พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
พยูน
Verified User
โพสต์: 66
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เห็นบทวิเคราะห์ ดี หลายโบลค แต่ราคาถอยหลัง และไม่มีใครพูดถึงเลยครับ
น้องใหม่ครับ ช่วยชี้แนะด้วยครับ เริ่มวันนี้เพื่อวันหน้าครับ
พยูน
Verified User
โพสต์: 66
ผู้ติดตาม: 0

ลองดูในนี้น่ะครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

น้องใหม่ครับ ช่วยชี้แนะด้วยครับ เริ่มวันนี้เพื่อวันหน้าครับ
phobenius
Verified User
โพสต์: 1976
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 3

โพสต์

คงน่าจะต้องรอดูผลงานประมูลนะครับที่ส่งไป
เพราะงานนี้คงแข่งกันน่าดู หลายๆ บริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เช่น ait อันหนึ่ง ในการประมูลแข่งของงานการไฟฟ้า ไม่แน่ใจนะครับ

ส่วนพื้นฐานที่โบรกวิเคราะห์ไว้คือ ยังไม่ได้คิดที่จะรวมงานการประมูลที่เกิดขึ้นปลายปีนี้ ถ้า สมมติประมูลได้ ราคา คงน่าจะไปถึงตามราคาพื้นฐาน แต่ไงก็แล้ว แต่ งานประมูล ก็ไม่แน่นอนแหละครับ ต้องทำใจ ถ้าให้ดี ซื้อให้หมด ทุกบริษัทที่เข้าประมูล อันนี้จะได้ชัวร์ไงครับ
phobenius
Verified User
โพสต์: 1976
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ปัจจัยกดดันอีกอันหนึ่งคือการที่หุ้นจะหมดไซเลนพีเรียด ในวันที่17ธันวาคม
แต่อย่างไรก็แล้ว ได้มีการระบุไว้ว่า ทางกองทุนจะไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อราคาในตลาด
พยูน
Verified User
โพสต์: 66
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 5

โพสต์

Earnings summary
                                        2003    2004   2005   2006F  2007F
Sales (Btmn)                     1,281  1,415  1,501  2,972   3,021
EBITDA (Btmn)                   216      350     466      542     569
Normalised earnings (Btmn) 126      202    264       293    325
Earnings (Btmn)                  126      214    262       325    325
Norm. EPS (Bt)                  1.26      0.39   0.50      0.42   0.46
EPS (Bt)                             1.26      0.41  0.50       0.46   0.46
PER (x)                                2.5        7.7    6.2        6.7     6.8
EV/EBITDA (x)                     1.3         3.6    2.8       3.4      3.3
CF/share (Bt)                       1.8         0.8     0.2      (0.2)    0.8
BVPS (Bt)                             4.7        1.7     2.2       2.7     2.9
P/BV (x)                               0.7        1.9     1.4       1.1     1.1
DPS (Bt)                                -           -       0.15    0.26    0.27
Dividend yield (%)               0.0%     0.0% 4.8%   8.3%  8.7%
Net debt/equity (x)        net cash net cash net cash net cash net cash
ROA (%)                            12.7%   13.6% 12.1% 10.5%  8.7%
ROE (%)                            32.3%   31.5% 26.0% 21.4% 16.4%
Source : Company reports and KELIVE Research estimates
น้องใหม่ครับ ช่วยชี้แนะด้วยครับ เริ่มวันนี้เพื่อวันหน้าครับ
พยูน
Verified User
โพสต์: 66
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 6

โพสต์

NAME หมวด ราคา LAST % พาร์ EPS ~ปันผล P/E P/BV


JTS COMMU 3.20 2.92 -8.75 1.00 0.57 0.23 5.09 1.16
น้องใหม่ครับ ช่วยชี้แนะด้วยครับ เริ่มวันนี้เพื่อวันหน้าครับ
phobenius
Verified User
โพสต์: 1976
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ยังไงๆ pe ก็ไม่ถือว่าแพงมาก ขนาดบริษัทก็ไม่ใหญ่มาก และ มาร์เก็ตแชร์ของJTS ผมถือว่าใหญ่ระดับหนึ่ง ส่วนการที่โบรกเชียร์ก็ เป้านะของปีหน้าครับ ถ้าปลายปีนี้ประมูลงานได้คงน่าจะมีปรับเป้าในปีหน้าเช่นกัน

และ ความคิดเห็นส่วนตัว ผมไม่คิดว่า กองทุนจะขายหุ้นออกมาเลย หลังจากวันที่17 ธันวาคม ส่วนจะมีอะไรให้ติดตามหลังจากนั้นคงต้องรอดูครับ ซึ่งผมไม่สามารถคาดเดาได้เช่นกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ติดตามอยู่ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คุณกมล ไม่แน่ใจ ขายหุ้นออกไปแล้วหรือยัง เพราะไม่ได้ขึ้นลิสต์ผู้ถือหุ้นรายใหญ่แล้ว ในอาทิตย์ที่ผ่านมา

ส่วนตามสถิติแล้ว ที่ผ่านมาสามปี ปีนี้รู้สึกว่า กลุ่มสื่อสารจะลงแรงกว่าเซ็ตนะครับ ซึ่งทำให้ดูเหมือนกลุ่มนี้ ค่อนข้างอึดอัด แต่นั้นแหละครับ เป็นธรรมดา ถ้าถือคติลงทุนก็อย่าไปใส่ใจอะไรมากครับ เดี่ยวก็ดีเอง
phobenius
Verified User
โพสต์: 1976
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 8

โพสต์

บุษกร  จงศักดิ์สวัสดิ์ ผู้จัดทำ ใบสำคัญแสดงสิทธิ-ESOP 08/11/2549 03/11/2549 479,300 0.00 ซื้อ-ESOP  
บุษกร  จงศักดิ์สวัสดิ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 08/11/2549 07/11/2549 97,000 1.00 ซื้อ-ESOP  
บุษกร  จงศักดิ์สวัสดิ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 24/11/2549 23/11/2549 26,100 2.96 ขาย
พยูน
Verified User
โพสต์: 66
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ขอบุณมากๆ ครับผม
น้องใหม่ครับ ช่วยชี้แนะด้วยครับ เริ่มวันนี้เพื่อวันหน้าครับ
pae2020
Verified User
โพสต์: 226
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ไม่รู้เป็นไง ผมไม่ชอบบริษัทที่มีรายได้หลักจากการประมูลงาน ผมเห็นว่าเป็นบริษัทที่มีความเสี่ยงในเรื่องรายได้
phobenius
Verified User
โพสต์: 1976
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ยอมรับครับ มีความเสี่ยงในเรื่องรายได้ ดังนั้น เราจำเป็นที่จะต้องดู งานbacklogอย่างสม่ำเสมอครับ ซึ่งอาจจะคาดการณ์ได้ไม่ไกลนักครับ อย่างมากก้หนึ่งปีครับ ยิ่งตอนนี้ กลุ่มสื่อสารกำไรลดลงค่อนข้างเยอะ ยังเป็นภาวะกดดันของกลุ่มด้วยครับ
พยูน
Verified User
โพสต์: 66
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ผู้บริหาร JTS มั่นใจบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากการเมือง และยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีก
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Tuesday, October 31, 2006
แขกรับเชิญ สุพจน์ สัญญพิสิทธิ์กุล กรรมการผู้จัดการ บมจ. จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ (JTS)
พิธีกร           ปฏิพร สิทธิพงศ์

------------------------------------------------------------------------------------------

ปฏิพร วันนี้เลือกมาอีกหุ้นหนึ่งที่เป็นน้องใหม่ แม้ว่าจะไม่ใหม่เท่าไรเพราะเข้ามาในตลาดบ้านเราในกลางเดือนกันยายนนี้เอง ซึ่งเป็นหุ้นที่อยู่ในหมวดเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งริษัทนี้หลายคนคงจะคุ้นกันอยู่ซึ่งมีความเกี่ยวดองกับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์บ้านเรา วันนี้เราจะมาคุยกันถึง บมจ. จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ (JTS) ซึ่ง JTS ทำธุรกิจเกี่ยวกับสื่อสารโทรคมนาคม มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดหาออกแบบและรับเหมาวางระบบโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังเป็นผู้จัดจำหน่ายระบบสื่อสารโทรคมนาคมแบบครบวงจรให้เช่าเครื่องโทรศัพท์สาธารณะกับ TOT และเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องมือวัดด้วย โครงสร้างธุรกิจนี้ถ้าไม่เข้าใจกันเดี๋ยวค่อยไปพูดคุยกันกับทางผู้บริหารของบริษัท ซึ่งให้เกียรติมาร่วมพูดคุยกันในรายการ

แต่ต้องไปดูกันที่ Consensus กันก่อน ซึ่งนักวิเคราะห์จากหลายโบรกเกอร์ทำบทวิจัยออกมาและสรุปรวบรวมเอาไว้ใน www.settrade.com ซึ่งแม้ว่าจะมี 6 เจ้าเท่านั้นที่ส่งคำแนะนำเข้ามา แต่ทั้ง 6 เจ้า ให้คำแนะนำซื้อทั้งหมด ให้ราคาเหมาสมของ JTS เอาไว้เฉลี่ยที่ 3.97 บาท ประมาณการณ์กำไรสุทธิในปีนี้เฉลี่ยที่ 308 ล้านบาท และในปีหน้าลดลงมาเล็กน้อยอยู่ที่ 302 ล้านบาท กำไรต่อหุ้นจะอยู่ที่ 0.44 บาท ส่วนปีหน้า 0.43 บาทต่อหุ้น อัตราผลตอบแทนจากการจ่ายปันผลน่าสนใจทีเดียว เพราะมีค่าเฉลี่ยที่ 6.85%

บล. กิมเอ็ง แนะนำซื้อ ให้มูลค่าที่เหมาะสมที่ 4.15 บาท มองปัจจัยบวกว่า คาดว่า JTS จะขยายตัว 75% จากไตรมาสก่อน คิดเป็นในไตรมาส 3/49 นี้น่าจะมีรายได้รวมทั้งสิ้น 762 ล้านบาท เนื่องจากรับรู้รายได้จากโครงข่ายบรอดแบรนด์ มูลค่ากว่า 1.6 พันล้านบาทของ TT&T ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือหุ้นใหญ่โดยจัสมินด้วยเช่นกัน คาดว่ากำไรในไตรมาส 3/49 ของ JTS จะขยายตัว 63% กว่าไตรมาสที่แล้วเป็น 77 ล้านบาท นอกจากนี้งาน Backlog ของ JTS ยังมีอยู่ถึง 1.8 พันล้านบาท มีหลายโครงการที่จะเข้าร่วมการประมูลในช่วงปลายปีนี้ โดยเฉพาะงานของ CAT และ TOT เนื่องจากเป็นช่วงสุดท้ายในการใช้งบส่วนที่เหลือของปีนี้ ส่วนปีหน้าคาดการณ์ว่ากำไรของ JTS จะขยายตัว 11% เป็น 325 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.46 บาทต่อหุ้น เนื่องจากแนวโน้มการขยายตัวของบรอดแบรนด์ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องนั่นเอง นอกจากนี้ราคาหุ้น JTS ในปัจจุบันยังถูกมาก

บล. นครหลวงไทย ให้คำแนะนำซื้อเช่นกัน โดยให้ราคาเหมาะสมอยู่ที่ 4.01 บาท บอกว่างานในไตรมาส 2/49 ปีนี้ไม่รับรู้รายได้ในโครงการได้ทันตามกำหนด จึงจะเลื่อนมารับรู้รายได้ในไตรมาส 3/49 ไม่ว่าจะเป็น TTT Broadband มูลค่าโครงการกว่า 1.6 พันล้านบาท กำไรในไตรมาส 3/49 คาดว่าอยู่ที่ 75 ล้านบาท ขยายตัว 56.8% จากไตรมาสที่แล้ว นอกจากนี้ งานในมือยังมีถึง 2 พันหว่าล้านบาทด้วย จะทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 3/49 ส่วนปัจจัยลบมองว่าโครงสร้างรายได้ 51% เป็นงานของ TTT Broadband ซึ่งมี Gross Profit Margin ต่ำเพียง 12.5% เท่านั้นเมื่อเทียบกับ Gross Margin ปกติที่ 25% ส่งผลให้ Gross Profit Margin ในไตรมาส 3/49 น่าจะลดลงมาน อกจากนี้ราคาหุ้นยังมีความเสี่ยงจากการที่หุ้นจำนวน 70 ล้านหุ้น ของกองทุน Knight Thai Technology Fund ซึ่งไม่ได้ติด Silence Period ตามกฎกลต.แต่กองทุนฯยินยอมนำหุ้นจำนวนดังกล่าวล็อคเอาไว้ในคัสโตเดียนเป็นเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯหรือสิ้นสุดวันที่ 17 ธันวาคม 2549

