ภูเก็ตนั้นจะเป็นบนเขานะครับ เท่าที่ถามๆมา (ช่วยให้ข้อมูลครับ) ส่วนอัตราส่วน P/S พูดผิดครับไม่ใช่ต่ำไป แต่มันสูงเกินไปครับ P/S = 1400/220= ~6-7 เท่า แต่ Margin สูงดีครับ , ROE ที่ต่ำๆเพราะหนี้น้อย ส่วน ROA นั้นก็ยังต่ำไปครับ แสดงว่าทุกๆสินทรัพย์ 100 บาท ทำกำไรให้กับบริษัทเพียง 6-7 บาทเท่านั้น ทั้งๆที่บริษัททำธุรกิจอสังหา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Pn3um0n1a
Verified User
โพสต์: 1935
ผู้ติดตาม: 0

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์ที่ 34

โพสต์

webuffet เขียน:เห็นว่าที่ของ BROCK ที่ภูเก็ตนั้นจะเป็นบนเขานะครับ เท่าที่ถามๆมา (ช่วยให้ข้อมูลครับ) ส่วนอัตราส่วน P/S พูดผิดครับไม่ใช่ต่ำไป แต่มันสูงเกินไปครับ P/S = 1400/220= ~6-7 เท่า แต่ Margin สูงดีครับ , ROE ที่ต่ำๆเพราะหนี้น้อย ส่วน ROA นั้นก็ยังต่ำไปครับ แสดงว่าทุกๆสินทรัพย์ 100 บาท ทำกำไรให้กับบริษัทเพียง 6-7 บาทเท่านั้น ทั้งๆที่บริษัททำธุรกิจอสังหา
ผมว่าพี่ กลับไปอ่านให้ครบทุกหน้าก่อนดีกว่าครับ

แล้วรูปที่ ก็มีพี่ โอ@ เอามาลงให้แล้วครับ  :D

ถ้าอ่านหมดแล้วและยังมีความเห็นอย่างนั้น ก็ขออภัย ณ ที่นี้
ภาพประจำตัวสมาชิก
poppo
Verified User
โพสต์: 1356
ผู้ติดตาม: 0

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์ที่ 35

โพสต์

เรื่อง low risk ผมว่ามันก็จริง เพราะสินทรัพย์ที่มีในรูปที่ดินเยอะมาก และราคาก็น่าจะแพง เพราะเทรนการซื้อที่ดินติดชายทะเลของฝรั่งกำลังมา โครงการที่ผ่านๆมาก็ขายได้ดีพอสมควร แต่ถ้าถามว่าความสามารถในการพัฒนาอสังหาในระยะยาวสู้พวก LH PS LPN SIRI ได้หรือไม่ ยังน่าคิด

ถ้าบริษัทแสดงความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะเป็นผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อรองรับชาวต่างชาติ และเมื่อดูไปเรื่อยๆในระยะยาวแล้ว มีการพัฒนาที่ดินที่ดี ขายได้ตลอด ก็คงน่าจะร่วมลงทุนในระยะยาว

ความสามารถในระยะยาวของบริษัทอสังหาคือ ความสามารถในการหาที่ดินในทำเลที่จะพัฒนาโครงการได้เหมาะกับความต้องการของประชากร โดยที่มีผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล และไม่โกง

ปล ผมก็มีไว้ลุ้นนิดหน่อย แต่ขอให้คุณ nearly vi ปอดบวมสมใจนะครับ :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Pn3um0n1a
Verified User
โพสต์: 1935
ผู้ติดตาม: 0

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์ที่ 36

โพสต์

poppo เขียน:เรื่อง low risk ผมว่ามันก็จริง เพราะสินทรัพย์ที่มีในรูปที่ดินเยอะมาก และราคาก็น่าจะแพง เพราะเทรนการซื้อที่ดินติดชายทะเลของฝรั่งกำลังมา โครงการที่ผ่านๆมาก็ขายได้ดีพอสมควร แต่ถ้าถามว่าความสามารถในการพัฒนาอสังหาในระยะยาวสู้พวก LH PS LPN SIRI ได้หรือไม่ ยังน่าคิด

ถ้าบริษัทแสดงความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะเป็นผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อรองรับชาวต่างชาติ และเมื่อดูไปเรื่อยๆในระยะยาวแล้ว มีการพัฒนาที่ดินที่ดี ขายได้ตลอด ก็คงน่าจะร่วมลงทุนในระยะยาว

ความสามารถในระยะยาวของบริษัทอสังหาคือ ความสามารถในการหาที่ดินในทำเลที่จะพัฒนาโครงการได้เหมาะกับความต้องการของประชากร โดยที่มีผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล และไม่โกง

ปล ผมก็มีไว้ลุ้นนิดหน่อย แต่ขอให้คุณ nearly vi ปอดบวมสมใจนะครับ :lol:
จริงครับพี่ ผมว่าตัว brock สู้ไม่ได้แน่ๆ ครับ (ย้ำเลยว่าแน่ใจ ถึงแม้ถือหุ้นอยู่ แต่พยายามไม่ bias)

