มีเงิน 15 ล้าน ตอนนี้น่าลงทุนทำอะไรดี ที่ไม่ใช่หุ้นครับ

[Yo]

อิอิ ช่วยออกไอเดียธุรกิจให้หน่อยสิครับ จะได้มีงานประจำไว้ทำ แล้วถ้าตลาดหุ้นดีเมื่อไรค่อยกลับมาลุยกันอีกที
ไม่แน่กิจการเติบโต อาจเอาเข้าตลาดหุ้นไปเลยก็ได้นะ
ถ้ายังนึกไม่ออก ลองบอกแค่ว่าอุตสาหกรรมไหนจะไปโลดใน 10ปีข้างหน้าก็ได้

[harry]

ถ้าผมมีเงินขนาดนั้นจริงๆ คงเอามาลงในหุ้นสักครึ่งนึง แล้วก็ฝากแบงค์ไว้ 10-15% เพื่อไว้เป็นเงินที่เอามาใช้ได้เลย ถ้าจะทำธุรกิจ ผมคงเลือกลงทุนธุรกิจเล็กๆที่ใช้เงินไม่เกิน 1 ล้านบาท เพราะเราทำสบายใจเราครับ ยังงัยผลตอบแทนจากหุ้นปันผลก็คงพอใช้จ่าย ทำธุรกิจเองกว่าจะรอด กว่าจะกำไรดีๆ ก็ต้อง 5 ปีอย่างน้อยจากเริ่มต้นครับ และก็อาจต้องทำงาน 24 ชั่วโมงเลยก็ได้ คิดว่าวิธีนี้จะดีกว่า คือทำให้มีอิสรภาพทางการเงินครับ ธุรกิจส่วนตัว เป็นการทำเพื่อให้เราดูงานประจำเท่านั้นครับ

[maomao20033]

แบ่งไว้สัก5%ทำประกันชีวิตครับ
อย่างน้อยก็ป้องกันความเสี่ยงได้ในระดับนึงครับ
ผมมีโครงการการลงทุนมาเสนอพี่ดังนี้ครับ
ผลตอบแทน23.33%ต่อปีในปีแรก และปีต่อๆไปจะได้รับในอัตรา 3.33%เป็นอย่างต่ำพร้อมกับความคุ้มครองตลอดระยะเวลา15ปี
เป็นแบบประกันที่ได้รับความนิยม สำหรับคนที่อายุตั้งแต่ 1 เดือน 1 วัน จนถึง 70 ปี เพื่อตอบสนองผู้ที่ต้องการ สร้างระบบการออม อย่างมีวินัยในระยะกลาง เป็นการชำระเบี้ยประกัน 10 ปี และให้ความคุ้มครองการเสียชีวิตกรณีเจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุ เป็นระยะเวลาถึง 15 ปี เมื่อครบกำหนด 15 ปี ผู้เอาประกันจะได้รับเงิน 300% ของทุนประกัน หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนเท่ากับดอกเบี้ยเงินฝาก ที่อัตรา 3.33% จำนวนทุนประกัน และจำนวนเบี้ยประกันที่ต้องการส่งต่อปี สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความประสงค์ของพี่เอง
แต่ในปีแรกนั้นผมซึ่งเป็นคนขายจะคืนเบี้ยประกันให้พี่เป็นจำนวน20%ของเบี้ยประกันที่พี่ส่งมา( ซึ่งหักมาจากค่าคอมมิชชั่นของผมเอง)เบี้ยประกันสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดาสูงสุดถึง 50,000 บาท ซึ่งสามารถประหยัดภาษีได้ตั้งแต่ 5 ถึง 37% ตามฐานภาษีเงินได้สูงสุดของพี่ ไม่ต้องตรวจ HIV กรณีทุนประกันไม่เกิน 1,000,000 บาท สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล...
ผลประโยชน์ที่จะได้รับ (E300% 15/10)
- รับเงินสดคืน 270% ของทุนประกัน สิ้นปีที่ 15
- รับเงินสมนาคุณ 30% ของทุนประกัน สิ้นปีที่ 15*
- ความคุ้มครองการเสียชีวิตเต็มทุนประกัน หรือมูลค่าเวนคืนเงินสด ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต หรือเบี้ยประกันภัยที่ชำระมาแล้ว แล้วแต่จำนวนใดจะมากกว่าให้แก่ผู้รับประโยชน์
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.inglife.co.th
หากพี่สนใจที่จะทำประกันชีวิตแบบอื่นรวมทั้งประกันสุขภาพเพื่อคุ้มครองตัวพี่เองและคนที่พี่รัก ลองพิจารณาของบริษัทอื่นแล้วเทียบกันก่อนได้นะครับ
ผมขอเป็นตัวเลือกอีกทางนึงครับ สามารถติดต่อผมได้ตลอด24ชั่วโมง ผมยินดีคืนเบี้ยประกันให้พี่จากค่าคอมมิชชั่นของผมเอง50%ในปีแรกทุกกรณี ลองสอบถามพูดคุยกันเกี่ยวกับแบบประกันแบบอื่นๆได้นะครับ
ติดต่อผมที่065524144 ตลอด 24ชั่วโมงนะครับ ยินดีให้บริการถึงที่ครับ
ขอบคุณพี่มากครับ