บล. ดีบีเอส วิคเคอร์สให้ราคาที่เหมาะสมไว้ที่4.30 บาท แนะนำซื้อ บอกว่า JTS มีแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจที่ดี จากการวางระบบเครือข่ายสื่อสารโทรคมนาคมขนาดใหญ่ และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คือ จัสมินและ TT&T ด้วยคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2549 และปี 2550 จะเติบโตในเกณฑ์ที่น่าพอใจที่ระดับ 9% ส่วนกำไรมีโอกาสเติบโตตามงานการวางระบบเครือข่ายสื่อสารโทรคมนาคมขนาดใหญ่ นอกจากนี้ JTS ยังมีประสบการณ์ทำงานให้กับผู้เล่นรายสำคัญในวงการ IT ไม่ว่าจะเป็น TOT กสท. และ TT&T มีโอกาสได้รับงานจาก TT&T และ TTT Broadband เมื่อติดตั้งโทรศัพท์สาธารณะครบแล้ว ทำให้รายได้ส่วนหนึ่งมีความแน่นอน และลดการพึ่งพิงรายได้จากการวางระบบด้วย แต่มีความเสี่ยงคือการที่พึ่งพาลูกค้ารายใหญ่คือ TT&T, TOT และ กสท. มากเกินไป และมีความเสี่ยงจากการพึ่งพิงผู้ผลิตรายใดรายหนึ่งเกิน 30% เช่น Huawei และ Acatel

ซึ่งวันนี้ผู้ที่ให้เกียรติมาร่วมพูดคุยในการรายการกับเรา เป็นกรรมการผู้จัดการบมจ. จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ (JTS) คุณสุพจน์ สัญญพิสิทธิ์กุล ค่ะเพิ่งเข้ามาตลาดได้ไม่นาน คงจะตอบคำถามเกี่ยวกับความน่าสนใจของหุ้นมาอย่างต่อเนื่อง ถ้าเราจะถามอีกสักครั้งเกี่ยวกับธุรกิจ ให้แนะนำตัวว่าธุรกิจของ JTS ที่เราแนะนำกันไปในช่วงแรกทำอะไรอย่างไรบ้าง

สุพจน์ หลัก ๆ JTS จะเป็นบริษัทที่วางระบบสื่อสารโทรคมนาคม และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ รายใหญ่รายหนึ่งในประเทศไทย เป็นคนที่วางระบบพื้นฐานเรียกว่า Infrastructure ให้กับผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ในประเทศไทย ทั้ง TOT กสท. และ TT&T จุดเด่นของเราคือ เราเป็นผู้ที่มี Supplier ขนาดใหญ่ ได้แก่ Alcatel , Huawei ซึ่งเป็น Partners เรามีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีที่ให้บริการลูกค้า เป็นที่ได้รับวางใจจากลูกค้าเสมอมา และยังอยู่ในบริษัทโทรคมนาคมมากว่า 10 ปีแล้วก็เป็นจุดเด่นของเรา

ปฏิพร ปัจจุบันงานที่เป็น Core Business เป็นทั้งงานวางระบบเทคโนโลยีใช่ไหมคะ ลูกค้าจะเป็น TOT, TT&T และ Cat เป็นส่วนใหญ่ กี่เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดคะ
สุพจน์ จริง ๆ ในส่วนที่เป็นธุรกิจ System Integrator ลูกค้ารายใหญ่ก็น่าจะประมาณ 50% 3 รายรวมกัน

ปฏิพร -ความน่าสนใจของธุรกิจ การที่เราเป็นผู้วางระบบ หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า Margin หรือโอกาสในการทำกำไรขั้นต้นมันสูงไหม เมื่อสักครู่มีบางบทวิเคราะห์พูดถึงว่าบางงาน Gross Profit Margin ของเราลดลงไปด้วยเช่นกัน
สุพจน์ แบ่งเป็น 2 ประเด็น ในโครงการที่เป็นการประมูลครั้งแรก โครงการขนาดใหญ่ เราก็อาจจะมี Profit Margin ที่ไม่สูงมาก ต่ำกว่า 20% อันนี้เป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อเราวางระบบขนาดใหญ่ให้ลูกค้า ในอนาคตลูกค้าจะมีการขยายโครงข่ายซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของลูกค้าด้านโทรคมนาคม เขาจะเลือกขยายโครงข่ายเดิม แทนที่จะมีหลากหลายโครงข่ายผสมกัน ซึ่งตรงนี้จะทำให้เราได้ Profit Margin ในงานขยายในอัตราที่สูงขึ้น ประกอบกับตัวอุปกรณ์เราก็มีราคาที่ลดลงตามราคาที่ผ่านไป ตรงนี้จะทำให้เกิด Gap

ในเรื่องของ Profit Margin ที่ดีขึ้น แต่ในครั้งแรก ในการที่เราจะเข้าไปให้บริการหรือวางระบบให้กับลูกค้าในครั้งแรก จะมี Gross Profit Margin ที่ไม่สูงมาก เช่น TTT Broadband ซึ่งเราเป็นคนวางระบบให้เขา 3แสนเลขหมายของ ADSL ซึ่งครั้งแรกอาจจะมี Gross Margin ที่ไม่สูงมาก แต่ว่าเมื่อลูกค้าขยาย ตรงนี้จะเป็นประโยชน์ทั้งคู่ ในแง่ของผู้วางระบบก็มี Margin ที่ดีขึ้น ขณะที่การลงทุนเบื้องต้นลูกค้าจะได้ไม่ต้องในลงทุนที่สูงมาก

ปฏิพร ปัจจุบันเรามีงานในมืออยู่เท่าไร
สุพจน์ ปัจจุบันถ้ามองสิ้นไตรมาส 3/49 ในแง่ของทางกลุ่ม JTS ประมาณ 2 พันล้านบาท

ปฏิพร และที่อยู่ระหว่างรอการประมูลละคะ
สุพจน์ อยู่ที่เราเข้าร่วมหรือมีการซื้อซอง และก็กำลังจะร่วมหรืออยู่ระหว่างการพิจารณามูลค่าเกือบ 3 พันล้านบาท

ปฏิพร ก็คงจะเริ่มทยอยประมูลกันไปเรื่อย ๆ
สุพจน์ ครับ ช่วงนี้ทางภาครัฐก็มีการเร่งรัดการใช้งบประมาณ กสท. เอา งบประมาณที่เขายังคงค้างการกำลังจะออกรวมมาประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเขาพยายามออกให้เร็วที่สุด อาจมีการชะงักนิดหนึ่งในช่วงการเปลี่ยนรัฐบาล ซึ่งในกรณีนี้อาจมีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการ ก็อาจมีการ Delay นิดหน่อย แต่คิดว่าคงไม่ล่าช้ามาก เพราะคงเป็นนโยบายของทางภาครัฐที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้เงินของภาครัฐวิสาหกิจ

ปฏิพร แปลว่าอย่างไรก็ตาม งบประมาณในไตรมาส 4/49 อย่างไรก็ต้องใช้ แต่อาจจะมีล่าช้าไปบ้าง
สุพจน์ ก็ช่วงรอยต่อช่วงนี้ละครับ ที่มีการติดขัดนิดหน่อย เพราะจริง ๆ การสื่อสารเองก็ทยอยปล่อยโครงการมาเกือบ 2 พันล้านบาทในระยะเวลาสั้น ๆ ไม่กี่อาทิตย์และตอนนี้ก็มีการหยุดพิจารณาปรับเปลี่ยนเงื่อนไขนิดหน่อย แต่คิดว่าคงไม่นานก็จะเริ่มทยอยส่วนที่เหลือออกมา เพราะว่าล่าช้ากันเกือบ 2-3 ปีแล้ว ในหลายเรื่อง ทั้งระเบียบการจัดซื้อ ที่มีการปรับเปลี่ยนในช่วงต้นปี ก็คิดว่าในส่วนของ TOT ก็มีลักษณะคล้ายกัน งบปีหนึ่งก็มีประมาณเป็นหมื่นล้านบาท ในส่วนนี้เราก็เข้าร่วมในหลายโครงข่ายซึ่งกำลังออกมาเป็นเงินหลายพันล้านบาทอยู่ แต่ว่าความชัดเจนทาง กสท. จะชัดเจนกว่าทาง TOT ในขณะนี้

ปฏิพร การที่เรามีลูกค้ารายใหญ่ บางทีเราก็มองว่าเม็ดเงินหรือการประมูลงานครั้งหนึ่งจะได้เม็ดเงินเป็นกอบเป็นกำ แต่ก็มีบางโบรกเกอร์ที่ประเมินว่าบางทีก็เป็นความเสี่ยงเหมือนกันกับการที่เราไปผูกยึดกับลูกค้ารายใหญ่ ในมุมมองของคุณสุพจน์คิดอย่างไรกับประเด็นนี้
สุพจน์ ต้องแยกทาง Operator ออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งคือส่วนทีเป็นทางด้านของ Mobile Operator อีกส่วนหนึ่งคือทางด้าน Fixed Line ลูกค้าส่วนใหญ่ของเราในปัจจุบันจะเป็น Fixed Line Operator ซึ่งก็คือโทรศัพท์พื้นฐานในเมืองไทยมี 4 เจ้า ช่วงที่เราไม่ได้เข้าไป Supply ระบบให้ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติเพราะ ปกติแล้ว Supply เจ้าใดเจ้าหนึ่งจะสามารถวางระบบให้กับทุก Operator ก็เป็นเรื่องยาก เพราะมีการแข่งขันกัน ซึ่งตรงนี้ 3 ใน 4 ก็คือ กสท. TOT และ TT&T เรามีโอกาสเข้าไปวางระบบ

ซึ่งลูกค้าในตอนนี้ก็ต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมโทรคมนาคมคงจะมีลูกค้ามากรายคงจะเป็นไปได้ยาก เพราะต้องมีการจัดสรรทรัพยากรให้เหมาะสม จะได้ไม่มีการลงทุนซ้ำซ้อนกันเกินไป ตัวโครงข่ายพื้นฐานนี้คิดว่า 4 เจ้านี้ก็เยอะแล้ว ซึ่งเราได้ 3 ใน 4 เจ้านี้เราถือว่ามีความ Secure ในระดับหนึ่ง ในขณะเดียวกันสถานะทางการเงินของ 2-3 หน่วยงานนี้ก็ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คิดว่าในระยะยะปานกลาง อีก 5 ปีข้างหน้า เรายังไม่มีความกังวลในเรื่องการพึ่งพาลูกค้ารายใดรายหนึ่งมากเกินไป

ปฏิพร และเรื่องการพึ่งพา Supplier อย่าง Huawei หรือว่า Alcatel ถือว่าพันธมิตรที่แน่นแฟ้นและโบรกเกอร์ก็บอกเหมือนกันว่าจะผูกพันกันมากเกินไปไหม เรื่องนี้มองอย่างไรคะ
สุพจน์ คล้าย ๆ กัน คือปัจจุบันทางด้านของ Supplier ก็มีการ Consolidate เพราะ Operator ต้องการ Deal กับ Supplier เจ้าใดเจ้าหนึ่ง และเขาสามารถให้ Solutions ที่ครอบคลุมได้ทั้งหมดหลายอย่าง ซึ่งตรงนี้มันเกินกำลังของ Supplier รายใดรายหนึ่งที่จะพัฒนาขึ้นมาได้ ก็มีการรวมกิจการของ Supplier หลายเจ้า ยกตัวอย่าง Acatel ก็ควบรวมกับทางลูเซ้นส์ ซีเมนส์ควบรวมกับโนเกีย ซึ่งรวมกันแล้วในระดับโลกจะมีผู้เล่นรายใหญ่ ๆ ที่สามารถให้บริการได้ครอบคลุมทุกระบบที่ต้องการได้ไม่มากนัก

เรื่องการที่เราสามารถสามารถร่วมกับ Supplier รายใหญ่ได้ 2-3 เจ้านี้ จะเห็นว่าค่อนข้างจะมากพอสมควร ผมกลับไม่มองว่ามีคู่ค้าหรือส่วนของ Supplier น้อยจนเกินไป ขณะเดียวกัน การที่เรา Partners ทั้ง Huawei หรือทางด้านของ Alcatel เจ้านี้ก็มีความสามารถในการ Supply Solution ได้หลากหลาย เพราะฉะนั้นเราก็ไม่ได้พึ่งพารายใดรายหนึ่ง ก็ขึ้นอยู่กับจุดแข็งของเขา และขึ้นอยู่กับลุกค้าว่ามีความต้องการอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่ที่ผ่านมาก็เป็นไปได้ด้วยดี

ปฏิพร แนวทางที่ดำเนินมาก็เห็นแล้วว่าเป็นประโยชน์ เราคงสานต่อนโยบายตรงนี้ออกไปทั้งในส่วนของลูกค้าและส่วนของ Supplier ด้วยเช่นกัน
สุพจน์ ขอเรียนเพิ่มนิดหนึ่ง ในส่วนของลูกค้าเองเราก็พยายามขยายออกไปในกลุ่มที่ไม่ใช่ทางด้านของ Fixed Line Operator ไปในส่วนที่เป็น Utility Company เช่นการไฟฟ้า ต่าง ๆ ก็มีการขยายโครงการออกไป เพียงแต่ว่าทางหน่วยงานเหล่านี้อาจติดปัญหาในเรื่องของกฎระเบียบหรือกฎหมายต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันก็ได้มีความชัดเจนมากขึ้น คือสามารถขยับต่อหรือเดินหน้าต่อได้ ตรงนี้ก็จะเป็นตลาดหนึ่งที่เปิดให้กับ System Integrator ที่เข้าไป และเราเองก็สนใจและพร้อมที่จะเข้าไปร่วมในตลาดเหล่านี้ด้วย

