เค้าว่าขวดพลาสติกที่ใส่น้ำดื่ม ...

[MarginofSafety]

ถ้าดื่มน้ำหมดขวดแล้ว
ห้ามเอามาใช้ซ้ำเกิน 1 อาทิตย์
ไม่งั้นจะมีสารจากพลาสติกละลายในน้ำดื่ม
และไม่ปลอดภัยในการบริโภค

ผมใช้มาไม่รู้กี่เดือนแล้ว
มันจริงหรือเปล่าครับเนี่ย

[ก้อนหิน]

อันนั้นไม่แน่ใจครับพี่หวี แต่ถ้า fwd mail อันนี้นี่ไม่จริงชัวร์ครับ

ประกาศจากโรงพยาบาล จอห์น ฮอปกินส์ สหรัฐอเมริกา กรุณาอ่าน

ช่วยกระจายข่าวนี้ไปให้ทั่ว เกี่ยวกับข้อมูลล่าสุดเรื่องมะเร็ง

๑ . ห้ามใส่ภาชนะพลาสติคในไมโครเวฟ

๒ . ห้ามใส่ขวดน้ำในช่องแช่แข็ง

๓ . ห้ามใส่อาหารที่ห่อหุ้มด้วยพลาสติคในไมครเวฟ

จอห์น ฮอปกินส์ ได้ส่งข่าวออกไปเมื่อเร็วๆนี้ และข้อมูลนี้ได้ถูกตีพิมพ์จากศูนย์กลางทางการแพทย์กองทัพ

บกแห่งวอลเตอร์ รีด เช่นกัน

สารไดออกซินเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งทรวงอก สารไดออกซินเป็นอันตรายต่อเซลล์

เนื้อเยื่อของร่างกายคนเรา

ห้ามนำขวดน้ำแช่ในช่องแช่แข็งอย่างเด็ดขาด เพราะนั่นเป็นการนำสารไดออกซินออกมาจากพลาสติค

เมื่อเร็วๆนี้ ดร. เอ็ดเวิร์ด ฟูจิโมโต้ ผู้จัดการโปรแกรมสุขภาพดีของโรงพยาบาลแคสเซิล ได้ออกทีวี

อธิบายความเสี่ยงต่อสุขภาพในเรื่องนี้ เขาได้กล่าวถึงสารไดออกซินและอันตรายของสารนี้ต่อร่างกายคน

เรา

เขาได้กล่าวว่าเราไม่ควรอุ่นอาหารด้วยไมโครเวฟ โดยการใช้ภาชนะพลาสติค โดยเฉพาะอาหารที่มีไข

มัน การรวมตัวกันของไขมัน ความร้อนสูง และพลาสติคจะปล่อยสารไดออกซินลงในอาหาร และในที่สุดจะ  

เข้าสู่เซลล์ของร่างกายคนเรา                                                    

เขาได้แนะนำว่า ให้ใช้แก้วแทน เช่น ภาชนะอบข้าวโพด แก้วไพเร็กซ์ (แก้วทนไฟ) หรือภาชนะเซรา

มิคสำหรับอุ่นอาหารเพราะจะได้ผลลัพธ์เหมือนกัน เพียงแต่วิธีนี้จะไม่มีสารไดออกซินมาเท่านั้น ดังนั้น  

อาหารต่างๆที่โฆษณาทางทีวีตอนเย็น เช่น ราเมนและซุปสำเร็จรูป เป็นต้น ควรจะนำออกมาจาก    

ภาชนะบรรจุและนำไปอุ่นในภาชนะอื่น      

การใช้กระดาษก็ไม่เลว แต่คุณไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในกระดาษ มันจะปลอดภัยกว่า ถ้าเราใช้แก้วทนความ

ร้อน ภาชนะอบข้าวโพด เป็นต้น เขาเตือนให้นึกถึงว่า เมื่อไม่นานมานี้ ร้านฟาสต์ฟู้ดบางร้านได้เปลี่ยน

จากการใช้ภาชนะโฟมเป็นกระดาษ                                                  

 ปัญหาเรื่องสารไดออกซิน เป็นหนึ่งในหลายเหตุผล เขาได้ชี้ให้เห็นถึงที่ห่อหุ้มที่ทำจากพลาสติคอีกด้วย  

