คำสารภาพ
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
คำสารภาพ
โพสต์ที่ 1
ถึงผมจะนับถือพุทธ แต่ผมว่าประเพณีการสารภาพบาปเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากครับ โดยเฉพาะกับคนที่ทำความผิดไปโดยไม่ตั้งใจหรือคนที่ต้องการกลับตัวให้ดีขึ้น ทุกๆปีผมจะมีอะไรๆผิดให้ได้เรียนรู้อยู่เสมอๆ ปีนี้ก็เช่นกันผมเลยอยากแชร์ความผิดพลาดของผมให้คนอื่นๆได้เรียนรู้(จะได้ไม่ต้องเสียเงินแบบผม)
อาจเป็นเพราะผมอาจจะต่างจากVIหลายๆท่านที่สะสมพลังงานมาจากดักแด้จนกลายเป็นผีเสื้อVIอย่างสง่างาม ดั่งเช่น ดร.นิเวศน์ พี่มน หรือพี่ฉัตรชัย
ต่างกับผมต้องเริ่มชีวิตการลงทุนที่ยอดดอย770จุดเมื่อต้นปี47(ปีนั้นหุ้นลงไปต่ำสุดประมาณ590จุด) ทำให้ผมต้องทำจิตใจให้รีบกลายร่างเป็นVIเร็วกว่าเวลาอันควร ในเมื่อการหมักบ่มจิตใจยังไม่ได้เต็มที่ ทำให้แต่ละปีผมมักจะเสียค่าโง่เป็นระยะตามกิเลสที่มันอยากจะวิ่งเข้าหาไฟ
3ปีที่ผ่านมา(47-49)บางครั้งบางอารมณ์ผมก็จะเริ่มกลายร่างเป็นแมงเม่าเก็งกำไรงบรายไตรมาส หลังจากที่ผมมีกำไรสะสมในปีนั้นมากพอ(คงเหมือนทฤษฎีเงินของเจ้ามือ House-Money Effect)แต่ส่วนมากก็ใจไม่ป้ำ เล่นไม่มาก พอเป็นน้ำเลี้ยงกิเลสให้มันหายอยากเท่านั้นเอง
แต่แล้วปี50 ฝันร้ายที่น่าจดจำก็เกิดขึ้นกับผม เกิดจากความกลัวและความโลภในจิตใจครับ
โปรดติดตามนิยาย3ภาคตอนต่อไป
อาจเป็นเพราะผมอาจจะต่างจากVIหลายๆท่านที่สะสมพลังงานมาจากดักแด้จนกลายเป็นผีเสื้อVIอย่างสง่างาม ดั่งเช่น ดร.นิเวศน์ พี่มน หรือพี่ฉัตรชัย
ต่างกับผมต้องเริ่มชีวิตการลงทุนที่ยอดดอย770จุดเมื่อต้นปี47(ปีนั้นหุ้นลงไปต่ำสุดประมาณ590จุด) ทำให้ผมต้องทำจิตใจให้รีบกลายร่างเป็นVIเร็วกว่าเวลาอันควร ในเมื่อการหมักบ่มจิตใจยังไม่ได้เต็มที่ ทำให้แต่ละปีผมมักจะเสียค่าโง่เป็นระยะตามกิเลสที่มันอยากจะวิ่งเข้าหาไฟ
3ปีที่ผ่านมา(47-49)บางครั้งบางอารมณ์ผมก็จะเริ่มกลายร่างเป็นแมงเม่าเก็งกำไรงบรายไตรมาส หลังจากที่ผมมีกำไรสะสมในปีนั้นมากพอ(คงเหมือนทฤษฎีเงินของเจ้ามือ House-Money Effect)แต่ส่วนมากก็ใจไม่ป้ำ เล่นไม่มาก พอเป็นน้ำเลี้ยงกิเลสให้มันหายอยากเท่านั้นเอง
แต่แล้วปี50 ฝันร้ายที่น่าจดจำก็เกิดขึ้นกับผม เกิดจากความกลัวและความโลภในจิตใจครับ
โปรดติดตามนิยาย3ภาคตอนต่อไป
แก้ไขล่าสุดโดย naris เมื่อ ศุกร์ ก.ค. 31, 2009 5:14 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
คำสารภาพ
โพสต์ที่ 2
ภาคที่1 ภาคความกลัวที่มาเยือน
สืบเนื่องมาจากความกลัวที่เห็นการเทกระจาดของตลาดหุ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้สติไม่ค่อยอยู่กับตัว เมื่อปัญญาหดหาย ความงมงายก็เข้ามาครอบครอง(จากที่พระพุทธเจ้าเคยสอนมาว่า คุณศรัทธาคู่กับคุณปัญญา โดยมีตัวสติเป็นผู้กำกับ ถ้าปัญญาสูงเกินไป ศรัทธาต่ำก็เกิดสภาพEGOจ๋าตามความแรงของการมั่นใจในตนเอง แต่ทำนองกลับกันคุณปัญญาหดหาย แต่คุณศรัทธากลับแรงกล้า ความงมงายก็จะเข้ามาครอบครองเป็นใหญ่ครับ)
ในช่วงต้นปี ผมเป็นประเภทหลัง พอผู้กำกับไม่อยู่ วงก็แตกครับ ไปอยู่ในฝั่งของความงมงายเต็มตัว(อาจเป็นเพราะความมั่นใจEGOหายไปเยอะตอนหุ้นตกเมื่อปลายปีที่แล้ว)ไปเชื่อหมอดูชื่อดังคนหนึ่งที่ทำนายทายทักว่าเดือน ก.พ-มี.คจะเกิดการประท้วงน้องๆพฤษภาทมิฬ และไปอ่านเจอคนกล่าวอ้างคำพูดของหลวงพ่อจรัญว่าปี51เมืองไทยจะตกเป็นทาสของต่างชาติ ข่าวสองข่าวนี้ทำให้ผมสติแตกไปพอสมควร เพราะตอนนั้นพอร์ตก็แดงเถือกอยู่แล้ว(ตอนนั้นไม่ทำอะไรก็ลบไปเกือบ7%)