ปฏิพร โดยการอาศัยที่เราอยู่ธุรกิจนี้มาอย่างยาวนาน ปัจจุบันนี้เรากำลังทำโครงการอะไรอยู่บ้างที่มีนัยสำคัยต่อภาพรวมของธุรกิจ
สุพจน์ ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ เราได้งานจาก TTT Broadband มูลค่างานประมาณ 1.6 พันล้านบาท ซึ่งงานตัวนี้ค่อนข้างดำเนินการได้เร็ว ปัจจุบันนี้เราดำเนินการไปได้เกินกว่าครึ่งแล้ว และทาง TTT Broadband ก็มีลูกค้าเข้ามาค่อนข้างรวดเร็ว เดือนหนึ่งประมาณ 3 หมื่นราย ปัจจุบันนี้น่าจะมี Subscriber ไม่ต่ำกว่า 1.8 แสนคนแล้ว ซึ่งเกินกว่าที่เราคาดหวังไว้ ตรงนี้เองคิดว่า อาจทำให้ TTT Broadband มีการขยายอีกในปีหน้า ขยายตัวโครงข่ายเพิ่มขึ้นไปอีก

ปฏิพร และโครงการในอนาคตนอกเหนือจาก TTT Broadband นี้
สุพจน์ ตัว TTT Broadband เอง จะมีเรื่องการขยายโครงข่ายที่เรียนให้ทราบ นอกจากนี้เอง จะมีตัว Application on Top เป็นตัว Hi-speed Internet หรือ IPTV ซึ่งเป็น Solution ที่สามารถส่งข้อมูล เสียงและภาพบนโครงข่ายเดียวกัน ลูกค้าสามารถเลือกดู Content ได้ในสิ่งที่เขาต้องการในเวลาที่เขาต้องการ สามารถเก็บข้อมูลต่าง ๆ ไว้ได้ใน Network สามารถ Upload ข้อมูลตัวเองมี Web Blog อยู่ใน TV ซึ่งก็เป็น Application บน Video ที่น่าสนใจ ซึ่งการที่มี Broadband Network ก็สามารถทำให้เขาได้บริการในสิ่งที่เดิมไม่สามารถให้ได้ ตรงนี้ในต่างประเทศก็เป็นเทรนด์ที่มาค่อนข้างแรง ก็คิดว่าจะเป็นตัวหนึ่งซึ่งน่าจะสร้างรายได้ให้เราและทางลูกค้าคือ TTT Broadband ในอนาคตระยะกลางและระยะยาว

ในส่วนของกสท. มีการขยายโครงข่ายตัวทางด้านของ Fiber Optic และตัวระบบสื่อสัญญาณ ปัจจุบันก็มีเม็ดเงินประมาณ 2-3 พันล้านบาทที่อยู่ระหว่างการประมูล เริ่มออกมาแล้ว และนอกจากนี้เอง ก็ยังมีการขยายตัวทางด้ายโครงข่ายทางด้านข้อมูล อีกประมาณ 3 พันล้านบาท ส่วนอื่นอีก 2 พันล้านบาท ซึ่งเป็นตัวโครงข่ายประมาณ 8 พันล้านบาทและมีทางด้านของ IT ซึ่งเราก็สนใจ Global System รวม ๆ ก็เกิน 1 หมื่นล้านบาทที่เขาต้องพยายามผลักดันให้เกิดในไตรมาส 4/49+หรือไตรมาส 1/50

ในส่วนของ CAT เองก็คล้าย ๆ กัน จะมีโครงการขนาดใหญ่อยู่ 2-3 โครงการ เป็นการขยายตัว Network ของ Broadband ซึ่งเดิมมีการขยายไปแล้ว 2 แสนพอร์ต Huawei เป็นผู้ชนะงานไป จะมีการขยายเพิ่มเติมอีก 1.6 แสนพอร์ต นอกจากนี้ก็มีงานที่แบ่งเป็นย่อย ๆ ขยายตามโครงข่ายทางนครหลวง อันนี้มีมูลค่าโครงงานอีก 1 พันว่าล้านบาท ปัจจุบันก็เริ่มทยอยออกมาแล้ว

ปฏิพร ก็แปลว่าธุรกิจบรอดแบนด์ก็เติบโตต่อเนื่อง
สุพจน์ อย่าง Fix Line ธุรกิจ Broadband เป็นตัวหนึ่งที่ผลักดันให้เกิดการลงทุนจำนวนมากในช่วงระยะเวลาอันสั้น ทั้งในส่วนที่เป็นโครงข่ายถึงลูกค้า และโครงข่ายหลักที่เป็น Fiber Optic รวมถึงโครงข่ายข้อมูล ปัจจุบันนี้ยังเป็นการสร้างโครงข่ายพื้นฐานอยู่ เพราะงานปัจจุบันจากการประมาณการณ์ของผู้เชี่ยวชาญในหลายค่าย ๆ เราควรจะมีตัว Broadband น่าจะประมาณ 2-3 ล้านเลขหมาย ขณะที่ปัจจุบันยังไม่ถึง 1 ล้านเลขหมาย เรายังมีโอกาสเติบโตได้อีก รายได้จากฐานลูกค้า 1-2 ล้านราย ก็ใหญ่พอที่เราจะสร้าง Application บนนั้น ซึ่งตรงนั้นจะมีมูลค่ามหาศาล และการลงทุนเยอะกว่านี้อีกหลายเท่าตัว
ปฏิพร เขามีเป้าไหมคะที่จะให้ได้ 2-3 ล้านเลขหมายนี้ภายในกี่ปี
สุพจน์ ประมาณ 3 ปี เริ่มตั้งแต่ปีนี้

ปฏิพร ซึ่งก็เป็นการต่อยอดให้กับธุรกิจเราต่อไปได้
สุพจน์ ในส่วนที่เป็น Fixed Line Operator จะเป็นแหล่งรายได้ตัวหนึ่ง

ปฏิพร ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ IT ระบบต่าง ๆ โลก IT ในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก หรือแม้แต่ระบบต่าง ๆ ที่เราวางเอาไว้ เรามีการวางแผนในการพัฒนาเรื่องการวิจัย หรือเรื่องการเปลี่ยนแปลงให้รับมือกับเทคโนโลยีทีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วอย่างไร
สุพจน์ ในส่วนที่เป็นทางด้านของโทรคมนาคมซึ่งตรงนี้คงต้องใช้เงินลงทุนใน R&D วิจัยพื้นฐานค่อนข้างมาก แต่เราคงไม่ได้มีนโยบายที่จะพัฒนาองค์ความรู้พื้นฐานขึ้นมา จะเป็น Technology Transfer จากทางด้านของ Supplier ที่เป็น Partners กับเรา อันนี้เป็นหลัก

ขณะที่จะ Apply Technology ให้เหมาะสมกับความต้องการลูกค้า ในส่วนของ IT เรามีความรู้ในการพัฒนา Customization ให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า ให้ตรงกับกฎหมายของเมืองไทย ซึ่งวันนี้ในส่วน IT เรามีทีม Software ค่อนข้างเยอะ เรามีการจ้าง Expert จากเมืองนอกมาช่วยกันพัฒนาหลายอย่าง ทำให้เรามีขีดความสามารถที่จะ Support ระบบขนาดใหญ่ให้กับลูกค้าได้ ซึ่งรวมถึงระบบที่ทำระบบ IT ให้กับ Operator ที่มีความซักซ้อน มีฐานลูกค้าเป็นล้านราย เราก็มีขีดความสามารถที่จะทำได้

ปฏิพร เป็นหลายเรื่องที่วางเอาไว้สำหรับในอนาคต
สุพจน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการผสมรวมระหว่างเทคโนโลยีโทรคมนาคมกับ IT ซึ่งตรงนี้เกี่ยวกับ Middleware เป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างโทรคมนาคมเข้ามาหาตัว Content ซึ่งตรงนี้จำเป็นต้องใช้องค์ความรู้หลายเรื่อง ทั้งทางด้านโทคมนาคม และด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ตรงนี้เองเราก็เป็นจุดที่เราจะเสนอตัวเข้าไปให้บริการในอนาคต

ปฏิพร Middleware นี้จะไปอยู่ตรงส่วนไหน
สุพจน์ ยกตัวอย่างใน IPTV พวก Content ก็คือทางด้านผลิตโปรแกรม ส่วนลูกค้าก็คือทางด้าน Hi-speed Internet เราก็สร้าง Platform ที่จะนำ Content ตัวนี้ไปถึงผู้ใช้ในทุกเวลาที่ต้องการ เฉพาะ Content ที่เขาต้องการ ซึ่งตรงนี้เป็นส่วนที่ต้องเชื่อม 2 โลก คือส่วน Information Technology และ Telecom เข้าด้วยกัน

ปฏิพร เป็นเรื่องของเทคโนโลยีในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น
สุพจน์ เรากำลังทำ Trial ในส่วนภูมิภาค น่าจะภายในสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้าก็ลองติดตามดู

ปฏิพร ซึ่งปีหน้านี้ก็จะได้เห็น และวางโครงการสำหรับอนาคตอย่างไรบ้าง ปัจจุบันเราก็มีจุดแข็งอยู่แล้วในการเป็นผู้นำในธุรกิจนี้มานาน โครงการในอนาคตที่มองภาพเอาไว้มีโอกาสไหมที่จะรุกไปในธุรกิจอื่น ๆ เพิ่มเติมนอกเหนือจากที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน
สุพจน์ ในส่วนนี้เรายังมองว่าตลาด ICT ขยายปีละ 20% อีก 3 ปีข้างหน้า 7 แสนล้านบาท ซึ่งมาเทียบกับตัวรายได้ของเรายังมีโอกาสที่ยังโตได้อีกเยอะในตัวของ ICT เพียงแต่ว่าเราต้องพยายาม Focus หาจุดตำแหน่งใน Value Chain ที่เราสามารถขยายได้ เราคงยังไม่ออกไปนอกอุตสาหกรรมนี้ทันที เพราะอุตสาหกรรมนี้ยังมีโอกาสให้เราโตได้อีกมาก เราก็มีการมองว่านอกเหนือจากธุรกิจทางด้าน System Integrator เราก็กำลังมองธุรกิจอื่น ๆ ที่สร้างรายได้ที่ต่อเนื่องและมีกำไรขั้นต้นมากกว่า Project Sale ซึ่งตรงนี้ก็อยู่ระหว่างการพิจารณา คิดว่าภายในสิ้นปีนี้เราน่าจะมีความชัดเจนและสามารถนำเสนอทางผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบ

ปฏิพร น่าจะเป็น Project แบบไหน
สุพจน์ คงเป็นเรื่องคล้าย ๆ กับ IPTV นะครับ แต่ว่าเป็น Scale ที่ค่อนข้างกว้างกว่า และสามารถครอบคลุมได้หลาย Platform หลายโครงข่ายได้มากกว่า

ปฏิพร ก็เป็นเรื่องของธุรกิจในอนาคต ฟังดูธุรกิจก็ราบรื่นเรามีเม็ดงานในมือหรือมีโอกาสที่จะขยายงานต่อไปในอนาคต ถามถึงปัจจัยเสี่ยงของธุรกิจบ้างว่าสำหรับมุมมองของผู้ลงทุนที่จะต้องพิจารณา ปัจจัยเสี่ยงของธุรกิจคืออะไร บางบริษัทมีปัจจัยเสี่ยงด้านการเมือง ของบริษัทเรามีความเสี่ยงเรื่องนั้นด้วยไหม
สุพจน์ มีบ้างแต่ไม่มาก เนื่องจากลูกค้าของเราประมาณครึ่งหนึ่งของ Project Sale ก็เป็นส่วนหนึ่งของทางภาครัฐ ซึ่งจะมีการชะงักบ้างนิดหน่อยในช่วงรอยต่อสั้น ๆ ประมาณ 1-2 เดือน ในการสร้างความชัดเจน ความโปร่งใสให้เกิดขึ้น แต่คิดว่าในระยะกลาง 1-2 ปี ยังไม่เห็นความเสี่ยงในเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเมือง เพราะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเอง ก็มีอิสระพอสมควรในการพิจารณาแผนธุรกิจและการลงทุนในแต่ละบริษัทเอง และฐานะทางกาเงินของแต่ละหน่วยงานก็เข้มแข็งมากในขณะนี้ ส่วนปัจจัยเสี่ยงในเรื่องการแข่งขัน ปัจจุบันนี้ก็ไม่สูงมาก เนื่องจากว่าจำนวนผู้เล่นก็เหลือน้อยลง

