มีใครอ่าน Money Game แล้วมั่ง
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
มีใครอ่าน Money Game แล้วมั่ง
โพสต์ที่ 1
ไม่ได้แนะนำหนังสือนะครับ แต่อ่านจบแล้ว ที่ซื้อมาเพราะเห็นคนเขียนเป็น Analyst ดีเด่น และ หนังสือนี่ "กลั่นมาจากประสบการณ์ 20 ปีในการลงทุน"
อยากทราบว่า อ่านแล้วได้อะไรกันมามั่งครับ? ผมว่าค่อนข้างออกไปแนวทำนาย SET บางเรื่องก็เขียนถูกต้องแต่ "ไม่ต้องบอกก็รู้" อ่ะ -_-'
ที่อ่านแล้วติดหัวที่สุดก็คือ
-เล่นหุ้นเล็กให้ดูการซื้อขายของผู้บริหาร หุ้นใหญ่ให้ดูฝรั่ง
-It's better to be right than smart
-Buy a dollar for fifty cent >> พี่เค้าแปลว่า Margin of Safety อย่างต่ำต้อง 15% (fifty มันแปลว่า 50 ไม่ใช่เหรอ???)
ถ้าจะว่าห่วยซะทีเดียวก็ไม่ยุติธรรมเพราะจริงๆก็มีเรื่องที่น่าสนเหมือนกัน ใครสนลองอ่านยืนอ่านฟรีดีกว่าครับ อ่านแป๊บเดียวก็จบเพราะเนื้อหาเบาๆ แต่ผมว่าไม่ค่อยมีประโยชน์กับ VI นะ -_-'
อยากทราบว่า อ่านแล้วได้อะไรกันมามั่งครับ? ผมว่าค่อนข้างออกไปแนวทำนาย SET บางเรื่องก็เขียนถูกต้องแต่ "ไม่ต้องบอกก็รู้" อ่ะ -_-'
ที่อ่านแล้วติดหัวที่สุดก็คือ
-เล่นหุ้นเล็กให้ดูการซื้อขายของผู้บริหาร หุ้นใหญ่ให้ดูฝรั่ง
-It's better to be right than smart
-Buy a dollar for fifty cent >> พี่เค้าแปลว่า Margin of Safety อย่างต่ำต้อง 15% (fifty มันแปลว่า 50 ไม่ใช่เหรอ???)
ถ้าจะว่าห่วยซะทีเดียวก็ไม่ยุติธรรมเพราะจริงๆก็มีเรื่องที่น่าสนเหมือนกัน ใครสนลองอ่านยืนอ่านฟรีดีกว่าครับ อ่านแป๊บเดียวก็จบเพราะเนื้อหาเบาๆ แต่ผมว่าไม่ค่อยมีประโยชน์กับ VI นะ -_-'
I do not sleep. I dream.
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
มีใครอ่าน Money Game แล้วมั่ง
โพสต์ที่ 4
อ่านแล้ว ได้ความคิดใหม่ๆเยอะดีครับ
- frog
- Verified User
- โพสต์: 45
- ผู้ติดตาม: 0
มีใครอ่าน Money Game แล้วมั่ง
โพสต์ที่ 11
อ่านแล้วพึ่งรู้ว่า การทำอาบริทราจง่าย ๆ
โดยกู้เงินญี่ปุ่น ซึ่งดอกเบียใกล้ศูนย์มาฝากกับ
แบงค์ของประเทศที่ให้ดอกเบี้ย สูง ๆ โดยกู้เป็นจำนวน
เงินมาก ๆ
อ่านบทนี้จบอยากไปยึม มาฝากประจำกับกรุงไทยจัง
(พี่ยุ่นครับ ขอยืมซัก 1000 ล้านบาท ได้ไหมครับ)
(5555555555 ใครเขาจะให้แกวะ ไอ้บ้า อย่าฝันมาก)
(ตื่น ๆ)
โดยกู้เงินญี่ปุ่น ซึ่งดอกเบียใกล้ศูนย์มาฝากกับ
แบงค์ของประเทศที่ให้ดอกเบี้ย สูง ๆ โดยกู้เป็นจำนวน
เงินมาก ๆ
อ่านบทนี้จบอยากไปยึม มาฝากประจำกับกรุงไทยจัง
(พี่ยุ่นครับ ขอยืมซัก 1000 ล้านบาท ได้ไหมครับ)
(5555555555 ใครเขาจะให้แกวะ ไอ้บ้า อย่าฝันมาก)
(ตื่น ๆ)
- Sumotin
- Verified User
- โพสต์: 1131
- ผู้ติดตาม: 0
มีใครอ่าน Money Game แล้วมั่ง
โพสต์ที่ 12
ดูแต่ ดอกเบี้ยไม่ได้นะครับ ต้องดู exchange rate ด้วย เพราะพวก ดอกเบี้ยน้อยๆ inflation ก็จะต่ำด้วยในขณะที่ ดอกเบี้ยเยอะ inflation ก็สูงด้วย และก็มีผลกระทบต่อค่าเงินในระยะยาว หนะครับ ต้องคิดให้ละเอียดๆดูก่อนนะครับfrog เขียน:อ่านแล้วพึ่งรู้ว่า การทำอาบริทราจง่าย ๆ
โดยกู้เงินญี่ปุ่น ซึ่งดอกเบียใกล้ศูนย์มาฝากกับ
แบงค์ของประเทศที่ให้ดอกเบี้ย สูง ๆ โดยกู้เป็นจำนวน
เงินมาก ๆ
อ่านบทนี้จบอยากไปยึม มาฝากประจำกับกรุงไทยจัง
(พี่ยุ่นครับ ขอยืมซัก 1000 ล้านบาท ได้ไหมครับ)
(5555555555 ใครเขาจะให้แกวะ ไอ้บ้า อย่าฝันมาก)
(ตื่น ๆ)
Timing is everything, no matter what you do.
