8) อ่านเจอในไทยรัฐ
ความคืบหน้าที่ไม่ค่อยจะคืบหน้าซักเท่าใด
เห็นหมอๆในนี้ก็หลายคน
เผื่อไม่ได้อ่าน ก็อ่านดูครับ
เดี๋ยวนี้คนเป็นหมอมีความเสี่ยงในการประกอบวิชาชีพอาจจะมากกว่า
พวกคนเดินดินกินข้าวแกงอย่างพวกกระผมแล้ว
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา กรรมการแพทยสภา เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ถึงการเคลื่อนไหวของแพทยสภาในการแก้กฎหมาย อาญาเพื่อความเป็นธรรมต่อผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยมีผลสรุปจากการสัมมนาในเรื่องดังกล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ ว่า แพทยสภาจะเสนอร่างกฎหมายว่าการประกอบวิชาชีพเวชกรรมไม่ควรฟ้องในคดีอาญา ควรเป็นคดีแพ่งเท่านั้น ยกเว้นว่าถ้าจะฟ้องคดีอาญา ไม่ควรให้ประชาชนนำไป ฟ้องร้องได้เอง ควรให้เป็นคดีที่ฝ่ายปกครองบ้านเมืองเท่านั้นที่ฟ้องแพทย์ในคดีอาญาได้ หรือถ้ามีการฟ้องร้องในคดีอาญาโดยประชาชนได้ ก็ขอให้แพทย์สามารถนำพยานผู้เชี่ยวชาญมาอ้างในการไต่สวนมูลฟ้องได้
พญ.เชิดชู กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ขอให้แพทย์ สามารถใช้ตำแหน่งประกันตัวได้โดยไม่ต้องถูกกักขัง จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก โดยจะเสนอเป็นร่างกฎหมายเฉพาะเกี่ยวกับวิธีพิจารณาคดีอาญาที่เกี่ยว ข้องกับการประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาคดีอาญาที่เกี่ยวเนื่องกับการประกอบวิชาชีพเวชกรรม รวมทั้งเสนอให้มีการจัดตั้งศาลพิเศษเพื่อ พิจารณาคดีเกี่ยวกับการแพทย์โดยเฉพาะ และจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการรักษาพยาบาล โดยไม่ต้องพิสูจน์ถูกผิด และไม่ต้องมีการฟ้องร้อง
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวเพื่อให้มีกฎหมายคุ้มครองแพทย์จากการถูกดำเนินคดีอาญา มีการดำเนินการมาก่อนหน้านี้แล้ว โดย ศ.คลินิก นพ.อำนาจ กุสลานันท์ อุปนายก แพทยสภา ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกแพทยสภา และคณะได้เข้าพบผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมกับทำหนังสือที่ พงส. 011/1152 ถึง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. เพื่อหารือเรื่องการถูกฟ้องร้องในคดีอาญาของแพทย์ ซึ่งต่อมา ผบ.ตร.ได้ทำหนังสือที่ 0031 212/191 ถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บัญชาการตำรวจภูธร และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 ให้ดำเนินการในกรณีที่มีการแจ้งความดำเนินคดีต่อแพทย์ ให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิด เพื่อพิสูจน์ความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหา หากมีพยานหลักฐานเพียงพอและแน่ชัด ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และเมื่อรับคำร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้มีหนังสือขอความเห็นไปยังนายกแพทยสภา ว่า แพทย์ผู้ถูกกล่าวหา ได้รักษาผู้ป่วยตามมาตรฐานวิชาชีพเวชกรรมของแพทยสภาหรือไม่ และแพทย์ผู้ถูกกล่าวหาได้ใช้ความระมัดระวังในการตรวจ วินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยตามภาวะวิสัยและพฤติการณ์ของแพทย์ที่ต้องทำการรักษาพยาบาลหรือไม่ นอกจากนี้ ให้สำเนาเวชระเบียนและบัตรประวัติผู้ป่วยนอกของผู้ป่วย หรือตาย ส่งไปยังนายกแพทยสภาด้วย และกรณีที่ต้องดำเนินการสอบสวนแพทย์ในฐานะผู้ถูกกล่าวหา หรือหากมีความจำเป็นต้องจับกุมหรือควบคุมแพทย์ ให้คำนึงถึงเกียรติยศ ศักดิ์ศรีของผู้ถูกกล่าวหา โดยให้ปฏิบัติโดยสุภาพ สะดวก รวดเร็ว ตามสมควร