Identify foreign investors by Temple Boxing School approach
-
- Verified User
- โพสต์: 1734
- ผู้ติดตาม: 0
Identify foreign investors by Temple Boxing School approach
โพสต์ที่ 1
ขอขอบคุณคุณทวนลมเรโช ที่ช่วยไปขุดกระทู้เก่าที่เคยโพสไว้
ก็เลยขอเอามาฉายซ้ำอีกรอบ ในเวอสั้นพาดหัวแบบภาษาปะกิต
ตัดแปะชื่อสำนักเป็นภาษาปะกิตซะหน่อย
เผื่อพวกต่างชาติ จะเชิญไปเป็นผู้บรรยายพิเศษ
แฮะ แฮะ ความจริงก็คือ
ผมยังไม่เคยรู้จักนักลงทุนต่างชาติสักคน
"ต่างชาติ ต่างชาติและต่างชาติ"
โอ้ ช่างเป็นคำที่ทำให้พวกเราชาวรายย่อยรายจุกจิก
เกิดอาการ อยากๆ เบี่อๆ เสียนี่กระไร
แล้วเราก็ทำกับต่างชาติแบบ
จูบๆตบๆ ไปตามจินตนาการสำคัญกว่าความรู้
ของไอนส์ไตน์ เอ๊ยของเรา
เวลาอยาก ก็จูบปากเชิญชวน
สองมือล้วงกระเป๋า สองเท้าก้าวเข้ามาลงทุนซิฮะ
ประเทศเดี้ยนเปิดเสรีทางการเงิน
และเสรีทางการปั่นหุ้น ชอร์ตหุ้น แทงไฮโลตัชนีห้าสิบแล้วค่ะ
เชิญเข้ามาลงทุนได้"
แต่ที่คิดอยู่ในใจ มิกล้าเอื้อนเอ่ยวจี กลัวเสียมารยาทก็คือ
"KU อยากแด็กส์เงินพวกมืงว่ะ" ฮาๆๆๆ
แต่พอเวลาเราเบื่อๆ เพราะรู้สึกว่าไอ้พวกต่างชาติ
พอชวนมันเข้ามาแล้ว ดันหัวหมอ
ไม่เห็นทำคุณประโยชน์อะไรให้กับกระเป๋า ku เลย
ก็จะด่าแบบสาดเสียเทเสีย
ไอ้พวกคิดร้ายทำลายชาติ
ไอ้คุณต่างชาติอ่านแล้วก็คงหัวเราะ คิดในใจ
"ก็ชาติของKuที่ไหนหละ อยากเชิญชวนKuเข้ามาทำไมว่ะ"
เมื่อข้าพเจ้าไม่ได้เป็นนักลงทุนต่างชาติ
ข้าพเจ้าก็ต้องใช้วิธีเอาใจเขา มาใส่ใจเรา แล้วมั่วเอา
ก็ได้หลักเกิน หรือไม่ก็หลักการมาดังนี้
๑.นักลงทุนต่างชาติคือใคร
ไม่น่าถามเลย ก็นักลงทุนที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทยนั่นแหละ
(พ่อของข้าพเจ้าก็เลยกลายเป็นนักลงทุนต่างชาติ
ด้วยความกิ๋บเก๋แบบไม่ได้ตั้งใจ เพราะยังเป็นต่างด้าว
ซึ่งข้าพเจ้าก็เอาความเป็นนักลงทุนต่างชาติของพ่อ
มาขายหุ้นบัวหลวงกระดานนอก ซื้อบัวหลวงกระดานใน
กินส่วนต่างหุ้นละ 100 บาทมาแล้ว ฮาๆๆ)
ลองมาสมมติกันว่าลาว เขมร เวียดนามมีตลาดหุ้นครบทุกประเทศ
พอเราตามเข้าไปตะลุมบอนในตลาดหุ้นลาว
เขาก็ต้องเรียกพวกเราว่า
ไอ้พวกต่างซาด บักซิหยาม
เวลาเราอ่านเจอนักลงทุนลาวพูดว่า
"พวกมันซิคิดมาเอาเงินข้อย
บ่ได้เห็นแก่ประเทดซ่าดเฮาดอก"
เราในฐานะนักลงทุนต่างชาติของลาว
ก็ต้องคิดในใจว่า
"เว้ยเฮ้ย เรื่องอะไรkuต้องไปรักชาติมืงด้วยวะ
มากวักมือเรียกเข้าไปเองนี่หว่า ช่วยไม่ได้ "
ก็คงเหมือนกับต่างชาติในตลาดหุ้นไทยนั่นแหละ
ต่างชาติก็ต้องคิดแบบต่างชาติซิ
ใครจะมาคิดแบบที่พี่ไทยคิดกันเล่า
เขาเรียกว่า "กงเกวียน กำเกวียน"
หรือคิดเอาแต่ได้นั่นแหละ
๒. นักลงทุนต่างชาติมีกี่สปีซี่
สำนักเท็มเปิ้ลบ๊อกซิ่งเดา เอ๊ยคิดว่ามี ๒ สปี่ซี่ ๔ ซับสปี่ซี่
๑ สปี่ซี่ศิลปินเดี่ยว ข้ามาคนเดียวแต่อาจจะมีพวก ฮาๆๆ
มี ๒ ซับสปี่ซี่
ก ศิลปินเดี่ยวในเอเซีย
ที่เจ๋งสุดๆคือพวกไต้หวัน ฮ่องกง
พวกนี้มาสไตล์ไฟท์เตอร์
ชกดุดัน แด็กส์ด่วน เสือปืนไว ใจเกินร้อย
เจ๊งก็หาเงินมาเล่นใหม่
ได้ก็ขนออกไปเล่นบ่อนอื่นต่อ
ถ้าจัดอันดับการแด็กส์
"ตัวเล็กกินไก่ ตัวใหญ่กินช้าง ตัวกลางกินหมู"
ศิลปินเดี่ยวเหล่านี้ ก็คงอยู่ชั้นกินไก่ กับกินหมูเท่านั้น
ข ศิลปินเดี่ยวนอกเอเซีย
ก็ที่พวกเราบักซิหยาม เรียกเขาว่าบักสีดานั่นแหละ
ไม่ต้องอธิบายมาก
พวกนี้มักจะลงทุนแบบหนอมแน้มและนุ่มนิ่ม
แต่เวลาต้องการจะแด็กส์ไม่ด่วน
พี่แกมักจะฟาดทีเดียวเป็นพันเปอร์เซนต์แล้วเลิก
ส่วนใหญ่มาสไตล์ วีไอ แต่ใจเกินร้อย
ทุ่มไม่อั้น
ค่อยๆเก็บหุ้นที่ไม่ใครสนใจ
ไม่มีสภาพคล่องคอ
เป็นหุ้นที่มีพีอีสูง พีบีวีต่ำ แต่ผลประกอบการเริ่มกลับหลังหัน
พวกนี้จะแด็กส์ด่วนตูมเดียว รายย่อยหงายหลัง
เมื่อหุ้นมีราคาพีอีต่ำ พีบีวีสูง
