ศ.ดร.สิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีที่มีคนไม่รู้จักมากที่สุด

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ

โพสต์ โพสต์
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 0

ศ.ดร.สิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีที่มีคนไม่รู้จักมากที่สุด

โพสต์ที่ 1

โพสต์

'The Road Less Traveled' ของศ.ดร.สิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีที่มีคนไม่รู้จักมากที่สุด

รูปภาพ

ก่อนหน้านี้ไม่นานก็มีโพลล์รายงานว่า รัฐมนตรีที่ประชาชนไม่รู้จักมากที่สุด ร้อยละ 36.2 คือ ศ.ดร.สิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เขาคนนี้เป็นใคร?
     
      แม้คนไทยจะรู้จักชื่อศ.ดร.สิทธิชัยในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงไอซีทีน้อยมาก แต่ในแวดวงวิชาการด้านวิศวกรรมทั้งในระดับประเทศและระดับโลกน่าจะมีน้อยคนมากที่ไม่รู้จักเขา
     
      เมื่อเขาเป็นรัฐมนตรีที่คนไทยไม่รู้จักมากที่สุด 'ปริทรรศน์' จึงอยากรู้จักเขาให้มากกว่านี้ ด้วยการนัดหมายสัมภาษณ์ที่ดูจะง่ายดายจนเกินไปสำหรับคนที่เป็นรัฐมนตรี (จนเราแปลกใจ) ในบรรยากาศการพูดคุยแบบสบายๆ กับนักวิศวกรระดับโลกคนนี้ ผู้ที่ภูมิใจในความเป็นวิศวกรของตัวเองอย่างมากมาย มากกว่าความเป็นรัฐมนตรีเสียอีก และเขาพร้อมแล้วสำหรับความตายใต้ต้นมะฮ็อกกานี และแผ่นหินหน้าหลุมศพที่จารึกบทกวีของ Robert Frost
     
      *เรื่องแรกที่ค่อนข้างแปลกใจคือการติดต่อสัมภาษณ์พิเศษท่านรัฐมนตรีครั้งนี้ ง่ายมาก ท่านรับสาย นัดหมาย แล้วก็ให้พบสัมภาษณ์ ปกติท่านไม่มีเลขาฯ ส่วนตัวที่ต้องติดต่อผ่าน ต้องทำหนังสือ ส่งคำสัมภาษณ์ให้ดูก่อนเหรอครับ
     
      ผมเป็นนักการเมืองสมัครเล่น ผู้บริหารสมัครเล่น อาชีพของผมจริงๆ คือวิศวกรและทำวิจัยทางวิชาการ ผมก็ไม่เคยมีพิธีรีตรองอะไรอยู่แล้วตลอดชีวิตการทำงานของผม ผมจึงไม่เห็นว่าจะต้องมีอะไรมากก็ในเมื่อจะคุยกับผม ก็โทร.ถึงผมโดยตรงเลย ถ้ามีเวลาว่างก็จะรีบตอบโทรศัพท์ ถ้าไม่ว่างก็ค้างไว้ก่อน มันเป็นวิธีปฏิบัติของผมมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แม้กระทั่งการเป็นอธิการบดีที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครที่ผมตั้งขึ้นเอง นักศึกษา อาจารย์ก็สามารถเดินเข้าพบผมได้ตลอดเวลา ถ้าผมว่างก็ให้พบทันที ไม่ต้องนัดล่วงหน้า
     
      *ท่านสนใจเรื่องเกี่ยวกับไฟฟ้า เกี่ยวกับวงจรมาตั้งแต่เด็กเลยหรือเปล่าครับ
     
      ผมมีความใฝ่ฝันว่าจะเป็นวิศวกรมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยมีความต้องการจะทำอาชีพอย่างอื่น อาชีพวิศวกรมันมีเสน่ห์สำหรับผมมาก เป็นอาชีพที่มีความสำคัญต่อมนุษยชาติเป็นอย่างยิ่ง เป็นอาชีพที่เป็นหลักของอารยธรรมของโลก ถ้าไม่มีวิศวกร อารยธรรมของโลกก็ไม่มีนะ ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์มาแล้วช่างต่างๆ ก็เป็นวิศวกรลักษณะหนึ่ง เพราะฉะนั้นวิศวกรในสายตาของผมคือผู้สร้างความฝันให้เป็นความจริง จะต้องใช้วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์มาสร้างความฝันให้เป็นความจริง มันจึงเป็นเรื่องท้าทายและเป็นเรื่องสนุก และผมคิดว่าชีวิตผมเกิดมาได้เป็นวิศวกรสมใจ ได้ทำงานทางวิศวกรรมศาสตร์ได้สมใจ มันไม่เสียชาติเกิด ผมมีความพอใจตลอดมา ตอนผมสอบเอนทรานซ์ผมก็เลือกคณะเดียวคือคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่จุฬาฯ ผมไม่เลือกคณะอื่นเลย การได้เป็นวิศวกรคือความภูมิใจในชีวิตของผม ถ้าผมไม่ได้เป็นนี่ถือว่าชีวิตผมล้มเหลวเลย แต่ถ้าไม่ได้เป็นรัฐมนตรีชีวิตก็ไม่ได้ล้มเหลว ไม่เป็นไร วิศวกรต้องมาก่อน
     
