centel ต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
- MANEKI
- Verified User
- โพสต์: 1005
- ผู้ติดตาม: 0
centel ต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
โพสต์ที่ 33
เข้ามาบอกว่า เราบอกเพื่อนว่า CENTELโดนทุบหลุด 5บาท
จ๋อยเลยอ่ะ
เพื่อนมันบอกว่า THLที่มันเล่น โดนทุบมากกว่าอีก
เคยเห็นไหม หุ้นโหดวันเดียวลง 20%จริงๆ CENTELก็ลงมา
20%นะ แต่ค่อยๆลง ทุบมาหลายเดือนแล้ว ถ้าทุบวันเดียว
เราก็ตายแน่ๆเลย คิดว่าต่ำแล้วก็ยังมีต่ำกว่าอีก
จ๋อยเลยอ่ะ
เพื่อนมันบอกว่า THLที่มันเล่น โดนทุบมากกว่าอีก
เคยเห็นไหม หุ้นโหดวันเดียวลง 20%จริงๆ CENTELก็ลงมา
20%นะ แต่ค่อยๆลง ทุบมาหลายเดือนแล้ว ถ้าทุบวันเดียว
เราก็ตายแน่ๆเลย คิดว่าต่ำแล้วก็ยังมีต่ำกว่าอีก
- โอ@
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4244
- ผู้ติดตาม: 0
centel ต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
โพสต์ที่ 36
ถ้าคิดว่าข่าวร้ายยังไม่หมดก็ยังไม่น่าซื้อหนิครับcharnengi เขียน:ผมก็เพิ่งเข้าตัวนี้เหมือนกัน ลงมาแค่นี้ไม่เห็นต้องซีเรียสเลยนี่ครับ ถ้ามั่นใจในพื้นฐานแล้ว ว่าแต่รอดูกำไรไตรมาสนี้กันก่อน เพราะไตรมาสต่อไป ข่าวร้ายน่าจะเริ่มทยอยออกมาเรื่อยๆ
_________
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
centel ต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
โพสต์ที่ 40
นั่นไง ผมเลยถือบ้าง เพราะ มองๆ ตั้งแต่ 6 บาท แล้ว แต่ไม่กล้าซื้อตอนนั้นMANEKI เขียน:คนถือ 6บาท ยังกล้าถือ
แล้วคนที่ซื้อ 5บาท ก็น่าจะถือไหวนะ
ซื้อน้อยๆ ก็พอ ยังเสี่ยงอยู่ แต่ถ้าถือยาวได้ ก็คงไม่น่ากลัว
อย่างน้อยก็ มีหุ้นเท่ากัน ใน ราคาต่ำกว่า
พวกที่ขายตอนนี้ ก็คงขาดทุนกันทั้งนั้น :lol:
ตอนนี้ก็ลุ้น ราคา PO ครับ
คงไม่มีใคร หาเงินมากมาย ไว้ยัดใส่โลงศพตัวเอง
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
-
- Verified User
- โพสต์: 3763
- ผู้ติดตาม: 0
centel ต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
โพสต์ที่ 42
ต่อในเรื่องนี้ ที่พี่ Naris คิดว่าเป็นปีหน้านี่เพราะว่าปีนี้จะโดนพวกค่าเสื่อมจากโรงแรมที่สร้างใหม่ใช่หรือไม่ครับ แต่จะว่าไปพี่คิดว่าแค่ปีเดียวนี่จะทำให้ Utilization rate ของพวกโรงแรมที่พึ่งสร้างสามารถทำให้ Break Even ได้แล้วหรือครับnaris เขียน: ผมว่าน่าจะอีกซักปีครับ ผลประกอบการถึงน่าจะเริ่มฟื้น ปีนี้ทั้งปีน่าห่วงครับ
Impossible is Nothing
- MANEKI
- Verified User
- โพสต์: 1005
- ผู้ติดตาม: 0
centel ต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
โพสต์ที่ 43
อาจจะซื้อเดือนละครั้งก็ได้ ไม่ต้องทุ่มสุดตัว
ทยอยเก็บ เอาแบบลงทุนทำธุรกิจเลยแฮะ :lol:
แต่ปีนี้หุ้นหลายตัว ผลประกอบการคงไม่ดีแน่
ไปตามสภาวะเศรษฐกิจ บางครั้งถ้ามีโอกาสปรับพอร์ตก็ต้องทำ
เผื่อ SETจะปรับตัวลงทุกปี ตอนนั้น อาจได้ของถูกเพียบเลย
ทยอยเก็บ เอาแบบลงทุนทำธุรกิจเลยแฮะ :lol:
แต่ปีนี้หุ้นหลายตัว ผลประกอบการคงไม่ดีแน่
ไปตามสภาวะเศรษฐกิจ บางครั้งถ้ามีโอกาสปรับพอร์ตก็ต้องทำ
เผื่อ SETจะปรับตัวลงทุกปี ตอนนั้น อาจได้ของถูกเพียบเลย
- hardchi
- Verified User
- โพสต์: 346
- ผู้ติดตาม: 0
centel ต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
โพสต์ที่ 44
ราคา PO ก็น่ารอดูเหมือนกันครับ แต่ผมว่า ราคาที่ลงมาก็มองกันได้หลายทางครับ คือ
- เจ้าของหรือคนใน อาจขายออกมาตั้งแต่ 6บาทเพื่อรอซื้อ PO ที่ราคาต่ำลงมา จึงกดราคาให้ PO ต่ำๆ
- PO ที่ราคาสูงเกินกระดานก็คงยากที่จะมีคนยอมซื้อนอกจากว่าหุ้นจะขาดสภาพคล่องมากๆ จนซื้อในกระดานไม่ได้
ดูจากการฟแล้วถ้าหลุด 5บาท แถวๆ 4.5 นะครับ
