ขอโทษนะครับ..แฟนผมไม่ยอมเปลี่ยนนามสกุลครับ

[por_jai]

8) ขอให้คุูณ aperse (และคนที่โพสในกระทู้นี้ รวมทั้งผมด้วย)
    ฟันฝ่าอุปสรรค
    รักกันจนแก่เฒ่า แบบในรูปเลยคร้าบ..

[beammy]

[quote="por_jai"]


8) ขอให้คุูณ aperse (และคนที่โพสในกระทู้นี้ รวมทั้งผมด้วย)

[Jeng]

เช่นกันครับ ขอให้เป็นกำลังใจให้

[por_jai]

8) ไอ้หนุ่มคนโตหล่อกว่าคนเล็กนิดนึง
     ส่วนคนเล็กก็หล่อกว่าพ่อนิดนึง

     เมื่อวานเพื่อนผมที่คอร์ตแบด
     บอกว่าผมนี่เหนือกว่า บิล เกตส์เจ้าของไมโครซอฟท์อีก
     ผมถามว่าตรงไหนหรือ
     เขาว่าผมมีลูกชาย1ลูกสาว1
     ส่วนพี่บิลแกมีลูกสาวคนเดียว
     สู้พี่พอใจไม่ได้ ว่างั้น.........

[Capo]

ข้างบนนี้รูปพี่เจ๋งฤาครับ ^_^

มาเป็นกำลังใจให้นะครับ ^_^

ผมก็เจออะไรในประเภทเดียวกันครับคุณ aperse
แต่ว่าเป็นเรื่องบ้าน เข้าใจทีเดียวว่าอะไรที่เกี่ยวกับทัศนคติ และค่านิยม
มันเปลี่ยนยากครับ ต้องอาศัยเวลา และสภาพแวดล้อมเข้าช่วยบ้างครับ

[triathlon]

ถ้าจะรัก ก็ต้องลืมคำว่าเสียใจ
กระทูนี้ดีจริงๆ 8)

[gonzalez]

เปลี่ยนบรรยากาศมาฟังธรรม กับพวกพี่เพื่อน ดีครับ ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยครับ อยู่ด้วยกันต้องมีปัญหากันเป็นเรื่องธรรมดาครับ แต่ความเข้าใจซึ่งกันและกันสำคัญที่สุดครับ  :o  :o

[terati20]

ทำไมไม่ใช้นามสกุล ควบไปเลยครับ
มี 2 นามสกุล อาสะใภ้ผมเขาใช้ ไม่เห็นเป็นไร
เเถมได้มีชื่อ กลาง เท่ห์เพิ่มขึ้นมาอีก

 :P  :P  :P  :P

[Basketman]

ขอเสนอทางเลือกครับ .... ผมก็กำลังจะแต่งงานเหมือนกันก็ยังมีเถียงๆกันบ้างเรื่องนามสกุล ว่าแฟนผมเธออยากจะใช้นามสกุลเดิม จริงๆผมก็อยากให้แฟนมาใช้นามสกุลผมเหมือนกัน และทางบ้านผมก็อยากให้แฟนมาใช้นามสกุลเดียวกัน แต่พอดีว่าช่วงนี้ผมลงทุนและทำกิจการเยอะต้องมีกู้แบงค์และอะไรต่างๆอีกเยอะแยะ ซึ่งมีความเสี่ยงอยู่ ผมก็เลยคิดว่า10หรือ20ปีผมคงยังไม่จดทะเบียนรึให้แฟนมาใช้นามสกุลผมครับ ซึ่งเหตุผลนี้ผมก็อธิบายให้ทางบ้านรับรู้ ซึ่งก็โอเคครับผ่านเหตุผลดี(ซึ่งในทางที่เลวร้ายที่สุดผมอาจล้มละลายล้มเหลวไม่เหลืออะไรเลยแต่ยังมีทางที่จะอยู่รอดอยู่ครับ ซึ่งทรัพย์สินส่วนใหญ่ผมคงใช้ชื่อแฟนเป็นส่วนใหญ่ๆ) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณมั่นใจแค่ไหนว่าอนาคตแฟนจะไม่ทิ้งคุณ รึแฟนจริงใจกับเราแค่ไหนก็ต้องคิดดีๆนะครับ

