อัจฉริยะสร้างได้

ขุมทรัพย์ทางปัญญา แนะนำหนังสือน่าอ่านสำหรับนักลงทุน ทั้งเรื่องหุ้น การลงทุน และอื่นๆ (ท่านที่ยังโพสต์แนะนำไม่ได้ ให้โพสต์แนะนำใน ห้องนั่งเล่น (Miscellaneous เดิม) หรือ ห้อง Value Investing ผู้ดูแลจะย้ายกระทู้และมอบสิทธิ์ให้ท่านครับ)
ภาพประจำตัวสมาชิก
pinklady
Verified User
โพสต์: 778
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 1

โพสต์

รูปภาพ

ผู้แต่ง :  วนิษา เรซ  


..."สมองของเรามีเซลล์สมองเท่ากับไอน์สไตน์ ดังนั้น ไอน์สไตน์ฉลาดได้เท่าไหน โดยทฤษฎีแล้วเราก็ฉลาดได้เท่านั้น" เราทุกคนต่างมีอัจฉรยภาพซ่อนอยู่ภายใน อยู่ที่ว่าจะค้นหาอย่างไรให้เจอ...หนังสือเล่มนี้จะทำให้ค้นพบว่า...คุณเองก็เป็น "อัจฉริยะ" ได้...

บทนำ อัจฉริยภาพในคำนิยามใหม่
บทที่ 1 อัจฉริยภาพด้านภาษาและการสื่อสาร
บทที่ 2 อัจฉริยภาพด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว
บทที่ 3 อัจฉริยภาพด้านมิติสัมพันธ์และการจินตภาพ
บทที่ 4 อัจฉริยภาพด้านตรรกะและคณิตศาสตร์
บทที่ 5 อัจฉริยภาพด้านการเข้าใจตนเอง
บทที่ 6 อัจฉริยภาพด้านมนุษยสัมพันธ์และการเข้าใจผู้อื่น
บทที่ 7 อัจฉริยภาพด้านการเข้าใจธรรมชาติ
บทที่ 8 อัจฉริยภาพด้านดนตรีและจังหวะ
บทส่งท้าย อัจฉริยภาพสร้างได้สำหรับทุกคน
ภาพประจำตัวสมาชิก
pinklady
Verified User
โพสต์: 778
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ภาพประจำตัวสมาชิก
pinklady
Verified User
โพสต์: 778
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 3

โพสต์

อ้าว คุณกล้วยทอด โพสในห้องนั่งเล่นแล้ว เพิ่งเห็น :lol:
กล้วยทอด
Verified User
โพสต์: 1468
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 4

โพสต์

[quote="pinklady"]อ้าว คุณกล้วยทอด โพสในห้องนั่งเล่นแล้ว เพิ่งเห็น :lol:
..สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง..
ภาพประจำตัวสมาชิก
pinklady
Verified User
โพสต์: 778
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 5

โพสต์

[quote="กล้วยทอด"][quote="pinklady"]อ้าว คุณกล้วยทอด โพสในห้องนั่งเล่นแล้ว เพิ่งเห็น :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
pinklady
Verified User
โพสต์: 778
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 6

โพสต์

เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้
ให้ลองสำรวจดูว่า
คุณมีอัจฉริยภาพด้านใดบ้าง..ในแปดอย่างนี้

แล้ว..ลองทำในสิ่งที่คุณไม่เคยทำ
และไม่คิดว่าจะทำได้
คุณอาจจะทึ่งในความสามารถของคุณ..ว่า
อืม..เราก็ทำได้แฮะ :lol:

ลองดูนะคะ..
โดยเฉพาะ..เหมาะแก่การฝึกเด็กๆ ให้เรียนรู้หลายๆด้านค่ะ :lol:

สำหรับท่านที่เคยให้ลูกๆทำสิ่งต่างๆหลากหลายมาแล้ว
จะรู้เลยว่า..มีผลต่อบุคลิกภาพของเด็กจริงๆค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ก้อนหิน
Verified User
โพสต์: 2344
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ทำได้อย่างไร เรียนอย่างสบายใจ แถมได้เกียรตินิยม

วนิษา เรซ
  ปริญญาโทเกียรตินิยมด้าน Mind, Brain and Education
   มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา
   ผู้เชี่ยวชาญด้านอัจฉริยภาพ
    และ ผู้ชนะล้านที่ 15 รายการอัจฉริยะข้ามคืน
   ประวัติเพิ่มเติมคลิกที่นี่