[ayethebing]

ถ้ามี 15 ล้านแล้วไม่รู้ไปทำอะไรผมว่าลองหาที่ปรึกษาทางการเงินดีกว่ามั้ง เค้าคงแนะนำให้คุณได้อย่างดี

อย่าไปทำเลยธุรกิจนะ เพราะถ้าไมุุ่รู้ว่าจะทำอะไรนะ แล้วเลือกทำกิจการที่คิดว่้าจะร้อนแรงนะ ผมว่าเงินคุณจะหายไปในชั่วพริบตา

การทำธุรกิจส่วนตัวมันต้องใช้มากกว่าเงินครับ ที่ดีต้องใช้่เงินน้อยๆ ด้วยซ้ำ ต้องมี passion ด้วย

ถ้าคุณ yo ชอบหรือมีความสามารถในอุตสาหกรรมไหน ก็ให้ทำอันนั้นดีกว่า passion มันจะเกิดจากความสนุกในการทำงานครับ

ขอโทษที่พูดตรงๆ ครับ ซึ่งอาจเป็นความเห็นที่ผิดก็ได้นะครับ แต่ผมก็คิดอย่างงี้แหละ

[Yo]

ขอบคุณทุกความเห็นครับ ผมเกิดในตระกูลค้าขาย ถ้ามีกำไรเงินเหลือต้องเอาไปขยายธุรกิจเรื่อยๆ มันเป็นค่านิยมนะครับ ถ้าไม่สามารถสร้างสรรอะไรใหม่ๆได้ คนรอบข้างจะดูแล้วเหมือนเราเป็นคนไร้ความสามารถ ทั้งที่ความจริงธุรกิจที่คิดจะทำ อาจได้ผลตอบแทนสู้เกมส์การเงิน หรือลงทุนซื้อหุ้นให้คนอื่นบริหารเงินให้ก็ไม่ได้ก็ตาม แต่ที่แนะนำมาก็นับว่าน่าสนใจ ผมไม่เคยคิดถึงเลย ความจริงถ้ามันมีธุรกิจที่ แนวโน้มดี ตลาดกว้างขวาง คู่แข่งน้อย ลงทุนไม่มากนัก ใครจะมาบอกจริงมะ รีบเอาไปทำเองเลยดีกว่า อิอิ

[harry]

