อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 1
"Winners never quit, and quitters never win."
- bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 3
http://www.salon.com/tech/htww/2006/11/ ... index.html
http://www.usaforinnovation.org/news/di ... .cfm?ID=21
และอีกมากมายทุกช่องทางของสื่อ
ตอนนี้มานกำลังใช้พลกำลังมหาศาลบีบอยู่
นี่ยังไม่ได้ว่าถึงกรณี youtube อีกกรณีนึง ซึ่งใครได้เห็นแล้วคงทนไม่ได้แน่
จะลุยกันซักตั้งมั้ยเรา...
http://www.usaforinnovation.org/news/di ... .cfm?ID=21
และอีกมากมายทุกช่องทางของสื่อ
ตอนนี้มานกำลังใช้พลกำลังมหาศาลบีบอยู่
นี่ยังไม่ได้ว่าถึงกรณี youtube อีกกรณีนึง ซึ่งใครได้เห็นแล้วคงทนไม่ได้แน่
จะลุยกันซักตั้งมั้ยเรา...
-
- Verified User
- โพสต์: 577
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 4
งง ๆ ทำไมเขาเล่นทางสื่อแทน
เหมือนว่าในประเทศเขาเอง (สภา+ประชาชน) ก็มีเสียงออกเป็น 2 ฝ่าย โดยเฉพาะ เรามีเสียงสนับสนุนจากอตีตประธานาธิบดี จากการให้สัมภาษณ์
ก็เลยพยายามโฆษณา มุ่งประเด็นการขโมยสิทธิบัตรยา เพื่อดึงแรงสนับสนุนจากประชาชน
ก็เลยคิดว่าการจะจัดอันดับให้เราอยู่ใน list ประเทศที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ....
น่าจะรอผ่านสภา ดังนั้นช่วงนี้ก้เป็นช่วง รณรงค์ หาเสียง
แล้ว ทำไมเขาไม่สนใจ Brazil เลยหรือ
ทำไมไทยดังกว่า Brazil ... ทั้ง ๆ ที่บอลไทยไม่ได้ไปบอลโลกแม้สักครั้งเดียว :(
น่าจะมีทางออกแบบรอมชอม เช่น ลดค่ายาเฉพาะประเทศโดยเฉพาะลดให้ไทย เป็นต้น
เหมือนว่าในประเทศเขาเอง (สภา+ประชาชน) ก็มีเสียงออกเป็น 2 ฝ่าย โดยเฉพาะ เรามีเสียงสนับสนุนจากอตีตประธานาธิบดี จากการให้สัมภาษณ์
ก็เลยพยายามโฆษณา มุ่งประเด็นการขโมยสิทธิบัตรยา เพื่อดึงแรงสนับสนุนจากประชาชน
ก็เลยคิดว่าการจะจัดอันดับให้เราอยู่ใน list ประเทศที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ....
น่าจะรอผ่านสภา ดังนั้นช่วงนี้ก้เป็นช่วง รณรงค์ หาเสียง
แล้ว ทำไมเขาไม่สนใจ Brazil เลยหรือ
ทำไมไทยดังกว่า Brazil ... ทั้ง ๆ ที่บอลไทยไม่ได้ไปบอลโลกแม้สักครั้งเดียว :(
น่าจะมีทางออกแบบรอมชอม เช่น ลดค่ายาเฉพาะประเทศโดยเฉพาะลดให้ไทย เป็นต้น
- bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 5
บัวแก้ว โต้ข้อกล่าวหาของเว็บไทยโกหก - เร่งแจงสื่อต่างชาติ
มติชน วันที่ 10 พ.ค. 2550
วันนี้ (10 พ.ค.) นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ (กต.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ A Project of USA For Innovation จัดทำเว็บไซต์ www.thailies.com ตอบโต้รัฐบาลไทย และกล่าวหาว่ารัฐบาลไทยโกหกใน 10 เรื่องว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ทำการชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการประกาศใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยาของไทยขึ้นบนเว็บไซต์ www.mfa.go.th ของกระทรวงแล้วเพื่อให้ผู้ที่สนใจได้เข้าถึงข้อมูลอีกด้านหนึ่งด้วย นอกจากนี้เรากำลังพิจารณาว่าจะใช้มาตรการอื่นๆ ต่อไปโดยร่วมมือกับหน่วยราชการที่เกี่ยว
นายธฤต กล่าวอีกว่า นายนิตย์ พิบูลย์สงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้สั่งการให้คอยติดตามสถานการณ์และการเสนอข่าวของสื่อมวลชนต่างประเทศในเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และทำการชี้แจงข้อเท็จจริงให้สื่อเหล่านั้นได้ทราบ โดยเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ที่ผ่านมา กระทรวงฯ ได้ส่งจดหมายชี้แจงข้อเท็จจริงไปยังหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล ไฟแนนเชียลไทม์ส และชิคาโกซันไทม์ส ที่มีการลงบทความในเรื่องนี้เพื่อชี้แจงถึงจุดยืนและข้อเท็จจริงจากมุมของเรา โดยวอล์ลสตรีทเจอร์นัลได้ตอบรับว่า จะลงคำชี้แจงของเราในเร็วๆ นี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังได้สั่งการให้นางนงนุช เพชรรัตน์ อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ และนายวีรชัย พลาศรัย อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เดินทางไปยังสหรัฐฯ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้เพื่อสมทบกับคณะของ นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่จะเดินทางกลับจากสวิสเซอร์แลนด์มายังสหรัฐฯ เพื่อเจรจากับทางการสหรัฐฯ อีกครั้ง อย่างไรก็ตามกระทรวงการต่างประเทศกำลังอยู่ในระหว่างประสานงานเรื่องกำหนดนัดหมายให้กับนายแพทย์มงคลด้วย
-
- Verified User
- โพสต์: 697
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 9
ผมทนได้ครับ อิอิbsk(มหาชน) เขียน:
นี่ยังไม่ได้ว่าถึงกรณี youtube อีกกรณีนึง ซึ่งใครได้เห็นแล้วคงทนไม่ได้แน่
จะลุยกันซักตั้งมั้ยเรา...