ก่อนที่จะมาเรียนปริญญาโทด้านสมอง รวมถึงทำวิจัยด้านอัจฉริยภาพ ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
สหรัฐอเมริกานั้น ตัวหนูดีเอง เรียนด้านการศึกษา และครอบครัวศึกษา ที่มหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์
คอลเลจพาร์คมาก่อน ในระดับปริญญาตรี ไม่ว่าปริญญาตรี หรือ ปริญญาโท หนูดีก็ได้รางวัลนักเรียนดีเด่น และเกียรตินิยมมาครองทุกครั้ง...ถึงผลการเรียนจะไม่ต่างกัน แต่วิถีชีวิต และวิถีการเรียน
ต่างกันอย่างมหาศาล
ในช่วงปริญญาตรี ชีวิตแต่ละวันผ่านไปด้วยความหนักและเหนื่อย ท่องหนังสือเยอะมาก เวลาที่จะออกกำลังกาย ออกไปเที่ยวกับเพื่อนก็น้อย เมื่อมารวมกับวัฒนธรรมของเพื่อนอเมริกัน ที่ชอบไปค้างอ้างแรมในป่า ไปปีนเขา พายเรือ เข้าถ้ำช่วงสุดสัปดาห์ ทำให้หนูดีต้องแพ็คกระเป๋าตามไปด้วย
แต่ไม่ว่าจะไปป่าลึกแค่ไหน หรือ พายเรือไปค้างบนเกาะที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ สิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้ในกระเป๋าแบ็คแพ็ค คือ “หนังสือเรียน” หยิบออกมาทีไร โดนเพื่อนฝรั่งหัวเราะใส่ตลอด ว่ามาเที่ยวนะ อีกอย่าง วันจันทร์ก็ไม่ได้มีสอบด้วย แต่หนูดีก็กลัวสอบได้คะแนนไม่ดี จนต้องท่องหนังสือแทบทุกเวลาที่ว่าง ประกอบกับเป็น นิสัยดั้งเดิมที่ติดไปตั้งแต่เมืองไทยด้วย คือ กลัวสอบตก กลัวทำให้พ่อแม่ผิดหวัง แถมเราเป็นเด็กสองภาษา ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษภาษาเดียวเหมือนเพื่อนฝรั่ง หนูดีจึงต้องพยายามเป็นสองเท่า เวลาต้องเรียนหนักและไม่ได้ทำอะไรที่อยากทำ หรือ ไม่มีชีวิตสบายๆแบบคนอื่น หนูดีก็จะปลอบใจตัวเองว่า “เดี๋ยวก็จบตรีแล้ว” แล้วก็ก้มหน้าท่องหนังสือต่อไป โดยไม่เคยได้รู้ว่าชีวิตมีตัวเลือกอื่น ที่ทำให้เราเรียนได้ดีขนาดนี้เหมือนกัน
เวลาผ่านไปจนหนูดีเรียนเกือบจบปริญญาตรี ใบรางวัลเรียนดีที่เพิ่มขึ้นทุกปี จนจำชื่อไม่ได้ว่าได้ใบประกาศเกียรติคุณด้านไหนบ้าง รู้แต่ว่าจะได้เกรดสลับกันไป บางเทอมได้ 4.00 บางเทอมได้ 3.9 รวมถึงจดหมายชมเชยจากอธิการบดี ที่จะส่งตรงมาถึงบ้านคุณแม่ที่เมืองไทยทุกครั้ง แต่ทั้งหมดนี้ ก็มาพร้อมความเครียดที่เพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ของหนูดี รวมถึงความรู้สึกว่า สมัยนี้แค่ปริญญาตรีคงไม่พอ โอ้โห ถ้าหนูดีต้องเรียนปริญญาโทด้วยความรู้สึกแบบนี้ คงต้องตายก่อนเรียนจบแน่ๆ
เมื่อเรียนจบมาได้ด้วยคะแนนระดับเกียรตินิยม ประกอบกับการที่เรียนได้เรียนรู้จักทฤษฎีสมองมามากมาย รวมถึงถูกใจทฤษฎีสุดเก๋ ของนักทฤษฎี ชื่อ ดร.โฮเวิร์ด การ์ดเนอร์ เข้า ที่บอกว่า คนเรามีอัจฉริยภาพอย่างน้อยแปดประการ เลยตามไปเช็คว่า ที่ไหนมีการเรียนการสอนด้านการทำงานของสมองบ้าง คือ หนูดีอยากรู้ว่า ทำอย่างไรคนเราถึงจะฉลาด เป็นอัจฉริยะกันได้ โดยยังใช้ชีวิตดำเนินทางสายกลางอย่างมีความสุข ไม่ต้องหักโหม ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนที่หนูดีเคยทำมา และเหมือนเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยคนอื่นๆที่ได้เกียรตินิยมเหมือนกัน