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
-
- Verified User
- โพสต์: 331
- ผู้ติดตาม: 0
มีใครอ่าน Money Game แล้วมั่ง
โพสต์ที่ 13
ผมไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ และไม่รู้ว่าผู้เขียนสื่ออย่างนี้หรือเปล่าfrog เขียน:อ่านแล้วพึ่งรู้ว่า การทำอาบริทราจง่าย ๆ
โดยกู้เงินญี่ปุ่น ซึ่งดอกเบียใกล้ศูนย์มาฝากกับ
แบงค์ของประเทศที่ให้ดอกเบี้ย สูง ๆ
แต่ที่ผมเห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์ และบทวิเคราะห์ของโบรกต่าง ๆ ชอบเขียนกันแบบนี้
ผมขอบอกว่าทำไม่ได้ครับ เพราะ
1 Exchange Rate Risk
อย่างที่คุณ Sumotin ว่า คือมีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน
คุณกู้เยนมา ดอกเบี้ยถูกจริง แล้วแปลงเป็นบาท
ตอนครบกำหนดบาท แปลงกลับเป็นเยน
อาจจะขาดทุน ( หรือกำไร ) มหาศาลได้จากค่าเงินที่ผันผวนครับ
2 Swap Points
ถ้าคุณกู้ได้แล้ว แปลงเยนเป็นบาท แล้วปิดความเสี่ยงด้วยการซื้ออัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า
ก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี เพราะอัตราล่วงหน้าดังกล่าว
ก็มีสูตรการคำนวณมาจากส่วนต่างของดอกเบี้ยระหว่างสองประเทศนั่นเอง
3 Spread
เวลาคุณกู้ คุณต้องกู้ฝั่งที่ธนาคาร Offer
ขณะที่คุณฝาก คุณต้องฝากธนาคารด้าน Bid
ดังนั้นมีส่วนต่างตรงนี้ที่คุณต้องเสีย Spread อีก
ซึ่งข้อ 3 นี้นำไปสู่ข้อ 4
4 Credit Risk
ถ้าคุณเป็นคนธรรมดาไปกู้ ธนาคารคิดดอกเบี้ยคุณแพงกว่าปกติครับ
ดังนั้น Spread ในข้อ 3 ยิ่งกว้างขึ้นไปอีก
โดยสรุปแล้ว เป็นเรื่องเพ้อฝันครับ
แต่ไม่รู้ทำไมบทวิเคราะห์ตามโบรกต่าง ๆ ถึงเพ้อกันได้เรื่อย ๆ
- Sumotin
- Verified User
- โพสต์: 1131
- ผู้ติดตาม: 0
มีใครอ่าน Money Game แล้วมั่ง
โพสต์ที่ 14
ผมไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ และไม่รู้ว่าผู้เขียนสื่ออย่างนี้หรือเปล่าtech เขียน:
แต่ที่ผมเห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์ และบทวิเคราะห์ของโบรกต่าง ๆ ชอบเขียนกันแบบนี้
ผมขอบอกว่าทำไม่ได้ครับ เพราะ
1 Exchange Rate Risk
อย่างที่คุณ Sumotin ว่า คือมีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน
คุณกู้เยนมา ดอกเบี้ยถูกจริง แล้วแปลงเป็นบาท
Timing is everything, no matter what you do.