เราปิดปาก ปิดหู ปิดตา คนทั้งโลกให้คิดแบบเดียวกันคงไม่ได้หรอกครับ
สรรเสริญ นินทา มันของคู่กัน
ที่พูดมาคือ ไม่เห็นด้วยน่ะครับ ที่ไปปิด youtube แต่ก็ไม่ได้มองว่า youtube ทำสิ่งที่ถูกต้อง
-
- Verified User
- โพสต์: 697
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 10
CL สิทธิเหรือสิทธิบัตรยา แปลอีกแบบคงได้ว่า ละเมิดลิขสิทธ์
ถึงผิดก็ต้องสนับสนุน เพราะผลประโยชน์ของประเทศเรา
ตอนนี้ อดีตประธานธิบดี คลิลตัน ก็ออกมาช่วยเราแล้ว โดยโจมตีบริษัทยา
ก็ดีครับ มีเสียงสนับสนุนจากประเทศของเขาเองด้วย
ถึงผิดก็ต้องสนับสนุน เพราะผลประโยชน์ของประเทศเรา
ตอนนี้ อดีตประธานธิบดี คลิลตัน ก็ออกมาช่วยเราแล้ว โดยโจมตีบริษัทยา
ก็ดีครับ มีเสียงสนับสนุนจากประเทศของเขาเองด้วย
-
- Verified User
- โพสต์: 551
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 11
เพิ่งเปิดกฏหมาย พรบ สิทธิบัตรของไทยที่แก้เมื่อปี ๒๕๓๕ โดยแก้ตาม GATT ก็เปิดทางให้รัฐสามารถบังคับใช้สิทธิตามสิทธิบัตรได้ ดังนั้น ถามว่าเรามีความชอบธรรมตามกฏหมายที่จะทำได้ไหม คิดว่ามีนะ
แต่หลายๆเรื่องรัฐบาลไทยอาจบอกเราไม่หมด
เข้าใจว่าที่ทำ CLคราวนี้ไม่ได้มีแต่เอดส์ มียารักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเศรษฐ๊ด้วย ตรงนี้ รัฐบาลเราพลาดหรือเปล่า
ยิ่งได้ยินข่าวว่ารัฐบาลไทยจะบล็อคเวบนี้ยิ่งเซ็ง คนทั้งโลกคงเห็นว่าเราป่าเถื่อน ไม่เติบโตพอที่จะยอมรับการขัดแย้งทางความคิดแบบคนมีอารยธรรม
แต่ถ้าในเวบนั้นเขียนไว้เป็นความจริงว่างบสาธารณสุขเราน้อยกว่าเขมร ได้แต่สงสารคนไทยและตัวเอง
มารณรงค์ให้ไปออกกำลังกายดูแลสุขภาพตัวเองดีกว่า
หวังพึ่งรัฐบาลไม่ได้เลย
แต่หลายๆเรื่องรัฐบาลไทยอาจบอกเราไม่หมด
เข้าใจว่าที่ทำ CLคราวนี้ไม่ได้มีแต่เอดส์ มียารักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเศรษฐ๊ด้วย ตรงนี้ รัฐบาลเราพลาดหรือเปล่า
ยิ่งได้ยินข่าวว่ารัฐบาลไทยจะบล็อคเวบนี้ยิ่งเซ็ง คนทั้งโลกคงเห็นว่าเราป่าเถื่อน ไม่เติบโตพอที่จะยอมรับการขัดแย้งทางความคิดแบบคนมีอารยธรรม
แต่ถ้าในเวบนั้นเขียนไว้เป็นความจริงว่างบสาธารณสุขเราน้อยกว่าเขมร ได้แต่สงสารคนไทยและตัวเอง
มารณรงค์ให้ไปออกกำลังกายดูแลสุขภาพตัวเองดีกว่า
หวังพึ่งรัฐบาลไม่ได้เลย
just one life, use it!
-
- Verified User
- โพสต์: 697
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 13
มันไม่ได้เกี่ยว เห็นใจหรือไม่เห็นใจ หรือควรสมน้ำหน้าคนติดเชื้อ HIV ครับ
ประเทศเรามีผู้ติดเชื้อ หลายแสนคน หากเข้าไม่ถึงยาต้าน คุณคิดดูเอาเองเหอะ ประเทศชาติรับภาระไว้แค่ไหน เป็นภาระสังคมแค่ไหน สูญเสียทรัพยากรไปแค่ไหน
การที่ผู้ติดเชื้อเอดส์ สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทำงานได้ ไม่เป็นภาระของสังคม ทางออกในการหายาต้านราคาไม่แพง ที่กำลังตัวเองหาซื้อมารับประทานได้ เป็นทางออกที่ดูดีมากๆครับ
ประเทศเรามีผู้ติดเชื้อ หลายแสนคน หากเข้าไม่ถึงยาต้าน คุณคิดดูเอาเองเหอะ ประเทศชาติรับภาระไว้แค่ไหน เป็นภาระสังคมแค่ไหน สูญเสียทรัพยากรไปแค่ไหน
การที่ผู้ติดเชื้อเอดส์ สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทำงานได้ ไม่เป็นภาระของสังคม ทางออกในการหายาต้านราคาไม่แพง ที่กำลังตัวเองหาซื้อมารับประทานได้ เป็นทางออกที่ดูดีมากๆครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 743
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 14
ขอ discuss นะครับlekmak333 เขียน:มันไม่ได้เกี่ยว เห็นใจหรือไม่เห็นใจ หรือควรสมน้ำหน้าคนติดเชื้อ HIV ครับ
ประเทศเรามีผู้ติดเชื้อ หลายแสนคน หากเข้าไม่ถึงยาต้าน คุณคิดดูเอาเองเหอะ ประเทศชาติรับภาระไว้แค่ไหน เป็นภาระสังคมแค่ไหน สูญเสียทรัพยากรไปแค่ไหน
การที่ผู้ติดเชื้อเอดส์ สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทำงานได้ ไม่เป็นภาระของสังคม ทางออกในการหายาต้านราคาไม่แพง ที่กำลังตัวเองหาซื้อมารับประทานได้ เป็นทางออกที่ดูดีมากๆครับ
จากประสบการณ์ครับ
กลุ่มที่หาซื้อยาแพงไม่ได้ ต่อให้ลดราคายาลงมาได้ กลุ่มนี้ก็มีคนที่สามารถซื้อเองได้เพิ่มขึ้นมาไม่ถึง หนึ่งในสิบหรอกครับ
และสุดท้าย คนที่แบกรับค่ายาก็เป็นรัฐอยู่ดีครับ
จริงๆ แล้วยังมีมุมมองอีกหลายอย่างครับ เช่น
1. การที่ราคายาถูก ทำให้คุณค่าของยาดูลดลงในสายตา คนไข้ (รึเปล่า)
2. นอกจากนั้น การเข้าถึงยาก็มีมากขึ้น
3. compliance ของคนไข้ เท่าเดิม หรือต่ำลง(เพราะคนกินเยอะขึ้น) (ไม่เพิ่มขึ้นแน่ๆ)
ทั้งหมดนี้อาจทะให้ดื้อยากง่ายขึ้นได้มาก อย่างที่รู้ HIV ดื้อยาง่ายมาก
ถ้าได้ CL ตัวนี้ ก็ต้องไปทำตัวอื่นๆๆ เพิ่มไปเรื่อยๆ
บริษัทยา ต้องลงทุนค้นคว้าวิจัย (ทุนสูงมากเท่าที่ทราบ เพราะ ยิ่งช่วยหลัง บริษัทยาก็กลัวเรื่องผลข้างเคียง ทำให้ต้องผ่านการวิจัยและทดสอบมากขึ้น)
ถ้าดื้อมากๆ บริษัทที่ผลิตขายได้ไม่คุ้มราคา แล้วใครจะลงทุนครับ?