ในส่วนของ Supplier ก็ได้มีการควบรวมกันมากขึ้น และก็ปัจจุบันการลงทุนในปีนี้ ในส่วนที่เป็น Fix Network ก็มีเม็ดเงินที่สูงขึ้นพอสมควรเมื่อเทียบกับที่ผ่านมา ทำให้การแข่งขันด้านการตัดราคาก็มีความรุนแรงน้อยลง แต่ตัวนี้ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงตัวหนึ่ง ในเรื่องการตัดราคากัน ภายในระหว่างผู้เข้าประมูลด้วยกัน

ปฏิพร นโยบายการประมูลของเราเป็นอย่างไรคะ
สุพจน์ เราก็พยายามเน้นในตัวโครงข่ายพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งมีโอกาสขยายตัวในอนาคตได้ และพยายามเป็นพันธมิตรกับลูกค้าที่เป็น Operator การที่เราสามารถเสนอ Solution ให้เขาได้ครบวงจร เขาก็สามารถเติบโตและเราก็เติบโตไปพร้อมกับเขา นี่เป็นสิ่งที่เราต้องการวางให้เกิดขึ้นในระยะยาว จะมีผู้เล่นค่อย ๆ น้อยลงเรื่อย ๆ

ปฏิพร ถ้าดูใน Consensus อีกประเด็นหนึ่งที่นักลงทุนน่าจะสนใจนอกเหนือจากคำแนะนำของแต่ละโบรกเกอร์แล้ว คืออัตราการจ่ายเงินปันผล ซึ่งประมาณการณ์เอาไว้ถึงกว่า 6.85% นโยบายการจ่ายเงินปันผลของ JTS วางเอาไว้อย่างไร
สุพจน์ ที่เรายื่นต่อกลต. เราจะมีนโยบายไม่น้อยกว่า 40% โดยเฉพาะในปีนี้อาจจะพิเศษนิดหน่อยคือ มีกลางปี ขณะเดียวกันปลายปีก็จะยื่นต่อบอร์ดและผู้ถือหุ้นในการจ่ายเงินปันผล ด้วย แต่ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ถือหุ้น ในครึ่งปีแรกเราจ่ายได้สูงกว่าที่เราประกาศไว้ในหนังสือชี้ชวน ประมาณ 60%

ปฏิพร เราให้พิเศษเพราะว่าอะไร
สุพจน์ จริง ๆ เรามีนโยบายจะจ่ายก่อนหน้านี้แล้ว บังเอิญว่าเรามีการเลื่อนเข้าตลาด เราจึงมี Cash ที่เหลือที่ควรจะคืนให้กับผู้ถือหุ้น เราก็เลยมีการจ่ายในอัตราที่สูงกว่า

ปฏิพร ส่วนหลังจากนี้ไปก็ไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ นอกเหนือจากนี้ก็ยังมีประเด็นที่หลายคนสนใจกันอยู่ เพราะถ้าดูประมาณการณ์ของปีหน้าบางเจ้า บอกว่าปีหน้ามีลดลงไปในแง่ของ Net Profitเรียนถามว่าปัจจัยอะไรที่นักวิเคราะห์ Concern กับเรื่องทิศทางของปีหน้า
สุพจน์ คิดว่าทางนักวิเคราะห์อาจจะกังวลใน TTT Broadband ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่มี Gross Margin ต่ำกว่าโดยเฉลี่ยของบริษัท แต่ขณะเดียวกันที่เรียนให้ทราบคือ งานขยายซึ่งจะเกิดต่อเนื่อง และราคาอุปกรณ์ซึ่งก็ลดลงอยู่แล้ว ก็จะสามารถที่จะทำให้เรามีอัตรากำไรที่ดีขึ้น กว่าปีนี้ ในส่วนโครงการขนาดใหญ่ในปีหน้า ในส่วน TTT Broadband นี้คงจะเป็นการขยาย ยกเว้นอาจจะมีเรื่อง IPTV ซึ่งขึ้นอยู่กับผลตอบรับของทางด้านผู้ใช้บริการเป็นหลัก ในส่วนทาง TOT และทาง กสท. นี้ เชื่อว่าน่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมเพราะขนาดของโครงการที่ออกมาเยอะ พร้อมกันทีเดียวทำให้การแข่งขันด้านการตัดราคาไม่สูงมาก

ปฏิพร เกี่ยวกับกองทุน Knight Thai Technology Fund ซึ่งก็ไม่ได้ติด Silence Period แต่อยู่ใน Custodian จนถึง 17 ธันวาคม อันนี้จะเป็นปัจจัยที่จะเข้ามา จะมีการเสี่ยงไหม มีการพูดคุยกันไหมคะว่า เขาจะมีการทยอยขายหุ้นเราออกมาไหม
สุพจน์ ทาง Knight Thai Technology Fund เอง ก็เป็นห่วงเหมือนกันก่อนเข้า IPO เนื่องจากผู้ค้ารายย่อยมีความกังวลว่าทางนี้ทาง Knight Thai Technology Fund จะมีการปล่อยหุ้นหลังจากเข้าตลาด แต่ก็มีให้ Commitment แก่ทางกลต.ว่าจะไม่ปล่อย 3 เดือน ขณะเดียวกัน การที่เขาจะปล่อยหุ้นมาขาย เชื่อว่าเขาจะดูราคา ไม่ให้กระทบกับราคาของตลาดซึ่งถ้าการปล่อยและกระทบราคาตลาดแล้ว คิดว่าเขาคงไม่ทำ เพราะมีการคุยกันมาพอสมควร ส่วนที่เหลือ ก็ยังมีการติด Silent Period นอกจากส่วนนี้

ปฏิพร คิดว่าจะพยายามไม่ทำให้เกิดราคาผันผวนในท้องตลาดด้วยเช่นกัน
สุพจน์ ครับ อันนี้สำคัญมากครับ


Posted on Tuesday, October 31, 2006 (Archive on Thursday, November 30, 2006)
Posted by suchitra  Contributed by wasittee

http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Cli ... fault.aspx
น้องใหม่ครับ ช่วยชี้แนะด้วยครับ เริ่มวันนี้เพื่อวันหน้าครับ
phobenius
Verified User
โพสต์: 1976
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 13

โพสต์

"จัสมิน" หลังปลดล็อก...แผนฟื้นฟู จังหวะก้าว..."เสือซุ่ม" ผู้มากประสบการณ์

มูฟเมนท์ที่ผ่านมา ของ บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ถูกวางหมากไว้เป็นสเต็ปอย่างดี ด้วยสตอรี่ของหุ้นเทิร์นอะราวด์ ที่มากด้วยประสบการณ์ของอดีต รมว.ศึกษาฯ "อดิศัย โพธารามิก"



ก่อนที่ศาลล้มละลายกลางจะมีคำสั่งให้ จัสมิน ออกจากแผนฟื้นฟู ตั้งแต่วันที่ 14 กันยายน 2549 มีรายงานว่า "กลุ่มโพธารามิก" และพันธมิตร "กลุ่มบูลกุล" เข้ามาสะสมหุ้น JAS และ วอร์แรนท์ (JAS-W2) เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างมาก

ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า กลุ่มโพธารามิก ถือหุ้น JAS แล้วราว 27-29% และ JAS-W2 ประมาณ 41-43%

กล่าวกันว่าถ้ารัฐบาลทักษิณไม่สะดุดขาตัวเองล้มซะก่อน จนเกิดเหตุการณ์ยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549 หุ้น JAS จะทำให้ตระกูลโพธารามิก "รีเทิร์น" ความมั่งคั่ง อย่างมหาศาล

สคริปท์ธุรกิจขณะนั้นวางให้ JAS เป็น หุ้น "ซูเปอร์ เทิร์นอะราวด์" แต่แผนการกลับ "รวน" แบบเหนือความคาดหมาย

แผนการที่ว่า ก็คือ การดูด ทริปเปิลที บรอดแบนด์ (TTT BB) กล่องดวงใจจาก ทีทีแอนด์ที เข้ามาไว้กับบริษัทลูก อคิวเมนท์ เพื่อต่อภาพจิ๊กซอว์อนาคตใหม่

ตามมาติดๆ กับจังหวะการนำ หุ้น JTS (จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์) เข้าตลาดหุ้น ก่อนวัน "เผด็จศึกทักษิณ" เพียง 1 วัน

นั่นคือ เหตุผลที่ทำให้หุ้น JAS และ JTS พลาดเป้าหมาย ทั้งๆ ที่ตั้งใจจะ "ดัน" ส่วนหุ้น TT&T เหมือนถูกแกล้งให้ "ปล่อยรูด" ราคาหุ้น ถูกกระหน่ำ..ซัมเมอร์เซลส์ เพื่อหาจังหวะ "ช้อปของถูก" ภายหลังหรือไม่???

ทุกคนมองว่าการที่ จัสมิน เป็นของ "อดิศัย โพธารามิก" (อำนาจเก่าระบอบทักษิณ) ธุรกิจน่าจะสั่นคลอน แต่นักวิเคราะห์บางส่วน กลับมองว่า การปลดล็อกทางการเมือง จะเท่ากับเป็นการล้างไพ่ใหม่ อาจจะพลิกให้กลุ่มจัสมิน ได้รับอานิสงส์จากงานประมูล ที่มากขึ้นก็ได้

เพราะจุดเด่นของจัสมิน ก็คือ มีกระแสเงินสด ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 มากถึง 5,356 ล้านบาท คาดว่าเงินก้อนนี้ น่าจะเป็นโอกาสการลงทุนใหม่ๆ เข้ามาชดเชยรายได้จาก "ธุรกิจเสือนอนกิน" ที่ขาดหายไป

หลังจากหมดสัมปทานโทรศัพท์ทางไกลชนบทตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ขณะที่สัมปทานโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงใต้น้ำ ใกล้จะหมดอายุในอีก 5 ปีข้างหน้า หรือปี 2554

ยุทธวิธีหนึ่งในการเสริมพลังบารมี ภายใต้การยกชั้นขึ้นเป็น "โฮลดิ้ง" ของกลุ่ม คือ ภาพของการ Synergy กันเอง ผ่าน 2 ตัวละครดาวรุ่ง อย่าง จัสมิน เทเลคอม และ ทริปเปิลที

หลังจาก "ทรงฤทธิ์ กุสุรสนานันท์" ซีอีโอ ของ จัสมิน ถ่างขาเข้าไปนั่งคุมเกมใน ทีทีแอนด์ที ในตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร

การเดินเกมดึง ทริปเปิลที มาจาก ทีทีแอนด์ที จะเป็น แรงส่ง ใหม่ให้กับ จัสมิน ปั้นรายได้ (ใหม่) เข้าสู่ อคิวเมนท์ บริษัทลูกที่หมดรายได้จากธุรกิจเดิม (สัมปทานการให้บริการโทรศัพท์ทางไกลชนบท หมดอายุลงกลางปี 2549 ) ซึ่งเคยสร้างรายได้ราวปีละ 2,000 ล้านบาท

เดือนกันยายน ที่ผ่านมา อคิวเมนท์ รุกเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุน กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 90.9% ในทริปเปิลที บรอดแบนด์ แทนที่ ทีทีแอนด์ที ที่สละสิทธิไม่ซื้อหุ้นเพิ่มทุน จนสัดส่วนการถือหุ้นลดลงจากเกือบๆ 100% เหลือเพียง 9.09%

ภาพขณะนี้ก็คือหุ้น TT&T ลับดับแสง จนแทบมองไม่เห็นแววฟื้นจากหลุม

สวนทาง จัสมิน ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ ทีทีแอนด์ที ที่อนาคตกำลังจะ "รุ่ง กับ 2 จิ๊กซอว์สำคัญ JTS และ TTT BB ที่ดูแล้วไม่ต่างจาก อัฐยายซื้อขนมยาย

เพราะธุรกิจบรอดแบนด์ ส่งอานิสงส์ต่อมายัง จัสมิน เทเลคอม อีกทอดในฐานะผู้รับงานวางระบบให้ ทริปเปิลที

จากรายได้ธุรกิจวางระบบ (System Integration) ในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ประมาณ 825 ล้านบาท มาจากงานของ ทีทีแอนด์ที 258 ล้านบาท, ทริปเปิลที 391 ล้านบาท , ทีโอที และกสท 176 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าตามแผนขยายการลงทุนโครงข่ายบรอดแบนด์เฟสต่อไปของ ทริปเปิลที มีแนวโน้มส่งอานิสงส์ต่อมายังจัสมิน เทเลคอม

ก่อนจะผลักดัน ทริปเปิลที เข้าตลาดหุ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า และให้สิทธิผู้ถือหุ้น ทีทีแอนด์ที เข้ามาถือหุ้น...แผนนี้ดูลึกซึ้ง

ล่าสุด วรศักดิ์ พิทธวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบัญชีและการเงิน จัสมิน ให้สัมภาษณ์ กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ถึงทิศทางของ จัสมิน ต่อจากนี้ว่า จะยังอยู่ที่ 3 ธุรกิจตัวหลัก ได้แก่ จัสมิน เทเลคอม (JTS) , ทริปเปิลที บรอดแบนด์ (TTT BB) และ จัสมิน ซับมารีน เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ (JSTC) หรือธุรกิจให้บริการโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงใต้น้ำ

