คาดการณ์ประชากรในอีก 20 ปีข้างหน้า

[สุมาอี้]

ปี 2548 ---> ปี 2568
(หน่วย: ล้านคน)
อายุ 0-14 ปี : 14.9 ---> 13.0
อายุ 15-59 ปี : 43.2 ---> 44.8
อายุ 60+ : 6.7 ---> 14.5
รวม :  64.8 ---> 72.3

(ที่มา : สภาพัฒน์ พค 2546)

[javidol]

อายุ 60+ : 6.7 ---> 14.5

ไม่รู้ประกันสังคมจะเอาอยู่หรือเปล่า
คล้ายๆประเทศญี่ปุ่นกับอเมริกาในอนาคตอันใกล้นี้ไงไม่รู้


แต่ดูแล้วหุ้นโรงบาลน่าจะรุ่งนะครับ


ยกเว้นว่าถึงตอนนั้นแล้วค่ารักษาพยาบาลในประเทศเพื่อนบ้านจะถูกกว่าและมีคุณภาพ

[triathlon]

คนส่วนใหญ่ในประเทศยังมีฐานะยากจน เรื่องจะไปใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนได้ น่าจะมีพอควร แต่ไม่มาก
ในแง่หนึ่งรัฐบาลจะมีภาระค่ารักษาพยาบาลสูงขึ้น ถ้าเป็นประเทศประชาธิปไตยเต็มรูปอย่างอเมริกา หรือยุโรป นโยบายของพรรคการเมืองต้องดูแลคนกลุ่มนี้ เมืองไทยเดาไม่ออก แต่รัฐบาลในอนาคตต้องรับภาระเรื่องนี้เยอะแน่ๆ
แต่เห็นข้อมูลแล้ว ต้องยิ่งออมเงิน และลงทุน จะได้ไม่แก่ตัวลงเป็นภาะของรัฐ

[woody]

ที่สหรัฐอเมริกาเค้าพยายามพลักภาระให้บริษัทประกัน ส่วนที่ยุโรปนั้นรัฐบาลจะพยายามเป็นคนช่วยดูแล แล้วประเทศไทยจะไปทางไหนน๊า ผมว่าเป็นอย่างหลังนะครับ

[เพื่อน]

ถ้าจะดูตัวอย่างประเทศในอนาคตของไทย...ให้มองไปทางประเทศละตินอเมริกาครับ....มีหลายเหตุการณ์ลักษณะคล้ายๆกันที่เราเกิดขึ้นตามหลังเค้าอยู่ครับ...ลักษณะความเป็นอยู่และความรู้ในแต่ละสัดส่วนของประชากร ด้านผู้นำและการปกครอง การจัดสรรค์ทรัพยากร การพัฒนาและความล้มเหลวต่างๆ

[MO101]

ถ้าจะดูตัวอย่างประเทศในอนาคตของไทย...ให้มองไปทางประเทศละตินอเมริกาครับ....มีหลายเหตุการณ์ลักษณะคล้ายๆกันที่เราเกิดขึ้นตามหลังเค้าอยู่ครับ...ลักษณะความเป็นอยู่และความรู้ในแต่ละสัดส่วนของประชากร ด้านผู้นำและการปกครอง การจัดสรรค์ทรัพยากร การพัฒนาและความล้มเหลวต่างๆ

ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็แย่ซิครับ
แต่ถ้าให้เป็นแชมป์บอลโลกแบบบราซิลก็น่าคิด

[เพื่อน]

ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็แย่ซิครับ
แต่ถ้าให้เป็นแชมป์บอลโลกแบบบราซิลก็น่าคิด

ก็หวังแต่ว่า เมื่อเราเห็นประสบการณ์ความล้มเหลวของเค้า ว่ามันเกิดขึ้นจากอะไร แล้วนำมาปรับให้ทันเวลาก่อนที่จะเกิดซ้ำรอยแบบเค้าอีกได้ทันก็คงจะดี