สุดท้ายคนที่เจ็บที่สุดก็คือคนไข้เองนั่นแหละครับ
นอกจากนั้น การที่ยาหาได้ง่าย อาจเป็นดาบสองคมที่ทำให้คนรู้สึกกลัวน้อยลง (ด้วยความเชื่อผิดๆ ที่คนไทยชอบบกันนัก)
การป้องกันด้อยประสิทธิภาพลง คนเป็นเอดส์เพิ่มด้วยอัตราเร็วมากกว่าเดิม
แล้วก็จะยิ่งแย่
ผมว่า ถ้าจะทำ ก็ดีครับ สำหรับคนที่ติดเชื้อนานแล้ว และด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
แต่สำหรับ new case คงต้องยกเว้นมั้งครับ อย่างนี้พอรับได้หน่อย :twisted:
-
- Verified User
- โพสต์: 697
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 15
เท่าที่รู้มา
ยาแต่ก่อนแพงมาก ก่อนใช้ CL แพงหูฉี่เลย
แต่พอ องค์การเภสัช ผลิตได้เองหมด ลดต้นทุนไปได้เพียบ พอที่มีงบให้ตัวยานี้ใช้ในประกันสังคมและ30 บาทได้
ส่วนการดื้อยา กินไปนานๆ ยาจากต่างประเทศก็ดื้อได้เหมือนกัน ตรงนี้ไม่เกี่ยวกันว่าเราผลิตเองแล้วทำให้ตัวยาดื้อขึ้น ที่รู้มาการกินยาพวกนี้ ต้องกินพร้อมกัน 3-4 ตัว ที่แตกต่างกัน กันการดื้อยา
เรื่องผิด เราผิดอยู่แล้วครับถ้าว่ากันตามกฎกติกา
แต่มันคือผลประโยชน์ของประเทศเรา
ส่วนเรื่องเห็นใจ สมน้ำหน้าผู้ติดเชื้อ HIV ยังไงถ้ามีคนป่วยเพิ่มขึ้น ก็ต้องเป็นภาระสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คิดได้แต่เพิกเฉยทำกันไม่ได้หรอกครับ
ยาแต่ก่อนแพงมาก ก่อนใช้ CL แพงหูฉี่เลย
แต่พอ องค์การเภสัช ผลิตได้เองหมด ลดต้นทุนไปได้เพียบ พอที่มีงบให้ตัวยานี้ใช้ในประกันสังคมและ30 บาทได้
ส่วนการดื้อยา กินไปนานๆ ยาจากต่างประเทศก็ดื้อได้เหมือนกัน ตรงนี้ไม่เกี่ยวกันว่าเราผลิตเองแล้วทำให้ตัวยาดื้อขึ้น ที่รู้มาการกินยาพวกนี้ ต้องกินพร้อมกัน 3-4 ตัว ที่แตกต่างกัน กันการดื้อยา
เรื่องผิด เราผิดอยู่แล้วครับถ้าว่ากันตามกฎกติกา
แต่มันคือผลประโยชน์ของประเทศเรา
ส่วนเรื่องเห็นใจ สมน้ำหน้าผู้ติดเชื้อ HIV ยังไงถ้ามีคนป่วยเพิ่มขึ้น ก็ต้องเป็นภาระสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คิดได้แต่เพิกเฉยทำกันไม่ได้หรอกครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 743
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 16
[quote="lekmak333"]
ยาแต่ก่อนแพงมาก ก่อนใช้ CL แพงหูฉี่เลย
แต่พอ องค์การเภสัช ผลิตได้เองหมด ลดต้นทุนไปได้เพียบ พอที่มีงบให้ตัวยานี้ใช้ในประกันสังคมและ30 บาทได้
ส่วนการดื้อยา กินไปนานๆ ยาจากต่างประเทศก็ดื้อได้เหมือนกัน ตรงนี้ไม่เกี่ยวกันว่าเราผลิตเองแล้วทำให้ตัวยาดื้อขึ้น ที่รู้มาการกินยาพวกนี้ ต้องกินพร้อมกัน 3-4 ตัว ที่แตกต่างกัน กันการดื้อยา
เรื่องผิด เราผิดอยู่แล้วครับถ้าว่ากันตามกฎกติกา
แต่มันคือผลประโยชน์ของประเทศเรา
ส่วนเรื่องเห็นใจ สมน้ำหน้าผู้ติดเชื้อ HIV ยังไงถ้ามีคนป่วยเพิ่มขึ้น ก็ต้องเป็นภาระสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คิดได้แต่เพิกเฉยทำกันไม่ได้หรอกครับ
ยาแต่ก่อนแพงมาก ก่อนใช้ CL แพงหูฉี่เลย
แต่พอ องค์การเภสัช ผลิตได้เองหมด ลดต้นทุนไปได้เพียบ พอที่มีงบให้ตัวยานี้ใช้ในประกันสังคมและ30 บาทได้
ส่วนการดื้อยา กินไปนานๆ ยาจากต่างประเทศก็ดื้อได้เหมือนกัน ตรงนี้ไม่เกี่ยวกันว่าเราผลิตเองแล้วทำให้ตัวยาดื้อขึ้น ที่รู้มาการกินยาพวกนี้ ต้องกินพร้อมกัน 3-4 ตัว ที่แตกต่างกัน กันการดื้อยา
เรื่องผิด เราผิดอยู่แล้วครับถ้าว่ากันตามกฎกติกา
แต่มันคือผลประโยชน์ของประเทศเรา