อีกอย่างรอดูงบด้วยครับ อาจจะไม่ดีก็ได้ถึงลงมาขนาดนี้
- เจ้าของหรือคนใน อาจขายออกมาตั้งแต่ 6บาทเพื่อรอซื้อ PO ที่ราคาต่ำลงมา จึงกดราคาให้ PO ต่ำๆ
- PO ที่ราคาสูงเกินกระดานก็คงยากที่จะมีคนยอมซื้อนอกจากว่าหุ้นจะขาดสภาพคล่องมากๆ จนซื้อในกระดานไม่ได้
ดูจากการฟแล้วถ้าหลุด 5บาท แถวๆ 4.5 นะครับ
อีกอย่างรอดูงบด้วยครับ อาจจะไม่ดีก็ได้ถึงลงมาขนาดนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 174
- ผู้ติดตาม: 0
centel ต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
โพสต์ที่ 45
source kimeng
By พงศ์พันธ์ อภิญญากุล , สุวัฒน์ ลิ้มไกรลาศศิริ
11 May 8:46AM : CENTEL <5.00 บาท : ซื้อ> 3 โรงแรมใหม่ช่วยพลักดันกำไรไตรมาส 1/50 เติบโต 35%
บมจ. โรงแรมเซ็นทรัล พลาซ่า CENTEL <5.00 บาท>
คำแนะนำ
ใหม่ : ซื้อ
ก่อนหน้านี้ : ซื้อลงทุน
เป้าหมาย : 7.00 บาท
3 โรงแรมใหม่ช่วยพลักดันกำไรไตรมาส 1/50 เติบโต 35%
อัตราการเข้าพักยังคงสูงในไตรมาส 1/50
ภายหลังการพบผู้บริหารของ บมจ. โรงแรม เซ็นทรัล พลาซ่า (CENTEL) เราได้เห็นมุมมองที่ดีขึ้นกับความสามารถในการรักษาอัตราการเติบโตของบริษัท อัตราการเข้าพัก 1 ใน 3 ของโรงแรมใหม่ได้สูงขึ้นเป็น 82% ระหว่างไตรมาส 1/50 เนื่องจากการเปิดโรงแรมใหม่ 3 แห่งในไตรมาส 4/49 ซึ่งประกอบด้วย เซ็นทรัล กระบี่ เบย์ รีสอร์ท, เซ็นทรัล กระรน บีช รีสอร์ท และ เซ็นทรัล กระตะ รีสอร์ท ทำให้อัตราการเข้าพักของโรงแรมทั้งหมดเฉลี่ยอยู่ที่ 75% ในไตรมาส 1/50 ขณะที่อัตราค่าเข้าพักเฉลี่ยสูงขึ้น 11.4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เป็น 3,849 บาท/คืน
คาดว่าธุรกิจอาหารได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดเมื่อต้นปี
เราคาดว่าธุรกิจอาหารของ CENTEL จะอ่อนตัวลงในช่วงไตรมาส 1/50 เนื่องจากเหตุการณ์วางระเบิดในกรุงเทพเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ผู้บริหารคาดว่าการลดลงของการใช้จ่ายและความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะยังมีอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 2/50 จำนวนร้านอาหารทั้งหมดกำลังเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง โดยมีร้านอาหารรวม ณ สิ้นไตรมาส 1/50 อยู่ที่ 465 ร้าน และคาดว่าสิ้นปี 2550 จะเพิ่มขึ้นเพียง 12 ร้านเท่านั้น รวมทั้งสิ้น 477 ร้าน
โรงแรม เซ็นทรัลเวิล์ด จะเสร็จสมบูรณ์กลางปี 2551
ปัจจุบัน โรงแรม เซ็นทรัลเวิล์ด จะเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนเมษายน 2551 จากการเปิดทำการในปีแรก เราคาดว่าอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 40% และอัตราค่าเข้าพักเฉลี่ยที่ 4,500 บาท/คืน โดยโรงแรม เซ็นทรัลเวิล์ด จะประกอบด้วยห้องประชุมขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงเทพ ขนาด 16,000 ตร.ม. ซึ่งจะเปิดใช้ในเดือนกรกฎาคม 2550
ราคาหุ้นตกต่ำสุดในรอบ 13 เดือน ที่ 5.00 บาท/หุ้น เป็นโอกาสให้เข้าซื้อ
เนื่องจากราคาหุ้นตกต่ำสุดในรอบ 13 เดือน เราจึงเชื่อว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อหุ้น CENTEL ซึ่งมี PER ปี 2550ซื้อขายที่ 14.1 เท่า EV/EBITDA ที่ 7.0 เท่า และ P/BV ที่ 1.6 เท่า เราให้ราคาที่เหมาะสมอยู่ที่ 7 บาท โดยใช้วิธีการคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ซึ่งมี upside 40% ดังนั้นเราปรับเพิ่มคำแนะนำจาก ซื้อลงทุน เป็น ซื้อ สำหรับหุ้น CENTEL
โรงแรมใหม่ 3 แห่ง จะช่วยผลักดันรายได้ไตรมาส 1/50