นโยบาย จัสมิน ในฐานะโฮลดิ้งของกลุ่ม จะเน้นลงทุนในธุรกิจที่มีผลตอบแทนที่ดี อย่างน้อยต้องมีรีเทิร์น 8-10% (ต่อปี) และเราจะไม่ทำอะไรที่เสี่ยง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบัญชีและการเงิน กล่าว

พร้อมทั้งระบุว่า ธุรกิจบรอดแบนด์จะเป็นดาวรุ่งตัวใหม่ จะสร้างรายได้ที่สำคัญให้กับจัสมิน โดยจะเริ่มสร้างรายได้ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นไป ทั้งนี้คาดว่า ธุรกิจบรอดแบนด์ จะสร้างรายได้ปีละประมาณ 2 พันล้านบาท หรือคิดเป็นราว 30% ของรายได้รวม

เขากล่าวว่า ตามแผน ทริปเปิลที จะมีการลงทุนด้านโครงข่ายการให้บริการบรอดแบนด์ ประมาณ 6,000 ล้านบาท โดยเฟสแรก 2,000 ล้านบาท ลงทุนไปแล้ว ส่วนเฟสที่สอง จะขยายเพิ่มขึ้นจาก 3 แสนพอร์ต เป็น 6 แสนพอร์ต คาดว่าจะมีการลงทุนในช่วงไตรมาสแรก ปี 2550

ตัวธุรกิจบรอดแบนด์ จะเป็นตัวที่มีโอกาสเติบโตอย่างมาก และยังมีช่องว่างให้เข้าไปทำแชร์ส่วนแบ่ง โดยในกลุ่มของเราก็มี ทีทีแอนด์ที ที่เป็นเจ้าของโครงข่ายเนชั่นไวด์ในต่างจังหวัด ทำให้ความพร้อมในด้านตัวโครงข่ายเรามีอยู่แล้ว

ถ้าดูตามโปรเจคชั่นธุรกิจของ ทริปเปิลที จะเห็นว่าเป็นธุรกิจที่สร้างกำไรอย่างมาก สามารถมาทดแทนรายได้จากสัมปทานเดิมที่เสียไป วรศักดิ์ พิทธวงศ์ กล่าว

มือการเงินของจัสมิน อธิบายต่อว่า ส่วนมูฟเมนท์ในอีก 2 ธุรกิจหลักของกลุ่ม ในส่วนของ จัสมิน เทเลคอม (JTS) ถ้าดูจากตอนนี้ ยังมีงาน Backlog อยู่ในมือ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 อีกประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีการรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ประมาณครึ่งหนึ่งหรือราวๆ 1,000 ล้านบาท โดยในปีนี้ คาดว่า JTS จะทำรายได้ทั้งปี เฉียด 3,000 ล้านบาท

ยังไม่รวมถึงโครงการใหม่ๆ อีกหลายโครงการที่อยู่ระหว่างประมูล ซึ่งบางโครงการอยู่ในหลักพันล้านบาท โดยในช่วงไตรมาสสุดท้าย ทั้ง ทีโอที และกสท ต่างเร่งเปิดประมูลงานวางระบบโทรคมนาคม เป็นจำนวนมาก

ส่วนตัวธุรกิจของ จัสมิน ซับมารีน (JSTC) จะมีโครงการส่วนขยายของเคเบิลใยแก้วนำแสงใต้น้ำ ซึ่งได้ขยายลงทุนไปกว่า 200 ล้านบาท โดยตั้งบริษัทลูก จัสเทล เน็ตเวอร์ค เข้ามาดำเนินการ

ทั้งนี้ จัสมิน ซับมารีน เป็นผู้รับสัมปทานร่วมลงทุน และให้บริการโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงใต้น้ำ แก่ ทีโอที เป็นเวลา 20 ปี และจะครบกำหนดสัมปทานในปี 2554 อย่างไรก็ตาม วรศักดิ์ คาดว่าคงจะมีการพูดคุยหารือในการต่อสัญญาสัมปทาน เนื่องจากโครงข่ายยังใช้งานได้ต่อไปอีก

เขายังบอกด้วยว่า ฐานะทางการเงินของ จัสมิน ขณะนี้ ถือได้ว่าแข็งแกร่งอย่างมาก เพราะมีเงินสดกว่า 5,000 ล้านบาท ขณะที่หนี้ก็อยู่ในระดับที่สามารถชำระได้อย่างไม่มีปัญหา โดยเฉพาะหนี้ในส่วนบริษัทแม่ จัสมิน มีหนี้ประมาณ 2,600 ล้านบาท แต่ถ้าหักหนี้ระหว่างบริษัทในเครือ จะอยู่ที่ประมาณ 2,300 ล้านบาท เท่านั้น

" ถ้าดูจาก "กระแสเงินสด" ของเราตอนนี้ ก็มีความสามารถพอที่จะจ่ายเงินปันผลได้" ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบัญชีและการเงิน จัสมิน แย้มแผนการประกาศข่าวดีในสเต็ปต่อไป
phobenius
Verified User
โพสต์: 1976
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 14

โพสต์

JTSพื้นฐานแข็งแกร่ง-ราคาหุ้นยังถูก
Source - ทันหุ้น
Thursday, 21 December 2006 09:41

ที่มา : ทันหุ้น
         บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้น JTS ชี้ปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งแต่ไม่สะท้อนราคาหุ้นได้เท่าที่ควร คาดอัตราการจ่ายเงินปันผลยังหวานหอมยั่วน้ำลายนักลงทุนได้ไม่เบาประเมินผลตอบแทนทั้งปีสูงลิ่ว 12.6% เป็นโอกาสดีที่จะเข้า ซื้อ ให้ราคาเหมาะสม 4.15 บาท
         บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำ ซื้อ หุ้น บริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) JTS ราคาเหมาะสมที่ 4.15 บาท โดยมองว่าราคาหุ้นมีส่วนลดจากราคาเหมาะสมค่อนข้างมาก และให้อัตราเงินปันผลตอบแทนสูง  อีกทั้งในช่วงวันที่ 19 ธันวาคม 2549 ราคาหุ้น JTS ปรับตัวลง 24% หลังการออกมาตรการค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย
         ขณะที่พื้นฐานของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง ทำให้หุ้น JTS ปัจจุบันมีราคาค่อนข้างถูก ซื้อขายที่ P/E ปีนี้เพียง 4.6 เท่า และมีส่วนลด 94% จากราคาเหมาะสมที่ 4.15 บาท (อ้างอิง P/E ปีนี้ที่ 10 เท่า) นอกจากนี้ คาดว่าจะให้อัตราเงินปันผลตอบแทนถึง 12.6% ณ ราคาปัจจุบัน จึงมองว่าเป็นโอกาสดีให้เข้า ซื้อ กำไรไตรมาส 4/49-1/50 มีแนวโน้มแข็งแกร่งต่อเนื่อง
         อีกทั้งจากการสอบถามผู้บริหารของบริษัทได้ประเมินว่า ผลประกอบการของบริษัทยังมีแนวโน้มแข็งแกร่งในไตรมาส 4/49-1/50 ด้วยงานใหญ่โครงข่ายบรอดแบนด์ของ TT&T และอีกหลายโครงการจาก กสท และทีโอทีร่วมประมูลงานใหม่อีกหลายโครงการ
         นอกจากนี้บริษัทได้ร่วมประมูลหลายโครงการใหม่ รวมมูลค่า 2.0 พันล้านบาทที่ได้ยื่นประมูลแล้ว และอีกไม่ต่ำกว่า 6.0 พันล้านบาทในต้นปีหน้า โดยงานส่วนใหญ่เป็นของ กสท และทีโอที ทั้งนี้ ผลของการประมูลคาดว่าจะสรุปในไตรมาส 1/50 และจะเริ่มสร้างรายได้ในไตรมาส 2-3/50 คาดกำไรสุทธิปีนี้เพิ่ม 24%
         จากแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ยังคงแข็งแกร่งนี้  ฝ่ายวิจัยยังคงคาดว่ากำไรสุทธิของ JTS จะขยายตัว 24% เป็น 325 ล้านบาทหรือ 0.46 บาทต่อหุ้นในปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนหลักจากโครงการของ TT&T ซึ่งมีแนวโน้มมีงานต่อเนื่องอีกในปีหน้า นอกจากนี้บริษัทได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน สยามเทลเทค ซึ่งทำธุรกิจงานระบบคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ปีที่แล้วทำให้เพิ่มสัดส่วนการรับรู้กำไรด้วย
         วานนี้ ( 20 ธ.ค.49) ราคาหุ้น JTS  ปิดซื้อขายที่ 2.72  บาท เพิ่มขึ้น 0.58 บาท มูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 10.83 ล้านบาท
phobenius
Verified User
โพสต์: 1976
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 15

โพสต์

มา : ทันหุ้น
         โบรกเกอร์มองสัญญาณหุ้นกลุ่มสื่อสารเริ่มฟื้นตัว หากขยับไปได้ถึง  74-76 จุด มีโอกาสเด้งต่อถึง 81 จุด
         มองหุ้นเล็ก JTS แววดี   ราคาต่ำพื้นฐานปี 2550 ที่ 4.16 บาท หลังส่งสัญญาณฟื้นตัวตั้งแต่การเมืองชัดเจน พร้อมตุนงานในมือปีนี้กว่า 1.8 พันล้านบาท และรอลุ้นผลประมูลงานใหม่อีก  2 พันล้านบาท ด้านสัญญาณเทคนิคให้มองแนวต้าน 2.72-2.80 บาท แนวรับ 2.64-2.56 บาท
         นางสาวมยุรี โชวิกรานติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มสื่อสารเริ่มมีสัญญาณการปรับตัวที่ดี แต่เนื่องจากระยะสั้นดัชนีตลาดหุ้นยังคงผันผวน ดังนั้นนักลงทุนควรเลือกเฉพาะหุ้นที่มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องในปี 2550 และราคายังต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานอีกมาก ซึ่งหุ้นที่เหมาะสมกับการลงทุนในสภาวะตลาดช่วงนี้แนะนำซื้อบริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) JTS ราคาเหมาะสมปี 2550 ที่ 4.16 บาท
         เนื่องจาก ภาพรวมของ JTS ด้านธุรกิจงานวางระบบไอทีและโทรคมนาคมที่ฟื้นตัวเร็วกว่าคาดหลังการเมืองชัดเจน ประกอบกับมูลค่างานในมือสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีกว่า 1,800  ล้านบาท โดย JTS อยู่ระหว่างการประมูลโครงการอีก 2,000 ล้านบาท รวมถึงงานต่อเนื่องในกลุ่ม JAS ทั้งจาก ทริปเปิล ที บรอดแบนด์ ซึ่งต้องลงทุนขยายพอร์ต ADSL เฟส 2 ในปี 2550 อย่างแน่นอน โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท และงานซ่อมบำรุงโครงข่ายของ TT&T  อีก 1,000 ล้านบาทต่อปี
         JTS มีข้อดีตรงที่งานในมือที่มีอยู่ในปีนี้สามารถรองรับและรับรู้ในปีหน้าโดยที่ JTS ไม่จำเป็นต้องประมูลงานแข่งกับผู้ประกอบการรายอื่นอย่าง SAMTEL, AIT ,  FORT หรือ MFEC ซึ่งราคาหุ้นขณะนี้ถือว่าซื้อลงทุนได้ นางสาวมยุรี กล่าว
         บทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำซื้อ  JTS ราคาเหมาะสมที่ 4.15 บาท โดยระบุว่าราคาหุ้นมีส่วนลดจากราคาเหมาะสมค่อนข้างมาก และให้อัตราเงินปันผลตอบแทนสูงถึง 12.60% ณ ราคาปัจจุบัน ดังนั้นมองว่าเป็นโอกาสดีให้เข้าซื้อ
         รวมทั้งจากการสอบถามผู้บริหารของบริษัทผลประกอบการของบริษัทยังมีแนวโน้มแข็งแกร่งในไตรมาส 4/49 ถึงไตรมาส 1/50 จากงานใหญ่โครงข่ายบรอดแบนด์ของ TT&T และอีกหลายโครงการจาก กสท และทีโอที รวมถึง JTS ได้ร่วมประมูลหลายโครงการใหม่ รวมมูลค่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งได้ยื่นประมูลแล้ว และอีกไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาทในต้นปีหน้า โดยงานส่วนใหญ่เป็นของ กสท.และทีโอที ทั้งนี้ ผลของการประมูลคาดว่าจะสรุปในไตรมาส 1/50 และจะเริ่มสร้างรายได้ในไตรมาส 2/50 ถึงไตรมาส 3/50
         อย่างไรก็ดีจากแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ยังคงแข็งแกร่ง คงคาดว่ากำไรสุทธิของ JTS จะขยายตัวในปีนี้อีก 24% เป็น 325 ล้านบาท หรือ 0.46 บาทต่อหุ้น โดยได้รับแรงหนุนหลักจากโครงการของ TT&T ซึ่งมีแนวโน้มมีงานต่อเนื่องอีกในปีหน้า นอกจากนี้บริษัทได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน สยามเทลเทค ซึ่งทำธุรกิจงานระบบคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ปีที่แล้วทำให้เพิ่มสัดส่วนการรับรู้กำไรด้วย
         ด้านนางสาวภัทรวัลลิ์ หวังมิ่งมาศ นักวิเคราะห์เทคนิค บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ระยะสั้นอาจต้องรอดูดัชนีกลุ่มสื่อสาร ถ้าสามารถปรับตัวขึ้นสูงกว่าระดับ 74-76 จุด จะมีโอกาสขึ้นมาทดสอบระดับ 81 จุด  แต่หากปรับตัวลดลงต่ำกว่า 71 จุด ดัชนีอาจรูดลงมาถึงระดับ 67 จุด ดังนั้นสำหรับนักลงทุนที่สนใจซื้อลงทุนในช่วงนี้อาจต้องรอดูจังหวะลงทุนจากกรอบดัชนีที่ประเมินไว้
         สำหรับกรอบลงทุนระยะสั้นในหุ้น JTS ให้แนวรับแรก 2.64 บาท แนวรับถัดไป 2.56 บาท ส่วนแนวต้านแรก 2.72 บาท และแนวต้านถัดไป 2.76-2.80 บาท
         ราคาหุ้น JTS ล่าสุด(20ธ.ค.) ปิดตลาดในราคาสูงสุดที่ 2.72 บาท เพิ่มขึ้น 0.58 บาท หรือ 27.10% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 10 ล้านบาท ขณะที่วานนี้(19ธ.ค.) ปิดที่ 2.14 บาท ลดลง 24.11%
พยูน
Verified User
โพสต์: 66
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 16

