คือผมอยกาทราบว่า 1. การคำนวนมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทนั้น ใช่การที่นำเอา
ราคาปิดต่อกำไรสุทธิ x กำไรต่อหุ้น = มูลค่าที่แท้จริง
อยากทราบว่ามันใช่สูตรการคำนวณที่ถูกต้องรึเปล่าครับ เพราะผมได้ลองนำเอามาคูณกันดูซึ่งราคาที่ออกมาได้นั้น จะออกมาต่ำกว่าราคาจริงของทุกๆ บริษัทที่ได้ลองคำนวณดูเลยครับ
Ps ถ้าเกิดสูตรผิดก็ขอคำแนะนำในการหามูลค่าที่แท้จริงของบริษัทนะครับ
2. การที่เราจะมองว่าบริษัทที่เราสนใจอยู่นั้นมันเป็นบริษัทที่มีการได้เปรียบเชิงยั่งยืนหรือไม่นั้น เราควรสนใจในจุดไหนบ้าง ในตลาดหุ้นไทย
3.แล้วในขณะนี้ ตลาดหุ้นไทย เหมือนจะเริ่มเข้าช่วงตลาดหมีแล้วมั้ยครับ เพราะดูจากช่วงนี้ตลาดเริ่มซึมๆ
Ps. ผมไม่มีความรู้เรื่องนี้เลยขอตำแนะนำด้วยนะครับ อาจจะถามยาวไปหน่อย แต่ก็รบกวนขอความรู้ด้วยนะครับ
การคำนวณมูลค่าพื้นฐานของบริษัทนั้นๆ
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
การคำนวณมูลค่าพื้นฐานของบริษัทนั้นๆ
โพสต์ที่ 2
(P/E) x EPS ก็ต้องได้ P สิครับ เพราะ E ก็คือ EPS แต่บางทีตัวเลขในตารางหุ้นไม่ตรงเพราะตัวเลขในตารางหุ้นบางทีก็ไม่อัพเดต บางทีก็เหลื่อมกันในเรื่องของไตรมาส
มูลค่าที่แท้จริงไม่มีสูตรสำเร็จครับ แต่ถ้าหมายถึง "มูลค่าตลาด" ก็ต้องเอาราคาหุ้นคูณด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท มูลค่าตลาดคือค่าที่ตลาดเชื่อว่าเท่ากับมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทซึ่งอาจจะเชื่อถูกหรือเชื่อผิดก็ได้
ถ้าจะดูความสามารถในการแข่งขันที่ยั่งยืนก็ต้องวิเคราะห์เชิงคุณภาพ แนวทางของ Michael E.Porter ช่วยได้
ไม่ใช่ตลาดหมีหรอกครับ ตอนนี้เป็นตลาดมั่วๆ เนื่องจากข่าวสารใหม่ๆ เกี่ยวกับบริษัทไม่ค่อยมี แต่ดันมีเหตุการณ์โน้นนี่มากระทบสารพัด ก็เลยขึ้นลงกับแบบมั่วๆ ชั่วคราว ถ้าเป็นตลาดหมีนั้น แม้นักลงทุนจะได้รับข่าวสารเกี่ยวกับบริษัทอย่างเต็มที่และข่าวเหล่านั้นก็เป็นข่าวดี แต่นักลงทุนก็ยังขายอยู่ดี จะขายซะอย่างมีอะไรมั้ย แบบนั้นแหละครับ ตลาดหมี หลัง ปี 46 เป็นต้นมายังไม่เคยมีเลย ตลาดหมีน่ากลัวกว่านี้ครับ
มูลค่าที่แท้จริงไม่มีสูตรสำเร็จครับ แต่ถ้าหมายถึง "มูลค่าตลาด" ก็ต้องเอาราคาหุ้นคูณด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท มูลค่าตลาดคือค่าที่ตลาดเชื่อว่าเท่ากับมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทซึ่งอาจจะเชื่อถูกหรือเชื่อผิดก็ได้
ถ้าจะดูความสามารถในการแข่งขันที่ยั่งยืนก็ต้องวิเคราะห์เชิงคุณภาพ แนวทางของ Michael E.Porter ช่วยได้
ไม่ใช่ตลาดหมีหรอกครับ ตอนนี้เป็นตลาดมั่วๆ เนื่องจากข่าวสารใหม่ๆ เกี่ยวกับบริษัทไม่ค่อยมี แต่ดันมีเหตุการณ์โน้นนี่มากระทบสารพัด ก็เลยขึ้นลงกับแบบมั่วๆ ชั่วคราว ถ้าเป็นตลาดหมีนั้น แม้นักลงทุนจะได้รับข่าวสารเกี่ยวกับบริษัทอย่างเต็มที่และข่าวเหล่านั้นก็เป็นข่าวดี แต่นักลงทุนก็ยังขายอยู่ดี จะขายซะอย่างมีอะไรมั้ย แบบนั้นแหละครับ ตลาดหมี หลัง ปี 46 เป็นต้นมายังไม่เคยมีเลย ตลาดหมีน่ากลัวกว่านี้ครับ
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 4596
- ผู้ติดตาม: 0
การคำนวณมูลค่าพื้นฐานของบริษัทนั้นๆ
โพสต์ที่ 3
รับทราบครับสุมาอี้ เขียน:(P/E) x EPS ก็ต้องได้ P สิครับ เพราะ E ก็คือ EPS แต่บางทีตัวเลขในตารางหุ้นไม่ตรงเพราะตัวเลขในตารางหุ้นบางทีก็ไม่อัพเดต บางทีก็เหลื่อมกันในเรื่องของไตรมาส
มูลค่าที่แท้จริงไม่มีสูตรสำเร็จครับ แต่ถ้าหมายถึง "มูลค่าตลาด" ก็ต้องเอาราคาหุ้นคูณด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท มูลค่าตลาดคือค่าที่ตลาดเชื่อว่าเท่ากับมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทซึ่งอาจจะเชื่อถูกหรือเชื่อผิดก็ได้
ถ้าจะดูความสามารถในการแข่งขันที่ยั่งยืนก็ต้องวิเคราะห์เชิงคุณภาพ แนวทางของ Michael E.Porter ช่วยได้
ไม่ใช่ตลาดหมีหรอกครับ ตอนนี้เป็นตลาดมั่วๆ เนื่องจากข่าวสารใหม่ๆ เกี่ยวกับบริษัทไม่ค่อยมี แต่ดันมีเหตุการณ์โน้นนี่มากระทบสารพัด ก็เลยขึ้นลงกับแบบมั่วๆ ชั่วคราว ถ้าเป็นตลาดหมีนั้น แม้นักลงทุนจะได้รับข่าวสารเกี่ยวกับบริษัทอย่างเต็มที่และข่าวเหล่านั้นก็เป็นข่าวดี แต่นักลงทุนก็ยังขายอยู่ดี จะขายซะอย่างมีอะไรมั้ย แบบนั้นแหละครับ ตลาดหมี หลัง ปี 46 เป็นต้นมายังไม่เคยมีเลย ตลาดหมีน่ากลัวกว่านี้ครับ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์