เช่น ซาแร้น ซึ่งก็เป็นอันตรายเมื่อไปวางไว้เหนืออาหารที่ปรุงจากไมโครเวฟ                  

เมื่ออาหารอยู่ในน้ำ ความร้อนสูงจะเป็นสาเหตุแห่งการเกิดสารพิษที่ปกติจะหลอมละลายจากที่ห่อหุ้ม    

พลาสติคและหยดลงบนอาหาร                                                      
                                                                         
                                                                         
จงห่อหุ้มอาหารด้วยแผ่นกระดาษแทน                                                

นี่เป็นบทความที่ควรจะส่งต่อๆกันไปที่มีความสำคุญต่อชีวิตของท่าน      

     

เวบของ Johns Hopkin เลยล่ะ  เค้าบอกว่าเป็นเรื่องหลอกลวง
แถมยาวไปถึง FDA ต้องออกมาประกาศว่า  ไม่เคยได้ยินเรื่องพวกนี้เลย  และไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ด้วย

อันนี้เวบ Johns Hopkins:  http://www.jhsph.edu/PublicHealthNews/a ... oxins.html
อันนี้เวบที่บอกรายละเอียด:   http://www.hoax-slayer.com/plastic-canc ... -hoax.html

อันนี้คำพูด FDA ตัดมา
" According to Edward Machuga, Ph.D, of the US Food and Drug Administration (FDA), The FDA has seen no evidence that plastic containers or films contain dioxins and knows of no reason why they would. "

[CEO]

ถ้าเป็นจริงละก้อ พวกร้านค้าต่างๆโดยเฉพาะตามปั้มจะทำงายยยยยยยยยยยยยล่ะครับ
ผมอยากดื่มน้าเย็นเวลาพักขับรถ

[MarginofSafety]

ถ้าเป็นจริงละก้อ พวกร้านค้าต่างๆโดยเฉพาะตามปั้มจะทำงายยยยยยยยยยยยยล่ะครับ
ผมอยากดื่มน้าเย็นเวลาพักขับรถ

ไม่ได้หมายความแบบนั้นครับ

หมายถึงหลังเปิดขวดดื่มแล้ว
พอดื่มหมดก็เอามาใช้ซ้ำ
เช่นกรอกน้ำเข้าตู้เย็น ซ้ำแล้วซ้ำอีก ประมาณนี้ครับ

เหตุผลได้ยินมาคือ
พอเปิดฝาใช้แล้ว ขวดพลาสติกมันไปทำปฏิกิริยากับอากาศ

[ปรัชญา]

ไม่ได้หมายความแบบนั้นครับ

หมายถึงหลังเปิดขวดดื่มแล้ว
พอดื่มหมดก็เอามาใช้ซ้ำ
เช่นกรอกน้ำเข้าตู้เย็น ซ้ำแล้วซ้ำอีก ประมาณนี้ครับ

เหตุผลได้ยินมาคือ
พอเปิดฝาใช้แล้ว ขวดพลาสติกมันไปทำปฏิกิริยากับอากาศ

แล้วถังน้ำ  ที่ขายกันเต็มท้ายรถมันเกี่ยวกันไหมนี่
ผมเห็นเขาใส่น้ำมาส่งใช้จนถังเสื่อมสภาพแตกเลย
ถังนี่ก็ทำจากพลาสติก

ใครรู้อธิบายหน่อย

[NinjaTurtle]

จำได้ว่า..เคยอ่านเจอว่า

ถ้าขวดพลาสติกที่เปิดใช้งานมีอากาศเข้าไปแล้วแล้ว มักจะมีเชื้อโรคเข้าไปเกาะอยู่ในขวดด้วย และในขวดมักจะมีความชื้นหรือน้ำเหลืออยู่ทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดี

ขวดที่เปิดแล้วตั้งทิ้งไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสมจะเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคอย่างดี

เขาจึงไม่แนะนำให้เอาไปใส่นำดื่มต่อ แต่ถ้าจะล้างขวดผมคิดว่าน่าจะเอากลับไปใช้ได้ แต่ขวดน้ำดื่มเวลาล้างมักจะมีเศษน้ำเกาติดอยู่ตามรอยหยักของรูปขวด(ที่ทำให้จับถนัด) คว่ำขวดตากให้แห้งก็ไม่สดวก มันก็อาจจะไม่แห้งและยังเป็นที่เพาะเชื้อโรคต่อครับ