โพสต์

วันเกิดวิกฤติ ราคาติดฟลอร์เลย วันต่อมาราคาเปิดสูงถึง 3.2 เลย หมายความว่าไงหรือครับ ไม่เข้าใจพฤติกรรมน่ะครับ
น้องใหม่ครับ ช่วยชี้แนะด้วยครับ เริ่มวันนี้เพื่อวันหน้าครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
apichai214
Verified User
โพสต์: 207
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 17

โพสต์

สงสัยมีคนปั่น เดี่ญวนี้หุ้นตัวเล็ก มักโดนปั่น TRC,STEEL, etc.
ภาพประจำตัวสมาชิก
naris
Verified User
โพสต์: 6726
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 18

โพสต์

หุ้นที่ถูกและมีกำไร เดี๋ยวมันก็ขึ้นครับ

ไม่ต้องเป็นห่วง 8)
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
phobenius
Verified User
โพสต์: 1976
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ตัวนี้ผมโชคดี นึกว่าติดสูงซะแล้วได้ซื้อวันที่ราคาฟลอร์ 1.98 กับ 2  บาท ถือว่าเอามาเฉลี่ยได้เยอะพอสมควรเลยละ
พยูน
Verified User
โพสต์: 66
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ผมไม่กล้าซื้อเลยครับ เสียดายมาก มาซื้อได้ที่ 2.5 ครับ ยังเสียดายไม่หายเลย :oops:
น้องใหม่ครับ ช่วยชี้แนะด้วยครับ เริ่มวันนี้เพื่อวันหน้าครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
naris
Verified User
โพสต์: 6726
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 21

โพสต์

http://www.settrade.com/simsImg/news/2006/06030139.t06

http://www.jts.co.th/

                  สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และบริษัทย่อยไตรมาสที่3(F45-2)
                          บริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน)

                                                         สอบทาน
                                สิ้นสุดวันที่  30 กันยายน      (หน่วย : พันบาท)
                                    ไตรมาสที่ 3          งวด 9 เดือน
             ปี                    2549        2548       2549        2548

  กำไร (ขาดทุน) สุทธิ              77,785    0    232,264    0
  กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)    0.14    0.00    0.43    0.00

 ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
      แสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไข


 หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุ
               ประกอบงบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์

 "ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบ
  การเงินฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้นฉบับให้กับสำนักงาน
  ก.ล.ต.เรียบร้อยแล้ว"

                              ลงลายมือชื่อ _______________________
                               ( นายสุพจน์  สัญญพิสิทธิ์กุล )
                              ตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ
                                    ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ


ที่ JTS/CS-020/2549
13  พฤศจิกายน  2549

เรื่อง      แจ้งผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 ของปี 2549
เรียน      กรรมการและผู้จัดการ
               ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สิ่งที่ส่งมาด้วย      1)   สำเนางบการเงินและงบการเงินรวม จำนวน 1 ชุด ฉบับภาษา
                                   ไทยและภาษาอังกฤษ
                           2) สรุปผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน (F45-1) ฉบับภาษา
                                ไทยและภาษาอังกฤษ
                           3) สรุปผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน และบริษัทย่อย
                                (F45-2) ฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

      บริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) ขอนำส่งแบบรายงาน
การตรวจสอบงบการเงินประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2549 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2549
ที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชี และผ่านการสอบทานของที่ประชุมคณะกรรมการ
ตรวจสอบ ครั้งที่ 10/2549 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2549 และผ่านการอนุมัติของที่
ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 9/2549 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2549 แล้ว บริษัท
ฯ ขอชี้แจงผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 ปี 2549 ดังนี้

      บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2549 จำนวน
77.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากรอบระยะเวลาเดียวกันของปี 2548 จำนวน 35 ล้านบาท คิด
เป็นร้อยละ 84 โดยเป็นผลมาจาก

1.  บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการในไตรมาสที่ 3 ปี 2549 จำนวน 887
     ล้านบาท ประกอบด้วย
รายได้จากการขายสินค้าและบริการงานโครงการ      จำนวน      825      ล้านบาท
รายได้จากการให้เช่าโทรศัพท์สาธารณะ               จำนวน        47      ล้านบาท
รายได้จากการขายเครื่องมือวัด                            จำนวน        15      ล้านบาท
                  รวม                                                    จำนวน      887      ล้านบาท
2. บริษัทฯ มีผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 4 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการแข็ง
      ค่าขึ้นของเงินบาทเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา
3. บริษัทฯ บันทึกรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนซึ่งบันทึกโดยวิธีส่วนได้เสียในสัดส่วน
      ร้อยละ 97.87 ของกำไรสิทธิของบริษัทย่อย (บริษัท สยามเทลเทคคอมพิวเตอร์
      จำกัด) จำนวน 0.25 ล้านบาท
4. บริษัทฯ มีรายได้อื่นๆ จำนวน 3.5 ล้านบาท  ซึ่งส่วนใหญ่ได้แก่ดอกเบี้ยรับ

เรียนมาเพื่อโปรดทราบ

ขอแสดงความนับถือ

(นายสุพจน์  สัญญพิสิทธิ์กุล)
       กรรมการผู้จัดการ





ที่ JTS/CS-020/2549
13  พฤศจิกายน  2549

เรื่อง      แจ้งผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 ของปี 2549
เรียน      กรรมการและผู้จัดการ
               ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สิ่งที่ส่งมาด้วย      1)   สำเนางบการเงินและงบการเงินรวม จำนวน 1 ชุด ฉบับภาษา
                                   ไทยและภาษาอังกฤษ
                           2) สรุปผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน (F45-1) ฉบับภาษา
                                ไทยและภาษาอังกฤษ
                           3) สรุปผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน และบริษัทย่อย
                                (F45-2) ฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

      บริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) ขอนำส่งแบบรายงาน
การตรวจสอบงบการเงินประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2549 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2549
ที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชี และผ่านการสอบทานของที่ประชุมคณะกรรมการ
ตรวจสอบ ครั้งที่ 10/2549 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2549 และผ่านการอนุมัติของที่
ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 9/2549 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2549 แล้ว บริษัท
ฯ ขอชี้แจงผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 ปี 2549 ดังนี้

      บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2549 จำนวน
77.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากรอบระยะเวลาเดียวกันของปี 2548 จำนวน 35 ล้านบาท คิด
เป็นร้อยละ 84 โดยเป็นผลมาจาก

1.  บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการในไตรมาสที่ 3 ปี 2549 จำนวน 887
     ล้านบาท ประกอบด้วย
รายได้จากการขายสินค้าและบริการงานโครงการ      จำนวน      825      ล้านบาท
รายได้จากการให้เช่าโทรศัพท์สาธารณะ               จำนวน        47      ล้านบาท
รายได้จากการขายเครื่องมือวัด                            จำนวน        15      ล้านบาท
                  รวม                                                    จำนวน      887      ล้านบาท
2. บริษัทฯ มีผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 4 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการแข็ง
      ค่าขึ้นของเงินบาทเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา
3. บริษัทฯ บันทึกรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนซึ่งบันทึกโดยวิธีส่วนได้เสียในสัดส่วน
      ร้อยละ 97.87 ของกำไรสิทธิของบริษัทย่อย (บริษัท สยามเทลเทคคอมพิวเตอร์
      จำกัด) จำนวน 0.25 ล้านบาท
4. บริษัทฯ มีรายได้อื่นๆ จำนวน 3.5 ล้านบาท  ซึ่งส่วนใหญ่ได้แก่ดอกเบี้ยรับ

เรียนมาเพื่อโปรดทราบ

ขอแสดงความนับถือ

(นายสุพจน์  สัญญพิสิทธิ์กุล)
       กรรมการผู้จัดการ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
phobenius
Verified User
โพสต์: 1976
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 22

โพสต์

JTS หุ้นพื้นฐานโดดเด่น รายได้พุ่งดันโตพรวด 50%
Source - กระแสหุ้น
Friday, 22 December 2006 04:38

จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ หุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง  แนวโน้มธุรกิจและรายได้เติบโตต่อเนื่อง ผู้บริหาร "สุพจน์ สัญญาพิสิทธิ์กุล" ลั่นไตรมาส 4 รับรู้รายได้พุ่งทะลุเป้าปีนี้ 2.9 พันล. เติบโตพุ่งกว่า 50%  เล็งจ่ายเงินปันผลสิ้นปีเพิ่มมากกว่า 40%  แย้มแผนปี 50 คว้างานประมูลภาครัฐมูลค่า 1 พันล้าน  ด้านนักวิเคราะห์ประเมินหุ้น JTS ในกระดานต่ำกว่าพื้นฐาน  แนะเป็นโอกาสดีให้เข้าซื้อ ประเมินพื้นฐานเหมาะสม 4.15 บาท
         นายสุพจน์ สัญญาพิสิทธิ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JTS เปิดเผยถึงราคาหุ้นของบริษัทที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับภาวะตลาดหุ้นว่า  น่าจะมาจากราคาหุ้นที่เทรดอยู่ในกระดานในช่วงที่ผ่านมา ได้ปรับตัวลงมาค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ส่วนจะมีประเด็นหรือปัจจัยอื่นหรือไม่นั้น  ยอมรับว่าไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริง  แต่ยืนยันว่าจะสร้างอัตราการเติบโต และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้น และนักลงทุน
         Q4 รับรู้รายได้พุ่งปีนี้โตพรวด 50%
         สำหรับแนวโน้มรายได้ของบริษัทไตรมาส 4  คาดว่า รายได้จะเป็นไปตามเป้าที่ได้ตั้งไว้  เนื่องจากบริษัทได้มีการรับรู้รายได้จากโครงการวางโครงข่ายบรอดแบนด์ให้กับบริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน)หรือ TT&T มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในส่วนนี้ไปถึงไตรมาส 1/2550 ส่วนเป้ารายได้ทั้งปีของปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 2,800-2,900 ล้านบาท ถือว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2548 ที่มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 1,700-1,800 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 50%  อย่างไรก็ดีบริษัทได้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตปี 2550 เพิ่มขึ้นจากปี 2549 ประมาณ 10%
         มั่นใจคว้างานประมูลรัฐมูลค่า 1 พันล.
         นายสุพจน์ กล่าวถึง แผนการดำเนินงานปี 2550 ว่า  ในไตรมาส 1/2550  บริษัทมีแผนที่จะเข้าร่วมประมูลโครงการของภาครัฐ โดยเฉพาะงานวางระบบ ที่มีมูลค่าโครงการรวมประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยในเบื้องต้นคาดหวังที่จะชนะการประมูลโครงการดังกล่าว ประมาณ 1,000 กว่าล้านบาท
         นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ ทางด้านงาน  IT ให้เพิ่มมากขึ้น สาเหตุที่บริษัทให้ไปเพิ่มสัดส่วนรายได้งาน IT มากขึ้น เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นว่า บริษัทมีศักยภาพที่รับงานดังกล่าวได้มากขึ้นประกอบกับธุรกิจด้าน IT นั้น ยังมีโอกาสที่จะขยายตัวได้อีกมาก สำหรับเรื่องของงบลงทุนในปีหน้านั้น บริษัทคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท โดยในครึ่งแรกของปี คงจะไม่ได้ใช้งบลงทุนมากนัก แต่จะไปใช้เม็ดเงินทุนมากในช่วงครึ่งหลังของปี เนื่องจากในครึ่งปีหลังบริษัทจะเน้นหนักงานด้านโซลูชั่น
         เล็งจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นกว่า 40%
         นายสุพจน์ กล่าวถึงเรื่องของการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นว่า ในช่วงกลางปีที่ผ่านมานั้น บริษัทได้มีการจ่ายเงินปันผล จากผลประกอบการในครึ่งปีแรกสูงกว่า 60-70% ส่วนแนวโน้มการจ่ายปันผลของผลประกอบการในครึ่งปีหลังนั้น คงจะต้องรอการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าบริษัทน่าจะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้สูงกว่านโยบายจ่ายปันผล  ซึ่งถ้าตามนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทจะอยู่ที่ประมาณ 40%ของกำไรสุทธิ
         ไม่สนพันธมิตร-ศักยภาพเติบโต
         สำหรับประเด็นเรื่องพันธมิตรนั้น ขณะนี้มีพันธมิตรหลายรายเข้ามาเจรจา แต่ว่าบริษัทยังไม่ได้ตัดสินใจหรือมีข้อสรุปในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามมองว่าการที่มีพันธมิตรเข้ามาร่วมนั้น เป็นเรื่องที่ดีและทางบริษัทเองก็ไม่ได้ปิดกั้น ถ้าการเข้ามาร่วมธุรกิจร่วมกันแล้ว มันส่งผลดีหรือเอื้อประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่ายทางบริษัทก็ยินดีที่จะพิจารณา แต่ ณ เวลานี้คิดว่า บริษัทยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีพันธมิตรเข้ามา เนื่องจากบริษัทยังมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจได้เป็นอย่างดี ส่วนแนวโน้มภาพรวมของธุรกิจในปีหน้า มองว่า ธุรกิจด้านไอทีจะยังคงมีอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่อง แต่ว่า การแข่งขันน่าจะยังคงรุนแรง อย่างไรก็ดี บริษัทคาดว่าธุรกิจด้านไอทีน่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 10%
         พื้นฐานแกร่ง-ราคาเหมาะสม 4.15บ.
         นางสาวศลยา ณ สงขลา นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) KEST เปิดเผยว่า ราคาหุ้น JTS ปรับตัวลง 24% หลังจากมีการออกมาตรการสกัดการค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย  ในขณะนี้พื้นฐานของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง ทำให้หุ้น JTS ปัจจุบันมีราคาค่อนข้างถูกซื้อขายที่ P/E ปีนี้เพียง 4.6 เท่า และมีส่วนลด 94% จากราคาเหมาะสมที่ 4.15 บาท  (อ้างอิง P/E ปีนี้ที่ 10 เท่า) นอกจากนี้ คาดว่าจะให้อัตราเงินปันผลตอบแทนถึง 12.1% ณ ราคาปัจจุบันมองว่า เป็นโอกาสดีให้เข้าซื้อ
         อย่างไรก็ดีคาดว่า ผลประกอบการของบริษัทยังมีแนวโน้มแข็งแกร่งในไตรมาส 4/2549 และ ไตรมาส 1/2550 ด้วยงานใหญ่โครงข่ายบรอดแบนด์ของ TT&T และอีกหลายโครงการจาก กสท. และทีโอที นอกจากนี้ บริษัทได้ร่วมประมูลหลายโครงการใหม่ รวมมูลค่า 2 พันล้านบาท ที่ได้ยื่นประมูลแล้ว และอีกไม่ต่ำกว่า 6 พันล้านบาทในต้นปีหน้า โดยงานส่วนใหญ่เป็นของ กสท. และทีโอที ทั้งนี้ผลของการประมูลคาดว่า จะสรุปในไตรมาส 1/2550 และจะเริ่มสร้างรายได้ในไตรมาส 2 และ 3 ปี 2550 ทั้งนี้จากแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ยังคงแข็งแกร่งนี้ ยังคงคาดว่า กำไรสุทธิของ JTS จะขยายตัว 24% เป็น 325 ล้านบาท หรือ 0.46 บาทต่อหุ้น ในปีนี้โดยได้รับแรงหนุนหลักจากโครงการของ TT&T ซึ่งแนวโน้มมีงานต่อเนื่องอีกในปีหน้า นอกจากนี้บริษัทได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในสยามเทลเทค ซึ่งทำธุรกิจงานระบบคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ปีที่แล้วทำให้เพิ่มสัดส่วนการรับรู้กำไรด้วย ดังนั้นได้ประเมินราคาเป้าหมายของ JTS อยู่ที่ 4.15 บาท  ขณะที่ราคาทางเทคนิคมีแนวรับ คาดว่าจะอยู่ที่ 2.66 จุด ส่วนแนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 2.90-3.20 จุด
         แนวต้านสำคัญที่ 3.00-3.20 บาท
         นายอภิศักดิ์ ลิมป์ธำรงกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCIS เปิดเผยว่า การที่ระดับราคาหุ้นของ JTS ปรับตัวขึ้นนั้น สาเหตุน่าจะมาจากนักลงทุนเข้าเก็งกำไรในช่วงสั้นๆ เท่านั้น  ขณะเดียวกันมองว่า โอกาสที่ระดับราคาหุ้นของ JTS จะปรับตัวขึ้นได้อีกนั้นค่อนข้างที่จะมีความเป็นไปได้ยาก เพราะว่าระดับราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างแรงเกินไป แต่ถ้ามองในแง่ของปัจจัยพื้นฐานของบริษัทแล้ว มองว่าปัจจัยพื้นของหุ้น JTS ก็ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ดีและยังคงมีอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่อง ประกอบกับ JTS ยังมีการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงถึง 10-12%  ขณะที่กำไรสุทธิปีนี้ประเมินว่ากำไรสุทธิน่าจะยังอยู่ในอัตราที่ดี เนื่องจากได้แรงหนุนจากงานโครงการของ TT&T เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงประเมินกรอบราคาทางเทคนิคโดยให้แนวรับอยู่ที่ 2.50 บาท ส่วนแนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 3 บาท
ภาพประจำตัวสมาชิก
naris
Verified User
โพสต์: 6726
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 23

โพสต์

บริษัทนี้ค่อนข้างผ่านในเรื่องของรายได้ที่จะหาในปีหน้า ผมเชื่อว่ากำไรเพิ่มขึ้นแน่นอน และเป็นหุ้นก้นบุหรี่ในกลุ่มสื่อสาร เช่นเดียวกันกับ ait

ซึ่งทั้ง2ตัวนี้ผมว่าเทียบชั้นเชิงมวยกันค่อนข้างสนุกในปีหน้า แต่ละฝ่ายมีข้อดีข้อเสียต่างกัน ถ้าเลือกไม่ถูกก็แบ่งสัดส่วนการถือตามความชอบได้ครับ

ผมเอาข้อเสียของjtsมาให้ดูก่อนนะครับ ข้อดีมีคนโพสท์มากแล้ว ในเรื่องการตรวจอย่างมีเงื่อนไข แต่เท่าที่ดู ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรครับ


รายงานการสอบทานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
เสนอต่อผู้ถือหุ้นและคณะกรรมการของ
บริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน)
ข้าพเจ้าได้สอบทานงบดุลรวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 งบกำไรขาดทุนรวมสำหรับงวดสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2549 งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้นรวม และงบกระแสเงินสดรวมสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2549 ของบริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย และได้สอบทานงบดุล ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 งบกำไรขาดทุนสำหรับงวดสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2549 และ 2548 งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้นและงบกระแสเงินสดสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2549 และ 2548 เฉพาะของบริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) ด้วยเช่นกัน ซึ่งผู้บริหารของกิจการเป็นผู้รับผิดชอบต่อความถูกต้องและครบถ้วนของข้อมูลในงบการเงินเหล่านี้ ส่วนข้าพเจ้าเป็นผู้รับผิดชอบในการรายงานต่องบการเงินดังกล่าวจากผลการสอบทานของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานสอบทานตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่เกี่ยวกับการสอบทานงบการเงินซึ่งกำหนดให้ข้าพเจ้าต้องวางแผนและปฏิบัติงานสอบทาน เพื่อให้ได้ความเชื่อมั่นอย่างพอประมาณว่างบการเงินแสดงข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญหรือไม่ การสอบทานนี้มีขอบเขตจำกัดโดยส่วนใหญ่ใช้วิธีการสอบถามบุคลากรของกิจการและการวิเคราะห์เปรียบเทียบข้อมูลทางการเงิน จึงให้ความเชื่อมั่นน้อยกว่าการตรวจสอบตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรองทั่วไป เนื่องจากข้าพเจ้าไม่ได้ทำการตรวจสอบงบการเงินได้แต่เพียงสอบทาน ดังนั้นข้าพเจ้าจึงไม่ได้เสนอรายงานการสอบบัญชี แต่เสนอเพียงรายงานการสอบทานเท่านั้น
ตามที่กล่าวไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 17 บริษัทฯได้เปิดเผยข้อมูลทางการเงินจำแนกตามส่วนงานทางธุรกิจ ตามมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 24 เรื่อง การเสนอข้อมูลทางการเงินจำแนกตามส่วนงาน ยกเว้นข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงานจำแนกตามส่วนงานทางธุรกิจซึ่งบริษัทฯไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ด้วยเหตุผลตามที่กล่าวในหมายเหตุนั้น
ยกเว้นการไม่เปิดเผยข้อมูลตามที่กล่าวไว้ในวรรคก่อน ข้าพเจ้าไม่พบสิ่งที่เป็นเหตุให้เชื่อว่างบการเงิน          ดังกล่าวไม่ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปจากการสอบทานของข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าได้เคยตรวจสอบงบการเงินรวมสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2548 ของบริษัท จัสมิน        เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย และงบการเงินเฉพาะของบริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) ตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรองทั่วไปและเสนอรายงานไว้อย่างมีเงื่อนไขเกี่ยวกับการที่บริษัทฯไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลผลการดำเนินงานจำแนกตามส่วนงานทางธุรกิจได้ ตามรายงานลงวันที่ 27  กุมภาพันธ์ 2549 งบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2548 ที่แสดงเปรียบเทียบเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินที่ข้าพเจ้าได้ตรวจสอบและเสนอรายงานไว้แล้วดังกล่าว ข้าพเจ้ามิได้ใช้วิธีการตรวจสอบอื่นใดภายหลังจากวันที่ในรายงานนั้น


ณรงค์  พันตาวงษ์
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขทะเบียน 3315
บริษัท สำนักงาน เอินส์ท แอนด์ ยัง จำกัด
กรุงเทพฯ  : 13 พฤศจิกายน 2549

ส่วนคำอธิบายคือ

ข้อมูลทางการเงินจำแนกตามส่วนงานทางธุรกิจของบริษัทฯและบริษัทย่อยแสดงได้ดังนี้
(หน่วย : ล้านบาท)
สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2549
ธุรกิจออกแบบและวางระบบสื่อสารและโทรคมนาคม ธุรกิจให้เช่าเครื่องโทรศัพท์สาธารณะ ธุรกิจอื่น รวม

รายได้จากการขายและการบริการ 893 47 29 969


(หน่วย : ล้านบาท)
สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2549
ธุรกิจออกแบบและวางระบบสื่อสารและโทรคมนาคม ธุรกิจให้เช่าเครื่องโทรศัพท์สาธารณะ ธุรกิจอื่น รวม

รายได้จากการขายและการบริการ 1,736 154 68 1,958

บริษัทฯได้เปิดเผยข้อมูลทางการเงินจำแนกตามส่วนงานทางธุรกิจ ตามมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 24 เรื่อง การเสนอข้อมูลทางการเงินจำแนกตามส่วนงาน ยกเว้นข้อมูลผลการดำเนินงานจำแนกตามส่วนงานทางธุรกิจซึ่งบริษัทฯไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ เนื่องจากผู้บริหารเห็นว่าการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการบริหารและการประกอบกิจการของบริษัทฯและบริษัทย่อย

ก็พูดง่ายๆว่า บ.ไม่อยากให้รู้ว่าตัวไหนกำไรดี เดี๋ยวจะมีคู่แข่งเยอะ ผมก็เลยพอยอมรับในส่วนนี้ได้ครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
phobenius
Verified User
โพสต์: 1976
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 24

โพสต์

พี่นริศคิดไงกับตัวกองทุนที่หมดไซเลนพีเรียดไปละครับ ตอนนี้ก็พ้นระยะเวลามาแล้ว แต่ยังไม่เห็นมีวี่แววในการขายออกมาเลย