[ลูกอิสาน]

พบกันครึ่งทาง ใช้ชื่อกลาง มีทั้งสองนามสกุลน่าจะดีครับ
งานวิจัยก็ไม่มีปัญหาด้วยครับ


เคยจำได้ว่าเคยมีการถกเถียงเรื่องนี้ในการเมือง
คุณสมัครแกสนับสนุนผู้ชาย ให้เหตผลทำนองว่าให้รู้ชาติ สกุล ไล่กันถูก
แต่แกไม่ได้พูดว่า ทำไมต้องเป็นสกุลผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิ่ง..


ผมเป็นคนยุคเก่า เรื่องนี้คงต้องพูดกันให้รู้เรื่องก่อนครับ

[สามัญชน]

เวลาที่ผมมีปัญหาในการตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรดี  เพราะแต่ละวิธีก็ล้วนแต่มีดีมีเสียในตัวเอง  ผมจะให้ความสำคัญกับฐานะหรือจุดยืนของตัวเองก่อน

ตัวผมเองก็มีหลายฐานะหลายบทบาท  บางครั้งผมก็เป็นผู้บังคับบัญชา บางครั้งก็เป็นลูกน้อง  ขึ้นอยู่กับว่าเราเทียบกับใคร  

ดังนั้นบางครั้งผมจึงเป็นพี่ที่มีหน้าที่ต้องดูแลน้อง  และบางครั้งผมก็เป็นลูกซึ่งก็มีหน้าที่อีกแบบหนึ่งเป็นการเฉพาะต่อบิดามารดา

บ่อยครั้งที่ผมเสียใจกับการตัดสินใจในอดีต  เพราะเลือกใช้ฐานะได้ไม่ถูกต้อง

ก็เพราะไม่มีการตัดสินใจใดจะดีได้หมดทุกมุมมองสามร้อยหกสิบองศา บางมุมบางเหลี่ยมมันก็ดูไม่ดี หรือถึงขั้น ดูไม่ได้  

กล่าวคือในฐานะลูกนั้นไม่เสียใจแต่ไปเสียใจในฐานะสามีก็มี แล้วอะไรสำคัญกว่ากันล่ะ

หรือผมดีใจในบทบาทของเจ้านายแต่ในบทบาทเพื่อนทำให้เราต้องน้ำตาตกใน  แล้วอะไรสำคัญกว่ากันล่ะ

หรือถ้ายึดบทบาทเพื่อนเราจะรู้สึกแค้นมากแต่ถ้าเป็นบทบาทลูกน้องแล้วไม่เท่าไหร่  แล้วอะไรสำคัญกว่ากันล่ะ

แล้วฐานะไหนล่ะที่ทำให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด

นอกจากนี้เรื่องอารมณ์ก็เป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจ

มีงานวิจัยบอกไว้ว่า  คนที่อารมณ์เป็นกลางๆจะเหมาะสมที่สุดที่จะตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ  อารมณ์ที่แย่คือ อารมณ์โศรกเศร้า และที่แย่พอๆกันคือ อารมณ์ดีใจ  นี่ไม่ได้พูดถึงอารมณ์โลภ โกรธ  หลง  ที่เห็นผลเสียได้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว

ดังนั้นการตัดสินใจเรื่องสำคัญๆจึงควรหลีกเลี่ยงขณะที่เรากำลังฮึกเหิมหรือหดหู่ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสียมากกว่า "การไม่ตัดสินใจ"ด้วยซ้ำไป

โดยรวมผมจึงแนะนำว่า  ควรจะตัดสินใจในฐานะที่คุณเป็น  คนธรรมดาๆคนหนึ่ง  ไม่ใช่ในฐานะทั้งนักบุญและคนบาป  แต่เป็น  คนธรรมดาๆสามัญชน  ที่มีดีและมีเลวตามที่คนปกติทั่วๆไปคนหนึ่งจะมี

สังคมไทยเราอาจจะไม่คุ้นเคยกับปรัชญาข้อนี้  แต่ของตะวันตกเขาเรียกคนกลุ่มนี้ว่า "คณะลูกขุน" ซึ่งเป็นผู้พิพากษาตัวจริงเสียงจริงยิ่งกว่าผู้ที่ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาเสียอีก

แล้ว  คนธรรมดาๆ ในตัวคุณ aperse  ตัดสินใจในเรื่องนี้อย่างไรล่ะครับ

[007-s]

โหหหหหห....เคลิ้มเลยอ่า....