[น้ำครึ่งแก้ว]

คุณ นินจาเต่า wrote:

จำได้ว่า..เคยอ่านเจอว่า

ถ้าขวดพลาสติกที่เปิดใช้งานมีอากาศเข้าไปแล้วแล้ว มักจะมีเชื้อโรคเข้าไปเกาะอยู่ในขวดด้วย และในขวดมักจะมีความชื้นหรือน้ำเหลืออยู่ทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดี

ขวดที่เปิดแล้วตั้งทิ้งไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสมจะเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคอย่างดี

เขาจึงไม่แนะนำให้เอาไปใส่นำดื่มต่อ แต่ถ้าจะล้างขวดผมคิดว่าน่าจะเอากลับไปใช้ได้ แต่ขวดน้ำดื่มเวลาล้างมักจะมีเศษน้ำเกาติดอยู่ตามรอยหยักของรูปขวด(ที่ทำให้จับถนัด) คว่ำขวดตากให้แห้งก็ไม่สดวก มันก็อาจจะไม่แห้งและยังเป็นที่เพาะเชื้อโรคต่อครับ

อืมม..........ครับ  เห็นด้วยกับข้อความนี้ครับ

เมื่อก่อนผมใช้น้ำขวดเติมไปเติมมา  ตอนหลังนี้สังเกตุว่ามันเทียบกับของใหม่
แล้วสีมันหม่นๆ  อีกทั้งจะล้วงไปล้างก็ลำบาก   ยิ่งฟังว่าเค้าบอกว่าไม่ดีด้วย
ก็เลยเลิกใช้  แต่ถ้าล้างสะอาดๆ ก็น่าจะ ok นะครับ

[Alastor]

ถ้าขวดพลาสติกที่เปิดใช้งานมีอากาศเข้าไปแล้วแล้ว มักจะมีเชื้อโรคเข้าไปเกาะอยู่ในขวดด้วย และในขวดมักจะมีความชื้นหรือน้ำเหลืออยู่ทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดี

ขวดที่เปิดแล้วตั้งทิ้งไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสมจะเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคอย่างดี

เขาจึงไม่แนะนำให้เอาไปใส่นำดื่มต่อ แต่ถ้าจะล้างขวดผมคิดว่าน่าจะเอากลับไปใช้ได้ แต่ขวดน้ำดื่มเวลาล้างมักจะมีเศษน้ำเกาติดอยู่ตามรอยหยักของรูปขวด(ที่ทำให้จับถนัด) คว่ำขวดตากให้แห้งก็ไม่สดวก มันก็อาจจะไม่แห้งและยังเป็นที่เพาะเชื้อโรคต่อครับ

น่าจะจริงนะ เพราะที่ office ทีม Facility ก็แปะป้ายเตือนไว้ คงไม่มีอะไรละลายเมื่อโดนอากาศเพราะ ก่อนเติมน้ำก็มี อากาศอยู่แล้วหนิ อีกอย่างขวดที่ใช้เป็น Plastic ทำจากน้ำมัน ซึ่งไม่ละลายในน้ำ

อ่าน FWD Mail มากๆ อาจจะกังวลหลายเรื่องมากไปจนบ้าตายเสียก่อนที่จะตายจากที่เค้าเตือนๆกันก็ได้นะ :lovl:

[san]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ถ้าดื่มน้ำหมดขวดแล้ว 
ห้ามเอามาใช้ซ้ำเกิน 1 อาทิตย์ 
ไม่งั้นจะมีสารจากพลาสติกละลายในน้ำดื่ม 
และไม่ปลอดภัยในการบริโภค 

งั้นผมทำรับซื้อของเก่า  ดีกว่าครับ  .....อิอิอิ
เพราะว่ามีคนทิ้งของให้เก็บเยอะขึ้น ..... อิอิอิ

