สรุปผลการลงทุนในตลาดหุ้นจีนครับ
- GreedyVI
- Verified User
- โพสต์: 59
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปผลการลงทุนในตลาดหุ้นจีนครับ
โพสต์ที่ 1
เมื่อปีที่แล้วประมาณเดือน ก.ค. ได้นำเงินไปเปิดบัญชีที่สิงคโปร์แล้วซื้อกองทุนที่ลงทุนในจีนอย่างเดียว
ถึงสิ้นปีนี้ Return มาแล้ว 40% หักค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นไปแล้วด้วย
กะว่าจะถือสัก 10ปี ต่อให้ ฟองสบู่แตกก็ไม่กลัว
คิดว่าน่าจะเป็นการกระจายความเสี่ยงที่ไม่เลวเลย ทำให้ทั้ง Return ของทั้ง Port เท่ากับ 21% (สัดส่วนลงทุนของทั้ง Port 20%)
ประเทศไทยน่าจะมีกองทุนที่ลงในต่างประเทศให้มากขึ้นนะ
แทนที่จะไปสกัดเงินไหลเข้า
ก็ไปส่งเสริมให้เงินไหลออกบ้าง บาทจะได้ไม่แข็งเกินไป
ถึงสิ้นปีนี้ Return มาแล้ว 40% หักค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นไปแล้วด้วย
กะว่าจะถือสัก 10ปี ต่อให้ ฟองสบู่แตกก็ไม่กลัว
คิดว่าน่าจะเป็นการกระจายความเสี่ยงที่ไม่เลวเลย ทำให้ทั้ง Return ของทั้ง Port เท่ากับ 21% (สัดส่วนลงทุนของทั้ง Port 20%)
ประเทศไทยน่าจะมีกองทุนที่ลงในต่างประเทศให้มากขึ้นนะ
แทนที่จะไปสกัดเงินไหลเข้า
ก็ไปส่งเสริมให้เงินไหลออกบ้าง บาทจะได้ไม่แข็งเกินไป
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปผลการลงทุนในตลาดหุ้นจีนครับ
โพสต์ที่ 4
แล้วนโยบายการลงทุนจากต่างประเทศของจีนนี่มั่นคงอย่างไรครับ
เช่น การขายแล้วนำเงินออกได้ทันทีหรือไม่
เป็นต้น
การแลกเงินกลับ ต้องเสียส่วนต่างเท่าไรครับ
ธุรกรรมทำผ่านธนาคารไทยได้หรือไม่
หมายถึง มีแบงค์ไทย ในจีนละยัง
และ การลงทุนต่อครั้ง นี่ห้ามเกินกี่บาทครับ หรือกี่หยวนครับ
เช่น การขายแล้วนำเงินออกได้ทันทีหรือไม่
เป็นต้น
การแลกเงินกลับ ต้องเสียส่วนต่างเท่าไรครับ
ธุรกรรมทำผ่านธนาคารไทยได้หรือไม่
หมายถึง มีแบงค์ไทย ในจีนละยัง
และ การลงทุนต่อครั้ง นี่ห้ามเกินกี่บาทครับ หรือกี่หยวนครับ
- GreedyVI
- Verified User
- โพสต์: 59
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปผลการลงทุนในตลาดหุ้นจีนครับ
โพสต์ที่ 5
ที่ผมทำคือ เปิดบัญชีเป็นสกุลเงินดอลล่าร์สิงคโปร์ครับ
และซื้อกองทุนเป็นหน่วยในราคาเงินดอลล่าร์สิงคโปร์ ซึ่งบริษัทที่จัดการกองทุนจะไปทำการซื้อขายและแลกเปลี่ยนให้เอง และ ให้ราคาผมตาม NAV ค่าดอลล่าร์สิงคโปร์