โดยธรรมชาติ โรงแรมใหม่ส่วนใหญ่จะใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี ก่อนที่อัตราการเข้าพักจะอยู่ตัว อย่างไรก็ตาม อัตราการเข้าพักในโรงแรมใหม่ 3 แห่ง รวมถึง Central Krabi Bay Resort, Central Karon Beach Resort และ Central Kata Resort ซึ่งได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน พฤศจิกายน 2549 ที่ผ่านมา มีอัตราการเข้าพักอยู่เฉลี่ยสูงถึง 82% ในทั้งสามโรงแรม อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่มีอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งผลกระทบเล็กน้อยในโรงแรมอื่นที่มีอยู่ ซึ่งส่งผลให้อัตราการเข้าพักโดยรวมลดลงเล็กน้อย จาก 78% เป็น 75% จากสมมติฐานที่คิดจากการเติบโตของอัตราห้องพัก เติบโต 11.4% จากปีก่อน เป็น 3,849 บาท/คืน เราคาดว่า รายได้จากโรงแรมในไตรมาส 1 จะสูงขึ้น 28% จากปีก่อน เป็น 510 ล้านบาท
ในแง่ของอัตรากำไรขั้นต้น ทางบริษัทได้ทำการปรับปรุงห้องพักในโรงแรมอื่นๆซึ่งส่งผลให้อัตราห้องพักมีการปรับสูงขึ้น 11.4 % จากปีก่อน และทำให้อัตรากำไรขั้นต้นไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เราจึงคาดว่า อัตรากำไรขั้นต้นในธุรกิจโรงแรม จะสูงขึ้นจาก 86.3% ในไตรมาส 1/49 เป็น 88.0% ในไตรมาส 1/50
.
เหตุการณ์ระเบิดเมื่อเดือนมกราคมส่งผลให้ความต้องการในธุรกิจอาหารลดลงในไตรมาส1/50
ถึงแม้จะมีการขยายสาขาร้านอาหารอย่างต่อเนื่อง เราคาดว่า รายได้จากธุรกิจอาหาร จะไม่มีการเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจาก เหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯ โดยความต้องการสำหรับอาหารจานด่วน ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ทางผู้บริหารคาดว่า ความซบเซาจะยังคงมีต่อในไตรมาส 2/50 ในขณะเดียวกัน การอ่อนตัวในความมั่นใจของผู้บริโภคและการใช้จ่ายภายหลังจากนโยบายเศรษฐกิจพอเพียง ส่งผลให้ CENTEL จะปรับลดการขยายสาขาร้านอาหารลง ทางบริษัทได้เพิ่มร้านอาหารจำนวน 17 สาขา ในไตรมาส 1/50 เป็นทั้งหมด465 สาขา และได้ตั้งเป้าของทั้งปี2550 ไว้เพียง 477 สาขา ในส่วนของรายได้ เราคาดว่า การอ่อนตัวในความต้องการของผู้บริโภคได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ในธุรกิจอาหาร ในไตรมาส 1/50 ในขณะที่ Kentucky Fried Chicken (KFC) ซึ่งมีรายได้คิดเป็น 43% ของรายได้จากธุรกิจอาหารของ CENTEL มีรายได้ลดลง 5% จากปีก่อนเป็น 519 ล้านบาท เราจึงคาดว่า รายได้จากอาหารในไตรมาส 1/50 จะลดลง 3% จากไตรมาสก่อน และ 2% จากปีก่อน เป็น 1,209 ล้านบาท
ในแง่ของงบดุล ทางผู้บริหารคาดว่าจะมีการใช้เงินทุนจากวงเงินกู้ยืมเดิมในการลงทุนสร้างโรงแรมใหม่อีก 3 แห่ง คือ Central World Hotel (2551), Central Mirage (2552) ในพัทยา และ Central Phuket Beach Resort (2552) ซึ่งยอดการลงทุนในปีนี้ คาดว่าจะอยู่ประมาณ 4พันล้านบาท ในขณะที่ทางผู้บริหารจะมีการออกหุ้นกู้จำนวนทั้งสิ้น 2.2 พันล้านบาท โดยจะแบ่งออกเป็น1.2พันล้านบาท ที่จะออกมาในปลายเดือนพฤษภาคมนี้ และในส่วนที่สองจำนวน 1พันล้านบาท จะออกมาภายในปลายปีนี้ จากการลงทุนที่ค่อนข้างสูง เราจึงคาดว่า อัตราหนี้สินต่อทุน จะเพิ่มขึ้นจาก 0.5 เท่า ในปี2549 เป็น 1.0 เท่าภายในสิ้นปีนี้
By พงศ์พันธ์ อภิญญากุล , สุวัฒน์ ลิ้มไกรลาศศิริ
11 May 8:46AM : CENTEL <5.00 บาท : ซื้อ> 3 โรงแรมใหม่ช่วยพลักดันกำไรไตรมาส 1/50 เติบโต 35%
บมจ. โรงแรมเซ็นทรัล พลาซ่า CENTEL <5.00 บาท>
คำแนะนำ
ใหม่ : ซื้อ
ก่อนหน้านี้ : ซื้อลงทุน
เป้าหมาย : 7.00 บาท
3 โรงแรมใหม่ช่วยพลักดันกำไรไตรมาส 1/50 เติบโต 35%
อัตราการเข้าพักยังคงสูงในไตรมาส 1/50