ผมเลยลองไปดูว่า somer นี้ใครกว่า

ประเมินการถือหุ้นของนักลงทุนไทย ผ่านนอมินีต่างด้าว

o ดเู ฉพาะห้นุ ทมี่ ี Turnover ต่ำมาก คือ Turnover Ratio ระหว่าง 1 ม.ค. 49 10
ส.ค. 49 ต่ำกว่า 10% (Turnover Ratio เฉล่ยี ของทงั้ ตลาดอย่ทู ่ ี 93%) หรือไมม่ ี
การซื้อขาย และไม่จ่ายเงินปันผลในรอบ 12 เดือนล่าสุด เพราะบริษัทเหล่านี้ปกติ
ไม่อยใู่ นความสนใจของนกั ลงทนุ ตา่ งชาติ
o หุ้นท่เี ข้าข่ายนมี้ ีจำนวน 64 บริษทั มีสัดส่วนการใช้นอมินีร้อยละ 10.4 ของมูลค่า
หุ้น สัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติค่อนข้างสูงคือร้อยละ 59.3
n ส่วนหนึ่งอาจมาจากการแปลงหนี้เป็นทุนของธนาคารพาณิชย์ต่างชาติ เช่น TYONG, AA
ในกรณีเหล่านี้ธนาคารพาณิชย์น่าจะถือหุ้นของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่ถือแทนลูกค้า
n ดังนั้นสัดส่วนนอมินีที่คำนวณได้จึงน่าจะสูงกว่าความเป็นจริง
o อยา่ งไรกต็ าม หุ้นท่ถี อื ในชื่อบรษิ ทั นอมนิ ี (เช่น Somers (U.K.), Clearstream,
Raffles) ไม่ใช่ชอื่ ธนาคารพาณชิ ยโ์ ดยตรง และห้นุ ทถี่ อื ในชื่อบริษทั หลกั ทรพั ย์
นั้น น่าจะเป็นหุ้นของลูกค้า
ภาพประจำตัวสมาชิก
naris
Verified User
โพสต์: 6726
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 25

โพสต์

ถ้าผมเป็นกองทุน ผมจะทำอยู่3ทางครับ

1ขายทุกราคา ถ้ามั่นใจว่าราคาหุ้นแพงแล้ว เพราะทุนเขาแค่1.5บาท

2ถ้าคิดว่าดี ราคาตอนนี้แค่book ก็ซื้อเพิ่มเฉลี่ยกับทุนเดิม ก็ยังถูกอยู่

3อยู่เฉยๆจนราคาไปตามเป้าหมายที่เขาคำนวนไว้

เท่าที่ผ่านมาข้อ1ยังไม่ปรากฎ ก็เหลือข้อ2กับ3ครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
phobenius
Verified User
โพสต์: 1976
ผู้ติดตาม: 0

พี่ๆครับ มีใครดู JTS บ้างไหมครับ ในเวบไม่มีข้อมูลเลย

โพสต์ที่ 26

โพสต์

3บจ.รับผลดีบึ้มกทม. ชิงเค้กCCTVทั่วกรุง - สพรั่ง ชี้ฝีมือคนมีสีทำ ทหาร หรือ ตำรวจ เลว
Source - ข่าวหุ้น
Friday, 05 January 2007 04:37

เจอ 3 บจ.ส้มหล่นรับผลดีบึ้มกทม. เตรียมตัวประมูลงาน ติดตั้งกล้องวงจรปิดCCTV ทั่วกรุง ถูกใจตลาดโตในพริบตา สามารถฯ ยิ้มร่าเป็นเจ้าใหญ่ครองตลาดฯ มีผลงานโชว์ท่วม จัสมิน ตัวเล็กแต่ใจใหญ่ขอร่วมแบ่งเค้ก ล็อกซ์เล่ย์ ทรู ได้อานิสงส์ทำซอฟท์แวร์ ด้านกทม.ลั่นติด CCTV รักมือวันเด็ก สพรั่ง ลั่นฝีมือคนมีสีทำ เชี่ยวชาญระเบิดจะเป็นทหารหรือตำรวจเลว นายกฯเตือนประชาชนรับมือภัยคุกคามรูปแบบใหม่
         3 บจ.ส้มหล่นรับผลดี
         นายสมหมาย ดำเนินเกียรติ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท วิชั่น ซิเคียวริตี้ จำกัดซึ่งบริษัท สามารถคอร์ ปอร์เรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ SAMART ถือหุ้นใหญ่ 70 % เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์วางระเบิดหลายจุดในกรุงเทพฯจนถึงขณะนี้ ได้กระตุ้นการเติบโตธุรกิจ กล้องวงจรปิด หรือ CCTV มาก
         โดยเฉพาะราชการ โดยปกติแล้วตลาด CCTV ของภาครัฐนั้นมีมูลค่าประมาณปีละ 2,00-3,000 ล้านบาท บริษัทฯจะเสนอตัวร่วมการประมูลแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมาเป็นผู้ติดตั้ง CCTV ให้กับ สนามบินสุวรรณภูมิ กองบัญชาการตำรวจแห่งชาติ กระทรวงกลาโหมและงานพืชสวนโลก
         อย่างไรก็ดี บริษัทฯคาดว่ารายได้ที่ตั้งเป้าไว้ในปีนี้จะทะลุเป้าหมายที่วางไว้ประมาณ 500 ล้านบาท เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นตัวช่วยกระตุ้น ความต้องการให้เพิ่มสูงขึ้นทั้งในส่วนบริษัท ห้างร้าน ธนาคาร โรงพยาบาล โรงเรียน สถานศึกษา เพิ่มมาขึ้น
         "คาดว่าตลาดปีนี้จะเติบโตกว่าที่คาดการณ์เพราะเหตุการณ์ไม่สงบเป็นตัวกระตุ้น และเชื่อว่ารัฐบาล และหน่วยงานภาครัฐจะ ใช้งบประมาณด้านความปลอดภัยมากขึ้น หลังจากปี49 ตลาดความปลอดภัยภาครัฐชะลอตัวลงมาก เพราะการเมืองไม่นิ่งทำให้การอนุมัติงบประมาณล่าช้า"นายสมหมายกล่าว
         ทั้งนี้ปีนี้บริษัทฯยังมีแผนขยายตลาดลงมาจับกลุ่มลูกค้าตลาดร่างซึ่งเป็นผู้ประกอบขนาดกลางถึงขนาดย่อย เช่นผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี และร้านทองต่างๆ โดยบริษัทฯคาดการว่าใน อีก 3 2 ปีข้างหน้าตลาด CCTV จะมีมูลค่าสูงถึง 4,000-5,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น หลักพันล้านบาทจัสมิน ร่วมชิงเค้ก
         นายสุพจน์ สัญญพิสิทธิ์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์จำกัด(มหาชน) หรือ JTS เปิดเผยว่า เหตุการณ์ความไม่สงบทำให้ธุรกิจรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะ CCTV โตเติบเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวจากปีที่ผ่านมา แม้ว่างบปี 50จะออกมาก่อนเหตุการณ์ดังกล่าว แต่เชื่อว่ารัฐบาลจะมีการจัดสรรงบฉุกเฉินให้ดำเนินการ
         "ปีนี้ JTS มีเป้าหมายรายได้จาก CCTV เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 10-15 % โดยปีที่ผ่านมามีรายได้ประมาณ 50-60 ล้านบาท แต่เหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นอาจจะช่วยตัวกระตุ้นให้รายได้เพิ่มขึ้นถึง 50 %"นายสุพจน์กล่าว
         โดย JTS สนใจเข้าร่วมการประมูลติดตั้ง CCTV ของหน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะ กรุงเทพมหานคร ที่มีแผนจะติดตั้งกล้อง CCTV ทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นตัวกระตุ้นความสนใจ ในการรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะการติดตั้งCCTV ทั้งในแหล่งชุมชน และตามสถานที่ต่างๆ
         อย่างไรก็ดี JTS นั้นเน้นกลุ่มลูกค้า หน่วยงานรัฐ องค์กรขนาดใหญ่ รัฐวิสาหกิจ และสถานศึกษา โดยปัจจุบันมีลูกค้ารายใหญ่ 2 ราย คือ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และเทศบาลต่างๆ
         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการ CCTV ในตลาดหลายรายโดยเฉพาะรายเล็ก โดยมีผู้ประกอบการรายใหญ่เพียงไม่กี่หลาย เช่น บริษัท ล็อกซ์เลย์ จำกัด(มหาชน) เป็นผู้จำหน่ายกล้อง CCTV พร้อมติดตั้ง และจัดซอฟท์แวร์ บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่นจำกัด(มหาชน) หรือ TRUE ที่เน้นให้บริการซอฟท์แวร์ และวางระบบกทม.ติดCCTVรับมือวันเด็ก
         นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่กรุงเทพฯว่า ได้สำรวจพื้นที่เพื่อติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมในปี 2550 ได้รับอนุมัติงบประมาณจากสภากทม. ให้ติดตั้งเพิ่ม 504 จุด และจะติดตั้งเพิ่มได้รวมกว่า 1,600 จุด ทั้งเตรียมรับมือเหตุร้ายในวันเด็กสพรั่ง ชี้คนมีสีทำ
         พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เปิดเผยว่า รัฐบาลและ คมช.มีเทปบันทึกภาพผู้ต้องสงสัยก่อเหตุวางระเบิดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.ในสองจุด จุดแรกที่ศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ระบุผู้ก่อเหตุต้องเป็นผู้มีความรู้ และเชี่ยวชาญด้านสรรพาวุธ
         "คนทำจะต้องเป็นคนที่ผ่านการปฏิบัติการ ทำหน้าที่ หรือมีความรู้ชัดเจน ไม่ใช่นักเลงหัวไม้ เจ้าพ่อ ผู้มีชื่อเสียงจะทำอย่างนี้ได้ เพราะเป็นลักษณะพิเศษทางเทคนิค ฉะนั้นต้องเป็นคนที่มีความคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้มาก่อน ทหารเอาระเบิดไปใช้ได้ แต่ทำไม่ได้ ผมขว้างระเบิดได้ แต่ผมประกอบหรือผลิตขึ้นมาไม่ได้ งานนี้จะต้องเป็นผู้มีความรู้ด้านสรรพาวุธ แต่อย่าไปออกข่าวว่าเป็นทหารสรรพาวุธ ผมเพียงยกตัวอย่าง" พล.อ.สพรั่ง กล่าว
         ส่วนกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า คมช.อาจมีส่วนรู้เห็นการก่อเหตุระเบิดในวันที่ 31ธ.ค. ผู้ช่วยเลขาธิการ คมช.ปฏิเสธเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว
         "ที่เขาพูดว่า คนวางระเบิดก็พวกเดียวกัน คำว่าพวก ไม่ใช่สถาบันทหารหรือ คมช.ถ้าทำคือทหารนอกแถวหรือทหารเลว ซึ่งต้องถูกประหารชีวิตอยู่แล้ว ถ้าเป็นตำรวจเลว ก็ต้องถูกประหารชีวิตอยู่แล้ว ไม่ใช่คำว่าทหารต้องเป็น คมช.สั่ง ที่สำคัญสุดคือ ใครคือผู้บงการเราไปเห็นทหารนอกแถว ตำรวจนอกแถว ที่เป็นข่าวอื้อฉาวกัน ผู้บัญชาการบางคนปล่อยปละละเลย แต่ไม่ใช่เป็นคนสั่งการ แต่มันอ่อนแอมาก ปล่อยให้ลูกน้องทำชั่ว แต่ไม่ได้สั่งการให้ชั่ว แต่เป็นคนบกพร่องควรจะถูกปลด ฐานไม่ดูแลลูกน้อง ทหารดีจะไม่สั่งทหารเลวแน่นอน" พล.อ.สพรั่ง กล่าว
         พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม ระบุผู้ก่อเหตุอาจเป็นบุคคลในเครื่องแบบทั้งทหารและตำรวจ ส่วนพลเรือนจะต้องได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี ซึ่งจะปรากฏอยู่ในภาคใต้และต่างประเทศ โอกาสที่จะเข้ามาทำในกรุงเทพฯ มีน้อยมาก จึงเหลือเพียงตำรวจและทหารที่เชี่ยวชาญ
         สำหรับกระแสข่าวว่าจะมีการปฏิวัติซ้อน เป็นเพียงความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ไม่ชอบอีกฝ่ายหนึ่ง ต้องมีการดิสเครดิต เพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ให้ได้นายกฯเตือนปชช.รับมือ
         พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังและไม่อยู่บนความประมาท เพื่อเตรียมพร้อมเผชิญหน้ากับภัยคุกคามต่อชีวิตรูปแบบใหม่ไปอีกระยะหนึ่ง
         "ผมขอเรียนว่า เรื่องนี้คงไม่ได้เป็นเรื่องที่มีขึ้นเฉพาะช่วงระยะเวลานี้ เป็นเรื่องที่เราจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจที่จะเผชิญกับภัยคุกคามต่อชีวิตของพี่น้องประชาชนในรูปใหม่อันนี้ ในช่วงระยะเวลาหนึ่งต่อไปข้างหน้า" พล.อ.สุรยุทธ กล่าวชี้แจงต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
         บ่ายนี้ นายกรัฐมนตรีชี้แจงต่อที่ประชุม สนช. ถึงสาเหตุการเกิดระเบิดอย่างน้อย 8 จุด
         นายกฯระบุด้วยว่า เหตุระเบิดที่เกิดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.เกิดจากผู้ไม่หวังดีในพื้นที่กทม.เอง ไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาความไม่สงบในภาคใต้
         นอกจากนั้นก่อนหน้านี้ ได้รับรายงานจากหน่วยข่าวว่าจะมีการก่อความรุนแรงขึ้น ในวันที่ 30 ธ.ค.49 ในพื้นที่ 2 แห่งคือ หน้าเซ็นทรัลเวิลด์พลาซา และ ซีคอนสแควร์
โพสต์โพสต์