ส่วนเรื่องเห็นใจ สมน้ำหน้าผู้ติดเชื้อ HIV ยังไงถ้ามีคนป่วยเพิ่มขึ้น ก็ต้องเป็นภาระสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คิดได้แต่เพิกเฉยทำกันไม่ได้หรอกครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2266
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 17
ขอแจม
ถูกทั้งคู่แต่ผมว่า
บริษัทยาก็เอาเปรียบเกินไป
ค่ายาเดือนเป็นหมื่นๆ
ต้นทุน ถึงพันหรือเปล่าก็ไม่รู้
ค่าคิดค้นก็แพง อันนั้นเข้าใจครับ
แต่ถ้าราคามันตกลงกันได้ตั้งแต่แรกก็จบ
พอมันบานปลายก้ยากละ
ชอบคลินตัน..
ไม่เคยเห็นบริษัทที่ขายยาแพงๆ ตายลง
ถ้าราคายาไม่ได้ขายที่ very high premium แต่คนป่วนน่ะตายแน่ๆ
บริษัทยานี่ เป็น ลูซิเฟอร์จริงๆ
ตอนแรกเป็นเทพคิดยาได้ ตอนหลังตกสวรรค์เป็นมาร
เพราะยาที่คิดได้ขายให้เฉพาะคนรวย
ถูกทั้งคู่แต่ผมว่า
บริษัทยาก็เอาเปรียบเกินไป
ค่ายาเดือนเป็นหมื่นๆ
ต้นทุน ถึงพันหรือเปล่าก็ไม่รู้
ค่าคิดค้นก็แพง อันนั้นเข้าใจครับ
แต่ถ้าราคามันตกลงกันได้ตั้งแต่แรกก็จบ
พอมันบานปลายก้ยากละ
ชอบคลินตัน..
ไม่เคยเห็นบริษัทที่ขายยาแพงๆ ตายลง
ถ้าราคายาไม่ได้ขายที่ very high premium แต่คนป่วนน่ะตายแน่ๆ
บริษัทยานี่ เป็น ลูซิเฟอร์จริงๆ
ตอนแรกเป็นเทพคิดยาได้ ตอนหลังตกสวรรค์เป็นมาร
เพราะยาที่คิดได้ขายให้เฉพาะคนรวย
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
-
- Verified User
- โพสต์: 743
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 18
แล้วถ้าตัวเองเป็นบริษัทยา คิดค้นแล้วไม่คุ้มทุน แล้วใครจะทำล่ะครับsunrise เขียน:
ไม่เคยเห็นบริษัทที่ขายยาแพงๆ ตายลง
ถ้าราคายาไม่ได้ขายที่ very high premium แต่คนป่วนน่ะตายแน่ๆ
อันนี้ผมเองก็ไม่เชียว แต่ เท่าที่ทราบ กระบวนการมาหลายขั้นตอนมาก
ถ้าคิดๆ ลงทุนไปทำออกมา ไม่สำเร็จ ก็สูญ
คิดออกมาสำเร็จ ใช้ๆ ไป มีผลข้างเคียงที่ทดสอบได้ภายหลังว่า ไม่คุ้มผลดี ก็ถูกถอด (อย่า arcoxia ล่าสุดเป็นต้น)
แถมทำออกมาใช้ได้ สิทธิบัตรก็มีอายุไม่นาน ต้องขายให้ได้คุ้มภายในระยะเวลานั้นอีก
เสี่ยงต่อการขาดทุนเหลือเกิน
ถ้าในสายตาผม บริษัทยา คล้ายๆ กับ THL อ่ะครับ แต่แย่กว่าซะอีก เพราะเหมือนกับว่า ทองที่ขุดได้ กลายเป็นทองปลอม??? อะไรประมาณนั้น
บริษัทที่ไหนก็คงไม่ตายหรอกครับ เพราะถ้าไม่คุ้ม
เค้าก็ม่ผลิตสิครับ "value ๆ" :lol:
ยาที่คิดได้ พอหมดสิทธิบัตร คนไม่รวยก็ได้ใช้นะครับ :Dsunrise เขียน:
บริษัทยานี่ เป็น ลูซิเฟอร์จริงๆ
ตอนแรกเป็นเทพคิดยาได้ ตอนหลังตกสวรรค์เป็นมาร
เพราะยาที่คิดได้ขายให้เฉพาะคนรวย
- bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 19
เรื่องสิทธิบัตรยาก็ถกกันไปเลยนะคับ จริงๆยังมีการแพร่กระจายเมล์กล่าวหาด้วย
แต่เรื่อง youtube ผมก็ไม่เห็นด้วยที่บล๊อกทั้งเว็บเพราะที่มีประโยชน์ก็มากมาย
แต่การที่ผู้บริหารทั้ง youtube และ google ไม่สนองคำเรียกร้องของฝ่ายไทยให้ถอดคลิปดังกล่าวออก เพราะกระทบต่อสถาบันของไทยนั้นผมก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน
ลองใครสักคน(ฝรั่ง?)ที่ไม่ได้กินอยู่หลับนอนในบ้านเรา
ไม่ได้รู้เท็จจริงในครอบครัวเรามากน้อยแค่ไหน
ไม่เคยสัมผัส ไม่เข้าใจความผูกพัน หรืออาจไร้รากเหง้า
แล้ววันหนึ่งก็ลุกขึ้นมาล้อเลียนพ่อเราแม่เรา
แลบลิ้นปลิ้นตา พูดจา(โกหก)สารภาพต่อโลก
ใครทนได้ก็ทนไปเถอะคับ...