ต้นเดือน ม.ค เลยตัดสินใจขายไป30%ทุกตัว แถมขายได้ในราคาของชำอีกต่างหาก(ไม่เว้นแม้แต่หุ้นสุดรักสุดโปรดอย่างTNH SNC NTV UEC)ทำให้ต้นทุนแต่ละตัวที่เหลืออยู่สูงขึ้นเพราะขายไปในราคาที่ต่ำกว่าทุนต้นเทียบกับต้นปี(ผมจะปรับพอร์ตเป็นทุนใหม่เมื่อ31ธ.คของทุกปีเหมือนงบการเงิน)
ก็ยอมขายขาดทุนไปทุกตัวเพื่อแลกกับความสบายใจว่า ได้กำเงินสดไว้ส่วนหนึ่ง แต่ก็ไม่วายครับ "ความกลัวเริ่มหดหายไป แต่กิเลสตัวใหม่กำลังมาเยือน"
สืบเนื่องมาจากความกลัวที่เห็นการเทกระจาดของตลาดหุ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้สติไม่ค่อยอยู่กับตัว เมื่อปัญญาหดหาย ความงมงายก็เข้ามาครอบครอง(จากที่พระพุทธเจ้าเคยสอนมาว่า คุณศรัทธาคู่กับคุณปัญญา โดยมีตัวสติเป็นผู้กำกับ ถ้าปัญญาสูงเกินไป ศรัทธาต่ำก็เกิดสภาพEGOจ๋าตามความแรงของการมั่นใจในตนเอง แต่ทำนองกลับกันคุณปัญญาหดหาย แต่คุณศรัทธากลับแรงกล้า ความงมงายก็จะเข้ามาครอบครองเป็นใหญ่ครับ)
ในช่วงต้นปี ผมเป็นประเภทหลัง พอผู้กำกับไม่อยู่ วงก็แตกครับ ไปอยู่ในฝั่งของความงมงายเต็มตัว(อาจเป็นเพราะความมั่นใจEGOหายไปเยอะตอนหุ้นตกเมื่อปลายปีที่แล้ว)ไปเชื่อหมอดูชื่อดังคนหนึ่งที่ทำนายทายทักว่าเดือน ก.พ-มี.คจะเกิดการประท้วงน้องๆพฤษภาทมิฬ และไปอ่านเจอคนกล่าวอ้างคำพูดของหลวงพ่อจรัญว่าปี51เมืองไทยจะตกเป็นทาสของต่างชาติ ข่าวสองข่าวนี้ทำให้ผมสติแตกไปพอสมควร เพราะตอนนั้นพอร์ตก็แดงเถือกอยู่แล้ว(ตอนนั้นไม่ทำอะไรก็ลบไปเกือบ7%)
ต้นเดือน ม.ค เลยตัดสินใจขายไป30%ทุกตัว แถมขายได้ในราคาของชำอีกต่างหาก(ไม่เว้นแม้แต่หุ้นสุดรักสุดโปรดอย่างTNH SNC NTV UEC)ทำให้ต้นทุนแต่ละตัวที่เหลืออยู่สูงขึ้นเพราะขายไปในราคาที่ต่ำกว่าทุนต้นเทียบกับต้นปี(ผมจะปรับพอร์ตเป็นทุนใหม่เมื่อ31ธ.คของทุกปีเหมือนงบการเงิน)
ก็ยอมขายขาดทุนไปทุกตัวเพื่อแลกกับความสบายใจว่า ได้กำเงินสดไว้ส่วนหนึ่ง แต่ก็ไม่วายครับ "ความกลัวเริ่มหดหายไป แต่กิเลสตัวใหม่กำลังมาเยือน"
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
คำสารภาพ
โพสต์ที่ 3
ภาค2 ภาคเก็งกำไรกับความโลภ
เมื่อเริ่มกำเงินสด ความโลภเริ่มมาแทนที่ความกลัวครับ
ความโลภที่เกิดขึ้นในจิตใจผมตอนนั้นมันหึกเหิมมาจากปี49ผมกำไรเกิน150%ทำให้ความคาดหวังที่อยากจะได้มากๆเท่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อเริ่มเสียเงินไปช่วงที่ขายขาดทุนไปช่วงแรก เลยอยากจะได้คืนโดยเร็ว ทำให้ผมเริ่มออกนอกกรอบของความรู้ของผมเอง ผมเริ่มเสี่ยงมากขึ้นและเทรดบ่อยขึ้น เพื่อที่จะทำให้พอร์ตของผมมันโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
หุ้นแต่ละตัวที่เลือกจะเลือกเก็งกำไรรายไตรมาท หุ้นที่เลือกก็ไม่ใช่หุ้นไม่ดี เพียงแต่ผมไม่รู้มูลค่าที่แท้จริงของมัน ทำให้ไม่มีความมั่นใจตอนราคาหุ้นมันลดลง(อาจขายทิ้งหรือไม่ได้ซื้อเพิ่ม)หรือเวลาหุ้นขึ้นก็รีบขายก่อนเวลา(อย่างแมงเม่าทั่วไป) ที่ผมจะให้เป็นกรณีศึกษาก็มี4ตัวครับ
ปล.ขอบอกก่อนว่าผมไม่ได้ชี้นำราคาหุ้นทั้งสี่ตัว เพราะเป็นเรื่องอดีตที่ผ่านมาแล้ว และไม่ใช่หุ้นไม่ดีเพียงแต่นอกกรอบความรู้ผมเท่านั้นเอง และที่สำคัญราคาที่ผมซื้อและขายก็เมื่อปลายเดือนกพ.ครับ ไม่ใช่ตอนนี้
