New type of memory chip may replace flash, HDD
IBM-led group is developing 'phase-change memory' that could someday replace disk drives By Dan Nystedt, IDG News Service December 11, 2006
Flash memory and hard-disk drives could face a challenge from a new chip technology, dubbed phase-change memory, being developed by a group of companies led by IBM.
The companies on Monday announced the results of their latest research into the technology, which they say will do a better job of storing songs, pictures, and other data on iPods and digital cameras than current flash memory, and could someday replace disk drives.
Among the advances, the companies have built a prototype device that runs 500 times faster than today's flash memory while using half as much power to write data to a memory cell, they said.
The circuits on the device are much smaller than those on today's flash chips, measuring just 3 by 20 nanometers, and show that, unlike flash, phase-change memory will be suitable for production on the advanced manufacturing techniques targeted for use in 2015, the companies said. A nanometer is a billionth of a meter.
The progress came partly from the development of a new material to build the memory chips, a germanium alloy to which the researchers added other elements to enhance its properties. The companies have applied for a patent for the material, they said.
Besides IBM, the developers include Qimonda, the DRAM spin-off from Infineon Technologies, and Taiwan's Macronix International Co. They plan to discuss their findings at the Institute of Electronics and Electrical Engineer's 2006 International Electron Devices Meeting in San Francisco later this week.
It's the kind of breakthrough that people look forward to in the IT industry, although end users will have to be patient before it finds its way into products. It could take several more years for the technology to be developed sufficiently for use in finished products.
Still, phase-change memory appears promising. The chips would be a new type of non-volatile memory, which is memory that can hold its electrical charge -- and its data -- after devices are turned off. Flash is also non-volatile, but phase-change memory can hold its electrical charge better than flash and use it more efficiently, its backers say.
Flash also faces a roadblock in the future. As engineers make chip circuits more tiny, the circuits leak more power and ultimately lose their ability to store data after being turned off. The size limit appears to be around 45nm, although it will still be years before the flash industry starts using such tiny production technologies.
Phase-change memory can be scaled down to 22nm, or far smaller than flash memory, the researchers developing it say. It also appears able to be more durable than flash, whose memory cells start to break down after 100,000 rewrites.
While its prospects appear bright, the technology faces several hurdles. New chip designs must be relatively easy to manufacture, and they need to be cost-effective enough to attract device makers.
Rambus faced this issue when its chips failed to overtake DRAM as the main memory type for PCs several years ago, despite having the backing of Intel. The problem, some companies said, is that the chips was were too costly to produce -- although Rambus vehemently disagrees with this.
ถามคนในวงการ Computer & IT หน่อยครับ
- Saran
- Verified User
- โพสต์: 2377
- ผู้ติดตาม: 0
ถามคนในวงการ Computer & IT หน่อยครับ
โพสต์ที่ 1
มีความเห็นยังไงกับข่าวนี้ครับ HDD จะสูญพันธ์หรือป่าว
-
- Verified User
- โพสต์: 91
- ผู้ติดตาม: 0
ถามคนในวงการ Computer & IT หน่อยครับ
โพสต์ที่ 2
เอาข้อมูลเพิ่มเติมไปก่อนนะ ความคิดเห็นเดี๋ยวจะมา post หลังเลิกงานครับ
ข้อมูลจาก http://www.blognone.com/node/3530ไอบีเอ็มสาธิต PCM เทคโนโลยีแทนที่แฟลชแรม?