เท่าที่รู้มันมีสารอะไรบางอย่างออกมาจริงๆ  แต่ว่าปริมาณมากเท่าไรเหรอ  ไม่ทราบครับ

เท่าที่รู้มีคนที่มีความรู้สูงๆบางคนเจตนา เลือกที่จะไม่ใช้ถุงพลาสติก   เช่นเวลาซื้ออาหาร  จะให้ทางร้านเขาตักใส่ปิ่นโต  แทนครับ

ส่วนผมเองเหรอครับ  ขวดน้ำในรถ ผมใช้ขวดแก้ว มาครึ่งปีแล้วครับ  ล้างก็ง่ายเพราะว่าเอาน้ำร้อน  เข้าไป ลวกข้างใน แล้วเขย่าๆ    แล้วค่อยเอามาใช้  ดีเยี่ยมไปเลยครับ

ที่ผมเองไม่เข้าใจคือ สาร พวก PVC มากกว่าครับ   ทำไมช่วงหลังพวก เฟอร์นิเจอร์ยี่ห้อดีๆ  ทั้งหลาย  ถึงมีการระบุว่า  ไม่ได้ใช้สาร  PVC

ทั้งๆที่  ท่อ  PVC  เราเอามาเป็นทางเดินของน้ำ  ทำไมเราไม่กลัวหว่า

จริงๆแล้ว  ราคา  PVC  จะถูกกว่า  พวก  PP  HDPE  LDPE     แล้วทำไมเขาไม่เอามาใช้บรรจุอาหารหนอ  ไม่ทราบครับ

ระยะหลังเริ่มเห็น ถุงก๊อบแก๊บ  ทีไม่มีเสียงก๊อบแก๊บแล้วครับ เป็นถุงหนา แต่ว่านิ่มๆ กว่า  ถุงก๊อบแก๊บทั่วไป   เข้าใจว่าทำมาจาก  PVC  ครับ  ไม่รู้ว่าเพราะว่า  ถูกกว่ารึ่ป่าว

ที่เข้ามาพูดนี่ เกี่ยวกับ   pet  resin  รึป่าวครับ  พวก  IRP   PTL   รึป่าวหนอ....  อิอิอิ

[san]

จริงๆแล้ว    อีกอย่างที่ผมไม่ใช้เลยก็คือ
กระทะที่มี เทฟล่อน เคลือบครับ
แต่ก็งงว่า  แล้วหม้อหุงข้างไฟฟ้า   มี เทฟล่อน   เคลือบ  อยู่  ทำไงหว่า

เห็น  ดูป๊องด์  ประกาศว่า จะงดผลิด  สาร เทฟล่อน  แล้วนะครับ

กะมี.....วิจัย เรื่องการระเหย ของสารเทฟล่อน เมื่อ  อุณหภูมิ มากกว่า  100  องศา  รึไง ....... ไม่แน่ใจเรื่อง  อุณหภูมิ ครับ

กระติกต้มน้ำแบบมีสารเทฟล่อน  ผม บริจาคไปแล้วครับ

ส่วนกระทะ กะลังหาวิธี กำจัดมันครับ

กลัวขนาดนี้   สงสัยต้องหันไปใช้ หม้อต้ม แบบดินเผาครับ  

5555


อีกอย่างนะครับ
เห็นพวกหมอบอกว่า.......คนที่ชอบ  หม่ำๆ สัตว์ที่เลี้ยงจากระบบในฟาร์มทั้งหลาย  ที่โรงเลี้ยงเขาชอบใส่ฮอร์โมน  เข้าไปในอาหารสัตว์   เพื่อให้สัตว์มันโตไวๆ      
เมื่อกิน  อาหารที่ทำจากสัตว์พวกนี้แหล่ะครับ   จะทำให้มีก้อนเนื้องอกที่มดลูกได้ง่ายครับ

เฮ้อ......พิษ......

อ่านมากๆ สงสัยผมได้กินแต่  ผัก + แกล่บ  อิอิอิ  สงสัยจะเป็นหมูจริงๆแล้วเรา
ถึงว่าระยะภรรยาบอกว่าตอนดึกๆ   ได้ยินร้องอู๊ดๆ   อิอิอิ  
555.......ไม่มีไร   ก็ผมขาดทุนหุ้นนะครับ  อิอิอิอิ

[por_jai]

[quote="san"]อ่านมากๆ สงสัยผมได้กินแต่

[MarginofSafety]

[quote="san"]จริงๆแล้ว

[san]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

สำหรับเทฟล่อนผมเพิ่งได้ยินนี่แหละ...

