วันก่อนคุยๆกับเพื่อนๆนักลงทุน เกิดประเด็นว่า ตลาด อยู่ในกลุ่ม positive/zero/negative sum game อย่างที่ tvi ก็เคยว่ากัน
วันนั้นก็สรุปกันคร่าวๆ ว่า ระยะ "ยาว" แล้ว ตลาดเป็น positive sum game เพราะมันโตขึ้นไปเรื่อยๆ แถมยังมีปันผล
พอมาอ่านกระทู้ว่าด้วยเรื่องหุ้นตัวหนึ่ง แล้วก็ว่ากันถึงเรื่องวัฏจักรๆ แล้วก็ นึกไปถึงภาพวาดกราฟ SET (ที่มีหน้า นาย ก. แต่ละยุคด้วย) ที่เคยมีคนเอามาลงก็เลยฉุกคิด ว่า ทำไม SET มันไม่สูงไปเรื่อยๆ ตามสมมติฐานข้างต้น ทั้งที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศใหญ่ๆ ก็ทำ new high ขึ้นไปเรื่อยๆ
ก็เลยสงสัย อยากถามความเห็น และ คำอธิบายเพิ่มเติม ว่าที่เป็นเช่นนั้นเพราะ (สมมติฐานผมเอง ชี้แนะด้วย)
1. ประวัติศาสตร์ SET 30 กว่าปียังไม่ยาวนานพอ ถ้าให้เวลาอีกหลายสิบปี หรือร้อยปี จะเป็นอย่างสมมติฐานข้างต้น
2. จริงๆ แล้ว SET ไม่สามารถเป็นอย่าง ต่างประเทศได้ ไม่สามารถโตไปเรื่อยๆ ตามเศรษฐกิจโลก เพราะศักยภาพไม่เพียงพอ บริษัทที่มีในประเทศ และในตลาด ไม่สามารถโตต่อเนื่องไปได้เรื่อยๆ แม้ใช้เวลานานแค่ไหน พอถึงจุดนึงก็ต้องล้มตายไป เพราะ การประกอบกิจการส่วนมากถูกจำกัดอยู่แค่ในประเทศ ไม่เหมือนประเทศอื่นที่มี brand ที่ดูดเงินจากต่างประเทศเข้าประเทศตัวเองได้ คือสรุปแล้ว การประกอบการก็เป็นไปตาม demand/supply ทั้งหมด สุดท้ายเป็นวัฏจักรกลับไปกลับมา อย่างที่พี่หมอเคยสอนในกระทู้นึงไว้
ถ้าอย่างนั้นสุดท้ายแล้ว หุ้นไทยก็คงถือยาว (มากๆจริงๆ) ไม่ได้ เพราะ มันก็แค่นั้น(??) พอหมด growth (ที่เกิดจาก undersupply ในส่วนนั้นๆ) ก็ถึงจุดอิ่มตัว พอเป็นอย่างนี้ทุกๆ บริษัท ก็คือรอเวลา oversupply แล้วก็เป็นขาลงอีก
ผมเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจอย่างถ่องแท้ อาจจะโพส งง งง ไปหน่อย แต่ไงก็ช่วยชี้แนะด้วย
จริงๆแล้ว SET เป็นได้แค่ วัฏจักรรึเปล่า?
-
- Verified User
- โพสต์: 1301
- ผู้ติดตาม: 0
จริงๆแล้ว SET เป็นได้แค่ วัฏจักรรึเปล่า?
โพสต์ที่ 2
ถ้าพูดเฉพาะ SET ผมว่าต้องดูประเทศไทยโดยรวม ในใจก็ยังมีความหวัง เพราะการปรับเปลี่ยนประเทศนี่ 20 ปี ก็จะเห็นหน้าเห็นหลัง แต่ระยะใกล้นี่คงยากมากที่จะเห็นการเติบโตของประเทศแบบก้าวกระโดด ทั้งแผลเก่าจากฟองสบู่ ทั้งกระแส อาจมีผลทำให้ธุรกิจมีความรู้สึกหวั่นใจในการลงทุนเพิ่ม
แต่ถ้าพูดถึงหุ้นเป็นตัวๆ ผมว่ามันก็ยังมี แม้ในตลาด new york เอง ก็ไม่ใช่ว่าถือหุ้นแบบ Buy and Hold แล้วจะประสบความสำเร็จ ปัจจัยก็ยังเป็นการเลือกหุ้นที่ดี เหมือนที่พวกเราคุยกันมาเรื่อยๆ
และหลายครั้งคนที่ Buy and Hold ก็ถือในราคาที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับราคาปัจจุบัน และมีปันผลเหลือเฟือ เพราะหุ้นที่ดีหรือธุรกิจที่ดี ในอนาคตที่ไกลมากๆก็คงไม่สามารถรักษาระดับการเติบโตได้ และคงค่อยๆเปลี่ยนสถานะเป็นหุ้นปันผล อย่างผมก็มอง GE และ MSFT เป็นตัวอย่าง หรืออย่าง SCC ในเมืองไทย
แต่ถ้าพูดถึงหุ้นเป็นตัวๆ ผมว่ามันก็ยังมี แม้ในตลาด new york เอง ก็ไม่ใช่ว่าถือหุ้นแบบ Buy and Hold แล้วจะประสบความสำเร็จ ปัจจัยก็ยังเป็นการเลือกหุ้นที่ดี เหมือนที่พวกเราคุยกันมาเรื่อยๆ
และหลายครั้งคนที่ Buy and Hold ก็ถือในราคาที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับราคาปัจจุบัน และมีปันผลเหลือเฟือ เพราะหุ้นที่ดีหรือธุรกิจที่ดี ในอนาคตที่ไกลมากๆก็คงไม่สามารถรักษาระดับการเติบโตได้ และคงค่อยๆเปลี่ยนสถานะเป็นหุ้นปันผล อย่างผมก็มอง GE และ MSFT เป็นตัวอย่าง หรืออย่าง SCC ในเมืองไทย
-
- Verified User
- โพสต์: 743
- ผู้ติดตาม: 0
จริงๆแล้ว SET เป็นได้แค่ วัฏจักรรึเปล่า?
