คำว่า "เศรษฐกิจพอเพียง" นั้นคงไม่ใช่จะไล่ไปให้ปลูกผักปลูกหญ้าเลี้ยงไก่กิน ไม่ได้ไล่ให้ออกจากงานไปอยู่ในชนบท
คำว่าพอเพียงนั้น หมายความว่า กินอยู่มีใช้ให้พอดีกับสิ่งที่มีอยู่ พอดีกับสิ่งที่หามาได้ ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป ไม่ได้ให้อยู่อย่างอดๆอยากๆ มีเหลือพอสำหรับดูแลตนเองได้ สามารถยืนอยู่ได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องพึ่งผู้อื่นมากมายนัก
คำว่าพอเพียง ไม่ได้หมายถึงปริมาณของเงินพันหมื่นแสน แต่อยู่ที่ "ความสมดุลย์ของเงินที่หามาได้ กับเงินที่ใช้ไป"
เงินเดือนหนึ่งหมื่น ก็พอเพียงแบบหนึ่งหมื่น
เงินเดือนหนึ่งแสน ก็พอเพียงแบบหนึ่งแสน
ไม่ต้องถึงขนาดเงินเดือนแสน แต่กินมาม่า อันนั้นก็ไม่เหมาะสมแล้ว
การเป็นหนี้ ก็เป็นหนี้แบบเศรษฐกิจพอเพียงได้
ถ้ามีแผนการชัดเจน ว่าเงินที่ได้มาจะเอาไปทำอะไรบ้าง คาดหวังผลตอบแทนมากน้อยเพียงใด รู้ว่าความเป็นไปได้มีมากน้อยแค่ไหน ไม่ลงทุนเกินตัว มองเห็นผลตอบแทนชัดเจน อันนี้ก็เรียกว่า ทำธุรกิจแบบพอเพียง
ตามที่ในหลวงสอนไว้
เศรษฐกิจพอเพียงมี 3 ขั้น
1 พอเพียงระดับตัวเองและครอบครัว พึ่งพาตัวเองได้
2 พอเพียงระดับชุมชน ภายในชุมชนช่วยหลือตัวเองได้ นอกจากนั้นยังช่วยเหลือกันและกันในชุมชน ให้ชุมชนนั้นพัฒนาต่อไปได้
3 ธุรกิจใหญ ช่วยธุรกิจเล็ก ช่วยเหลือชุมชน ให้กลายเป็นธุรกิจใหญ๋ขึ้น สามารถช่วยเหลือชุมชนอื่นๆได้ต่อไป
จะเห็นได้ว่าไม่ได้ปฏิเสธเรื่องธุรกิจแต่อย่างใด แต่กลับมองเห็นประโยชน์ของระบบเศรษฐกิจ และนำมาประยุกต์ใช้ได้เป็นอย่างดี
เป็นเครื่องยืนยันถึงพระอัจฉริยภาพของในหลวงได้อย่างชัดเจน