ภายหลังการพบผู้บริหารของ บมจ. โรงแรม เซ็นทรัล พลาซ่า (CENTEL) เราได้เห็นมุมมองที่ดีขึ้นกับความสามารถในการรักษาอัตราการเติบโตของบริษัท อัตราการเข้าพัก 1 ใน 3 ของโรงแรมใหม่ได้สูงขึ้นเป็น 82% ระหว่างไตรมาส 1/50 เนื่องจากการเปิดโรงแรมใหม่ 3 แห่งในไตรมาส 4/49 ซึ่งประกอบด้วย เซ็นทรัล กระบี่ เบย์ รีสอร์ท, เซ็นทรัล กระรน บีช รีสอร์ท และ เซ็นทรัล กระตะ รีสอร์ท ทำให้อัตราการเข้าพักของโรงแรมทั้งหมดเฉลี่ยอยู่ที่ 75% ในไตรมาส 1/50 ขณะที่อัตราค่าเข้าพักเฉลี่ยสูงขึ้น 11.4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เป็น 3,849 บาท/คืน
คาดว่าธุรกิจอาหารได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดเมื่อต้นปี
เราคาดว่าธุรกิจอาหารของ CENTEL จะอ่อนตัวลงในช่วงไตรมาส 1/50 เนื่องจากเหตุการณ์วางระเบิดในกรุงเทพเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ผู้บริหารคาดว่าการลดลงของการใช้จ่ายและความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะยังมีอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 2/50 จำนวนร้านอาหารทั้งหมดกำลังเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง โดยมีร้านอาหารรวม ณ สิ้นไตรมาส 1/50 อยู่ที่ 465 ร้าน และคาดว่าสิ้นปี 2550 จะเพิ่มขึ้นเพียง 12 ร้านเท่านั้น รวมทั้งสิ้น 477 ร้าน
โรงแรม เซ็นทรัลเวิล์ด จะเสร็จสมบูรณ์กลางปี 2551
ปัจจุบัน โรงแรม เซ็นทรัลเวิล์ด จะเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนเมษายน 2551 จากการเปิดทำการในปีแรก เราคาดว่าอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 40% และอัตราค่าเข้าพักเฉลี่ยที่ 4,500 บาท/คืน โดยโรงแรม เซ็นทรัลเวิล์ด จะประกอบด้วยห้องประชุมขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงเทพ ขนาด 16,000 ตร.ม. ซึ่งจะเปิดใช้ในเดือนกรกฎาคม 2550
ราคาหุ้นตกต่ำสุดในรอบ 13 เดือน ที่ 5.00 บาท/หุ้น เป็นโอกาสให้เข้าซื้อ
เนื่องจากราคาหุ้นตกต่ำสุดในรอบ 13 เดือน เราจึงเชื่อว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อหุ้น CENTEL ซึ่งมี PER ปี 2550ซื้อขายที่ 14.1 เท่า EV/EBITDA ที่ 7.0 เท่า และ P/BV ที่ 1.6 เท่า เราให้ราคาที่เหมาะสมอยู่ที่ 7 บาท โดยใช้วิธีการคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ซึ่งมี upside 40% ดังนั้นเราปรับเพิ่มคำแนะนำจาก ซื้อลงทุน เป็น ซื้อ สำหรับหุ้น CENTEL
โรงแรมใหม่ 3 แห่ง จะช่วยผลักดันรายได้ไตรมาส 1/50
โดยธรรมชาติ โรงแรมใหม่ส่วนใหญ่จะใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี ก่อนที่อัตราการเข้าพักจะอยู่ตัว อย่างไรก็ตาม อัตราการเข้าพักในโรงแรมใหม่ 3 แห่ง รวมถึง Central Krabi Bay Resort, Central Karon Beach Resort และ Central Kata Resort ซึ่งได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน พฤศจิกายน 2549 ที่ผ่านมา มีอัตราการเข้าพักอยู่เฉลี่ยสูงถึง 82% ในทั้งสามโรงแรม อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่มีอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งผลกระทบเล็กน้อยในโรงแรมอื่นที่มีอยู่ ซึ่งส่งผลให้อัตราการเข้าพักโดยรวมลดลงเล็กน้อย จาก 78% เป็น 75% จากสมมติฐานที่คิดจากการเติบโตของอัตราห้องพัก เติบโต 11.4% จากปีก่อน เป็น 3,849 บาท/คืน เราคาดว่า รายได้จากโรงแรมในไตรมาส 1 จะสูงขึ้น 28% จากปีก่อน เป็น 510 ล้านบาท
ในแง่ของอัตรากำไรขั้นต้น ทางบริษัทได้ทำการปรับปรุงห้องพักในโรงแรมอื่นๆซึ่งส่งผลให้อัตราห้องพักมีการปรับสูงขึ้น 11.4 % จากปีก่อน และทำให้อัตรากำไรขั้นต้นไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เราจึงคาดว่า อัตรากำไรขั้นต้นในธุรกิจโรงแรม จะสูงขึ้นจาก 86.3% ในไตรมาส 1/49 เป็น 88.0% ในไตรมาส 1/50
.