ก็อ่านเจอมาได้ซักประมาณปีนึงแล้วครับ
แต่จำไม่ได้ว่าเจอที่ไหนคัรบ  เขาพูดถึงว่า  เวลาที่สารเทฟล่อน  ร้อนประมาณ 100  องศา  รึไง  ไม่แน่ใจครับ  บางส่วนจะมีการระเหยกลายเป็นไอออกมาได้ครับ

แล้วก็ไม่นานนักจากนั้น   อ่านเจอว่า  ดูป๊อง  จะเลิกผลิต  สาร เทฟล่อน  ครับ

ข้อมูลมีเท่านี้แหล่ะครับ  พี่หวี......  เรียกตามพี่พอใจคัรบ  อิอิอิ

[CEO]

กระติกต้มน้ำแบบมีสารเทฟล่อน

มันเป็นไงครับ ผมรู้จักแต่พวก ฮ็อตต้าชาร์พ ไม่รู้ดีป่าวพวกนั้น
มันมีพลาสติกใสๆบางๆที่กั้นระหว่างตัวกากับฝา
ทำจากไรก็ไม่รู้

[san]

วันนี้  เครียดจากงานเลยหาข้อมูลเรื่อง สารเทฟร่อน ครับ ที่เคลือบกระทะ หรือว่าหม้อต้มน้ำไฟฟ้า

เทฟร่อน เป็น ชื่อแบรนด์ของสารชนิดนึงครับ ที่ผลิตโดย Dupont

http://www.teflon.com/Teflon/teflonissa ... ns.html#q3

ที่เอามาให้ดู  เพราะว่าแต่แรกนั้น  ผมพยายาม หาข้อมูลเรื่องที่ว่าเคยอ่านเจอว่า  ดูป๊อง ประกาศว่าจะเลิกผลิตสาร  เทฟร่อน  อ่านจาก นสพ ไทย ที่แปลมาอีกที    แต่ก็หาไม่เจอ  จำไม่ได้  

เลยเข้า เวบของ ดูป๊อง  เพื่อจะได้ดูว่ามันจะกลายสภาพเป็นไอ เมื่อไร  ก็พบว่ามันจะเป็นไอ ที่อุณหภมิ สูง  แต่ในนี้เท่าที่อ่านดูจะสูงมากนะครับ

มีการแนะนำให้ใช้ที่    Low-medium  heat  

ผมเองก็ไม่แน่ใจเท่าไรว่า  ถ้าเราเปิดแก๊สใส่กระทะไปเรื่อยๆนี่  กระทะสามารถอม  ดูด  ความร้อนไว้กับตัวเอง   จนทำให้ ตัวเองอุณหภูมิ สูงขึ้นถึง ขนาดเท่าไรแน่

ที่เอามาให้ดู   ต้องการให้เป็นความรู้เพิ่มเติมว่า    สารชนิดนี้  มันมีข้อจำกัดอย่างไรบ้าง  ดีกว่าไม่รู้นะครับ

http://www.teflon.com/Teflon/teflonissa ... ns.html#q3

เหมือนกับเมื่อ 20 ปีมาได้แล้วมังครับ  ตอนผมดูข่าว ตปท.  พบว่า  ที่ เมกา  รัฐบาลเขา  สั่งเปลี่ยนหลังคา + ผนัง ของ รรอนุบาล ที่ทำมาจากใยหินทั้งหมด   แต่เขาระบุเฉพาะ รร อนุบาล จริงๆ   เปลี่ยนทั้งหมดทั่วประเทศ  ตอนนั้นจำได้ว่า เขาบอกว่าใช้เงินเป้นเหมื่นล้าน  ไม่แน่ใจว่า หน่วยเป็น ดอลล่า หรือว่า บาท นะครับ

พอมาถึงวันนี้ก็จะเห็นว่า ฝุ่นใยหินมันทำลายปอด จริงๆ  เราช้ากว่า  เมกา หลายปี เรื่องความปลอดภัย