ทีแรกก็กลัวๆ แต่ บ ยามูพรอพเพอร์ตี้ที่ จับมือกับ บ สวีเดนนี่ ทำให้ผมใจชื้นขึ้นได้เยอะ เพราะ เค้ามีศักยภาพ (คงเรียกได้ว่าระดับโลก) และ จริงๆ  brock นี่ คงไม่ได้เป็น คู่แข่งโดยตรง ของ LH SIRI แน่ๆ  
อย่างที่ แอร์พอร์ท เค้าก็ทำบ้าน คนละระดับกัน หนี เพราะสู้ไม่ได้ในตลาดบน
ผมก็ ชอบ เพราะรู้ว่าอย่างน้อยก็ รู้เขารู้เรา

ส่วนระยะยาว ก็ต้องดูกันต่อไป ยังถือเป็นความเสี่ยงอย่างนึงอยู่ ต้องยอมรับครับ

และจากคำบอกเล่าของพี่ที่ไป วิสิท เค้าว่า ผู้บริหาร เก่งด้านการหาที่ มากกว่าพัฒนาด้วยซ้ำ
เห็นว่า เล่นด้านนี้มาหลายสิบปีแล้ว

ส่วนที่อวยพร ผมขอรับไว้นะครับ สาธุ  :pray:   ขอบคุณครับ  :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
Rocker
Verified User
โพสต์: 4526
ผู้ติดตาม: 0

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์ที่ 37

โพสต์

คนที่กล้าซื้อเยอะๆอะช่วยตอบทีของbrock

Segment  ?

Positioning  ?

Target Market ?

SWOT ?
adi
Verified User
โพสต์: 1155
ผู้ติดตาม: 0

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์ที่ 38

โพสต์

PP เขียน:
ผมไม่เคยศึกษากลุ่มอิเลคโทรนิคเลย ...จึงยังไม่เข้าใจกลุ่มนี้เลย
A Cynic Knows the Price of Everything and the Value of Nothing
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
ภาพประจำตัวสมาชิก
Linzhi
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1464
ผู้ติดตาม: 1

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์ที่ 39

โพสต์

เห็นอยู่ใน pantip ครับ

http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 91193.html

ทำไมถึงดุเดือดจัง เอามาแชร์เฉยๆ นะ ผมไม่มีเอี่ยว
PP
Verified User
โพสต์: 435
ผู้ติดตาม: 0

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์ที่ 40

โพสต์

ข้อคิดเตือนใจสำหรับการลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้สถาณะการณ์ปัจจุบันที่อเมริกากำลังเผชิญ(กำลังมีปัญหา sub prime)เขียนโดย Sham Gad   ลองวิเคราะห์อย่างที่เขาว่ามาแล้วเทียบกับกรณี BROCK ดูว่าเป็นอย่างไร  :)  :)  :)    ตามไปดูที่ลิ้งค์นี้ก็แล้วกัน
http://www.fool.com/investing/value/200 ... lnk0000003


Homebuilders: Bargains or Value Traps?
By Sham Gad August 3, 2007


The past two weeks have been a nightmare for homebuilders. Shares in just about every company in the industry, from Hovnanian (NYSE: HOV) to Pulte Homes (NYSE: PHM), are selling at prices not seen since before the housing boom began.

Listen in on the USG (NYSE: USG) conference call, and you will get a clear indication of how painful things are in the housing industry. Listen in on the Countrywide (NYSE: CFC) conference call, and you will know how dire the mortgage situation is becoming. Basically, everything that could go wrong in homebuilding, is going wrong. There is an oversupply of new and existing homes. House values are dropping by rates reminiscent of what happened in the Great Depression. Mortgages, both subprime and now even prime, are defaulting at accelerating rates.

Meanwhile, Mr. Market is frantically selling homebuilders and, any other business that smells of homebuilding, at a rapid-fire pace. The homebuilders themselves are generating negative cash flow for the most part, and the land writeoffs are still coming in. As a result, even companies that have been around for a long time and have experienced their up and down cycles are trading below book value -- in some cases, substantially below. So what gives?

During favorable business conditions, the major homebuilders were generating returns on equity in excess of 20% and churning out healthy amounts of free cash flow. When the industry turns favorable again, which is now more likely to occur no sooner than late 2008, investing at today's prices may offer a satisfactory return on capital. But at this stage, I would exercise extreme caution. As investing guru Mohnish Pabrai says, it's the combination of low risk and high uncertainty that can be very profitable or, at worst, cause a minimal reduction in capital. However, that's not the case with homebuilders. Most of them face high uncertainty and exhibit high levels of risk commensurate with the current environment.

A simple illustration
Look no further than Beazer Homes (NYSE: BZH) to realize how perilous the housing industry is right now. Currently under an FBI investigation, Beazer saw its stock earlier this week plunge by more than 20% in a single day because of bankruptcy rumors. I can't comment on whether Beazer is truly close to bankruptcy. That's a whole other issue entirely. But I do know that at today's prices, Beazer is selling at less than one-third of book value and about one-tenth of sales. I wouldn't expect much from Beazer and its contemporaries in the near future, but if Beazer can ride the storm, and it manages to sell for even two-thirds of book, it looks like a potentially attractive investment.