แต่เรื่อง youtube ผมก็ไม่เห็นด้วยที่บล๊อกทั้งเว็บเพราะที่มีประโยชน์ก็มากมาย
แต่การที่ผู้บริหารทั้ง youtube และ google ไม่สนองคำเรียกร้องของฝ่ายไทยให้ถอดคลิปดังกล่าวออก เพราะกระทบต่อสถาบันของไทยนั้นผมก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน
ลองใครสักคน(ฝรั่ง?)ที่ไม่ได้กินอยู่หลับนอนในบ้านเรา
ไม่ได้รู้เท็จจริงในครอบครัวเรามากน้อยแค่ไหน
ไม่เคยสัมผัส ไม่เข้าใจความผูกพัน หรืออาจไร้รากเหง้า
แล้ววันหนึ่งก็ลุกขึ้นมาล้อเลียนพ่อเราแม่เรา
แลบลิ้นปลิ้นตา พูดจา(โกหก)สารภาพต่อโลก
ใครทนได้ก็ทนไปเถอะคับ...
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 20
โห... ขนาดนั้นเชียว
:lol: :lol: :lol:
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 21
ถ้าเราเป็นผู้ป่วยคงคิดแบบหนึ่ง
ถ้าเราเป็นคนไทย ก็คิดแบบหนึ่ง
ถ้าเราเป็นคนอเมริกา ก็อาจจะคิดอีกแบบหนึ่ง
ถ้าเราเป็นคนอเมริกาที่เพิ่งซื้อหุ้นบริษัทยาไม่นานมานี้ ก็คงคิดอีกแบบหนึ่ง
และถ้าเราเป็นคนไทยที่เพิ่งซื้อหุ้นบริษัทยาไม่นานมานี้ จะคิดแบบไหน
ถ้าเราเป็นคนไทย ก็คิดแบบหนึ่ง
ถ้าเราเป็นคนอเมริกา ก็อาจจะคิดอีกแบบหนึ่ง
ถ้าเราเป็นคนอเมริกาที่เพิ่งซื้อหุ้นบริษัทยาไม่นานมานี้ ก็คงคิดอีกแบบหนึ่ง
และถ้าเราเป็นคนไทยที่เพิ่งซื้อหุ้นบริษัทยาไม่นานมานี้ จะคิดแบบไหน
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 898
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 23
น่าจะมีกำหนดว่าห้ามกำไรต่อยอดขายเกิน5%
สำหรับบริษัทที่ market capขนาดใหญ่เกิน 5 Billion $
แต่ถ้ามีจริง คงถึงจุดจบของตลาดหุ้นทั่วโลก
สำหรับบริษัทที่ market capขนาดใหญ่เกิน 5 Billion $
แต่ถ้ามีจริง คงถึงจุดจบของตลาดหุ้นทั่วโลก
bid please!!
- bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 24
มึนๆมาบ้างแล้ว..แจกน้ำจิ้มกันก่อนคืนนี้...
http://korbsak.com/talk_500429.htm
โปรดใช้วิจารณญาณยิ่งในการอ่าน และโปรดทำใจ..
http://korbsak.com/talk_500429.htm
โปรดใช้วิจารณญาณยิ่งในการอ่าน และโปรดทำใจ..
- bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 25
มาลองจับโกหกของ USA for Innovation บ้าง...
Ken Adelman's (New) Lies
http://www.huffingtonpost.com/robert-we ... 47864.html
ผู้เขียน เป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน
บก.นิตยสารออนไลน์และผอ.องค์การ เอสเซนเชียล แอคชั่น
ซึ่งเป็นองค์กรรณรงค์เพื่อบรรษัทภิบาลในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
Ken Adelman's (New) Lies
http://www.huffingtonpost.com/robert-we ... 47864.html
ผู้เขียน เป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน
บก.นิตยสารออนไลน์และผอ.องค์การ เอสเซนเชียล แอคชั่น
ซึ่งเป็นองค์กรรณรงค์เพื่อบรรษัทภิบาลในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
- bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 26
สำหรับท่านที่ไม่เคยเป็นเอดส์มาก่อน และ/หรือยังงงๆ "เป็นเอดส์ไปทำไม?"