......มีใครในที่นี้ทำงานหรือมีเพือนทีทำงาน อยู่ บ.สยามคราฟท์  บ้างครับ  โรงงานกระดาษที่อยุ่ที่ ราชบุรี นะครับ  
เกือบ 20 ปีแล้วที่ไปฝึกงานที่โน่น  พักอยู่ข้างใน   อยู่ได้2 เดือน  พบว่าปัญหา  มีบางอย่างที่น่ากลัว    เกิดจากวัตถุดิบ ที่นำมาผลิต กระดาษ  คือ เยื่อชานอ้อย  ซึ่งไอ้เยื่อนี่  มันแหลม คม  ฟุ้งไปในอากาศ    
กลับมาที่ห้องพักตอนเย็นนี่  เอามือปาด  รูดไปกับพื้น  จะเห็นเศษเล็กๆของชานอ้อย จริงๆ  คล้ายๆฝุ่น   แต่พวกนี้มันเป็นเสี้ยนเล็ก  ทิ่มปอดเมื่อไร  เอาออกยังไงหว่า  ให้ปอดมันส่งเมือกออกมาเคลือบเสี้ยนนี่  แล้ว จะทนได้นานเท่าไรหว่า  ปอดเรา   ไม่รู้สิ  ต้องเอาคนงานที่นั่นมาตรวจมังครับ  หรือว่าเรากลัวเกินเหตุ

บ้านเรา  น่ากลัวตรงที่ว่า  ถ้าหมอคนใดระบุว่า  คนไข้ผู้นั้นเป็นโรคจาก โรงงานอุตสาหกรรม  หมอคนนั้น  ซวย  มากกว่าได้ดี  เพราะว่าเราไม่ป้องกันผู้บริโภค  บ้านเราปกป้องแต่อุตสาหกรรม  ดูแต่ตัวเลข

ทำให้นึกโยงมาที่เทฟร่อน  ว่า  ของเมืองนอกเขาวิจัย ชัดเจนกว่าเรา  ทันต่อเหตุการณ์มากกว่าเรานะครับ

เพ้อเจ้อไปเรื่อย   สงสัย ทำงานมากไป  อิอิอิ

แฮ่ๆๆๆๆ

[chatchai]

ขวดน้ำพลาสติก  ผมเข้าใจว่า  สำหรับขวดน้ำที่เก็บไว้ในรถยนต์ครับ  อากาศค่อนข้างร้อนนะผมว่า

เรื่องเทฟร่อน  ที่บ้านผม  ภรรยาก็ไม่ยอมใช้ครับ  ใช้กะทะเหล็กธรรมดา  หม้อหุงข้าวก็ใช้แบบไม่มีเทฟร่อนครับ

ภรรยาผมบอกว่า  พวกคนงานที่บ้าน  เวลาล้างก็ใช้ฟองน้ำด้านที่มีใยขัด  เทฟร่อนก็หลุดลอกออกครับ

[modpattaya]

[quote="san"]
ระยะหลังเริ่มเห็น ถุงก๊อบแก๊บ

[san]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

เสียดายที่อธิบายได้ไม่มาก   บางส่วน(ส่วนใหญ่)รู้เพียง...ขอบๆ ค่ะ 

ขอบคุณหลายๆเด้อ  อิอิอิ

[JL]

ผมใช้กระทะเทฟลอนไม่นานก็ลอกแล้วครับ  เวลาซื้อกระทะ จะเห็นว่ามีสัญลักษณ์เตาแก๊สติดอยู่ที่ฉลาก  แต่ทำอาหารไทยนี่เทฟลอนหลุดหมดครับ  ไม่รู้ว่าร้อนเกินไปหรือจากการขูดขีดขัดถู  ปกติเค้าจะประกันปีนึง แต่ห้ามใช้กับความร้อนสูงจะไม่ประกัน

เทฟลอนอันตรายไม๊  ผู้ผลิตบอกว่าที่อุณหภูมิปานกลางจะไม่อันตราย  แต่ถ้าอุณหภูมิสูงขนาด 350°C จะกลายเป็นแก๊สต่างๆ ออกมา ซึ่งเป็นอันตรายได้  350 องศานี่ร้อนขนาดไหน ก็ขนาดไม่ใส่อะไรไว้ในกระทะแล้วเปิดไฟลน  