      *ข่าวเรื่องโพลที่ออกมาว่าท่านเป็นรัฐมนตรีที่คนไม่รู้จักมากที่สุด ได้ยินข่าวนี้แล้วคิดยังไงครับ
     
      ผมก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะจะเห็นว่ารัฐมนตรีที่อยู่ในข่ายเดียวกับผมส่วนใหญ่ก็เป็นนักวิชาการ และนักวิชาการแต่ละท่านที่อยู่ในข่ายผมก็เป็นนักวิชาการที่ดังในสายของท่านกันทั้งนั้น ทีนี้ที่ดังก็คงจะดังในวงการนักวิชาการด้วยกัน
     
      สำหรับผม ผมไม่เคยเล่นการเมืองหรือไปทำอะไรที่เกี่ยวกับการเมือง ตลอดชีวิตผมเป็นวิศวกร เป็นอาจารย์ เพราะฉะนั้นคนที่จะรู้จักผมก็น่าจะเป็นหมู่วิศวกรในอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรคมนาคมหรืออิเล็กทรอนิกและลูกศิษย์ลูกหา ผมจึงไม่ได้รู้สึกหรือเป็นกังวล ประการที่สอง ผมว่าถ้าจะให้โพลได้ผลจริงๆ การออกแบบ Sampling Population ถือว่ามีความสำคัญมาก ไม่อย่างนั้นแล้วผลที่ออกมามันจะบิดเบือน แต่ตรงนี้ผมไม่ได้ไปต่อว่าโพลนะครับ เพียงแต่ว่าในหลักการมันต้องออกแบบอย่างระมัดระวัง แต่ผมก็ไม่ได้ถือเป็นเรื่องสลักสำคัญอะไรเลย ก็ดี ผมไม่ได้คิดจะเป็นนักการเมืองต่อไปด้วย ไม่มีปัญหาอะไร
     
      *เป็นไปได้หรือเปล่าว่าท่านไม่ได้สื่อสารกับสังคมเพียงพอ
     
      ก็คงจะเป็นในแง่นั้นด้วย จริงๆ ถ้าดูข่าวในหนังสือพิมพ์ ในทีวี โดยเฉพาะอย่างยิ่งชื่อรัฐมนตรีกระทรวงไอซีทีมีปรากฏเกือบทุกวันนะ แต่มันคงจะเป็นข่าวในลักษณะที่สังคมคงจะเข้าใจยาก เป็นเรื่องทางเทคนิคของการคิดเงิน ของระบบโทรคมนาคมต่างๆ บังเอิญไม่มีเรื่องที่เป็นข้อครหาที่คนทั่วไปจะเข้าใจง่ายๆ นั่น มองอีกแง่หนึ่งได้ว่าเรื่องครหา เรื่องร้ายๆ ไม่มี มีแต่เรื่องทางเทคนิค เรื่องการสร้างความเป็นธรรมต่างๆ ซึ่งนักข่าวสายธุรกิจ สายไอทีเขาก็ลงอยู่ทุกวัน ทีนี้คนทั่วไปก็อาจจะไม่สนใจที่จะอ่าน ก็ธรรมชาติ ไม่เป็นไร ธรรมดา และผมก็จะไม่ปรับปรุงตัวเองอะไร เพราะผมไม่ได้กะให้คนรู้จักเยอะๆ เพื่ออีกหน่อยอาจจะไปเป็นนักการเมือง พอผมพ้นเทอมนี้ไปผมก็จะกลับไปเป็นนักวิชาการเหมือนเดิมจนกระทั่งตาย
     