 :ep:  :ep:  :ep:  :ep:

[Onokung]

ขออีกนิด
ถ้าจะคุยกันว่าประเพณีต่างๆมีไว้ทำไม แน่ใจนะ ว่าประเพณีที่ว่านะดีจริง ควรดำรงไว้ หรือทำลาย
ประเพณีจีนเรื่องมัดเท้าหญิงให้เท้าเล็กสวย ดูบอบบาง ดูไฮโซ หรือ เพราะกลัวผู้หญิงหนี
ประเพณีการมีหลายเมีย เอาสังคมที่มีหลายผัวบ้างไหม
แต่อันนี้ก็ต้องทำใจนะ ดันเกิดมาเป็นผู้หญิงไทย ซวยตั้งแต่เกิดแล้ว

หนักจังครับ
แต่ว่าเรื่อง ประเพณีจีน(พอดีเป็นจีนรุ่นที่ 3  อากงอาม่า นั่งเรือสำเภามาจากจีนแผ่นดินใหญ่)
อยากเล่าให้ฟังว่าการมัดเท้าผู้หญิงเค้าทำด้วยตัวเองครับ เพื่อที่จะให้ตรงตามตำราหมอดูจีน ว่า หญิงสูงศักดิ์ต้องมีเท้าที่เรียวเล็ก โดยตรรกะ เข้าใจผิดๆว่า ทำให้เท้าเล็กแล้วจะได้เป็นหญิงสูงศักดิ์
ซึ่งอธิบายได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ว่า คนสมัยก่อนถ้า รวย สูงศักดิ์ก็ไม่ต้องเดินมาก(นั่งเกี้ยว) เวลาเดินข้ามแคว้นหรือเมืองดังนั้น เท้าก็เลยไม่ใหญ่
ตำราหมอดูเป็นการเก็บสถิติ  เวลาเจอผู้หญิงเท้าเล็กก็จะพบว่าส่วนใหญ่เป็นหญิงสูงศักดิ์  มันก็เลยเป็นแค่ความเข้าใจผิดๆของ หญิงจีนโบราณครับ

ส่วนผู้หญิงไม่ได้ซวยเสมอไป นะครับ ผู้ชายที่น่าสงสารเพราะว่า ผู้หญิงเล่นตลกมีเยอะแยะเลย

 แถวบ้านผม ฝาหรั่ง รักกับ หญิงไทย แล้วเค้าก็ส่งเงินมาเลี้ยงดูพ่อแม่ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถให้ โดยหญิงไทยก็ไม่ได้ทำงาน  3 เดือน 6 เดือนจะบินมาหาครั้งนึง พอกลับมารอบใหม่ ปรากฏว่า เมียไทยท้อง ฝ่ายเมียคนไทยก็บอก สามีว่า ยูดีใจ มั๊ย ลูกเราตั้งแต่คราวที่แล้วที่ยูกลับไปคราวที่แล้ว
ฝรั่งเห็นเมียไทยท้องก็ ... ตกใจ แล้วก็ ขอเลิกทันที  
ฝ่ายเมียคนไทยไม่ยอม เพราะว่า ไหนจะบ้าน รถที่ซื้อเป็น ชื่อตัวเอง จะเอาเงินที่ไหนผ่อนส่ง ก็เลยบอกไปว่า ยูจะไม่รับผิดชอบเหรอ พอไอท้องแล้วยูจะไม่รับเหรอ (ฟังถึงตรงนี้น่าสงสารครับ)









ฝรั่งตอบกลับมาว่า "หมอบอกว่าไอเป็นหมันยูจะท้องได้ไง"
เมียคนไทยหน้าซีด เลยครับ น่าสงสารบนความสมควรแล้วครับ
ผัวฝาหรั่งไม่อยู่ ดันไปมีผัวคนไทยอีกคน เวนกำๆ  