สองตัวแรกก็AITกับSTPIครับ ตัวนี้สาเหตุที่ซื้อก็เพราะเห็นว่า
1ราคาถูกดี
2เทรนธุรกิจน่าจะดี
3มีเพื่อนๆVIติดตามหาข้อมูลกันมาก คิดว่าคงน่าเชื่อถือได้
แต่พอถือไปซักระยะ ราคาหุ้นก้เริ่มต่ำกว่าทุน ความไม่มั่นใจก็เข้ามาแทนที่ตัวเองสำหรับสองตัวนี้เพราะคำถามที่ผมถามตัวเองเกี่ยวกับหุ้นสองตัวนี้แล้วตอบไม่ได้ก็มี
1สามารถคำนวนหามูลค่าบริษัทได้หรือไม่ สรุปว่าไม่ได้เลย เพราะไม่รู้แน่นอนแม้กระทั่งมาร์จิ้นและรายได้ในอนาคต
2ผู้บริหารเคลียร์หรือเปล่า สรุปว่ายังหาคำตอบให้ตนเองไม่ได้เช่นกัน
จนแล้วจนรอดเพื่อความสบายใจ(ตามหลักพี่มน) ก็ขายไปสองตัวนี้ขาดทุนไปเฉลี่ยตัวละประมาณ10%ครับ
*ขอย้ำทุกตัวว่าไม่ใช่หุ้นไม่ดี แต่เพียงเพราะขอบข่ายความรู้ผมไม่ถึง ทำให้ไม่มั่นใจในการถือครอง
ตัวที่สามAH ตัวนี้ขาดทุนไม่เยอะหรอกครับ น่าจะไม่เกิน5% แต่ก็เป็นการเก็งชนิดหนึ่งครับ ผมเก็งกำไรตัวนี้จากการควบรวมกับKPNที่น่าจะประกาศงบในปีนี้ แต่ข้อที่ผมผิดก็คือ ไม่เคยไปเรียนรู้ธุรกิจของทั้งAHและKPNแบบละเอียดเลย ตอนซื้อคิดแค่ว่ามันน่าจะดีขึ้นจากการควบรวมเท่านั้นเอง
ตัวสุดท้าย เป็นตัวที่ทำให้ผมขาดทุนไปมากที่สุดตั้งแต่เคยเล่นหุ้นมา คือขาดทุนรวมค่าเทรดไปสามแสนกว่า(ทั้งๆที่ลบแค่สามเปอร์เซนต์กว่า)
การเก็งกำไรครั้งนี้เป็นการเก็งกำไรจากงบที่ว่า ไตรมาท4ทาง7-11จะไม่เอาบ.ย่อย(โลตัสเมืองจีน)มารวมในงบ ทำให้กำไรจะก้าวกระโดด แต่หลังจากประกาศงบยังคงยึดหลักรวมงบเหมือนเดิมผมก็ทยอยขาย และตั้งใจว่าเราควรหยุดการกระทำที่เป็นนักเก็งกำไรรายไตรมาทของปีนี้ไว้ได้แล้ว เพราะถ้าผมไม่เปลี่ยนพฤติกรรมอันผิดศิลธรรม ผิดจรรยาบรรณของVIแล้ว ซักวันผมคงแปลงร่างเป็นแมงเม่าดีๆนี่เอง
เมื่อเริ่มกำเงินสด ความโลภเริ่มมาแทนที่ความกลัวครับ
ความโลภที่เกิดขึ้นในจิตใจผมตอนนั้นมันหึกเหิมมาจากปี49ผมกำไรเกิน150%ทำให้ความคาดหวังที่อยากจะได้มากๆเท่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อเริ่มเสียเงินไปช่วงที่ขายขาดทุนไปช่วงแรก เลยอยากจะได้คืนโดยเร็ว ทำให้ผมเริ่มออกนอกกรอบของความรู้ของผมเอง ผมเริ่มเสี่ยงมากขึ้นและเทรดบ่อยขึ้น เพื่อที่จะทำให้พอร์ตของผมมันโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
หุ้นแต่ละตัวที่เลือกจะเลือกเก็งกำไรรายไตรมาท หุ้นที่เลือกก็ไม่ใช่หุ้นไม่ดี เพียงแต่ผมไม่รู้มูลค่าที่แท้จริงของมัน ทำให้ไม่มีความมั่นใจตอนราคาหุ้นมันลดลง(อาจขายทิ้งหรือไม่ได้ซื้อเพิ่ม)หรือเวลาหุ้นขึ้นก็รีบขายก่อนเวลา(อย่างแมงเม่าทั่วไป) ที่ผมจะให้เป็นกรณีศึกษาก็มี4ตัวครับ
ปล.ขอบอกก่อนว่าผมไม่ได้ชี้นำราคาหุ้นทั้งสี่ตัว เพราะเป็นเรื่องอดีตที่ผ่านมาแล้ว และไม่ใช่หุ้นไม่ดีเพียงแต่นอกกรอบความรู้ผมเท่านั้นเอง และที่สำคัญราคาที่ผมซื้อและขายก็เมื่อปลายเดือนกพ.ครับ ไม่ใช่ตอนนี้
สองตัวแรกก็AITกับSTPIครับ ตัวนี้สาเหตุที่ซื้อก็เพราะเห็นว่า
1ราคาถูกดี
2เทรนธุรกิจน่าจะดี
3มีเพื่อนๆVIติดตามหาข้อมูลกันมาก คิดว่าคงน่าเชื่อถือได้
แต่พอถือไปซักระยะ ราคาหุ้นก้เริ่มต่ำกว่าทุน ความไม่มั่นใจก็เข้ามาแทนที่ตัวเองสำหรับสองตัวนี้เพราะคำถามที่ผมถามตัวเองเกี่ยวกับหุ้นสองตัวนี้แล้วตอบไม่ได้ก็มี
1สามารถคำนวนหามูลค่าบริษัทได้หรือไม่ สรุปว่าไม่ได้เลย เพราะไม่รู้แน่นอนแม้กระทั่งมาร์จิ้นและรายได้ในอนาคต
