กำไรอยู่ที่ตอนซื้อ

[Raphin Phraiwal]

กำไรอยู่ที่ตอนซื้อ

ผมเชื่อว่าวลีนี้ได้เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ผมได้ยินวลีนี้ครั้งแรกจากคุณพ่อของผม เมื่อผมได้แยกมาประกอบธุรกิจเอง ท่านเล่าให้ฟังว่า การค้าที่ท่านทำ เป็นการค้าที่แข่งขันกันสูง กำไรจึงมีน้อย (อันนี้ผมทราบดี เพราะผมช่วยทางบ้านค้าขายตั้งแต่อายุ 6 -7 ขวบ โดยเริ่มจากช่วยทอนตังค์ก่อน) เพราะฉะนั้น ใครที่สามารถ ซื้อของได้ถูกกว่าจึงจะมีโอกาสที่จะมีกำไรมากกว่า เมื่อครั้งผมยังเป็นเด็ก ผมเคยมากรุงเทพกับท่าน ท่านได้เคยผาผมเดินตลาดขายส่งเพื่อหาซื้อสินค้า จำได้ว่า บางครั้งท่านต้องเดินเช็คราคาตั้งหลายร้าน ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพราะแม้แต่ราคาผิดกันหน่วยละ 25 สตางค์ก็มีความหมายมาก ผมยังจำได้ว่า ผมไม่ชอบเดินตลาดขายส่งกับท่าน เพราะผมอยากอยู่เล่นกับลูกพี่ลูกน้อง หรือดูโทรทัศน์ที่บ้านญาติมากกว่า เพราะนานๆทีจะเข้ากรุงเทพสักที
เมื่อผมทำธุรกิจเอง ธุรกิจของผมมีการแปรรูปสินค้าเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม แต่วัตถุดิบก็ยังคงเป็นสินค้าตัวเดียวกันกับธุรกิจของคุณพ่อผม ซึ่งตอนนั้น คุณพ่อผมได้เกษียณแล้ว จากการแปรรูปสินค้านี่เอง ทำให้มีกำไรดีกว่าการซื้อมาขายไป  ผมจึงไม่ค่อยสนใจในการเดินเช็คราคาสินค้าเท่าไหร่ ซึ่งเมื่อคุณพ่อของผมทราบ ท่านจึงได้เตือนสติผมด้วยวลีดังกล่าว
เวลาผ่านไป ธุรกิจผมเริ่มมีการแข่งขันที่สูงขึ้น คู่แข่งผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ค่าเช่าก็แพงขึ้น ลูกค้าก็เก่งขึ้น (ไม่อยากใช้คำว่าเขี้ยวขึ้น) ผมจึงรู้ว่าการซื้อของในราคาที่ถูกเป็นปัจจัยที่สามารถทำให้เราอยู่รอดได้ (แต่ทั้งนี้ก็ต้องพยายามให้มียอดขายด้วย)

ถ้าผมจะตีความวลีดังกล่าวด้วยเรื่องราคาอย่างเดียว ก็คงทำให้ความหมายที่ได้รับไม่สมบูรณ์ เพราะจริงๆแล้ว การซื้อสินค้าที่ ขายได้ ก็เป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งด้วย ถ้าเราไม่พิถีพิถันพอสมควรในการเลือกซื้อสินค้า หรือมองสินค้าไม่ขาด เราอาจได้สินค้าที่ไม่ถูกใจหรือไม่เป็นที่ต้องการของลูกค้าเรา ซึ่งจะทำให้สินค้านั้นขายไม่ออก หรือขายออกช้า จนทำให้สินค้านั้นต้องนอนทุนและทำให้เราต้องขายขาดทุนออกไปในที่สุด (หรือบ้างครั้งเราอาจต้องยกให้คนอื่นไปฟรีๆ ซึ่งเราต้องแถมเงินค่าขนย้ายให้เขาด้วย) เพราะฉะนั้น กำไรจึงอยู่ในการซื้อสินค้าที่ขายออกอย่างแน่นอนด้วย
อาจสรุปได้ว่า กำไรอยู่ในการซื้อให้ ถูก ที่แปลว่าไม่แพง และแปลว่าไม่ผิดด้วย

เมื่อผมเลิกเล่นหุ้นแล้วหันมาลงทุนในหุ้น (ผู้ที่ลงทุนในหุ้นจริงๆจะทราบถึงความแตกต่าง) (อันที่จริงเมื่อผมเล่นหุ้นน้อยลง ผมก็ถูกหุ้นเล่นน้อยลงด้วยเช่นกัน)  ผมก็ได้ยินวลีนี้อีกครั้ง แต่จำไม่ได้ว่าได้ยินจากไหน ผมจะมีความสุขมากที่ได้ซื้อบริษัทที่ผมชอบ ได้มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของ ได้รู้ว่าผู้บริหารมีความตั้งใจทำงาน มีธรรมาภิบาลที่ดี ให้ความสำคัญกับผู้ถือหุ้นทั่วไปพอสมควร และมีสินค้าหรือบริการที่เป็นที่ถูกอกถูกใจของลูกค้า มีความได้เปรียบในการแข่งขัน ฯลฯ กำไรของผมจึงอยู่ที่การได้ซื้อบริษัทเช่นนี้ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น กำไรก็อยู่ในการซื้อในราคาที่สมเหตุสมผลด้วย หรือถ้าถูกกว่านั้นได้ก็ยิ่งดี (มี Margin of Safety)