เหตุการณ์ระเบิดเมื่อเดือนมกราคมส่งผลให้ความต้องการในธุรกิจอาหารลดลงในไตรมาส1/50
ถึงแม้จะมีการขยายสาขาร้านอาหารอย่างต่อเนื่อง เราคาดว่า รายได้จากธุรกิจอาหาร จะไม่มีการเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจาก เหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯ โดยความต้องการสำหรับอาหารจานด่วน ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ทางผู้บริหารคาดว่า ความซบเซาจะยังคงมีต่อในไตรมาส 2/50 ในขณะเดียวกัน การอ่อนตัวในความมั่นใจของผู้บริโภคและการใช้จ่ายภายหลังจากนโยบายเศรษฐกิจพอเพียง ส่งผลให้ CENTEL จะปรับลดการขยายสาขาร้านอาหารลง ทางบริษัทได้เพิ่มร้านอาหารจำนวน 17 สาขา ในไตรมาส 1/50 เป็นทั้งหมด465 สาขา และได้ตั้งเป้าของทั้งปี2550 ไว้เพียง 477 สาขา ในส่วนของรายได้ เราคาดว่า การอ่อนตัวในความต้องการของผู้บริโภคได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ในธุรกิจอาหาร ในไตรมาส 1/50 ในขณะที่ Kentucky Fried Chicken (KFC) ซึ่งมีรายได้คิดเป็น 43% ของรายได้จากธุรกิจอาหารของ CENTEL มีรายได้ลดลง 5% จากปีก่อนเป็น 519 ล้านบาท เราจึงคาดว่า รายได้จากอาหารในไตรมาส 1/50 จะลดลง 3% จากไตรมาสก่อน และ 2% จากปีก่อน เป็น 1,209 ล้านบาท
ในแง่ของงบดุล ทางผู้บริหารคาดว่าจะมีการใช้เงินทุนจากวงเงินกู้ยืมเดิมในการลงทุนสร้างโรงแรมใหม่อีก 3 แห่ง คือ Central World Hotel (2551), Central Mirage (2552) ในพัทยา และ Central Phuket Beach Resort (2552) ซึ่งยอดการลงทุนในปีนี้ คาดว่าจะอยู่ประมาณ 4พันล้านบาท ในขณะที่ทางผู้บริหารจะมีการออกหุ้นกู้จำนวนทั้งสิ้น 2.2 พันล้านบาท โดยจะแบ่งออกเป็น1.2พันล้านบาท ที่จะออกมาในปลายเดือนพฤษภาคมนี้ และในส่วนที่สองจำนวน 1พันล้านบาท จะออกมาภายในปลายปีนี้ จากการลงทุนที่ค่อนข้างสูง เราจึงคาดว่า อัตราหนี้สินต่อทุน จะเพิ่มขึ้นจาก 0.5 เท่า ในปี2549 เป็น 1.0 เท่าภายในสิ้นปีนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
centel ต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
โพสต์ที่ 47
อ่าน broker เขียน
ก็ต้องพิจารณาด้วย
เห็นมันเชียร์ ตั้งแต่ 6 บาท
ว่า ซื้อๆๆ
ตัวคนเขียน ซื้อเปล่าก็ไม่รู้
ก็ต้องพิจารณาด้วย
เห็นมันเชียร์ ตั้งแต่ 6 บาท
ว่า ซื้อๆๆ
ตัวคนเขียน ซื้อเปล่าก็ไม่รู้
คงไม่มีใคร หาเงินมากมาย ไว้ยัดใส่โลงศพตัวเอง
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
- atsu
- Verified User
- โพสต์: 1218
- ผู้ติดตาม: 0
centel ต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
โพสต์ที่ 50
นี่เป็นหุ้นตัวแรกที่ผมได้กำไร 1 เด้งนะเนี่ย
ตั้งแต่ขายไปเพราะโครงสร้างกำไรเปลี่ยนไปจากเหตุผลตอนที่ซื้อ
ก็ไม่ค่อยได้สนใจราคาอีกเลย
เห็นเค้าว่า ของถูกๆๆๆ กันเลยลองเทียบกับราคาที่ผมขายไป 34 บาท
แตกพาร์ได้ = 34/5 =6.8 บาท
เพิ่มทุน 2:1 ที่ 1.6 บาทได้ = [(6.8*2)+1.6]/3 = 5.07 บาท
แปลว่าตอนผมขายไปนี่ ถูกสุดๆจริงๆ
