แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 32
[quote="ดร.โหน่ง"]
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 877
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 33
^O-O^
ขอบคุณครับที่แนะนำ
ผมอ่านไปรอบแล้วครับ พรุ่งนี้จะอ่านอีกรอบ
ข้อมูลดีครับ ได้ใช้แน่ครับ
ไปนั่งเขียนบทที่ 5 มาครับ เขียนไปหาวไปผม
และผมก็หยุดแค่นี้ ราตรีสวัสดิ์ครับทุกท่าน :lol:
ขอบคุณครับที่แนะนำ
ผมอ่านไปรอบแล้วครับ พรุ่งนี้จะอ่านอีกรอบ
ข้อมูลดีครับ ได้ใช้แน่ครับ
ไปนั่งเขียนบทที่ 5 มาครับ เขียนไปหาวไปผม
13 a6eb
บทที่ 5 สองเซียนสองคม
ม่ายตังเหลาเดินออกมาจากโรงหนังแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยุ่ช่วงกลางของถนนเยาวราชที่ติดป้ายชื่อหนังโป๊
เลียนแบบหนังฝรั่งแต่กลับหลังว่า โกนขนลับสุดขอบเตียงของไรอัน หรือ Shaving Ryans Privates
กะให้ขำ ขำ ผมไม่ใช่คนลามกครับ แต่ทำไมมุขลามกยังนี้ ถนัดก็ไม่รู้ อยู่ยงคงกระพันในสองสมองหนึ่งกระโหลกฆ่ายังไงก็ไม่มีวันตายซะที
เขายืนซึมเม่อหันหน้าเข้าหาโรงหนัง ทำตาละห้อยโดยไม่ลืมเอามือปิดที่เป้ากางเกง ใบหน้าของชายหนุ่มผู้นี้ขณะนี้ฉายแววซื่อๆ ไร้เล่ห์มารยาของหนุ่มสวนยางที่เกิดและเติบโตที่เบตง ยะลา แท้จริงเขากลับซ่อนแววตาคู่ฉายประกายคมกล้าส่อความเฉียวฉลาด มีสันจมูกโตตัดริมฝีปากที่เรียวบาง ผมรองทรงที่ตัดแต่งพอความ ไม่สั้นไม่ยาว คล้ายยุ่งแต่ไม่ยุ่ง มีปอยผมหนึ่งย้อยมาปรกอยู่กลางระหว่างคิ้วที่ดกหนาเรียวยาว ดูเท่ไม่หยอก ฟิลม์รัฐภูมิ พระเอกหนุ่มหล่อของภาพยนตร์เรื่อง รักจังลมสวาท ยังหล่อสู้เขาไม่ได้
เขาเดินเอ้อระเหยไปเรื่อยๆขณะเดินมาถึงหน้าห้างทองฮั้วเซงเฮง แหงนมองนาฬิกาเรื่อนใหญ่ของห้างนาฬิกาสี่ฮวดอยู่นั้นก็ชนโครมกับคนๆหนึ่ง จนเกือบล้มลง เขากำลังจะเอ๋ยปากขอโทษ ก็เผอิญเห็นชัดตาถึงกับอุทานออกมา
โธ่! พี่เอียมนี่เอง (ผันมาจากเอี่ยมโต ผวนมาจาก อีโต้ อีกที ) พี่มายืนทำไรนี่ ผมรอพี่ที่นี่ตั้งนานแล้ว
อ้าว! เป็นเอ็งหรือ อ๊ะเหลา (ผันมาจาก ม่ายตังเหลา อีกที) เอี่ยมโตร้องดีใจบนใบหน้าที่เหมือนอดนอนมาหลายคืน แต่แล้วกลับก้มหน้าทำท่าวิตก กล่าวตำหนิว่า
เอ็งถึงกรุงเทพฯ ตั้ง 10 วันแล้ว ทำไมเอ็งพึ่งจะโผล่มาให้เห็นหน้าวะ หลายวันนี้พี่เจอแต่เรื่องวะ
เขาหยุดพูดสักพัก ไอ้เสี่ยเกามันส่งคนมาตามเก็บเราอีกแล้ว เอ็งรู้หรือยัง
14 a6eb
ม่ายตังเหลาพนักหน้า ผมอ่านหนังสือพิมพ์แล้วพี่เอี่ยม เขาถอนหายใจยาว คนตายเป็นใครครับ
สมาชิกที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่คนหนึ่ง พี่รู้จักเขา
เขา มีลูกหรือปล่าวพี่ ม่ายตังเหลาถามก้มใบหน้าสงบนิ่ง
มี มีลูกสาวสามคน
ไอ้ฉาดฉั่ว! เขาแตะถังขยะอย่างแรง เดินไปมากระสับกระส่าย สมองครุ่นคิดแต่เรื่องต่างๆในอดีต คิดถึงตอนอยุ่เป็นเด็กในบ่อนที่เบตง คิดถึงอนาคตวนเวียนไปมาไม่สิ้นสุด
เขาเป็นชายหนุ่มวัย 24 ที่ไม่รู้จักคำว่าวัยรุ่น ก้าวเข้าสู่ประสบการณ์ชีวิตที่ต่อสู้ในบ่อนตั้งแต่อายุเพียง 14 แต่ถ้าพูดถึงความสุขุมต้องยอมรับยังเป็นรองพี่เอี่ยมของเขา
เอี่ยมโตคนนี้อายุ 28 ปี ถือกำเนิดในครอบครัวเจ้าของโรงแรมที่มีฐานะดี ตอนเด็กๆเรียนหนังสือจีนจนสำเร็จการศึกษาชั้นประถมที่โรงเรียนตงฮั้วในเบตง จากนั้นโดน พกค. จับตัวไปเป็นเชลยเพื่อเรียกค่าไถ่ บังคับให้พ่อเขาต้องส่งเงินให้ พกค .ทุกปี ไม่งั้นลูกตังเองตาย เอี่ยมโตอยู่ในป่าทั้งหมด 6 ปี พวกนั้นถึงปล่อยตัวเขากลับออกมา เขาเรียนรู้อะไรมากมายจากในป่า และสิ่งหนึ่งที่เขาได้เรียนมา คือวิชาถอดรหัส
แป้น! แป้นน! แป้นนนนน! บีบแตรขนาดนี้จะรีบไปไหนพี่!
ม่ายตังเหลาไม่หันไปมองด้วยซ้ำ เสียงรถบีบแตรขนาดนี้ที่เบตงคงชักปืนออกมายิงกันแล้ว แต่ เขาอยู่ในกรุงเทพฯ หากอยากเดินตามถนนโดยไม่ต้องทนฝังเสียงแตรก็เหมือนอยากว่ายน้ำแต่ไม่อยากเปียกน้ำ
ทั้งสองคนพากันออกเดินจนมาถึงโรงน้ำชาแห่งหนึ่งที่มีป้ายกระดาษสีแดงเขียนข้อความด้วยตัวหนังสือสีแดงว่า โรงน้ำชากิมโอ๊ว เอี่ยมโตพาม่ายตังเหลาเดินคดไปคดมาอ้อมไปด้านหลัง เมื่อมาเจอห้องโถงมันเป็นอีกโลกหนึ่ง วงพนันเอย ควันบุหรี่ลอยฟุ้ง กลิ่นเหงื่อไคล มีคนทุกรูปแบบ คราบรอยเปื้อนทุกรูปแบบ หญิงบริการ ใส่กระโปรงสั้น อาแปะแก่นั่งเล่นหมากรุกจีน บางคนนั่งจิบเต้หันมามองหน้าคนแปลกทั้งสองราวกับว่าเป็นอะไรที่พวกเขาพึ่งแคะออกจากรองเท้า
15 a6eb
เซ็งเต็ง เอี่ยมโตผู้เจนสังเวียนเรียกเด็กบริกร รถพี่จอดไหน
ทั้งสองรีบขึ้นรถขับออกมาอย่างรวดเร็ว เห็นแล้วอาเจียน แปะบางคนนั่งขี่อยู่ข้างกำแพง อย่าให้บรรยายบรรยากาศไปมากกว่านี้เลยครับ
เอี่ยมโตนำรถไปจอดในที่จอดรถเล็กๆของโรมแรม เขาเคยจอดรถข้างถนนตามตรอกซอกซอยในเยาวราชบ้างเหมือนกัน แต่คนเร่ร่อนชอบงัดหน้าต่างรถเข้าไปนอน เขาต้องเสียเงินซ่อมกระจกไม่รู้ต่อกี่ครั้ง จนในที่สุดเอี่ยมโตเลิกล็อคประตูรถ ปล่อยให้คนเข้าไปนอน พอรุ่งเช้ามาถึงก็เคาะกระจกเรียกเป็นสัญญาณให้คนที่ยึดรถที่นอนออกไปแต่โดยดี ได้ผลรถไม่เคยถูกงัดอีกเลย
การยอกย้อนยังนี้ มันเรียกว่า ทฤษฎีเกม เขาบอกม่ายตังเหลาในคราวนั้น
ทฤษฎีเกม ไม่เห็นเคยได้ยินเลย เป็นไงครับพี่ สอนผมมั่ง
รอยย่นที่หน้าผากของเอี่ยมโตสะท้อนให้เห็นความคิด ในหัวสมองที่ยังโลดแล่นคิดถึงชีวิตวัยเด็กต่างชีวิตตกอยู่ในสภาวะความขัดแย้งและในการทำความเข้าใจมัน
ความขัดแย้งเป็นเรื่องเก่าแก่มาเท่าๆกับมนุษยชาติ มันเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของมนุษย์ มันมีรูปแบบที่เราทำความเข้าใจได้เหมือนการถอดรหัสอันแสนซับซ้อน
เราต้องศึกษาความขัดแย้งที่ตัวความขัดแย้งเสียก่อน หาว่าอะไรทำให้มนุษยชาติก่อสงคราม เพื่อจะได้แก้สงครามโดยรวม ไม่ใช่ไปไล่แก้ปัญหาเป็นจุดๆ
เขาไม่ได้เป็นนักพยากรณ์ สิ่งที่เขาเห็นตั้งแต่วัยเยาว์เพียงแค่ความต่อเนื่องของความขัดแย้งนี้ที่ดำเนินการมาหลายๆปี เขาไม่เห็นว่ามันจะจบลงอย่างไร แต่คนท้องถิ่นที่นั่นต่างเห็นตรงกันหมด แค่การหยุดยิงและ ย้ายนิดหน่อย มันไม่ได้ช่วยอะไร สิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้เราอยู่ด้วยกันได้ ร่วมมือกันได้ คือการมรปฏิสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนาน การได้เห็นหน้ากัน รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร และจะตัดสินอย่างไร แต่ละฝ่ายรู้อีกฝ่ายลงโทษเราได้ สันติภาพก็เกิดขึ้นได้ เพราะมันเริ่มไม่คุ้มแล้ว แนวความคิดเขาดูยอกย้อน
ในเศรษศาสตร์มีความยอกย้อนเช่นนี้เหมือนกัน ถ้าเราอยากมีงบประมาณมากขึ้น แล้วเราจะมีมาตรการเกี่ยวกับภาษีอย่างไร ถ้าคิดง่ายๆ ว่าขึ้นภาษีสิ พอขึ้นภาษีเราก็ได้เงินมามากขึ้นใช่ไหม คำตอบคืดไม่ใช่หรอก เราต้องลดภาษีลงต่างหาก เพราะถ้าภาษีสูงเกินไป ประชาชนไม่อยากทำงานและหลีกเหลี่ยงภาษีทุกวิธีทาง ทำผิดกฏหมายมากขึ้น นี่คือสิ่งที่เรียกว่า
ทฤษฎีเกม
โห! ทฤษฎีเกม ม่ายตังเหลาอุทานออก สักวันผมจะต้องเป็นเซียนทฤษฎีเกมให้ได้ เขาพูดแค่นั้นจริงๆ
ทั้งสองคนจึงหยุดพูดแต่เพียงแค่นั้น
และผมก็หยุดแค่นี้ ราตรีสวัสดิ์ครับทุกท่าน :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 877
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 34
^O-O^
เมื่อคืนก่อนนอนครึ่งหลับครึ่งตื่น
ผมฝันอะไรบางอย่าง
แล้วก็รีบจดอย่างรวดเร็ว เพราะบางครั้งไอเดียดีๆ
จะเกิดตอนช่วงก่อนนอนนี่ละครับ
และก็จริงอย่างที่ผมนึก เออ! แปลกดีซะไม่มีครับ
เช้านี่ผมรีบตื่นตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง ตรงไปเปิดคอมพ์อย่างรวดเร็วเปิดเว็บ Google พิมพ์คำว่า
draswkcab
ไม่มีประโยชน์ครับ
คราวนี้ผมกลับคำ ว่า google เป็น elgoog แล้วพิมพ์ลงไป กดตรง "ดีใจจัง ค้นแล้วเจอเลย"
คราวนี้ โอ้! แม่เจ้าสิ่งที่ผมฝันเป็นจริงหมดเลยครับ ทุกอย่างในนั้นอ่านกลับหลังหมดเลย
คราวนี้ผมใส่คำว่า draswkcab อีกที ได้ผลครับ
เจอและก็อ่านกลับหลังหมด
ผมลองพิมพ์คำว่า bacward แล้วก็ search
มันไม่เจอครับ เพราะมันกำลังอ่านกลับหลังอยู่
คำว่า thai value investor
ก็ไม่มี แต่ถ้าพิมพ์กลับหลังเป็น
rotsevni eulav iaht
โห! มีเพียบเลยครับ แต่กลับหลังนะ
ขอบคุณ google มากครับ
ผมถือว่ามันมหัศจรรย์มากครับ แล้ววันหนึ่งโลกของผมก็กลับหลัง 180 องศาได้!
เมื่อคืนก่อนนอนครึ่งหลับครึ่งตื่น
ผมฝันอะไรบางอย่าง
แล้วก็รีบจดอย่างรวดเร็ว เพราะบางครั้งไอเดียดีๆ
จะเกิดตอนช่วงก่อนนอนนี่ละครับ
และก็จริงอย่างที่ผมนึก เออ! แปลกดีซะไม่มีครับ
เช้านี่ผมรีบตื่นตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง ตรงไปเปิดคอมพ์อย่างรวดเร็วเปิดเว็บ Google พิมพ์คำว่า
draswkcab
ไม่มีประโยชน์ครับ
คราวนี้ผมกลับคำ ว่า google เป็น elgoog แล้วพิมพ์ลงไป กดตรง "ดีใจจัง ค้นแล้วเจอเลย"
คราวนี้ โอ้! แม่เจ้าสิ่งที่ผมฝันเป็นจริงหมดเลยครับ ทุกอย่างในนั้นอ่านกลับหลังหมดเลย
คราวนี้ผมใส่คำว่า draswkcab อีกที ได้ผลครับ
เจอและก็อ่านกลับหลังหมด
ผมลองพิมพ์คำว่า bacward แล้วก็ search
มันไม่เจอครับ เพราะมันกำลังอ่านกลับหลังอยู่
คำว่า thai value investor
ก็ไม่มี แต่ถ้าพิมพ์กลับหลังเป็น
rotsevni eulav iaht
โห! มีเพียบเลยครับ แต่กลับหลังนะ
ขอบคุณ google มากครับ
ผมถือว่ามันมหัศจรรย์มากครับ แล้ววันหนึ่งโลกของผมก็กลับหลัง 180 องศาได้!
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 35
8) ดร.โหน่งผมเคยมีเพื่อนร่วมงานอยู่คนนึง
ชื่อ เฮียเหลา
แกไม่ค่อยข้องแวะกับอบายมุขอย่างอื่นนอกจากสตรีครับ
แกเล่าให้ฟังว่าหลังจากไปอาบน้ำมา
ก็กังวลว่าแฟนจะได้กลิ่นสบู่กลิ่นแป้งอะไรเทือกนั้นอ่ะ
แกว่าก่อนถึงบ้านซัก10นาที
แกจะปิดแอร์รถ ปิดกระจกด้วย ให้ตัวเองร้อนและเหงื่อแตก
แล้วเอาแม่โขงหรือรีเจนซี่ที่แกซื้อทิ้งไว้ในรถ
เทใส่มือมาพรมๆบริเวณลำตัว เสื้อผ้าเพื่อกลบกลิ่นอีกสำทับ
ผมละนับถือแกจริงๆ
ในความพยายามทำให้ครอบครัวมีความสุข
โดยที่ตัวแกก็มีความสุขด้วย
แต่ก็อดแซวไม่ได้ว่า เฮียเหลากลัวเมียนี่หว่า
เฮียแกตอบมาทันทีโดยไม่ต้องคิดว่า
ไม่ใช่กูกลัวเค้า เค้าไม่กลัวกูตะหาก
ฮ่า...
เรื่องนี้ยังไม่จบครับ ซ้อแกก็แสบน่าดูเหมือนกันครับ
ซ้อเฮียเหลาแกก็มีวิธีจัดการกับโกหกของเฮียแกเหมือนกัน
ไม่รู้แกไปได้วิชามาจากไหนครับ
เฮียเหลาเล่าให้ฟังว่าพอแกกลับบ้านปั๊บ
ซ้อแกสั่งให้แกปฎิบัติการอันสุนทรทันที
เฮียเหลาแกเล่าว่า แกคิดในใจว่าไม่เป็นไร
เพราะแกเป็นสปอร์ตแมนครับ แรงแกดีครับ
ฮ่า...จับผิดอั๊วไม่ได้หรอก
แต่แกก็เสร็จครับ ซ้อแกจับได้จนได้ว่าแกไปอาบน้ำมา
ตายคาหลักฐานอยู่ตรงนั้นเลย
ซ้อเฮียเหลาทำอย่างไรครับจึงทราบ..
คลาสสิคมากครับ
สาวๆผู้เป็นภริยาคนไหนอ่านจำไปใช้ได้เลยครับ
ตายคาหลักฐานหมดเลย
ชื่อ เฮียเหลา
แกไม่ค่อยข้องแวะกับอบายมุขอย่างอื่นนอกจากสตรีครับ
แกเล่าให้ฟังว่าหลังจากไปอาบน้ำมา
ก็กังวลว่าแฟนจะได้กลิ่นสบู่กลิ่นแป้งอะไรเทือกนั้นอ่ะ
แกว่าก่อนถึงบ้านซัก10นาที
แกจะปิดแอร์รถ ปิดกระจกด้วย ให้ตัวเองร้อนและเหงื่อแตก
แล้วเอาแม่โขงหรือรีเจนซี่ที่แกซื้อทิ้งไว้ในรถ
เทใส่มือมาพรมๆบริเวณลำตัว เสื้อผ้าเพื่อกลบกลิ่นอีกสำทับ
ผมละนับถือแกจริงๆ
ในความพยายามทำให้ครอบครัวมีความสุข
โดยที่ตัวแกก็มีความสุขด้วย
แต่ก็อดแซวไม่ได้ว่า เฮียเหลากลัวเมียนี่หว่า
เฮียแกตอบมาทันทีโดยไม่ต้องคิดว่า
ไม่ใช่กูกลัวเค้า เค้าไม่กลัวกูตะหาก
ฮ่า...
เรื่องนี้ยังไม่จบครับ ซ้อแกก็แสบน่าดูเหมือนกันครับ
ซ้อเฮียเหลาแกก็มีวิธีจัดการกับโกหกของเฮียแกเหมือนกัน
ไม่รู้แกไปได้วิชามาจากไหนครับ
เฮียเหลาเล่าให้ฟังว่าพอแกกลับบ้านปั๊บ
ซ้อแกสั่งให้แกปฎิบัติการอันสุนทรทันที
เฮียเหลาแกเล่าว่า แกคิดในใจว่าไม่เป็นไร
เพราะแกเป็นสปอร์ตแมนครับ แรงแกดีครับ
ฮ่า...จับผิดอั๊วไม่ได้หรอก
แต่แกก็เสร็จครับ ซ้อแกจับได้จนได้ว่าแกไปอาบน้ำมา
ตายคาหลักฐานอยู่ตรงนั้นเลย
ซ้อเฮียเหลาทำอย่างไรครับจึงทราบ..
คลาสสิคมากครับ
สาวๆผู้เป็นภริยาคนไหนอ่านจำไปใช้ได้เลยครับ
ตายคาหลักฐานหมดเลย
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 34
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 39
ขออนุญาต ดร.โหน่ง เพิ่มเติมเนื้อหาอีกเล็กน้อยนะครับ....