แล้วจะทำยังไงกับการผัดหรือทอด?
-  ไม่ใช้เทฟลอน  แต่ระวังเรื่องการใช้น้ำมันนะครับ
-  ใช้กระทะเทฟลอน แต่อย่าใช้ไฟสูง  แต่ถึงยังไงมันก็จะหลุดออกมาอยู่ดี

ดูนี่ประกอบด้วยครับ

http://www.cancer.ca/ccs/internet/stand ... en,00.html
 

Teflon™ and non-stick cookware and cancer risk

Non-stick cookware has raised concerns among the public about its possible association with increased risk of cancer. One concern is that cooking with non-stick products may increase cancer risk. Another concern is that potential cancer-causing chemicals used to make non-stick products are released into the environment during manufacturing.


Teflon and other brands
Non-stick cookware refers to cookware with a non-stick coating. All non-stick cookware is made up of a chemical called PTFE (polytetrafluoroethylene). The same chemical is used to make GORE-TEX fabrics and some industrial products, such as specialized electronic wire insulation, hoses and gaskets.

Teflon is the brand name for DuPonts non-stick cookware, but many other companies (for example T-Fal and Silverstone) also make non-stick cookware.

Cooking with non-stick cookware
The fumes given off from non-stick cookware used at higher temperatures are harmful to your health. Health Canada states that: Non-stick coatings are a risk if they are heated to temperatures greater than 350°C or 650°F.

Some studies show that heating non-stick coatings to 300°C (572°F) can create fumes that contain a suspected cancer-causing chemical (tetrafluoroethene-TFE) and several chemicals that are toxic to humans.

Currently, there is no evidence that eating small quantities of non-stick coating that has flaked off into your food is bad for you.

The use of non-stick cookware to reduce the amount of butter or oil used in cooking may be good for your health, but you should not use cookware with non-stick coatings at high temperature or leave it empty or unattended on a hot stove or in a hot oven. Empty pans can reach higher temperatures more quickly than pans containing food.

You should not use non-stick cookware for broiling or other high temperature baking and cooking. Temperature settings vary between appliances but as an example, olive oil typically begins to smoke at 210°C (410°F), below Health Canadas recommended maximum temperature for using non-stick coatings (350°C/650°F).

Health Canada, the U.S. Environmental Protection Agency and the U.S. Food and Drug Administration do not advise against using non-stick coatings or other products containing PTFE, if used properly.

Chemicals used to make non-stick products
A number of chemicals are used to make non-stick cookware including TFE, a known carcinogen, which may also be present in the fumes given off by non-stick cookware used at high heat.

Another chemical used during the making of non-stick coating, PFOA (perfluorooctanoic acid), may be present at very low levels in the cookware, according to at least one study. Some studies have shown that exposure to PFOA over long periods of time may be linked to cardiovascular disease and prostate cancer, though this research is not conclusive and is continuing. Several studies show that PFOA causes cancer in laboratory animals. Based on these and other studies, the majority of the U.S. Environmental Protection Agencys Scientific Advisory Board believes that PFOA likely causes cancer.

PFOA has also been found in higher-than-expected amounts in humans and in our environment. Research into the source of these chemicals in humans and the environment is ongoing.

What Canada is doing
Health Canada advises against using cookware with non-stick coatings at high temperatures (above 350°C/ 650°F).

Health Canada and Environment Canada are currently assessing the potential health risks of exposure to PFOA. Their draft report is due in fall 2006 or early 2007. This assessment is part of a larger action plan to assess a group of related chemicals called PFCAs (perfluorinated carboxylic acids). Some PFCAs are believed to be of greater concern for human health than others, and the recent move to prevent the introduction of four such chemicals in Canada until further studies can be completed is part of the action plan.

Health Canada provides information on other cookware  including anodized aluminum. Anodized aluminum surfaces are sometimes referred to as non-stick surface as well, but are scratch resistant, can be used at higher temperatures and are made without the use of PTFE or PFOA.

What the Canadian Cancer Society is doing
We are providing this information to the public about non-stick cookware because we know Canadians are concerned. We will continue to monitor this issue and will update our information if warranted. We will advocate where appropriate about this issue.

What other countries are doing
The U.S. Environmental Protection Agency continues to study PFOA and in January 2006 invited manufacturers of PFOA to reduce and eventually phase out emissions and product content levels of PFOA and related chemicals.