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
-
- Verified User
- โพสต์: 101
- ผู้ติดตาม: 0
มีใครอ่าน Money Game แล้วมั่ง
โพสต์ที่ 16
จริงๆ ดีมากเลยนะครับ ที่เขาเขียนผมมีคนเข้าใจคลาดเคลื่อนไปมาก ไม่ใช่ที่ความเห็นส่วนใหญ่เข้าใจนะครับ
คนเขียนเข้าพยายามให้เห็นว่า พวก hedge fund ทำงานยังไง
flow ของเงินทุนดูอะไรบ้าง ทำให้เห็นว่าภาวะตลาดกระทิงและตลาดหมีที่เกิดจาก money จากประเทศต่างๆ เกิดขึ้นได้อย่างไร ไม่ใช่หวังเพียงแค่ผลตอบแทนจากตลาด หรืออัตราแลกเปลี่ยนอย่างเดียว
และที่สำคัญก็คือ เขาสอนให้เราเปรียบเทียบตัวแปรทางเศรษฐกิจ ที่พวก hedge fund ดูครับ เช่น M2 GDP_Growth Market_cap ratioต่างๆ ดอกเบี้ยเชิงนโยบาย แถมยังมีงานวิจัยส่วนตัวที่หาความสัมพันธ์โดยวิธีทางสถิติ ให้เห็นตัวแปรอะไรมีผลสำคัญที่สุด
ทำให้เข้าใจการไหลเข้าออกของทุนในขณะนี้ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากสภาพคล่องของโลกที่เกิน เรานำผลดังกล่าวมาปรับใช้กับการคาดการณ์โดยเฉพาะหุ้น big_cap ได้ แถมไม่ใช่แค่คาดการณ์แต่มีตัวเลขชัดเจนไปเลย
เพียงแต่ ตัวแปร และดัชนีหลายๆตัว (หาได้จากรายงานของแบงค์ชาติ IMF ADB Worldbank สภาพัฒน์) รวมถึงวิธีการที่พวก hedge fund ใช้ คนที่ไม่ได้มีพื้นฐานอาจจะลำบากครับ เพราะไม่ใช่เป็นหลักการกว้างๆ แต่เป็นหลักวิชาการ
ถ้าใช้ประกอบกับแนวลงทุน VI เราจะเห็นโอกาสก่อนที่มันจะมาถึงจริงครับ
คนเขียนเข้าพยายามให้เห็นว่า พวก hedge fund ทำงานยังไง
flow ของเงินทุนดูอะไรบ้าง ทำให้เห็นว่าภาวะตลาดกระทิงและตลาดหมีที่เกิดจาก money จากประเทศต่างๆ เกิดขึ้นได้อย่างไร ไม่ใช่หวังเพียงแค่ผลตอบแทนจากตลาด หรืออัตราแลกเปลี่ยนอย่างเดียว
และที่สำคัญก็คือ เขาสอนให้เราเปรียบเทียบตัวแปรทางเศรษฐกิจ ที่พวก hedge fund ดูครับ เช่น M2 GDP_Growth Market_cap ratioต่างๆ ดอกเบี้ยเชิงนโยบาย แถมยังมีงานวิจัยส่วนตัวที่หาความสัมพันธ์โดยวิธีทางสถิติ ให้เห็นตัวแปรอะไรมีผลสำคัญที่สุด
ทำให้เข้าใจการไหลเข้าออกของทุนในขณะนี้ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากสภาพคล่องของโลกที่เกิน เรานำผลดังกล่าวมาปรับใช้กับการคาดการณ์โดยเฉพาะหุ้น big_cap ได้ แถมไม่ใช่แค่คาดการณ์แต่มีตัวเลขชัดเจนไปเลย
เพียงแต่ ตัวแปร และดัชนีหลายๆตัว (หาได้จากรายงานของแบงค์ชาติ IMF ADB Worldbank สภาพัฒน์) รวมถึงวิธีการที่พวก hedge fund ใช้ คนที่ไม่ได้มีพื้นฐานอาจจะลำบากครับ เพราะไม่ใช่เป็นหลักการกว้างๆ แต่เป็นหลักวิชาการ
ถ้าใช้ประกอบกับแนวลงทุน VI เราจะเห็นโอกาสก่อนที่มันจะมาถึงจริงครับ
- Tibular
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 522
- ผู้ติดตาม: 0
มีใครอ่าน Money Game แล้วมั่ง
โพสต์ที่ 18
ก็ดีนี่ครับ ให้มุมมองต่างๆดี ถ้าไม่ดีเค้าไม่กล้าเขียนมาหรอกครับ อยู่ที่เราคนอ่านเอาสาระอะไรออกมาได้มากกว่า แล้วก็ชั่งน้ำหนักดูว่าอันไหนน่าเชื่อถือกว่ากัน ผมยึดคติว่า ไม่ว่าใครจบอะไรมา เก่งอะไรมา ก็ไม่สามารถรู้ไปได้ทุกเรื่องหรอกครับ คนที่รู้ทุกเรื่องคือคนที่ไม่รู้อะไรเลย ผมขอเป็นคนที่ไม่รู้อะไรเลยดีกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 2