เรื่องของพี่ บอลซึ้งมากครับ เอาไปเป็น พล๊อดเรื่อง โฆษณาประกันชีวิตได้เลย(ช่วงนี้กะลังฮิตเรื่องทำนองนี้)

[สามัญชน]

เรื่องของพี่ บอลซึ้งมากครับ เอาไปเป็น พล๊อดเรื่อง โฆษณาประกันชีวิตได้เลย(ช่วงนี้กะลังฮิตเรื่องทำนองนี้)

ไม่แน่ครับ  อาจจะโดนด่าตรึมทั้งประเทศก็ได้ครับ

ในมุมมองคนที่เป็นพ่อแม่จะชอกช้ำขนาดไหนที่ลูกชายเป็นอย่างนี้  ดวงใจแม่คงจะโหยไห้ตีอกชกตัวปิ่มว่าจะสิ้นสติสมประดี

บรรพชิตคงสรุปได้เลยว่า  นี่ไม่ใช่รัก  แต่เป็นหลง

คนแบบนี้เป็นคนที่เกลียดตัวเอง  ไม่มีความเมตตาต่อตัวเอง  การสอบซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อชีวิตของตัวเองก็สามารถโยนทิ้งได้ง่ายๆเพื่อการที่ไม่เป็นสาระแต่อย่างไร  เออ... ถ้าเป็นเรื่องสำคัญๆก็ไม่มีใครว่า

กำลังจะผ่าตัดเพื่อช่วยชีวิตตัวเองแท้  แต่ก็ทิ้งไปเพียงเพื่อไปงานแต่งงาน  ที่มีสาระแค่ "เป็นสักขีพยาน" ของการแต่งงานเท่านั้น

คนที่ทำร้ายตัวเองสาหัสขนาดนี้  วันหนึ่งเขาก็อาจจะกลับมาทำร้ายคนอื่นได้ง่ายๆ  ก็ขนาดตัวเขาเองเขายังไม่รักแล้วคุณเป็นใครล่ะ  วันนี้เขาหลงไปอีกทางหนึ่งวันหน้าเขาก็อาจจะหลงไปทางอื่นๆอีกได้เช่นกัน  และวันนั้น  เขาจะเป็นปีศาจสำหรับคุณ........

[por_jai]

8) ผมว่าเรื่องของความรักนี่หาเหตุผลยาก
    ที่น้องบอลเอามาให้อ่านนี่มันก็ซึ้งดี
    คนรักกันให้อะไรโดยไม่คิดถึงตัวเองนี่
    มันก็ค่อนข้างหายากในชีวิตจริง
    ทีนี้เวลาเราอ่านเราก็รู้สึกดี ว่าเออ ประมาณว่าเราทำไม่ได้

    ส่วนที่หมอศรรามว่าๆไม่ใช่รักแต่เป็นหลงเนี่ย
    อ่านแรกๆผมก็เห็นด้วยนะ
    แต่ถ้าไอ้หนุ่มเขาไม่ได้หวังอะไรตอบแทน
    จากอีกฝ่ายจริงๆ
    อันนี้เราก็คงไปว่าหลง คงจะไม่ได้หรอกครับ
    ชีวิตของเขา เขามีสิทธิเลือกเหมือนกันครับ

    แต่ชีวิตครึ่งศตวรรษของผม
    ไม่เคยเห็นคนเสียสละตัวเองแบบนี้เหมือนกันครับ
    แต่พวกหลงรักติดยึดนี่เห็นเยอะครับ
    พวกนี้ไม่ค่อยยอมรับความคิดคนอื่นครับ
    คิดแต่ว่าตัวเรานี้ทำผิดอะไร เขาถึงไม่รักเรา
    ส่วนมากจบลงแบบโศกนาฏกรรม
    เหมือนที่หมอว่า ครับ............