Submitted by lew on 12 December, 2006 - 11:42. tags: Digital Media | IBM | Storage
การ์ดเมมโมรีทุกวันนี้ที่เราใช้งานกันอยู่ล้วนอยู่บนพื้นฐานของเทคโนโลยี NAND Flash ทั้งสิ้น ซึ่งที่ผ่านมาเทคโนโลยีนี้ก็ทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี ด้วยราคาที่ถูกมากและอายุการใช้งานที่ยาวนานพอ แต่ข้อจำกัดด้านความเร็วอาจจะทำให้หลายๆ คนต้องบ่นๆ กันอยู่เรื่อยๆ เนื่องจากเทคโนโลยี NAND Flash นี้มีข้อจำกัดด้านความเร็วโดยเฉพาะความเร็วในการเขียนข้อมูลอยู่มาก
แต่เมื่อวานนี้ทางไอบีเอ็มก็ได้ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาหน่วยความจำด้วยเทคโนโลยี PCM (Phase-Change Memory) ที่ทางไอบีเอ็มระบุว่ามีความเร็วกว่า NAND Flash ถึงห้าร้อยเท่าตัว เพียงพอที่จะใช้แทนที่หน่วยความจำปรกติได้ และยังใช้พลังงานเพียงครึ่งเดียวของ NAND Flash
ก่อนหน้านี้ทางซัมซุง ซึ่งเป็นผู้ผลิตแฟลชแรมอันดับต้นๆ ของโลก ก็ได้ประกาศความสำเร็จในการพัฒนา PRAM ที่ใช้แนวคิดเดียวกัน แต่ทางซัมซุงระบุว่าการออกแบบของตนนัั้นให้ความเร็วเหนือ NAND Flash ที่สามสิบเท่าตัว แม้จะเร็วกว่าเดิมมาก แต่ก็ไม่พอที่จะแทนที่หน่วยความจำหลักในเครื่องแต่อย่างใด
แต่ทางซุมซุงระบุว่าเทคโนโลยีของตนนั้น สามารถปรับสายการผลิตหน่วยความจำปรกติมาผลิตได้ในเร็วๆ นี้ ทำให้เราอาจจะเห็นการ์ด PRAM วางขายกันภายในปี 2008 ส่วนฝั่ง PCM ของทางไอบีเอ็มนั้นคงต้องรอกันอีกสักระยะ
อีกหน่่อยเราคงใช้ฮาร์ดดิสก์ไว้แบคอัพกันอย่างเดียวสินะ..?
"ความเสี่ยงเกิดจากการไม่รู้ว่าคุณกำลังทำอะไร"
Warren Buffett
Warren Buffett
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
ถามคนในวงการ Computer & IT หน่อยครับ
โพสต์ที่ 3
เรื่องนี้ต้องบอกว่าอีกหลายปีครับ
เพราะของเก่ายังมีอยู่เพียบ
มันต้องเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง
กว่าจะใช้งานได้จริงอย่างต่ำ 3-5 ปี
กว่าจะเป็นmass productอีก
แต่ต้องบอกว่าระยะยาวอาจจะถึง 10 ปีก็ได้
กว่าที่จะมาทดแทนHDD
เพราะของเก่ายังมีอยู่เพียบ
มันต้องเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง
กว่าจะใช้งานได้จริงอย่างต่ำ 3-5 ปี
กว่าจะเป็นmass productอีก
แต่ต้องบอกว่าระยะยาวอาจจะถึง 10 ปีก็ได้
กว่าที่จะมาทดแทนHDD
-
- Verified User
- โพสต์: 67
- ผู้ติดตาม: 0
ถามคนในวงการ Computer & IT หน่อยครับ
โพสต์ที่ 4
ยากครับ เพราะ flash hdd มันยังมีราคาแพงมากๆๆๆอยู่ ซื้อ flash hdd แบบนี้ 1G ราคายังแพงกว่าซื้อ 400G SATA อีกครับ และยังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่สามารถสู้ hdd แบบจาน
เทคโนโลยี่ hdd เนี่ย ทำยังไงให้เร็วเนี่ย ไม่ยากเท่าไหร่ครับ แต่ ทำยังไงให้ข้อมูลไม่หาย อันนี้ ถ้าใครสามารถผลิตได้ ผมว่าน่าจะได้ตลาด server ทั้งหมดไปได้เลย