      *นักวิชาการที่ทำงานและมีเกียรติประวัติมากมาย ส่วนใหญ่มักจะไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเพราะมันเป็นเรื่องเปลืองตัว แต่ได้ข่าวว่าท่านตอบรับทันที
     
      การดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมันก็ถือเป็นเกียรติของชีวิตเพราะว่าได้มีโอกาสที่จะทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยตรง ท่านนายกฯ บอกว่าปีหนึ่ง ผมก็จะใช้เวลาทั้งปีทุ่มสุดชีวิตเพื่อให้งานที่ผมได้รับมอบหมายมาประสบผลสำเร็จเท่าที่จะทำได้ มันจึงไม่มีอะไรเปลืองตัว ผมไม่ได้มีการตั้งธงว่ามาทำเพื่อปราบคนนี้ ปราบคนนั้น ผมทำทุกอย่างด้วยความตรงไปตรงมาและโปร่งใสเสมอ ไม่มีอะไรปิดบัง เพราะฉะนั้นมันไม่น่าจะเปลืองตัว ทุกคนก็เห็นผมว่าค่อนข้างจะสมัครเล่น ผมเป็นวิศวกรไม่ใช่นักการเมือง แต่สิ่งที่ผมทำ ผมทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีการเลือกปฏิบัติ
     
      *ก่อนหน้าที่ท่านยังไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ท่านมีความสุขดีหรือเปล่าครับกับนโยบายด้านไอซีทีของรัฐบาล
     
      ตอนนั้นผมไม่ได้สนใจนโยบายของประเทศ ผมทำของผมเอง เพราะว่าผมลาออกจากราชการมา 18 ปีด้วยความเบื่อระบบราชการ ผมก็เลยไม่ได้สนใจเลย มีความรู้สึกว่าเวลาเชื่อมสายอินเตอร์เน็ตให้กับนักศึกษานี่มันแพงเหลือเกิน แต่ถ้ามันเป็นสิ่งที่เขากำหนดว่าแพงมันก็ต้องแพง แค่นั้นเอง ผมไม่ได้มีความคิดอะไรต่อต้าน ฉะนั้น ก่อนมารับงานนี้ผมไม่ได้มีความคิดว่าผมจะต้องมาปรับปรุงอะไรก่อนล่วงหน้า มารับงานแล้วผมจึงมาดูว่ามันเป็นยังไง ฉะนั้น งานในหนึ่งปีก็คือการปัดกวาด ปรับโครงสร้าง และเสริมสร้างหน่วยงานในกระทรวงนี้ให้มีความแข็งแรง เพราะเป็นองค์กรหลักที่จะเป็นกระดูกสันหลังของประเทศชาติในการพัฒนาด้านไอซีที ผมไม่มีโครงการประชานิยมที่จะต้องซื้อของแจกหรือใช้เงินเป็นแสนล้าน ไม่มี เพราะว่าเวลามันน้อย คงทำอะไรอย่างนั้นไม่ได้ จะเป็นการเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ และก็ไม่รู้จะทำไปทำไมเพราะเราไม่ได้เป็นนักการเมือง ฉะนั้น ผมก็จะทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์มากที่สุดเท่าที่ผมเห็น
     
      สิ่งที่ผมสามารถจะทิ้งไว้ได้คือวัฒนธรรมของความโปร่งใสในการทำงาน ที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุด และผมอยากจะทำให้ข้าราชการและพนักงานขององค์กรนี้มีความภูมิใจ ที่ผมสามารถจะทิ้งไว้ได้คือวัฒนธรรมของความโปร่งใสในการทำงาน ที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุด และผมอยากจะทำให้ข้าราชการและพนักงานขององค์กรนี้มีความภูมิใจว่ากระทรวงไอซีทีเป็นกระทรวงที่มีความโปร่งใส มีความจริงใจในการพัฒนาประเทศ มีผลงาน และสำคัญที่สุดคือน่าจะมีความสุขในการทำงาน เพราะอยู่ที่ไหนถ้าไม่มีความสุขในการทำงาน การทำงานนั้นก็คงจะไม่มีประสิทธิภาพ
     