ด้วยความเคารพ รัก และคิดถึงคุณพ่อ
รพินทร์ ไพรวัลย์

[ลูกอิสาน]

ขอบคุณท่านระพินครับ  

เหมือนที่เราถูกสอนว่าราคาที่เราจ่าย เป็นตัวกำหนดผลตอบแทน

หุ้นดีอย่างไร ถ้าซื้อแพง ผลตอบแทนก็งั้นๆ แถมบางครั้งก็ทำให้ขาดทุนได้เลย

[cryptonian_man]

ต้องเก็บไว้ย้ำกับตัวเองมากๆแล้วครับ ขอบคุณนะครับที่เอามาบอก ผมเองก่อนลงทุนคิดว่าคิดไว้ดีแล้ว แต่ความจริงที่พบคือ ยังไม่ทุ่มเทตรวจสอบให้มากพอ

ยังต้องฝึกอีกเยอะเลยครับ กว่าจะทำได้อย่างคนอื่นเขา

[Mon money]

นานมาแล้วที่ไม่ได้อ่านอะไรที่จบได้ในตัว

[สามัญชน]

จำได้ว่าท่านแม่ทัพสุมาอี้  หนึ่งในทีมวิทยากรงานสัมนา TVI Meeting ที่ใกล้จะถึงนี้ ก็เคยพูดประโยคนี้เช่นกัน

ท่านแม่ทัพจะมี "ผลึกความคิด" เด็ดๆอีกไหมหนอในงานสัมนาที่จะถึงนี้

[Mon money]

คุณระพินทร์คนนี้ใครได้คุยด้วยจะต้องชอบเขาแน่ๆรับรอง

[oatty]

เดี๋ยวต้องนำไปเก็บไว้ห้องบทความครับ ถูกใจมาก ๆ

[โอ@]

บทความเยี่ยมๆเลยครับ  8)

[Accidental Hero]

ขอบคุณมากครับ
มีความคิดที่ดี
มีความสามารถในการถ่ายทอดที่ยอดเยี่ียม
มีน้ำใจในการเผื่อแผ่ความรู้
   

[dino]

           

[akkhapon]

เยี่ยมมากเลยครับ ขอขอบคุณเช่นกันครับ

[กล้วยทอด]

[กระทิงแดง]

สมกับเป็นนายพรานจริงๆครับพี่ ล่าเหยือ(หุ้น)อย่างสุขุม และเยือกเย็น

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ

[ปรัชญา]

ซื้อได้ถูก(ใจ)

ขอบคุณครับ

[007-s]

สุดยอดมากค่ะ เป็นหัวใจการลงทุนที่สำคัญ

   

[ซากทัพ]

 ขอบคุณครับ

[Saran]

ขอบคุณคุณระพินครับ สำหรับบทความดีๆ  

[Capo]

คำว่า
"กำไรเมื่อตอนซื้อ"

ผมก็ได้ยินมาหลายปีดีดักแล้วครับ
ตั้งแต่ตอนที่พยายามศึกษา DSM
ก็ได้ยินคำพูดนี้มาเป็นคำแรก ๆ

พยายามแกะ แคะ เกา
ยังไงก็ยังไม่เข้าใจ

จนมาสิงที่ TVI นี้
เห็นพี่ท่านหนึ่ง
ยกคำพูดนี้ขึ้นเป็น Signature
ก็พยายามแกะ แคะ เกาอีกครั้ง
ตอนนั้นก็เริ่มเข้าใจมาก ๆ ขึ้นครับ
จากแนวคิดของ VI ก็พอทำให้แสงสว่างลาง ๆ

มาเจอหมัดนี้ของพี่ระพินทร์
เห็นดาวเลยครับ
เพราะตอนแรกเข้าใจแค่ว่า "ซื้อให้ได้ราคาถูก"
มาได้อีกข้อจากส่วนที่พี่ถ่ายทอดอีกว่า "ซื้อให้ได้ของดี"

เป็นอันครบถ้วนกระบวนความครับ

[Raphin Phraiwal]

ขอบคุณทุกท่านครับ ที่ให้เกียรติและเป็นกำลังใจ
ความรู้การลงทุนที่ผมพอมี ก็ได้จากเว็บนี้และพี่ๆเป็นส่วนใหญ่ครับ
ผมยังต้องฝึกปฏิบัติอีกเยอะครับ

[chartchai madman]

ชื่นชมและคาราวะพี่ระพินทร์ สำหรับข้อความดีๆ

[tummeng]

ขอบคุณมากครับ

   

[Frodo]

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่ดีครับ
เก็บไว้สอนใจ ยามเผลอไผลตามสิ่งยั่วยุ

[ต.หยวนเปียว]

ขอบคุณครับพี่พราน  :D

เคยเจอแต่ขาดทุนเกิดเมื่อตอนขาย   :lol:

[SupachaiZ594]

ขอบคุณมากครับ

[beammy]

บทความคลาสสิค ครับ  8)  ...

[ม้าเฉียว]

ลูกพ่อค้าเหมือนกัน ขอคารวะครับ

[pongjaa]

ขอบคุณมากครับ
เป็นบทความที่ให้แนวคิดที่ดีมาก
ในขณะที่ใช้เวลาอ่านเพียงแค่นิดเดียว

[javoel]

อ่านรอบที่สองเเล้วก็ยังรู้สึกดีครับ

[August]

ครบถ้วน กระบวนความ

     :D
ขอบคุณครับ

[DeepTVI]

เอากลับขึ้นมาอ่านอีกครั้ง
นายแน่มาก