กองทุนที่ซื้อ(ซึ่งมีให้เลือกมาก) นั้นจะลงทุนในหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ที่จดทะเบียนอยู่ใน ฮ่องกง และเซี่ยงไฮ้ น้ำหนักลงทุนเป็นพลังงานซะเป็นส่วนใหญ่ และคงจะมีอสังหาฯบ้าง สิ่งที่ต้องคำนึงคือ ผู้บริหารกองทุน และ มองว่าจินจะไปอยู่ที่ไหนในอีก 10 ปี ซึ่งเป็นเวลาอย่างน้อยที่ผมจะทิ้งเงินลงทุนไว้ และผมคิดว่าต่อให้ใน 10 ปีนี้จะมีฟองสบู่แตกบ้างก็ไม่น่ากระทบในระยะยาว เพราะความสามารถทางการแข่งขัน เงินทุนสำรอง ขนาดของตลาด ฯลฯ
ส่วนทำไมถึงเลือกเป็นสิงคโปร์ เพราะอยู่ใกล้ พูดภาษาอังกฤษได้ และมีสินค้าทางการเงินให้เลือกเยอะ
เมื่อถึงเวลาถอนทุน ก็จะถอนเป็นเงินสดออกมา แล้วนำเข้ามาแลกเป็นเงินบาท ซึ่งถึงตอนนั้นผมคิดว่าประเทศไทยคงจะเลิกควบคุมเงินทุนเข้าออกแล้ว (ถ้ายังคุมอยู่อีก ก็ทิ้งเงินไว้ต่างประเทศดีกว่า เพราะเศรษฐกิจไทยคงไม่ดีแน่)
ไอเดียนี้มาจากมีอยู่ครั้งหนึ่งหลายปีแล้ว เคยอ่านกนังสือพิมพ์เศรษฐกิจต่างประเทศที่ทำการวิจัย ประเทศในเอเชียที่จะจัดโอลิมปิก โดยหาผลตอบแทนก่อนการจัดโอลิมปิก 10 ปีย้อนหลัง ปรากฏว่า ญี่ปุ่น มีผลตอบแทนในตลาดหุ้นประมาณเกือบ 10 เท่าใน 10 ปีนั้น และ เกาหลีไต้มีผลตอบแทนเกือบ 5 เท่า ใน 10 ปีเช่นเดียวกัน (ตัวเลขแน่ชัดจำไม่ได้แล้ว แต่รู้ว่าหลายเท่าตัว)
เมือกลับมาดูที่จีน ก็เห็นสิ่งที่เหมือนๆกันอยู่คือมีปัจจัยลองรับหลายอย่าง
ผลตอบแทนปี 48 ประมาณครึ่งปี มีผลตอบแทนประมาณ 10กว่า % ครับ
และซื้อกองทุนเป็นหน่วยในราคาเงินดอลล่าร์สิงคโปร์ ซึ่งบริษัทที่จัดการกองทุนจะไปทำการซื้อขายและแลกเปลี่ยนให้เอง และ ให้ราคาผมตาม NAV ค่าดอลล่าร์สิงคโปร์
กองทุนที่ซื้อ(ซึ่งมีให้เลือกมาก) นั้นจะลงทุนในหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ที่จดทะเบียนอยู่ใน ฮ่องกง และเซี่ยงไฮ้ น้ำหนักลงทุนเป็นพลังงานซะเป็นส่วนใหญ่ และคงจะมีอสังหาฯบ้าง สิ่งที่ต้องคำนึงคือ ผู้บริหารกองทุน และ มองว่าจินจะไปอยู่ที่ไหนในอีก 10 ปี ซึ่งเป็นเวลาอย่างน้อยที่ผมจะทิ้งเงินลงทุนไว้ และผมคิดว่าต่อให้ใน 10 ปีนี้จะมีฟองสบู่แตกบ้างก็ไม่น่ากระทบในระยะยาว เพราะความสามารถทางการแข่งขัน เงินทุนสำรอง ขนาดของตลาด ฯลฯ
ส่วนทำไมถึงเลือกเป็นสิงคโปร์ เพราะอยู่ใกล้ พูดภาษาอังกฤษได้ และมีสินค้าทางการเงินให้เลือกเยอะ
เมื่อถึงเวลาถอนทุน ก็จะถอนเป็นเงินสดออกมา แล้วนำเข้ามาแลกเป็นเงินบาท ซึ่งถึงตอนนั้นผมคิดว่าประเทศไทยคงจะเลิกควบคุมเงินทุนเข้าออกแล้ว (ถ้ายังคุมอยู่อีก ก็ทิ้งเงินไว้ต่างประเทศดีกว่า เพราะเศรษฐกิจไทยคงไม่ดีแน่)