กรุณา โหลดคลิป สมหญิงไม่มีตู้เย็น : บังคับใช้สิทธิ ประกาศใช้ความเป็นมนุษย์
http://www.prachatai.com/05web/th/home/ ... guage=Thai
โดยปกติผู้ติดเชื้อที่ดื้อยาต้านไวรัสสูตรพื้นฐาน ต้องหันมาใช้ยาต้านไวรัสสูตรสำรอง
ปัจจุบัน คาเลทตรา เป็นยาต้านไวรัสสูตรสำรองที่ช่วยชีวิตผู้ติดเชื้อได้มาก แต่มันต้องเก็บไว้ในที่เย็น ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับคนไม่มี ตู้เย็น อย่าง สมหญิง ซึ่งหาเลี้ยงครอบครัวด้วยเงินเพียง 1,700 บาทต่อเดือน
หรือกระทั่งคนที่มีตู้เย็น มันก็ยังไม่ง่ายอยู่ดี เมื่อต้องกินยานี้ตรงเวลาทุกวัน ในขณะที่ชีวิตต้องเดินทางไปไหนมาไหน
ขณะนี้ยาคาเลทตรารูปแบบใหม่ที่ไม่ต้องแช่เย็นมีขายแล้วในสหรัฐอเมริกา แต่บริษัทแอ็บบอตฯ ที่ผลิตยานี้ถอนการขึ้นทะเบียนยาดังกล่าว เท่ากับเป็นการปฏิเสธที่จะขายยาชนิดนี้ ซึ่งมีชื่อทางการค้าว่า อลูเวียร์ ในประเทศไทย สาเหตุเนื่องจากไม่พอใจที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศมาตรการบังคับใช้สิทธิ หรือ ซีแอล เพื่อนำเข้ายาคาเลทตรา สูตรเก่าที่ต้องแช่เย็นจากประเทศอินเดียไปเมื่อเร็วๆ นี้
กรุณา โหลดคลิป สมหญิงไม่มีตู้เย็น : บังคับใช้สิทธิ ประกาศใช้ความเป็นมนุษย์
http://www.prachatai.com/05web/th/home/ ... guage=Thai
โดยปกติผู้ติดเชื้อที่ดื้อยาต้านไวรัสสูตรพื้นฐาน ต้องหันมาใช้ยาต้านไวรัสสูตรสำรอง
ปัจจุบัน คาเลทตรา เป็นยาต้านไวรัสสูตรสำรองที่ช่วยชีวิตผู้ติดเชื้อได้มาก แต่มันต้องเก็บไว้ในที่เย็น ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับคนไม่มี ตู้เย็น อย่าง สมหญิง ซึ่งหาเลี้ยงครอบครัวด้วยเงินเพียง 1,700 บาทต่อเดือน
หรือกระทั่งคนที่มีตู้เย็น มันก็ยังไม่ง่ายอยู่ดี เมื่อต้องกินยานี้ตรงเวลาทุกวัน ในขณะที่ชีวิตต้องเดินทางไปไหนมาไหน
ขณะนี้ยาคาเลทตรารูปแบบใหม่ที่ไม่ต้องแช่เย็นมีขายแล้วในสหรัฐอเมริกา แต่บริษัทแอ็บบอตฯ ที่ผลิตยานี้ถอนการขึ้นทะเบียนยาดังกล่าว เท่ากับเป็นการปฏิเสธที่จะขายยาชนิดนี้ ซึ่งมีชื่อทางการค้าว่า อลูเวียร์ ในประเทศไทย สาเหตุเนื่องจากไม่พอใจที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศมาตรการบังคับใช้สิทธิ หรือ ซีแอล เพื่อนำเข้ายาคาเลทตรา สูตรเก่าที่ต้องแช่เย็นจากประเทศอินเดียไปเมื่อเร็วๆ นี้
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 27
คนไทยสนับสนุน ผู้คนส่วนใหญ่ ก็คงพอเข้าใจ
คนสหรัฐ คัดค้าน ผู้คนส่วนใหญ่ ก็คงเข้าใจ
แต่ สื่อมวลชนของคนไทย รับโฆษณาให้สหรัฐ ซิครับ จะมีใครยอมรับได้
บริษัทนี้ทำผิดซ้ำซาก และชอบแก้ตัว ไม่ยอมรับผิดและแก้ไข
คนสหรัฐ คัดค้าน ผู้คนส่วนใหญ่ ก็คงเข้าใจ
แต่ สื่อมวลชนของคนไทย รับโฆษณาให้สหรัฐ ซิครับ จะมีใครยอมรับได้
บริษัทนี้ทำผิดซ้ำซาก และชอบแก้ตัว ไม่ยอมรับผิดและแก้ไข
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- Akajon
- Verified User
- โพสต์: 530
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 28
พูดได้ดีครับ ตรงใจดีchatchai เขียน:ถ้าเราเป็นผู้ป่วยคงคิดแบบหนึ่ง
ถ้าเราเป็นคนไทย ก็คิดแบบหนึ่ง
ถ้าเราเป็นคนอเมริกา ก็อาจจะคิดอีกแบบหนึ่ง
ถ้าเราเป็นคนอเมริกาที่เพิ่งซื้อหุ้นบริษัทยาไม่นานมานี้ ก็คงคิดอีกแบบหนึ่ง
และถ้าเราเป็นคนไทยที่เพิ่งซื้อหุ้นบริษัทยาไม่นานมานี้ จะคิดแบบไหน
- bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 29
ข่าวล่าสุดกรณี youtube
google เจ้าของ youtube ประกาศยอมถอดคลิปวีดีโอหมิ่นเบื้องสูง 4 คลิปแล้ว
youtube มีจดหมายถึงนายสิทธิชัย โภไคยอุดม รมว.ไอซีที ระบุว่าแม้ว่าทาง youtubeจะทำการบล็อกคลิปหมื่นเบื้องสูงดังกล่าวแล้ว
ทว่ายังมีอีก 2 คลิปที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับรัฐบาลไทยที่ไม่อาจจะบล็อกได้
เนื่องจากไม่ได้ขัดต่อก.ม.ใดๆของไทย
ฝ่ายไทยได้ส่งลิสต์ 12 คลิปซึ่งเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงไปยัง youtube
โดย 6 คลิปในนั้นถูกถอนออกไปแล้วโดยผู้เผยแพร่เอง
เหลืออีก 6 คลิป เป็นคลิปหมิ่นเบื้องสูง 4 คลิปซึ่งทาง youtube จะบล็อกออก
อีก 2 คลิปไม่เข้าข่าย แต่เป็นเรื่องการเมือง