- ผู้ติดตาม: 0
montri
โพสต์ที่ 20
เห็นด้วยกับคุณ @DNA : เน้นมองภาพของ fund flow ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ SET เราเปลี่ยนแลงมาก ๆ ในปัจจุบัน ชาว VI ก็น่าใช้ประโยชน์ได้บ้างครับ
Montri Buachot
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 272
- ผู้ติดตาม: 0
z
โพสต์ที่ 21
ผ่านจบแล้วครับ และต้องอ่านถึง 2 รอบ (หนังสือ VI ยังไม่เคยอ่านเกิน 1 รอบเลย) แต่เพราะอ่านยากครับ อ่านแล้วต้องคิดตามทุกบรรทัด ยิ่งไม่มีพื้นทางการเงินมาก่อนเลย
ผมว่าก็ไม่ได้ขัดกับแนว VI ซะทีเดียวนะครับ แต่อาจจะเป็นอีกมุมมองหนึ่งซึ่งพยายามจะอธิอบาย fund flow ว่าทำงานอย่างไรซึ่งอ่านแล้วก็เถียงเขาไม่ออกเพราะคนเขียนประสบการณ์สูงมาก ทั้งยกทฤษฏี และ เหตุการณ์ตัวอย่างประกอบอยู่ตลอดเวลา
ต้องยอมรับว่าเป็นคนละแนวกับ VI ครับเพราะเขาพยายามจะอ่าน market ว่าจะเป็นอย่างไรซึ่งแนว VI แท้อาจไม่ชอบหรือคิดว่าเสียเวลา แต่ SETมันก็อิงกับ fund flow และ ระบบการเงินโลกจริงๆแหละครับ ซึ่งก็ขึ้นกับว่าเราจะเอาความรู้ส่วนนี้มาใช้ประโยชน์หรือเปล่า
สรุปว่าอ่านก็ดีได้เห็นมุมมองกว้างขึ้น ไม่อ่านก็ไม่น่าเสียดายอะไรครับ
ผมว่าก็ไม่ได้ขัดกับแนว VI ซะทีเดียวนะครับ แต่อาจจะเป็นอีกมุมมองหนึ่งซึ่งพยายามจะอธิอบาย fund flow ว่าทำงานอย่างไรซึ่งอ่านแล้วก็เถียงเขาไม่ออกเพราะคนเขียนประสบการณ์สูงมาก ทั้งยกทฤษฏี และ เหตุการณ์ตัวอย่างประกอบอยู่ตลอดเวลา
ต้องยอมรับว่าเป็นคนละแนวกับ VI ครับเพราะเขาพยายามจะอ่าน market ว่าจะเป็นอย่างไรซึ่งแนว VI แท้อาจไม่ชอบหรือคิดว่าเสียเวลา แต่ SETมันก็อิงกับ fund flow และ ระบบการเงินโลกจริงๆแหละครับ ซึ่งก็ขึ้นกับว่าเราจะเอาความรู้ส่วนนี้มาใช้ประโยชน์หรือเปล่า
สรุปว่าอ่านก็ดีได้เห็นมุมมองกว้างขึ้น ไม่อ่านก็ไม่น่าเสียดายอะไรครับ
Kritsada
- SEHJU
- Verified User
- โพสต์: 1238
- ผู้ติดตาม: 0
ครับ
โพสต์ที่ 23
อ่านยากอ่ะครับสำหรับผม ศัพท์แสงก็เยอะ... กว่าจะผ่านได้แต่ล่ะหน้าเหนื่อยครับ
- hardchi
- Verified User
- โพสต์: 346
- ผู้ติดตาม: 0
มีใครอ่าน Money Game แล้วมั่ง
โพสต์ที่ 25
ผมไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ และไม่รู้ว่าผู้เขียนสื่ออย่างนี้หรือเปล่าSumotin เขียน:
แต่ที่ผมเห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์ และบทวิเคราะห์ของโบรกต่าง ๆ ชอบเขียนกันแบบนี้
ผมขอบอกว่าทำไม่ได้ครับ เพราะ
1 Exchange Rate Risk
อย่างที่คุณ Sumotin ว่า คือมีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน
คุณกู้เยนมา ดอกเบี้ยถูกจริง แล้วแปลงเป็นบาท
.....โลกนี้ยังมีอันใดเร้าใจกว่าชีวิตผู้คน และความหมายของชีวิตเกิดจากประสบการณ์และช่วงเวลาอันเร้าใจ ......
.....สำเร็จล้มเหลวไม่สำคัญ ขั้นตอนของการต่อสู้ดิ้นรนจึงเร้าใจที่สุด ......
.....สำเร็จล้มเหลวไม่สำคัญ ขั้นตอนของการต่อสู้ดิ้นรนจึงเร้าใจที่สุด ......