เช็คแล้ว ปรากฏว่า ที่เดียวในโลก ที่สอนด้านสมอง แต่ไม่ใช่ให้เราไปผ่าตัดนะคะ แต่เรียนให้รู้ว่า สมองคืออะไร ทำงานอย่างไร และรู้ว่า ทำตัวอย่างไร ถึงจะใช้สมองให้คุ้มค่า มีศักยภาพที่สุด ก็มีอยู่ที่เดียวในโลกเท่านั้น คือ ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่บอสตัน สหรัฐ อเมริกา
เห็นชื่อมหาวิทยาลัยแล้ว ก็ตกใจ ถอยมาหนึ่งก้าว เพราะถึงจะเป็นนักเรียนระดับเกียรตินิยมมา แต่ก็ไม่ใช่ว่า เด็กคะแนนดีทุกคนจะเข้าเรียนที่นี่ได้ เพราะ เป็นมหาวิทยาลัย อันดับหนึ่งของโลก ใครๆก็เรียนเก่งมาทั้งนั้นตัวหนูดีเอง เรียนที่แมรี่แลนด์ ซึ่งก็จัดว่าอยู่ในระดับดี แต่ก็ได้แค่ประมาณอันดับที่ยี่สิบ อันดับที่ยี่สิบห้าของประเทศอยู่เท่านั้น....ขนาดแค่นี้ ยังเรียนหนักจะตาย แล้วอย่างที่ฮาร์วาร์ด หนูดีมิต้องตายคาหนังสือหรือนั่น แถมเพื่อนๆก็คงเก่งระดับอัจฉริยะกันทุกคน...นึกๆไปว่า คงไม่มีใครคุยกันหรอก คงแข่งกันเรียน แข่งกันทำงาน ไม่มีใครมีเวลาเสวนากับใครแน่ๆ.....แถมสมัครไปก็ไม่รู้ว่าเขาจะรับเราหรือเปล่า เพราะนอกจากเรียนเก่งแล้ว ก็ต้องประวัติดี มีความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร มีจดหมายรับรองชั้นดี สารพัด
แต่ก็เอาค่ะ ฮึดสุดชีวิต ตั้งหน้าตั้งตาสอบวัดมาตรฐาน เขียนจดหมายแนะนำตัวอย่างใช้ความคิดทุกหยด เตรียมตัวเป็นเดือน สมัครไป รอคำตอบอีกครึ่งปี......
ในที่สุด ฟ้าก็ส่งคำตอบมาในรูปจดหมายว่า “ยินดีด้วย คุณได้รับเลือกเป็นนักเรียนฮาร์วาร์ด สำหรับปีการศึกษาหน้า” โอ้โห ตกใจอีกรอบ น้ำตาไหลด้วยความดีใจ แล้วก็แอบมาเครียดเล็กๆว่า เอาอีกแล้ว ถึงเวลาจมอยู่กับกองหนังสือเรียนอีกแล้ว คราวนี้คงยิ่งหนักเป็นสองเท่า เฮ้อ คิดแล้ว ภูมิใจปนกลุ้ม
แต่วันเดินทางก็มาถึง แล้วหนูดีก็ไปโผล่ที่ ฮาร์วาร์ด สแควร์ ในฐานะ นักศึกษาใหม่ หน้าตาตื่นเต้น ในต้นฤดูใบไม้ร่วง อากาศสดใสที่บอสตัน แต่ในใจก็ยังกังวลและเครียดไม่วาย จนได้มานั่งอยู่ในห้องปฐมนิเทศ มีรุ่นพี่ของปีที่แล้วมาให้คำแนะนำว่า จะเรียนอย่างไร ให้ประสบความสำเร็จที่ฮาร์วาร์ด โดยมีเหตุผลว่า พวกเราทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องนี้ ถือว่าเป็นผู้ชนะของสังเวียนที่ยากที่สุด คือการฝ่าด่านสิบแปดอรหันต์เข้ามาเป็นนักเรียนใหม่ที่นี่ได้ แต่หลายคนคงเรียนมาด้วยวิธีผิดๆ คือ เรียนหนักเข้าว่า โดยไม่ได้ “เรียนอย่างฉลาด”
วันนั้น หนูดีได้เกร็ดจากรุ่นพี่มาเยอะมาก ซึ่งก็รวมอยู่ใน “เทคนิคเรียนเก่งอย่างอัจฉริยะ” ที่หนูดีตัดสินใจเปิดเพื่อให้ความรู้ดีๆ ส่งต่อไปถึงน้องนักเรียนรุ่นหลังๆ เหมือนที่หนูดีได้รับมาจากรุ่นพี่ระดับอัจฉริยะ ทุกคน
แล้วตลอดเวลาที่เข้าเรียนที่ฮาร์วาร์ด หนูดีก็ได้เรียนรู้เทคนิคดีๆ ที่มหาวิทยาลัยชั้นหนึ่งแห่งนี้ ได้คิดและทำวิจัยมาใช้กับเด็กของเขาโดยเฉพาะ เพราะคนกลุ่มนี้ ถือว่าเป็นกลุ่มคนที่เรียนหนักมาก เรียนยากมาก และการค้นพบใหม่ๆ ที่เปลี่ยนแปลงโลก ก็มักถูกค้นพบที่นี่ หรือ โดยนักศึกษา และคณาจารย์ ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ทั้งนั้น
หนูดีได้เรียนรู้เทคนิคการจัดหมวดความคิด การสรุปย่อให้ตรงประเด็น การอ่านเร็วและจับใจความโดยไม่ตกหล่น การเขียนบทความวิชาการระดับโลก การเขียนรายการชนิดเอาไปนำเสนอกับคองเกรสได้เลย หรือ การอภิปรายแสดงความคิดแบบผู้นำระดับโลก คือทุกอย่างที่เราถูกสอน จะถูกสอนประหนึ่งว่า พรุ่งนี้ เราต้องไปรับตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี หรือประธานาธิบดีนั่นเชียว