หากไม่เข้าท่าเข้าทางประการใด โปรดให้อภัย และแจ้งสัญญาณเตือนล่วงหน้าได้เลยนะขอรับ....
....................................
ปัง! ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นติดกันสองนัด ม่ายตังเหลา กับเอี่ยมโต (ซึ่งผันมาจากอีโต) สะดุ้งขึ้นสุดตัว
เฮ้ย!
ก่อนที่ม่ายตังเหลาจะพูดอะไรต่อ พลันเอี่ยมโตกดบ่าของเขาไว้ ในขณะที่มือขวาตวัดไปที่กระเป๋าหลังหยิบรีวอลเวอร์ขนาดเท่าฝ่ามือออกมา
เอี่ยมโตมองตาม่ายตังเหลา แล้วพยักหน้าแค่นั้นก็ดูเหมือนจะเป็นรหัสสัญญาณที่มากพอให้ม่ายตังเหลาก้มตัวลงพร้อมกับกระแทกส้นเท้าเข้าด้วยกัน เสียงสปริงดังกริ๊กขึ้นเบาๆ ช่องลับในรองเท้าข้างขวาก็ดีดท่อกลมยาวประมาณ 5 นิ้วฟุต ออกมาสู่ฝ่ามือที่รอรับอยู่อย่างชำนาญ ส่วนอีกมือหนึ่งก็ล้วงไปที่กระเป๋าข้างขากางเกงขวาหยิบวัตถุรูปร่างคล้ายไฟแช็กขนาดใหญ่ และเพียงแค่เสี้ยววินาทีวัตถุในมือของทั้งสองม่ายตังเหลาก็ถูกประกอบเป็นปืนกึ่งอัตโนมัติรูปร่างแปลกประหลาดขึ้นกระบอกหนึ่ง
ทั้งคู่พุ่งปราดไปที่ประตูข้างของโรงแรมที่อยู่เบื้องหน้า ม่ายตังเหลาเบียดตัวเองติดอยู่ข้างขอบประตูด้านหนึ่ง ในขณะที่เอี่ยมโต เบียดอยู่อีกข้างหนึ่งก่อนจะเอื้อมมือเปิดประตู
ทั้งคู่รออยู่ชั่วขณะก่อนสัญชาตญาณระแวงภัยจะบอกว่าตรงจุดนี้ปลอดภัย จากนั้นบุรุษทั้งสองก็พลันเหมือนพยัคฆ์ร้ายทะยานเข้าหาเหยื่อ
ไม่น่าเชื่อว่าด้วยน้ำหนักและรูปร่างของคนทั้งสองจะสามารถวิ่งขึ้นบันไดที่วกวนของโรงแรมไปจนถึงชั้นที่ 5 ได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึง 3 นาที
ประตูทางเข้าชั้นที่ 5 เปิดอ้าเหมือนกับรอเขาทั้งสองอยู่ก่อนแล้ว
สีหน้าเอี่ยมโตไม่ค่อยดีนัก ในขณะที่ม่ายตังเหลาเกร็งมือที่กำด้ามปืนของตนไว้แน่นพร้อมที่จะลั่นไกออกไปได้ทุกขณะ
ทั้งคู่หยุดเบียดตัวนิ่งอยู่ที่หน้าประตูชั่วขณะก่อนที่ม่ายตังเหลาจะชื้มาที่ตัวเองแล้วบุ้ยปากไปทางด้านใน เอี่ยมโตพยักหน้า พลันม่ายตังเหลาก็ก้มตัวกลิ้งเข้าไปตามทางเดินอย่างรวดเร็ว
เงียบกริบ! ปราศจากความเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น
เอี่ยมโตรีบเบี่ยงตัวตามเข้ามา ก่อนจะเดินกึ่งวิ่งไปยังห้องพักเลขที่ 508 อย่างคุ้นเคย ใบหน้าของเขาดูเคร่งเครียดมากขึ้น เมื่อเห็นประตูห้องพักไม่ได้ปิดสนิทนัก
เขายกสองมือขึ้นกระชับด้ามปืนไว้ที่เบื้องหน้าในขณะที่เกร็งลำตัวพิงข้างประตูพร้อมกับใช้เท้าสะกิดประตูให้เปิดออกอย่างช้า ม่ายตังเหลาพลิกตัวแนบชิดอยู่กับผนังทางเดินอีกด้านหนึ่ง
มีเพียงเสียงคอมเพรสเซอร์แอร์ดังออกมาเบาๆ นอกนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นใดที่ผิดปกติอีก ม่ายตังเหลารีบก้มตัวลงก่อนจะกวาดสายตามองเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว แล้วเอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า
พี่โต สงสัยพี่จะมาช้าไปแล้วมั้ง
สิ่งที่ม่ายตังเหลาเห็นก่อนที่ทั้งคู่จะเข้ามายืนในห้อง เป็นร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่นอนคว่ำหน้าอยู่บริเวณทางเดินหน้าประตูห้องน้ำ
เอี่ยมโตผวาเข้าจับร่างของหญิงสาวให้พลิกขึ้นพร้อมกับยื่นมือไปแตะบริเวณลำคอก่อนจะปล่อยร่างนั้นลงไปเหมือนเดิม สีหน้าของเขาเคร่งเครียดมากขึ้นก่อนจะเอ่ยกับม่ายตังเหลาว่า
พี่มาช้าไปจริงๆ น้ำปิง เป็นลูกสาวคนโตของสมาชิกคนที่พี่ว่า เธอนัดพี่มาพบที่นี่ เป็นห้องที่พ่อเธอเช่าเอาไว้ประจำเพื่อคุยกันเรื่องงาน
เฮ้ย! ตอนแรกพี่บอกว่าสมาชิกคนนี้ไม่รู้เรื่องอะไรไม่ใช่เรอะ ม่ายตังเหลาขมวดคิ้ว
เอี่ยมโตมองหน้าม่ายตังเหลาก่อนจะลุกขึ้นแล้วกล่าวว่า
เราไปหาที่คุยกันก่อนดีกว่า ที่นี่ไม่ปลอดภัยแล้ว ซักพักตำรวจก็คงมา เดี๋ยวเจอกันเข้าจะยุ่ง
ม่ายตังเหลาเริ่มจะรู้สึกผิดสังเกตว่าในขณะที่มีเรื่องร้ายแรงขนาดนี้เกิดขึ้นทำไมบรรยากาศถึงได้ดูสงบเงียบผิดปกติ พนักงานโรงแรมไปไหน คนพักห้องอื่นๆ ไปไหนหมด แล้วทำไมเอี่ยมโตถึงได้ไม่สนใจว่าใครเป็นคนฆ่าหญิงสาวที่ทอดร่างอยู่เบื้องหน้า ราวกับจะรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้น แต่ด้วยประสบการณ์ที่โชกโชน ทำให้หนุ่มสวนยางเพิ่มความระมัดระวังตัวมากกว่าเดิมแต่ไม่แสดงอากัปกิริยาที่ผิดปกติออกมา เขาเดินตามเอี่ยมโตออกไปยังทางเดิมที่ขึ้นมา
เมื่อทั้งคู่เดินห่างออกมาจากโรงแรมที่เกิดเหตุเพียงชั่วครู่ ก็ได้ยินเสียงหวอของรถตำรวจดังขึ้นมาแต่ไกล เอี่ยมโตเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นไปยังรถของเขาที่จอดอยู่ในซอกตึก ในขณะที่ม่ายตังเหลาก็รีบเดินตามมาไม่ห่าง ขณะนี้ทั้งคู่ต่างเก็บอาวุธไว้เรียบร้อยแล้ว
ในไม่ช้า รถยนต์คันเก่าก็พาทั้งคู่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามายังฝั่งธนบุรี เอี่ยมโตเลี้ยวซ้ายผ่านหน้าวัดอนงค์มุ่งไปยังคลองสาน ม่ายตังเหลาสงบปากเงียบมาโดยตลอด เรื่องทั้งหมดถึงแม้เขาจะยังจับต้นชนปลายไม่ถูกแต่ก็รู้ดีว่าในขณะนี้เพื่อนรุ่นพี่กำลังเผชิญกับแรงกดดันบางอย่าง ที่กำลังคืบคลานเข้าสู่สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
สิบนาทีให้หลัง แคมรีรุ่นแรก ก็พุ่งปราดเข้าไปยังสถานนวดแผนโบราณแห่งหนึ่งริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา พนักงานเฝ้าปากประตูรีบเลื่อนแผงกั้นออกอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นรถคันนี้ เอี่ยมโตหมุนพวงมาลัยพารถเลี้ยวเข้าไปด้านหลังและจอดลงที่ลานจอดส่วนตัวด้านหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าชวนให้ม่ายตังเหลาลงจากรถ
ทั้งคู่ก้าวตามกันเข้าไปภายในอาคารด้านหลังที่ปลูกติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ป้ายที่ติดหน้าประตูอาคารเขียนไว้ชัดเจนว่า สำหรับแขกวีไอพีเท่านั้น
ยังไม่ทันที่ใครจะเอื้อมมือผลัก ประตูก็เปิดออกพร้อมกับมีพนักงานต้อนรับซึ่งเป็นหญิงสาวสวยในชุดกี่เพ้าแบบจีนสีแดงเพลิงผ่าข้างสูงขึ้นไปถึงแนวสะโพกเดินเข้ามาหาและทักทายอย่างคุ้นเคย
พี่โตมาแต่วันเลยนะคะ
เอี่ยมโตยิ้มกริ่ม เอื้อมมือไปดีดแก้มสาวน้อยคนถามเบาๆ พร้อมสัพยอก
ก็คิดถึงน้อยหน่านี่นา เลยรีบมาหา ว่าแต่ว่าหน่าจะไม่คืนของให้พี่ก่อนเหรอ
สาวน้อยไม่ได้เอียงแก้มหลบ แถมยังก้าวเข้ามากอดแขนเอี่ยมโตไว้แน่น พร้อมกับทำหน้าฉงนกับคำถาม
เอ๊ะ พี่โตลืมอะไรไว้เหรอคะ หน่าไม่เห็นรู้เรื่องเลย
เอี่ยมโตหัวเราะในขณะที่ดึงมือของเขาออกมาจากอ้อมแขนและอกอวบของสาวน้อย เปลี่ยนเป็นโอบไหล่พาก้าวเดินเข้าไปสู่ห้องโถงใหญ่ข้างใน ส่วนปากก็ตอบคำถามสาวน้อยที่ฉอเลาะถามเมื่อสักครู่ว่า
ก็หัวใจพี่ไง มันลอยมาหาหน่าก่อนหน้าที่พี่จะมาถึงซักสองชั่วโมงได้แล้วมั๊ง
ม่ายตังเหลารู้สึกจักกะจี้กับคำตอบของเพื่อนรุ่นพี่พลางนึกในใจว่า น้ำเน่า ซิกหาย แต่สาวน้อยคนงามกลับรู้สึกหัวใจพองโตสีหน้าแดงเรื่อขึ้นจางๆ แล้วเอื้อมมือตีเพียะไปบนท่อนแขนของเอี่ยมโต
แหมพี่โตก็ หน่าตกใจหมดเลยนึกว่าพี่ลืมอะไรไว้ แต่ถ้าเป็นหัวใจพี่ละก็ หน่าคงคืนให้ไม่ได้แล้วล่ะ
อ้าว ทำไมล่ะจ้ะ เอี่ยมโตอ้อนถาม ราวกับว่าเขาช่างเป็นคนที่ไร้เดียงสาไม่เคยผ่านโลกอย่างโชกโชนมาก่อน
ก็ แหม พี่โต ก็ สาวน้อยร้อยชั่งก็ช่างกระไร ทำตัวได้ไร้เดียงสาไม่แพ้กัน ก็ใจของหน่ามันละลายจนกลายเป็นใจดวงเดียวกะพี่โตไปแล้วนะซีคะ
ม่ายตังเหลารู้สึกว่าตัวเองชักจะทนไม่ไหว เขารีบเบือนหน้าออกไปมองอีกทางหนึ่งเพื่อไม่ให้คู่รักหมาดๆ ที่กำลังทำหวานแหววเหมือนแมวกลัดมัน ได้เห็นแววตาที่อยากจะลาตายไปจากโลกและสีหน้าอันผะอืดผอมของเขา
เสียงเอี่ยมโตหัวเราะขึ้นเบาๆ อย่างชอบใจ ก่อนจะหันมายิ้มให้ม่ายตังเหลาแล้วพูดว่า
ขอโทษทีนะอ้ายน้องเหลา แบบว่ามันเคยตัว น่ะ....เอิ๊กๆๆ เอี่ยมโตลงลูกคออย่างไม่น่าเชื่อว่า ก่อนหน้านี้เพียงชั่วโมงเดียวตัวเขาได้เจออะไรมาบ้าง
ม่ายตังเหลา ยิ้มรับ แต่ในใจเขานึกสงสัยขึ้นมาว่า เพียงชั่วระยะเวลาไม่นานนักที่เขาไม่ได้คลุกคลีกับเอี่ยมโตอย่างสนิทสนม อะไรทำให้เพื่อนรุ่นพี่เขาเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่า นักล่าอุดมการณ์ผู้ผ่านงานถอดรหัสจนเป็นมือหนึ่งของ พกค. อย่างเอี่ยมโต จะทำอะไรเหลวไหลได้ปานนี้
หากไม่เข้าท่าเข้าทางประการใด โปรดให้อภัย และแจ้งสัญญาณเตือนล่วงหน้าได้เลยนะขอรับ....
....................................
ปัง! ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นติดกันสองนัด ม่ายตังเหลา กับเอี่ยมโต (ซึ่งผันมาจากอีโต) สะดุ้งขึ้นสุดตัว
เฮ้ย!
ก่อนที่ม่ายตังเหลาจะพูดอะไรต่อ พลันเอี่ยมโตกดบ่าของเขาไว้ ในขณะที่มือขวาตวัดไปที่กระเป๋าหลังหยิบรีวอลเวอร์ขนาดเท่าฝ่ามือออกมา
เอี่ยมโตมองตาม่ายตังเหลา แล้วพยักหน้าแค่นั้นก็ดูเหมือนจะเป็นรหัสสัญญาณที่มากพอให้ม่ายตังเหลาก้มตัวลงพร้อมกับกระแทกส้นเท้าเข้าด้วยกัน เสียงสปริงดังกริ๊กขึ้นเบาๆ ช่องลับในรองเท้าข้างขวาก็ดีดท่อกลมยาวประมาณ 5 นิ้วฟุต ออกมาสู่ฝ่ามือที่รอรับอยู่อย่างชำนาญ ส่วนอีกมือหนึ่งก็ล้วงไปที่กระเป๋าข้างขากางเกงขวาหยิบวัตถุรูปร่างคล้ายไฟแช็กขนาดใหญ่ และเพียงแค่เสี้ยววินาทีวัตถุในมือของทั้งสองม่ายตังเหลาก็ถูกประกอบเป็นปืนกึ่งอัตโนมัติรูปร่างแปลกประหลาดขึ้นกระบอกหนึ่ง
ทั้งคู่พุ่งปราดไปที่ประตูข้างของโรงแรมที่อยู่เบื้องหน้า ม่ายตังเหลาเบียดตัวเองติดอยู่ข้างขอบประตูด้านหนึ่ง ในขณะที่เอี่ยมโต เบียดอยู่อีกข้างหนึ่งก่อนจะเอื้อมมือเปิดประตู
ทั้งคู่รออยู่ชั่วขณะก่อนสัญชาตญาณระแวงภัยจะบอกว่าตรงจุดนี้ปลอดภัย จากนั้นบุรุษทั้งสองก็พลันเหมือนพยัคฆ์ร้ายทะยานเข้าหาเหยื่อ
ไม่น่าเชื่อว่าด้วยน้ำหนักและรูปร่างของคนทั้งสองจะสามารถวิ่งขึ้นบันไดที่วกวนของโรงแรมไปจนถึงชั้นที่ 5 ได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึง 3 นาที
ประตูทางเข้าชั้นที่ 5 เปิดอ้าเหมือนกับรอเขาทั้งสองอยู่ก่อนแล้ว
สีหน้าเอี่ยมโตไม่ค่อยดีนัก ในขณะที่ม่ายตังเหลาเกร็งมือที่กำด้ามปืนของตนไว้แน่นพร้อมที่จะลั่นไกออกไปได้ทุกขณะ
ทั้งคู่หยุดเบียดตัวนิ่งอยู่ที่หน้าประตูชั่วขณะก่อนที่ม่ายตังเหลาจะชื้มาที่ตัวเองแล้วบุ้ยปากไปทางด้านใน เอี่ยมโตพยักหน้า พลันม่ายตังเหลาก็ก้มตัวกลิ้งเข้าไปตามทางเดินอย่างรวดเร็ว
เงียบกริบ! ปราศจากความเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น
เอี่ยมโตรีบเบี่ยงตัวตามเข้ามา ก่อนจะเดินกึ่งวิ่งไปยังห้องพักเลขที่ 508 อย่างคุ้นเคย ใบหน้าของเขาดูเคร่งเครียดมากขึ้น เมื่อเห็นประตูห้องพักไม่ได้ปิดสนิทนัก
เขายกสองมือขึ้นกระชับด้ามปืนไว้ที่เบื้องหน้าในขณะที่เกร็งลำตัวพิงข้างประตูพร้อมกับใช้เท้าสะกิดประตูให้เปิดออกอย่างช้า ม่ายตังเหลาพลิกตัวแนบชิดอยู่กับผนังทางเดินอีกด้านหนึ่ง
มีเพียงเสียงคอมเพรสเซอร์แอร์ดังออกมาเบาๆ นอกนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นใดที่ผิดปกติอีก ม่ายตังเหลารีบก้มตัวลงก่อนจะกวาดสายตามองเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว แล้วเอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า
พี่โต สงสัยพี่จะมาช้าไปแล้วมั้ง
สิ่งที่ม่ายตังเหลาเห็นก่อนที่ทั้งคู่จะเข้ามายืนในห้อง เป็นร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่นอนคว่ำหน้าอยู่บริเวณทางเดินหน้าประตูห้องน้ำ
เอี่ยมโตผวาเข้าจับร่างของหญิงสาวให้พลิกขึ้นพร้อมกับยื่นมือไปแตะบริเวณลำคอก่อนจะปล่อยร่างนั้นลงไปเหมือนเดิม สีหน้าของเขาเคร่งเครียดมากขึ้นก่อนจะเอ่ยกับม่ายตังเหลาว่า
พี่มาช้าไปจริงๆ น้ำปิง เป็นลูกสาวคนโตของสมาชิกคนที่พี่ว่า เธอนัดพี่มาพบที่นี่ เป็นห้องที่พ่อเธอเช่าเอาไว้ประจำเพื่อคุยกันเรื่องงาน
เฮ้ย! ตอนแรกพี่บอกว่าสมาชิกคนนี้ไม่รู้เรื่องอะไรไม่ใช่เรอะ ม่ายตังเหลาขมวดคิ้ว
เอี่ยมโตมองหน้าม่ายตังเหลาก่อนจะลุกขึ้นแล้วกล่าวว่า
เราไปหาที่คุยกันก่อนดีกว่า ที่นี่ไม่ปลอดภัยแล้ว ซักพักตำรวจก็คงมา เดี๋ยวเจอกันเข้าจะยุ่ง
ม่ายตังเหลาเริ่มจะรู้สึกผิดสังเกตว่าในขณะที่มีเรื่องร้ายแรงขนาดนี้เกิดขึ้นทำไมบรรยากาศถึงได้ดูสงบเงียบผิดปกติ พนักงานโรงแรมไปไหน คนพักห้องอื่นๆ ไปไหนหมด แล้วทำไมเอี่ยมโตถึงได้ไม่สนใจว่าใครเป็นคนฆ่าหญิงสาวที่ทอดร่างอยู่เบื้องหน้า ราวกับจะรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้น แต่ด้วยประสบการณ์ที่โชกโชน ทำให้หนุ่มสวนยางเพิ่มความระมัดระวังตัวมากกว่าเดิมแต่ไม่แสดงอากัปกิริยาที่ผิดปกติออกมา เขาเดินตามเอี่ยมโตออกไปยังทางเดิมที่ขึ้นมา