2ผู้บริหารเคลียร์หรือเปล่า สรุปว่ายังหาคำตอบให้ตนเองไม่ได้เช่นกัน
จนแล้วจนรอดเพื่อความสบายใจ(ตามหลักพี่มน) ก็ขายไปสองตัวนี้ขาดทุนไปเฉลี่ยตัวละประมาณ10%ครับ
*ขอย้ำทุกตัวว่าไม่ใช่หุ้นไม่ดี แต่เพียงเพราะขอบข่ายความรู้ผมไม่ถึง ทำให้ไม่มั่นใจในการถือครอง
ตัวที่สามAH ตัวนี้ขาดทุนไม่เยอะหรอกครับ น่าจะไม่เกิน5% แต่ก็เป็นการเก็งชนิดหนึ่งครับ ผมเก็งกำไรตัวนี้จากการควบรวมกับKPNที่น่าจะประกาศงบในปีนี้ แต่ข้อที่ผมผิดก็คือ ไม่เคยไปเรียนรู้ธุรกิจของทั้งAHและKPNแบบละเอียดเลย ตอนซื้อคิดแค่ว่ามันน่าจะดีขึ้นจากการควบรวมเท่านั้นเอง
ตัวสุดท้าย เป็นตัวที่ทำให้ผมขาดทุนไปมากที่สุดตั้งแต่เคยเล่นหุ้นมา คือขาดทุนรวมค่าเทรดไปสามแสนกว่า(ทั้งๆที่ลบแค่สามเปอร์เซนต์กว่า)
การเก็งกำไรครั้งนี้เป็นการเก็งกำไรจากงบที่ว่า ไตรมาท4ทาง7-11จะไม่เอาบ.ย่อย(โลตัสเมืองจีน)มารวมในงบ ทำให้กำไรจะก้าวกระโดด แต่หลังจากประกาศงบยังคงยึดหลักรวมงบเหมือนเดิมผมก็ทยอยขาย และตั้งใจว่าเราควรหยุดการกระทำที่เป็นนักเก็งกำไรรายไตรมาทของปีนี้ไว้ได้แล้ว เพราะถ้าผมไม่เปลี่ยนพฤติกรรมอันผิดศิลธรรม ผิดจรรยาบรรณของVIแล้ว ซักวันผมคงแปลงร่างเป็นแมงเม่าดีๆนี่เอง
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
คำสารภาพ
โพสต์ที่ 4
ภาค3 บทส่งท้าย
ความผิดพลาดที่ผ่านมาประมาณ60วันช่วงต้นปีของผมนั้น ถ้าคิดเป็นค่าเสียโอกาสที่ได้ขายหุ้นราคาต่ำไป30%ไปในรอบแรกและการขายขาดทุนหุ้นที่เราไม่รู้จริงไปในความโลภในรอบที่สอง รวมๆกันก็น่าจะราวๆเกือบล้านครับ แต่ผมคิดว่าถ้านี่เป็นบทเรียนที่ผมเจ็บแล้วจำ และสามารถช่วยให้คนอื่นๆไม่ต้องมาเจ็บแบบผมก็คุ้มครับ และบทเรียนที่ผมได้มาก็คือ
1เราต้องไม่ไปออกศึกบนสนามรบที่เราไม่รู้จัก เพราะถ้าเราไม่รู้เขา ยังไงเราก็มีโอกาสแพ้ และในเมื่อผมสามารถสร้างสนามรบที่ผมรู้พื้นที่อย่างทะลุปรุโปร่ง เราก็สามารถสร้างกลยุทธ์รับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ในเมื่อรู้เรารู้เขาโอกาสชนะก็มีมากขึ้น และที่สำคัญผมสามารถชนะเขาโดยวิธีนี้มาสามปีแล้วแล้วทำไมไม่ทำต่อไป
*การสร้างสนามรบของผมก็เปรียบเสมือนการสร้างขอบเขตของการเรียนรู้ จงเรียนรู้ธุรกิจที่เราจะลงทุนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จงอย่ามักง่ายในการลงทุน
2จงมีสติ เพื่อควบคุมกิเลส เมื่อสติผมเริ่มกลับมาหาเหตุและผล ปัญญาก็เกิด ความกลัวและความโลภก็เริ่มหายไป เมื่อต้นเดือนมี.ค ผมก็ยอมปรับพอร์ตอีกครั้งโดยใช้สติ และขายทุกตัวที่ผมคิดว่าผมไม่รู้จริง และจะซื้อเพิ่มเมื่อรู้ว่าจะกำไรเมื่อซื้อเท่านั้น
3จงอย่านอกรอบข่ายความรู้ อย่าขาดทุนและอย่าขาดทุน
ปล.บทละครเรื่องนี้ที่จริงผมมีกุนซือที่ปรึกษาอยู่หลังฉากถึง3คนคือ
พี่มนตรีคอยตักเตือนถึงเรื่องการเก็งกำไรรายไตรมาสอยู่เสมอๆ
พี่หมอสามัญชนคอยเตือนสติเรื่องความเชื่อในเรื่องต่างๆ
คุณลูกอิสานคอยเตือนสติเรื่องเวลามีpanicจากตลาดหุ้น
ขอขอบคุณมาณ.ที่นี้ด้วยนะครับ
และที่เคยพูด(ตอนสติกลับมาแล้ว)กับพี่หมอสามัญชนไว้ตอนปรับพอร์ตตอนต้นเดือนมี.ค โดยไม่กลัวการประท้วงตามหมอดูทักไว้ว่า ประสบการณ์ครั้งนี้ในเรื่องหมอดู คงจะสอนผมไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