เพราะมหาวิทยาลัยนี้ ผลิตผู้นำในทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็นผู้นำประเทศ ผู้นำองค์กร ผู้นำทางการแพทย์ ผู้นำวงการการศึกษา ประธานาธิบดีอเมริกาหลายคนก็เป็นศิษย์เก่าที่นี่ รวมถึงว่าที่กษัตริย์ ที่เป็นเป็นขวัญใจชาวไทย อย่างองค์มกุฎราชกุมารจิกมี แห่งภูฐาน ซึ่งมาเรียนเรื่องการปกครอง ที่โรงเรียนเคนเนดี้ ฝั่งข้ามแม่น้ำชาร์ลส์ของหนูดีนี่เอง ดังนั้น อาจารย์ จะฝึกเราไว้เตรียมรับทุกอย่างที่อาจจะเกิดขึ้น
แต่เมื่อการเรียนโดยเนื้อหา ถือว่ายากมากแล้ว กระบวนการเรียน ก็เลยถูกคิดค้นให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด และใช้เวลาน้อยที่สุด เพราะไม่เช่นนั้น ทั้งมหาวิทยาลัยคงไม่มีใครได้นอนกันแน่ เพราะงานเยอะมาก แม้แต่วิธีการอ่านก็ต้องย่นย่อ ให้อ่านได้มากที่สุด ในเวลาที่ประหยัดที่สุด เพราะเราอ่านกันในปริมาณมหาศาล เป็นตั้งๆทุกคืน แถมต้องตีความและอภิปรายอย่างฉลาดด้วย ทั้งๆที่แค่อ่านให้จบนับว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าใช้วิธีการอ่านอย่างปรกติที่หนูดีใช้สมัยเรียนปริญญาตรี คงไม่ได้ทำอะไรอื่นๆในชีวิตอีกเลย
พอมาเรียนรู้กระบวนการเรียนใหม่ ที่ใช้ข้อมูลทางสมองเป็นพื้นฐาน ทำให้หนูดีเรียนได้อย่างมีความสุขอย่างแท้จริงเป็นครั้งแรกในชีวิต และนอกจากเรียนได้ดี โดยเทอมแรกก็คว้าเกรดเฉลี่ย 4.00 มาครองเหมือนเดิม ทั้งๆที่โดนขู่ไว้ตลอดว่า เรียนที่นี่ ใครจะเก่งมาจากไหน ยากมากที่เทอมแรกจะได้ เอ ทุกตัว แต่หนูดีก็ทำได้มาแล้ว ด้วยสุขภาพจิตที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เรียนไปยิ้มไป เรียนที่นี่ เรียนด้วยความมั่นใจ เพราะเรา “เรียนเป็น” แล้ว และที่น่าทึ่ง คือหนูดีได้นอนหลับประมาณ แปดชั่วโมงทุกคืน และได้ออกกำลังกายสัปดาห์ละ สามครั้งเป็นประจำ จิตใจแจ่มใส สมองก็ปลอดโปร่ง เรียนได้ดีจนไปติวเพื่อนได้เป็นกลุ่มๆ ทุกคนน่ารักและเป็นมิตร จนเราได้เพื่อนกลุ่มใหญ่ติดมือกลับมาเมืองไทย
และในที่สุด วันรับปริญญาโทก็มาถึง ซึ่งหนูดีก็ได้ร่วมกับงานรับปริญญาที่ขลังและเก่าแก่ที่สุดในโลก ด้วยคะแนนระดับเกียรตินิยมอีกแล้ว แต่คราวนี้ที่ต่างไป คือความสุข ความมั่นใจของหนูดี ที่รู้แล้วว่า เรียนเก่งระดับอัจฉริยะแบบนี้ ไม่ต้องเครียด ก็ทำได้ แถมมีเวลาใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพมากมาย แล้วก็กลายเป็นความตั้งใจว่า หนูดีจะต้องนำความรู้ที่ดีๆ ที่คนไทยน้อยคนจะมีโอกาสได้ไปรับรู้ มาให้เด็กไทย คนไทย ได้นำไปใช้ เพราะประเทศของเราก็เรียนกันหนัก แข่งกันเรียน แข่งกันสอบ...ถ้าเรา “คิดเป็น” เราก็จะ “เรียนเป็น” และเมื่อทำงานก็จะ “ทำงานเป็น” แบบที่พวกอัจฉริยะเขาเป็นกัน
เราจะได้มีชีวิตที่ เรียนก็ได้ดี ทำงานก็มีประสิทธิภาพ แถมยังเหลือเวลาว่างอีกมากมาย ที่เราจะเอาไปทำอะไรก็ได้ ให้ชีวิตเรามีคุณภาพครบทุกด้าน....เก่งอย่างนี้ แล้วความสุขจะไปไหนเสียคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ก้อนหิน
Verified User
โพสต์: 2344
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 8