ขอบคุณทุกความเห็นครับ ผมเกิดในตระกูลค้าขาย ถ้ามีกำไรเงินเหลือต้องเอาไปขยายธุรกิจเรื่อยๆ มันเป็นค่านิยมนะครับ ถ้าไม่สามารถสร้างสรรอะไรใหม่ๆได้ คนรอบข้างจะดูแล้วเหมือนเราเป็นคนไร้ความสามารถ ทั้งที่ความจริงธุรกิจที่คิดจะทำ อาจได้ผลตอบแทนสู้เกมส์การเงิน หรือลงทุนซื้อหุ้นให้คนอื่นบริหารเงินให้ก็ไม่ได้ก็ตาม แต่ที่แนะนำมาก็นับว่าน่าสนใจ ผมไม่เคยคิดถึงเลย ความจริงถ้ามันมีธุรกิจที่ แนวโน้มดี ตลาดกว้างขวาง คู่แข่งน้อย ลงทุนไม่มากนัก ใครจะมาบอกจริงมะ รีบเอาไปทำเองเลยดีกว่า อิอิ

ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วครับ การนำกำไรไปขายธุรกิจเป็นสิ่งที่ดีมากครับ แต่ในฐานะบุคคลลธรรมดา ทำอย่างอื่นก็ได้หลายอย่างครับ เราต้องศึกษาให้เข้าใจก่อนครับ เวลาใครมาถามจะได้อธิบายว่าคุณเลือกทำสิ่งนั้นเพราะอะไร

[chatchai]

เราควรที่จะมองจากตัวเองก่อนดีกว่าครับ ว่าเราชอบอะไรถนัดอะไร อย่าไปทำตามแห่คนอื่นเลยครับ

ผมเชื่อว่าทกอาชีพย่อมมีคนประสบความสำเร็จและคนผิดหวัง และคนที่ประสบความสำเร็จในอาชีพนั้นๆมักจะเป็นคนที่มีใจรักและมีความถนัดในอาชีพนั้นๆครับ

ที่เกิดวิกฤตคราวที่แล้วก้เพราะทำธรกิจตามแห่กันนะครับ ทำการค้าอย่ดีๆ มีที่ดินอย่แปลงก็ก้เงินไปทำคอนโด ทำเกษตรอย่ดีๆก้ไปทำสื่อสาร สดท้ายก้ต้องกลับมาที่ตัวเองถนัดครับ

[thanwa]

เห็นด้วยกะคุณ chatchai ครับ
มีคนเคยพูดว่า ปลาน้ำเค็มต้องอยู่น้ำเค็ม ปลาน้ำจืดก็ต้องอยู่น้ำจืด
สุดท้ายก็คงต้องทำสิ่งที่ตนเองถนัดและชอบ(ที่คุณ aye เรียกว่า passion) นั่นแหละ

ไม่ทราบว่าคุณ yo ชอบเรื่องลงทุนในตลาดหลักทรัพย์หรือเปล่า
ถ้าชอบผมยังคิดว่า ไม่น่าจะตัดทางเลือกนี้ออก
อย่างคุณ chatchai หรือคุณลูกอิสานก็แสดงให้คิดว่าสามารถเป็นนักลงทุนอาชีพได้
คงต้องสนใจ ทุ่มเท อย่างที่ทั้งสองท่านทำละครับ
ความจริงคุณ yo ได้เปรียบตรงที่มีเงินลงทุนขั้นตั้นในปริมาณที่มากพอสมควร
หากศึกษาการลงทุนและปฎิบัติอย่างถูกต้อง เราสามารถมองเป็นเจ้าของกิจการร่วมในธุรกิจที่มีความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวได้เช่นกัน

ลองคิดดูนะครับ ผมอยากฟังว่าคุณ yo ตัดสินใจอย่างไรครับ

[Yo]