เมื่อทั้งคู่เดินห่างออกมาจากโรงแรมที่เกิดเหตุเพียงชั่วครู่ ก็ได้ยินเสียงหวอของรถตำรวจดังขึ้นมาแต่ไกล เอี่ยมโตเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นไปยังรถของเขาที่จอดอยู่ในซอกตึก ในขณะที่ม่ายตังเหลาก็รีบเดินตามมาไม่ห่าง ขณะนี้ทั้งคู่ต่างเก็บอาวุธไว้เรียบร้อยแล้ว
ในไม่ช้า รถยนต์คันเก่าก็พาทั้งคู่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามายังฝั่งธนบุรี เอี่ยมโตเลี้ยวซ้ายผ่านหน้าวัดอนงค์มุ่งไปยังคลองสาน ม่ายตังเหลาสงบปากเงียบมาโดยตลอด เรื่องทั้งหมดถึงแม้เขาจะยังจับต้นชนปลายไม่ถูกแต่ก็รู้ดีว่าในขณะนี้เพื่อนรุ่นพี่กำลังเผชิญกับแรงกดดันบางอย่าง ที่กำลังคืบคลานเข้าสู่สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
สิบนาทีให้หลัง แคมรีรุ่นแรก ก็พุ่งปราดเข้าไปยังสถานนวดแผนโบราณแห่งหนึ่งริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา พนักงานเฝ้าปากประตูรีบเลื่อนแผงกั้นออกอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นรถคันนี้ เอี่ยมโตหมุนพวงมาลัยพารถเลี้ยวเข้าไปด้านหลังและจอดลงที่ลานจอดส่วนตัวด้านหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าชวนให้ม่ายตังเหลาลงจากรถ
ทั้งคู่ก้าวตามกันเข้าไปภายในอาคารด้านหลังที่ปลูกติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ป้ายที่ติดหน้าประตูอาคารเขียนไว้ชัดเจนว่า สำหรับแขกวีไอพีเท่านั้น
ยังไม่ทันที่ใครจะเอื้อมมือผลัก ประตูก็เปิดออกพร้อมกับมีพนักงานต้อนรับซึ่งเป็นหญิงสาวสวยในชุดกี่เพ้าแบบจีนสีแดงเพลิงผ่าข้างสูงขึ้นไปถึงแนวสะโพกเดินเข้ามาหาและทักทายอย่างคุ้นเคย
พี่โตมาแต่วันเลยนะคะ
เอี่ยมโตยิ้มกริ่ม เอื้อมมือไปดีดแก้มสาวน้อยคนถามเบาๆ พร้อมสัพยอก
ก็คิดถึงน้อยหน่านี่นา เลยรีบมาหา ว่าแต่ว่าหน่าจะไม่คืนของให้พี่ก่อนเหรอ
สาวน้อยไม่ได้เอียงแก้มหลบ แถมยังก้าวเข้ามากอดแขนเอี่ยมโตไว้แน่น พร้อมกับทำหน้าฉงนกับคำถาม
เอ๊ะ พี่โตลืมอะไรไว้เหรอคะ หน่าไม่เห็นรู้เรื่องเลย
เอี่ยมโตหัวเราะในขณะที่ดึงมือของเขาออกมาจากอ้อมแขนและอกอวบของสาวน้อย เปลี่ยนเป็นโอบไหล่พาก้าวเดินเข้าไปสู่ห้องโถงใหญ่ข้างใน ส่วนปากก็ตอบคำถามสาวน้อยที่ฉอเลาะถามเมื่อสักครู่ว่า
ก็หัวใจพี่ไง มันลอยมาหาหน่าก่อนหน้าที่พี่จะมาถึงซักสองชั่วโมงได้แล้วมั๊ง
ม่ายตังเหลารู้สึกจักกะจี้กับคำตอบของเพื่อนรุ่นพี่พลางนึกในใจว่า น้ำเน่า ซิกหาย แต่สาวน้อยคนงามกลับรู้สึกหัวใจพองโตสีหน้าแดงเรื่อขึ้นจางๆ แล้วเอื้อมมือตีเพียะไปบนท่อนแขนของเอี่ยมโต
แหมพี่โตก็ หน่าตกใจหมดเลยนึกว่าพี่ลืมอะไรไว้ แต่ถ้าเป็นหัวใจพี่ละก็ หน่าคงคืนให้ไม่ได้แล้วล่ะ
อ้าว ทำไมล่ะจ้ะ เอี่ยมโตอ้อนถาม ราวกับว่าเขาช่างเป็นคนที่ไร้เดียงสาไม่เคยผ่านโลกอย่างโชกโชนมาก่อน
ก็ แหม พี่โต ก็ สาวน้อยร้อยชั่งก็ช่างกระไร ทำตัวได้ไร้เดียงสาไม่แพ้กัน ก็ใจของหน่ามันละลายจนกลายเป็นใจดวงเดียวกะพี่โตไปแล้วนะซีคะ
ม่ายตังเหลารู้สึกว่าตัวเองชักจะทนไม่ไหว เขารีบเบือนหน้าออกไปมองอีกทางหนึ่งเพื่อไม่ให้คู่รักหมาดๆ ที่กำลังทำหวานแหววเหมือนแมวกลัดมัน ได้เห็นแววตาที่อยากจะลาตายไปจากโลกและสีหน้าอันผะอืดผอมของเขา
เสียงเอี่ยมโตหัวเราะขึ้นเบาๆ อย่างชอบใจ ก่อนจะหันมายิ้มให้ม่ายตังเหลาแล้วพูดว่า
ขอโทษทีนะอ้ายน้องเหลา แบบว่ามันเคยตัว น่ะ....เอิ๊กๆๆ เอี่ยมโตลงลูกคออย่างไม่น่าเชื่อว่า ก่อนหน้านี้เพียงชั่วโมงเดียวตัวเขาได้เจออะไรมาบ้าง
ม่ายตังเหลา ยิ้มรับ แต่ในใจเขานึกสงสัยขึ้นมาว่า เพียงชั่วระยะเวลาไม่นานนักที่เขาไม่ได้คลุกคลีกับเอี่ยมโตอย่างสนิทสนม อะไรทำให้เพื่อนรุ่นพี่เขาเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่า นักล่าอุดมการณ์ผู้ผ่านงานถอดรหัสจนเป็นมือหนึ่งของ พกค. อย่างเอี่ยมโต จะทำอะไรเหลวไหลได้ปานนี้
- Raphin Phraiwal
- Verified User
- โพสต์: 1342
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 40
ขำมากคับมากครับมุกนี้Eto Demerzel เขียน:โอย... ขำ shaving ryan's privates มาก
หัวเราะจนปวดท้องเลย
ปกติผมก็ไม่ใช่คนลามกนะ
รักในหลวงครับ
- Raphin Phraiwal
- Verified User
- โพสต์: 1342
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 41
ลืมบอกไปครับ มันส์มากครับ ทั้งท่านดร.โหน่งผู้ถนัดซ้ายและมีจินตนาการอันบรรเจิด และ ท่าน goosehuntsman ครับ เขียนได้ชวนติดตามจริงๆ
เพิ่งรู้นะครับ ว่าพี่อีโต้อายุ 28 ไม่รู้ว่า 28 กว่าๆ แบบพี่พอใจหรือเปล่า :lol:
เพิ่งรู้นะครับ ว่าพี่อีโต้อายุ 28 ไม่รู้ว่า 28 กว่าๆ แบบพี่พอใจหรือเปล่า :lol:
รักในหลวงครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 34
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 42
ขอบคุณพี่ไพรวัลย์ที่ให้กำลังใจครับ......
ขออนุญาต ดร.โหน่ง แถมอีกตอนนะครับ...... แบบจินตนาการมันบรรเจิด ระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่องน่ะครับ
..........................
อ้ายเวร....เอ้ย!
เสียงผรุสวาทดังออกมาจากปากเฮียเกา นัยน์ตาของเขาแดงก่ำเต็มไปด้วยเพลิงโทสะ
กูทำชอร์ตไว้ตั้งหลายตั๋ว ดันเสือกตกวูบเดียวจบ รู้งี้ปิดสัญญาไปตั้งกะวันก่อนก็ดีอยู่แล้ว เขาบ่นอุบอิบ พร้อมกับเอื้อมมือไปกระแทกปุ่มปิดจอคอมพิวเตอร์ที่หน้าโต๊ะ ในขณะที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
อาโหล ... เฮียเกากระแทกเสียงลงไปในโทรศัพท์
............. เสียงตามสายดังอู้ๆ อี้ๆ ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง แต่พอจับใจความได้ เพลิงโมโหก็เคลือบไปทั่วใบหน้าของเขา กล้ามเนื้อข้างริมฝีปากเกร็งแน่นจากการขบอย่างดุดันของกรามที่อยู่ภายในจนเห็นเป็นรอยนูนออกมาข้างสองแก้ม
หลังจากวางสายจนโทรศัพท์แทบจะพังไปกับแท่นวางหู เขากดอินเตอร์คอมข้างโต๊ะแล้วเน้นเสียงหนักห้วนเครียดๆ ลงไปว่า
ตามไอ้ตี๋ใหญ่ เข้ามานี่ซิ เร็วๆ ด้วย
ชายหนุ่มวัย 30 ปลายๆ เหมือนจะกลายเป็นวัยกลางคน 50 ต้นๆ ขึ้นมาทันที นิ้วมือทั้งสิบของเขาประสานกันแน่นเป็นสามเหลี่ยมยันไว้ที่ริมฝีปากล่าง ในขณะที่กรามยังคงถูกขบไว้แน่น ตาจ้องเขม็งไปยังประตูเหมือนพยัคฆ์คอยจ้องขย้ำเหยื่อ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ แล้วถูกเปิดออก ร่างสูงโปร่งของชายในชุดพรางสวมแว่นเรย์แบนสีดำสนิทอยู่บนใบหน้าก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ยังไม่ทันที่ตี๋ใหญ่จะเอ่ยปากทักทาย เฮียเกาก็ตบโต๊ะเสียงดัง สองมือดันร่างท้วมล่ำทะลึ่งพรวดขึ้นจากเก้าอี้หนังขนาดใหญ่ ตี๋ใหญ่ผงะกึก เขาใจเต้นระทึกขึ้นมาทันที
อ้าย....สั...ว์ ไหนมึงบอกมั่นใจมากไง เด็กกูที่เยาวราชรายงานมาเมื่อกี้ว่าเห็นอ้ายโตกับอ้ายเหลาขับรถออกไปด้วยกัน ถามจริงๆ ไอ้คนที่ถูกมึงเชือดไปทำไมมันยังโผล่ออกมาได้อีกวะ
เฮ้ย! เด็กเฮียเกามองผิดหรือปล่าว น้ำเสียงของตี๋ใหญ่สั่นระรัว หากหูของเฮียเกามีความละเอียดพอก็คงได้ยินเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจตี๋ใหญ่ที่เริ่มรุนแรงมากขึ้นจนผิดปกติ
พอกันที ตี๋ใหญ่ แกหมดประโยชน์แล้ว
ไม่ทันขาดคำ ตี๋ใหญ่ก็ได้ยินเสียงคลิ๊กเบาๆ จากใต้โต๊ะทำงานตัวใหญ่หน้าเฮียเกา และยังไม่ทันที่เขาจะคิดอะไรสัญชาติญาณของนักฆ่าที่สองมือเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดก็กระชากร่างของเขากลิ้งหลบไปที่ข้างโซฟาข้างมุมห้อง แว่นเรย์แบนด์กระเด็นออกจากใบหน้าไปอีกทางหนึ่ง
ปั๊ก!.... บรึ๋งงง เสียงวัตถุกระแทกแน่นไปบนประตูไม้อย่างรวดเร็ว แรงส่งจากการยิงด้วยเครื่องมือพิเศษ ทำให้ปลายด้ามมีดสั่นระริกส่งเสียงดังอยู่ หากไม่ใช่ตี๋ใหญ่มีสัญชาติญาณระแวงภัยที่ดีพอตัว ป่านนี้กระเดือกใต้คางของเขาคงเป็นเป้าหมายหลักของมีดเล่นนั้นไปแล้ว
ตี๋ใหญ่ร้องเสียงหลง เฮียเกา ใจเย็นก่อนครับ ให้โอกาสผมอธิบายก่อน
ไม่มีอะไรต้องอธิบาย ในเมื่องานของแกพลาดไปแล้ว เฮียเกาแสยะยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม
นักฆ่าร่างสูงรู้สึกเหมือนมีความหนาวยะเยือกแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เขามีทางเลือกเพียงยอมตายอยู่ตรงนี้ หรือหนี แต่ถ้าจะหนีโอกาสรอดดูจะมีน้อยอย่างยิ่ง สายตาของเขากวาดมองไปรอบห้องอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เฮียเกากดปุ่มลับที่ข้างโต๊ะ สมองอันช่ำชองต่อการเผชิญภัยของตี๋ใหญ่เริ่มประมวลผล แม้เขาจะเป็นเพียงมือปืนไร้ชื่อเสียง แต่สิ่งที่เฮียเกาไม่เคยรู้มาก่อนเลย ก็คือเขาเป็นลูกชายโทนของนายทหารเก่าฝ่ายเขมรแดงปฏิวัติที่ช่ำชองและเชี่ยวชาญในการรบในสมรภูมิเลือดที่ยืดเยื้อมากว่า 20 ปี
ประตูห้องเปิดออกในเวลาไม่ถึงเสี้ยววินาที ชายฉกรรจ์ร่างยักษ์สองนายก้าวเข้ามา และเหมือนกับจะรู้หน้าที่ ร่างบึกบึนในชุดรัดกุมพุ่งปราดชาร์จเข้าหาตี๋ใหญ่ เขาเบี่ยงตัวหลบไปข้างตู้เอกสารที่ผนังห้อง เมื่อลุกขึ้นมาอีกทีในมือของเขาก็เพิ่มประสิทธภาพด้วยลูกโม่ทรงโบราณ
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เสียงมฤตยูดังจากปลายปากกระบอกปืนตี๋ใหญ่ ในขณะที่อีกเสียงดังมาจากปลายกระบอกปืนของเฮียเกา
เศษเสื้อสีดำกระจายขาดวิ่น พลังของกระสุนจากปืนตี๋ใหญ่ทำได้แค่เพียงหยุดชายร่างยักษ์ให้ชะงักลงเพียงครู่เดียวเท่านั้น รอยโหว่ที่เกิดขึ้นใหม่เปิดให้เห็นถึงแผงเหล็กอ่อนที่เป็นเกราะป้องกันอยู่ภายใน ตี๋ใหญ่ใจหายวาบ เขาพลาดที่ไม่ยิงให้ตรงกลางแสกหน้า แต่ก็เป็นเคราะห์ดีที่เขาเผื่อจังหวะพลาดเอาไว้ก่อนทำให้เขากระชากร่างเพื่อหลบการจู่โจมด้วยอีกทางหนึ่ง มันเป็นจังหวะเดียวกับคมกระสุนของเฮียเกาที่พุ่งเฉี่ยวเข้าข้างใบหูขวาของเขาพอดี เม็ดเลือดกระจายออกมาจากแผลพุ่งไปตามแรงของหัวตะกั่วก่อนจะตกลงบนพื้นห้อง
ปุ้ง! ผนังตู้เอกสารใบเขื่องทะลุเป็นรูตามแรงยิง กระสุนนัดแรกจากปากกระบอกปืนทั้งคู่ดูเหมือนจะพลาดเป้า ตี๋ใหญ่เริ่มตกอยู่ในภาวะคับขัน ชายฉกรรจ์ร่างบึกอีกคนคว้ามีดที่ปักอยู่บนประตูขว้างเข้าใส่ตี๋ใหญ๋
ความเร็วและความรุนแรงแม้จะเป็นรองกว่าเครื่องยิงพิเศษ แต่ความแม่นกลับเหนือกว่ามาก ปลายมีดปักฉึกจมลึกเข้าไปในใหล่ซ้ายของนักฆ่าเมืองเขมร เขากลิ้งตัวเข้าไปหลังตู้เอกสารใช้มันเป็นเครื่องกำบังชั่วคราว สีหน้าของตี๋ใหญ่ในยามนี้บิดเบี้ยวเหยเกในขณะที่มือกำด้ามปืนไว้แน่น
เฮียเกา ทำไมต้องเอาชีวิตผมด้วย ไม่ให้โอกาสผมแก้ตัวเลยหรือ
แกหมดโอกาสไปแล้วตี๋ใหญ่ ตอนนี้ตำรวจสืบรู้แล้วว่าแกเป็นฆาตกร เขาตามกลิ่นแกตั้งแต่ตอนที่หลบมาจากปันนังสะตา อ้าย ...สารเลวเอ้ย! ความสบายทำให้แกประมาทจนลืมไปว่าตำรวจกำลังล่าตัวแกเรอะ
เฮียปล่อยผมไปเถอะ ผมจะหนีไปชายแดนเขมรข้ามไปผั่งโน้น แล้วถ้ามีโอกาสผมค่อยตอบแทนบุญคุณเฮียอีก ตี๋ใหญ่เสียงสั่นอ้อนวอน
ชายฉกรรจ์ร่างยักษ์ ทั้งคู่ค่อยๆ คืบเข้าหาตี๋ใหญ่ทีละนิดอย่างระมัดระวัง อย่างน้อยทั้งคู่ก็ยังเกรงใจทูตมรณะในมือของตี๋ใหญ่อยู่บ้าง
เฮียเกานี่งคิด หากปล่อยเวลาให้นานออกไปคงไม่เป็นการดีต่อเขาแน่นอน เขาย่อตัวลงใช้โต๊ะทำงานเป็นเครื่องกำบังกระสุนปืนที่ตี๋ใหญ่อาจจะพุ่งใส่เขาเมื่อไรก็ได้ แล้วชี้นิ้วไปที่ตู้เอกสาร ชายฉกรรจ์ร่างบึกคนที่ขว้างมีดมองตามก็รู้ทันทีว่าเจ้านายต้องการให้เขาทำอะไร
ตู้เอกสารที่เรียงกันอยู่สามใบถูกผลักให้ล้มลงด้วยพลังดุจช้างสาร ตี๋ใหญ่ขบกรามแน่น นึกในใจว่าถ้าไม่เสี่ยงก็คงตายอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน สามปีในเบตงไม่ได้ทำให้เขาสูญเปล่า ร่างของเขาพุ่งปราดออกจากซอกตู้ก่อนที่มันจะล้มลงมาทับเขา
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! เสียงกระสุนแผดดังก้องเกือบพร้อมๆ กัน ชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ที่พุ่งเข้าหา ผงะหน้าหงายเผยให้เห็นรูกระสุนรอยใหญ่ที่กระแทกเข้ากลางหน้าผากอย่างเด่นชัด เลือดสีคล้ำสาดกระจายเต็มใบหน้า ส่วนอีกคนหนึ่งเบี่ยงตัวหลบเข้าข้างกองตู้เอกสารรอดพ้นคมกระสุนอย่างหวุดหวิด ในขณะที่ ตี๋ใหญ่ทรุดฮวบอยู่บนพื้น เสื้อลายพรางของเขามีรอยเลือดซึมออกมาไม่หยุดจากข้างลำตัว เขากดแผลจากรอยกระสุนของเฮียเกาด้วยมือซ้ายด้วยแรงที่เหลือจากปลายมีดบนหัวไหล่ มันก็แน่นพอเท่าที่มันจะทำได้ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้เลือดหยุดทะลักออกจากชายโครง
เฮียเกาสะบัดปืนในมือเล็งไปที่ตี๋ใหญ่ แต่ตัวเขาก็ยังไม่ได้ก้าวออกมาพ้นจากโต๊ะทำงาน เขาหัวเราะเบาๆ อย่างเหี้ยมเกรียม
ก็นับว่าไม่เลวสำหรับมือระดับแก แลกกับมือดีของกูไปได้คนหนึ่ง แต่ตอนนี้แกไปรายงานตัวในนรกได้แล้ว อ้ายสั..ว์ เอ้ย
ขาดคำกระสุนก็พุ่งออกจากปากกระบอกปืนอย่างรวดเร็ว
เปรี้ยง!