โพสต์

sharing 7 habit: เริ่มต้นที่ตอนจบ จาก หนูดี

จาก habit ที่ว่า begin with the end in mind
มีข้อความดี ๆ จากคนชื่อ หนูดี มาฝาก

เริ่มต้นที่ตอนจบ...บทความ ของ วนิษา เรซ ผู้เชี่ยวชาญอัจฉริยภาพปริญญาโท จากฮาร์วาร์ด

มีคนชอบถามหนูดีว่า จะใช้สมองอย่างไรถึงจะคุ้มค่า จะใช้ชีวิต ใช้เวลาอย่างไรถึงจะถือว่า
สมองของเราไม่ได้สูญเปล่า ด้วยความที่หนูดีเรียนมาด้านสมองและทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอัจฉริยภาพ
จึงถูกถามในเรื่องนี้เป็นประจำ และก็เป็นคำถามที่ทำให้หนูดีสนุกมากที่จะตอบเสมอเพราะคำถามชนิดนี้ มีคำตอบได้มากมาย ไม่เคยตายตัว ใครตอบก็ไม่มีวันซ้ำกัน วันนี้ลองมาฟังนักวิจัย
ด้านสมองตอบคำถามนี้ดูกันเล่น ๆ ไหมคะ สมัยที่หนูดีเรียนอยู่ที่อเมริกา เคยถูกให้ทำแบบฝึกหัดหนึ่งซึ่งเปลี่ยนแปลงชีวิตหนูดีไปตลอดกาลเลย คือเกม “เริ่มต้นที่ตอนจบ” โดยเกมนี้เล่นไม่ยาก แต่ใช้เวลาพอสมควร หนูดี
เคยนำมาฝึกกับลูกศิษย์ของหนูดีบ่อย ๆ มีคนนั่งหลับตาไป ร้องไห้ไป มาหลายคนแล้ว เพราะเป็นเกมที่ทำ
ให้เราได้ย้อนหลังกลับไปมองชีวิต ไม่ใช่แต่ต้นจนอวสาน แต่ว่ามองจากอวสาน มาตอนต้น ถ้าพูดเปรียบเทียบ
เป็นภาษานักธุรกิจก็ต้องบอกว่า Begin with the end inmind. ก็คือการเริ่มต้นมาจากการมองเห็นภาพตอนจบ หรือสัมฤทธิผลของเรื่อง

เกมนี้เริ่มที่ หนูดีจะขอให้ผู้อ่าน ลองหาเวลาเงียบ ๆ อยู่กับตัวเองในตอนที่เราไม่มีเรื่องรีบร้อนอันใดต้องไปทำ
แล้วให้นั่งลง หลับตาจินตนาการภาพตัวเรา ตอนอายุสักแปดสิบ โดยให้สมมติว่า เราจะต้องตายตอนอายุสักแปดสิบ
และตอนนั้น เราเจ็บป่วยนอนอยู่บนเตียง หลังจากนั้น ให้เราลองจินตนาการ ย้อนกลับไปมองทั้งชีวิตของเราว่า
ที่ผ่านมา เราได้ใช้มันไปอย่างไรบ้าง เราใช้เวลาของเราทำอะไรไป เราวิ่งตามอะไร เราวุ่นวายกับอะไร
เรารักใครเราไม่รักใคร ความสุข ความทุกข์ของเราเป็นผลจากอะไร แต่สองคำถามที่สำคัญที่สุดก็คือ เราจะเสียดายที่สุด
หากเราตายไปโดยไม่ได้ทำอะไร .. เราจะเสียดายที่สุด หากเราไม่ได้ใช้เวลากับใคร หากเราตอบคำถามเหล่านี้ได้
อย่างกระจ่างชัด ก็จะมีเวลาบางช่วงที่เราจะไม่ใช้ไปอย่างที่เราใช้อยู่ จะมีกิจการบางกิจการ ที่เราไม่เลือกจะก่อตั้ง
มีเพื่อนบางคนที่เราอาจจะเลิกคบ มีเงินบางก้อนที่เราจะปฏิเสธไม่รับสารพัดของสิ่งที่จะเกิดขึ้น ถ้าเรามีเวลาถอยออกมา
จากชีวิต แล้วย้อนกลับไปมองเหมือนกับว่า เรากำลังดูหนังวิดิโอชีวิตของคนอื่นอยู่ แล้วก็วิจารณ์ว่าเขา
คนนั้นตอนยังมีชีวิตอยู่ น่าจะทำอะไรที่ควรทำ ทั้งหมดนี้ เป็นเทคนิคที่ง่ายดายและลึกซึ้ง เมื่อหนูดีลองทำแล้ว
เป็นประโยชน์อย่างยิ่งถึงขั้นหนูดีเปลี่ยนอาชีพ เปลี่ยนชีวิต เพราะจากที่เคยคิดอย่างเด็กอายุยี่สิบ
หนูดีกระโดดข้ามไปคิดแบบแปดสิบได้ ตอนนี้เลยเหมือนย้อนกลับมาใช้ชีวิตรอบสอง โดยอายุยังไม่ครบสาม
สิบเลยเหมือนมีสองชีวิตเลยค่ะ