ทาง google ระบุด้วยว่า ทราบถึงพระราชกรณียกิจของในหลวง และให้ความเคารพในพระองค์ท่าน เฉกเช่นเดียวกับคนไทย รวมทั้งเคารพกฎหมายของทุกประเทศที่ google ให้บริการอยู่ และรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว รวมถึงความล่าช้าในการตอบกลับ เพราะเพิ่งได้รับเอกสารจากประเทศไทย
ทางการไทยตัดสินใจไม่ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาแล้วหลังการชี้แจงจากทาง youtube
เมื่อทาง google บล็อกคลิปที่แจ้งมาเสร็จแล้วทางไอซีทีจะเลิกบล็อก youtube ทันที
*****************************
ตกลงเพราะซาบซึ้งหรือเพราะจะถูกฟ้องกันแน่
และคำ youtube อ่านอย่างไรถูกคับ ยูทิวบ์ หรือยูทูบ
google เจ้าของ youtube ประกาศยอมถอดคลิปวีดีโอหมิ่นเบื้องสูง 4 คลิปแล้ว
youtube มีจดหมายถึงนายสิทธิชัย โภไคยอุดม รมว.ไอซีที ระบุว่าแม้ว่าทาง youtubeจะทำการบล็อกคลิปหมื่นเบื้องสูงดังกล่าวแล้ว
ทว่ายังมีอีก 2 คลิปที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับรัฐบาลไทยที่ไม่อาจจะบล็อกได้
เนื่องจากไม่ได้ขัดต่อก.ม.ใดๆของไทย
ฝ่ายไทยได้ส่งลิสต์ 12 คลิปซึ่งเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงไปยัง youtube
โดย 6 คลิปในนั้นถูกถอนออกไปแล้วโดยผู้เผยแพร่เอง
เหลืออีก 6 คลิป เป็นคลิปหมิ่นเบื้องสูง 4 คลิปซึ่งทาง youtube จะบล็อกออก
อีก 2 คลิปไม่เข้าข่าย แต่เป็นเรื่องการเมือง
ทาง google ระบุด้วยว่า ทราบถึงพระราชกรณียกิจของในหลวง และให้ความเคารพในพระองค์ท่าน เฉกเช่นเดียวกับคนไทย รวมทั้งเคารพกฎหมายของทุกประเทศที่ google ให้บริการอยู่ และรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว รวมถึงความล่าช้าในการตอบกลับ เพราะเพิ่งได้รับเอกสารจากประเทศไทย
ทางการไทยตัดสินใจไม่ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาแล้วหลังการชี้แจงจากทาง youtube
เมื่อทาง google บล็อกคลิปที่แจ้งมาเสร็จแล้วทางไอซีทีจะเลิกบล็อก youtube ทันที
*****************************
ตกลงเพราะซาบซึ้งหรือเพราะจะถูกฟ้องกันแน่
และคำ youtube อ่านอย่างไรถูกคับ ยูทิวบ์ หรือยูทูบ
- bsk(มหาชน)
- Verified User
- โพสต์: 3206
- ผู้ติดตาม: 0
อเมริกาเล่นแรงจริงๆครับ ...
โพสต์ที่ 30
ตัดวงจรอุบาทว์แห่งความกลัวและกับดักทาส : กรณีซีแอลไทย
โดย ดร.จิราพร ลิ้มปานานนท์
หน่วยปฏิบัติการวิจัยเภสัชศาสตร์สังคม
คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
การหากินกับชีวิตผู้ป่วยของธุรกิจยาข้ามชาติ
บริษัทยายักษ์ใหญ่ในสหรัฐ เป็นธุรกิจที่ทำกำไรสูงมาก 21.2-58.6% ซึ่งสูงกว่าธุรกิจชนิดอื่นๆ อย่างมาก โดยใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาเฉลี่ยเพียงแค่ 13.9% เท่านั้น กลยุทธ์ที่ธุรกิจยาข้ามชาติสามารถทำกำไรได้สูงขนาดนี้ คือ การผูกขาดตลาดภายใต้ระบบสิทธิบัตร
สหรัฐพ่ายแพ้ในเวทีการเจรจาองค์การการค้าโลก (WTO) จึงทำให้ข้อตกลงทรัพย์สินทางปัญญาขององค์การการค้า หรือข้อตกลงทริปส์ มี "ช่องหายใจ" เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดจากระบบผูกขาดทรัพย์สินทางปัญญา นั่นคือ มาตรการยืดหยุ่น (TRIPs" Flexibilities) ของการใช้สิทธิตามสิทธิบัตรยา (Compulsory Licensing) เพื่อสร้างปัญหาความสมดุลระหว่างการทำกำไรที่เกินเลยกับการช่วยชีวิตคน
แม้ว่าข้อตกลงทริปส์จะมีผลมากว่าสิบปีแล้ว แต่ประเทศกำลังพัฒนาและด้อยพัฒนาไม่ได้ใช้มาตรการนี้ในการแก้ปัญหาการเข้าถึงยา เนื่องจากกลัวแรงกดดันทางการค้าของสหรัฐ แต่เมื่อปัญหาการเข้าถึงยาของประเทศกำลังพัฒนา-ด้อยพัฒนาและปัญหาสาธารณสุขถึงจุดสูงสุด ประเทศเหล่านี้เริ่มใช้มาตรการใช้สิทธิตามสิทธิบัตรยา เพื่อแก้ปัญหาในภูมิภาคอาเซียนเริ่มจากมาเลเซีย
ธาตุแท้ของอันธพาลธุรกิจยาข้ามชาติ
เกิดอะไรขึ้นเมื่อไทยประกาศใช้มาตรการใช้สิทธิตามสิทธิบัตรยา ธุรกิจยาข้ามชาติสหรัฐ สั่งสอนประเทศไทยด้วยท่าทีแข็งกร้าวและรุนแรงเพื่อปรามไม่ให้ประเทศอื่นๆ ทำตาม โดยใช้ทุกวิถีทางด้วยอำนาจของธุรกิจยาข้ามชาติที่อยู่เหนือการเมืองและเศรษฐกิจสหรัฐ จึงไม่น่าแปลกใจที่รัฐบาลสหรัฐใช้มาตรา 301 พิเศษ เป็นเครื่องมือในการข่มขู่, การใช้บริษัทล็อบบี้ยิสต์ในคราบของบริษัทประชาสัมพันธ์ และเอ็นจีโอเก๊ อย่าง "ยูเอสเอ ฟอร์ อินโนเวชั่น" ในการสื่อสารบิดเบือนข้อมูลทั้งในไทยและสหรัฐ, ทุ่มซื้อทั้งสื่อบุคคล สิ่งพิมพ์ และอินเตอร์เน็ต รวมถึงการใช้ชีวิตผู้ป่วยเป็นตัวประกันด้วยการขอถอนคำขอขึ้นทะเบียนยา 7 รายการออกจากการพิจารณาของ อย.ทั้งหมด ล้วนแสดงชัดถึงจุดยืนของประโยชน์ทางการค้าอยู่เหนือชีวิตคน