ตี๋ใหญ่ผงะ กลิ้งตัวหลบไปข้างหน้าต่างกระจก ด้วยความเจนสนามมากกว่าเฮียเกา เขารู้ดีว่าเป้าหมายของปลายกระสุนปืนในวิถียิงที่แคบๆ จะอยู่ที่ใดบนร่างของเขาบ้าง แน่นอนว่า แม้เฮียเกาจะเป็นนักแม่นปืน แต่ก็เป็นเพียงการยิงเข้าเป้านิ่งเท่านั้น แถมในขณะนี้ยังเบียดตัวหลบอยู่กับโต๊ะทำงานอีกด้วย กระสุนจึงไม่อาจทำอะไรเพิ่มเติมให้กับพยัคฆ์บาดเจ็บตัวเขื่องอย่างตี๋ใหญ่ได้
ความเจ็บปวดที่เพิ่มทวีขึ้นทำให้ตี๋ใหญ่ต้องดึงพลังแฝงที่อยู่ภายในตัวออกมาใช้อย่างเต็มที่ ยังไม่ทันที่เฮียเกาจะขยับปากกระบอกปืนสู่เป้าที่ย้ายออกไปใหม่ ตี๋ใหญ่ก็ลั่นไกใส่เฮียเกาหนึ่งนัด จนเขาต้องก้มหัวหลบเข้าไปใต้โต๊ะทำงาน ในขณะที่ชายฉกรรจ์ตัวใหญ่ก็เบียดตัวแน่นรอจังหวะอยู่เช่นเดิม
ในเพียงเสี้ยววินาทีนั้นตี๋ใหญ่รีบสะบัดปลายกระบอกปืนไปยังกระจกหน้าต่างบานใหญ่ เสียงปืนลั่นดังเปรี้ยง แทบจะพร้อมกับเสียงกระจกที่แตกกระจาย ตี๋ใหญ่ก็พุ่งตัวปราดออกไปนอกหน้าต่าง ชายฉกรรจ์ร่างยักษ์ที่รอดอยู่รีบกระโดดตาม แต่ไม่ทันกับร่างสูงโปร่งของตี๋ใหญ่ที่ลอยละลิ่วไปสู่พื้นเบื้องล่าง
นับเป็นความชาญฉลาดของตี๋ใหญ่หรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นนิสัยของนักฆ่าเมืองเขมร ก่อนที่เขาจะเข้ามาอยู่ในเซฟเฮ้าส์สองชั้นครึ่งของเฮียเกา เขาได้ลอบสำรวจชัยภูมิรอบๆ อาคารไว้หมดแล้ว เขาไม่รู้หรอกว่านิสัยของเขากลับมาเป็นประโยชน์ยิ่งในวันนี้ ความร้อนของดวงอาทิตย์ในยามบ่ายทำให้สถาปนิกผู้ออกแบบได้ปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้บังแสงและรังสีที่รุนแรง ต้นไม้ต้นนั้นได้กลายมาเป็นเป้าหมายของการพุ่งตัวของตี๋ใหญ่ มันคงไม่มีอะไรจะเจ็บมากไปกว่ารอยกระสุนปืนและด้ามมีดที่ปักอยู่บนไหล่ของเขาในเวลานี้อีกแล้ว ยกเว้นความตาย แต่เขาก็ยังไม่อยากตาย โดยเฉพาะกับน้ำมือของคนที่เขาจงรักภักดีตลอดมาอย่างเฮียเกา
การเลือกว่าจะตายโดยการพุ่งพลาดเป้ากับการยอมตายบนห้องด้วยคมกระสุน เขาเลือกตายด้วยการประเมินผิดพลาดของตัวเองมากกว่า สวรรค์ยังคงเข้าข้าง ร่างของเขาละลิ่วลงมาบนยอดไม้ สายตาที่ปราดเปรียวกับสติที่มั่นคงผสมกับมือที่ชำนาญว่องไว ทำให้เขาคว้าจับกิ่งไม้ขนาดย่อมๆ ไว้ได้ แต่อาการบาดเจ็บทำให้การยึดจับไม่มั่นคงพอ มือขวาที่กระหวัดเกี่ยวจึงทำได้แค่เพียงชะลอความเร็วและแรงของการตกจากที่สูงเท่านั้น
ร่างของเขาร่วงพลักลงไปยังพื้นดิน แม้จะเจ็บร้าวไปทั่วสรรพางค์กาย แต่ยังไม่มีกระดูกส่วนไหนแตกหัก ไม่มีเวลาเหลือสำหรับการนอนพักเพื่อให้หายเจ็บ เขารีบยันตัวขึ้น พุ่งไปยังกำแพงบ้าน ในขณะที่เสียงกระสุนดังไล่ตามมาเบื้องหลัง พื้นดินกระจายด้วยแรงปะทะของลูกตะกั่ว
กล้ามเนื้อขาของเขายังใช้การได้ดี มือขวาเขาคว้าไปบนขอบกำแพง ในขณะที่ปลายขาก็เตะเข้าที่ผนังแล้วส่งตัวเขาให้ข้ามพ้นออกไปนอกกำแพง
เฮียเกายืนหน้าเครียด มองพยัคฆ์เจ็บกระโดดข้ามขอบกำแพงออกไปทางเบื้องนอก ในมือเขากำปืนแน่น สุดท้ายหันมาตวาดใส่ลูกสมุนร่างยักษ์
เอาซากไอ้เอ้ไปจัดการ อย่าให้ใครสงสัย อ้ายสารเลวเอ้ย บัดซบจริง
ขออนุญาต ดร.โหน่ง แถมอีกตอนนะครับ...... แบบจินตนาการมันบรรเจิด ระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่องน่ะครับ
..........................
อ้ายเวร....เอ้ย!
เสียงผรุสวาทดังออกมาจากปากเฮียเกา นัยน์ตาของเขาแดงก่ำเต็มไปด้วยเพลิงโทสะ
กูทำชอร์ตไว้ตั้งหลายตั๋ว ดันเสือกตกวูบเดียวจบ รู้งี้ปิดสัญญาไปตั้งกะวันก่อนก็ดีอยู่แล้ว เขาบ่นอุบอิบ พร้อมกับเอื้อมมือไปกระแทกปุ่มปิดจอคอมพิวเตอร์ที่หน้าโต๊ะ ในขณะที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
อาโหล ... เฮียเกากระแทกเสียงลงไปในโทรศัพท์
............. เสียงตามสายดังอู้ๆ อี้ๆ ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง แต่พอจับใจความได้ เพลิงโมโหก็เคลือบไปทั่วใบหน้าของเขา กล้ามเนื้อข้างริมฝีปากเกร็งแน่นจากการขบอย่างดุดันของกรามที่อยู่ภายในจนเห็นเป็นรอยนูนออกมาข้างสองแก้ม
หลังจากวางสายจนโทรศัพท์แทบจะพังไปกับแท่นวางหู เขากดอินเตอร์คอมข้างโต๊ะแล้วเน้นเสียงหนักห้วนเครียดๆ ลงไปว่า
ตามไอ้ตี๋ใหญ่ เข้ามานี่ซิ เร็วๆ ด้วย
ชายหนุ่มวัย 30 ปลายๆ เหมือนจะกลายเป็นวัยกลางคน 50 ต้นๆ ขึ้นมาทันที นิ้วมือทั้งสิบของเขาประสานกันแน่นเป็นสามเหลี่ยมยันไว้ที่ริมฝีปากล่าง ในขณะที่กรามยังคงถูกขบไว้แน่น ตาจ้องเขม็งไปยังประตูเหมือนพยัคฆ์คอยจ้องขย้ำเหยื่อ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ แล้วถูกเปิดออก ร่างสูงโปร่งของชายในชุดพรางสวมแว่นเรย์แบนสีดำสนิทอยู่บนใบหน้าก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ยังไม่ทันที่ตี๋ใหญ่จะเอ่ยปากทักทาย เฮียเกาก็ตบโต๊ะเสียงดัง สองมือดันร่างท้วมล่ำทะลึ่งพรวดขึ้นจากเก้าอี้หนังขนาดใหญ่ ตี๋ใหญ่ผงะกึก เขาใจเต้นระทึกขึ้นมาทันที
อ้าย....สั...ว์ ไหนมึงบอกมั่นใจมากไง เด็กกูที่เยาวราชรายงานมาเมื่อกี้ว่าเห็นอ้ายโตกับอ้ายเหลาขับรถออกไปด้วยกัน ถามจริงๆ ไอ้คนที่ถูกมึงเชือดไปทำไมมันยังโผล่ออกมาได้อีกวะ
เฮ้ย! เด็กเฮียเกามองผิดหรือปล่าว น้ำเสียงของตี๋ใหญ่สั่นระรัว หากหูของเฮียเกามีความละเอียดพอก็คงได้ยินเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจตี๋ใหญ่ที่เริ่มรุนแรงมากขึ้นจนผิดปกติ
พอกันที ตี๋ใหญ่ แกหมดประโยชน์แล้ว
ไม่ทันขาดคำ ตี๋ใหญ่ก็ได้ยินเสียงคลิ๊กเบาๆ จากใต้โต๊ะทำงานตัวใหญ่หน้าเฮียเกา และยังไม่ทันที่เขาจะคิดอะไรสัญชาติญาณของนักฆ่าที่สองมือเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดก็กระชากร่างของเขากลิ้งหลบไปที่ข้างโซฟาข้างมุมห้อง แว่นเรย์แบนด์กระเด็นออกจากใบหน้าไปอีกทางหนึ่ง
ปั๊ก!.... บรึ๋งงง เสียงวัตถุกระแทกแน่นไปบนประตูไม้อย่างรวดเร็ว แรงส่งจากการยิงด้วยเครื่องมือพิเศษ ทำให้ปลายด้ามมีดสั่นระริกส่งเสียงดังอยู่ หากไม่ใช่ตี๋ใหญ่มีสัญชาติญาณระแวงภัยที่ดีพอตัว ป่านนี้กระเดือกใต้คางของเขาคงเป็นเป้าหมายหลักของมีดเล่นนั้นไปแล้ว
ตี๋ใหญ่ร้องเสียงหลง เฮียเกา ใจเย็นก่อนครับ ให้โอกาสผมอธิบายก่อน
ไม่มีอะไรต้องอธิบาย ในเมื่องานของแกพลาดไปแล้ว เฮียเกาแสยะยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม
นักฆ่าร่างสูงรู้สึกเหมือนมีความหนาวยะเยือกแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เขามีทางเลือกเพียงยอมตายอยู่ตรงนี้ หรือหนี แต่ถ้าจะหนีโอกาสรอดดูจะมีน้อยอย่างยิ่ง สายตาของเขากวาดมองไปรอบห้องอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เฮียเกากดปุ่มลับที่ข้างโต๊ะ สมองอันช่ำชองต่อการเผชิญภัยของตี๋ใหญ่เริ่มประมวลผล แม้เขาจะเป็นเพียงมือปืนไร้ชื่อเสียง แต่สิ่งที่เฮียเกาไม่เคยรู้มาก่อนเลย ก็คือเขาเป็นลูกชายโทนของนายทหารเก่าฝ่ายเขมรแดงปฏิวัติที่ช่ำชองและเชี่ยวชาญในการรบในสมรภูมิเลือดที่ยืดเยื้อมากว่า 20 ปี
ประตูห้องเปิดออกในเวลาไม่ถึงเสี้ยววินาที ชายฉกรรจ์ร่างยักษ์สองนายก้าวเข้ามา และเหมือนกับจะรู้หน้าที่ ร่างบึกบึนในชุดรัดกุมพุ่งปราดชาร์จเข้าหาตี๋ใหญ่ เขาเบี่ยงตัวหลบไปข้างตู้เอกสารที่ผนังห้อง เมื่อลุกขึ้นมาอีกทีในมือของเขาก็เพิ่มประสิทธภาพด้วยลูกโม่ทรงโบราณ
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เสียงมฤตยูดังจากปลายปากกระบอกปืนตี๋ใหญ่ ในขณะที่อีกเสียงดังมาจากปลายกระบอกปืนของเฮียเกา
เศษเสื้อสีดำกระจายขาดวิ่น พลังของกระสุนจากปืนตี๋ใหญ่ทำได้แค่เพียงหยุดชายร่างยักษ์ให้ชะงักลงเพียงครู่เดียวเท่านั้น รอยโหว่ที่เกิดขึ้นใหม่เปิดให้เห็นถึงแผงเหล็กอ่อนที่เป็นเกราะป้องกันอยู่ภายใน ตี๋ใหญ่ใจหายวาบ เขาพลาดที่ไม่ยิงให้ตรงกลางแสกหน้า แต่ก็เป็นเคราะห์ดีที่เขาเผื่อจังหวะพลาดเอาไว้ก่อนทำให้เขากระชากร่างเพื่อหลบการจู่โจมด้วยอีกทางหนึ่ง มันเป็นจังหวะเดียวกับคมกระสุนของเฮียเกาที่พุ่งเฉี่ยวเข้าข้างใบหูขวาของเขาพอดี เม็ดเลือดกระจายออกมาจากแผลพุ่งไปตามแรงของหัวตะกั่วก่อนจะตกลงบนพื้นห้อง
ปุ้ง! ผนังตู้เอกสารใบเขื่องทะลุเป็นรูตามแรงยิง กระสุนนัดแรกจากปากกระบอกปืนทั้งคู่ดูเหมือนจะพลาดเป้า ตี๋ใหญ่เริ่มตกอยู่ในภาวะคับขัน ชายฉกรรจ์ร่างบึกอีกคนคว้ามีดที่ปักอยู่บนประตูขว้างเข้าใส่ตี๋ใหญ๋
ความเร็วและความรุนแรงแม้จะเป็นรองกว่าเครื่องยิงพิเศษ แต่ความแม่นกลับเหนือกว่ามาก ปลายมีดปักฉึกจมลึกเข้าไปในใหล่ซ้ายของนักฆ่าเมืองเขมร เขากลิ้งตัวเข้าไปหลังตู้เอกสารใช้มันเป็นเครื่องกำบังชั่วคราว สีหน้าของตี๋ใหญ่ในยามนี้บิดเบี้ยวเหยเกในขณะที่มือกำด้ามปืนไว้แน่น
เฮียเกา ทำไมต้องเอาชีวิตผมด้วย ไม่ให้โอกาสผมแก้ตัวเลยหรือ
แกหมดโอกาสไปแล้วตี๋ใหญ่ ตอนนี้ตำรวจสืบรู้แล้วว่าแกเป็นฆาตกร เขาตามกลิ่นแกตั้งแต่ตอนที่หลบมาจากปันนังสะตา อ้าย ...สารเลวเอ้ย! ความสบายทำให้แกประมาทจนลืมไปว่าตำรวจกำลังล่าตัวแกเรอะ
เฮียปล่อยผมไปเถอะ ผมจะหนีไปชายแดนเขมรข้ามไปผั่งโน้น แล้วถ้ามีโอกาสผมค่อยตอบแทนบุญคุณเฮียอีก ตี๋ใหญ่เสียงสั่นอ้อนวอน
ชายฉกรรจ์ร่างยักษ์ ทั้งคู่ค่อยๆ คืบเข้าหาตี๋ใหญ่ทีละนิดอย่างระมัดระวัง อย่างน้อยทั้งคู่ก็ยังเกรงใจทูตมรณะในมือของตี๋ใหญ่อยู่บ้าง
เฮียเกานี่งคิด หากปล่อยเวลาให้นานออกไปคงไม่เป็นการดีต่อเขาแน่นอน เขาย่อตัวลงใช้โต๊ะทำงานเป็นเครื่องกำบังกระสุนปืนที่ตี๋ใหญ่อาจจะพุ่งใส่เขาเมื่อไรก็ได้ แล้วชี้นิ้วไปที่ตู้เอกสาร ชายฉกรรจ์ร่างบึกคนที่ขว้างมีดมองตามก็รู้ทันทีว่าเจ้านายต้องการให้เขาทำอะไร
ตู้เอกสารที่เรียงกันอยู่สามใบถูกผลักให้ล้มลงด้วยพลังดุจช้างสาร ตี๋ใหญ่ขบกรามแน่น นึกในใจว่าถ้าไม่เสี่ยงก็คงตายอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน สามปีในเบตงไม่ได้ทำให้เขาสูญเปล่า ร่างของเขาพุ่งปราดออกจากซอกตู้ก่อนที่มันจะล้มลงมาทับเขา
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! เสียงกระสุนแผดดังก้องเกือบพร้อมๆ กัน ชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ที่พุ่งเข้าหา ผงะหน้าหงายเผยให้เห็นรูกระสุนรอยใหญ่ที่กระแทกเข้ากลางหน้าผากอย่างเด่นชัด เลือดสีคล้ำสาดกระจายเต็มใบหน้า ส่วนอีกคนหนึ่งเบี่ยงตัวหลบเข้าข้างกองตู้เอกสารรอดพ้นคมกระสุนอย่างหวุดหวิด ในขณะที่ ตี๋ใหญ่ทรุดฮวบอยู่บนพื้น เสื้อลายพรางของเขามีรอยเลือดซึมออกมาไม่หยุดจากข้างลำตัว เขากดแผลจากรอยกระสุนของเฮียเกาด้วยมือซ้ายด้วยแรงที่เหลือจากปลายมีดบนหัวไหล่ มันก็แน่นพอเท่าที่มันจะทำได้ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้เลือดหยุดทะลักออกจากชายโครง
เฮียเกาสะบัดปืนในมือเล็งไปที่ตี๋ใหญ่ แต่ตัวเขาก็ยังไม่ได้ก้าวออกมาพ้นจากโต๊ะทำงาน เขาหัวเราะเบาๆ อย่างเหี้ยมเกรียม
ก็นับว่าไม่เลวสำหรับมือระดับแก แลกกับมือดีของกูไปได้คนหนึ่ง แต่ตอนนี้แกไปรายงานตัวในนรกได้แล้ว อ้ายสั..ว์ เอ้ย
ขาดคำกระสุนก็พุ่งออกจากปากกระบอกปืนอย่างรวดเร็ว
เปรี้ยง!
ตี๋ใหญ่ผงะ กลิ้งตัวหลบไปข้างหน้าต่างกระจก ด้วยความเจนสนามมากกว่าเฮียเกา เขารู้ดีว่าเป้าหมายของปลายกระสุนปืนในวิถียิงที่แคบๆ จะอยู่ที่ใดบนร่างของเขาบ้าง แน่นอนว่า แม้เฮียเกาจะเป็นนักแม่นปืน แต่ก็เป็นเพียงการยิงเข้าเป้านิ่งเท่านั้น แถมในขณะนี้ยังเบียดตัวหลบอยู่กับโต๊ะทำงานอีกด้วย กระสุนจึงไม่อาจทำอะไรเพิ่มเติมให้กับพยัคฆ์บาดเจ็บตัวเขื่องอย่างตี๋ใหญ่ได้
ความเจ็บปวดที่เพิ่มทวีขึ้นทำให้ตี๋ใหญ่ต้องดึงพลังแฝงที่อยู่ภายในตัวออกมาใช้อย่างเต็มที่ ยังไม่ทันที่เฮียเกาจะขยับปากกระบอกปืนสู่เป้าที่ย้ายออกไปใหม่ ตี๋ใหญ่ก็ลั่นไกใส่เฮียเกาหนึ่งนัด จนเขาต้องก้มหัวหลบเข้าไปใต้โต๊ะทำงาน ในขณะที่ชายฉกรรจ์ตัวใหญ่ก็เบียดตัวแน่นรอจังหวะอยู่เช่นเดิม
ในเพียงเสี้ยววินาทีนั้นตี๋ใหญ่รีบสะบัดปลายกระบอกปืนไปยังกระจกหน้าต่างบานใหญ่ เสียงปืนลั่นดังเปรี้ยง แทบจะพร้อมกับเสียงกระจกที่แตกกระจาย ตี๋ใหญ่ก็พุ่งตัวปราดออกไปนอกหน้าต่าง ชายฉกรรจ์ร่างยักษ์ที่รอดอยู่รีบกระโดดตาม แต่ไม่ทันกับร่างสูงโปร่งของตี๋ใหญ่ที่ลอยละลิ่วไปสู่พื้นเบื้องล่าง
นับเป็นความชาญฉลาดของตี๋ใหญ่หรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นนิสัยของนักฆ่าเมืองเขมร ก่อนที่เขาจะเข้ามาอยู่ในเซฟเฮ้าส์สองชั้นครึ่งของเฮียเกา เขาได้ลอบสำรวจชัยภูมิรอบๆ อาคารไว้หมดแล้ว เขาไม่รู้หรอกว่านิสัยของเขากลับมาเป็นประโยชน์ยิ่งในวันนี้ ความร้อนของดวงอาทิตย์ในยามบ่ายทำให้สถาปนิกผู้ออกแบบได้ปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้บังแสงและรังสีที่รุนแรง ต้นไม้ต้นนั้นได้กลายมาเป็นเป้าหมายของการพุ่งตัวของตี๋ใหญ่ มันคงไม่มีอะไรจะเจ็บมากไปกว่ารอยกระสุนปืนและด้ามมีดที่ปักอยู่บนไหล่ของเขาในเวลานี้อีกแล้ว ยกเว้นความตาย แต่เขาก็ยังไม่อยากตาย โดยเฉพาะกับน้ำมือของคนที่เขาจงรักภักดีตลอดมาอย่างเฮียเกา
การเลือกว่าจะตายโดยการพุ่งพลาดเป้ากับการยอมตายบนห้องด้วยคมกระสุน เขาเลือกตายด้วยการประเมินผิดพลาดของตัวเองมากกว่า สวรรค์ยังคงเข้าข้าง ร่างของเขาละลิ่วลงมาบนยอดไม้ สายตาที่ปราดเปรียวกับสติที่มั่นคงผสมกับมือที่ชำนาญว่องไว ทำให้เขาคว้าจับกิ่งไม้ขนาดย่อมๆ ไว้ได้ แต่อาการบาดเจ็บทำให้การยึดจับไม่มั่นคงพอ มือขวาที่กระหวัดเกี่ยวจึงทำได้แค่เพียงชะลอความเร็วและแรงของการตกจากที่สูงเท่านั้น
ร่างของเขาร่วงพลักลงไปยังพื้นดิน แม้จะเจ็บร้าวไปทั่วสรรพางค์กาย แต่ยังไม่มีกระดูกส่วนไหนแตกหัก ไม่มีเวลาเหลือสำหรับการนอนพักเพื่อให้หายเจ็บ เขารีบยันตัวขึ้น พุ่งไปยังกำแพงบ้าน ในขณะที่เสียงกระสุนดังไล่ตามมาเบื้องหลัง พื้นดินกระจายด้วยแรงปะทะของลูกตะกั่ว
กล้ามเนื้อขาของเขายังใช้การได้ดี มือขวาเขาคว้าไปบนขอบกำแพง ในขณะที่ปลายขาก็เตะเข้าที่ผนังแล้วส่งตัวเขาให้ข้ามพ้นออกไปนอกกำแพง
เฮียเกายืนหน้าเครียด มองพยัคฆ์เจ็บกระโดดข้ามขอบกำแพงออกไปทางเบื้องนอก ในมือเขากำปืนแน่น สุดท้ายหันมาตวาดใส่ลูกสมุนร่างยักษ์
เอาซากไอ้เอ้ไปจัดการ อย่าให้ใครสงสัย อ้ายสารเลวเอ้ย บัดซบจริง
- Raphin Phraiwal
- Verified User
- โพสต์: 1342
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 43
อ่านแล้วเหมือนถูกมนต์สะกดครับ :lol:
รักในหลวงครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 34
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 44
ถ้างั้น เป็นโอกาสเหมาะ :lol:
ผมขอแปะต่ออีกนิดเลยแล้วกัน.............. เอิ๊กๆๆ
.................
.
ลมเย็นที่พัดผ่านท้องน้ำเจ้าพระยา พาให้บรรยากาศในแพเล็กๆ ที่ปิดกั้นมิดชิด แต่ไม่ทึบ แถมกลับดูโปร่งโล่ง ไม่ร้อนอบอ้าวอย่างที่คาด ม่ายตังเหลานอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงเล็กๆ ในชุดกางเกงแพรยาว ในขณะที่สาวน้อยหน้าแฉล้มนางหนึ่งกำลังบรรจงดัดแข้งดัดขาของเขาตามลีลาการนวดที่ดูไปไม่เหมือนทั้งแบบนวดแผนไทยราชสำนัก และก็ไม่ใช่แบบเชลยศักดิ์ เพราะบางครั้งก็ดูเหมือนจะมีการกดจุดเส้น รวมถึงยังมีการประคบด้วยก้อนหินที่ต้มอยู่ในหม้อข้างเตียงอีกด้วย
หมอนวดสาวเลิกผ้าห่มที่คลุมท่อนบนของม่ายตังเหลาขึ้นเพื่อวางหินร้อนลงประคบบนหลัง พลันเธอก็ชะงักอยู่ชั่วขณะเมื่อเห็นรอยแผลเป็นนูนแดงกระจายอยู่เต็มไปทั่วแผ่นหลัง ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบรอยแผลเหล่านั้นเบาๆ
ใช้ก้อนหินประคบได้หรือป่าวคะ
เจ้าของแผลเป็นหัวเราะขึ้นเบาๆ ก่อนจะเอ่ยว่า ไม่เป็นปัญหา เพียงแค่นั้นแล้วเขาก็นิ่งเงียบเช่นเดิม
อีกฟากหนึ่งของแพ เอี่ยมโตก็อยู่ในชุดลักษณะเดียวกันกับม่ายตังเหลา ผิดกันแต่ว่าสาวเจ้าคนที่เป็นผู้นวดก็คือน้อยหน่า อนงค์นางที่ช่างฉอเลาะคนนั้น เสียงสัพยอกหัวร่อต่อกระซิกระหว่างเธอกับเอี่ยมโตดังขึ้นเป็นระยะๆ ผิดกับม่ายตังเหลาที่นอนนิ่งเหมือนผ่อนคลายสบายไปกับการนวด
แพกระเพื่อมขึ้นลงเล็กน้อยยามที่เรือวิ่งฝ่าท้องน้ำ ประตูแพเปิดออกพร้อมกับชายสามคนก้าวตามกันเข้ามา ทั้งหมดสวมแว่นตากันแดดสีดำ มีใบหน้าเคร่งขรึม และสวมชุดสูทดำดูเรียบร้อยทุกคน มองไปเหมือนเป็นเหล่านักฆ่าที่หลุดออกมาจากหนังเรื่องเมทริกซ์ปานนั้น
ชายคนสุดท้ายแบกเก้าอี้นวมตัวใหญ่เข้ามาด้วย แล้วเอามาตั้งไว้ที่กลางห้อง ม่ายตังเหลาลืมตาขึ้น แววตาไม่มีประกายของความงัวเงีย ในขณะที่เอี่ยมโตผลุดลุกขึ้นยืนแล้วหัวเราะทักทายผู้มาเยือน
สวัสดียามเย็น ท่านผู้พิทักษ์ทั้งสาม
มนุษย์หน้าตายทั้งสามเพียงยิ้มแล้วก้มหัวให้เอี่ยมโตเล็กน้อย หากใครที่เคยได้เห็นต้องบอกว่ากิริยานี้นับว่ามากพอแล้วสำหรับบุคคลทั้งที่จะแสดงความสนิทสนมด้วยกับใครคนหนึ่ง
ทักแต่ผู้พิทักษ์ ไม่ทักฉันบ้างรึ เอี่ยมโต เสียงบ่งบองถึงความชราภาพของวัย ดังออกจากปากของชายในชุดสูทสีขาวที่เพิ่งเดินตามเข้ามาทีหลัง แต่หากจะประเมินจากใบหน้าแล้ว จะมีอายุไม่เกิน 50 ปีไปได้
ต้องทักซิครับ ท่านประธาน เอี่ยมโตกล่าวอย่างนอบน้อมในขณะที่ชายในชุดสูทขาวค่อยๆ เดินมานั่งที่เก้าอี้ ม่ายตังเหลารีบผุดลุกขึ้นก่อนจะทำความเคารพต่อผู้ที่นั่งอยู่กลางห้อง
สวัสดีพ่อหนุ่ม ฉันได้ยินกิติศัพท์เธอมานาน วันนี้ได้เห็นตัวจริงของ เซียนเต๋าเทวดา ม่ายตังเหลา นับว่าไม่แพ้คำเล่าลือจริงๆ
รอยยิ้มที่เปี่ยมไมตรีของผู้พูด ทำให้ม่ายตังเหลารู้สึกผ่อนคลาย แม้ในขณะนี้ในใจของเขาเต็มไปด้วยความสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูก
ตั่งแต่เอี่ยมโตพาเขาเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ ความโกลาหลที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงสายดูเหมือนจะจางหายไปทันทีเหมือนกับว่าพวกเขาได้ถูกตัดขาดออกจากโลกภายนอกไปอย่างสิ้นเชิง จวบจนถึงเวลานี้ม่ายตังเหลาจึงเริ่มหวนนึกถึงเหตุการณ์ทั้งหมดขึ้นมาอีกครั้ง
เอี่ยมโตคงยังไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังซินะ ฉันสั่งห้ามไว้เองแหละ
ชายผู้มีใบหน้าในวัยห้าสิบ แต่สุ้มเสียงชราภาพกล่าวอย่างเนิบๆ กับม่ายตังเหลา เขาได้แต่พยักหน้าซื่อๆ รับ แม้ผู้พิทักษ์ทั้งสามจะจ้องเขม็งมายังเขา แต่ด้วยความโชกโชนที่ไม่น้อยดังเช่นอายุ ทำให้ภายนอกไม่เพียงจะดูเฉยเท่านั้น แต่ภายในก็ยังมั่นคงยิ่งกว่าอีกด้วย มันเป็นสภาวะจิตแห่งความพร้อมของ มืออาชีพ ที่สามารถจะนิ่งอยู่ได้ในทุกสถานการณ์ที่ต้องนิ่ง แต่ก็พร้อมจะตอบโต้ในทุกสถานการณ์ที่ควรจะตอบโต้ สมญา เต๋าเทวดา ของเขาไม่ได้แลกมาด้วยการใช้เพียงแค่โชคเท่านั้น ท่านประธานจึงหยีตาดูม่ายตังเหลาด้วยความแววตาที่แสดงความชื่นชม
ก่อนอื่นฉันต้องบอกเธอก่อนว่า ฉันเป็นใคร
ผู้มีสุ้มเสียงชราแต่ใบหน้ายังหนุ่มยืดอกขึ้นเล็กน้อย เล้วเอ่ยขึ้นว่า
ฉันคือประธานสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า วเรน เบิกไพรหาเทวี
เป็นชื่อที่ม่ายตังเหลาเดาไว้แล้วตั้งแต่ต้น เขาจึงเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก พร้อมกับค้อมหัวลงต่ำแสดงความเคารพอีกครั้งหนึ่ง
ที่ฉันให้เอี่ยมโตพาเธอมาที่นี่ ก็เพื่อจะปรึกษาเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งและมันเกี่ยวพันกับอนาคตของเธอ
น้ำเสียงของผู้เฒ่าเริ่มจริงจังและมีความเย็นยะเยียบเจืออยู่พอสมควร ม่ายตังเหลาเริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้น กล้ามเนื้อทุกส่วนของเขาสั่นระริกเล็กน้อยเพื่อเตรียมพร้อม ในขณะที่แววตาก็จ้องตรงไปยังริมฝีปากของผู้พูด เป็นการเลี่ยงประสานสายตาโดยตรงอย่างท้าทายกับผู้พูด เขาเพียงแสดงความจริงใจตามมารยาทของผู้มีวัยต่ำกว่าที่ยังทะนงว่าตนหาได้ด้อยกว่าไม่
สามผู้พิทักษ์ยังยืนนิ่งเหมือนรูปปั้นอยู่เบื้องหลังท่านผู้เฒ่าประธานสมาคม ในขณะที่เอี่ยมโตเรื่มรู้สึกถึงบรรยากาศที่ตึงเครียดขึ้น เขายกมือขึ้นโบกไล่สาวน้อยหน่าให้พาเพื่อนอีกคนออกไปจากห้อง ใบหน้าของเอี่ยมโตในยามนี้กลับมาเป็นเคร่งขรึมจริงจังอีกครั้ง
เกาจิ้ง ... ผู้พูดหมายถึงเฮียเกา ... มันจะไม่ยอมปล่อยเธอต่อไปอีกแล้ว เมื่อสามปีก่อนตอนที่เกิดเรื่อง มันเงียบไปพักหนึ่งด้วยความเข้าใจผิด แต่หลังจากได้ข่าวของเธอที่บ่อนในปอยเปต มันก็หวนกลับมาตามล่าเธออีกครั้ง ถึงแม้คราวนี้มันจะพลาดอีกเช่นกัน แต่เรื่องมันก็คงไม่จบ
ม่ายตังเหลาขบฟันเม้มปากแน่น ผู้เฒ่าเงียบไปชั่วขณะ ต่างดูเหมือนกำลังชั่งใจหยั่งเชิงซึ่งกันและกัน ในที่สุดท่านประธานก็กล่าวต่อว่า
ฉันรู้ดี ว่ามันต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ตั้งแต่ตัดสินใจยอมให้เอี่ยมโตหาคนไปช่วยเธอออกจากปอยเปตเมื่อสามปีก่อน
ม่ายตังเหลายังยืนนิ่งอยู่ แต่ใจเขานึกไปถึงเหตุการณ์ในบ่อนที่ปอยเปต ...
ขณะนั้นตัวเขาเป็นเพียงคนพเนจรที่ลี้ภัยออกมาจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยความรันทดที่ไม่ต้องการเห็นการห่ำหั่นอย่างไร้เหตุผลของคนในชาติเดียวกันเพียงเพราะแรงลมเป่าหูจากคนที่ต้องการเพียงแสวงผลประโยชน์ใส่ตัว เขาทิ้งถิ่นคุ้นเคยออกมาอย่างไม่เหลียวหลัง และไม่คิดจะหวนกลับไปอีก เป้าหมายของเขาอยู่ที่คาสิโนในปอยเปต
โชคชะตาพาเขาให้มาพบกับเอี่ยมโตโดยบังเอิญ เมื่อห้าปีก่อน และจำได้ว่าเป็นเอี่ยมโตคนเดียวกับที่เขาเคยเจอในค่ายของ พกค. และยังคงเป็นเอี่ยมโตที่เขาเคยหาข้าวหาปลาให้กิน คอยเป็นเพื่อนพูดคุยช่วยผ่อนคลายในระยะแรกๆ เมื่อถูกจับตัวมาอยู่ในการกักกันของพวก พกค. พวกเขาพัฒนาความสัมพันธ์อันดีต่อกันจนกระทั่งวันที่เอี่ยมโตหนีหลุดรอดออกไปได้ จากนั้นทั้งคู่ก็ไม่เคยได้พบกันอีกเลย
เอี่ยมโตช่วยให้เขาเดินทางข้ามไปในปอยเปตได้ตามต้องการ และที่นั่นเขาได้แสดงฝีมือ เต๋าเทวดา ที่ได้ศึกษาและสะสมมาจากคาสิโนนับร้อยแห่งทั่วมาเลย์ มาเก๊า และสิงคโปร์ เพียงสองปี เขาได้ขึ้นแท่นเป็นผู้คุมสาขาคาสิโนแห่งหนึ่งของเฮียเกาจนกระทั่งไปล่วงรู้แผนการลับของเฮียเกาเข้า ส่วนหนึ่งของแผนมีผลต่อความปลอดภัยของเอี่ยมโตคนที่เขารู้จักดี
แผนการร้ายได้ถูกถ่ายทอดจากม่ายตังเหลาไปสู่เอี่ยมโตเพื่อให้เขาระวังตัว แต่โชคไม่เข้าข้าง เฮียเกาดันมารู้เรื่องเข้าในภายหลัง ชีวิตของม่ายตังเหลาจึงต้องถูกกำจัด.....
ตอนนั้น... เสียงของผู้เฒ่ากระชากม่ายตังเหลาออกจากภวังค์ ... เอี่ยมโตร้อนใจมากแต่ก็นับว่าทันเวลาพอดี แผนการร้ายของเกาจิ้งถูกยืนยันจากข่าวกรองหลายๆ ด้านของสมาชิกในสมาคมเรา จะว่าไปนับว่าเธอเข้ามารับเคราะห์แทนสายของเราในบ่อนนั้น เกาจิ้งมันจึงเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นคนของเราที่ไปเปิดเผยแผนทำให้มันไม่บรรลุผลสำเร็จ มันจึงแค้นเธอมาก ผู้เฒ่าเล่าด้วยน้ำเสียงเนิบๆ
ม่ายตังเหลารู้เหตุการณ์ต่อจากนั้นเป็นอย่างดี เอี่ยมโตให้กองกำลังนอกสังกัดเข้าจู่โจมบ่อนคาสิโน แล้วช่วยเขาออกมาได้ทันเวลาพอดี แต่ก็ไม่เร็วพอกับทัณฑ์ทรมานที่เขาได้รับจากเกาจิ้ง ทำให้ใบหน้าและร่างกายของเขายับเยินไปด้วยรอยมีดสั้นนับไม่ถ้วน
แผลเป็นบนใบหน้าถูกศัลยกรรมออกไปจนหมดภายในหนึ่งปีพร้อมกับเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าเขาใหม่ เกาจิ้งใช้เวลาแกะรอยเขาอยู่นาน จนได้เบาะแส แต่ก็พลาดมาถึงสองครั้งสองครา ในขณะที่เอี่ยมโตก็ได้รับการคุ้มครองอย่างดีจากสมาคม แต่ทั้งคู่ในปัจจุบันก็ยังตกเป็นเป้าหมายการไล่ล่าอันดับหนึ่งของเกาจิ้ง
ท่านประธานสมาคมนั่งนิ่ง ปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุมไปทั่วห้อง ก่อนที่ม่ายตังเหลาจะเอ่ยปากทำลายความเงียบลงไปว่า
ตอนนี้ท่านต้องการให้ผมทำอย่างไรหรือ
ไม่ยาก เข้าช่วยงานของสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า ในฐานะสมาชิกคนหนึ่ง ทำได้ไหม
ม่ายตังเหลานิ่งเงียบ เขาชักไม่แน่ใจแล้วว่ากำลังจะหนีเสือเพื่อไปปะจระเข้เข้าหรือไม่ สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า เป็นสมาคมลับมีที่มาไม่ชัดเจน การตอบรับของเขาอาจจะเท่ากับถูกมัดมือลากเข้าไปอยู่ท่ามกลางสงครามย่อยๆ อีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในสามจังหวัดภาคใต้ แต่จะกลายเป็นใจกลางมหานครเลยทีเดียว
ผมขอแปะต่ออีกนิดเลยแล้วกัน.............. เอิ๊กๆๆ
.................
.
ลมเย็นที่พัดผ่านท้องน้ำเจ้าพระยา พาให้บรรยากาศในแพเล็กๆ ที่ปิดกั้นมิดชิด แต่ไม่ทึบ แถมกลับดูโปร่งโล่ง ไม่ร้อนอบอ้าวอย่างที่คาด ม่ายตังเหลานอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงเล็กๆ ในชุดกางเกงแพรยาว ในขณะที่สาวน้อยหน้าแฉล้มนางหนึ่งกำลังบรรจงดัดแข้งดัดขาของเขาตามลีลาการนวดที่ดูไปไม่เหมือนทั้งแบบนวดแผนไทยราชสำนัก และก็ไม่ใช่แบบเชลยศักดิ์ เพราะบางครั้งก็ดูเหมือนจะมีการกดจุดเส้น รวมถึงยังมีการประคบด้วยก้อนหินที่ต้มอยู่ในหม้อข้างเตียงอีกด้วย
หมอนวดสาวเลิกผ้าห่มที่คลุมท่อนบนของม่ายตังเหลาขึ้นเพื่อวางหินร้อนลงประคบบนหลัง พลันเธอก็ชะงักอยู่ชั่วขณะเมื่อเห็นรอยแผลเป็นนูนแดงกระจายอยู่เต็มไปทั่วแผ่นหลัง ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบรอยแผลเหล่านั้นเบาๆ
ใช้ก้อนหินประคบได้หรือป่าวคะ
เจ้าของแผลเป็นหัวเราะขึ้นเบาๆ ก่อนจะเอ่ยว่า ไม่เป็นปัญหา เพียงแค่นั้นแล้วเขาก็นิ่งเงียบเช่นเดิม
อีกฟากหนึ่งของแพ เอี่ยมโตก็อยู่ในชุดลักษณะเดียวกันกับม่ายตังเหลา ผิดกันแต่ว่าสาวเจ้าคนที่เป็นผู้นวดก็คือน้อยหน่า อนงค์นางที่ช่างฉอเลาะคนนั้น เสียงสัพยอกหัวร่อต่อกระซิกระหว่างเธอกับเอี่ยมโตดังขึ้นเป็นระยะๆ ผิดกับม่ายตังเหลาที่นอนนิ่งเหมือนผ่อนคลายสบายไปกับการนวด
แพกระเพื่อมขึ้นลงเล็กน้อยยามที่เรือวิ่งฝ่าท้องน้ำ ประตูแพเปิดออกพร้อมกับชายสามคนก้าวตามกันเข้ามา ทั้งหมดสวมแว่นตากันแดดสีดำ มีใบหน้าเคร่งขรึม และสวมชุดสูทดำดูเรียบร้อยทุกคน มองไปเหมือนเป็นเหล่านักฆ่าที่หลุดออกมาจากหนังเรื่องเมทริกซ์ปานนั้น
ชายคนสุดท้ายแบกเก้าอี้นวมตัวใหญ่เข้ามาด้วย แล้วเอามาตั้งไว้ที่กลางห้อง ม่ายตังเหลาลืมตาขึ้น แววตาไม่มีประกายของความงัวเงีย ในขณะที่เอี่ยมโตผลุดลุกขึ้นยืนแล้วหัวเราะทักทายผู้มาเยือน
สวัสดียามเย็น ท่านผู้พิทักษ์ทั้งสาม
มนุษย์หน้าตายทั้งสามเพียงยิ้มแล้วก้มหัวให้เอี่ยมโตเล็กน้อย หากใครที่เคยได้เห็นต้องบอกว่ากิริยานี้นับว่ามากพอแล้วสำหรับบุคคลทั้งที่จะแสดงความสนิทสนมด้วยกับใครคนหนึ่ง
ทักแต่ผู้พิทักษ์ ไม่ทักฉันบ้างรึ เอี่ยมโต เสียงบ่งบองถึงความชราภาพของวัย ดังออกจากปากของชายในชุดสูทสีขาวที่เพิ่งเดินตามเข้ามาทีหลัง แต่หากจะประเมินจากใบหน้าแล้ว จะมีอายุไม่เกิน 50 ปีไปได้
ต้องทักซิครับ ท่านประธาน เอี่ยมโตกล่าวอย่างนอบน้อมในขณะที่ชายในชุดสูทขาวค่อยๆ เดินมานั่งที่เก้าอี้ ม่ายตังเหลารีบผุดลุกขึ้นก่อนจะทำความเคารพต่อผู้ที่นั่งอยู่กลางห้อง
สวัสดีพ่อหนุ่ม ฉันได้ยินกิติศัพท์เธอมานาน วันนี้ได้เห็นตัวจริงของ เซียนเต๋าเทวดา ม่ายตังเหลา นับว่าไม่แพ้คำเล่าลือจริงๆ
รอยยิ้มที่เปี่ยมไมตรีของผู้พูด ทำให้ม่ายตังเหลารู้สึกผ่อนคลาย แม้ในขณะนี้ในใจของเขาเต็มไปด้วยความสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูก
ตั่งแต่เอี่ยมโตพาเขาเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ ความโกลาหลที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงสายดูเหมือนจะจางหายไปทันทีเหมือนกับว่าพวกเขาได้ถูกตัดขาดออกจากโลกภายนอกไปอย่างสิ้นเชิง จวบจนถึงเวลานี้ม่ายตังเหลาจึงเริ่มหวนนึกถึงเหตุการณ์ทั้งหมดขึ้นมาอีกครั้ง
เอี่ยมโตคงยังไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังซินะ ฉันสั่งห้ามไว้เองแหละ
ชายผู้มีใบหน้าในวัยห้าสิบ แต่สุ้มเสียงชราภาพกล่าวอย่างเนิบๆ กับม่ายตังเหลา เขาได้แต่พยักหน้าซื่อๆ รับ แม้ผู้พิทักษ์ทั้งสามจะจ้องเขม็งมายังเขา แต่ด้วยความโชกโชนที่ไม่น้อยดังเช่นอายุ ทำให้ภายนอกไม่เพียงจะดูเฉยเท่านั้น แต่ภายในก็ยังมั่นคงยิ่งกว่าอีกด้วย มันเป็นสภาวะจิตแห่งความพร้อมของ มืออาชีพ ที่สามารถจะนิ่งอยู่ได้ในทุกสถานการณ์ที่ต้องนิ่ง แต่ก็พร้อมจะตอบโต้ในทุกสถานการณ์ที่ควรจะตอบโต้ สมญา เต๋าเทวดา ของเขาไม่ได้แลกมาด้วยการใช้เพียงแค่โชคเท่านั้น ท่านประธานจึงหยีตาดูม่ายตังเหลาด้วยความแววตาที่แสดงความชื่นชม
ก่อนอื่นฉันต้องบอกเธอก่อนว่า ฉันเป็นใคร
ผู้มีสุ้มเสียงชราแต่ใบหน้ายังหนุ่มยืดอกขึ้นเล็กน้อย เล้วเอ่ยขึ้นว่า
ฉันคือประธานสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า วเรน เบิกไพรหาเทวี
เป็นชื่อที่ม่ายตังเหลาเดาไว้แล้วตั้งแต่ต้น เขาจึงเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก พร้อมกับค้อมหัวลงต่ำแสดงความเคารพอีกครั้งหนึ่ง
ที่ฉันให้เอี่ยมโตพาเธอมาที่นี่ ก็เพื่อจะปรึกษาเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งและมันเกี่ยวพันกับอนาคตของเธอ
น้ำเสียงของผู้เฒ่าเริ่มจริงจังและมีความเย็นยะเยียบเจืออยู่พอสมควร ม่ายตังเหลาเริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้น กล้ามเนื้อทุกส่วนของเขาสั่นระริกเล็กน้อยเพื่อเตรียมพร้อม ในขณะที่แววตาก็จ้องตรงไปยังริมฝีปากของผู้พูด เป็นการเลี่ยงประสานสายตาโดยตรงอย่างท้าทายกับผู้พูด เขาเพียงแสดงความจริงใจตามมารยาทของผู้มีวัยต่ำกว่าที่ยังทะนงว่าตนหาได้ด้อยกว่าไม่
สามผู้พิทักษ์ยังยืนนิ่งเหมือนรูปปั้นอยู่เบื้องหลังท่านผู้เฒ่าประธานสมาคม ในขณะที่เอี่ยมโตเรื่มรู้สึกถึงบรรยากาศที่ตึงเครียดขึ้น เขายกมือขึ้นโบกไล่สาวน้อยหน่าให้พาเพื่อนอีกคนออกไปจากห้อง ใบหน้าของเอี่ยมโตในยามนี้กลับมาเป็นเคร่งขรึมจริงจังอีกครั้ง
เกาจิ้ง ... ผู้พูดหมายถึงเฮียเกา ... มันจะไม่ยอมปล่อยเธอต่อไปอีกแล้ว เมื่อสามปีก่อนตอนที่เกิดเรื่อง มันเงียบไปพักหนึ่งด้วยความเข้าใจผิด แต่หลังจากได้ข่าวของเธอที่บ่อนในปอยเปต มันก็หวนกลับมาตามล่าเธออีกครั้ง ถึงแม้คราวนี้มันจะพลาดอีกเช่นกัน แต่เรื่องมันก็คงไม่จบ
ม่ายตังเหลาขบฟันเม้มปากแน่น ผู้เฒ่าเงียบไปชั่วขณะ ต่างดูเหมือนกำลังชั่งใจหยั่งเชิงซึ่งกันและกัน ในที่สุดท่านประธานก็กล่าวต่อว่า
ฉันรู้ดี ว่ามันต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ตั้งแต่ตัดสินใจยอมให้เอี่ยมโตหาคนไปช่วยเธอออกจากปอยเปตเมื่อสามปีก่อน
ม่ายตังเหลายังยืนนิ่งอยู่ แต่ใจเขานึกไปถึงเหตุการณ์ในบ่อนที่ปอยเปต ...
ขณะนั้นตัวเขาเป็นเพียงคนพเนจรที่ลี้ภัยออกมาจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยความรันทดที่ไม่ต้องการเห็นการห่ำหั่นอย่างไร้เหตุผลของคนในชาติเดียวกันเพียงเพราะแรงลมเป่าหูจากคนที่ต้องการเพียงแสวงผลประโยชน์ใส่ตัว เขาทิ้งถิ่นคุ้นเคยออกมาอย่างไม่เหลียวหลัง และไม่คิดจะหวนกลับไปอีก เป้าหมายของเขาอยู่ที่คาสิโนในปอยเปต
โชคชะตาพาเขาให้มาพบกับเอี่ยมโตโดยบังเอิญ เมื่อห้าปีก่อน และจำได้ว่าเป็นเอี่ยมโตคนเดียวกับที่เขาเคยเจอในค่ายของ พกค. และยังคงเป็นเอี่ยมโตที่เขาเคยหาข้าวหาปลาให้กิน คอยเป็นเพื่อนพูดคุยช่วยผ่อนคลายในระยะแรกๆ เมื่อถูกจับตัวมาอยู่ในการกักกันของพวก พกค. พวกเขาพัฒนาความสัมพันธ์อันดีต่อกันจนกระทั่งวันที่เอี่ยมโตหนีหลุดรอดออกไปได้ จากนั้นทั้งคู่ก็ไม่เคยได้พบกันอีกเลย
เอี่ยมโตช่วยให้เขาเดินทางข้ามไปในปอยเปตได้ตามต้องการ และที่นั่นเขาได้แสดงฝีมือ เต๋าเทวดา ที่ได้ศึกษาและสะสมมาจากคาสิโนนับร้อยแห่งทั่วมาเลย์ มาเก๊า และสิงคโปร์ เพียงสองปี เขาได้ขึ้นแท่นเป็นผู้คุมสาขาคาสิโนแห่งหนึ่งของเฮียเกาจนกระทั่งไปล่วงรู้แผนการลับของเฮียเกาเข้า ส่วนหนึ่งของแผนมีผลต่อความปลอดภัยของเอี่ยมโตคนที่เขารู้จักดี
แผนการร้ายได้ถูกถ่ายทอดจากม่ายตังเหลาไปสู่เอี่ยมโตเพื่อให้เขาระวังตัว แต่โชคไม่เข้าข้าง เฮียเกาดันมารู้เรื่องเข้าในภายหลัง ชีวิตของม่ายตังเหลาจึงต้องถูกกำจัด.....
ตอนนั้น... เสียงของผู้เฒ่ากระชากม่ายตังเหลาออกจากภวังค์ ... เอี่ยมโตร้อนใจมากแต่ก็นับว่าทันเวลาพอดี แผนการร้ายของเกาจิ้งถูกยืนยันจากข่าวกรองหลายๆ ด้านของสมาชิกในสมาคมเรา จะว่าไปนับว่าเธอเข้ามารับเคราะห์แทนสายของเราในบ่อนนั้น เกาจิ้งมันจึงเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นคนของเราที่ไปเปิดเผยแผนทำให้มันไม่บรรลุผลสำเร็จ มันจึงแค้นเธอมาก ผู้เฒ่าเล่าด้วยน้ำเสียงเนิบๆ
ม่ายตังเหลารู้เหตุการณ์ต่อจากนั้นเป็นอย่างดี เอี่ยมโตให้กองกำลังนอกสังกัดเข้าจู่โจมบ่อนคาสิโน แล้วช่วยเขาออกมาได้ทันเวลาพอดี แต่ก็ไม่เร็วพอกับทัณฑ์ทรมานที่เขาได้รับจากเกาจิ้ง ทำให้ใบหน้าและร่างกายของเขายับเยินไปด้วยรอยมีดสั้นนับไม่ถ้วน
แผลเป็นบนใบหน้าถูกศัลยกรรมออกไปจนหมดภายในหนึ่งปีพร้อมกับเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าเขาใหม่ เกาจิ้งใช้เวลาแกะรอยเขาอยู่นาน จนได้เบาะแส แต่ก็พลาดมาถึงสองครั้งสองครา ในขณะที่เอี่ยมโตก็ได้รับการคุ้มครองอย่างดีจากสมาคม แต่ทั้งคู่ในปัจจุบันก็ยังตกเป็นเป้าหมายการไล่ล่าอันดับหนึ่งของเกาจิ้ง
ท่านประธานสมาคมนั่งนิ่ง ปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุมไปทั่วห้อง ก่อนที่ม่ายตังเหลาจะเอ่ยปากทำลายความเงียบลงไปว่า
ตอนนี้ท่านต้องการให้ผมทำอย่างไรหรือ
ไม่ยาก เข้าช่วยงานของสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า ในฐานะสมาชิกคนหนึ่ง ทำได้ไหม
ม่ายตังเหลานิ่งเงียบ เขาชักไม่แน่ใจแล้วว่ากำลังจะหนีเสือเพื่อไปปะจระเข้เข้าหรือไม่ สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า เป็นสมาคมลับมีที่มาไม่ชัดเจน การตอบรับของเขาอาจจะเท่ากับถูกมัดมือลากเข้าไปอยู่ท่ามกลางสงครามย่อยๆ อีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในสามจังหวัดภาคใต้ แต่จะกลายเป็นใจกลางมหานครเลยทีเดียว
-
- Verified User
- โพสต์: 34
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 45
รถมอเตอร์ไซค์ซิ่งนับสิบคันทยอยเข้าไปในบ้านเดี่ยวสองชั้นครึ่งในซอยเปลี่ยวแถวถนนร่มเกล้า
คนขี่เป็นวัยรุ่นหน้าตาเข้ม แต่งตัวเหมือนวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างบ้าง เหมือนเด็กแนวบ้าง ทุกคันจะมีวัยรุ่นหน้ากร้าน ลักษณะเหมือนอันธพาลข้างสลัมซ้อนท้ายมาด้วย
เพียงไม่นานนัก รถซิ่งเหล่านั้นก็บึ่งออกจากบ้าน แยกย้ายกันไปคนละทาง และก็มีหลายคันที่วนเวียนอยู่รอบบ้านอย่างช้าๆ
แน่นอนที่สุดเป้าหมายของพวกนักเลงแรกรุ่นเหล่านี้ก็คือ ตี๋ใหญ่ สุนัขหลงทางของเฮียเกาที่บัดนี้กลายสภาพเป็น เสือลำบาก ไปแล้ว
เฮียเกานึกไม่ถึงว่า ตี๋ใหญ่ ที่ดูซื่อเซื่อง ชอบใช้แต่กำลัง ไม่มีสมอง จะกลายเป็นนักฆ่าที่มีลีลาการตัดสินใจเหมือนมืออาชีพไปได้ ลีลาการสู้เพื่อหนีของตี๋ใหญ่ในวันนี้ทำให้เขาต้องเสียวสันหลังวูบ และไม่อาจปล่อยให้ ตี๋ใหญ่ กลายมาเป็นปัญหาในภายหลังได้อีกต่อไป ทีมรถซิ่งทั้งหมดจึงได้รับเพียงคำสั่งให้จับตายตี๋ใหญ่เท่านั้น
............
สัญชาติญาณดิบของพยัคฆ์บาดเจ็บ... มักจะคมกริบ และดุร้ายเป็นพิเศษ ตี๋ใหญ่ ในเวลานี้จะตกอยู่ในสภาพเช่นนั้นหรือ
เขาซุ่มแอบดูรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับผ่านไปคันแล้วคันเล่าอย่างระมัดระวังโดยไม่มีใครคาดคิดว่า เสือลำบากอย่างเขาจะยอมวัดดวงโดยแทรกตัวเองลงไปซ่อนอยู่ในกระบะบรรจุขยะเหล็กสีเขียวที่วางอยู่ข้างทาง อย่างประเจิดประเจ้อ ห่างจากจากปากซอยเซฟเฮ้าของเสี่ยเกาเพียงไม่กี่ร้อยเมตร
อ่ะฮ้า ช่างเป็นแผนที่วิเศษ จริงๆ ซาร่า.... ตี๋ใหญ่อยากตะโกนออกมาเช่นนั้นจริงๆ เมื่อเห็นรถซิ่งที่ผ่านไปทั้งหมดไม่มีใครสนใจกระบะขยะใบใหญ่นี้เลย
แต่ภายในเวลาไม่นานนัก ความร้อนอบอ้าวภายในกระบะขยะ ทำให้สารพัดสิ่งถูกหมักจนได้ที่ แถมกระจายกลิ่นตลบอบอวลไปยวนยั่วประสาทสัมผัสของสารพัดมด และแมลง
กว่าจะรู้ว่าเขาพลาด มันก็กินเวลาเข้าไปร่วมชั่วโมง และกว่าจะรู้ตัวว่าเขาคิดผิดไปจริงๆ เขาก็เสียเลือดไปมาก จนไม่มีแรงพอที่จะพยุงตัวเองออกจากท้ายกระบะเหล็กบรรจุขยะใบนั้นได้
เขาพยายามผงกหัวขึ้น แล้วยกมือขึ้น แต่แล้วนัยน์ตาวาววับของเขาก็ดับมืดลง มือที่ยกก็พลันตกลงไปอยู่ที่ข้างตัว แม้สติสัมปชัญญะเขายังพอมีอยู่บ้างแต่ร่างกายกลับไม่สนองตอบให้กับความต้องการของเขาเสียแล้ว
ชีวิตของเสือลำบากเช่นเขาจะต้องจบชีวิตตรงนี้แล้วล่ะหรือ แม้เขาจะรำพึงรำพันในใจดังซักปานใด ใครเล่าจะมาได้ยิน แล้วใครกันเล่าที่จะมาตอบ
สติสุดท้ายวูบไหวก่อนจะดับวับไป
เขาให้สมเพชตัวเองอย่างยิ่ง ที่จะต้องมากลายเป็นซากปะปนอยู่กับเศษขยะในกระบะเหม็นๆ ข้างถนน คงสะใจชะตาหรือซาตานแล้วละซีทีนี้ เดนคน ขยะสังคม อย่างข้ากำลังจะถูกหมักรวมกับขยะกองโต ทุด! อ้ายตี๋ใหญ่ เอ๋ย! ช่างน่าทุเรศสิ้นดี
..
เบา เบา ถอยอีกหน่อยลูกพี่
เสียงตะโกนโหวกเหวก ของพนักงานขนขยะที่คอยบอกระยะกับคนขับรถบรรทุกให้ถอยท้ายจนได้ระยะแล้วจึงเอาโซ่เหล็กเส้นเขื่องข้างรถไปคล้องเกี่ยวกับขอบกระบะที่ตั้งอยู่
เอ้า เกี่ยวได้แล้ว ดึงขึ้น ดึงเลย
กระบะบรรจุขยะถูกดึงด้วยแรงไฮโดรลิคจนค่อยๆ เข้าที่ จากนั้นพนักงานขนขยะสองคนก็กระโดดขึ้นเกาะท้ายรถ
ไปเลยลูกพี่
รถบรรทุกขยะตั้งลำแล้วแล่นออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็วมุ่งหน้าไปยังสถานีกำจัดขยะ
เฮ้ย อ้ายสน มึงดูตรงไอ้ที่โผล่โด่เด่มาตรงนั้นซิ มันใช่มือคนหรือป่าวหวา อ้ายนกตบหลังเพื่อนอย่างแรงผิดปกติ จนอ้ายสนที่เกาะอยู่ข้างรถแทบจะตก
อ้าย ห่ะ .. มรึงจะฆ่ากูหรือ มือเมอที่ไหน อ้ายนี้เมาแต่เช้า.อ้าย...เอิ๊กก เฮ้ย พลันอ้ายสนก็เคาะกระบะจนเกิดเสียง ปุ้งๆๆ ดังลั่น
เฮ้ย จอด จอด จอดโว้ย คนตาย โว้ย คนตาย...