แต่ปัญหามันอยู่ที่ ในปัจจุบันคนที่มีโอกาสสั่งการให้ปรับตัว หรือทำตามเค้าไปเรื่อยๆ มีอยู่ไม่กี่คน ต้องอาศัยความจริงใจและความสามารถของคนๆนั้นเป็นหลักครับ ประชากรยังไม่มีพลังและความรู้พอที่จะรับรู้เรื่องราวความเป็นไปต่างๆจึงไม่สามารถบังคับทิศทางของตัวเองได้ว่าจะไปทางไหน....นอกจากมองแค่สิ่งที่ต้องการเฉพาะหน้าเท่านั้นซึ่งก็ไม่ใช่ความผิดอะไร

....คงต้องอาศัยประชากรในระดับกลาง(ที่มีจำนวนน้อยกว่า แต่อยู่ใกล้แหล่งข้อมูลมากกว่า และมองเห็นอะไรได้มากกว่า)มาช่วยร่วมกันกำหนดทิศทาง โดยไม่ปล่อยให้ทีมผู้บริหารนำทางไปเพียงลำพัง(ไม่ว่าจะเป็นคนดีหรือไม่ดี) ซึ่งอาจจะมองดูขัดแย้งกับหลักประชาธิปไตยที่เราเคยเรียนมาตอนเด็กๆว่าต้องวัดกันด้วยเสียงข้างมาก(โดยเฉพาะในวันเลือกตั้ง)เป็นเด็ดขาด ยังเป็นความรู้ที่ผิดอยู่มาก....ต้องแก้ใขกำจัดความรู้เรื่องประชาธิปไตยแบบผิดๆพวกนี้ออกไปก่อนเป็นอันดับแรก....แล้วทิศทางของเราจึงจะเริ่มมีโอกาสเบนหัวออกมาจากทิศทางที่มุ่งไปสู่แนวอนาคตแบบละตินอเมริกาได้ทัน

มีโอกาส ก็ช่วยกันนะครับ เห็นตรงกันบ้าง ขัดแย้งกันบ้าง ดีกว่าไม่มีการแลกเปลี่ยนพัฒนาความรู้ความเห็นกันเลย ต้องอาศัยศักยภาพของพวกเรากันจริงๆครับ

[เพื่อน]

ขอโทษเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ รู้สึกจะออกนอกเรื่องไปไกลหน่อย...

[สุมาอี้]

เหอๆ ไม่เป็นไรครับ ขอร่วมแจมด้วย

หลายท่านอาจคิดไม่ถึง ถ้าผมจะบอกว่า ในปี คศ.1920 นั้น ประเทศอาเจนติน่าเคยถูกจัดเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว (first world) แต่ต่อมาการเมืองแย่ลงอย่างต่อเนื่องก็เลยร่วงลงมาประเทศเป็นโลกที่ 3 อย่างในปัจจุบัน

[terati20]

[quote="สุมาอี้"]ปี 2548 ---> ปี 2568
(หน่วย: ล้านคน)
อายุ 0-14 ปี : 14.9 ---> 13.0
อายุ 15-59 ปี : 43.2 ---> 44.8
อายุ 60+ : 6.7 ---> 14.5
รวม :

[BHT]

ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็แย่ซิครับ
แต่ถ้าให้เป็นแชมป์บอลโลกแบบบราซิลก็น่าคิด

เท่าที่รู้ บราซิลมีคนยากจน พวกนี้ไม่มีโอกาสได้เรียน ได้เข้าถึงการศึกษา ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดที่จะหลุดพ้นความจนได้ก็คือ ใช้ฝีเท้าที่มีอยู่สองเท้าหาเงิน ดังนั้นพวกนี้พอเดินได้ ก็เตะบอลทันที บอลข้างถนนมีเด็กฝีเท้าดีมากมาย ที่รอวันฉายแสง แล้วเงินค่าจ้างนักเตะฝีเท้าดีก็สูงมากๆด้วย พวกนี้จึงหวังว่าจะโด่งดังและได้ค้าแข้งกับทีมดัง จะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น แต่น้อยคนนักที่จะสำเร็จ

[lekmak333]

เขาว่าคนไทยติดเอดส์ อยู่ประมาณ เกือบล้านคน ส่วนใหญ่อยู่ในวัยหนุ่ม-สาว

ดูแล้ว ข้อมูลแมทกัน เป็นไปได้  :roll: