ยอดขายไตรมาสแรกของโลตัสน้อยกว่าปีก่อน

[chatchai]

เทสโก้โลตัสQ1พลาดเป้าหมาย คุยมีแผนช่วยรายย่อยลดแรงต้าน

เทสโก้ โลตัส ก้มหน้ารับยอดขายไตรมาสแรกพลาดเป้า โบ้ยค่าน้ำมัน เงินบาทแข็ง ทำพิษ ระบุยังไม่ปรับแผนลงทุนในไทย พร้อมเดินหน้าต่อด้วยงบ 7 พันล้านบาทตามเดิม คุยอยู่ระหว่างศึกษาแผนช่วยค้าปลีกรายย่อย แต่ยังไม่เผยรายละเอียด
     
      นายเจฟฟ์ อดัมส์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหาร เทสโก้โลตัส เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาสแรกของบริษัทฯของปี 2550 ยอมรับว่าพลาดเป้าหมายจากที่ตั้งไว้ และลดลงไปบ้างเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วว่าแต่ไม่อาจเปิดเผยเป็นตัวเลขที่ชัดเจนได้ สาเหตุที่ยอดขายลดลงเป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจและปัญหาในภาพรวมต่างๆส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาน้ำมัน อัตราเงินเฟ้อ ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น      

      สำหรับกลุ่มสินค้าที่มียอดขายลดลงที่เห็นได้ชัดมักจะเป็นกลุ่มสินค้าที่ไม่จำเป็นการดำรงชีวิตหรือเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ที่กลุ่มลูกค้าจะปรับลดการซื้อ ขณะที่สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วๆ ไปยังสามารถทำยอดขายได้ตามปกติ ซึ่งบริษัทฯก็มองว่าจำเป็นที่จะต้องมีการลงทุนในส่วนของการทำแคมเปญโปรโมชั่นให้กับผู้บริโภคมากขึ้น ประกอบกับการลดต้นทุนในการบริหารงานลง เพื่อให้สามารถสร้างยอดขายกลับคืนมาซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำ
     
      อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่ดีขึ้นแต่บริษัทฯยังดำเนินแผนการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยงบลงทุนปีนี้ 7,000 ล้านบาท โดยเฉพาะด้านการขยายสาขา เท่ากับปีที่ผ่านมาทั้ง 4 รูปแบบที่ เทสโก้ฯมีอยู่เช่นเดิมคือ เทสโก้โลตัสซูเปอร์เซ็นเตอร์ ร้านคุ้มค่า ตลาดสดโลตัส และเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส รวมทั้งการเพิ่มบุคลากรที่ต้องใช้ในแต่ละสาขาที่ขยาย
     
      "การลงทุนมูลค่า 7 พันล้านบาทในปี 2549 ที่ผ่านมา เทสโก้ โลตัสสร้างตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นกว่า 7 พันตำแหน่ง และบริษัทได้เสียภาษีให้กับภาครัฐมากขึ้นอีกประมาณ 250 ล้านบาทจากที่เสียอยู่แล้ว 7 พันกว่าล้านบาท"
     
      ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯที่เป็นค้าปลีกรายย่อยมีสัดส่วนโดยเฉลี่ย 20% ของลูกค้าทั้งหมด ส่วนเรื่องปัญหาการต่อต้านการขยายโครงการต่างๆจากประชาชนในแต่ละพื้นที่บริษัทฯยังคาดว่าจะสามารถผ่านไปได้ด้วยดี ซึ่งบริษัทฯเชื่อว่าการที่มีร้านค้าปลีกขนาดใหญ่เช่น เทสโก้โลตัสทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นในปีที่ผ่านมา ส่งผลดีต่ออัตราเงินเฟ้อที่น้อยกว่า1% และแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อในปีนี้จะปรับตัวเพิ่มเป็น 1.4% ก็ยังถือว่าไม่มากนัก
     
      นายอดัมส์กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาแผนงานโครงการช่วยเหลือร้านค้าปลีกรายย่อยในประเทศไทย เพื่อเพิ่มศักยภาพทางด้านการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการรายย่อย เนื่องจากมองว่ากลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยเหล่านี้ เป็นลูกค้าหลักที่สำคัญของเทสโก้ โลตัส โดยในบางสาขามีจำนวนร้านค้าปลีกรายย่อยเป็นลูกค้ามากกว่า 20%
     
      ซึ่งคาดว่าจะออกมาเป็นโปรแกรมขนาดใหญ่ เพื่อใช้กับร้านค้าปลีกทั่วประเทศ ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ ซึ่งหากมีความพร้อมจะมีการเปิดตัวโครงการนี้อีกครั้ง ปัจจุบันเทสโก้โลตัสสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดค้าปลีกประมาณ 6% จากมูลค่าตลาดรวมค้าปลีกในประเทศไทยทั้งหมด

จาก http://www.manager.co.th/Business/ViewN ... 0000044946

แล้วค้าปลีกรายอื่นๆจะเป็นอย่างไรบ้าง  อีกไม่กี่วันก็รู้กันละครับ

[qingwen]

ถ้ายอดขายในแต่ละสาขาลดลงจากปีที่แล้วก็พอเข้าใจได้

แต่ถ้ายอดขายทั้งบริษัทลดลงทั้งที่มีสาขาเพิ่มเพียบเลย แบบนี้พินาศแน่

[fantasia]

ไม่น่าจะหมายถึงยอดรายรับรวมเมื่อเทียบกับปีที่แล้วอย่างแน่นอน
ถ้ายอดขายสินค้าของ tesco ซึ่งเป็นสินค้าจำยังตกลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนแล้ว GDP นี่ไม่ต้องพูดถึงเรื่องโต 3% หรือ 4% เลย
มันต้องติดลบด้วยซ้ำ
หรือว่ามันจะติดลบจริง ๆ หว่า

[fantasia]

ไปอ่านตามลิงค์มา
คุณ chatchai จั่วหัวกระทู้ได้น่ากลัวกว่า ผู้จัดการอีกนะครับ
อ่านแล้วหนาวขึ้นมาเลย

อีกไม่กี่วันงบ bigc makro ออกคงได้รู้กันครับ
แต่ผมว่า นายเจฟฟ์ อดัมส์ หรือไม่ก็ผู้สื่อข่าว ส่งสารผิดพลาดมากกว่า
ขอให้เป็นอย่างงั้นนะ

[chatchai]

นายเจฟฟ์ อดัมส์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหาร เทสโก้โลตัส เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาสแรกของบริษัทฯของปี 2550 ยอมรับว่าพลาดเป้าหมายจากที่ตั้งไว้ และลดลงไปบ้างเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วว่าแต่ไม่อาจเปิดเผยเป็นตัวเลขที่ชัดเจนได้ สาเหตุที่ยอดขายลดลงเป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจและปัญหาในภาพรวมต่างๆส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาน้ำมัน อัตราเงินเฟ้อ ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น      

ถ้าผมอ่านไม่ผิด  ยอดขายลดลง  นะครับ

[คนเรือ VI]

ก็ยังสงสัยอยู่ว่า เราเติบโตน้อยลง (ชะลอความเร็ว) หรือโตติดลบกันแน่

เพราะเห็นหลายๆคนบ่นว่ายอดขายน้อยลงจากปีที่แล้ว แล้วGDPจะโต 4-5%ได้ไงล่ะเนี่ย

[[L]]

เป็นไปได้ 3 ทาง

1. ยอดขายลดลงตามตัวอักษรที่ข่าวเขียนจริง (same store sale คงจะติดลบอย่างน้อย 10% (ผู้บริหารบอกพลาดเป้าเล็กน้อย  :shock: ))

2. คนแปลอาจจะสื่อผิด ที่จริงน่าจะเป็นยอดขายโตลดลง

3. ข่าวเขียนถูกแล้ว แต่ ผู้บริหารอาจจะไม่เคยเจอยอดขายลดลงมานาน นานจนจำไม่ได้ ดังนั้น เวลาคนในวงการคุยกัน เลยพูดแค่ว่า "ลดลง" ก็เป็นที่เข้าใจกันว่า คือ "เติบโตลดลง"

จากสามัญสำนึก เพื่อนๆคิดว่าน่าจะเป็นแบบไหนครับ  8)

[สุมาอี้]

สำหรับกลุ่มสินค้าที่มียอดขายลดลงที่เห็นได้ชัดมักจะเป็นกลุ่มสินค้าที่ไม่จำเป็นการดำรงชีวิตหรือเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ที่กลุ่มลูกค้าจะปรับลดการซื้อ ขณะที่สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วๆ ไปยังสามารถทำยอดขายได้ตามปกติ

ถ้าอ่านจากตรงนี้น่าจะช่วยให้มองได้ว่ายอดขายรวมลดลง แต่คงลดลงไม่มากเพราะสินค้าส่วนใหญ่(ได้แก่สินค้าอุปโภคบริโภค)ยังขายได้เท่าเดิมอยู่

ปกติร้านพวกนี้ SSS น่าจะอยู่ที่ประมาณ +3% อยู่แล้วเท่านั้น แต่สำหรับต้นปีที่ผ่านมาอาจจะเปลี่ยนจากเครื่องหมายบวกเป็นลบ แต่คงไม่ถึงกับ -10% หรอกสำหรับสินค้าประเภทนี้ คิดว่านะ

[qingwen]

ยอดขายลดลงในบางสาขานั้นเป็นไปได้มากครับ แต่ยอดรวมไม่น่าลด

ยอดขายต่ำกว่าเป้าก็ไม่แปลก เพราะต้องวางเป้าให้ยอดขายเติบโตทุกสาขาอยู่แล้ว

ยกตัวอย่างใกล้บ้านนะครับ สาขารังสิตถ้ายอดขายลดลง ผมไม่แปลกใจ

ในเมื่อโลตัสเองยังเปิดสาขาคลอง 3 - 4 ซึ่งนอกจากแย่งลูกค้าคนอื่นแล้ว

ก็ต้องแย่งลูกค้าตัวเองด้วย แล้วปีนี้ก็เปิดสาขาคลอง 7 อีก

สาขาคลอง 3 - 4 ก็ยิ่งต้องยอดขายลดลงอย่างแน่นอน เพราะเดิมก็ไม่มีคู่แข่ง นอกจากแถวรังสิตที่เ้ปิดมาก่อน

[[L]]

ปกติเวลาอ่านข่าว ฟังข่าว โดยเฉพาะข่าวที่ฟังดูดีมาก หรือ ข่าวที่ฟังดูร้ายมาก ผมก็มักจะตั้งข้อสงสัยอยู่เสมอ

และปกติ ผมก็ไม่เห็นด้วยที่จะอ่านข่าวแล้วเชื่อไปหมด หรือตกใจอะไรง่ายๆ เพราะเราจะเป็นกระต่ายตื่นตูมที่จะ trade หุ้นบ่อยๆ

ข่าวนี้ก็เหมือนกัน ส่วนตัวผมคิดว่าเป็นไปได้ยากมากที่ห้างประเภท Super Center โดยเฉพาะที่เป็นห้างผู้นำที่มีการเปิดสาขาเพิ่มขึ้นตลอด จะมียอดขายโดยรวมลดลง เทียบกับปีที่ผ่านมา อย่างน้อยก็ในระยะยาว

ก็เลยลองคิดดูเล่นๆว่า ถ้ายอดขายโดยรวมติดลบจริง same store sale จะต้องติดลบเยอะแค่ไหน

ยกตัวอย่างของ BIGC

1Q06 มี 45 สาขา ยอดขายเฉลี่ยสาขาละ 343 ล้าน รวม 1Q06 มียอดขายรวม 15,435 ล้านบาท

1Q07 มี 49 สาขา ต้องมียอดขายเฉลี่ยสาขาละ ประมาณ 313 ล้านบาท ถึงจะทำให้ยอดรวมเท่ากับ 15,337 ล้านบาท ลดลงจาก 1Q06

same store sale เท่ากับ 313/343-1 = -8.75%

ของ Tesco Lotus ยิ่งถ้าขยายสาขามากกว่านี้อีก same store sale จะต้องติดลบเยอะกว่านี้ ถึงจะทำให้ยอดขายโดยรวมติดลบ ก็เลยเอาง่ายๆ ขี้เกียจคำนวณ เลขกลมๆที่ -10% ละกัน

ผมก็สงสัยต่ออีก ว่า same store sale ติดลบ 10% สำหรับห้างค้าปลีกขายของอุปโภคบริโภคที่เป็นผู้นำ จะเป็นไปได้มากแค่ไหน

ความรู้สึกผมคือ ตลาดโดยรวมของกินของใช้ต่างๆ น่าจะโตตาม GDP ซึ่งก็คงโต 3-5% Tesco Lotus ซึ่งเป็นผู้นำจะโตติดลบเลยหรือ

อีกอย่างเท่าที่เข้าใจ คือ ห้างสรรพสินค้าที่ขายของแพง ที่บอกแย่มาก ยอดขายโดยรวมก็ยังโต 3-5% จากที่เคยตั้งเป้าไว้ 10% ก็เลยบ่นว่าแย่
ร้าน Power Buy ที่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ในภาวะแบบนี้ ถ้าผมจำไม่ผิด ไตรมาสแรกนี้ ยอดขายก็ยังโตอยู่ซัก 5% มั้ง

อันนี้ ไม่ได้บอกว่าข่าวผิดนะครับ แต่ก็มีความเป็นได้เหมือนกัน ที่ความเข้าใจอาจจะคลาดเคลื่อนไปบ้าง
เช่น ที่บอกว่ายอดขายลดลง อาจหมายถึง ยอดขายของสาขาเดิมลดลง แต่โดยรวมยังเพิ่ม แต่น้อยกว่าที่ตั้งเป้าไว้ หรือ เค้าอาจจะพูดให้ดูแย่ๆ จะได้โดนต่อต้านน้อยลงก็ได้ เป็นต้น

ก็ลองรอผลไตรมาส1 ดูก่อนแล้วกัน ยอดขายอาจลดลงจริงๆก็ได้
แต่ถึงจะลดลงจริงๆ ผมก็คิดว่าแค่ระยะสั้นๆ ไม่ต้องไปสนใจมันหรอก เดี๋ยวมันก็กลับมาเอง
ระยะยาวคือสิ่งสำคัญกว่า สำหรับคนที่คิดเหมือนเป็นเจ้าของธุรกิจอย่างผม

8)

[สุมาอี้]

1Q06 มี 45 สาขา ยอดขายเฉลี่ยสาขาละ 343 ล้าน รวม 1Q06 มียอดขายรวม 15,435 ล้านบาท

1Q07 มี 49 สาขา ต้องมียอดขายเฉลี่ยสาขาละ ประมาณ 313 ล้านบาท ถึงจะทำให้ยอดรวมเท่ากับ 15,337 ล้านบาท ลดลงจาก 1Q06

same store sale เท่ากับ 313/343-1 = -8.75%

8)

sss เขาคำนวนแบบนี้เหรอครับคุณ [L] ไม่ใช่นับเฉพาะยอดขายของสาขาที่ยังมีอายุไม่ถึงหนึ่งปีหรอกเหรอครับ

Powerbuy ให้ข่าวว่าไตรมาส 1 ยอดขายสินค้าไอทีค่อนข้างโดดเด่นจนกลายเป็น 50% ของยอดขายรวมไปแล้ว ในขณะที่ยอดขายสินค้าเอวีค่อนข้างจะซึม แต่รวมๆ แล้วพี่พูดวกไปวนมาฟังไม่รู้เรื่องว่ายอดขายรวมโตเท่าไหร แต่คล้ายๆ กับพยายามจะบอกว่าโตเยอะ

แบบว่าพวกข่าวสัมภาษณ์ส่วนใหญ่อ่านแล้วต้องตีความทั้งนั้น คนให้สัมภาษณ์ชอบพูดความจริงแต่พูดแบบไม่ครบ อ่านแล้วงงๆ เพื่อให้เราเข้าใจผิดไปเองในแบบที่เขาอยากให้เราเข้าใจ

[BKP]

SSS น่าจะเป็นการเปรียบเทียบยอดขายของสาขาที่อายุเท่ากับหรือเกินหนึ่งปีนะ ตาม definition --> Same Store Sales - A statistic used in retail industry analysis. It compares sales of stores that have been open for a year or more
และ น่าจะเป็นการเปรียบปีต่อปีด้วยนะ เช่น 50 เทียบ 49

[[L]]

บังเอิญผมคำนวณไม่ค่อยเก่งครับ ไม่ใช่นักวิเคราะห์มืออาชีพ คำนวณแบบประมาณๆ เอาง่ายๆ ไม่ซับซ้อน

แค่พยายามจะอธิบายให้เห็นภาพว่า ในเมื่อเค้าเปิดสาขาเพิ่มขึ้น ถ้ายอดขายโดยรวมจะลดลงได้ ก็ต่อเมื่อ ยอดขายเฉลี่ยต่อสาขาคงต้องลดลงมากพอสมควรเลยทีเดียว

ส่วน Same store sale ความหมายทางวิชาการจะมีนิยามยังไง คำนวณยังไง อันนี้ผมไม่ทราบจริงๆ

ก็ต้องขออภัยที่ทำให้เข้าใจผิด

ถ้าตัวเลขที่ผมสื่อออกไป ผิดเพี้ยนความจริงไปมาก ก็ขอให้ คุณ สุมาอี้ คำนวณแก้ไขให้ทีครับ

[[L]]

ผมขออนุญาติ รบกวนให้ทาง Admin. นำกระทู้นี้ไปไว้ใน 100 คน 100 หุ้น ของ BIGC ได้มั้ยครับ จะได้ติดตามได้ครับ ขอบคุณครับ

[[L]]

ความเห็นเกี่ยวกับหุ้นหลายๆตัว ที่ถกเถียงกัน หลายครั้ง เมื่อเวลาผ่านไป สุดท้ายกระทู้นั้นก็ถูกลืมหายไป

บางความเห็น เมื่อเวลาผ่านไป ถ้าลองย้อนกลับไปดู บางอันก็น่าขำ หรือผิดเพี้ยนความจริงไปเยอะเหมือนกัน

ดังนั้น ถ้าเป็นกระทู้ที่น่าสนใจ และเกี่ยวข้องกับหุ้นตัวไหน ผมก็อยากจะให้ตามย้อนอ่านทีหลังได้ที่ 100คน100หุ้น ของหุ้นตัวนั้นครับ เผื่อจะได้รู้ว่าที่ผ่านมาเราได้คิดอะไรที่ผิดพลาดไปบ้าง

[สุมาอี้]

sss ไม่มีทางคำนวณได้หรอกครับ ต้องให้บริษัทเปิดเผยอย่างเดียว จุดประสงค์ของ sss คือ เราอยากรู้ว่าถ้าบริษัทโตโดยไม่อาศัยการขยายสาขา มันโตขนาดไหน

[Dech]

เข้ามาติดตาม

[woody]

วันนี้ได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนเค้าบอกว่ายอดขายแค่ไม่โตตามเป้าครับ ไม่ได้เลวร้ายขนาดเติบโตติดลบ