[สามัญชน]

ที่จริงผมก็ไม่เคยเห็นกรณีแบบนี้ในชีวิตจริงเหมือนกันครับพี่พอใจ  เข้าใจว่าเป็นเรื่องแต่งซึ้งๆที่คุณบอลยกมา(หรือว่าคุณบอลอาจจะแต่งเองให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับพวกเรา)

ทีนี้ตอนวัยรุ่น  จิตใจเราอ่อนไหว  เพราะเราเปลี่ยนจากเด็กเป็นผู้ใหญ่  เราก็อยากจะทำอะไรให้ดีสุดๆ อยากให้คนอื่นยอมรับเรา  ซึ่งถ้าการกระทำนั้นไม่เบียดเบียนใครผู้ใหญ่เขาก็ไม่ว่าอะไร

แต่บางครั้งด้วยความเป็นวัยรุ่นจึงอาจจะยังมีอารมณ์ fantacy อยู่เยอะหน่อย มีจินตนาการมากหน่อย ก็อาจจะมีขาดมีเกินเป็นธรรมดา  แต่ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ตัว  เข้าใจว่าเหมาะสมแล้ว

แต่พอโตขึ้นเรื่อยๆแล้วหันไปมองย้อนหลังเราก็เสียวสันหลังวาบ  อื้อหือ........บทกวีพวกนี้  เรื่องสั้นพวกนี้  มันมีอิทธิพลกับเรามากเหมือนกันนะ  เพราะมันซึ้ง.....  อ่านแล้วก็เหมือนมีกระแสไฟวิ่งแปล๊บๆในอก(เข้าใจว่าเป็นเพราะเอนโดฟินหลั่ง)  อ่านมากๆเข้าพลอยจะอยากเป็นเหมือนในตัวละคร

ผมเองก็เกือบจะเคยพลาดกับเรื่องแบบนี้  โชคดีที่ตอนนั้นผมติดนิยายกำลังภายในของโก้วเล้ง  อ่านแล้วได้มุมมองอีกแบบหนึ่งเลยครับ เลยรอดมาได้ รายละเอียดผมคงจะไม่ยกมานะครับ(ก็แบบว่ายี่สิบกว่าปีแล้วจำไม่ค่อยได้อ่ะครับ  อิอิ)

โดยสรุปก็คือ  ความรักของชายหนุ่มคนนี้มีแต่ให้จริงๆและน่ายกย่อง  ถ้าเขาไม่ทำเกินเลยไปจนเกิดการเบียดเบียนให้เกิดความเดือดร้อนขึ้นมา  

และการเบียดเบียนนี้ไม่ยกเว้นแม้ว่าผู้ที่ถูกเบียดเบียนจะเป็นตัวเขาเอง

เพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้ถือกำเนิดเกิดขึ้นมาได้เองจากกระบอกไม้ไผ่  แต่เกิดจากพ่อและแม่  

พ่อและแม่รักลูกแค่ไหนคงไม่ต้องบรรยาย(และถึงพ่อแม่ไม่รักและเอาเขาไปโยนทิ้ง)  เขาไม่มีสิทธิที่จะปู้ยี่ปู้ยำตัวเองขนาดนี้  เขาเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาได้ก็เพราะหลายๆปัจจัยในสังคมช่วยอุ้มชูให้เขาอยู่รอดขึ้นมา  ได้เรียนหนังสือ ได้มีโน่นมีนี่  กว่าจะโตมาขนาดนี้ได้ แล้วเขาไม่คิดจะทดแทนบุญคุณสังคมบ้างหรือ

และในชีวิตปกติเราก็จะไม่พบกรณีแบบนี้อย่างที่พี่พอใจว่า  ดังนั้นในทางจิตวิทยา  พฤติกรรมแบบนี้ถือว่าเบี่ยงเบนไปจากปกติมาก  คือเป็นคนไม่ปกติ  หรือ หลงผิด ไปนั่นเอง(แต่ในทางตรงกันข้ามเขาจะกลายเป็นวีรบุรุษทันทีถ้าไม่มีการเบียดเบียนเกิดขึ้น) เพราะว่าเมื่อมีการเบียดเบียนเกิดขึ้นก็แสดงว่ามีความโหดร้ายเกิดขึ้นเช่นกัน  โหดแค่ไหนก็ขึ้นกับว่าเบีบดเบียนมากแค่ไหน