The European Union is funding PERFORCE, an industry-paired consortium studying environmental exposure of certain PFCA-related substances.

[teetotal]

ขวดพลาสติกที่ใส่น้ำขนาด 1 ลิตร
กับ ขวดพลาสติก ขนาด 20 ลิตร
เป็นคนละประเภทกันครับ
ขนาด 20 ลิตร มีอันตรายน้อยกว่า
ไม่รู้จริงเปล่า  :roll:

[modpattaya]

[quote="teetotal"]ขวดพลาสติกที่ใส่น้ำขนาด 1 ลิตร
กับ ขวดพลาสติก ขนาด 20 ลิตร
เป็นคนละประเภทกันครับ
ขนาด 20 ลิตร มีอันตรายน้อยกว่า
ไม่รู้จริงเปล่า

[sattaya]

[quote="san"]ที่ผมเองไม่เข้าใจคือ สาร พวก PVC มากกว่าครับ

[ssuwan]

แล้วที่เราซื้อน้ำขวดดื่มกัน ไม่รู้จากโรงงานมาที่ร้าน กี่อาทิตย์แล้ว ก็ไม่ปลอดภัยสิครับ
ลองคิดดูดีๆๆ

[birdflu]

ขวดน้ำพลาสติกโดยทั่วไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ชาเขียว น้ำอัดลม น้ำเปล่า จะใช้พลาสติกประเภท PET (polyethlyne terephthalate)

ลักษณะพิเศษคือ มีความใสเงา มีความเหนียวความทนทานต่อแรงกระแทกสูง มีความสามารถในการต้านทานการซึมผ่านของ co2 และ o2 ได้ดี เพื่อรักษาสภาพและรสชาติของผลิตภัณฑ์ที่ถูกบรรจุคงเดิม และที่สำคัญก็คือไม่มีสารอันตราย และปลอดภัยที่จะนำมาใช้บรรจุอาหารและเครื่อง

ส่วนตัวฝานั้น จะเป็นพลาสติกประเภท PP (polypropolyne) เป็นชนิดเดียวกับที่ใช้ผลิตบรรดา tupper ware ต่างๆ

IRP เป็นหนึ่งในผู้ผลิตเม็ด PET
ผู้ผลิตขวดจะนำเม็ด PET ไปผ่านกระบวนการแปรรูปให้เป็นขวด
เท่าที่ทราบแล้วโดยส่วนมากโรงงานน้ำดื่มใหญ่qจะมีบริษัทลูกคอยผลิตขวดแล้วป้อนให้ อย่างเสริมสุขก็ได้ร่วมทุนกับ IRP ตั้งโรงงานผลิตขวด PET

ส่วน PTL นั้นนำ เม็ด PET มาแปรรูปเป็นแผ่น film ไม่เกี่ยวกับขวด

เรื่องที่พี่ HVI ถามนั้นผมไม่แน่ใจ เพราะไม่เคยได้ยิน รู้แต่ว่าพลาสติกประเภท PET โดยทั่วไปจะไม่ทนความร้อนและไม่ควรใช้มาบรรจุน้ำร้อน โดยเฉพาะเข้า microwave  หากโดนความร้อนพลาสติกจะอ่อนตัวและเปลี่ยนรูปทรง ซึ่งหากเป็นเช่นก็ไม่ควรจะนำมาใช้ต่อ

[birdflu]

ส่วน PVC นั้นไม่ค่อยปลอดภัยที่จะนำมาใช้กับ อาหารและเครื่องดื่มครับเนื่องจากตัว pvc สารตกค้างจำพวก silicone อยู่ อีกทั้ง PVC ก็ไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับธรรมชาติเท่าไหร่ครับ เพราะกระบวนการ recycle นั้นทำได้ยากและแพง

ทาง europe ได้ ban วัสดุจำพวก PVC ที่นำมาใช้บรรจุอาหารไปเรียบร้อยแล้วครับ

[noooon010]

อ่านแล้วอึ้งเลย

มีขวดน้ำแบบนี้เต็มตู้เย็นเลยอ่ะ

เดี๋ยวต้องจัดการซะหน่อยแล้ว

ขอบคุณนะครับที่มาเตือนไว้ก่อน