เพราะปัจจุบันนี้ การ backup ข้อมูล server เชื่อรึปล่าวว่า สิ่งที่ admin นิยมที่สุดคือ tape backup ทั้งถูกทั้งทนและจุ
เทคโนโลยี่ hdd เนี่ย ทำยังไงให้เร็วเนี่ย ไม่ยากเท่าไหร่ครับ แต่ ทำยังไงให้ข้อมูลไม่หาย อันนี้ ถ้าใครสามารถผลิตได้ ผมว่าน่าจะได้ตลาด server ทั้งหมดไปได้เลย
เพราะปัจจุบันนี้ การ backup ข้อมูล server เชื่อรึปล่าวว่า สิ่งที่ admin นิยมที่สุดคือ tape backup ทั้งถูกทั้งทนและจุ
- Saran
- Verified User
- โพสต์: 2377
- ผู้ติดตาม: 0
ถามคนในวงการ Computer & IT หน่อยครับ
โพสต์ที่ 5
ขอบคุณสำหรับข้อมูลและความคิดเห็นครับ พอดีมีหุ้นเกี่ยวกะ HDD อยู่เลยอยากหาข้อมูลเพิ่มเพื่อความสบายใจ
เท่าที่ลองหาข่าวอ่านดูอาจเป็นแค่การลองเชิงของผู้บริหารก็ได้ ดูว่าตลาดกระแสการตอบรับอย่างไร เห็นว่าถ้าจะผลิตออกสู่ตลาดได้ก็ตั้งปี 2015 แน่ะ
อ่านความคิดเห็นที่คนเข้ามาโพสไว้ก็ดูไม่ค่อนเชื่อเท่าไรว่าจะทำได้จริง และดูเหมือนมันจะไปแข่งกับ Flash drive มากกว่า HDD อะ
พอดีหาภาพไม่ได้ครับ เลยไม่รู้ว่าหน้าตามันเป็นยังไง
เท่าที่ลองหาข่าวอ่านดูอาจเป็นแค่การลองเชิงของผู้บริหารก็ได้ ดูว่าตลาดกระแสการตอบรับอย่างไร เห็นว่าถ้าจะผลิตออกสู่ตลาดได้ก็ตั้งปี 2015 แน่ะ
อ่านความคิดเห็นที่คนเข้ามาโพสไว้ก็ดูไม่ค่อนเชื่อเท่าไรว่าจะทำได้จริง และดูเหมือนมันจะไปแข่งกับ Flash drive มากกว่า HDD อะ
พอดีหาภาพไม่ได้ครับ เลยไม่รู้ว่าหน้าตามันเป็นยังไง
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
ถามคนในวงการ Computer & IT หน่อยครับ
โพสต์ที่ 6
คงคล้ายๆ blue ray นะ คิดได้ตั้งแต่ปี 199X กว่าจะเห็นเป็นเครื่อง
2006 กว่าหนังจะปั๊มลงแผ่นแบบนี้ 200X รอกัน 10 ปีได้
HDD คงมีอยู่แต่คงลดลง เพราะัมันใช้พลังงานมาก
ถ้ามี Flash ใช้พลังงานน้อยๆ อาจมีคนใช้่ใน notebook
ถึงเวลานั้น HDD คงราคาตกมาก
ดูตัวอย่างเครื่องเล่น MP3 ได้ พวกความจุเยอะๆ ตอนแรกใช้HDD
ตอนนี้ ไม่เหลือแล้วมั้งงง
2006 กว่าหนังจะปั๊มลงแผ่นแบบนี้ 200X รอกัน 10 ปีได้
HDD คงมีอยู่แต่คงลดลง เพราะัมันใช้พลังงานมาก
ถ้ามี Flash ใช้พลังงานน้อยๆ อาจมีคนใช้่ใน notebook
ถึงเวลานั้น HDD คงราคาตกมาก
ดูตัวอย่างเครื่องเล่น MP3 ได้ พวกความจุเยอะๆ ตอนแรกใช้HDD
ตอนนี้ ไม่เหลือแล้วมั้งงง
-
- Verified User
- โพสต์: 1250
- ผู้ติดตาม: 0
ถามคนในวงการ Computer & IT หน่อยครับ
โพสต์ที่ 11
Saran เขียน:ถ้าอยากจะรู้ว่า product อะไรที่ใช้ HDD บ้างนี้จะค้นหายังไงดีครับ ไม่รู้จะ Search ยังไงดีอะ
เหมือนเคยอ่านเจอว่า iPod ใช้ HDD 1" อยู่นะจริงป่าวไม่รู้ มีใครรู้บ้างเอย
โค้ด: เลือกทั้งหมด
คำถาม: เราสามารถที่จะตรวจสอบฮาร์ดดิสก์ของเครื่อง iPod ด้วยตนเองหรือไม่ ถ้ามีทำอย่างไร?