1.มาตรการใช้สิทธิตามสิทธิบัตรยาของไทยขัดกับข้อตกลงทริปส์
ข้อเท็จจริง คือ ผู้แทนการค้าสหรัฐ เลขาธิการองค์การอนามัยโลก และนักวิชาการด้านทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหลาย ได้ยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรว่า ไทยทำถูกต้องตามข้อตกลงทริปส์ข้อ 31 บี
2.รัฐบาลจากการรัฐประหารของไทย ฉีกสิทธิบัตรเพื่อประหยัดงบประมาณยานำไปซื้ออาวุธ
ข้อเท็จจริง คือ ความพยายามในการก้าวพ้นการผูกขาดยาที่ไม่เป็นธรรมโดยใช้สิทธิตามสิทธิบัตรยา ได้ก่อตัวในสังคมไทยมาเกือบสิบปีแล้ว และหลังสุดในรัฐบาลทักษิณ สำนักงานหลักประกันสุขภาพ (สปสช.) ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการซึ่งประกอบไปด้วยข้าราชการจากหลายกระทรวง นักวิชาการ นักวิชาการชีพ องค์กรพัฒนาเอกชน และองค์กรภาคประชาชน และต่อมา คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่มีนายพินิจ จารุสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานคณะกรรมการในขณะนั้นได้มีมติให้ใช้สิทธิตามสิทธิบัตรยาของยาเอฟาไวเรนซ์ ซึ่งรัฐมนตรีพร้อมจะลงนาม แต่ก็ถูกรัฐประหารก่อน เมื่อการดำเนินการอย่างรอบคอบและถูกต้องมาถึงมือ นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีสาธารณสุขคนปัจจุบัน ทุกอย่างจึงเกิดขึ้นได้ และการที่ สปสช.สามารถหายาได้ถูกลง ก็สามารถเพิ่มจำนวนผู้ป่วยให้เข้าถึงยาได้มากขึ้น ไม่ได้เอางบประมาณส่วนนี้ไปซื้ออาวุธ งบประมาณสาธารณสุขได้รับมากเป็นอันดับสองรองจากการศึกษา และงบประมาณที่ประหยัดได้กำลังจะถูกนำไปใช้การรณรงค์ป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์รายใหม่
3.ยาจีพีโอเวียร์ขององค์การเภสัชกรรมห่วย ไม่ผ่านการรับรองขององค์การอนามัยโลก
ข้อเท็จจริง คือ ยานี้คิดค้นโดยองค์การเภสัชกรรมและได้รับอนุสิทธิบัตร มีคุณภาพดี สามารถรักษาชีวิตผู้ติดเชื้อในขณะนั้นได้เป็นเรือนแสน และนำไปสู่การที่ระบบหลักประกันสุขภาพจ่ายยาต้านให้ผู้ติดเชื้อได้ เพราะราคายาลดจากวันละสองพันกว่าบาทมาเป็นสี่สิบบาทเท่านั้น
4.จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยมหิดล ยาจีพีโอเวียร์ทำให้เกิดการดื้อยาสูงระหว่าง 39.6-58%
ข้อเท็จจริง คือ บิดเบือนข้อมูลทางวิชาการนำไปสู่การตีความผิด การศึกษานี้ต้องการรู้ว่าการดื้อยาที่มาจากโครงสร้างของตัวยาเป็นอย่างไร ยาจีพีโอเวียร์ประกอบด้วยตัวยาสามตัว คือ ลามิวูดีน สตาวูดีน และเนวิราปีน ดังนั้น ไม่ว่ายายี่ห้อใดที่ประกอบด้วยตัวยาเช่นเดียวกับยาจีพีโอเวียร์ ก็ทำให้ดื้อยาในอัตราเดียวกัน ไม่ได้เป็นเฉพาะกับยาจีพีโอเวียร์
วงจรอุบาทว์แห่งความกลัวและตกเป็นทาส : การแก้ไขกฎหมายสิทธิบัตร
เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว สหรัฐก็ใช้มาตรา 301 กดดันไทยให้แก้ไข พ.ร.บ.สิทธิบัตร ด้วยการเพิ่มการคุ้มครองผลิตภัณฑ์ยา และขยายอายุสิทธิบัตรจาก 15 ปี เป็น 20 ปี โดยใช้วิธีการเช่นเดียวกับในปัจจุบันทุกอย่าง ตั้งแต่การบิดเบือนข้อมูลว่าประเทศไทยเป็นโจรปล้นทรัพย์สินทางปัญญาด้านยา ทั้งๆ ที่ในขณะนั้นไทยให้การคุ้มครองการประดิษฐ์คิดค้นยาในกระบวนการผลิต แต่ไม่ให้สิทธิผูกขาดอย่างสมบูรณ์ในผลิตภัณฑ์ยา จึงเป็นตัวกระตุ้นให้มีการคิดค้นกระบวนการผลิตยาที่หลากหลายเพื่อให้เกิดการแข่งขันในตลาดยา เมื่อถูกขู่จากสหรัฐในการตัดจีเอสพี ไทยจึงยอมแก้กฎหมายตามที่สหรัฐต้องการ ในปี 2535 ฉบับแก้ไขนี้ได้มีกรรมการสิทธิบัตรยาเพื่อควบคุมราคายาสิทธิบัตร
ต่อมาสหรัฐก็กดดันอีกด้วยมาตรการเดิมให้ไทยแก้กฎหมายสิทธิบัตรตัดกรรมการสิทธิบัตรยาออก ด้วยความกลัวเช่นเดิม ในปี 2542 มีการแก้ไขเอากรรมการสิทธิบัตรยาออก และในคราวนี้ไทยก็ถูกกดดันอีกเช่นเดิม ด้วยกลยุทธ์เดิมๆ แล้วเราจะยอมเป็นทาสไปตลอดหรือ ถึงเวลาแล้วที่ไทยต้องรวมพลัง ใช้บทเรียนจากอดีต ร่วมกันต่อต้านการเอารัดเอาเปรียบและเอาชีวิตคนเป็นเดิมพัน เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ทางการค้า เราทำซีแอลอย่างถูกต้อง และพร้อมจะยืนหยัดการต่อสู้ด้วยข้อมูลที่เป็นจริง ฉีกหน้ากากบริษัทยาข้ามชาติ