เมื่อก่อนหนูดีเคยคิดว่า ความสำเร็จในชีวิตก็เหมือนกับการหาของใส่กล่องคนเก่งกว่าก็ใช้
เวลาเป็น ใช้ชีวิตคุ้ม ก็หาของมาใส่กล่องได้เร็วและมากกว่าคนอื่น แต่อีกปัจจัยที่ทำให้กล่องเต็มได้
ที่หนูดีไม่เคยคิดมาก่อนจะเล่นเกมนี้ก็คือ แค่เราเปลี่ยนขนาดกล่องให้เล็กลงซะมันก็เต็มได้โดยไม่ยาก
เย็นเลย ดังนั้น การใช้สมองให้เต็มที่ คุ้มค่า เพื่อให้ชีวิตมีสุขได้ครบด้านและง่ายดาย น่าจะอยู่ที่ศักยภาพ
ในการถอยออกมาแล้วมองชีวิตจากมุมห่างออกไปอีกหน่อย มองย้อนกลับจากวันสุดท้ายของ
ชีวิตก็เป็นความท้าทายที่น่าสนุกอีกแบบหนึ่ง มันเปลี่ยนชีวิตหนูดีมาแล้ว ในทางที่ดีขึ้น
อย่างมหัศจรรย์ ด้วยคำถามง่ายๆ ไม่กี่คำถาม

แล้ววันนี้ ท่านผู้อ่านของหนูดีคิดว่า ชีวิตนี้ ไม่ได้ทำอะไรแล้วจะเสียดายที่สุดคะ และไม่ได้ใช้ เวลากับใครแล้วจะเสียดายที่สุด
กล้วยทอด
Verified User
โพสต์: 1468
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 9

โพสต์

คิดว่าเล่มนี้คงพออ่านแทนได้ค่ะ รอที่คุณหนูดีเขียน คงอีกพักหนึ่งค่ะ

เชื่อเถอะ! หนูฉลาดกว่าที่คิด

" หลักการพัฒนาการเรียนรู้ของสมองด้วยทฤษฎีพหุปัญญา หรือความฉลาดทั้ง 8 ด้าน (Multiple Intelligences)
ของ ดร. โฮวาร์ต การ์ดเนอร์ นักจิตวิทยาและนักการศึกษาชาวอเมริกัน ที่เชื่อว่าเด็กทุกคนมีความฉลาดแตกต่างกันไป
โดยได้สรุปความสามารถของเด็ก ๆ ออกมาเป็นความฉลาด 8 ด้าน ได้แก่ ภาษา ดนตรี ตรรกะและคณิตศาสตร์
ร่างกายและ การเคลื่อนไหว การเข้าใจตนเอง มนุษยสัมพันธ์ และธรรมชาติ ผู้เขียนได้นำเอาความฉลาดแต่ละด้าน
มาวิเคราะห์ว่าประกอบด้วยคุณสมบัติใดบ้าง เด็ก ๆ สามารถพัฒนาความฉลาดด้านนั้น ๆ ได้อย่างไร และจะนำ
ความฉลาดที่ตนเองมีอยู่ ไปพัฒนาความสามารถด้านอื่น ๆ ที่ด้อยกว่าได้อย่างไร รูปแบบการนำเสนอเป็นการสื่อสาร
กับเด็กโดยตรง เด็กจึงสามารถอ่านเองได้ด้วย ผู้เขียนอธิบายด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย มีแบบทดสอบคุณสมบัติของผู้มีปัญญา
แต่ละด้าน มีการยกตัวอย่างประกอบ บอกอาชีพที่เหมาะกับความฉลาดแต่ละด้าน พร้อมเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจ
หนังสือเล่มนี้จึงต่างจากหนังสือคู่มือเลี้ยงลูกทั่วไป ที่มุ่งสื่อสารกับผู้ปกครองเท่านั้น เด็ก ๆ สามารถใช้หนังสือเล่มนี้
เป็นคู่มือในการค้นหาความสามารถและความชอบของตัวเอง เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนการเรียนและหน้าที่การงานในอนาคต "

รูปภาพ

จะว่าไปแล้ว หนังสือหมวดนี้ มีน่าอ่านหลายเล่มเลยค่ะ
..สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง..
กล้วยทอด
Verified User
โพสต์: 1468
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 10

โพสต์

เล่มนี้ก็พออ่านได้ค่ะ

สมองดี ดนตรีทำได้.... Music Can Do...