      *หลังจากมารับตำแหน่งแล้วดูเหมือนท่านจะมาหลุดเรื่องโอเพนซอร์ส
     
      อ้อ อันนั้นเป็นข้อผิดพลาดอย่างหนึ่งของผม เพราะสมัยผมหนุ่มๆ โอเพนซอร์สมักจะเป็นซอฟต์แวร์ได้รับการพัฒนาไม่ถึงขั้น ทีนี้ผมเป็นคนทางฮาร์ดแวร์เป็นส่วนใหญ่ ผมออกแบบวงจร ชิพ งานวิจัยผมก็เป็นทางด้านฮาร์ดแวร์เป็นส่วนใหญ่ ฉะนั้น ผมก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์มากนัก วันนั้นนักข่าวเขาถามเรื่องโอเพนซอร์สหน่อยหนึ่ง ผมก็ไปพูดโดยความรู้สึกเดิม ว่ามันอาจจะเป็นซอฟต์แวร์ที่ได้รับการพัฒนาได้ไม่เต็มที่ ซึ่งสมัยนี้มันไม่จริง เมื่อผมรับทราบข้อมูลของสถานะปัจจุบันผมก็กล่าวขอโทษและดำเนินการสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่ คนเรามันต้องมีข้อผิดพลาดได้ เมื่อผิดพลาดแล้วต้องยอมรับผิดอันนั้นและพยายามแก้ไข เรื่องก็เงียบลงอย่างรวดเร็ว ผมก็ยอมรับว่าผมผิดไป ให้ความเห็นผิดไป
     
      *มาเป็นรัฐมนตรีแล้วชีวิตเปลี่ยนไปจากเดิมมากมั้ยครับ

       แต่เดิมเป็นเวลาหลายปี ผมตีกอล์ฟอาทิตย์ละสองสามวัน ผมเข้านอนประมาณทุ่มหนึ่ง ตื่นประมาณตีสอง ลุกขึ้นมาเขียนหนังสือบ้าง ดูทีวีบ้าง มีความสุขดี ตอนกลางวันก็เขียนหนังสือ ทำงานวิจัย อ่านเปเปอร์ต่างๆ ออกกำลังกาย บางวันก็ไปยิงปืนบ้าง ตอนนี้มาเป็นรัฐมนตรีมันไม่มีเวลาทำสิ่งเหล่านั้น เวลานอนผมไม่สามารถนอนทุ่มหนึ่งได้ เพราะกลับบ้านก็อาจจะทุ่มหนึ่งแล้ว กว่าจะทานข้าวเสร็จกับภรรยาอาจจะเข้านอนห้าทุ่ม หกทุ่ม เลยต้องตื่นสายหน่อย ตื่นตีห้า หกโมงเช้า แล้วไม่มีเวลาออกกำลังกายด้วย มีเวลาเดินเฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้นเอง สามเดือน สี่เดือนนี่อ้วนขึ้นมานิ้วหนึ่ง ถ้าอีกสามเดือนอ้วนสองนิ้ว ครบปีอ้วนสี่นิ้วคงแย่เหมือนกัน
     
      จริงๆ มันก็ไม่เชิงว่าไม่มีเวลา ผมว่านักการเมืองเขาแบ่งเวลาได้นะ นักการเมืองอาชีพเขาทำงานหนักกว่าผมอีกเพราะต้องไปเอาใจคนด้วย แต่ผมไม่ต้อง เราก็ดูแต่เรื่องนโยบายเป็นส่วนใหญ่ แต่ว่ามันต้องใช้ความคิดในการแก้ปัญหา ทำให้จิตใจไม่สงบพอที่จะไปเขียนตำราหรือจะเล่นกีฬาก็ต้องใช้เวลานาน ตอนนี้ผมแก่แล้ว ไม่สามารถไปเล่นกีฬาที่ออกแรงเยอะๆ ในเวลาสั้นๆ ได้ เข่าผมก็ไม่ดี ผมก็ใช้วิธีออกกำลังกายด้วยการเดิน เดินแต่ละครั้งผมจะเดินสามชั่วโมงเป็นอย่างน้อย เราก็เลยไม่มีเวลามาทำสิ่งเหล่านี้ แต่ผมก็คิดว่าแค่ปีเดียวและผมก็คงไม่กลับมาเป็นนักการเมืองอีก
     
      *หมายความหมดวาระแล้วก็...
     