และถ้ามีคนแบบนี้จริงหรือวัยรุ่นคนไหนอยากจะทำแบบนี้จริง  จะสะท้อนสภาพจิตใจตามที่ผมโพสท์ไว้อ่ะครับ  และถือเป็นบุคคลอันตราย  เพราะเขาสามารถทำร้ายตัวเองได้ง่ายๆ  จึงมีโอกาสสูงที่เขาอาจจะทำร้ายผู้อื่นได้ง่ายๆเช่นกันเมื่ออะไรๆเปลี่ยนไป

[por_jai]

8) สายกลาง ดี๊ดีครับ
    แหมแต่จะมีซักกี่คนที่ชอบและเข้าใจ
    สายกลางมันจะจืดๆหน่อย
    แถมต้องบังคับจิต บังคับสติ ด้วย
    พูดง่าย ทำยากครับ

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

แถมต้องบังคับจิต บังคับสติ ด้วย 
    พูดง่าย ทำยากครับ

ถ้าบังคับก็ยากครับ

แต่ถ้า ตามดู ก็ง่ายครับ

[สามัญชน]

ถ้าอ่านทฤษฎีเกมของท่านแม่ทัพ
   ต้องแบ่งให้ข้างเดีียวครับ
   มีคนละข้าง เท่ดี
   สองเราเท่ากันอีกด้วย........

ส่วนกรณีนี้เป็นเรื่องน่ายกย่องครับ

เขาเสียสละดวงตาอีกข้างให้ผู้อื่น  แม้จะเป็นการเบียดเบียนตัวเองเหมือนกัน  แต่ผลของมันทำให้สังคมดีขึ้นกว่าเดิม  คือมีคนตาดีเพิ่มขึ้นมาอีกคน  เป็น positive sum game

และในกรณีบริจาคให้ทั้งสองดวง  ก็มีการเบียดเบียนเกิดขึ้นอีกเช่นกัน  แต่ผลของมันก็คือ มีคนตาดีเพิ่มขึ้นร่วมกับอีกคนกลายเป็นตาบอดไป  อย่างนี้ก็ไม่น่าตำหนิถ้ามีคนทำได้จริงๆก็ถือว่าเป็นการเสียสละ  เพราะผลก็ยังกลายเป็น zero sum game

แต่ผลที่เป็น negative sum game เหมือนกรณีของชายหนุ่มคนนี้  ผมว่าไม่น่าสนับสนุนเลยครับ  และถ้าวิเคราะห์สภาพจิตจริงๆแล้ว จะมีคำตอบได้แคบมากๆเลยครับ  คือเขาเป็นได้แค่อย่างใดอย่างหนึ่งในสองอย่างเท่านั้นเอง  หนึ่งคือเป็นอรหันต์ซึ่งได้ละวางตัวตนหมดแล้ว  หรือสองเขาเป็นคนจิตผิดปกติอ่ะครับ  ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นกรณีที่สองมากกว่า.......

[por_jai]

[quote="Jeng"]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

แถมต้องบังคับจิต บังคับสติ ด้วย

[por_jai]

[quote="สามัญชน"][quote]ถ้าอ่านทฤษฎีเกมของท่านแม่ทัพ

[jaychou]

เอ้อ... ผิดปกติทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวเลยมั้งครับ
ผู้ชายก็ให้จนหมดสิ้น ผู้หญิงก็ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย

[Jeng]

ถ้าอยู่ดีๆ มีใครก็ไม่รู้ แต่เขารู้จัก อีโต้ แล้วเขามาลักเอาลูกๆ อีโต้ไป โดยเขาคิดเองด้วยกรอบของเขาว่า เขาเลี้ยงได้ดีกว่าอีโต้หละ

อีโต้จะทำไง

โค้ด: เลือกทั้งหมด

การเอากรอบความคิดเราไปตัดสินคนอื่นๆ 
จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ 

ควรตัดสินเขาหรือไม่ ว่ามันบ้าไปแล้ว

หรือว่า อย่างไรดีท่าน

[por_jai]

ถ้าอยู่ดีๆ มีใครก็ไม่รู้ แต่เขารู้จัก อีโต้ แล้วเขามาลักเอาลูกๆ อีโต้ไป โดยเขาคิดเองด้วยกรอบของเขาว่า เขาเลี้ยงได้ดีกว่าอีโต้หละ