ขอบคุณที่ทำให้ผมนึกถึง หลักอิทธิบาทสี่ขึ้นมาได้ การทำในสิ่งที่ตนรักนี่ผมเชื่อครับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ถูกต้องของความสำเร็จ แต่คนเราถือว่าโชคดีมากครับ ถ้ารู้ว่าตัวเองชอบอะไรรักอะไร แล้วได้ทำในสิ่งนั้น ที่ผ่านมาผมจะเป็นประเภท ต้องรักในสิ่งที่ทำซะมากกว่า
ตั้งแต่แนวคิดเรื่องvalue investor เริ่มเป็นที่แพร่หลายนี่ ผมก็รู้สึกเลื่อมใสเหมือนกัน และไม่คิดว่าจะตัดทางเลือกเรื่องหุ้นหรอกครับ แต่ยังลังเลถ้าจะเอาเป็นทางหลัก รู้สึกว่าตัวเองจะเข้าวงการช้าไปหน่อย กว่าจะเรียนรู้เข้าใจธุรกิจในตลาดได้ดีพอ กลัวเงินต้นจะหมดซะก่อน อีกอย่างผมรู้สึกว่าตลาดหุ้นไทยนี่ยังไงๆก็ต้องอาศัยรายใหญ่ในการทำราคาอยู่ดี แล้วเราจะเอาผลตอบแทนไปฝากไว้กับคนพวกนี้ได้ซักแค่ไหนกัน ดูอย่าง wg ของพี่ chatchai นี่ผมก็วิเคราะห์ตามแล้วว่า OK ถ้าผมมีที่ต้นทุน13 บาทอย่างพี่เขา ก็คงไม่กลัว แต่ให้ผมเข้าตอนนี้ก็ลำบากใจ ผมซื้อมาที่ 29 บาท 50,000หุ้น ถือตั้งนาน ถ้าไม่ได้ zmico มาปั่นขึ้นไป (คิดว่าใช่นะ อิอิ) ถึง 30กว่าๆ ลำพังปันผล 1.85 บาท (yield 6-7%) ยังไม่พอสำหรับผมครับ

ตอนนี้ยังนึกไม่ออกว่าจะทำอะไรดี ความจริงผมมีธุรกิจประจำอยู่แล้ว ทำมา8ปี มันตันครับ คู่แข่งเยอะ ความสามารถในการทำกำไรหด การเติบโตไม่มี เงินก็เก็บได้เท่านี้เอง สมัยหนุ่มๆตอนเริ่มต้น ฝันเอาไว้ว่า 15ล้านนี่ต่อปีครับ ไม่ใช่ต่อ8ปี

เศรษฐกิจเมืองไทยดูเหมือนว่ามันดี แต่มันโตเพราะการใช้จ่ายของคน และการใช้กำลังผลิตเดิมมากขึ้น แต่ผมมองว่ามันไม่ยั่งยืน เมื่อใช้กันเต็มแล้ว ธุรกิจเมืองไทยที่ยังมี่ศักยภายจะขยายกำลังการผลิต ยังมีอีกซักเท่าไร demand มันจะมาจากไหนอีก ถ้าจะให้ยั่งยืนการเติบโตน่าจะต้องมาจากเทคโนโลยี่ และการสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อสร้างตลาดใหม่ๆขึ้นมาได้ต่อเนื่อง

เงินแค่15 ล้านยังไม่พอจะทำงานใหญ่ ถ้าจะให้ปลอดภัยผมอยากทำธุรกิจอะไรที่มีเทคโนโลยี่เป็นของตัวเองครับ หรือสร้างสรรอะไรขึ้นมาใหม่ๆมากกว่า กำลังเอา หลัก 5 force มาวิเคราะห์ดูว่าอะไรน่าจะดีและสอดคล้องกับ competitve advantage of nation ด้วย พอได้แนวรางๆแล้วครับ แต่เส้นทางคงยังอีกไกล ผมว่าตัวเองคงยังมีแรงฮึดได้อีกซักยก ส่วนตอนนี้ก็ขออยู่ในตลาดหุ้น เรียนรู้และเป็นเพื่อนกับทุกๆคนไปก่อนนะครับ ไม่แน่ไปๆมาอาจใช้แนวทางนี้เป็นแนวทางหลักก็ได้ อิอิ แหมราคามันลงมาจนน่าสนใจอีกแล้ว :lol:

[chatchai]

ตอนที่ผมซื้อ WG ที่ 13 บาทนั้น ปันผลก็แค่ 1 บาทเองครับ ก็ 7.69% ถือเป็นปีครับกว่าราคาที่จะขึ้น แต่ผมก็ไม่ได้ร้สึกอะไรครับ