โพสต์ที่ 3
ก็เข้าใจครับ ว่าถ้าดูเป็นรายตัว มันก็มี
แต่ถ้ามอง SET อย่างข้อสองข้างต้น ผมหมายถึงว่า คงไม่มี จำนวนบริษัทอย่างว่า มากพอที่จะดันให้ SET ขึ้นไปเรื่อยๆ ทำ new high ได้เรื่อยๆ เหมือน ตลาดบางประเทศ หรือเหมือนสมมติฐานที่ว่า ตลาดหุ้นเป็น positive sum game ใน"ระยะยาว" เพราะถ้าจะดันให้ดัชนีเป็นอย่างงั้นได้ มันต้องมีบริษัทอย่างที่ท่าน ว่า เกิดขึ้นใหม่เรื่อยๆ และ บริษัทเดิมที่ว่าโตเต็มที่ กลายเป็นหุ้นปันผล ก็ต้องไม่ล้มตายไปด้วย
แต่ถ้ามอง SET อย่างข้อสองข้างต้น ผมหมายถึงว่า คงไม่มี จำนวนบริษัทอย่างว่า มากพอที่จะดันให้ SET ขึ้นไปเรื่อยๆ ทำ new high ได้เรื่อยๆ เหมือน ตลาดบางประเทศ หรือเหมือนสมมติฐานที่ว่า ตลาดหุ้นเป็น positive sum game ใน"ระยะยาว" เพราะถ้าจะดันให้ดัชนีเป็นอย่างงั้นได้ มันต้องมีบริษัทอย่างที่ท่าน ว่า เกิดขึ้นใหม่เรื่อยๆ และ บริษัทเดิมที่ว่าโตเต็มที่ กลายเป็นหุ้นปันผล ก็ต้องไม่ล้มตายไปด้วย
-
- Verified User
- โพสต์: 674
- ผู้ติดตาม: 0
จริงๆแล้ว SET เป็นได้แค่ วัฏจักรรึเปล่า?
โพสต์ที่ 4
ผมเลือกตอบข้อ 1 ครับ
ภายใต้เงิ่อนไงที่ว่า gdp ของไทยโตขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุด set จะทำจุดสูงสุดใหม่ได้เรื่อย ๆ
ไม่ค่อยเข้าใจตรงคำว่า 30 ปี เพราะว่าถ้าเทียบกัย 30 ปีก่อน set ก็สูงกว่าตอนนี้นี่ครับ
น่าจะเป็นว่าระยะเวลา 14 ปี (นับจากจุดสูงสุดของ set ครั้งสุดท้าย) ไม่นานเพียงพอที่จะทำให้ set ทำจุดสูงสุดใหม่ตามสมมุติฐานที่ว่ามากกว่าครับ
ไม่รู้ตอบตรงคำถามหรือเปล่า
ภายใต้เงิ่อนไงที่ว่า gdp ของไทยโตขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุด set จะทำจุดสูงสุดใหม่ได้เรื่อย ๆ
ไม่ค่อยเข้าใจตรงคำว่า 30 ปี เพราะว่าถ้าเทียบกัย 30 ปีก่อน set ก็สูงกว่าตอนนี้นี่ครับ
น่าจะเป็นว่าระยะเวลา 14 ปี (นับจากจุดสูงสุดของ set ครั้งสุดท้าย) ไม่นานเพียงพอที่จะทำให้ set ทำจุดสูงสุดใหม่ตามสมมุติฐานที่ว่ามากกว่าครับ
ไม่รู้ตอบตรงคำถามหรือเปล่า