อีโต้จะทำไง

โค้ด: เลือกทั้งหมด

การเอากรอบความคิดเราไปตัดสินคนอื่นๆ 
จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ 

ควรตัดสินเขาหรือไม่ ว่ามันบ้าไปแล้ว

หรือว่า อย่างไรดีท่าน

8) ผมว่า apply อย่างนี้ไม่ได้นะ

[Jeng]

ทำไมหละ ท่านพี่

[por_jai]

การเอากรอบความคิดเราไปตัดสินคนอื่นๆ
จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ

8) ผมว่าคุณเจ๋งนะรู้ดีกว่าผมอีก ว่าทำไม
    เรื่องที่คุณเจ๋งยกตัวอย่างมา
    มันกระจ่างในตัวอยู่แล้วครับ
    ผิดทั้งทางโลกผิดทั้งทางธรรม
   
    ขออนุญาติท่านประธานที่เคารพ ขอไม่ตอบ ครับ

[Jeng]

เอ้าเหรอ

เอ ผมว่า ไม่เห็นมีใครไม่ใช้กรอบความคิดของตัวเองไปตัดสินคนอื่นหรอก

ผมว่าอย่างมากก็ไม่รู้ตัวทั้งนั้น แต่จริงๆ ตัดสินไปแล้ว

ตัดสินทุกวัน ทุกเวลาด้วย

[moonkiss]

:lol: มีตะคนมีอายุมา discuss กัน :lol:
เอามุมผมมั่งปะ อายุคงพอกัน
...ยังไม่ต้องแต่งครับ เป็นแฟนกันไปก่อน รักกันแต่งไม่แต่งไม่เห็นแปลก รอจนพ่อแม่คุณรับได้ รึเค้ายอมเปลี่ยน รึคุณพบใครที่เข้ากับคุณและครอบครับได้ดีกว่าค่อยแต่งครับ
คิดมากกลุ้มอะ

[Onokung]

ผมว่า............... พี่เจ๋ง ถามครอบคลุมดีครับ
ในกระบวนการนิยาม ต้องให้ ค่าที่สามาถอธิบาย กรอบของมันได้ถ้ายังไม่ได้ ตีกรอบของคำหรือประโยค

โค้ด: เลือกทั้งหมด

การเอากรอบความคิดเราไปตัดสินคนอื่นๆ 
จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ 

ประโยคนี้ ผมจำได้เพราะ ตอนนั้นที่เรียน วิชา ปรัชญา  
อาจารย์ตั้งคำถามว่า ...
"ผู้หญิงเนี่ย ถ้าขายตัวเพื่อเอาไปเป็นเงินค่ารักษาพยาบาลพอ่ที่ป่วย ผิดมั๊ย"

แล้วก็ถกกันในคลาส ไม่จบซะที ฝ่านนึกก็บอกว่า ผิด มีทางอื่นที่ไม่ต้องขายตัว อีกฝ่ายบอกจำใจ เป็นคนดีจะผิดได้ยังไง แล้วก็เลยไปในกรอบของความผิดว่าใครเป็นคนกำหนด

สุดท้าย มาจบที่ "อย่าเอากรอบความคิดเราไปตัดสินคนอื่น"

จบเลยครับทีนี้  :lol:  :lol:  :lol:  เพราะมันคิดต่อยอดไปได้อีกไกล

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ขออนุญาตท่านประธานตอบนะครับ  

กรณีนี้ แยกเป็นสองประเด็นครับ 

1. มาลักลูกผมไป -- เขาผิดครับ ทั้งทางกฎหมาย 
และผิดกับตัวผม ผิดกับลูกผม 

2. เขาคิดว่าเขาเลี้ยงลูกได้ดีกว่าผม -- อันนี้อาจจะเป็นความจริงครับ 
ผมคงไม่ไปตัดสินว่า เขาคิดผิด 

แต่เขาลักลูกผมไปนี่ผิดแน่ๆ ต้องโดนลงโทษ 
และผมจะเอาเรี่องจนถึงที่สุด

เคลียมากครับ ท่าน