ตัวอย่างเช่น ไทเก้น บราเดอร์ส แอนด์โก
ที่ทุ่มทุนสร้างเรื่อง TTA จนโกยกำไรเป็นพันล้าน เป็นต้น
๒ ศิลปินหมาหมู่ เอ๊ยหมู่
ศิลปินหมู่ หรือที่ข้าพเจ้ามักเรียกว่า
"จอมยุทธเงินลงขัน" หรือที่ชาวบ้านเขาเรียกว่า
"กองทุนรวย ชาวบ้านจน" เอ๊ย "กองทุนรวม"
จะมี ๒ ซับสปี่ซี่เช่นกันคือ
ก .จอมยุทธเงินลงขันต่างชาติสไตล์บ็อกเซอร์
พวกนี้มาฟอร์มเดียวกับพวกศิลปินเดี่ยวนอกเอเซีย
มาลงทุนแบบหนอมแน้มและนุ่มนิ่ม
และแด็กส์ไม่ด่วนแบบโหดร้ายและเกรี้ยวกราด
จัดได้ว่าเป็นนักลงทุนแนว
ดูแรงกรรมของผลประกอบการเป็นหลักใหญ่
พวกนี้ไม่ค่อยอันตรายในระยะสั้น
สำหรับพวกรายย่อยรายจุกจิกท้องถิ่น
แช่เงินไว้นานๆ เหมือนกับไร้พิษสง
ดูเหมือนกับมันไม่ใช่เงินไร้พรมแดน
ขอข้ามต่างชาติพวกนี้ไป
เพราะไม่ใช่ศูนย์หน้าตัวเป้า
ไม่ค่อยอันตรายในระยะสั้น
แต่ไอ้ศิลปินหมู่ซับสปี่ซี่สุดท้ายนี่ซิอันตรายที่สุด
ข. จอมยุทธเงินลงขันต่างชาติสไตล์อีแร้งเรียกพ่อ
ชาวบ้านเขาเรียกพวกนี้ซะกิ๋บเก๋ว่า
กองทุนปกป้องความเสี่ยงหรือ hedge fund
พวกนี้จะออกอาละวาดไปทั่วโลก
ด้วยอาวุธร้ายที่นักลงทุนท้องถิ่นไม่มีคือ................
๒ พวกนักลงทุนต่างชาติเก่งกว่านักลงทุนท้องถิ่นหรือไม่
คำตอบที่น่าชื่นใจอยู่บ้างคือ
ไม่เก่งกว่าหรอก ถ้าทุกคนมีอาวุธเท่ากัน
แต่มันน่าเจ็บใจ
ตรงที่บักสีดาโง่ๆคนนั้น
มันดันพกเอ็มสิบหกกระสุนเต็มลำกล้อง ขึ้นไกเตรียมยิง
มาสู้กับพี่ไซหมึ้งชวยเสาะ พี่เต็งพ้ง ฯลฯ
ซึ่งยืนร่ายรำสุดยอดเพลงกระบี่ไร้ใจ ไร้พ่าย ไร้โรงจำนำ
ใครจะชนะการดวล
ก็ลองนึกดูแล้วกัน
ว่าพวกพี่ๆเค้าจะชนะการดวลหรือเปล่า ฮาๆๆๆ
๓ อะไรคืออาวุธร้ายที่สุดของนักลงทุนต่างชาติ
ลองนึกถึงเราเข้าไปเล่นหุ้นในลาว เขมร เวียดนาม ดูซิครับ
อาวุธร้ายของเราก็คือ
"เงินไร้พรมแดน"
เงินนี้จะสามารถถ่ายเทไปมาได้สะดวกในสามตลาดอินโดจีน
เจ๊งในลาว ก็ไปหากำไรต่อในเขมร
เจ๊งเขมรก็ไปหากำไรต่อในเวียดนาม
ไม่มีความจำเป็นอะไรเลย
ที่เราเจ๊งในลาว แล้วเราจะทู่ซี้เล่นในลาวต่อ
ย้ายเงินไปเล่นในแหล่งที่มันยังทำกำไรให้ซิ
ผมขอเดาว่า ทุกวันนี้
รายย่อย รายจุกจิกอย่างเราๆท่านๆในตลาดหุ้นไทยส่วนใหญ่
กำลังเอา"เงินที่มีพรมแดน" ไปสู้กับ"เงินไร้พรมแดน"
ในเกมล่าส่วนเกินทุนที่เราจำกัดเวทีให้ตัวเอง
แต่ต่างชาติไม่ต้องจำกัดเวทีที่จะเล่น
สรุปแล้วต่างชาติไม่ได้เก่งกว่าคนไทย
เพียงแต่เขาได้อาวุธประจำตัวดีกว่า
๔ ยุทธศาสตร์และยุทธวิธีของพวกอีแร้งเรียกพ่อ
อย่างที่เคยเดา เอ๊ยสันนิษฐานไว้ว่า
อาวุธสำคัญของพวกกองทุนต่างชาติฯคือ
"เงินไร้พรมแดน"
เมื่อเงินมันไร้พรมแดนซะอย่าง
ตลาดต่างๆก็ย่อมไร้พรมแดนตามไปด้วย
คำว่าไร้พรมแดน
ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยนะ
อยู่ดีๆเงินจะไร้พรมแดนได้ไง
คนในประเทศนั้นๆแหละ เป็นคนทำให้มันไร้พรมแดนเอง
อย่างของบักซิหยามเรา ก็ด้วยการเปิดพรมแดนทางการเงิน
หรือเรียกกันแบบกิ๋บเก๋(อีกแล้ว)ว่า BIS
เออ อันนั้นกระผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร
รู้แต่ว่า มันกินไม่ได้แต่เท่ห์อิ๋บอ๋ายเลย
ส่วนพวกที่ไม่ยอมเท่ห์อิ๋บอ๋าย อย่างเช่น
อินเดีย กับเกาหลีใต้เมื่อสิบเจ็ดปีก่อน
ก็นั่งกระดิกขากินข้าวโพดคั่ว
ดูหนังบู๊ล้างผลาญเรื่อง black monday อย่างสบายใจ
เพราะไม่อนุญาตให้เงินลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้น
เอ พอข้าพเจ้าหวนมาคิดถึง
บรรดาบักซิหยามอย่างพวกเรา ก็พบว่า
เราก็มีแบบกินไม่ได้แต่หมดตูด เอ๊ยแต่เท่ห์เหมือนกันแฮะ
เงินไร้พรมแดนของหมู่เฮาชาวบักซิหยาม
ได้ข้ามพรมแดนไปยังปอยเปต เกาะกงทุกวัน
ถ้าพวกกองทุนต่างชาติฯมีคุณภาพคับหลอดดูดนมยูเอชที
เหมือนพวกบักซิหยามพกเงินไร้พรมแดนข้ามไปปอยเปต