เพราะถ้าเป็นไปตามหมอดูเขาทักไว้ แล้วคราวหน้าผมจะซื้อหุ้นทุกครั้งผมจะไม่ได้ต้องโทรไปถามหมอดูทุกครั้งเหรอ คำตอบที่ได้คือผมคงกลายเป็นพวกซื้อดวงมากกว่าการลงทุน
และถ้าไม่ถูกผมก็คงจะจำไว้ว่า หมอดูในอดีตถึงจะแม่นขนาดไหน ก็ไม่ได้บ่งบอกว่าอนาคตจะแม่นเหมือนเดิม เชื่อในหลักอนิจจังของพระธรรมดีกว่า
ส่วนปอดผมตอนนี้น่ะเหรอครับ ตัวที่แดงอยู่เมื่อเทียบกับต้นปี ก็สบายใจครับเพราะดูแต่ผลกำไรบริษัทเป็นหลัก และตอนนี้ปอดรวมก็ลบไม่ถึงเปอร์เซนต์ครับ
เป้าหมายปลายปีเหรอครับ หวังไว้ซัก15%ก็พอแล้วครับ ไม่โลภเหมือนเก่า
ส่วนใครที่ได้ปรึกษาผมตอนต้นๆปี และผมบอกๆแนวปฎิบัติที่ไม่นอกกรอบไปปฎิบัติแล้วได้ผลดี
แบบเพื่อนผม ถ้ามันได้เข้ามาอ่านมันคงจะขำหรือเสียกำลังใจไปไม่ใช่น้อยว่าคนแนะนำยังทำ(มันก็ยังขายแล้วดันบอกให้ตูทำอีกอย่าง) ผมก็อยากให้คิดกลับกันนะครับว่า แสดงว่าเอ็งเก่งกว่าข้าแล้วดิ แล้วยังไงคราวหน้า ข้าขอโทรไปปรึกษาบ้างหล่ะนะทีนี้ 555
ความผิดพลาดที่ผ่านมาประมาณ60วันช่วงต้นปีของผมนั้น ถ้าคิดเป็นค่าเสียโอกาสที่ได้ขายหุ้นราคาต่ำไป30%ไปในรอบแรกและการขายขาดทุนหุ้นที่เราไม่รู้จริงไปในความโลภในรอบที่สอง รวมๆกันก็น่าจะราวๆเกือบล้านครับ แต่ผมคิดว่าถ้านี่เป็นบทเรียนที่ผมเจ็บแล้วจำ และสามารถช่วยให้คนอื่นๆไม่ต้องมาเจ็บแบบผมก็คุ้มครับ และบทเรียนที่ผมได้มาก็คือ
1เราต้องไม่ไปออกศึกบนสนามรบที่เราไม่รู้จัก เพราะถ้าเราไม่รู้เขา ยังไงเราก็มีโอกาสแพ้ และในเมื่อผมสามารถสร้างสนามรบที่ผมรู้พื้นที่อย่างทะลุปรุโปร่ง เราก็สามารถสร้างกลยุทธ์รับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ในเมื่อรู้เรารู้เขาโอกาสชนะก็มีมากขึ้น และที่สำคัญผมสามารถชนะเขาโดยวิธีนี้มาสามปีแล้วแล้วทำไมไม่ทำต่อไป
*การสร้างสนามรบของผมก็เปรียบเสมือนการสร้างขอบเขตของการเรียนรู้ จงเรียนรู้ธุรกิจที่เราจะลงทุนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จงอย่ามักง่ายในการลงทุน
2จงมีสติ เพื่อควบคุมกิเลส เมื่อสติผมเริ่มกลับมาหาเหตุและผล ปัญญาก็เกิด ความกลัวและความโลภก็เริ่มหายไป เมื่อต้นเดือนมี.ค ผมก็ยอมปรับพอร์ตอีกครั้งโดยใช้สติ และขายทุกตัวที่ผมคิดว่าผมไม่รู้จริง และจะซื้อเพิ่มเมื่อรู้ว่าจะกำไรเมื่อซื้อเท่านั้น
3จงอย่านอกรอบข่ายความรู้ อย่าขาดทุนและอย่าขาดทุน
ปล.บทละครเรื่องนี้ที่จริงผมมีกุนซือที่ปรึกษาอยู่หลังฉากถึง3คนคือ
พี่มนตรีคอยตักเตือนถึงเรื่องการเก็งกำไรรายไตรมาสอยู่เสมอๆ
พี่หมอสามัญชนคอยเตือนสติเรื่องความเชื่อในเรื่องต่างๆ
คุณลูกอิสานคอยเตือนสติเรื่องเวลามีpanicจากตลาดหุ้น
ขอขอบคุณมาณ.ที่นี้ด้วยนะครับ
และที่เคยพูด(ตอนสติกลับมาแล้ว)กับพี่หมอสามัญชนไว้ตอนปรับพอร์ตตอนต้นเดือนมี.ค โดยไม่กลัวการประท้วงตามหมอดูทักไว้ว่า ประสบการณ์ครั้งนี้ในเรื่องหมอดู คงจะสอนผมไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
เพราะถ้าเป็นไปตามหมอดูเขาทักไว้ แล้วคราวหน้าผมจะซื้อหุ้นทุกครั้งผมจะไม่ได้ต้องโทรไปถามหมอดูทุกครั้งเหรอ คำตอบที่ได้คือผมคงกลายเป็นพวกซื้อดวงมากกว่าการลงทุน
และถ้าไม่ถูกผมก็คงจะจำไว้ว่า หมอดูในอดีตถึงจะแม่นขนาดไหน ก็ไม่ได้บ่งบอกว่าอนาคตจะแม่นเหมือนเดิม เชื่อในหลักอนิจจังของพระธรรมดีกว่า
ส่วนปอดผมตอนนี้น่ะเหรอครับ ตัวที่แดงอยู่เมื่อเทียบกับต้นปี ก็สบายใจครับเพราะดูแต่ผลกำไรบริษัทเป็นหลัก และตอนนี้ปอดรวมก็ลบไม่ถึงเปอร์เซนต์ครับ
