จะมีประโยชน์อะไรถ้าเมืองไทยมีอุปกรณ์การแพทย์ที่ดีที่สุดในโลก

[hot]

แต่คนรายได้ระดับ7000 บาทต่อเดือน

ไม่มีบุญได้รักษา

[energizer]

เพิ่งอ่านข่าวจากเว็บผู้จัดการเรื่องหมอทำคลอดห่วยๆหนะครับ  รู้สึกสลดใจเหมือนกันนะ ทำให้เห็นถึงจรรยาบรรณของวิชาชีพนี้ในปัจจุบันว่าเป็นยังไง เขาใช้บัตรประกันสุขภาพ แต่ได้รับบริการเป็นอีกระดับนึง อย่าว่าอย่างงั้นอย่างนี้เลยบางทีคนมีตังค์ก็โดนหลอกเลี้ยงไข้เอาไว้ก็มี ดังนั้นต้องเร่งทำบุญกันเอาไว้เยอะๆจะได้อยู่ห่างๆโรงพยาบาลเอาไว้ เพราะถ้าเข้าไปทีก็ไม่รู้ว่าจะเจอเหตุการณ์แบบไหน

[hot]

ผมว่าบางทีโทษแพทย์ทั้งหมดก็คงไม่ได้

บางทีระบบอาจมีจุดอ่อน

แต่สักวันเราจะดีขึ้น หวังว่าอย่างนั้น

[moonkiss]

[quote="energizer"]เพิ่งอ่านข่าวจากเว็บผู้จัดการเรื่องหมอทำคลอดห่วยๆหนะครับ

[nearly_vi]

[quote="energizer"]เพิ่งอ่านข่าวจากเว็บผู้จัดการเรื่องหมอทำคลอดห่วยๆหนะครับ

[สุมาอี้]

สมัยก่อนคนเราเวลาคลอดไม่เห็นจำเป็นต้องไปหาหมอเลยครับ

[Accidental Hero]

จริงๆแล้ว ฐานคนไข้คงต่างกันนะครับ

ค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชน เขาตั้งขึ้นมาเพื่อคนที่มีรายได้สูงในระดับหนึ่ง
คนที่มีรายได้น้อย ก็มีทางเลือกที่ลดหลั่นกันไป ในเรื่องความสะดวก

ลองเปรียบเทียบกับการเดินทาง
สมมติรัฐประกาศว่า ประชาชนทุกคนมีสิทธิเดินทางไปเชียงใหม่
เป็นหน้าที่รัฐต้องสนับสนุนให้ทุกคนได้เดินทาง
ทีนี้ การไปเชียงใหม่ ก็มีหลายวิธี
คนที่มีเงินพอ ก็ขึ้นเครื่องบินไป
คนที่มีน้อยหน่อย ก็ขึ้นรถไฟชั้น 1
ถัดๆไป ก็รถทัวร์ 24 ที่นั่ง 32 ที่นั่ง

ทีนี้สำหรับคนหมู่มาก ที่รัฐต้องแบกภาระ ก็ต้องจัดให้ไปโดยรถไฟชั้น 3 บ้าง รถทัวร์แบบยืนบ้าง

สำหรับเรื่องการรักษาพยาบาล
ยามีหลายชนิด กินแล้วหายเหมือนกัน
แพทย์ก็ต้องเลือกใช้ให้สอดคล้องกับงบประมาณ

เป็นมุมมองส่วนตัวครับ
และนี่คือเหตุผลที่ผมซื้อประกันสุขภาพ

[BKP]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

แต่คนรายได้ระดับ7000 บาทต่อเดือน 

ไม่บุญได้รักษา  ด้วยแพทย์ เครื่องมือ การบริการ 
ที่ดีที่สุด

สาหตุหลักประการหนึ่งที่ ทำให้ รพ ยุคฟองสบู่แตก ต้องปิดกิจการ ก็คือการกู้มา ลงทุนในเครื่องมือแพทย์ราคาสูง อย่างเครื่อง MRI ราคาหลายสิบล้าน เนื่องจากคุณหมอที่เป็นเจ้าของ รพ ทั้งหลายในสมัยนั้น อยากมีเครื่องมือทันสมัย แต่ไม่ได้คิดถึงเรื่อง การคืนทุนเลย จะมีคนไข้กี่คนที่สามารถจ่ายค่าใช้เครื่องมือนี้ได้ รพ ต่างจังหวัดบางโรงยังมีเจ้าเครื่องนี้เลย หรือ ขนาด รพ กรุงเทพที่มี ก็แทบจะไม่ได้ใช้ เพราะหาคนไข้ที่จะสามารถจ่ายได้ไม่มากนัก

แต่ปัจจุบันน่าจะดีขึ้นมากแล้วนะ คุณหมอส่วนใหญ่มีความรู้บริหารมากขึ้น หรือ ไม่ก็เอาผู้บริหารมืออาชีพเข้ามาช่วยแล้ว ไอ้เรื่อง over investment น่าจะไม่รุนแรงเท่าในอดีต