ป่านนี้ เราๆท่านๆ พวกรายย่อยรายจุกจิก
คงแฮบปี้เอนดิ้งกันไปแล้ว
ส่วนนายบ่อนไทยคงเก็บค่าต๋งเพลินเลย ฮาๆๆๆๆ
แต่พอ"รู้งี้" มันก็ไม่งั้นดิ
นอกจากอาวุธร้าย "เงินไร้พรมแดน" ที่พกมาเต็มพิกัดแล้ว
พี่แร้งฯยังพกอาวุธลับตามมาด้วยอีกเป็นพะเรอเกวียน
ทั้งวิชาเทพ วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
แถมด้วยการทำให้มันเป็นข่าวดีจริงและร้ายเกินปัจจุบัน
วิชามาร ซื้อไว้แล้วเชียร์ขึ้น ขายไปแล้วเชียร์ลง
เจอเข้าไปสามเด้งทั้ง
เงินไร้พรมแดน + วิชาเทพ + วิชามาร
พี่ไทยก็ชักจะออกอาการแกว่งๆ
เตะสกัดศูนย์หน้าตัวเป้าไม่อยู่ กลัวโดนใบแดง ฮาๆๆๆ
ขณะที่"เงินมีพรมแดน"ของพี่ไทยเรา
ยังมัวงกๆหาว่าจะเล่นหุ้นตัว หมวดไหน
"เงินไร้พรมแดน"ของพี่แร้งฯเค้า
ก็กำลังงกๆหาว่าจะเข้าตลาดไหน ภูมิภาคไหนเล่นดี
พี่ไทยเราอย่างเก่งก็แค่
หุ้นตัวนี้ไม่ดี เปลี่ยนไปเล่นตัวโน้น
หมวดนี้ไม่ดี เปลี่ยนไปเล่นหมวดโน้นแทน
ส่วนพี่แร้งฯเค้าทำแบบเหมาโหลถูกกว่า
ตลาดแบบไหนดีก็เล่นตลาดนั้น
ล็อคเป้าเอาซิ ระหว่าง
ตลาดทุน ตลาดเงิน ตลาดตราสารอนุพันธ์
ถ้าตลาดทุน ไม่ดีก็ย้ายไปตลาดเงิน ฯลฯ
ถ้าประเทศนี้ไม่ดี ก็ย้ายไปประเทศโน้น
ภูมิภาคนี้ไม่ดี ก็ย้ายภูมิภาคแม่มเลยซิวะ
:oops: :oops: :oops: :oops: :oops: :oops:
อา ข้าพเจ้ามองแล้วช่างหนาวยะเยือก
กับยุทธศาสตร์และยุทธวิธีของพวกอีแร้งเรียกพ่อเป็นยิ่งนัก
นักวิเคราะห์พี่ไทยเรา ส่วนใหญ่กำลังวิเคราะห์เจาะลึก
"เงินไร้พรมแดน"
ด้วยกรอบความคิดของ
"เงินมีพรมแดน"
ก็เลยลงท้ายด้วยการคิดว่า
เดี๋ยวพวกมันก็ต้องกลับมาใหม่
รอพวกku ปั่นขึ้นไปก่อน
พอพวกเอ็งทนความเย้ายวนของเกมล่าส่วนเกินทุนไม่ได้
ก็ต้องขนเงินกลับมาแด็กส์ku เอ๊ยให้ Ku แด็กส์ซิ ฮาๆๆๆ
เฮียๆ เจ้ๆ นักวิเคราะห์เจาะลึก เจาะไข่แดงทั้งหลายขอรับ
"เงินไร้พรมแดน" มันล่าเหยื่อไปทั่วโลกนะขอรับคุณพี่ขา
มันไม่ได้จมดักดานอยู่แต่ในประเทศไทยหรอก
พี่แร้งแกฝากกระผมส่งซิกบอกว่า
"รอพวกไอแด็กส์ที่อื่นจนอิ่มดีก่อนได้ป่าว
เดี๋ยวพวกไอจะกลับมาเล่นเกมล่าส่วนเกินทุนกับพวกมืง เอ๊ยพวกยูเอง"
:evil: :evil: :evil: :evil: :evil: :evil: :evil:
ก็เลยขอเอามาฉายซ้ำอีกรอบ ในเวอสั้นพาดหัวแบบภาษาปะกิต
ตัดแปะชื่อสำนักเป็นภาษาปะกิตซะหน่อย
เผื่อพวกต่างชาติ จะเชิญไปเป็นผู้บรรยายพิเศษ
แฮะ แฮะ ความจริงก็คือ
ผมยังไม่เคยรู้จักนักลงทุนต่างชาติสักคน
"ต่างชาติ ต่างชาติและต่างชาติ"
โอ้ ช่างเป็นคำที่ทำให้พวกเราชาวรายย่อยรายจุกจิก
เกิดอาการ อยากๆ เบี่อๆ เสียนี่กระไร
แล้วเราก็ทำกับต่างชาติแบบ
จูบๆตบๆ ไปตามจินตนาการสำคัญกว่าความรู้
ของไอนส์ไตน์ เอ๊ยของเรา
เวลาอยาก ก็จูบปากเชิญชวน
สองมือล้วงกระเป๋า สองเท้าก้าวเข้ามาลงทุนซิฮะ
ประเทศเดี้ยนเปิดเสรีทางการเงิน
และเสรีทางการปั่นหุ้น ชอร์ตหุ้น แทงไฮโลตัชนีห้าสิบแล้วค่ะ
เชิญเข้ามาลงทุนได้"
แต่ที่คิดอยู่ในใจ มิกล้าเอื้อนเอ่ยวจี กลัวเสียมารยาทก็คือ
"KU อยากแด็กส์เงินพวกมืงว่ะ" ฮาๆๆๆ
แต่พอเวลาเราเบื่อๆ เพราะรู้สึกว่าไอ้พวกต่างชาติ
พอชวนมันเข้ามาแล้ว ดันหัวหมอ
ไม่เห็นทำคุณประโยชน์อะไรให้กับกระเป๋า ku เลย
ก็จะด่าแบบสาดเสียเทเสีย
ไอ้พวกคิดร้ายทำลายชาติ
ไอ้คุณต่างชาติอ่านแล้วก็คงหัวเราะ คิดในใจ
"ก็ชาติของKuที่ไหนหละ อยากเชิญชวนKuเข้ามาทำไมว่ะ"
เมื่อข้าพเจ้าไม่ได้เป็นนักลงทุนต่างชาติ
ข้าพเจ้าก็ต้องใช้วิธีเอาใจเขา มาใส่ใจเรา แล้วมั่วเอา
ก็ได้หลักเกิน หรือไม่ก็หลักการมาดังนี้
๑.นักลงทุนต่างชาติคือใคร
ไม่น่าถามเลย ก็นักลงทุนที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทยนั่นแหละ
(พ่อของข้าพเจ้าก็เลยกลายเป็นนักลงทุนต่างชาติ
ด้วยความกิ๋บเก๋แบบไม่ได้ตั้งใจ เพราะยังเป็นต่างด้าว