เสียงรถเบรกเอี๊ยดดังลั่นตรงกลางสี่แยกพอดี โชคดีที่เป็นเวลาดึก ไม่ค่อยมีรถมากนัก การเบรกครั้งนี้จึงมีผลแค่อ้ายนก กะอ้ายสนกระเด็นตกลงมา แต่จะว่าไปก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ทั้งคู่พร้อมใจกันปล่อยมือแล้วกระโดดลงมาเองตามจังหวะการเบรคด้วย เพียงแต่มันกะทันหันไปหน่อย ทั้งอ้ายนกและอ้ายสนเลยมีอันต้องจับกบแทนการขนขยะชั่วคราว
ปรี๊ดๆๆๆ .... เฮ้ยๆๆ มาเบรคทำห่ะอะไรตรงนี้วะ เดี๋ยวได้เกิดเรื่องหรอก เสียงห้าวๆ ดังขึ้นพร้อมกับร่างอ้วนๆ ในชุดสีกากีเข้มที่รีบจ้ำพรวดๆ เข้ามาตรงกลางสี่แยก
ขอโทษครับ ผู้หมวด อ้ายเปี๊ยกคนขับรถร่างผอมรีบยกมือไหว้ปะหลกๆ พอดีผมได้ยินเพื่อนตะโกน กะทันหัน ผมก็เลยตกใจเหยียบเบรค นะครับ ผมไม่มีเจดตะนาคร๊าบ
หางเสียงเหมือนคนจะร้องไห้ของอ้ายเปี๊ยก ทำเอาผู้หมวดร่างกลมส่ายหัวดิ๊ก
อ้ายเวร ไม่รู้ล่ะเจตนา ไม่เจตนา ก็เอาใบสั่งไปก่อนแล้วกัน ... เอ้า เอาใบขับขี่ออกมาซะ ผู้หมวดล้วงปึกใบสั่งออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วบรรจงเปิด ในขณะที่อ้ายสนกับอ้ายนกรีบขโยกเขยกเข้ามาแล้วละล่ำละลักร้องขึ้นว่า
คุณตำรวจ ... ไปดูท้ายกระบะก่อนเถอะครับ มีคนตายในนั้น
..
คนขี่เป็นวัยรุ่นหน้าตาเข้ม แต่งตัวเหมือนวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างบ้าง เหมือนเด็กแนวบ้าง ทุกคันจะมีวัยรุ่นหน้ากร้าน ลักษณะเหมือนอันธพาลข้างสลัมซ้อนท้ายมาด้วย
เพียงไม่นานนัก รถซิ่งเหล่านั้นก็บึ่งออกจากบ้าน แยกย้ายกันไปคนละทาง และก็มีหลายคันที่วนเวียนอยู่รอบบ้านอย่างช้าๆ
แน่นอนที่สุดเป้าหมายของพวกนักเลงแรกรุ่นเหล่านี้ก็คือ ตี๋ใหญ่ สุนัขหลงทางของเฮียเกาที่บัดนี้กลายสภาพเป็น เสือลำบาก ไปแล้ว
เฮียเกานึกไม่ถึงว่า ตี๋ใหญ่ ที่ดูซื่อเซื่อง ชอบใช้แต่กำลัง ไม่มีสมอง จะกลายเป็นนักฆ่าที่มีลีลาการตัดสินใจเหมือนมืออาชีพไปได้ ลีลาการสู้เพื่อหนีของตี๋ใหญ่ในวันนี้ทำให้เขาต้องเสียวสันหลังวูบ และไม่อาจปล่อยให้ ตี๋ใหญ่ กลายมาเป็นปัญหาในภายหลังได้อีกต่อไป ทีมรถซิ่งทั้งหมดจึงได้รับเพียงคำสั่งให้จับตายตี๋ใหญ่เท่านั้น
............
สัญชาติญาณดิบของพยัคฆ์บาดเจ็บ... มักจะคมกริบ และดุร้ายเป็นพิเศษ ตี๋ใหญ่ ในเวลานี้จะตกอยู่ในสภาพเช่นนั้นหรือ
เขาซุ่มแอบดูรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับผ่านไปคันแล้วคันเล่าอย่างระมัดระวังโดยไม่มีใครคาดคิดว่า เสือลำบากอย่างเขาจะยอมวัดดวงโดยแทรกตัวเองลงไปซ่อนอยู่ในกระบะบรรจุขยะเหล็กสีเขียวที่วางอยู่ข้างทาง อย่างประเจิดประเจ้อ ห่างจากจากปากซอยเซฟเฮ้าของเสี่ยเกาเพียงไม่กี่ร้อยเมตร
อ่ะฮ้า ช่างเป็นแผนที่วิเศษ จริงๆ ซาร่า.... ตี๋ใหญ่อยากตะโกนออกมาเช่นนั้นจริงๆ เมื่อเห็นรถซิ่งที่ผ่านไปทั้งหมดไม่มีใครสนใจกระบะขยะใบใหญ่นี้เลย
แต่ภายในเวลาไม่นานนัก ความร้อนอบอ้าวภายในกระบะขยะ ทำให้สารพัดสิ่งถูกหมักจนได้ที่ แถมกระจายกลิ่นตลบอบอวลไปยวนยั่วประสาทสัมผัสของสารพัดมด และแมลง
กว่าจะรู้ว่าเขาพลาด มันก็กินเวลาเข้าไปร่วมชั่วโมง และกว่าจะรู้ตัวว่าเขาคิดผิดไปจริงๆ เขาก็เสียเลือดไปมาก จนไม่มีแรงพอที่จะพยุงตัวเองออกจากท้ายกระบะเหล็กบรรจุขยะใบนั้นได้
เขาพยายามผงกหัวขึ้น แล้วยกมือขึ้น แต่แล้วนัยน์ตาวาววับของเขาก็ดับมืดลง มือที่ยกก็พลันตกลงไปอยู่ที่ข้างตัว แม้สติสัมปชัญญะเขายังพอมีอยู่บ้างแต่ร่างกายกลับไม่สนองตอบให้กับความต้องการของเขาเสียแล้ว
ชีวิตของเสือลำบากเช่นเขาจะต้องจบชีวิตตรงนี้แล้วล่ะหรือ แม้เขาจะรำพึงรำพันในใจดังซักปานใด ใครเล่าจะมาได้ยิน แล้วใครกันเล่าที่จะมาตอบ
สติสุดท้ายวูบไหวก่อนจะดับวับไป
เขาให้สมเพชตัวเองอย่างยิ่ง ที่จะต้องมากลายเป็นซากปะปนอยู่กับเศษขยะในกระบะเหม็นๆ ข้างถนน คงสะใจชะตาหรือซาตานแล้วละซีทีนี้ เดนคน ขยะสังคม อย่างข้ากำลังจะถูกหมักรวมกับขยะกองโต ทุด! อ้ายตี๋ใหญ่ เอ๋ย! ช่างน่าทุเรศสิ้นดี
..
เบา เบา ถอยอีกหน่อยลูกพี่
เสียงตะโกนโหวกเหวก ของพนักงานขนขยะที่คอยบอกระยะกับคนขับรถบรรทุกให้ถอยท้ายจนได้ระยะแล้วจึงเอาโซ่เหล็กเส้นเขื่องข้างรถไปคล้องเกี่ยวกับขอบกระบะที่ตั้งอยู่
เอ้า เกี่ยวได้แล้ว ดึงขึ้น ดึงเลย
กระบะบรรจุขยะถูกดึงด้วยแรงไฮโดรลิคจนค่อยๆ เข้าที่ จากนั้นพนักงานขนขยะสองคนก็กระโดดขึ้นเกาะท้ายรถ
ไปเลยลูกพี่
รถบรรทุกขยะตั้งลำแล้วแล่นออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็วมุ่งหน้าไปยังสถานีกำจัดขยะ
เฮ้ย อ้ายสน มึงดูตรงไอ้ที่โผล่โด่เด่มาตรงนั้นซิ มันใช่มือคนหรือป่าวหวา อ้ายนกตบหลังเพื่อนอย่างแรงผิดปกติ จนอ้ายสนที่เกาะอยู่ข้างรถแทบจะตก
อ้าย ห่ะ .. มรึงจะฆ่ากูหรือ มือเมอที่ไหน อ้ายนี้เมาแต่เช้า.อ้าย...เอิ๊กก เฮ้ย พลันอ้ายสนก็เคาะกระบะจนเกิดเสียง ปุ้งๆๆ ดังลั่น
เฮ้ย จอด จอด จอดโว้ย คนตาย โว้ย คนตาย...
เสียงรถเบรกเอี๊ยดดังลั่นตรงกลางสี่แยกพอดี โชคดีที่เป็นเวลาดึก ไม่ค่อยมีรถมากนัก การเบรกครั้งนี้จึงมีผลแค่อ้ายนก กะอ้ายสนกระเด็นตกลงมา แต่จะว่าไปก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ทั้งคู่พร้อมใจกันปล่อยมือแล้วกระโดดลงมาเองตามจังหวะการเบรคด้วย เพียงแต่มันกะทันหันไปหน่อย ทั้งอ้ายนกและอ้ายสนเลยมีอันต้องจับกบแทนการขนขยะชั่วคราว
ปรี๊ดๆๆๆ .... เฮ้ยๆๆ มาเบรคทำห่ะอะไรตรงนี้วะ เดี๋ยวได้เกิดเรื่องหรอก เสียงห้าวๆ ดังขึ้นพร้อมกับร่างอ้วนๆ ในชุดสีกากีเข้มที่รีบจ้ำพรวดๆ เข้ามาตรงกลางสี่แยก
ขอโทษครับ ผู้หมวด อ้ายเปี๊ยกคนขับรถร่างผอมรีบยกมือไหว้ปะหลกๆ พอดีผมได้ยินเพื่อนตะโกน กะทันหัน ผมก็เลยตกใจเหยียบเบรค นะครับ ผมไม่มีเจดตะนาคร๊าบ
หางเสียงเหมือนคนจะร้องไห้ของอ้ายเปี๊ยก ทำเอาผู้หมวดร่างกลมส่ายหัวดิ๊ก
อ้ายเวร ไม่รู้ล่ะเจตนา ไม่เจตนา ก็เอาใบสั่งไปก่อนแล้วกัน ... เอ้า เอาใบขับขี่ออกมาซะ ผู้หมวดล้วงปึกใบสั่งออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วบรรจงเปิด ในขณะที่อ้ายสนกับอ้ายนกรีบขโยกเขยกเข้ามาแล้วละล่ำละลักร้องขึ้นว่า
คุณตำรวจ ... ไปดูท้ายกระบะก่อนเถอะครับ มีคนตายในนั้น
..
-
- Verified User
- โพสต์: 34
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 46
กร๊ากๆๆๆ
เฮียเกาหัวเราะไม่หยุด หลังจากเห็นการรายงานข่าวบนจอทีวี ในเช้าวันนี้
พบร่างฆาตกรคดีอุจฉกรรจ์สะเทือนขวัญกลางกรุงเมื่อสัปดาห์ก่อนนอนจมอยู่กับกองขยะ ตำรวจสันนิษฐานว่าหักหลังกันเองแล้วถูกฆ่าปิดปาก..
อ้ายนี่มันเลือกที่ตายได้สมกับตัวมันจริงๆ เอิ๊กๆๆ
แต่แล้วรายละเอียดของข่าวถัดมากก็ทำให้เขาต้องรีบหุบปากทันที
เช้ามืดวันนี้ บริเวณสี่แยกร่มเกล้ารถบรรทุกขยะคันหนึ่งได้แล่นมาจอดฉุกเฉินข้างป้อมตำรวจ ต่อมา ดต.ที่ทำหน้าที่อยู่ในเวลานั้นได้รับแจ้งว่ามีร่างของชายไม่ทราบชื่อนอนเสียชีวิตอยู่ท้ายรถ จึงเข้าตรวจสอบและพบว่าเป็นฆาตกรคนร้ายที่กรมตำรวจกำลังติดตามตัวอยู่ จึงประสานงานไปยังกองปราบปรามคดีพิเศษซึ่งเป็นเจ้าของเรื่อง ต่อมาภายหลังจึงส่งศพไปยังสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์ ในชั้นต้นตำรวจเชื่อว่าเป็นการหักหลังกันเองและมีเจตนาฆ่าเพื่อปิดปาก และในวันนี้ตำรวจจะนำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อค้นหาหลักฐานเพื่อเชื่อมโยงไปยังผู้บงการอยู่เบื้องหลังอีกทีหนึ่ง....ข่าวต่อไปเป็นเรื่องของ..........
อ้ายเสียมโว้ย เก็บของ.
เฮียเกาไม่สนใจเนื้อหาข่าวต่อจากนั้น เขาเริ่มรู้สึกว่าเซฟเฮ้าส์แห่งนี้ชักจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว
ครึ่งชั่วโมงให้หลัง รถเก๋งสีบรอนซ์ ก็แล่นออกจากประตูบ้านไป เมื่อพ้นจากซอยเปลี่ยว รถคันงามก็แทรกหายไปกับความคับคั่งของยวดยานที่วิ่งอยู่เต็มท้องถนน
...................
ราคาหุ้นที่เคยเป็นรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง ดิ่งร่วงลงตั้งแต่เช้าอย่างผิดปกติ...... จนตลาดต้องขึ้นเครื่องหมาย H
เอี่ยมโต นั่งกุมขมับ .... อีกมือหนึ่งก็กดแป้นคอมพิวเตอร์ จากนั้นก็ คลิ๊กเม้าท์ ถี่ๆ หลายหน ใบหน้าเขาเคร่งเครียดมากขึ้น พลันเขาก็เอื้อมมือไปกดปุ่มโทรศัพท์ต่อสายออกไปโดยไม่ได้ยกหูฟังขึ้น
ท่านประธานครับ... ผมเช็คข้อมูลดูทั้งหมด... รู้สึกว่าจะมีการทุบอย่างแน่นอนแล้ว จะให้ผมเข้าซื้อเลยไหมครับ
ยังก่อน เอี่ยมโต
เสียงอู้อี้แต่ชัดเจนดังออกมาจากลำโพงโทรศัพท์
รอดูก่อนว่า คอยให้มันกดตัวหลักๆ ลงจนครบก่อน
แต่ถ้าปล่อยไว้ สมาชิกของเราจะเริ่มทนไม่ไหวนะครับ เอี่ยมโตแย้งขึ้น
ผมเกรงว่าจะเข้าแผนของพวกมันเข้า
คงต้องหาทางสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกมากขึ้นนะเอี่ยมโต อย่างไรก็ตาม เราอาจจะลองหาทางใช้ประโยชน์จากฟิวเจอร์ห้าสิบดูบ้างดีไหม
ก็เพราะเครื่องมือใหม่นี่แหละครับ ท่าน ทำให้ระยะหลังนี่สมาชิกเราเริ่มรวนเร ใกล้จะเปลี่ยนใจไปเป็นพวกเก็งกำไรกันหมดแล้ว
เอี่ยมโตเอนหลังพิงพนักเก้าอี้พร้อมกับยกมือขึ้นบีบนวดขมับของตนเองเบาๆ
ตอนนี้เราคงทำอะไรไม่ได้มากนัก แต่ฉันเชื่อว่าเมื่อประกาศผลประกอบการออกมาแล้ว น่าจะทำให้สถานการณ์ดีมากขึ้นกว่านี้
เสียงจากโทรศัพท์หยุดไปชั่วขณะ
... อืมม์ ฉันคิดว่าให้เอี่ยมโตเรียกประชุมสมาชิกในระดับไดมอนด์ก่อน ชี้แจงสถานการณ์ให้เขาเข้าใจมากขึ้น แล้วให้เขาไปชี้แจงกับสมาชิกในสายเขาอีกทีหนึ่ง
ครับ ท่านประธาน
เอี่ยมโตชะโงกหน้าเข้ามาใกล้เครื่องโทรศัพท์เพื่อให้เสียงที่ถูกส่งออกไปชัดเจนขึ้น
เดี๋ยวเย็นนี้ผมจะสรุปวาระการประชุม แล้วจะนัดประชุมทันทีในวันพรุ่งนี้เช้าเลยครับ
ดีมาก เอี่ยมโต.. อ้อ แล้วเพื่อนของเธอเป็นอย่างไรบ้างล่ะ น้ำเสียงของผู้ชราภาพยังคงเนิบๆ
ผมจัดให้เขาศึกษาหลักสูตรพิเศษอยู่ครับ ผมคิดว่าคงอีกซักประมาณสองอาทิตย์ เขาน่าจะเข้าใจกลไกของมัน แต่คงต้องอาศัยระยะเวลาอีกพอสมควรครับ กว่าจะเกิดเป็นทักษะที่จะสามารถใช้ได้
อืมม์ ได้แต่ภาวนาว่าเราเลือกไม่ผิดคน ฉันต้องการใช้สัญชาติญาณเต๋าเทวดาของเขา ให้เกิดประโยชน์กับงานชิ้นนี้ให้มากที่สุด... เอาล่ะ ขอบใจมาก เอี่ยมโต
ยังไม่ทันที่เอี่ยมโตจะเอ่ยปากท่านประธานก็วางสายไปก่อน เขากดปุ่มปิดเครื่องโทรศัพท์ แล้วสูดลมหายใจหนักๆ เข้าไปในปอด ปากเขาเม้มสนิท ก่อนจะปล่อยลมหายใจที่อัดอยู่นานกว่าปกติออกมาแรงๆ จากนั้นก็ปล่อยให้สายตามองเหม่อไปยังภาพวาดลายพู่กันจีนบนผนังเบื้องหน้า ภาพนั้นเป็นภาพพยัคฆ์สองตัวกำลังจดจ้องพร้อมจะห้ำหั่นต่อสู้กันอยู่
เนิ่นนานให้หลัง เขาจึงถอนหายใจแรงๆ อีกครั้ง ก่อนจะพึมพำ
หวังว่า เราคงคิดถูกนะ อ้ายอ๊ะเหลา แกอย่าทำให้ผิดหวังเชียวนะเฟ้ย...
เขาลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วก้าวออกไปจากห้อง
.
เสียงเคาะประตูทำให้วิทยากรสาวหยุดการสอนของเธอลงชั่วคราว
เชิญค่ะ....