ตั้งแต่ขายไปเพราะโครงสร้างกำไรเปลี่ยนไปจากเหตุผลตอนที่ซื้อ
ก็ไม่ค่อยได้สนใจราคาอีกเลย
เห็นเค้าว่า ของถูกๆๆๆ กันเลยลองเทียบกับราคาที่ผมขายไป 34 บาท
แตกพาร์ได้ = 34/5 =6.8 บาท
เพิ่มทุน 2:1 ที่ 1.6 บาทได้ = [(6.8*2)+1.6]/3 = 5.07 บาท
แปลว่าตอนผมขายไปนี่ ถูกสุดๆจริงๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
centel ต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
โพสต์ที่ 51
:D :D :D :D
กำไร แล้วครับ รู้งี้
เก็บเยอะกว่านี้ ก็ดี
ถ้าท่าทาง ไม่ดี จะขายลดความเสี่ยงบางส่วนครับ
เอากำไร มาลดต้นทุนเฉลี่ย ลงมา
ให้รู้สึก ปลอดถัยมากขึ้น
กำไร แล้วครับ รู้งี้
เก็บเยอะกว่านี้ ก็ดี
ถ้าท่าทาง ไม่ดี จะขายลดความเสี่ยงบางส่วนครับ
เอากำไร มาลดต้นทุนเฉลี่ย ลงมา
ให้รู้สึก ปลอดถัยมากขึ้น
คงไม่มีใคร หาเงินมากมาย ไว้ยัดใส่โลงศพตัวเอง
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
- MANEKI
- Verified User
- โพสต์: 1005
- ผู้ติดตาม: 0
centel ต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
โพสต์ที่ 52
อย่าหลอกให้ดีใจ แล้วตีจากนะ ดูสิ เช้าแตะ 5.3
ไปๆ มาๆ เหลือ 5.15 เราเลยขายไปเลย เพราะคิดว่า เดี๋ยวมันก็ลง
ขายไปบางส่วน ถ้าขึ้นก็ไม่เป็นไร ขายเอาเคล็ด พอร์ตจะได้เขียว
เราว่า จุดต่ำสุด 4.96 4.98 แน่ๆเลย ต่ำกว่านี้คงไม่มีแล้วนะ
วันศุกร์มีลุ้นขึ้นต่อ เดี๋ยวจะเก็บไว้ลุ้นต่อ แต่ถ้าลงก้เอากำไรมาซื้อเพิ่ม
ไปๆ มาๆ เหลือ 5.15 เราเลยขายไปเลย เพราะคิดว่า เดี๋ยวมันก็ลง
ขายไปบางส่วน ถ้าขึ้นก็ไม่เป็นไร ขายเอาเคล็ด พอร์ตจะได้เขียว
เราว่า จุดต่ำสุด 4.96 4.98 แน่ๆเลย ต่ำกว่านี้คงไม่มีแล้วนะ
วันศุกร์มีลุ้นขึ้นต่อ เดี๋ยวจะเก็บไว้ลุ้นต่อ แต่ถ้าลงก้เอากำไรมาซื้อเพิ่ม
-
- Verified User
- โพสต์: 1647
- ผู้ติดตาม: 0
centel ต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
โพสต์ที่ 53
มีคนเชียร์ขายนะครับ CNS ไงครับ
ปัจจัยเสี่ยง
การต่อสัญญาที่ลาดพร้าวซึ่งทำรายได้มากที่สุดเสียด้วย
ตลาดอาหารปีนี้ไม่เฟื่องครับ ผมว่า KFC กับลูกค้าระดับ C+ น่าจะกระทบสุด
โรงแรมใหม่ที่ภูเก็ต อันนี้ผมมองบวกนะ .....
อันที่1น่าจะกระทบสุดครับ ถ้าไม่ต่อก็เสร็จ ถ้าต่อจะแพงแค่ไหน
ปัจจัยเสี่ยง
การต่อสัญญาที่ลาดพร้าวซึ่งทำรายได้มากที่สุดเสียด้วย
ตลาดอาหารปีนี้ไม่เฟื่องครับ ผมว่า KFC กับลูกค้าระดับ C+ น่าจะกระทบสุด
โรงแรมใหม่ที่ภูเก็ต อันนี้ผมมองบวกนะ .....
อันที่1น่าจะกระทบสุดครับ ถ้าไม่ต่อก็เสร็จ ถ้าต่อจะแพงแค่ไหน
-
- Verified User
- โพสต์: 1822
- ผู้ติดตาม: 0
centel ต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
โพสต์ที่ 54
ราคาคงจะโหดพอๆกับที่ mbk โดนนะครับคนเรือ VI เขียน:มีคนเชียร์ขายนะครับ CNS ไงครับ
ปัจจัยเสี่ยง
การต่อสัญญาที่ลาดพร้าวซึ่งทำรายได้มากที่สุดเสียด้วย
ตลาดอาหารปีนี้ไม่เฟื่องครับ ผมว่า KFC กับลูกค้าระดับ C+ น่าจะกระทบสุด
โรงแรมใหม่ที่ภูเก็ต อันนี้ผมมองบวกนะ .....