ซึ่งข้าพเจ้าก็เอาความเป็นนักลงทุนต่างชาติของพ่อ
มาขายหุ้นบัวหลวงกระดานนอก ซื้อบัวหลวงกระดานใน
กินส่วนต่างหุ้นละ 100 บาทมาแล้ว ฮาๆๆ)
ลองมาสมมติกันว่าลาว เขมร เวียดนามมีตลาดหุ้นครบทุกประเทศ
พอเราตามเข้าไปตะลุมบอนในตลาดหุ้นลาว
เขาก็ต้องเรียกพวกเราว่า
ไอ้พวกต่างซาด บักซิหยาม
เวลาเราอ่านเจอนักลงทุนลาวพูดว่า
"พวกมันซิคิดมาเอาเงินข้อย
บ่ได้เห็นแก่ประเทดซ่าดเฮาดอก"
เราในฐานะนักลงทุนต่างชาติของลาว
ก็ต้องคิดในใจว่า
"เว้ยเฮ้ย เรื่องอะไรkuต้องไปรักชาติมืงด้วยวะ
มากวักมือเรียกเข้าไปเองนี่หว่า ช่วยไม่ได้ "
ก็คงเหมือนกับต่างชาติในตลาดหุ้นไทยนั่นแหละ
ต่างชาติก็ต้องคิดแบบต่างชาติซิ
ใครจะมาคิดแบบที่พี่ไทยคิดกันเล่า
เขาเรียกว่า "กงเกวียน กำเกวียน"
หรือคิดเอาแต่ได้นั่นแหละ
๒. นักลงทุนต่างชาติมีกี่สปีซี่
สำนักเท็มเปิ้ลบ๊อกซิ่งเดา เอ๊ยคิดว่ามี ๒ สปี่ซี่ ๔ ซับสปี่ซี่
๑ สปี่ซี่ศิลปินเดี่ยว ข้ามาคนเดียวแต่อาจจะมีพวก ฮาๆๆ
มี ๒ ซับสปี่ซี่
ก ศิลปินเดี่ยวในเอเซีย
ที่เจ๋งสุดๆคือพวกไต้หวัน ฮ่องกง
พวกนี้มาสไตล์ไฟท์เตอร์
ชกดุดัน แด็กส์ด่วน เสือปืนไว ใจเกินร้อย
เจ๊งก็หาเงินมาเล่นใหม่
ได้ก็ขนออกไปเล่นบ่อนอื่นต่อ
ถ้าจัดอันดับการแด็กส์
"ตัวเล็กกินไก่ ตัวใหญ่กินช้าง ตัวกลางกินหมู"
ศิลปินเดี่ยวเหล่านี้ ก็คงอยู่ชั้นกินไก่ กับกินหมูเท่านั้น
ข ศิลปินเดี่ยวนอกเอเซีย
ก็ที่พวกเราบักซิหยาม เรียกเขาว่าบักสีดานั่นแหละ
ไม่ต้องอธิบายมาก
พวกนี้มักจะลงทุนแบบหนอมแน้มและนุ่มนิ่ม
แต่เวลาต้องการจะแด็กส์ไม่ด่วน
พี่แกมักจะฟาดทีเดียวเป็นพันเปอร์เซนต์แล้วเลิก
ส่วนใหญ่มาสไตล์ วีไอ แต่ใจเกินร้อย
ทุ่มไม่อั้น
ค่อยๆเก็บหุ้นที่ไม่ใครสนใจ
ไม่มีสภาพคล่องคอ
เป็นหุ้นที่มีพีอีสูง พีบีวีต่ำ แต่ผลประกอบการเริ่มกลับหลังหัน
พวกนี้จะแด็กส์ด่วนตูมเดียว รายย่อยหงายหลัง
เมื่อหุ้นมีราคาพีอีต่ำ พีบีวีสูง
ตัวอย่างเช่น ไทเก้น บราเดอร์ส แอนด์โก
ที่ทุ่มทุนสร้างเรื่อง TTA จนโกยกำไรเป็นพันล้าน เป็นต้น
๒ ศิลปินหมาหมู่ เอ๊ยหมู่
ศิลปินหมู่ หรือที่ข้าพเจ้ามักเรียกว่า
"จอมยุทธเงินลงขัน" หรือที่ชาวบ้านเขาเรียกว่า
"กองทุนรวย ชาวบ้านจน" เอ๊ย "กองทุนรวม"
จะมี ๒ ซับสปี่ซี่เช่นกันคือ
ก .จอมยุทธเงินลงขันต่างชาติสไตล์บ็อกเซอร์
พวกนี้มาฟอร์มเดียวกับพวกศิลปินเดี่ยวนอกเอเซีย
มาลงทุนแบบหนอมแน้มและนุ่มนิ่ม
และแด็กส์ไม่ด่วนแบบโหดร้ายและเกรี้ยวกราด
จัดได้ว่าเป็นนักลงทุนแนว
ดูแรงกรรมของผลประกอบการเป็นหลักใหญ่
พวกนี้ไม่ค่อยอันตรายในระยะสั้น
สำหรับพวกรายย่อยรายจุกจิกท้องถิ่น
แช่เงินไว้นานๆ เหมือนกับไร้พิษสง
ดูเหมือนกับมันไม่ใช่เงินไร้พรมแดน
ขอข้ามต่างชาติพวกนี้ไป
เพราะไม่ใช่ศูนย์หน้าตัวเป้า
ไม่ค่อยอันตรายในระยะสั้น
แต่ไอ้ศิลปินหมู่ซับสปี่ซี่สุดท้ายนี่ซิอันตรายที่สุด
ข. จอมยุทธเงินลงขันต่างชาติสไตล์อีแร้งเรียกพ่อ
ชาวบ้านเขาเรียกพวกนี้ซะกิ๋บเก๋ว่า
กองทุนปกป้องความเสี่ยงหรือ hedge fund
พวกนี้จะออกอาละวาดไปทั่วโลก
ด้วยอาวุธร้ายที่นักลงทุนท้องถิ่นไม่มีคือ................
๒ พวกนักลงทุนต่างชาติเก่งกว่านักลงทุนท้องถิ่นหรือไม่
คำตอบที่น่าชื่นใจอยู่บ้างคือ
ไม่เก่งกว่าหรอก ถ้าทุกคนมีอาวุธเท่ากัน
แต่มันน่าเจ็บใจ
ตรงที่บักสีดาโง่ๆคนนั้น
มันดันพกเอ็มสิบหกกระสุนเต็มลำกล้อง ขึ้นไกเตรียมยิง
มาสู้กับพี่ไซหมึ้งชวยเสาะ พี่เต็งพ้ง ฯลฯ
ซึ่งยืนร่ายรำสุดยอดเพลงกระบี่ไร้ใจ ไร้พ่าย ไร้โรงจำนำ
ใครจะชนะการดวล
ก็ลองนึกดูแล้วกัน
ว่าพวกพี่ๆเค้าจะชนะการดวลหรือเปล่า ฮาๆๆๆ
๓ อะไรคืออาวุธร้ายที่สุดของนักลงทุนต่างชาติ
ลองนึกถึงเราเข้าไปเล่นหุ้นในลาว เขมร เวียดนาม ดูซิครับ
อาวุธร้ายของเราก็คือ
"เงินไร้พรมแดน"
เงินนี้จะสามารถถ่ายเทไปมาได้สะดวกในสามตลาดอินโดจีน