                    รูปภาพ

คำถามก็คือ แล้วจะทำให้เด็กรู้ได้ด้วยตัวเองได้อย่างไรว่าสิ่งไหนไม่ดี เช่นเดียวกัน การที่เราจะรู้ถึงสีดำได้ดี
ก็จำเป็นจะต้องเรียนรู้ซึ้งถึงสีขาวก่อน สิ่งที่จะกล่าวถึงก็คือ ในการที่เราได้ยื่นสิ่งที่ดีๆ มีคุณค่า โดยเฉพาะ
ทางด้านสุนทรียภาพให้แก่เด็กนั้น เป็นการปลูกฝัง และสร้างการรับรู้ในสิ่ง ที่มีคุณค่าให้แก่เด็ก และเมื่อโตขึ้น
เด็กจะมีการเปรียบเทียบได้เองว่า สิ่งไหนดี สิ่งไหนไม่ดี และสามารถที่จะเลือกได้อย่างถูกต้องมีเหตุผล
พูดง่ายๆ ก็คือ หากเด็กได้รับแต่สิ่งที่ดีแล้ว เมื่อมีสิ่งที่ไม่ดีเด็กก็จะปฏิเสธโดยปริยาย ในส่วนตัวของผมแล้ว
สำหรับเด็ก สิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้นคือสิ่งที่ดีพอ

-สมอง อวัยวะที่น่ามหัศจรรย์ที่สุด
-ดนตรี องค์ประกอบและทักษะทางดนตรี
-ดนตรีกับสมอง
-ดนตรีกับพหุปัญญา
-ดนตรีกับเด็ก
-ดนตรีในชั้นเรียน
-ดนตรีกับการเรียนวิชาต่างๆ
-โมสาร์ท เอ็ฟเฟค
- กลุ่มเพลงเพื่อเพิ่มศักยภาพการเรียนรู้
..สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง..
ภาพประจำตัวสมาชิก
pinklady
Verified User
โพสต์: 778
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 11

โพสต์

น่าสนใจมากค่ะ
เดี๋ยวไปหามาอ่าน
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ :lol:
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 12

โพสต์

เล่มนี้ช่วงนี้สำนักพิมพ์ พิมพ์หนังสือออกมาไม่ทัน
ทำให้ต้องสั่งจอง


มีเปิดอบรมไหมล่ะครับ จะได้สมัครไปเรียนบ้าง
อยากรู้เหมือนกันว่า ตัวเองมีอัจฉริยภาพด้านไหน
:)
:)
August
Verified User
โพสต์: 510
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 13

โพสต์

หนังสือน่าสนใจมากครับ

และตอนนี้กำลังสนใจโรงเรียนวณิษา    
ดูข้อมูลไว้เผื่อจะส่งลูกสาวไปเรียน
August
Verified User
โพสต์: 510
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 14

โพสต์

[quote="กล้วยทอด"][quote="pinklady"]อ้าว คุณกล้วยทอด โพสในห้องนั่งเล่นแล้ว เพิ่งเห็น :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
pinklady
Verified User
โพสต์: 778
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 15

โพสต์

วันศุกร์ ยังเห็นที่ DK, B2S ในซีคอน มีอยู่นะคะ :lol:
August
Verified User
โพสต์: 510
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 16

โพสต์

:) ขอบคุณครับ คุณpink lady :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
pinklady
Verified User
โพสต์: 778
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 17

โพสต์

วันนี้ไป se-ed ที่คาร์ฟูร์ ศรีนครินทร์
ไม่เจอ เชื่อเถอะ! หนูฉลาดกว่าที่คิด
ที่น้องกล้วยทอดแนะนำ

แต่เจอเล่มของ หนูดี  วางอยู่ :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
ก้อนหิน
Verified User
โพสต์: 2344
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 18

โพสต์

วันนี้ไปถามที่ศูนย์หนังสือ จุฬา บอกว่า รอพิมพ์ใหม่อยู่ ท่าจะอีกนานเลยแฮะ กว่าผมจะได้อ่านเนี่ย
phobenius
Verified User
โพสต์: 1976
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 19

โพสต์

รอเหมือนกันเลย พรุ่งนี้จะไปดูใหม่แฮะ ว่ามายัง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Basketman
Verified User
โพสต์: 1208
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 20

โพสต์

"อัจฉริยะสร้างได้" จองมา2อาทิตย์แล้ว ยังไม่มาเลย :( ไปถามก็บอกมาแล้วแต่ต้องตามคิวที่จอง ....ท่าจะอีกนานนนนน
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 21

โพสต์

วันนี้เห็นวางขายแล้ว
แต่เป็นร้านหนังสือ(ร้านค้า) แถวกรมสรรพสามิต ขายเต็มราคาเลยอ่ะ
165 บาทไม่ลดให้เลย
ตอนยืมจะซื้อเลยแต่เห็นแล้วไม่ลดเลยไม่ได้ซื้อ
สุดท้ายก็ยังไม่ได้ซื้อมาอ่าน
T-T