[energizer]

[quote="moonkiss"][quote="energizer"]เพิ่งอ่านข่าวจากเว็บผู้จัดการเรื่องหมอทำคลอดห่วยๆหนะครับ

[Boring Stock Lover]

หมอก็เหมือนพระที่คนในสังคมให้การยกย่องบูชา แม้กระทั่งรัฐบาลให้ความช่วยเหลือพิเศษทำให้เป็นอาชีพที่เสียภาษีต่ำกว่าคนทั่วไปอย่างมาก ความคาดหวังก็เลยสูงกว่าปกติ แต่ยังไงก็ยังเป็นคน

แต่เรื่องหมอนะ อย่าคาดหวังว่าระบบการจัดการจะเข้าไปทำให้ดีมาก เพราะหมอมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก พอมี comment หน่อยก็ออก แต่ถ้าเป็นหมอที่ดี หรือ คนดีที่รักงานรักลูกค้า พวกนี้ก็ทำงานดีโดยตัวอยู่แล้ว



อุปกรณ์ราคาเป็น 10 ล้าน ก็สามารถทำให้คนเงินเดือน 7 พันใช้ได้ครับ คิดค่าใช้จ่ายแค่ตรั้งละ 2000 บาท ก็คุ้มค่าเครื่องแล้ว แต่ส่วนใหญ่คิดกันทีเกือบสองหมื่น ก็งงอยู่เหมือนกันว่าทำไมแพงจัง

[moonkiss]

โอ้ย ไม่มีอะไรหรอกครับ เพียงแต่ว่าหมอเราเองก็อึดอัดครับ ภาวการณ์ตอนนี้ภาพพจน์พวกเรามีปัญหา โรคส่วนใหญ่เราไม่รักษาก็หาย หลายโรคเช่นกันที่เรารักษาแล้วหายเร็วขึ้นหรือถ้าเราไม่รักษาก็ตาย และมีอีกส่วนหนึ่งที่ถึงรักษาเต็มที่ก็แย่ เห็นใช่ไหมครับ 1&2 ไม่เป็นไร แต่ถ้า 3 นี่โอกาสที่เกิดความไม่พอใจของคนไข้สูง
พวกเราไม่ปฏิเสธครับว่าหมอห่วยๆมีจริง และเราสนับสนุนเสียอีกที่จะขจัดดัดนิสัยคนกลุ่มนี้ แต่มันไม่แค่นั้น ตอนนี้ทำดีหรือไม่ถ้า outcome แย่ จะโดนโยนว่าหมอห่วยหมด ก็เลยต้องขอเป็นตัวแทนเล่าให้ฟังนิดนึงครับ
ไม่ได้แก้แทนหมอหรือรพ.นะครับ เพราะเรื่องจริงเป็นอย่างไรผมไม่รู้
ส่วนเรื่องที่น้องเล่าน่ะสงสัยหมอได้ผล lab ผิดปกติมากน่ะครับ เลยเกิดอาการของขึ้น ครั้งต่อไปแนะนำว่าถ้าจะไปตรวจงี้อีกนำผลตรวจเดิมไปด้วยให้ครบ หมออาจไม่ส่งใหม่อีก
ถ้าถามว่าเจ็บป่วยทำไงดี จะบอกว่าข้อดีของ globalization มากๆคือติดต่อกันง่าย และในนี้มีหมอเก่งๆหลายคนครับ มาโพสต์ถามความเห็นขอคำแนะนำไว้แป๊บเดียวมีคนตอบแน่นอนครับ ถามพี่ประธานบอร์ดใหม่ก็ได้นะครับ อิอิ
อะไรช่วยได้เราช่วยครับ หลายคนอยู่รพ.ใหญ่ๆ หลายคนอยู่รร.แพทย์ หรือถ้าเราช่วยอะไรตรงๆไม่ได้เราแนะนำไปพบคนที่เก่งด้านนั้นๆ หรือไปถามมาให้ได้ คิดว่าหมอๆ ณ TVI ยินดีรับใช้ครับ
สิทธิบัตรทองเนี่ยถึงไม่ดีมากไม่เลวร้ายอย่างที่คิด เร็วๆนี้ข้าราชการทุกคนที่เคยมีสิทธิต่างๆมากมาย สิทธิก็จะใกล้เคียงบัตรทองเข้าไปทุกวันแล้ว นับเป็นความสำเร็จของรฐบลที่ทำให้คนไทยทุกคนเท่าเทียมกัน  :x  :x  :x

[moonkiss]

หมอก็เหมือนพระที่คนในสังคมให้การยกย่องบูชา แม้กระทั่งรัฐบาลให้ความช่วยเหลือพิเศษทำให้เป็นอาชีพที่เสียภาษีต่ำกว่าคนทั่วไปอย่างมาก ความคาดหวังก็เลยสูงกว่าปกติ แต่ยังไงก็ยังเป็นคน

แต่เรื่องหมอนะ อย่าคาดหวังว่าระบบการจัดการจะเข้าไปทำให้ดีมาก เพราะหมอมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก พอมี comment หน่อยก็ออก แต่ถ้าเป็นหมอที่ดี หรือ คนดีที่รักงานรักลูกค้า พวกนี้ก็ทำงานดีโดยตัวอยู่แล้ว



อุปกรณ์ราคาเป็น 10 ล้าน ก็สามารถทำให้คนเงินเดือน 7 พันใช้ได้ครับ คิดค่าใช้จ่ายแค่ตรั้งละ 2000 บาท ก็คุ้มค่าเครื่องแล้ว แต่ส่วนใหญ่คิดกันทีเกือบสองหมื่น ก็งงอยู่เหมือนกันว่าทำไมแพงจัง

ก็มันเอกชน เค้าหวังกำไร ใครๆก็รู้ไม่ใช่เหรอครับ ลงทุนสิบล้านกับสินค้าเทคโนโลยีมีอายุใช้งานจำกัดเพราะเทคโนโลยีไปเรื่อย ห้าปีสิบปีตกรุ่น
ลองคิดเล่นๆ สิบล้านไม่เสียดอกเอ้า หมื่นกว่าที่เก็บถ้าเดาไม่ผิดคือ MRI or CT scan หักค่าใช้จ่ายค่าหมอทำ ค่าอ่านฟิล์ม ค่าคนงาน ค่าสถานที่ รพ.คงได้ซักห้าพัน ต้องตรวจสองพันคนได้สิบล้าน ตรวจวันละสองคน สามปีได้ทุน อีกสองปีก่อนตกรุ่นถือเป็นกำไร ก็แค่ 7 ล้าน หากคิดลงทุนแบบวีไอกำไรทบต้น 15%/ปี ห้าปีจาก 10 ล้าน มันได้กำไรทบต้นแบบพอดีๆยัง 10+ ล้านนะครับ
แล้วเก็บสองพัน ยังไม่พอค่าอ่านผลของหมอเล้ย
:lol:  :lol:
เอาว่าถ้าจะรักษาเอกชนอย่าคิดมากเรื่องเงินครับ ทำใจไว้ก่อนเลยซื้อความสะดวก
ก็เค้าทำกำไรดีไม่ใช่เหรอคนแถวนี้ถึงชอบอะ อ้อ ส่วนตัวผมไม่ซื้อนะครับหุ้นรพ.เอกชนอะ ไม่ชอบ ไม่อยากได้กำไรจากการนี้ครับ

[Boring Stock Lover]

อยู่ในรามา ครับ ไม่รู้ว่าเอกชนหรือเปล่า

เดี๋ยวนี้บางรพ.ในตะวันตก ตรวจเสร็จ ส่งผลไปให้ที่อินเดีย comment แล้วส่งกลับไปให้หมอเจ้าของไข้

[energizer]

ขอบคุณครับพี่ moonkiss  :D

[moonkiss]

อยู่ในรามา ครับ ไม่รู้ว่าเอกชนหรือเปล่า

เดี๋ยวนี้บางรพ.ในตะวันตก ตรวจเสร็จ ส่งผลไปให้ที่อินเดีย comment แล้วส่งกลับไปให้หมอเจ้าของไข้

ที่รามา ตรวจอะไรราคาสองหมื่นครับ ขอข้อมูล แพงจัง
 :shock:  :shock:
หารสองเปล่าอะครับ CT น่าจะซัก 5-8 พัน MRI ก็คงเพิ่มไม่เกิน 5,000 และแค่นี้คิวก็ยาวจนทำไม่ทันอยู่แล้ว ลองมานัดได้ คิวปกติคงซักเดือนนึง
ราคาที่รร.แพทย์ รพ.ไม่น่ากำไรมากนะครับเพราะจุดหมายของรพ.ไม่ได้หวังกำไร ลองเช็คราคาข้างนอกได้ครับ ค่อนข้างแน่ใจว่าน่าจะถูกกว่าแทบทุกเทสต์

[Boring Stock Lover]

เรียกไม่ถูกครับ สแกนสมองอะไรซักอย่าง หมื่นห้าพันบาท บวกลบพันสองพัน ในนั้นมีศูนย์ที่ชื่อเม็ดๆอะไรซักอย่าง อยู่หลัง scb ใต้ตึกจอดรถ สถานที่ดูดีมีระดับ ออกแบบสวยไม่เหมือนของรัฐ ผมเป็นแค่ messenger มีหน้าที่ไปรับฟิล์ม เลยไมรู้รายละเอียดทั้งหมด

คุยเล่นๆกับเจ้าหน้าที่เห็นบอกคนไข้มาก มีทุกวัน จองคิวอย่างน้อยสองอาทิตย์ถึงเป็นเดือน

แต่คงอย่างที่คุณหมอว่า นี่คงถูกกว่าข้างนอก

การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ดีกว่าได้กำไรจากหุ้น