เจ๊งในลาว ก็ไปหากำไรต่อในเขมร
เจ๊งเขมรก็ไปหากำไรต่อในเวียดนาม
ไม่มีความจำเป็นอะไรเลย
ที่เราเจ๊งในลาว แล้วเราจะทู่ซี้เล่นในลาวต่อ
ย้ายเงินไปเล่นในแหล่งที่มันยังทำกำไรให้ซิ
ผมขอเดาว่า ทุกวันนี้
รายย่อย รายจุกจิกอย่างเราๆท่านๆในตลาดหุ้นไทยส่วนใหญ่
กำลังเอา"เงินที่มีพรมแดน" ไปสู้กับ"เงินไร้พรมแดน"
ในเกมล่าส่วนเกินทุนที่เราจำกัดเวทีให้ตัวเอง
แต่ต่างชาติไม่ต้องจำกัดเวทีที่จะเล่น
สรุปแล้วต่างชาติไม่ได้เก่งกว่าคนไทย
เพียงแต่เขาได้อาวุธประจำตัวดีกว่า
๔ ยุทธศาสตร์และยุทธวิธีของพวกอีแร้งเรียกพ่อ
อย่างที่เคยเดา เอ๊ยสันนิษฐานไว้ว่า
อาวุธสำคัญของพวกกองทุนต่างชาติฯคือ
"เงินไร้พรมแดน"
เมื่อเงินมันไร้พรมแดนซะอย่าง
ตลาดต่างๆก็ย่อมไร้พรมแดนตามไปด้วย
คำว่าไร้พรมแดน
ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยนะ
อยู่ดีๆเงินจะไร้พรมแดนได้ไง
คนในประเทศนั้นๆแหละ เป็นคนทำให้มันไร้พรมแดนเอง
อย่างของบักซิหยามเรา ก็ด้วยการเปิดพรมแดนทางการเงิน
หรือเรียกกันแบบกิ๋บเก๋(อีกแล้ว)ว่า BIS
เออ อันนั้นกระผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร
รู้แต่ว่า มันกินไม่ได้แต่เท่ห์อิ๋บอ๋ายเลย
ส่วนพวกที่ไม่ยอมเท่ห์อิ๋บอ๋าย อย่างเช่น
อินเดีย กับเกาหลีใต้เมื่อสิบเจ็ดปีก่อน
ก็นั่งกระดิกขากินข้าวโพดคั่ว
ดูหนังบู๊ล้างผลาญเรื่อง black monday อย่างสบายใจ
เพราะไม่อนุญาตให้เงินลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้น
เอ พอข้าพเจ้าหวนมาคิดถึง
บรรดาบักซิหยามอย่างพวกเรา ก็พบว่า
เราก็มีแบบกินไม่ได้แต่หมดตูด เอ๊ยแต่เท่ห์เหมือนกันแฮะ
เงินไร้พรมแดนของหมู่เฮาชาวบักซิหยาม
ได้ข้ามพรมแดนไปยังปอยเปต เกาะกงทุกวัน
ถ้าพวกกองทุนต่างชาติฯมีคุณภาพคับหลอดดูดนมยูเอชที
เหมือนพวกบักซิหยามพกเงินไร้พรมแดนข้ามไปปอยเปต
ป่านนี้ เราๆท่านๆ พวกรายย่อยรายจุกจิก
คงแฮบปี้เอนดิ้งกันไปแล้ว
ส่วนนายบ่อนไทยคงเก็บค่าต๋งเพลินเลย ฮาๆๆๆๆ
แต่พอ"รู้งี้" มันก็ไม่งั้นดิ
นอกจากอาวุธร้าย "เงินไร้พรมแดน" ที่พกมาเต็มพิกัดแล้ว
พี่แร้งฯยังพกอาวุธลับตามมาด้วยอีกเป็นพะเรอเกวียน
ทั้งวิชาเทพ วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
แถมด้วยการทำให้มันเป็นข่าวดีจริงและร้ายเกินปัจจุบัน
วิชามาร ซื้อไว้แล้วเชียร์ขึ้น ขายไปแล้วเชียร์ลง
เจอเข้าไปสามเด้งทั้ง
เงินไร้พรมแดน + วิชาเทพ + วิชามาร
พี่ไทยก็ชักจะออกอาการแกว่งๆ
เตะสกัดศูนย์หน้าตัวเป้าไม่อยู่ กลัวโดนใบแดง ฮาๆๆๆ
ขณะที่"เงินมีพรมแดน"ของพี่ไทยเรา
ยังมัวงกๆหาว่าจะเล่นหุ้นตัว หมวดไหน
"เงินไร้พรมแดน"ของพี่แร้งฯเค้า
ก็กำลังงกๆหาว่าจะเข้าตลาดไหน ภูมิภาคไหนเล่นดี
พี่ไทยเราอย่างเก่งก็แค่
หุ้นตัวนี้ไม่ดี เปลี่ยนไปเล่นตัวโน้น
หมวดนี้ไม่ดี เปลี่ยนไปเล่นหมวดโน้นแทน
ส่วนพี่แร้งฯเค้าทำแบบเหมาโหลถูกกว่า
ตลาดแบบไหนดีก็เล่นตลาดนั้น
ล็อคเป้าเอาซิ ระหว่าง
ตลาดทุน ตลาดเงิน ตลาดตราสารอนุพันธ์
ถ้าตลาดทุน ไม่ดีก็ย้ายไปตลาดเงิน ฯลฯ
ถ้าประเทศนี้ไม่ดี ก็ย้ายไปประเทศโน้น
ภูมิภาคนี้ไม่ดี ก็ย้ายภูมิภาคแม่มเลยซิวะ
:oops: :oops: :oops: :oops: :oops: :oops:
อา ข้าพเจ้ามองแล้วช่างหนาวยะเยือก
กับยุทธศาสตร์และยุทธวิธีของพวกอีแร้งเรียกพ่อเป็นยิ่งนัก
นักวิเคราะห์พี่ไทยเรา ส่วนใหญ่กำลังวิเคราะห์เจาะลึก
"เงินไร้พรมแดน"
ด้วยกรอบความคิดของ
"เงินมีพรมแดน"
ก็เลยลงท้ายด้วยการคิดว่า
เดี๋ยวพวกมันก็ต้องกลับมาใหม่
รอพวกku ปั่นขึ้นไปก่อน
พอพวกเอ็งทนความเย้ายวนของเกมล่าส่วนเกินทุนไม่ได้
ก็ต้องขนเงินกลับมาแด็กส์ku เอ๊ยให้ Ku แด็กส์ซิ ฮาๆๆๆ
เฮียๆ เจ้ๆ นักวิเคราะห์เจาะลึก เจาะไข่แดงทั้งหลายขอรับ
"เงินไร้พรมแดน" มันล่าเหยื่อไปทั่วโลกนะขอรับคุณพี่ขา