      ไปแน่นอน ไม่ข้องเกี่ยว มีคนชวนก็ไม่มา ผมไม่ชอบ ผมชอบอาชีพเดิมของผม วิถีชีวิตเดิมของผมเป็นวิถีชีวิตที่ผมพอใจและมีความสุข ผมดำเนินชีวิตโดยการออกแบบของผมเอง ผมเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่ตามกรอบระเบียบของคนอื่น ถูกสถานการณ์บังคับ ผมไม่ชอบ ชอบชีวิตอิสระ แต่ตอนแรกผมอยากเป็น อยากลอง ตอนนี้รู้แล้ว ไม่อยากเป็นแล้ว แต่ผมก็ทำเต็มที่ตลอดเวลานะครับ แต่ก็ตั้งใจไว้แต่แรก คุยกับภรรยาแล้วว่าผมมาอยู่เทอมเดียว ไม่ว่าจะสั้น จะยาวแค่ไหนก็เทอมเดียว ท่านนายกฯ ให้ไปหรือไปพร้อมท่านนายกฯ ก็ทันทีแค่นั้นเอง
     
รูปภาพ

      *ท่านเคยพูดว่าความภูมิใจที่สุดของท่านคือการมีภรรยาและลูกที่ดี...
     
      คือถ้าภรรยาเป็นบุคคลที่ไม่มีความเข้าใจ ไม่เสริมส่งการทำงานของเรา ผมว่ามันไม่มีความเจริญเพราะว่าคงจะมีปัญหาทางครอบครัวตลอด ภรรยาผมเขาเข้าใจว่าการทำงานหนักของผมมันเกิดขึ้นเพราะอะไร ไม่เคยที่จะเป็นปัญหา ส่วนลูก ถ้าเรามีลูกที่ไม่ดี โอ้โห ผมตาย คงมีความไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง ฉะนั้น ถ้ามีลูกที่ดี มีภรรยาที่เข้าใจและส่งเสริมกิจกรรมของเรา ถือเป็นโชคดีที่สุด เป็นความภูมิใจ ผมภูมิใจภรรยาเพราะว่าผมเลือกคนที่ถูกและภูมิใจที่เขาอุตส่าห์เลือกเรา ลูก ถ้าเรามีลูกที่ดีก็ภูมิใจอยู่แล้ว
     
      เรื่องนี้เทียบกับความภูมิใจในเกียรติประวัติการทำงาน ผมก็ต้องเอาครอบครัวมาก่อน ถ้าครอบครัวไม่มีความสุข การทำงานมีเกียรติประวัติแค่ไหนมันก็แค่นั้นเอง มันเป็นเศษกระดาษ ไม่มีความหมาย เกียรติประวัติในการทำงานจะมีความหมายก็ต่อเมื่อมีครอบครัวที่ส่งเสริม และร่วมภูมิใจในเกียรติประวัติการทำงาน
     
      *ตัวท่านรัฐมนตรีถือว่าเป็นแฟมิลี่แมน?
     
      ผมเป็นแฟมิลี่แมนที่แย่ ตอนหนุ่มๆ ผมดื่มเหล้าหนักเพราะต้องคุยกับลูกน้อง แต่พออายุเยอะขึ้น ผมเลิกดื่มเหล้า กลับบ้านตรงเวลาทุกวัน ไม่เคยออกไปกินข้าวเย็นที่ไหน ไม่เคยออกไปเที่ยว ผมเป็นคนน่าเบื่อ แต่วิศวกรนี่น่าเบื่อกันทุกคน โดยธรรมชาติของวิศวกรเป็นคนที่ Conservative ฉะนั้น คู่สมรสจะต้องเป็นคนที่ชอบสมองของวิศวกรถึงจะทนได้ เพราะเป็นคนที่น่าเบื่ออยู่แล้ว
     
      *ท่านเป็นคนน่าเบื่อ?
     
      น่าเบื่อ ผมไม่ชอบไปงานปาร์ตี้ ไม่ชอบไปกินข้าวเย็นข้างนอก ไม่ชอบสังสรรค์กับคน อยู่บ้านผมก็นั่งอ่านหนังสือ นั่งคิดงาน นั่งสูบซิการ์ แค่นั้น เล่นกอล์ฟเสร็จก็กระโดดขึ้นรถกลับบ้านทันที ผมเล่นกอล์ฟเพื่อออกกำลังกายไม่ได้เล่นกอล์ฟเพื่อความสนุก พอมาเป็นรัฐมนตรีเรื่องนี้ก็เป็นปัญหาของผมข้อหนึ่งคือผมไม่สังสรรค์ (หัวเราะ) ครม.ชุดนี้ไม่เห็นมีใครสังสรรค์เลย
     
      *เหมือนท่านรัฐมนตรีจะเป็นคนคร่ำเคร่งกับงาน แล้วอย่างนี้มีมุมสบายๆ โรแมนติกบ้างมั้ยครับ
     
      ภรรยาบ่นว่าผมเป็นคนไม่โรแมนติกเลย ก็คงมีบ้างที่ผมคิดว่าโรแมนติกแล้วแต่คงน้อยมากในสายตาของคนอื่น (หัวเราะ) แต่ผมชื่นชมภรรยาผมที่เขาอดทน คงต้องเอาความดีของผมไปข่มสิ่งที่มันน่าขัดใจตรงนี้
     
      *ได้ยินว่าท่านเป็นคนใจร้อน?
     