เป้าหมายปลายปีเหรอครับ หวังไว้ซัก15%ก็พอแล้วครับ ไม่โลภเหมือนเก่า
ส่วนใครที่ได้ปรึกษาผมตอนต้นๆปี และผมบอกๆแนวปฎิบัติที่ไม่นอกกรอบไปปฎิบัติแล้วได้ผลดี
แบบเพื่อนผม ถ้ามันได้เข้ามาอ่านมันคงจะขำหรือเสียกำลังใจไปไม่ใช่น้อยว่าคนแนะนำยังทำ(มันก็ยังขายแล้วดันบอกให้ตูทำอีกอย่าง) ผมก็อยากให้คิดกลับกันนะครับว่า แสดงว่าเอ็งเก่งกว่าข้าแล้วดิ แล้วยังไงคราวหน้า ข้าขอโทรไปปรึกษาบ้างหล่ะนะทีนี้ 555
แก้ไขล่าสุดโดย naris เมื่อ ศุกร์ ก.ค. 31, 2009 5:13 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
- Raphin Phraiwal
- Verified User
- โพสต์: 1342
- ผู้ติดตาม: 0
คำสารภาพ
โพสต์ที่ 5
ขอบคุณครับที่มาถ่ายทอดประสบการณ์
รักในหลวงครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
คำสารภาพ
โพสต์ที่ 8
ขอบคุณ คุณนริศมากครับ
ผมคิดว่าเป็นบทเรียนสำหรับเพื่อน ๆ ได้เป็นอย่างดีครับ
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับบทเรียนตรงนี้ก็คือ เรารู้ตัวว่าเราผิดพลาดเพราะอะไร เอาสิ่งที่พลาดนั้นเป็นบทเรียนสอนวิชาการลงทุนให้เราประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในระยะยาวครับ เอาบทเรี่ยนมาปรับปรุงการลงทุนเพื่อลดข้อผิดพลาดครับ ชีวิตการลงทุนไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบครับ แต่มีหนามนิด ๆ เข้ามารบกวนตลอดการเดินทางครับ
ผมเชื่อว่า บทเรียนตรงนี้จะทำให้คุณนริศเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จครับ
แล้วอย่าลืมมาบอกเล่าประสบการณ์ต่อด้วยนะครับ
แต่ประเด็นวิเคราะห์หุ้นของคุณนริศที่ผ่านมา ผมคิดว่าได้ประโยชน์มากนะครับ ผมก็ได้เรียนรู้วิเคราะห์การวิเคราะห์เพิ่มเติมเอาไปปรับปรุงการวิเคราะห์ที่รอบคอบมากขึ้นด้วยครับ
ขอเป็นกำลังใจ และอยากฟังเรื่องการลงทุนในอนาคตที่ประสบความสำเร็จบ้างนะครับ หรือถ้าจะไม่รบกวนเกินไป เพราะรู้ว่าต้องใช้เวลาเรียบเรียงเรื่องราวเป็นอย่างมาก อยากให้เล่าเรื่องการลงทุนที่ประสบความสำเร็จก่อนหน้านี้ด้วยครับ จะได้เปรียบเทียบกันด้วยครับ
ในห้องเรียนยุทธจักรแห่งนี้ ก็มีเรื่องราวของชีวิตนักลงทุนที่มีบทเรียนที่ควรศึกษา และผมคิดว่าเป็นความกล้าหาญอย่างมาก ที่นักลงทุนคนหนึ่งจะกล้าที่จะแสดงออกถึงบทเรียนความผิดพลาดครั้งนี้ครับ ถ่ายทอดประสบการณ์บทเรียนที่สำคัญอย่างมากครับ ผมจะเอาไว้เตือนสติสอนตนเองด้วยครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ :)
ผมคิดว่าเป็นบทเรียนสำหรับเพื่อน ๆ ได้เป็นอย่างดีครับ
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับบทเรียนตรงนี้ก็คือ เรารู้ตัวว่าเราผิดพลาดเพราะอะไร เอาสิ่งที่พลาดนั้นเป็นบทเรียนสอนวิชาการลงทุนให้เราประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในระยะยาวครับ เอาบทเรี่ยนมาปรับปรุงการลงทุนเพื่อลดข้อผิดพลาดครับ ชีวิตการลงทุนไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบครับ แต่มีหนามนิด ๆ เข้ามารบกวนตลอดการเดินทางครับ
ผมเชื่อว่า บทเรียนตรงนี้จะทำให้คุณนริศเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จครับ
แล้วอย่าลืมมาบอกเล่าประสบการณ์ต่อด้วยนะครับ
แต่ประเด็นวิเคราะห์หุ้นของคุณนริศที่ผ่านมา ผมคิดว่าได้ประโยชน์มากนะครับ ผมก็ได้เรียนรู้วิเคราะห์การวิเคราะห์เพิ่มเติมเอาไปปรับปรุงการวิเคราะห์ที่รอบคอบมากขึ้นด้วยครับ
ขอเป็นกำลังใจ และอยากฟังเรื่องการลงทุนในอนาคตที่ประสบความสำเร็จบ้างนะครับ หรือถ้าจะไม่รบกวนเกินไป เพราะรู้ว่าต้องใช้เวลาเรียบเรียงเรื่องราวเป็นอย่างมาก อยากให้เล่าเรื่องการลงทุนที่ประสบความสำเร็จก่อนหน้านี้ด้วยครับ จะได้เปรียบเทียบกันด้วยครับ
ในห้องเรียนยุทธจักรแห่งนี้ ก็มีเรื่องราวของชีวิตนักลงทุนที่มีบทเรียนที่ควรศึกษา และผมคิดว่าเป็นความกล้าหาญอย่างมาก ที่นักลงทุนคนหนึ่งจะกล้าที่จะแสดงออกถึงบทเรียนความผิดพลาดครั้งนี้ครับ ถ่ายทอดประสบการณ์บทเรียนที่สำคัญอย่างมากครับ ผมจะเอาไว้เตือนสติสอนตนเองด้วยครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ :)
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 0
คำสารภาพ
โพสต์ที่ 9
การเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่น ถือว่าเป็นการเรียนลัด ต้องขอบคุณ คุณนริศมากครับที่มาถ่ายทอดประสบการณ์ของตัวเอง
ให้เพื่อน ๆ ได้เป็นอย่างดีครับ
ให้เพื่อน ๆ ได้เป็นอย่างดีครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 511
- ผู้ติดตาม: 0
คำสารภาพ
โพสต์ที่ 11
เป็นบทความที่ดีมากๆครับ
ขอบคุณคุณ naris ที่มาแบ่งปันความรู้ให้ครับ
ขอบคุณคุณ naris ที่มาแบ่งปันความรู้ให้ครับ
VI ฝึกหัด
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
- Little Boy
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1318
- ผู้ติดตาม: 0
คำสารภาพ
โพสต์ที่ 18
อ่านข้อความพี่นริศแล้ว รู้สึกเหมือนคล้ายๆ กำลังส่องกระจกอยู่เลยแฮะ
ความรู้..อาจมีขอบเขตจำกัด แต่จินตนาการ..ไร้ขีดจำกัด
-
- Verified User
- โพสต์: 898
- ผู้ติดตาม: 0
คำสารภาพ
โพสต์ที่ 19
P'naris might need another loss of 10 million to get rid of
khon-nha-kang krub. This is chill-chill for you. :P
khon-nha-kang krub. This is chill-chill for you. :P
bid please!!
- Akajon
- Verified User
- โพสต์: 530
- ผู้ติดตาม: 0
คำสารภาพ
โพสต์ที่ 20
Naris's Trilogy
เป็นประสบการณ์ที่ดี (ไม่ดีในแง่การลงทุน) เสียโอกาสเพราะความเชื่อ แต่ก็ทำให้ได้เรียนรู้มากขึ้น ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ครับ
สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น
สิบตาเห็น ไม่เท่าสัมผัสกับมันเองโดยตรง
ส่วนเรื่องความศรัทธา ความเชื่อ และความงมงาย ต้องแยกกันให้ออก
ความศรัทธาเป็นสิ่งดี คนเราศรัทธากันได้ นับถือกันได้
แต่อย่าเชื่อในสิ่งที่เราศรัทธา จนไร้ซึ่งเหตุผล ต้องมีสติตลอด
ถ้าเชื่อจน งงมงายแล้ว ท้ายที่สุดจะขาดสติ และการยั้งคิด ทำอะไรขาดเหตุและผล
เป็นประสบการณ์ที่ดี (ไม่ดีในแง่การลงทุน) เสียโอกาสเพราะความเชื่อ แต่ก็ทำให้ได้เรียนรู้มากขึ้น ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ครับ
สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น
สิบตาเห็น ไม่เท่าสัมผัสกับมันเองโดยตรง
ส่วนเรื่องความศรัทธา ความเชื่อ และความงมงาย ต้องแยกกันให้ออก
ความศรัทธาเป็นสิ่งดี คนเราศรัทธากันได้ นับถือกันได้
แต่อย่าเชื่อในสิ่งที่เราศรัทธา จนไร้ซึ่งเหตุผล ต้องมีสติตลอด
ถ้าเชื่อจน งงมงายแล้ว ท้ายที่สุดจะขาดสติ และการยั้งคิด ทำอะไรขาดเหตุและผล