มันไม่ได้จมดักดานอยู่แต่ในประเทศไทยหรอก
พี่แร้งแกฝากกระผมส่งซิกบอกว่า
"รอพวกไอแด็กส์ที่อื่นจนอิ่มดีก่อนได้ป่าว
เดี๋ยวพวกไอจะกลับมาเล่นเกมล่าส่วนเกินทุนกับพวกมืง เอ๊ยพวกยูเอง"
:evil: :evil: :evil: :evil: :evil: :evil: :evil:
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
Identify foreign investors by Temple Boxing School approach
โพสต์ที่ 3
อ่านเพลินเลยครับเฮีย
ตอนนี้มีในหนังสือtemple boxingเปล่าครับ
ตอนนี้มีในหนังสือtemple boxingเปล่าครับ
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
-
- Verified User
- โพสต์: 1734
- ผู้ติดตาม: 0
Identify foreign investors by Temple Boxing School approach
โพสต์ที่ 4
ไม่มีในหนังสือครับคุณเตวี่
บังเอิญว่าคุณทวนลมเรโชช่วยไปขุดขึ้นมา
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 23554.html
ก็เลยขอเอาโพสซ้ำแบบดัดแปลงนิดหน่อย
ผมโพสมาเกือบจะสามปีแล้ว
น่าแปลกมาก ความเห็นของผมยังเหมือนเดิม
:roll: :roll: :roll: :roll: :roll: :roll: :roll: :roll:
บังเอิญว่าคุณทวนลมเรโชช่วยไปขุดขึ้นมา
http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 23554.html
ก็เลยขอเอาโพสซ้ำแบบดัดแปลงนิดหน่อย
ผมโพสมาเกือบจะสามปีแล้ว
น่าแปลกมาก ความเห็นของผมยังเหมือนเดิม
:roll: :roll: :roll: :roll: :roll: :roll: :roll: :roll:
-
- ผู้ติดตาม: 0
Identify foreign investors by Temple Boxing School approach
โพสต์ที่ 5
ขออนุญาตเฮียเอาไปแปะเป็นบทความไว้หน้าเว็บนะครับ โดนใจมั่กๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
Identify foreign investors by Temple Boxing School approach
โพสต์ที่ 7
[quote="คลายเครียด"]ไม่มีในหนังสือครับคุณเตวี่
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
-
- Verified User
- โพสต์: 1734
- ผู้ติดตาม: 0
Identify foreign investors by Temple Boxing School approach
โพสต์ที่ 8
ด้วยความยินดีครับ หนุ่มเจโชว์
แล้วไปดูเรื่อง คำสาบของสุวรรณบุปผาหรือยังครับ
หนุ่มเจโชว์มาดเข้มน่าดู
แต่ดันแพ้ขิงแก่โจวหวินฟะ
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
แล้วไปดูเรื่อง คำสาบของสุวรรณบุปผาหรือยังครับ
หนุ่มเจโชว์มาดเข้มน่าดู
แต่ดันแพ้ขิงแก่โจวหวินฟะ
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
- น้ำครึ่งแก้ว
- Verified User
- โพสต์: 1098
- ผู้ติดตาม: 0
Identify foreign investors by Temple Boxing School approach
โพสต์ที่ 9
ไว้รอหนังสือออกครับ คุณคลายเคลียด
แล้วจะมีการจัดงานเปิดตัวหนังสือหรือเปล่าครับ จะได้ซื้อแล้วขอลายเซ็น
ด้วยเลย
แล้วจะมีการจัดงานเปิดตัวหนังสือหรือเปล่าครับ จะได้ซื้อแล้วขอลายเซ็น
ด้วยเลย
" ชีวิตไม่เคยขาดความหวาน "
- Raphin Phraiwal
- Verified User
- โพสต์: 1342
- ผู้ติดตาม: 0
Identify foreign investors by Temple Boxing School approach
โพสต์ที่ 12
ขอบคุณครับเฮีย
อ่านไปด้วย ได้สาระไปด้วย ฮาไปด้วย สนุกดีครับ
อ่านไปด้วย ได้สาระไปด้วย ฮาไปด้วย สนุกดีครับ
รักในหลวงครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 8
- ผู้ติดตาม: 0
Identify foreign investors by Temple Boxing School approach
โพสต์ที่ 14
ขออนุญาตกระชากเรตติ้งให้พี่เอ็นโดฯค่ะ
งานนี้ไม่รู้ว่าจะได้ค่านายหน้าซักกี่บาท อิอิ
งานนี้ไม่รู้ว่าจะได้ค่านายหน้าซักกี่บาท อิอิ
-
- Verified User
- โพสต์: 8
- ผู้ติดตาม: 0
Identify foreign investors by Temple Boxing School approach
โพสต์ที่ 18
กลับมาอ่านอีกครั้ง หลังจากเมื่อบ่าย
มาเสนอหน้า (แมว) ไปแล้ว