ไอเดียนี้มาจากมีอยู่ครั้งหนึ่งหลายปีแล้ว เคยอ่านกนังสือพิมพ์เศรษฐกิจต่างประเทศที่ทำการวิจัย ประเทศในเอเชียที่จะจัดโอลิมปิก โดยหาผลตอบแทนก่อนการจัดโอลิมปิก 10 ปีย้อนหลัง ปรากฏว่า ญี่ปุ่น มีผลตอบแทนในตลาดหุ้นประมาณเกือบ 10 เท่าใน 10 ปีนั้น และ เกาหลีไต้มีผลตอบแทนเกือบ 5 เท่า ใน 10 ปีเช่นเดียวกัน (ตัวเลขแน่ชัดจำไม่ได้แล้ว แต่รู้ว่าหลายเท่าตัว)
เมือกลับมาดูที่จีน ก็เห็นสิ่งที่เหมือนๆกันอยู่คือมีปัจจัยลองรับหลายอย่าง
ผลตอบแทนปี 48 ประมาณครึ่งปี มีผลตอบแทนประมาณ 10กว่า % ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 31
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปผลการลงทุนในตลาดหุ้นจีนครับ
โพสต์ที่ 6
การเข้าไปลงทุนในประเทศจีนโดยตรงทำได้ยากมากฮะ เพราะมี restrict มาก ถ้าตลาดประเทศจีน เซี่ยงไฮ้เอง ก็แบ่งอีก A share (for domestic) แล้วก็ B share (for domestic and foreign หุ้นใหญ่บางตัวก็ไม่ได้ออก B share ครับ)ก็คงลักษณะสมัยก่อน ในประเทศไทยที่แบ่งแยก local กับ F ออกจากกัน ก่อนจะมี NVDR เพิ่มเข้ามา โดยรวมถ้าจะเล่นหุ้นบริษัทในประเทศจีน ก็เลือกที่จะลงทุนใน ตลาดฮ่องกงได้ครับ เพราะหุ้น หลายตัวในประเทศจีน ก็มี H share ซึ่งพวกเรามีโอกาสง่ายกว่าที่จะไปลงทุน ในตลาดฮ่องกง ก็ยังมีหุ้นบางตัวที่ยังไม่ได้ กระจายหุ้น ใน A share ยกตัวอย่างก็ CCB ครับ ตัวนี้ถือว่าแข็งแกร่งนะครับ เป็นธนาคารที่มี asset มากสุดของจีน และใหญ่สุดของจีน แต่ยังไม่ได้ออก A share
ในตลาดทุนประเทศจีน ไม่สนับสนุน รายย่อยเล่นเองนะครับ แต่สนับสนุนให้นำเงินไปฝากกองทุนเล่น ผมเคยได้คุย กับคนออกแบบ ตลาดจีน(เพิ่งเริ่มต้นมาได้ไม่นานเอง ช่วงปี1990) โดยเค้าบอกว่า ตลาดทุนควรสนับสนุนกองทุน เพื่อให้ ประชาชนจีนได้นำเงินออกไปลงทุนในกองทุน แล้วกองทุนนำเงินประชาชนไปลงทุนในตลาด และพร้อมที่จะออกไป ลงทุนในต่างแดนได้(ในอนาคต ประเทศจีนเริ่มที่จะสร้าง model แบบ เทมาเชคแล้วครับ) ซึ่งจะถือว่าเป็นตลาดทุนที่ยั่งยืนมากกว่า
ตอนนี้ หุ้นหลายตัวในประเทศจีน p/e ถือว่าสูงมากครับ อย่าง 601398 ICBC (ถ้าใครได้ IPO ก็กำไรเกือบ 3เท่าปีก่อนครับ แต่ถ้าซื้อตอนวันแรกที่เทรดก็ได้ผลตอบแทนราวๆ 90% มีvolume เฉลี่ยต่อวันก็แค่ 300ล้านครับ แต่ปลายปีก็เพิ่มมาเป็นระดับ 600ล้านครับ)ก็มี p/e ระดับ 33 (อาทิตย์สุดท้ายของปีก่อน ราคาเพิ่มขึ้นระดับ 31%เลยทีเดียว)แล้วแต่ว่า E ของ q ล่าสุด ถือว่ามากกว่า 2q ก่อนรวมกันอีก ก็ถือว่ายังมีโอกาสเติบโตสูงมาก รวมไปถึง การที่ประเทศจีนสนับสนุน ลดภาษีจ่ายลงจาก30% เหลือ 25% ก็เป็นปัจจัยบวกยิ่งขึ้นครับ ส่วนหุ้นที่ผมมองว่าดีอีกตัว600030 citic securities ตัวนี้ถือว่า ขึ้นมาแรงมากฮะ หุ้น finance ถือว่าแรงมากๆ ทั้งรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น จากที่ตลาดเติบโตขึ้น และมีแนวโน้มเติบโตต่อไป ปีก่อน ให้ผลตอบแทนสูงถึง 500%up ครับ volume เทรดเฉลียก็ประมาณ 25ล้านหุ้นต่อวันครับตัวนี้
แล้วยิ่งข่าวที่ว่า จีนเริ่มลด forex rules โดยเพิ่มเพดานเงินที่ บริษัทจีนสามารถนำเงินออกไปลงทุนในต่างแดนได้ เพื่อลดความผันผวนของค่าเงินหยวนอีกทาง ก็สนับสนุนในตลาดจีนสดใสยิ่งขึ้นครับ
ในตลาดทุนประเทศจีน ไม่สนับสนุน รายย่อยเล่นเองนะครับ แต่สนับสนุนให้นำเงินไปฝากกองทุนเล่น ผมเคยได้คุย กับคนออกแบบ ตลาดจีน(เพิ่งเริ่มต้นมาได้ไม่นานเอง ช่วงปี1990) โดยเค้าบอกว่า ตลาดทุนควรสนับสนุนกองทุน เพื่อให้ ประชาชนจีนได้นำเงินออกไปลงทุนในกองทุน แล้วกองทุนนำเงินประชาชนไปลงทุนในตลาด และพร้อมที่จะออกไป ลงทุนในต่างแดนได้(ในอนาคต ประเทศจีนเริ่มที่จะสร้าง model แบบ เทมาเชคแล้วครับ) ซึ่งจะถือว่าเป็นตลาดทุนที่ยั่งยืนมากกว่า
ตอนนี้ หุ้นหลายตัวในประเทศจีน p/e ถือว่าสูงมากครับ อย่าง 601398 ICBC (ถ้าใครได้ IPO ก็กำไรเกือบ 3เท่าปีก่อนครับ แต่ถ้าซื้อตอนวันแรกที่เทรดก็ได้ผลตอบแทนราวๆ 90% มีvolume เฉลี่ยต่อวันก็แค่ 300ล้านครับ แต่ปลายปีก็เพิ่มมาเป็นระดับ 600ล้านครับ)ก็มี p/e ระดับ 33 (อาทิตย์สุดท้ายของปีก่อน ราคาเพิ่มขึ้นระดับ 31%เลยทีเดียว)แล้วแต่ว่า E ของ q ล่าสุด ถือว่ามากกว่า 2q ก่อนรวมกันอีก ก็ถือว่ายังมีโอกาสเติบโตสูงมาก รวมไปถึง การที่ประเทศจีนสนับสนุน ลดภาษีจ่ายลงจาก30% เหลือ 25% ก็เป็นปัจจัยบวกยิ่งขึ้นครับ ส่วนหุ้นที่ผมมองว่าดีอีกตัว600030 citic securities ตัวนี้ถือว่า ขึ้นมาแรงมากฮะ หุ้น finance ถือว่าแรงมากๆ ทั้งรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น จากที่ตลาดเติบโตขึ้น และมีแนวโน้มเติบโตต่อไป ปีก่อน ให้ผลตอบแทนสูงถึง 500%up ครับ volume เทรดเฉลียก็ประมาณ 25ล้านหุ้นต่อวันครับตัวนี้
แล้วยิ่งข่าวที่ว่า จีนเริ่มลด forex rules โดยเพิ่มเพดานเงินที่ บริษัทจีนสามารถนำเงินออกไปลงทุนในต่างแดนได้ เพื่อลดความผันผวนของค่าเงินหยวนอีกทาง ก็สนับสนุนในตลาดจีนสดใสยิ่งขึ้นครับ