Or does it?

Using Beazer's most recent 10-Q for the period ended March 31 and all current-quarter data I could find, the balance sheet looks like this.

Balance Sheet Analysis, As of 3/30/07

 
Cash
$128 million (as of 6/30/07)

Inventory
$3.3 billion

Accounts receivable
$66 million

Goodwill  
$121 million

Property, plant, and equipment  
$26 million

Mortgages
$10.3 million

Other assets    
$132 million

Total assets  
$3.7 billion

   
Total liabilities  
$2.6 billion



Total equity was about $1.6 billion at the end of March and has gone down to $1.1 billion since the second quarter, which ended June 30. This $1.1 billion equates to approximately $28 per share on about 39 million shares outstanding, assuming all of the assets are worth the stated value -- and in a worst-case scenario, they're certainly not.

By my conservative assumptions, I value Beazer's assets at the following amounts:

Cash is cash, so its value is $128 million.
Inventory is one of the problems. With further writedowns, assuming 80 cents on the dollar, inventory is worth $2.64 billion.
Accounts receivable, after some charges, are worth $60 million.
Goodwill is worth zero.
PPE would probably fetch around $18 million to $20 million in a fire sale.
Mortgages, at 80 cents on the dollar, are worth about $8.2 million.
Other assets, namely joint-venture investments and deferred tax assets at 85 cents on the dollar, are worth $112 million.
The revalued assets come to approximately $3 billion, leaving an equity value of just above $400 million, or about $10.25 per share in book value, versus today's stock price of around $12.50 a share. These valuations are merely assumptions based on my assessment of the overall industry's economics, and they serve only to illustrate that the plunge in prices assumes further writedowns and, hence, a reduction in book value. To properly assess most homebuilders, a similar balance-sheet analysis would need to be done to fairly compare all of the companies.

Remember: A business is underpriced at one price, fairly priced at another, and overpriced at yet another. Value investing requires the disciplined investor to buy only the underpriced asset, neither buy nor sell the fairly priced asset, and avoid the overpriced assets.

There are a lot of fantastic homebuilders in the business, and Beazer could very well reach the right price. Exhibiting high uncertainty can lead to handsome profits. Yet the prudent investor must do some digging and consider only the homebuilder or homebuilders that offer a low-risk investment.
"The man who doesn't read has no advantage over the man who cannot read." Mark Twain
wj
Verified User
โพสต์: 1255
ผู้ติดตาม: 0

BROCK= low risk, high uncertainty ?

โพสต์ที่ 41

โพสต์

ทำให้ผมนึกถึงหุ้นที่มีการถกเถียงคล้ายๆกัน precha
precha มี market cap ประมาณ 300 ล้าน แต่มีโครงการคอนโด มูลค่า 1000 ล้านที่จะเสร็จอีกไม่เิกิน 1.5 ปี ทำให้อาจจะรับรู้กำไรได้ ที่มาร์จินคาดเดา 20-30% ทำให้เงินสดที่ได้รับจากโครงการนี้มากกว่า มาร์เกตแคบภายใน1.5 ปี หรือช้าสุดคือ 2 ปี ขณะที่ brock ลงทุน 2500 ล้านบาท มีคนวิเคระห์(ในร้อยคนร้อยหุ้น)ว่าจะมีกำไรเข้ามา เกือบพันล้าน แต่ก็คงต้องใช้เวลา ไม่น้อยกว่า 3 ปี(มองโลกในแง่ดี)
ต่างกันก็คือ precha มียอดจองเต็มแล้ว 100% ภายใน 5 ชั่วโมงที่เปิดให้จอง ขณะที่ brock ยังไม่ได้เปิดขาย

แต่อาจจะเหมือนกันก็คือ precha หุ้นวิ่งจาก 2.3 ถึง 3 บาทรวดเร็ว แล้วก็กลับมาที่เดิม และ brock ก็วิ่งไป 1.5 บาท แล้วกำลังลงมา

ผมคิดว่าคนที่ซื้อ brock และ precha นั้นแบกรับความเสี่ยงสูง ถ้าใช้พื้นฐานการเปียบเทียบกับ precha ถึงแม้ว่า precha จะขาดทุนเล็กน้อย และมีฐานะการเงินที่แย่กว่า brock แต่ brock ก็มีกำไร 1 สตางค์ ต่อหุ้น ทำให้ดูแล้วมันก็ต้องรอข่าวดีต่อไป

ทำให้คิดว่า การลงทุนเพื่อรอความหวัง กับการลงทุนกันหุ้นที่มีกำไรแล้ว มันต้องมีอะไรที่ต่างกันแน่นนอน ไม่งั้นคงไม่มีคำว่า high risk high return ผมไม่เชื่อว่า low risk แล้วจะมี high return เพราะตลาดก็รับรู้กับสิ่งที่สองบริษัทนี้จะทำในอนาคตอยู่แล้ว...