ไม่แน่นะครับ อีก 2 ปี บริษัทมีเงินสดเหลือ 25 บาทต่อห้น แล้วราคาไปที่ 60 บาท ถึงตอนนั้นอาจจะคิดถึงราคา 30 บาทตอนนี้ก็ได้ครับ

[มือใหม่]

ถ้าเป็นผมไม่ต้องถึง 15 ล้านครับ คิดว่าแค่ไม่ถึงล้านก็ได้แล้ว (กำลังคิดทำอยู่)

เช่าพื้นที่ปั้มน้ำมันดีๆ เปิดล้างรถ เอาแบบมีเด็กประมาณ 10 คน ล้างเสร็จสะอาดต่อคัน รวมดูดผฝุ่น ทำความสะอาดภายใน ไม่เกิน 15 นาที/คัน

เน้นด้านบริการสุดๆ ให้ลูกค้าประทับใจ ในราคาที่ไม่แพง ไปเลยครับ

ไม่รู้เป็นไรชอบอาชีพด้านบริการจัง

[tuatoon]

ผมขอถามหน่อยซิครับ คือว่าไม่เข้าใจมานานแล้ว
ที่ว่า ลงทุนในหุ้นอย่างเดียว ทีนี้สมมุติว่า มีเงิน 5 ล้านบาทลงในหุ้นหมดเลย
ทีนี้กำไรในหุ้น (อย่างที่ ดร.นิเวศน์ บอก) ประมาณปีละ 10% ก็จะได้ 500,000 บาทต่อปี เงินแค่นี้ใช้จ่ายต่อปีก็หมดแล้ว
แล้วคราวนี้จะเอาเงินที่ไหนไปลงทุนต่อล่ะครับ เข้าใจว่าต้องเอาเงินกำไรที่ได้ไปลงทุนต่อด้วยใช่ไหมครับ จึงจะถือว่าเป็นกำไรทบต้น?

ที่อ่านๆมาว่าแต่ละคนไม่ค่อยขายหุ้นเอากำไร
แล้วพวกเราเอาอะไรกินกันล่ะครับ?
แสดงว่าการเล่นหุ้นต้องใช้เงินที่ "นอน" จริงๆเท่านั้นหรือครับ?

[คนอยากจน]

มีเงินแค่นี้ ถ้าคุณไม่มีฟิ้นฐานด้านสินค้า OTOP คุณทำอะไรไม่ได้หรอกครับ นอกจากหาเป็นลูกข่ายเฟรนด์ชายสักแ่ห่งเล็กๆ

[jack]

ตามความคิดเห็นของผู้น้อยอย่างผมนะครับคิดว่า
คุณได้เงิน15ล้านมาด้วยวิธีไหนก็น่าจะทำวิธีนั้นต่อไปนะครับ เงินจำนวนนี้บางคนว่าน้อยแต่หลายๆคนยังคิดว่าชาตินี้ไม่รู้หาได้หรือเปล่า
ลูกพ่อค้าน่าจะถนัดกับการออกเงินกู้สิครับ แบบที่เอาทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์มาวางไว้แล้วเอาเงินไปเราก็คิดดอกเบี้ยไป ผมเห็นเพื่อนบ้านผมทำแล้วเติบโตดีครับ เงินต่อเงินมันโตเร็วดี ความเสี่ยงก็มีเรื่องคนกู้หนีหนี้ กับข้อกฏหมายต่างๆที่ต้องถูกต้องและรัดกุม(ไม่ผิดกฏหมายด้วย) อาชีพนี้ถือว่าออกดอกเบี้ยสนุกๆ ได้มากกว่า10%ต่อปี
แต่ถ้าเป็นผมเงินนี้ผมจะเอาไปฝากธนาคารส่วนนึงและเอาไปลงทุนในหุ้นครับ ง่ายดีไม่เหนื่อยใจกับลูกค้าและลูกน้องครับ :lol: :lol: และเราก็ทำงานแบบเดิมต่อไป

[บุรุษผู้มีรูปศรกลางอก]