      ใช่ ผมใจร้อนมากเลย ทุกอย่างต้องเสร็จเมื่อวาน นัดไหนผมไปก่อนเวลาเสมอ ถึงเวลาถ้าผมไม่ถึงแสดงว่าผมเบี้ยวแล้ว ผมไม่ไปแน่นอน ผมไม่เคยไปสายและไม่ต้องการให้คนอื่นมาสายด้วย เวลาผมสอนหนังสือ ใครเข้าห้องสายเกินหนึ่งนาทีผมล็อกห้องห้ามเข้า เวลาประชุมที่มหาวิทยาลัยถ้าผู้บริหารเข้าห้องสายเกินหนึ่งนาทีผมล็อกห้องไม่ให้เข้าเหมือนกัน ผมชอบการตรงต่อเวลาซึ่งเป็นเรื่องน่าเบื่ออีกเรื่องหนึ่งของผม ไม่ค่อยยืดหยุ่น ลูกน้องผิดใจมีเพราะผมมักจะปากร้าย ว่าเขารุนแรง แต่โมโหง่ายก็หายเร็วแล้วผมก็ไปขอโทษเขาอีกที เป็นสิ่งที่น่าจะปรับปรุง แต่นี่ก็แก่แล้ว ก็ดีกว่าเดิมเยอะ ใจเย็นขึ้น อาจจะเป็นเพราะเฉื่อยลงก็ได้
     
      *แล้วนอกจากวงจรไฟฟ้า ฮาร์ดแวร์ ท่านสนใจอย่างอื่นอีกบ้างหรือเปล่า
     
      เป็นเวลาเกือบสิบปีที่สนใจสะสมปืนและมีดดาบ ปืนที่ผมรายงานไปในบัญชีทรัพย์สินก็มีอยู่ 320 กระบอก ยิงปืนด้วย ผมหัดตอนแก่แล้ว ยิงช้า แต่ยิงแม่น เพื่อฝึกสมาธิด้วย ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไมถึงชอบปืนอาจจะเป็นเพราะพ่อผมเป็นทหาร ภรรยาผมก็เป็นลูกสาวคนเดียวของทหาร ชีวิตผมก็เลยคุ้นกับเรื่องพวกนี้ ผมมาเริ่มยิงปืนจริงจังเมื่อสักสิบปีที่แล้ว แต่เดี๋ยวนี้เลิกยิงแล้ว ไม่มีเวลา
     
      ส่วนดาบนี่มีไม่เยอะ แต่ผมก็ชอบสะสมดาบประเภทต่างๆ ดาบซามุไร ดาบไทย ดาบฝรั่ง ดาบทหารม้า ดาบของทหารนโปเลียน ดาบของทหารเรืออังกฤษ ดาบของทหารเรือฝรั่งเศส ดาบของทหารเรือโปรตุเกส ดาบของจีน สะสมไปเรื่อยๆ แต่ใช้ไม่เป็น
     
      *วันหยุดของคนที่เป็นรัฐมนตรีทำอะไรบ้างครับ
     
      วันอาทิตย์เวลาว่างผมตื่นขึ้นมา ภรรยาทำข้าวเช้าให้กิน เสร็จแล้วผมก็แต่งตัวเดินออกกำลังกายประมาณสามถึงสี่ชั่วโมง เดินตามถนนสักยี่สิบกิโล ถือไม่เท้าไปอันหนึ่ง กลับมาก็กินข้าวเที่ยง อาบน้ำ แล้วนั่งหลับอยู่หน้าทีวี (หัวเราะ) ตอนเย็นก็กินข้าวเย็นแล้วก็นอน เท่านี้เอง ภรรยาชวนไปช็อปปิ้ง ผมก็ไม่ไป เบื่อ บอกแล้วไงว่าน่าเบื่อ
     
      *ทำงานมาจนมีเกียรติประวัติมากมาย ได้เป็นรัฐมนตรี มีอะไรอีกที่ท่านฝันว่าจะทำแต่ยังไม่ได้ทำ
     