อันที่1น่าจะกระทบสุดครับ ถ้าไม่ต่อก็เสร็จ ถ้าต่อจะแพงแค่ไหน
- MANEKI
- Verified User
- โพสต์: 1005
- ผู้ติดตาม: 0
centel ต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
โพสต์ที่ 55
ปีนี้เป็นปีที่คนทำธุรกิจ แย่ที่สุดก็ว่าได้ ไหนจะเรื่องภาษี
แล้วเรื่องค่าเช่าพื้นที่ ขายหวยใต้ดินดีกว่า
เพื่อนที่ทำธุรกิจห้องเช่า ก็บ่นว่าภาษีแพงมาก
คงต้องรอปีหน้า ดูว่ารัฐบาลใหม่ จะเป็นยัวไง
ยอมรับว่า เป็นปีแรก ที่ไม่ถือหุ้นยาว ทุกครั้งจะถือเก็บ
แต่ปีนี้ ทำใจเก็บไม่ลงจริงๆ ปัญหารอบด้านเยอะมากๆ โดยเฉพาะการเมือง
กำไรก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ยังมาเจอเรื่องค่าเช่าอีก
แล้วเรื่องค่าเช่าพื้นที่ ขายหวยใต้ดินดีกว่า
เพื่อนที่ทำธุรกิจห้องเช่า ก็บ่นว่าภาษีแพงมาก
คงต้องรอปีหน้า ดูว่ารัฐบาลใหม่ จะเป็นยัวไง
ยอมรับว่า เป็นปีแรก ที่ไม่ถือหุ้นยาว ทุกครั้งจะถือเก็บ
แต่ปีนี้ ทำใจเก็บไม่ลงจริงๆ ปัญหารอบด้านเยอะมากๆ โดยเฉพาะการเมือง
กำไรก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ยังมาเจอเรื่องค่าเช่าอีก
-
- Verified User
- โพสต์: 1643
- ผู้ติดตาม: 0
centel ต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
โพสต์ที่ 56
มาแล้วครับ 8)
การดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่1(F45-3)
บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน)
สอบทาน
(หน่วย : พันบาท)
สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม
งบการเงินรวม
ไตรมาสที่ 1
ปี 2550 2549
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 207,112 151,520
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.15 0.17
งบการเงินเฉพาะกิจการ
ไตรมาสที่ 1
ปี 2550 2549
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 162,109 74,754
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.12 0.08
หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์
"ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ"
ลงลายมือชื่อ _______________________
( นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ )
ตำแหน่ง รองประะธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร
ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ
การดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่1(F45-3)
บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน)
สอบทาน
(หน่วย : พันบาท)
สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม
งบการเงินรวม
ไตรมาสที่ 1
ปี 2550 2549
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 207,112 151,520
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.15 0.17
งบการเงินเฉพาะกิจการ
ไตรมาสที่ 1
ปี 2550 2549
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 162,109 74,754
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.12 0.08
หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์
"ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ"
ลงลายมือชื่อ _______________________
( นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ )
ตำแหน่ง รองประะธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร
ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
centel ต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
โพสต์ที่ 57
นั่นดิครับ ผมคิดไว้ปีหนึ่ง แต่ทำไมไม่ถึงปีถึงbreak even ได้แล้วหล่ะ หรือเป็นเพราะเครือข่ายโรงแรมของcentelเขาแข็งจริง ถ้าเป็นอย่างนี้ราคาแถวๆนี้ก็น่าสนใจนะครับ ราคาตอนนี้เมื่อเทียบกับตอนก่อนเพิ่มทุนถือว่ายังไม่ไปไหนเลยนะครับwoody เขียน: ต่อในเรื่องนี้ ที่พี่ Naris คิดว่าเป็นปีหน้านี่เพราะว่าปีนี้จะโดนพวกค่าเสื่อมจากโรงแรมที่สร้างใหม่ใช่หรือไม่ครับ แต่จะว่าไปพี่คิดว่าแค่ปีเดียวนี่จะทำให้ Utilization rate ของพวกโรงแรมที่พึ่งสร้างสามารถทำให้ Break Even ได้แล้วหรือครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
- MANEKI
- Verified User
- โพสต์: 1005
- ผู้ติดตาม: 0
centel ต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
โพสต์ที่ 58
ยังยืนยันที่จะทยอยเก็บต่อแบบช้าๆ วันนี้เห็น 5.35เลย ไม่สน
สักพักลงมาเหลือ 5.25 ราคาที่เราเคยเล็งตอนขาลง
5 บาท อาจจะไม่มีแล้วละ ก็ยังดีกว่า ไปซื้อ MINT
ระดับราคาต่างกัน ความเสี่ยงก็ย่อมต่างกัน
ซื้อลงทุน ราคาต่ำๆนี่แหละดี แล้วเรื่องPOก็ไม่รู้จะเป็นยังไง
สักพักลงมาเหลือ 5.25 ราคาที่เราเคยเล็งตอนขาลง
5 บาท อาจจะไม่มีแล้วละ ก็ยังดีกว่า ไปซื้อ MINT
ระดับราคาต่างกัน ความเสี่ยงก็ย่อมต่างกัน
ซื้อลงทุน ราคาต่ำๆนี่แหละดี แล้วเรื่องPOก็ไม่รู้จะเป็นยังไง
- ake3004
- Verified User
- โพสต์: 502
- ผู้ติดตาม: 0
centel ต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
โพสต์ที่ 59
for long term view, it should be nice kab.As Thai strength is service-based.
I have chance to know many japaneses who stay in Thai, Singapore,Malaysia.....They all love Thai the most kab as cheap,high quality and naturally good service kab.
Japanese is biggest investor in Thai na kab
I have chance to know many japaneses who stay in Thai, Singapore,Malaysia.....They all love Thai the most kab as cheap,high quality and naturally good service kab.