-
- Verified User
- โพสต์: 38
- ผู้ติดตาม: 0
คำสารภาพ
โพสต์ที่ 23
พี่นริศ สู้ๆ
ศาสนาพุทธก็มีการสารภาพผิดครับ ที่พระท่านไปสารภาพในโบส เค้าเรียกว่าอะไรนะผมจำไม่ได้ ปาวรณา รึเปล่าไม่แน่ใจ รู้สึกทำหลังจากออกพรรษาน่ะครับ
หลวงพ่อจรัญ ผมจำได้คุ้นๆว่า ปี 53-54 ไม่ใช่เหรอครับ
จะมีภาค 4 มั้ยครับอิอิ :D
ศาสนาพุทธก็มีการสารภาพผิดครับ ที่พระท่านไปสารภาพในโบส เค้าเรียกว่าอะไรนะผมจำไม่ได้ ปาวรณา รึเปล่าไม่แน่ใจ รู้สึกทำหลังจากออกพรรษาน่ะครับ
หลวงพ่อจรัญ ผมจำได้คุ้นๆว่า ปี 53-54 ไม่ใช่เหรอครับ
จะมีภาค 4 มั้ยครับอิอิ :D
"ไม่มีวาสนาอยู่ใกล้ไม่ได้พบ มีวาสนาอยู่ไกลได้รู้จัก"
- energizer
- Verified User
- โพสต์: 505
- ผู้ติดตาม: 0
คำสารภาพ
โพสต์ที่ 24
[quote="Pupto"]พี่นริศ สู้ๆ
ศาสนาพุทธก็มีการสารภาพผิดครับ ที่พระท่านไปสารภาพในโบส เค้าเรียกว่าอะไรนะผมจำไม่ได้ ปาวรณา รึเปล่าไม่แน่ใจ รู้สึกทำหลังจากออกพรรษาน่ะครับ
หลวงพ่อจรัญ ผมจำได้คุ้นๆว่า ปี 53-54 ไม่ใช่เหรอครับ
จะมีภาค 4 มั้ยครับอิอิ
ศาสนาพุทธก็มีการสารภาพผิดครับ ที่พระท่านไปสารภาพในโบส เค้าเรียกว่าอะไรนะผมจำไม่ได้ ปาวรณา รึเปล่าไม่แน่ใจ รู้สึกทำหลังจากออกพรรษาน่ะครับ
หลวงพ่อจรัญ ผมจำได้คุ้นๆว่า ปี 53-54 ไม่ใช่เหรอครับ
จะมีภาค 4 มั้ยครับอิอิ
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
คำสารภาพ
โพสต์ที่ 27
มานั่งอ่านได้ความรู้และเตือนใจตัวเองมากเลยครับ ...
ช่วงต้นปีที่ผ่านมาผมเองก็เป็นเหมือนกัน คืออยากได้ผลตอบแทนเยอะๆเหมือนปีที่แล้ว ก็เลยเข้าซื้อหุ้นที่ตัวเองยังไม่ได้รู้จักธุรกิจเค้าดีมากพอ ซื้อหุ้นหลายๆตัวเพราะเห็นแค่ว่า pe มันต่ำดี
ตอนนี้พยายามปรับ port ใหม่ เลือกเฉพาะหุ้นที่เราศึกษามาอย่างดี มีโอกาสได้คุยกับผู้บริหาร แม้ port จะยังปรับไม่เสร็จ แต่ตอนนี้ก็เข้าที่เข้าทางพอสมควรแล้วครับ
มาขอบคุณพี่นริศอีกทีที่ช่วยมาเตือนสติน้องๆ
ช่วงต้นปีที่ผ่านมาผมเองก็เป็นเหมือนกัน คืออยากได้ผลตอบแทนเยอะๆเหมือนปีที่แล้ว ก็เลยเข้าซื้อหุ้นที่ตัวเองยังไม่ได้รู้จักธุรกิจเค้าดีมากพอ ซื้อหุ้นหลายๆตัวเพราะเห็นแค่ว่า pe มันต่ำดี
ตอนนี้พยายามปรับ port ใหม่ เลือกเฉพาะหุ้นที่เราศึกษามาอย่างดี มีโอกาสได้คุยกับผู้บริหาร แม้ port จะยังปรับไม่เสร็จ แต่ตอนนี้ก็เข้าที่เข้าทางพอสมควรแล้วครับ
มาขอบคุณพี่นริศอีกทีที่ช่วยมาเตือนสติน้องๆ
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
-
- Verified User
- โพสต์: 562
- ผู้ติดตาม: 0
คำสารภาพ
โพสต์ที่ 28
ขอบคุณพี่นริศ มากครับ ให้บทเรียนและความรุ้กับน้องๆได้มากเลยครับ
ตัว stpi นี่ทำชาว vi ขาดทุนกันหลายคนเลยแหะ
ตอนแรกผมก็ซื้อไว้ตอน4บาท@10000หุ้น (ไม่กล้าเล่นมาก) ถือไปสองวันรู้สึกไม่สบายใจก็ขายเหลือ 100 หุ้น ยังดีที่ขาดทุนแค่ค่านายหน้า
แต่ ปีที่แล้วก็แอบเล่นหุ้นปั่นไปทีนึงเหมือนกันโดนไปหลายอยู่ ปีนี้หวังว่าจะไม่ทำผิดศีลเหมือนเดิมอีกครับ
ตัว stpi นี่ทำชาว vi ขาดทุนกันหลายคนเลยแหะ
ตอนแรกผมก็ซื้อไว้ตอน4บาท@10000หุ้น (ไม่กล้าเล่นมาก) ถือไปสองวันรู้สึกไม่สบายใจก็ขายเหลือ 100 หุ้น ยังดีที่ขาดทุนแค่ค่านายหน้า
แต่ ปีที่แล้วก็แอบเล่นหุ้นปั่นไปทีนึงเหมือนกันโดนไปหลายอยู่ ปีนี้หวังว่าจะไม่ทำผิดศีลเหมือนเดิมอีกครับ