      จริงๆ ตอนหนุ่มๆ ผมฝันว่าจะเป็นนักวิชาการหรือนักประดิษฐ์ที่ได้รับรางวัลโนเบลหรือดังแบบเอดิสันซึ่งทำไม่สำเร็จ ตอนนี้มันแก่แล้ว คนที่จะทำอะไรได้ดีขนาดนั้นต้องทำช่วงประมาณอายุ 30-35 ตอนนี้ถ้าผมพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีไป ผมก็กลับไปทำงานวิชาการเหมือนเดิม ทุกวันนี้ผมพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่แล้ว ตอนนี้ผมรู้ว่าขีดความสามารถของตัวเองมีแค่นี้ ผมก็พอใจในสิ่งที่ผมทำได้ ผมไม่ได้มีความทะเยอทะยานที่อยากจะทำได้มากกว่านี้หรือมีความอิจฉาริษยาคนอื่นที่ทำได้มากกว่าผม ความมั่นคงด้านครอบครัวผมก็ทำไว้พอสมควร ไม่ได้มหาเศรษฐีอะไร แต่ก็พอใจ ลูกผมก็คงจะสบาย ก็...ก็ใช่แล้ว ไม่รู้จะเอาอะไรอีก
     
      *ท่านคิดว่าชีวิตคนคนหนึ่งควรจะไขว่คว้าอะไรไว้กับตัวบ้าง
     
      ไม่ควร อยู่เดี๋ยวเดียวก็ตาย ชีวิตไม่มีความหมายอะไรมากมาย ผมคิดว่าคนเรามีชีวิตด้วยความบังเอิญ ผมไม่เชื่อเรื่องการกลับชาติมาเกิดหรือเรื่องเหนือธรรมชาติ ผมเชื่อว่าทุกอย่างเป็นธรรมชาติอย่างเดียวไม่มีอย่างอื่น
     
      *แม้แต่การพบรักกับภรรยาท่านก็เป็นเรื่องบังเอิญ เป็นเรื่องของกฎธรรมชาติ
     
      เป็นเรื่องบังเอิญ ไม่มีบุพเพสันนิวาสหรอก
     
      *อย่างนี้หรือเปล่าภรรยาท่านถึงบอกว่าท่านไม่โรแมนติกเลย
     
      (หัวเราะ) ใครจะไปเชื่อบุพเพสันนิวาส เป็นไปได้ไง แล้วการที่สอนเยาวชนว่าเราทำบุญเพื่อชาติหน้านี่ผมว่าเป็นการสอนที่ผิดวิธี เราควรจะสอนว่าทำบุญเพื่อชาตินี้ เพราะชาติหน้าเป็นการสอนที่ไร้ความหมาย เราก็ไม่รู้ว่าชาติก่อนเราเป็นอะไร ฉะนั้น ชาติหน้าถึงจะเกิดใหม่จริงเราก็เป็นคนอีกคนหนึ่งซึ่งไม่รู้เรื่องชาตินี้ แล้วจะทำเพื่อชาติหน้าไปทำไม คือเราต้องเรียน Quantum Mechanic ให้เยอะพอ เราจะรู้ว่าชีวิตของคนเราเป็นเรื่องของความบังเอิญ แล้วชีวิตมันเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดขึ้น มันไม่ได้ยุ่งยากมากมายอะไร ถ้าอยู่ในสภาวะแบบนี้ก็ต้องมีชีวิตเกิดขึ้นแน่นอน
     
      *มนุษย์เป็นเพียงแค่ผลผลิตของความบังเอิญ...เท่านั้น
     
      ในจักรวาลของเราทุกอย่างบังเอิญหมด ทุกอย่างวัดได้ว่ามีความน่าจะเป็นเท่าไหร่ตามหลัก Quantum Mechanic ทางฟิสิกส์ แล้วทุกอย่างในโลกนี่เป็น Quantum Mechanic ทั้งหมด ถ้าพระเจ้ามีจริง พระเจ้าไม่ต้องมาสร้างมนุษย์ พระเจ้าสร้างแค่ Quantum Mechanic อย่างเดียวพอ มนุษย์ต้องเกิดขึ้นแน่นอน
     