ต้องร้องเพลงรอไปก่อนน่าเล่มนี้
:)
กล้วยทอด
Verified User
โพสต์: 1468
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 22

โพสต์

จริงๆ ตามแผงหนังสือ เค้าก็มีดีๆ วางไว้เยอะนะคะ
มีคนญี่ปุ่นอยู่คน ชื่อ Hideo Kageyama
เค้าเขียนวิธีปลูกสร้างระบบความคิดได้ดีจัง
สมองคนเรา ยิ่งใช้งานบ่อยๆ ยิ่งฉลาดนิ

อย่างตารางข้างล่างนี้
เค้าให้เด็กป. 1 ฝึกลบเลข 100 ช่อง จนทำได้ภายใน 2 นาที
ถือว่าประสบผลสำเร็จ คนเรียนก็ดูสนุกที่จะทำ ไม่มีการบังคับอะไรเค้าด้วย

รูปภาพ

ชำนาญแล้วก็เปลี่ยนเป็น บวก คูณ หาร แทน
ผู้ใหญ่อย่างเราๆ ลองเล่นดูกันไม๊คะ
ว่าได้สองนาที เหมือนเด็กๆ หรือเปล่า  :lol:

ไว้อ่านจบแล้วจะมาเม๊าส์เล่มนี้ต่อต่อค่ะ

ปล. 1. ควรมีพื้นฐานวัฒนธรรม และภาษาญี่ปุ่นบ้างค่ะ
          เพราะยกตัวอย่างอักษรญี่ปุ่นในเล่มเยอะอยู่เหมือนกัน
      2. หนังสืออัจฉริยะ เห็นเต็มไปหมดเลย ทำไมเราถึงอยากเก่งกันนักนะ
..สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง..
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 23

โพสต์

น่ารักดีครับ  :oops:
ภาพประจำตัวสมาชิก
ก้อนหิน
Verified User
โพสต์: 2344
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 24

โพสต์

หาซื้อได้ซะที กว่าจะซื้อได้ต้องไปซื้อที่ 7-11 ที่ มธ รังสิต  :lol:  :lol:  :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
bankniti
Verified User
โพสต์: 627
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 25

โพสต์

รู้สึกว่าตอนนี้จะมีเยอะแล้วนะครับ วันเสาร์ที่ผ่านมาไป B2S เซ็นทรัลปิ่นเกล้ามา มีเยอะมากๆ ลงมาที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตข้างล่าง ยังเห็นวางขายที่แผงหนังสือหน้าทางเข้าเลย น่าจะหาได้ไม่ยากแล้วครับ :D
กล้วยทอด
Verified User
โพสต์: 1468
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 26

โพสต์

ตอนแรกว่าจะซื้ออัจฉริยะสร้างได้ไปฝากพี่สาวค่ะ
เค้าเพิ่งจะคลอดหลาน แต่ดูเล่มนี้น่าจะใช้ประโยชน์ได้ดีกว่า
รูปสวยดีค่ะ กระดาษดี ดูรูปก็คุ้มแล้วหล่ะ
รูปภาพ
ตอนนี้ก็ซื้ออุปกรณ์ support การนวด(น้ำมันต่างๆ นิ)ครบแล้ว
รอแต่ฤกษ์นำส่ง  :D
..สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง..
กล้วยทอด
Verified User
โพสต์: 1468
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 27

โพสต์

อ่านเจอ คนมาแนะนำหนังสือให้ดูหนังสือเล่มนี้ค่ะ
เลยว่าจะไปเดินเล่นที่งานสัปดาห์หนังสือซะหน่อย

               รูปภาพ

ชวนเชื่อ :  คนแต่งเป็นคุณแม่ของคุณลูกชายที่ได้ เหรียญทองชีวะโอลิมปิค
               ตัวจริงคุณลูกชายเค้าว่าหล่อมาก...เกี่ยวไรกับตัวหนังสือเค้าหล่ะเนี่ย ("- -)
http://www.se-ed.com/eshop/Book/BookDet ... 9748813455
..สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง..
ภาพประจำตัวสมาชิก
MO101
Verified User
โพสต์: 3226
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 28

โพสต์

ซื้อมาแล้วครับ จาก se-ed งานสัปดา...(จำไม่ได้ ) :lol:
ขอบคุณที่แนะนำครับ
Dech
Verified User
โพสต์: 4596
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 29

โพสต์

อัจฉริยะสร้างได้

http://www.thaitv3.com/variety/Jubkhoakooy14072007.swf
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
Dech
Verified User
โพสต์: 4596
ผู้ติดตาม: 0

อัจฉริยะสร้างได้

โพสต์ที่ 30

โพสต์

ลองฟังรายการ จับเข่าคุย

"วนิษา เรช (ผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง ปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด) "

http://www.thaitv3.com/variety/jeabkaok ... 7-50).html

จะรู้สึกว่า หนูดี คนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
โพสต์โพสต์