คำตอบ: เราสามารถใช้โปรแกรมประเภท Disk utility ในการครวจเช็คฮาร์ดดิสก์ของ iPod ได้ค่ะ แต่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่แนะนำให้ทำนะคะ เพราะเราไม่สามารถรับรองได้ว่าโปรแกรมที่ตรวจเช็คฮาร์ดดิสก์ทุกตัวจะไม่ส่งผลต่อฮาร์ดดิสก์ของ iPod หากคุณใช้ iPod กับ Mac OS X ก็สามารถใช้โปรแกรม Disk Utility ที่มาพร้อม OS X ได้ค่ะ ในนั้นจะมีคำสั่ง verify disk เอาไว้ให้เราใช้เช็คฮาร์ดดิสก์ที่ต้องการได้ค่ะ แต่หากเป็นบน Windows ทางเราไม่มีข้อมูลค่ะว่าจะต้องใช้โปรแกรมใดบ้าง ถ้าคุณไม่แน่ใจขอแนะนำให้ใช้ซอฟต์แวร์ที่มาพร้อม iPod ที่ชื่อว่า iPod updater ในนั้นจะมีคำสั่ง Restore ซึ่งจะล้างข้อมูลในฮาร์ดดิสก์และติดตั้งซอฟต์แวร์ของ iPod ให้ใหม่ซึ่งน่าจะแก้ปัญหาเรื่องฮาร์ดดิสก์ได้ดีกว่านะคะ
-
- Verified User
- โพสต์: 100
- ผู้ติดตาม: 0
ถามคนในวงการ Computer & IT หน่อยครับ
โพสต์ที่ 12
ถ้า plot graph เปรียบเทียบการพัฒนาเทคโนโลยีที่ผ่านมาก็อาจจะเห็นภาพนะครับ
> 10 ปีที่แล้ว HDD จุเท่าไหร่ Transfer rate เท่าไหร่ Price เท่าไหร่
> 10 ปีที่แล้ว Mem Card จุเท่าไหร่ Transfer rate เท่าไหร่ Price เท่าไหร่
> 10 ปีที่แล้ว HDD จุเท่าไหร่ Transfer rate เท่าไหร่ Price เท่าไหร่
> 10 ปีที่แล้ว Mem Card จุเท่าไหร่ Transfer rate เท่าไหร่ Price เท่าไหร่
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 0
ถามคนในวงการ Computer & IT หน่อยครับ
โพสต์ที่ 13
บทความนะอ่านแล้ว
แต่ความเห็นผมคือเป็นไปได้ แต่นาน อาจสัก 10 ปีได้
แต่ความเห็นผมคือเป็นไปได้ แต่นาน อาจสัก 10 ปีได้
-
- Verified User
- โพสต์: 91
- ผู้ติดตาม: 0
ถามคนในวงการ Computer & IT หน่อยครับ
โพสต์ที่ 14
ตามความคิดเห็นของผมนะครับ เราคงยังใช้ Harddisk เป็นสื่อที่ใช้ในการเก็บข้อมูลหลักไปอีกหลาย ๆ ปีครับ เนื่องจาก
1. ราคา
ถึงแม้ว่า Technology จะดีเพียงไร แต่ถ้าหากค่าใช้จ่ายต่อ GB ยังสูงอยู่ เราก็คงเปลี่ยนไปใช้ Flash Memory เป็นสื่อที่ใช้เก็บข้อมูลหลักของเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ยาก ผมลองยกตัวอย่างเล่น ๆดูนะครับ
2. อัตราการโอนถ่ายข้อมูล (Transfer Rate)
โดยส่วนตัวแล้วไม่คิดว่า Flash Memory จะมีอัตราการโอนถ่ายข้อมูลได้เร็วกว่า Harddisk ได้ในเร็ววันนี้แน่นอนครับ
ปัจจุบันอัตราการโอนถ่ายข้อมูลของ Harddisk แบบ Serial ATA II จะอยู่ที่ 2.4 Gbit/s หรือ 300 MB/s ครับ
ส่วนอัตราการโอนถ่ายข้อมูลของ Flash Memory นี่ ผมไม่รู้จะเอาข้อมูลมาจากไหนดี เนื่องจาก Flash Memory ที่เราใช้กันอยู่นี้ ส่วนมากจะเชื่อมต่อผ่าน USB 2.0 (ติ๊งต่างว่าเป็น 2.0 นะ) ซึ่งความเร็วก็จะถูกจำกัดตาม USB 2.0 ที่ 480 Mbit/s หรือ 60 MB/s ครั้นจะไปหาความเร็วของ Flash Memory ที่เอามาทำเป็น Harddisk แล้วจะเร็วขนาดไหนนั้น ก็ไม่รู้จะไปหาข้อมูลที่ไหนเหมือนกัน ผมเป็นแค่ User ก็งู ๆ ปลา ๆ ไปเรื่อย ๆ ครับ