อ่านทีไรชอบทุกที พี่เอ็นโดฯ ขา..(ใหญ่)
ช่างเปรียบเทียบประชดประชันนักนะคะ
มาเสนอหน้า (แมว) ไปแล้ว
อ่านทีไรชอบทุกที พี่เอ็นโดฯ ขา..(ใหญ่)
ช่างเปรียบเทียบประชดประชันนักนะคะ
- Doramon007
- Verified User
- โพสต์: 110
- ผู้ติดตาม: 0
Identify foreign investors by Temple Boxing School approach
โพสต์ที่ 21
อ่านแล้วชอบมากครับ มีหนังสือเมื่อไหร่บอกด้วยน่ะครับเฮีย จะรีบตามไปอุดหนุนครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1734
- ผู้ติดตาม: 0
Identify foreign investors by Temple Boxing School approach
โพสต์ที่ 24
[quote="น้ำครึ่งแก้ว"]ไว้รอหนังสือออกครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 843
- ผู้ติดตาม: 0
Identify foreign investors by Temple Boxing School approach
โพสต์ที่ 25
ช่วยเปลี่ยน ku เป็นอย่างอื่นเช่น gu อย่างเงี้ย.. ได้ ปะครับ
มอง เผินๆ นึกว่า อดีตที่เรียน กำลังจ้อง แด๊กสเงินเรา
แต่คิดอีกทีก็ บ่เป็นหยังดอก อย่ายึดติดมาก
หนังสือออกเมื่อไร อย่าลืมยิงโฆษณา หนับหนุนละครไทยนาครับ
เดี่ยวผมตกข่าว ตามซื้อไม่ทัน
มอง เผินๆ นึกว่า อดีตที่เรียน กำลังจ้อง แด๊กสเงินเรา
แต่คิดอีกทีก็ บ่เป็นหยังดอก อย่ายึดติดมาก
หนังสือออกเมื่อไร อย่าลืมยิงโฆษณา หนับหนุนละครไทยนาครับ
เดี่ยวผมตกข่าว ตามซื้อไม่ทัน
-
- Verified User
- โพสต์: 1734
- ผู้ติดตาม: 0
Identify foreign investors by Temple Boxing School approach
โพสต์ที่ 26
[quote="121"]ช่วยเปลี่ยน ku เป็นอย่างอื่นเช่น gu อย่างเงี้ย.. ได้ ปะครับ
มอง เผินๆ นึกว่า อดีตที่เรียน กำลังจ้อง แด๊กสเงินเรา
แต่คิดอีกทีก็ บ่เป็นหยังดอก
มอง เผินๆ นึกว่า อดีตที่เรียน กำลังจ้อง แด๊กสเงินเรา
แต่คิดอีกทีก็ บ่เป็นหยังดอก
-
- Verified User
- โพสต์: 49
- ผู้ติดตาม: 0
Identify foreign investors by Temple Boxing School approach
โพสต์ที่ 27
ตัวอย่างซื้อแล้วเชียร์ขึ้น หรือเปล่าหนอ
UBS ชี้ แนวโน้มหุ้นไทยมีโอกาสวิ่งขึ้นหาราคาพื้นฐาน หลังมีดิสเคาท์เกือบ 40%
UBS ชี้ แนวโน้มหุ้นไทยมีโอกาสเพิ่มขึ้นไปหาราคาพื้นฐาน หลัง
มีดิสเคาท์เกือบ 40% ขณะประเด็นดอกเบี้ยขาลงเป็นอีกปัจจัยบวกที่จะทำ
ให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นในปีนี้ หลังข้อมูลสถิติชี้ หุ้นมักจะขึ้นได้
กว่า 32 จุด ในช่วง 6 เดือนหลังดอกเบี้ยลด
บทวิเคราะห์การลงทุนโดย UBS วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2550 ระบุ ดัชนีตลาด
หุ้นมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ในระดับที่สะท้อนปัจจัยพื้นฐาน หลังราคายังคง
อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นสำคัญในภูมิภาคเดียวกัน โดยเป็นตลาดหุ้นที่มี
ส่วนลดมากที่สุดในภูมิภาคเมื่อเปรียบเทียบกันในแง่ของ P/BV และ ROE
โดยในรายงาน Asian Equity Strategy : Thai rate cuts ของ UBS ระบุว่า
UBS เคยแนะนำให้นักลงทุนรอจังหวะที่ตลาดหุ้นไทยถึงจุดวกกลับ เนื่องจากดัชนี
ตลาดหุ้นได้ปรับลดลงจนมีส่วนลดแฝงอยู่ในราคาหุ้นมากที่สุดในภูมิภาค และต่ำกว่า
ปัจจัยพื้นฐาน หรือ ระดับที่เหมาะสมถึง 37% ซึ่งหมายถึงผลตอบแทนที่นักลงทุนจะมี
โอกาสได้รับ
นอกจากนี้ UBS ยังคาดด้วยว่า การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.มี
แนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 28 กุมภาพันธ์ และ 11
เมษายนนั้น ยังเป็นปัจจัยบวกที่สำหรับตลาดหุ้นไทย หากพิจารณาจากข้อมูลสถิติที่
ผ่านมา จะเห็นว่า ในช่วงปี 2001-2003 ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะปรับลดลงเฉลี่ย 10.9
จุดในช่วงหนึ่งเดือนก่อนมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และจะปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 32 จุด
ในช่วง 6 เดือนหลังลดอัตราดอกเบี้ย
อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่กระทบตลาดหุ้นในช่วงหนึ่งเดือนก่อนมีการปรับลดอัตรา
ดอกเบี้ยเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา เกิดจากการออกมาตรการกันสำรอง 30% ที่
ออกมาเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมปีก่อน
ทั้งนี้ UBS ระบุว่า กลุ่มที่ราคามีส่วนลดแฝงอยู่มากที่สุดได้แก่กลุ่มธนาคาร
โดยมีส่วนลด 27% และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์มีส่วนลด 8%
อ-ริน
UBS ชี้ แนวโน้มหุ้นไทยมีโอกาสวิ่งขึ้นหาราคาพื้นฐาน หลังมีดิสเคาท์เกือบ 40%
UBS ชี้ แนวโน้มหุ้นไทยมีโอกาสเพิ่มขึ้นไปหาราคาพื้นฐาน หลัง
มีดิสเคาท์เกือบ 40% ขณะประเด็นดอกเบี้ยขาลงเป็นอีกปัจจัยบวกที่จะทำ
ให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นในปีนี้ หลังข้อมูลสถิติชี้ หุ้นมักจะขึ้นได้
กว่า 32 จุด ในช่วง 6 เดือนหลังดอกเบี้ยลด
บทวิเคราะห์การลงทุนโดย UBS วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2550 ระบุ ดัชนีตลาด
หุ้นมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ในระดับที่สะท้อนปัจจัยพื้นฐาน หลังราคายังคง
อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นสำคัญในภูมิภาคเดียวกัน โดยเป็นตลาดหุ้นที่มี
ส่วนลดมากที่สุดในภูมิภาคเมื่อเปรียบเทียบกันในแง่ของ P/BV และ ROE
โดยในรายงาน Asian Equity Strategy : Thai rate cuts ของ UBS ระบุว่า
UBS เคยแนะนำให้นักลงทุนรอจังหวะที่ตลาดหุ้นไทยถึงจุดวกกลับ เนื่องจากดัชนี
ตลาดหุ้นได้ปรับลดลงจนมีส่วนลดแฝงอยู่ในราคาหุ้นมากที่สุดในภูมิภาค และต่ำกว่า
ปัจจัยพื้นฐาน หรือ ระดับที่เหมาะสมถึง 37% ซึ่งหมายถึงผลตอบแทนที่นักลงทุนจะมี
โอกาสได้รับ
นอกจากนี้ UBS ยังคาดด้วยว่า การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.มี
แนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 28 กุมภาพันธ์ และ 11
เมษายนนั้น ยังเป็นปัจจัยบวกที่สำหรับตลาดหุ้นไทย หากพิจารณาจากข้อมูลสถิติที่
ผ่านมา จะเห็นว่า ในช่วงปี 2001-2003 ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะปรับลดลงเฉลี่ย 10.9
จุดในช่วงหนึ่งเดือนก่อนมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และจะปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 32 จุด
ในช่วง 6 เดือนหลังลดอัตราดอกเบี้ย
อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่กระทบตลาดหุ้นในช่วงหนึ่งเดือนก่อนมีการปรับลดอัตรา
ดอกเบี้ยเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา เกิดจากการออกมาตรการกันสำรอง 30% ที่
ออกมาเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมปีก่อน
ทั้งนี้ UBS ระบุว่า กลุ่มที่ราคามีส่วนลดแฝงอยู่มากที่สุดได้แก่กลุ่มธนาคาร
โดยมีส่วนลด 27% และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์มีส่วนลด 8%
อ-ริน
find only good stock for not nervous
-
- Verified User
- โพสต์: 777
- ผู้ติดตาม: 0
เก๋าจริงๆ
โพสต์ที่ 28
แหม...ประสบการณ์ ลงทุนยอดเยี่ยมจริงๆครับเฮีย ผ่านศึกร้อนหนาว
มาอย่างโชกโชนจริงๆ ยังไงก็อย่าให้ รุ่นน้องมาเทียบรุ่นได้เชียวนะครับ
เดี๋ยวจะเสียฟอร์ม นักเลงหุ้นจอมเก๋า หมด!!!
เก็บคมกระบี่ไว้บ้างครับ.... :lol:
มาอย่างโชกโชนจริงๆ ยังไงก็อย่าให้ รุ่นน้องมาเทียบรุ่นได้เชียวนะครับ
เดี๋ยวจะเสียฟอร์ม นักเลงหุ้นจอมเก๋า หมด!!!
เก็บคมกระบี่ไว้บ้างครับ.... :lol:
#===========#===========#
:=)
#===========#===========#