ถ้าผมมีเงิน 15 ล้านอย่างคุณผมจะโกอินเตอร์
นำเงินประมาณ 6- 7 ล้านไปซื้อเงิน USD จำนวน 150,000 ๊USD
แล้วไปเปิดบัญชีเทรดเงินตราต่างประเทศกับ Bank ในฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น หรือศูนย์กลางการเงินของโลกที่ใดที่หนึ่งที่ไม่เป็นอุปสรรคกับเงื่อนไขด้านสุขภาพของผม

ผ่านไป 5 ปีผมจะมีเงินอย่างน้อย 4,500,000 ีUSD
ผ่านไป 10 ปีผมจะมีเงินอย่างน้อย 135,000,000 ๊USD

แต่อาจปิดกิจการเกี่ยวกับฟิตเนตเซ็นเตอร์ หรือโรงเรียนสอนศิลปะป้องกันตัว ไม่ได้มั่งหวังกำไรแต่ทำเพราะชอบ

แต่ก็เป็นแค่ความฝันนะ

" มีความรู้ความสามรถ แต่ไร้วาสนา "

คำๆนี้ทำร้ายจิตใจผู้คนมากที่สุด เจ็บปวดที่สุดถ้าหากว่าคุณเกิดเป็นเหมือนคำพูดคำนี้

และคุณคงไม่เชื่อว่าคำๆนี้สร้างความเจ็บปวดให้ผมมากที่สุด

จนคิดอะไรไม่ออกนอกจากเรื่องเซ็กซ์

[brandonyao]

คุณ YO ครับ ก่อนที่จะคิดว่าคุณจะทำอะไร ก่อนอื่นอยากให้คุณเอาเงินของคุณวางไว้ก่อน (วางไว้ใน BANK นะครับ อย่าวางตามถนน) แล้วคิดก็ว่าคุณหาเงินก้อนนี้มาได้จากไหน ในกรณีที่คุณหาเงินก้อนนี้มาได้เอง แสดงว่าคุณมีความชำนาญในประเภทธุรกิจของคุณพอสมควร จากนั้นดูว่าธุรกิจที่คุณชำนาญเป็นประเภทไหน เช่น โรงงานผลิต, ซื้อมา-ขาย, ขายปลีก, ขายส่ง, ตัวแทน หรือ บริการ ในกรณีถ้าคุณเป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ก็เลือกงานด้านบริการ เป็นต้น ถ้าคุรถามว่าธุรกิจอะไรดี คงไม่มีใครตอบคำถามคุณได้ดีเท่ากับตัวคุณเอง พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า "อย่าเชื่อเพราะเราเป็นพระพุทธเจ้า"
คุณว่า บิล เกตต์ ทำงานทุกวันนี้เพื่อเงินหรือไม่ ผมว่าเขาทำเพราะเขามีความสุขที่จะทำ ผมเคยอ่าน Rich Dad (ผมไม่ใช้สาวกนะ แค่เคยอ่าน) และเห็นด้วยว่า ความร่ำรวยคือเวลาที่เหลืออยู่นั่นแหละ จากวันนั้นผมเริ่มวางแผนสำหรับอนาคตตัวเองว่าจะทำงานอะไรก็ได้ที่เราไม่ต้องทำไปจนวันตาย แต่มีรายได้ต่อไปเรื่อยๆ มีคนเคยให้ผมทำธุรกิจตัวหนึ่งที่ผมมีความรู้พอสมควร แต่รูปแบบธุรกิจนั้น อาจทำให้ผมร่ำรวย แต่ในระยะยาวผมจะไม่มีทางมีอิสระภาพได้เลย ผมจึงปฏิเสธไป (ขอออกตัวก็ว่าผมก็ยังไม่ประสบความสำเร็จอะไรมากมายนัก) ผมมี IDEA ทางธุรกิจมากมาย อาจจะดูประหลาด และ ไม่เหมาะหากคุณมีความคิดด้านธุรกิจแบบโบราณ หากสนใจก็ส่ง e-mail มาหาผมได้ จะตอบกลับไป ขอบคุณครับ