Japanese is biggest investor in Thai na kab
One up on SET
-
- Verified User
- โพสต์: 174
- ผู้ติดตาม: 0
centel ต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
โพสต์ที่ 60
วันนี้คุณ MANEKI คงนอนหลับฝันดี เพราะ centel วันนี้โดดขึ้นเยอะ
เหนือสิ่งอื่นใดผมอยากให้ลองมองภาพยาวๆหน่อยเกี่ยวกับธุรกิจที่เราลงทุน หากดูเพียงการขึ้นลงระยะสั้นๆจะไม่เป็นสุข
ในเรื่องของการเพิ่มทุน หรือจะก่อหนี้ก็แล้วแต่ ผมยังมีความเชื่อมั่นในธุรกิจนี้รวมถึงผู้บริหารด้วยว่าเค้าก็มีความเก่งอยู่พอควร การลงทุนสร้างโรงแรมเพิ่มเติมผมก็มองง่ายๆว่ามันเป็นการขยายฐานรายได้จากสินค้าที่มีอยู่เดิม ในที่นี้ก็คือธุรกิจโรงแรมที่เค้ามีความถนัด หากการลงทุนดังกล่าวโยกย้ายไปลงทุนธุรกิจอื่น อันนั้นผมมองว่าเสี่ยงกว่า
ธุรกิจอาหารผมคิดว่ายังไงก็ยังคงโตได้อีก ความโดดเด่นของธุรกิจฟรานไซ คือมีกำลังซื้อของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง มีความแข่งแกร่งของแบรนด์ คนยังทานได้เรื่อยๆ
ข้อสังเกตเรื่องเพิ่มทุน ผมคิดว่าหากเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน ยังไงราคาก็คงต้องน้อยกว่าราคาตลาด เพื่อให้ market cap ยังคงที่อยู่ เหตุผลก็คือการลงทุนดังกล่าวมิอาจทำให้ market cap จะสูงขึ้นไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากยังไม่มีผลงานจากการลงทุน ณ ขณะนั้น
เช่นคำนวณที่ราคาตลาด 6 บาทเมื่อ market cap เท่ากับ 6 x 1,350,000,000 = 8,100,000,000
ดังนั้นถ้าเพิ่มทุนอีก 170 ล้านหุ้น ราคาในตลาดควรลดลงเหลืออยู่ที่ 8,100,000,000 / 1,520,000,000 = 5.33 บาท/หุ้น
ดังนั้นถ้าบริษัทจะออกหุ้นเพิ่มทุน แน่นอน เค้าก็ต้องการขายที่ราคาสูงๆมากที่สุด ก็ต้องรอให้ market cap สูงๆ หรือให้ราคาตลาดที่เราซื้อขายอยู่ปรับตัวขึ้นกว่านี้
ดังนั้น ราคาที่ผมซื้อไปช่วง 5 บาท น่าสนใจมาก
อย่างไรก็ตามเหตุผลหลักๆเพียงแต่มีความมั่นใจในธุรกิจนี้ โดยเฉพาะธุรกิจอาหาร เพราะผมชอบทานเป็นการส่วนตัว เอิ้กๆ
มั่นคอยตรวจสอบรายงานต่างๆของบริษัทตลอดก็จะทำให้เราเข้าใจมากขึ้น ถ้ามันไม่ดีขึ้นมาเราก็ไม่ช้าเกินไปที่จะเปลี่ยน
เหนือสิ่งอื่นใดผมอยากให้ลองมองภาพยาวๆหน่อยเกี่ยวกับธุรกิจที่เราลงทุน หากดูเพียงการขึ้นลงระยะสั้นๆจะไม่เป็นสุข
ในเรื่องของการเพิ่มทุน หรือจะก่อหนี้ก็แล้วแต่ ผมยังมีความเชื่อมั่นในธุรกิจนี้รวมถึงผู้บริหารด้วยว่าเค้าก็มีความเก่งอยู่พอควร การลงทุนสร้างโรงแรมเพิ่มเติมผมก็มองง่ายๆว่ามันเป็นการขยายฐานรายได้จากสินค้าที่มีอยู่เดิม ในที่นี้ก็คือธุรกิจโรงแรมที่เค้ามีความถนัด หากการลงทุนดังกล่าวโยกย้ายไปลงทุนธุรกิจอื่น อันนั้นผมมองว่าเสี่ยงกว่า
ธุรกิจอาหารผมคิดว่ายังไงก็ยังคงโตได้อีก ความโดดเด่นของธุรกิจฟรานไซ คือมีกำลังซื้อของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง มีความแข่งแกร่งของแบรนด์ คนยังทานได้เรื่อยๆ
ข้อสังเกตเรื่องเพิ่มทุน ผมคิดว่าหากเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน ยังไงราคาก็คงต้องน้อยกว่าราคาตลาด เพื่อให้ market cap ยังคงที่อยู่ เหตุผลก็คือการลงทุนดังกล่าวมิอาจทำให้ market cap จะสูงขึ้นไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากยังไม่มีผลงานจากการลงทุน ณ ขณะนั้น
เช่นคำนวณที่ราคาตลาด 6 บาทเมื่อ market cap เท่ากับ 6 x 1,350,000,000 = 8,100,000,000
ดังนั้นถ้าเพิ่มทุนอีก 170 ล้านหุ้น ราคาในตลาดควรลดลงเหลืออยู่ที่ 8,100,000,000 / 1,520,000,000 = 5.33 บาท/หุ้น
ดังนั้นถ้าบริษัทจะออกหุ้นเพิ่มทุน แน่นอน เค้าก็ต้องการขายที่ราคาสูงๆมากที่สุด ก็ต้องรอให้ market cap สูงๆ หรือให้ราคาตลาดที่เราซื้อขายอยู่ปรับตัวขึ้นกว่านี้
ดังนั้น ราคาที่ผมซื้อไปช่วง 5 บาท น่าสนใจมาก
อย่างไรก็ตามเหตุผลหลักๆเพียงแต่มีความมั่นใจในธุรกิจนี้ โดยเฉพาะธุรกิจอาหาร เพราะผมชอบทานเป็นการส่วนตัว เอิ้กๆ
มั่นคอยตรวจสอบรายงานต่างๆของบริษัทตลอดก็จะทำให้เราเข้าใจมากขึ้น ถ้ามันไม่ดีขึ้นมาเราก็ไม่ช้าเกินไปที่จะเปลี่ยน