      *คิดถึงบั้นปลายชีวิตของตัวเองบ้างหรือเปล่าครับ
     
      ผมพร้อมจะตายเมื่อไหร่ก็ได้ ผมไม่ได้วางแผนอะไรไว้ ตายไปแล้วผมไม่ต้องการให้คนที่อยู่ข้างหลังมาทำงานศพอะไรให้ผม คือผมกับภรรยามีที่อยู่ประมาณร้อยไร่แถวเขื่อนคลองท่าด่านที่นครนายก มีต้นไม้เยอะ ผมก็เลือกต้นมะฮ็อกกานีไว้แล้ว บอกว่าต้นนี้นะ ถ้าตายก็ขุดหลุมเลย เอาผ้าขาวมัดพอไม่ต้องใส่โลงศพ ขุดหลุมลึกสองเมตรฝังผมลงไป ผมเตรียมปืนไว้กระบอกหนึ่งพร้อมทั้งใบอนุญาตด้วย ให้ฝังลงไปพร้อมผมกับลูกกระสุนเพราะผมชอบปืน แล้วถ้ามีปืนแต่ไม่มีลูกกระสุนแล้วจะมีประโยชน์อะไร มีปืน มีกระสุนแล้วต้องมีใบอนุญาตด้วยไม่อย่างนั้นเป็นปืนเถื่อน
     
      ผมเตรียมแผ่นศิลาที่จะอยู่ที่หลุมศพผมไว้แล้วด้วย สลักบทกวีของ Robert Frost ที่ผมชอบมาก บทกวีนี้ชื่อว่า The Road Less Traveled แปลเป็นไทยคร่าวๆ ว่า 'เราเดินทางมาถึงทางสองแพร่ง ทางหนึ่งเป็นทางเรียบมีคนผ่านเยอะ อีกทางหนึ่งเป็นทางรกเพราะคนไม่ค่อยผ่าน ทางที่ผมเลือกเดิน ผมเลือกเดินทางที่คนไม่ค่อยผ่าน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่างในชีวิตผม'
     
      เรื่อง กฤษฎา ศุภวรรธนะกุล
jaychou
ผู้ติดตาม: 0

ศ.ดร.สิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีที่มีคนไม่รู้จักมากที่สุด

โพสต์ที่ 2

โพสต์

อาจารย์ผู้บุกเบิกมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง เพราะไม่พอใจลาดกระบัง
แถมยังโชว์เหนือคณะวิศวะทั้งประเทศด้วยการส่งดาวเทียมทำเองส่งไปบินเล่นบนฟ้าซะงั้น ในวงการใครจะไม่รู้จักก็เชยสุดๆครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
tattoo_thai
Verified User
โพสต์: 291
ผู้ติดตาม: 0

ศ.ดร.สิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีที่มีคนไม่รู้จักมากที่สุด

โพสต์ที่ 3

โพสต์

วิศวกรนี่น่าเบื่อกันทุกคน โดยธรรมชาติของวิศวกรเป็นคนที่ Conservative ฉะนั้น คู่สมรสจะต้องเป็นคนที่ชอบสมองของวิศวกรถึงจะทนได้ เพราะเป็นคนที่น่าเบื่ออยู่แล้ว
:rofl:  :rofl:  :rofl:
ปุย
Verified User
โพสต์: 2032
ผู้ติดตาม: 0

ศ.ดร.สิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีที่มีคนไม่รู้จักมากที่สุด

โพสต์ที่ 4

โพสต์

jaychou เขียน:อาจารย์ผู้บุกเบิกมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง เพราะไม่พอใจลาดกระบัง
แถมยังโชว์เหนือคณะวิศวะทั้งประเทศด้วยการส่งดาวเทียมทำเองส่งไปบินเล่นบนฟ้าซะงั้น ในวงการใครจะไม่รู้จักก็เชยสุดๆครับ
ผมเองก็สงสัย ว่าทำไมไม่ค่อยมีใครรู้จักแกเลยหรือไง

สนามบาสคอนกรีต (บอลพลาสติค)หน้าตึกสโมสร ที่ลาดกระบัง ก็ชื่อ สนามโภไคยอุดม

มาเห็นอีกกระทู้นึง พี่เจ๋งก็ทำท่าไม่รู้จัก

ผมอ่านสัมภาษณ์แก แล้วก็ทึ่งดีนะ มีอุดมการณ์จริงๆ
121
Verified User
โพสต์: 843
ผู้ติดตาม: 0

ศ.ดร.สิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีที่มีคนไม่รู้จักมากที่สุด

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ผมก็เพิ่งรู้ ได้ยินชื่อเมื่อสัก 2 เดือนก่อน

และก็เห็นว่าในคณะรัฐมนตรีมีข่าวท่านมากที่สุด

รองจากท่านนายกเท่านั้น

หรือเพราะผมสนใจ ict   :!:
โพสต์โพสต์