ซึ่งตัวเลขพวกนี้ก็เป็นตัวเลขตามทฤษฎีครับ ของจริงช้ากว่านี้ครับ
ข้อมูลจาก http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_device_bandwidths
ปล. ถ้าใครเข้าไปดูข้อมูลที่ wikipedia อย่าเอาข้อมูลของ Computer buses (storage) ไปเทียบกับ Memory Interconnect Buses / RAM นะครับ เพราะผมว่ามันไม่เหมาะที่จะเอามาเทียบกัน เนื่องจาก RAM เร็วปริ๊ดก็จริง แต่ต้องการไฟฟ้ามาเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่มีไฟฟ้าข้อมูลก็หาย ต่างกับ Storage ที่ถึงไม่มีไฟฟ้ามาเลี้ยง ข้อมูลก็ยังคงอยู่ครับ
คร่าว ๆ แค่นี้ก่อนก็แล้วกันครับ พูกมากกลัวผิด แล้วอายเขาครับ
แถมข้อมูลเล็กน้อยนะครับ อาจจะไม่ค่อยเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่าไหร่นะ แต่อยากจะเอามาให้อ่านกัน
1. ราคา
ถึงแม้ว่า Technology จะดีเพียงไร แต่ถ้าหากค่าใช้จ่ายต่อ GB ยังสูงอยู่ เราก็คงเปลี่ยนไปใช้ Flash Memory เป็นสื่อที่ใช้เก็บข้อมูลหลักของเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ยาก ผมลองยกตัวอย่างเล่น ๆดูนะครับ
- Harddisk Seagate 320GB Serial ATA II 300 ราคา 4,500 บาท หรือคิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อ 1 GB ที่ 14.0625 บาท
- Flash Memory Kingston 1 GB (USB2.0) ราคา 875 บาท หรือคิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อ 1 GB ที่ 875 บาท
2. อัตราการโอนถ่ายข้อมูล (Transfer Rate)
โดยส่วนตัวแล้วไม่คิดว่า Flash Memory จะมีอัตราการโอนถ่ายข้อมูลได้เร็วกว่า Harddisk ได้ในเร็ววันนี้แน่นอนครับ
ปัจจุบันอัตราการโอนถ่ายข้อมูลของ Harddisk แบบ Serial ATA II จะอยู่ที่ 2.4 Gbit/s หรือ 300 MB/s ครับ
ส่วนอัตราการโอนถ่ายข้อมูลของ Flash Memory นี่ ผมไม่รู้จะเอาข้อมูลมาจากไหนดี เนื่องจาก Flash Memory ที่เราใช้กันอยู่นี้ ส่วนมากจะเชื่อมต่อผ่าน USB 2.0 (ติ๊งต่างว่าเป็น 2.0 นะ) ซึ่งความเร็วก็จะถูกจำกัดตาม USB 2.0 ที่ 480 Mbit/s หรือ 60 MB/s ครั้นจะไปหาความเร็วของ Flash Memory ที่เอามาทำเป็น Harddisk แล้วจะเร็วขนาดไหนนั้น ก็ไม่รู้จะไปหาข้อมูลที่ไหนเหมือนกัน ผมเป็นแค่ User ก็งู ๆ ปลา ๆ ไปเรื่อย ๆ ครับ
ซึ่งตัวเลขพวกนี้ก็เป็นตัวเลขตามทฤษฎีครับ ของจริงช้ากว่านี้ครับ
ข้อมูลจาก http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_device_bandwidths
ปล. ถ้าใครเข้าไปดูข้อมูลที่ wikipedia อย่าเอาข้อมูลของ Computer buses (storage) ไปเทียบกับ Memory Interconnect Buses / RAM นะครับ เพราะผมว่ามันไม่เหมาะที่จะเอามาเทียบกัน เนื่องจาก RAM เร็วปริ๊ดก็จริง แต่ต้องการไฟฟ้ามาเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่มีไฟฟ้าข้อมูลก็หาย ต่างกับ Storage ที่ถึงไม่มีไฟฟ้ามาเลี้ยง ข้อมูลก็ยังคงอยู่ครับ
คร่าว ๆ แค่นี้ก่อนก็แล้วกันครับ พูกมากกลัวผิด แล้วอายเขาครับ
แถมข้อมูลเล็กน้อยนะครับ อาจจะไม่ค่อยเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่าไหร่นะ แต่อยากจะเอามาให้อ่านกัน
ซีดีมีอายุการใช้งานแค่ 2 ปี
Submitted by mk on 10 January, 2006 - 23:50. tags: Storage
จำสมัยซีดีเข้ามาใหม่ๆ ได้มั้ยครับ จุดขายสำคัญข้อหนึ่งนอกจากความจุ คือระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลที่เก็บได้นานเป็นสิบปี มั่นคงแข็งแรง ไม่เหมือนฟลอปปี้ดิสก์
ตอนนี้ประโยคข้างบนมันเริ่มไม่จริงแล้ว คือผมว่าเราก็คงรู้สึกกันเองบ้างล่ะนะ แต่ถ้าจะเอาการวิจัยจริงจัง มีนักฟิสิกส์จากแล็บของไอบีเอ็มได้ทดสอบว่า ซีดีแบบที่เบิร์นเอา (CD-R/RW) จะมีอายุการใช้งาน 2-5 ปีเท่านั้น โดยแผ่นที่มีราคาถูกจะใช้ไดแค่ 2 ปี ปัญหาเกิดจากการเสื่อมคุณภาพของวัสดุที่เอามาเคลือบผิว ซึ่งความร้อนเป็นปัจจัยสำคัญ
ทางรอดคือควรเก็บแผ่นไว้ในที่เย็นและแสงส่องไม่ถึง แต่ก็ช่วยได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ซีดีคุณภาพดีหน่อยก็มีอายุใช้งานอย่างมากที่สุด 5 ปีอยู่ดี ถ้าต้องการเก็บทน เก็บนาน ต้องเก็บลง magnetic tape (แบบที่เค้าใช้แบ็คอัพเซิร์ฟเวอร์) ซึ่งมีอายุ 30-100 ปี
ไม่ว่ายังไงก็ตาม ซีดีก็ดีกว่าฟลอปปี้ที่พังเพราะผมเอาไปใส่กระเป๋าเสื้อนะ
ข้อมูลจาก http://www.blognone.com/node/1528
"ความเสี่ยงเกิดจากการไม่รู้ว่าคุณกำลังทำอะไร"
Warren Buffett
Warren Buffett
- Saran
- Verified User
- โพสต์: 2377
- ผู้ติดตาม: 0
ถามคนในวงการ Computer & IT หน่อยครับ
โพสต์ที่ 15
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ
ผมลองมานั่งคิดดู สิ่งที่ทำให้ Flash สู้ HDD ไม่ได้เพราะ ถ้าเทียบกันต่อ MB แล้วราคาแตกต่างกันมาก + ความเร็วในการส่งข้อมูล HDD ก็กินขาด ที่ Flash สู้ได้จะมีก็แค่ เล็กและก็กินไฟน้อยกว่าแค่นั้น
แล้วถ้าเปลี่ยนจาก Flash มาเป็น PCM เทียบกับ HDD แทนล่ะ ?
เห็นได้ว่า สิ่งที่ HDD สู้ได้นั้นจะเหลือแค่เรื่องราคาที่ถูกกว่าเท่านั้นเอง
ดังนั้น คงต้องดูกันว่า IBM จะผลักดันไอ้ PCM ให้ติดตลาดได้ยังไงเท่านั้น ที่ผมคิดก็คือ ถ้า IBM เกิดทำได้จริง มีสิทธิ์ทำให้ HDD หายไปจากตลาดเหมือน ฟิมล์ถ่ายรูปแน่เลย แต่คงอีกหลายปีอ่ะนะ
ผมลองมานั่งคิดดู สิ่งที่ทำให้ Flash สู้ HDD ไม่ได้เพราะ ถ้าเทียบกันต่อ MB แล้วราคาแตกต่างกันมาก + ความเร็วในการส่งข้อมูล HDD ก็กินขาด ที่ Flash สู้ได้จะมีก็แค่ เล็กและก็กินไฟน้อยกว่าแค่นั้น
แล้วถ้าเปลี่ยนจาก Flash มาเป็น PCM เทียบกับ HDD แทนล่ะ ?
เห็นได้ว่า สิ่งที่ HDD สู้ได้นั้นจะเหลือแค่เรื่องราคาที่ถูกกว่าเท่านั้นเอง
ดังนั้น คงต้องดูกันว่า IBM จะผลักดันไอ้ PCM ให้ติดตลาดได้ยังไงเท่านั้น ที่ผมคิดก็คือ ถ้า IBM เกิดทำได้จริง มีสิทธิ์ทำให้ HDD หายไปจากตลาดเหมือน ฟิมล์ถ่ายรูปแน่เลย แต่คงอีกหลายปีอ่ะนะ
-
- Verified User
- โพสต์: 67
- ผู้ติดตาม: 0
ถามคนในวงการ Computer & IT หน่อยครับ
โพสต์ที่ 16
ยังมีอีกปัจจัยหลักครับ ความร้อนSaran เขียน: ผมลองมานั่งคิดดู สิ่งที่ทำให้ Flash สู้ HDD ไม่ได้เพราะ ถ้าเทียบกันต่อ MB แล้วราคาแตกต่างกันมาก + ความเร็วในการส่งข้อมูล HDD ก็กินขาด ที่ Flash สู้ได้จะมีก็แค่ เล็กและก็กินไฟน้อยกว่าแค่นั้น
ดังเคสตัวอย่าง แต่ตัวนี้ต่างกันแค่ต้องอาศัยไฟเลี้ยงตลอดเวลาแค่นั้น มีแบต backup อยู่แบบ mainboard เก็บข้อมูลได้โดยไม่ต้องเสียบกับ mainboard ประมาณปีนึง
ผมเคยเจออุปกรณ์อยู่อันนึง เป็นการ์ดที่เอา ram มาทำเป็น hdd (หลักการเดียวกับ ramdrive แต่เป็น hardware) จำไม่ได้แล้วว่าชื่ออะไร ของอะไร อ่านเจอมาประมาณกลางๆปี
เป็นการ์ด pci มีช่องให้ใส่ ddr ram (ram ปกติทีใช้ในคอม) ใส่ได้ 4 แถว
ความเร็วนี่ เร็วกว่า SCSI (hdd ความไวสูงมาก ส่วนมากใช้ใน server) หลายเท่าอยู่เหมือนกัน แต่ราคาการ์ดนั้นหมื่นกว่า เป็นราคาไม่รวม ram แล้วถ้าใส่ ram เข้าไป แถวละ 1G เอาราคา ณ ปัจจุบันที่ถูกที่สุดนี้ก็
Apacer 400MHz 1 G DIMM , DDR PC3200, 182 pin 2,750
(ข้อมูลอ้างอิงจาก http://www.pantip.com/tech/market/ )
ใส่ไป 4 แถวก็ 11000+ค่าการ์ดอีก 10000
ได้ hdd ความไวสูง 4G ในราคา 21000บาท
แต่ยังมีปัญหาเรื่องความร้อน และเรื่องการเก็บข้อมูลเมื่อแบตหมด
จริงๆแล้ว หลักการของตัวที่ผมเจอกับของ IBM มันคล้ายกันมาก ต่างกันเรื่องชนิด ram ที่นำมาใช้แค่นั้นเอง
-
- Verified User
- โพสต์: 91
- ผู้ติดตาม: 0
ถามคนในวงการ Computer & IT หน่อยครับ
โพสต์ที่ 17
ที่ผมเห็นในประเทศไทยก็จะเป็น GIGABYTE I-Ram ครับ ใช้แบตเตอร์รีในตัว สามารถสำรองไฟได้นานประมาณ 12-16 ชั่วโมงครับ เร็วนรก แต่ราคาก็แพงตามค่า Memory ที่เราเอามาใช้เป็น Harddisk นั่นแหละครับplatalay เขียน: ยังมีอีกปัจจัยหลักครับ ความร้อน
ดังเคสตัวอย่าง แต่ตัวนี้ต่างกันแค่ต้องอาศัยไฟเลี้ยงตลอดเวลาแค่นั้น มีแบต backup อยู่แบบ mainboard เก็บข้อมูลได้โดยไม่ต้องเสียบกับ mainboard ประมาณปีนึง
ผมเคยเจออุปกรณ์อยู่อันนึง เป็นการ์ดที่เอา ram มาทำเป็น hdd (หลักการเดียวกับ ramdrive แต่เป็น hardware) จำไม่ได้แล้วว่าชื่ออะไร ของอะไร อ่านเจอมาประมาณกลางๆปี
เป็นการ์ด pci มีช่องให้ใส่ ddr ram (ram ปกติทีใช้ในคอม) ใส่ได้ 4 แถว
ความเร็วนี่ เร็วกว่า SCSI (hdd ความไวสูงมาก ส่วนมากใช้ใน server) หลายเท่าอยู่เหมือนกัน แต่ราคาการ์ดนั้นหมื่นกว่า เป็นราคาไม่รวม ram แล้วถ้าใส่ ram เข้าไป แถวละ 1G เอาราคา ณ ปัจจุบันที่ถูกที่สุดนี้ก็
Apacer 400MHz 1 G DIMM , DDR PC3200, 182 pin 2,750
(ข้อมูลอ้างอิงจาก http://www.pantip.com/tech/market/ )
ใส่ไป 4 แถวก็ 11000+ค่าการ์ดอีก 10000
ได้ hdd ความไวสูง 4G ในราคา 21000บาท
แต่ยังมีปัญหาเรื่องความร้อน และเรื่องการเก็บข้อมูลเมื่อแบตหมด
จริงๆแล้ว หลักการของตัวที่ผมเจอกับของ IBM มันคล้ายกันมาก ต่างกันเรื่องชนิด ram ที่นำมาใช้แค่นั้นเอง
อ่านข้อมูลและรีวิวภาษาไทยแบบละเอียดยิบได้ที่ http://www.overclockzone.com/zolkorn/11 ... index.html ครับ
"ความเสี่ยงเกิดจากการไม่รู้ว่าคุณกำลังทำอะไร"
Warren Buffett
Warren Buffett
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
ถามคนในวงการ Computer & IT หน่อยครับ
โพสต์ที่ 18
HDDมันaccess Timeต้องมีเวลาของmotorเครื่องกลมาเกี่ยวด้วย
คือเวลาที่ขยับแขน เวลาเร่งของจานหมุน และเวลาให้จานหมุนมีความเร็วเชิงมุมคงที่ถึงจะอ่านได้
แต่Flash driverในปัจจุบันใช้แบบEEPOMในการอ่าน จุดนี้มีเวลาaccessเข้าถึงข้อมูลแบบไหน
ส่วนการเชื่อมต่อระหว่างComputerไปสู่ตัวDriveความจุก็แล้วแต่ จะเลือกใช้
อีกหน่อยจะมีflah driveแบบเชื่อมต่อด้วยSATA 10ก็ได้ ใครจะไปรู้
แต่ที่แน่นอนกว่าจะได้ใช้งานอะไรต้องรอเวลาที่พิสูจน์ในเรื่องราคาต่อหน่วยเมื่อผลิตปริมาณมากๆๆๆ หรือสินค้าตัวนั้นเป็นที่นิยมของประชาชนทั่วไป
มันมีCaseของSonyหลายตัวแล้วที่ ออกมาดีกว่าในด้านเทคโนโลยี่ แต่แพ้คู่แข่งเพราะเรื่องความนิยม ในที่สุดก็ตายไปหรือใช้กันน้อยมากๆๆๆ
คือเวลาที่ขยับแขน เวลาเร่งของจานหมุน และเวลาให้จานหมุนมีความเร็วเชิงมุมคงที่ถึงจะอ่านได้
แต่Flash driverในปัจจุบันใช้แบบEEPOMในการอ่าน จุดนี้มีเวลาaccessเข้าถึงข้อมูลแบบไหน
ส่วนการเชื่อมต่อระหว่างComputerไปสู่ตัวDriveความจุก็แล้วแต่ จะเลือกใช้
อีกหน่อยจะมีflah driveแบบเชื่อมต่อด้วยSATA 10ก็ได้ ใครจะไปรู้
แต่ที่แน่นอนกว่าจะได้ใช้งานอะไรต้องรอเวลาที่พิสูจน์ในเรื่องราคาต่อหน่วยเมื่อผลิตปริมาณมากๆๆๆ หรือสินค้าตัวนั้นเป็นที่นิยมของประชาชนทั่วไป
มันมีCaseของSonyหลายตัวแล้วที่ ออกมาดีกว่าในด้านเทคโนโลยี่ แต่แพ้คู่แข่งเพราะเรื่องความนิยม ในที่สุดก็ตายไปหรือใช้กันน้อยมากๆๆๆ