เอี่ยมโตก้าวเข้ามาในห้อง เมื่อเขามองเห็นสภาพของเพื่อนต่างวัย ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะดังๆ ขึ้น
ฮะฮ้า ห่างจากการเป็นนักเรียนไปนาน กลับมาเรียนใหม่เป็นไงมั่งวะ อ๊ะเหลา
ม่ายตังเหลาทำสีหน้าเหมือนเด็กกินยาขม พลางมองไปที่คนสอนแสนสวยอย่างเกรงใจก่อนจะตอบเลี่ยงๆ ว่า
ก็ดี สงสารก็แต่คุณดานี่สิ อธิบายซ้ำแล้วซ้ำอีก ถามจริงๆ เถอะพี่โต ผมจำเป็นต้องรู้จักอ้ายเครื่องมือทางการเงินพวกเนี้ยด้วยเรอะ
แน่นอน อ๊ะเหลา สิ่งเหล่านี้ประกอบกับสัญชาติญาณของนาย จะช่วยงานของเราได้มาก
แม้ม่ายตังเหลาจะยังไม่รู้ว่างานที่เขาจะต้องทำกับสมาคมคืออะไร แต่เขาก็ไม่ได้สนใจจะถามตั้งแต่แรก เมื่อเขารับปากกับประธานชมรมแล้ว คำพูดของลูกผู้ชายถือเป็นคำมั่นสัญญาที่ต้องทำตาม เขาเป็นคนแบบนี้มาโดยตลอด
เอ่อ ดา ออกไปเอาเครื่องดื่มมาให้ผู้จัดการก่อนนะคะ
ดาริกาเอ่ยปากขึ้นอย่างสุภาพ เธอมีมารยาทพอที่จะขอปลีกตัวออกไปจากการพูดคุยของสองชายหนุ่ม โดยเฉพาะหนุ่มคนหนึ่งมีสถานะเป็นผู้บังคับบัญชาในหน่วยงานของเธอ
ก็ดีครับ ผมขอกาแฟ อ๊ะเหลา นายเอาเหมือนฉันแล้วกันนะ
เมื่ออยู่ในอีกบทบาทหนึ่ง ทั้งเอี่ยมโตและม่ายตังเหลา จำเป็นต้องคล้อยตามสถานะที่กำลังแสดงอยู่ในเบื้องหน้า ทั้งๆ ที่ในอีกสถานะหนึ่งแล้ว ใครจะเชื่อว่า หนุ่มหน้าตี๋ทั้งคู่ก็คือเดนตายที่เจนศึก
เมื่อดาริการก้าวออกไปแล้ว ม่ายตังเหลาก็เอ่ยขึ้นว่า
อ้ายตี๋ใหญ่ นี่ผมเคยรู้จักมัน ที่เบตง ยะลา มันสร้างคดีไว้เยอะมาก ไม่นึกว่ามันจะมาเสียท่าในกรุงจนได้
พี่เองก็ผิดคาดเหมือนกันว่ะ ตอนแรกที่หน้าลิฟท์ ก็สงสัยอยู่แล้วว่าลักษณะโหดๆ แบบนี้ ต้องเป็นคนที่ผ่านค่ายมาก่อนแน่นอน แต่นึกไม่ถึงว่าจะเป็นมัน
พี่รู้ไหมว่าใครฆ่าตี๋ใหญ่
เอี่ยมโตเดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ข้างหน้าโต๊ะของม่ายตังเหลา ก่อนจะกล่าวว่า
ถ้าเดาไม่ผิด ต้องเป็นอ้ายเกาแน่นอน คราวก่อนที่มันพลาด ดันมีใครไม่รู้ไปสารภาพว่าเป็นฆาตกรตำรวจเลยรีบปิดคดีไปก่อน ไม่ได้ตามสาวไปถึงตัวมัน
อ๋อ จริงๆ แล้วไอ้คนที่ตามล่าเมื่อสามปีชื่ออ้ายเหนือเมฆ ก่อนจะตามไปฆ่าผม ผมยังสงสัยอยู่ว่า มันรู้ได้ไงว่าผมหลบอยู่ที่นั่น โชคดีว่าพี่ไหวตัวทันให้ผมหลบออกมาก่อน
ม่ายตังเหลานึกถึงอดีตก่อนจะเปรยๆ ขึ้นว่า
แต่คราวนี้จะว่าไปแล้ว มันก็ไม่เห็นต้องฆ่าอ้ายตี๋ใหญ่เลยนี่นา
เท่าที่สายของสมาคมเรารายงานมา เห็นว่า ตำรวจดันพบเบาะแสว่าตี๋ใหญ่เป็นฆาตกร มันคงไม่อยากให้ตำรวจเข้าไปยุ่งกับมันมากนัก เพราะเป้าหมายที่สำคัญกว่าไม่ใช่เรา
ม่ายตังเหลารู้สึกสนใจข้อมูลใหม่นี้มากขึ้น เดิมเขาคิดว่าเฮียเกาจะตามฆ่าเขาคนเดียว ด้วยความแค้นที่เขาดันรู้จักกับเอี่ยมโตแล้วทำให้เสียแผนการฆ่าเอี่ยมโตเมื่อสี่ปีก่อน
จริงๆ พี่ว่าจะค่อยๆ เล่าให้แกฟังทีละเรื่อง แต่เมื่อเหตุการณ์มันเป็นแบบนี้ พี่ก็คงต้องบอกรายละเอียดบางส่วนให้แกฟังก่อน เอาเป็นว่าเย็นนี้เราไปหาที่คุยกันดีกว่า ตอนนี้แกตั้งใจศึกษาเรื่องพวกนี้กับคุณดาไปก่อน
เอี่ยมโตชี้ไปยังกองเอกสารปึกใหญ่บนโต๊ะ แล้วลุกขึ้นทำท่าจะก้าวออกไป
เฮ้ย เดี๋ยวก่อนพี่ ถามอะไรอีกเรื่องซิ
ม่ายตังเหลารีบทักขึ้น ทำให้เอี่ยมโตหยุดแล้วหันมาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
เอ่อ... เอ่อ..
เสียงของม่ายตังเหลาเกิดตะกุกตะกักขึ้นมาจนเอี่ยมโตเห็นผิดปกติ ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อได้ยินว่า
..เอ่อ คุณดาเขามีแฟนหรือยังน่ะพี่
แล้วสิ่งที่เอี่ยมโตเห็นตามมาทำให้เขาแทบจะไม่เชื่อว่านี่คือคนที่ถูกเรียกว่า เต๋าเทวดา เพราะเมื่อม่ายตังเหลาพูดจบใบหน้าของเขาก็คล้ำขึ้นด้วยแรงเลือดที่ถูกสูบฉีดอย่างรวดเร็ว นี่ถ้าเป็นใบหน้าขาวๆ ของสาวน้อยคงจะเห็นเป็นสีแดงก่ำของความเขินอายอย่างชัดเจนมากกว่านี้
อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะเหลา....... เรื่องนี้ กูไม่รู้โว้ย มึงต้องสืบเอง
เอี่ยมโตพูดจบก็หัวเราะร่า แล้วรีบเดินออกไปจากห้อง ในขณะที่ดาริกาถือถาดที่มีถ้วยกาแฟวางอยู่มาด้วยสองใบเดินเข้ามาพอดี
อ้าว ผู้จัดการไปแล้วเหรอคะ
ดาริกาถาม เอี่ยมโตยิ้มบอกว่า
เดี่ยวให้คุณเหลาทานแทนผมแล้วกันนะ วันนี้เขาคงทานได้หลายแก้วอยู่ถ้าเป็นฝีมือชงของคุณดาน่ะ เอิ๊กๆๆ
ดาริกาทำหน้างงๆ ในขณะที่ม่ายตังเหลาตีสีหน้าเจื่อนๆ กลบร่องรอยของความขวยอายเอาไว้อย่างมิดชิด ในใจเขาได้แต่บ่นอุบ ฝากไว้ก่อนเถอะ อ้ายพี่โต ฮึ่มๆ
สาวน้อยหน้าสวยหันมาทางม่ายตังเหลา แล้วบอกว่า
คุณเหลาทานได้นะคะ ดาไม่ค่อยชอบกาแฟเท่าไร ไม่งั้นดาจะช่วย
เสียงหวานๆ ใสๆ ทำให้ม่ายตังเหลาวางไม้วางมือไม่ถูก
เอ้อ ไม่เป็นไรครับ ผมถาม เอ้ย ทานได้ ...
เขายิ่งกลบเกลื่อนก็เหมือนยิ่งเปิดเผยร่องรอย
..คุณดา นั่งเถอะครับเดี๋ยวผมสอนต่อเลยดีกว่า.
ดาริกามองหน้าเขาอย่างงงๆ ม่ายตังเหลาชักรู้ตัวว่าเขาประหม่าเกินไป จึงเสออกไปว่า
เอ้อ ผมหมายถึงว่าผมเรียนต่อเลยดีกว่า แต่ตอนนี้ผมขอตัวไปห้องน้ำซักครู่ก่อนนะครับ
พูดจบเขาก็รีบผลุนผลันเปิดประตูออกไป ปล่อยให้สาวน้อยคนงามมองตามอย่างไม่เข้าใจ
.................
-
- Verified User
- โพสต์: 34
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 47
ดาริกาอธิบายเนื้อหาในเอกสารให้ม่ายตังเหลาฟัง ได้ยินเสียงใสๆ ดังออกมาจากปากจิ้มลิ้มที่อาบสีชมพูสดใสเป็นมันวับ
จริงๆ แล้ว ตราสารอนุพันธ์ไม่ได้มีเพียงตัวฟิวเจอร์อย่างเดียวนะคะ แม้กระทั่งตัววอแรนท์ที่ดากล่าวถึงไปเมื่อครู่ก็จัดเป็นหนึ่งในประเภทของตราสารอนุพันธ์ด้วย แต่อยู่ในจำพวกของออฟชั่น
อ๊ะเหลาพยักหน้าตามเหมือนโดนสะกดจิต ตาของเขาพยายามหลุบต่ำ แล้วลอบเมียงมองวงหน้าของวิทยากรสาวเป็นระยะๆ พอที่จะไม่ให้เป้าหมายรู้สึกตัว
ตัวของฟิวเจอร์เอง ก็จะมีมูลค่าที่อ้างอิงอยู่กับมูลค่าของสินทรัพย์ชนิดใดชนิดหนึ่ง อย่างถ้าเป็นในตลาดหุ้น ตัวฟิวเจอร์ก็จะมีค่าที่ผูกติดอยู่กับราคาที่ตกลงกันว่าจะซื้อหรือขายหุ้นจำนวนหนึ่งในอนาคต
คนอะไรก็ไม่รู้ หน้าก็สวย เสียงก็เพราะ ความรู้ก็ดี ... ม่ายตังเหลานึกอยู่ในใจ ส่วนสายตาก็สอดส่ายเก็บรายละเอียดไปทั่ววงหน้า....
ดวงตากลมโตดำขลับ สมกับเป็นไทยแท้ๆ ยามที่ดวงตากลิ้งกลอกไปมา มันช่างเหมือนลูกสนุ๊กแต้มสูงที่กลิ้งไปบนพื้นพรมสีขาว สะท้อนเงากับแสงไฟ ระยิบ ระยับ ราวกับเป็นดวงดาวที่ส่องประกายวาววับยามค่ำคืนที่มืดสนิท
เอ่อ คุณเหลาคะ ยังฟังดาอยู่หรือเปล่าคะ
ครับ ครับ ฟังอยู่ครับ มันเป็นวอแรนท์ใช่ไหมครับ
โธ่ คุณเหลา ดากำลังพูดถึงฟิวเจอร์อยู่ค่ะ เสียงช่วงท้ายสะบัดขึ้นสูง ริมฝีปากบนเชิดรั้งขึ้นน้อยๆ คิ้วโก่งเรียวขมวดเข้าหากันพองาม หล่อนถอนใจเบาๆ เหมือนเหนื่อยใจกับลูกศิษย์โข่งที่นั่งอยู่ข้างหน้า
คุณเหลาคะ ฟิวเจอร์ในตลาดหุ้นน่ะมันเป็นสัญญาซื้อขายหุ้นล่วงหน้า ที่ตกลงราคากันในปัจจุบัน แล้วค่อยส่งมอบหุ้นพร้อมจ่ายชำระเงินให้กันในอนาคต
ม่ายตังเหลารู้สึกวูบวาบขึ้นเต็มอก โอย พับผ่าซิ คนอะไรวุ้ย น่ารักเป็นบ้า ยามงอนก็ยังดูงาม ม่ายตังเหลาโว้ย ม่ายตังเหลา... กูอยากมีเมียแล้วโว้ย!.. เขาตะโกนก้องในใจ
ส่วนวอแรนท์นะ เป็นสัญญาอีกประเภทหนึ่งนะคะ ไม่เหมือนกันคะ
ดาริกาหยุดเมื่อเห็นแววตาของเขาเลื่อนลอยมากไปกว่าเก่า ก่อนจะเอ่ยต่อว่า
โธ่ คุณเหลา แววตาเหม่อลอยอย่างนี้ ดามิต้องมาคอยสอนคุณเหลาอีกหลายวันหรือคะนี่
ดีครับ ผมชอบ... เอ้ย ผมจะได้เข้าใจมากขึ้น
แต่ดามีงานที่ต้องทำนะคะ ถ้ามานั่งสอนคุณเหลาอยู่อย่างนี้งานดาก็ค้างกองอยู่เต็มโต๊ะเลยนะซิ ฮึ ดาชักไม่ปลื้มคุณเหลาแล้วนะ
ท่าทางสาวน้อยคงจะงอนจริงๆ ม่ายตังเหลาจึงรีบจับมือของเธอขึ้นมากุมเอาไว้ กิริยาของเขาเป็นธรรมชาติ จนดาริกาเผลอปล่อยมือนุ่มนิ่มของตนให้วางสนิทอยู่ภายใต้อุ้งมือหยาบใหญ่อยู่ขณะหนึ่ง ก่อนจะไหวตัวทันแล้วรีบดึงมือออกทำท่าเหมือนไม่พอใจ
อุ้ย คุณเหลา ...
อ๊ะ ขอโทษด้วยครับ คุณดา ผมไม่ได้ตั้งใจ เห็นคุณดาโกรธ ผมเลยลืมตัว
สีหน้าของหญิงสาวทั้งระแวง ทั้งเจื่อน และเขิน
โถ คุณดาคร๊าบ เห็นใจผมเถอะ คนป่าคนดอยอย่างผมน่ะ ร้างห่างไกลจากการเรียนมาเนิ่นนานมากแล้ว ขนาดหนังสือพิมพ์ก็ยังอ่านแทบไม่ออกเลย นับประสาอะไรกันกับหุ้น วอแรนท์ แล้วก็ฟิวเจอร์
ถ้าอย่างนั้น จะให้ดาทำอย่างไรคะ คงต้องไปบอกผู้จัดการให้หาวิธีอื่นแล้วล่ะ
เฮ้ย! .. ไม่ได้นะ เขาเผลอหยาบจนต้องรีบยกมือขึ้นปิดปาก
อืมม์ กลิ่นหอมจากมือสาวที่ยังไม่ทันจางไปจากมือเขาไชชอนเข้าไปทำความชุ่มฉ่ำให้กับใจห่อเหี่ยวจนฟูฟ่อง
เอ่อ ผมหมายถึง..... อย่าเพิ่งเลยครับ คุณดา ขอโอกาสให้ผมแก้ตัวอีกครั้งได้ไหมครับ ถ้าไม่ดีขึ้นค่อยหาวิธีอื่น นะครับ นะครับ คุณดา
ดาริกาบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมถึงใจอ่อนยอมตามคำขอ หรือจะเป็นเพราะความอบอุ่นที่เพิ่งรับสัมผัสจากมือใหญ่กร้านคู่นั้น แม้จะเป็นอาการที่ดูเหมือนไม่จงใจ แต่ก็ทำให้ดาริกาเกิดความรู้สึกแปลกๆ ก็โถ โตมาจนป่านนี้ ยังไม่เคยมีใครก้าวทะลุกำแพงเข้ามาใกล้แล้วเคาะประตูใจหล่อนได้ดังขนาดนี้มาก่อนนี่นา
ม่ายตังเหลาส่งยิ้มแสดงความดีใจเหมือนเด็กที่มีคนคอยตามใจ ดาริกาก็ยิ้มตอบทั้งที่ใจยังเต้นตึกตัก
เอ่อ ดาว่า เราพักก่อนดีกว่านะคะ ไว้ตอนบ่ายค่อยมาว่ากันต่อ ขอดาไปเคลียร์งานที่โต๊ะก่อนนะคะ
นางฟ้าร่างเพรียวสมส่วนหันกายย้ายสะโพกงามงอนออกไปจากห้องนานแล้ว แต่ม่ายตังเหลายังนั่งนิ่งยิ้มกริ่ม กล้ามเนื้อบางส่วนบีบรัดไม่เป็นจังหวะอยู่ในอก ราวกับจะอัดเอาของเหลวที่สูบฉีดหมุนเวียนอยู่ภายในกระแทกทะลักล้นออกมายังภายนอก แม้กระทั่งเอี่ยมโตก้าวเข้ามาในห้องแล้วยืนจ้องอยู่เนิ่นนานก็ยังไม่รู้สึกตัว
อ้าย...เหลา!
เฮ้ย!.. ม่ายตังเหลาสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงตะโกนอยู่ข้างหู
โธ่ พี่โตก้อ เข้ามาตั้งเมื่อไหร่ ไม่ให้สุ้มเสียง
เข้ามานานแล้วโว้ย ชะช้า อ้ายนี่ ให้มาเรียนหนังสือ เสือกมาหลงสาว เดี๋ยวปั๊ด... เอี่ยมโตเงื้อมือ ม่ายตังเหลารีบยกมือสองมือกั้นไว้
พี่โต เธอถูกใจผมจริงๆ นะ ไม่เคยมีความรู้สึกปิ๊งใครเท่าวันนี้มาก่อนเลย
อ๊ะ อ๊ะ อ้ายนี่ ตาสูง เหอๆ เอี่ยมโตหัวเราะเจ้าเล่ห์
พี่บอกก่อนเลยว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา ไม่เหมาะกับแกหรอก อ๊ะเหลา ทำใจซะเถอะ เอาความสนใจทั้งหมดมาลงกับงานดีกว่า เชื่อพี่
ก็โธ่ พี่.....เข้าใจ คำว่ารักแรกพบไหม รักแรกพบน่ะ เขาทำเสียงเหมือนจะร้องไห้
ไม่รู้จักโว้ย..แล้วก็.ไม่สนด้วย ว่าแต่ว่า ที่ให้เรียนน่ะ ไปถึงไหนแล้ว
ก็อยู่แค่ฟิวเจอร์ เดอะมอลล์อะไรประมาณนั้นนะ ศัพท์แสงอะไรก็ไม่รู้ ยากฉิบ เขาบอกความรู้สึกออกมาตรงๆ
เฮ้ย ... ยากก็ต้องทำความเข้าใจกลไกของมันให้ได้ อย่างเร็วด้วย ดูเหมือนอ้ายเกามันจะเริ่มแผนของมันเร็วๆ นี้แน่นอน
มันทำอะไรเหรอพี่
ตอนนี้หุ้นตัวหลักที่สมาคมเราใช้นอมินีถืออยู่ถูกมันกดติดฟลอร์มาสองวันแล้ว นี่ก็กำลังจับตาตัวอื่นๆ อีกสองสามตัว สายของเรารายงานมาว่ามันจะใช้ฟิวเจอร์เป็นตัวดัก โดยคาดว่าเราคงไม่ยอมปล่อยให้ราคาหุ้นร่วงลงไปต่ำมากๆ แน่
อืมม์ อ้ายนี่กะเล่นสมาคมเราให้เจ๊งเลยหรือ
ไม่หรอก มันใช้เราเป็นเครื่องมือดึงเงินจากพวกแมงเม่าน่ะ มันรู้ว่าเราใช้โครงข่ายนอมินีอยู่ทั่วตลาดหุ้น ถ้ามันทุบหุ้นของสมาคมเราได้ ตลาดหุ้นร่วงเป็นหมีนอนซมแน่
...................
คุณพี่ ดร.โหน่ง ครับ ผมขอคืนพื้นที่ให้แล้วล่ะครับ....
มาป่วนอยู่นานจนเรื่องเปลี่ยนไปเยอะแล้วอ่ะ....อิอิ ตอนนี้ชักต่อไม่ติด คิดไม่ออกแล้วล่ะครับ...... :'O :'O
แล้วก็ผมรู้สึกตัวแล้วครับ (หลังจากหลงอยู่ในฝันมาหลายวัน...เอิ๊กๆๆ)
ไว้ว่างๆ ครึ้มๆ ผมค่อยมาฝันให้อ่านใหม่นะครับ หากผมทำสิ่งใดให้ขุ่นข้องหมองใจ หวังว่าคงให้อภัยผมคนนี้ด้วยนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 877
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 48
พี่ห่านบอก
ณ บัดนี้การรอคอยได้สิ้นสุดลงแล้ว
มิได้เลยครับ พี่ห่านเป้นคนเปิดเผย ผมต้องขอขอบคุณพี่ห่านต่างหาก พี่ห่านมาทันเวลาคั่นกลางจับปลาตอนน้ำขุ่นพอดี ถ้าพี่ไม่มาเพิ่มสีสรรค์ ผมเองต่างหากที่เป็นฝ่ายต้องถูกตำหนิ ฝีมือการเขียนของพี่ลึกล้ำยิ่งนัก ล้วนถ่ายทอดจากปลายนิ้วเป็นเรื่องราวพุ่งทะลวงสะกดใจผู้คน ความตื่นเต้นของเรื่องราว ความคมคายของหลักปรั๙ญาการลงทุน สุดที่จะจินตนาการคาดคิด น้ำใจพี่ห่านกลับให้ความรู้สึกที่ลึกล้ำยิ่งกว่า ประวัติการหมักบ่มพี่ห่านให้กลายเป็นยอดยุทธ์แม้ไม่กระจ่าง นี้ย่อมแสดงว่าเรื่องราวของมังกรท่านนี้ย่อมไม่ธรรมดา พี่ห่านต้องเป็นนักเขียนบุคคลระบือนามเปิดหน้าใหม่เป้นตำนานนวนิยายการลงทุนในภายภาคหน้าอย่างแน่นอนมิต้องสงสัยคุณพี่ ดร.โหน่ง ครับ ผมขอคืนพื้นที่ให้แล้วล่ะครับ....
มาป่วนอยู่นานจนเรื่องเปลี่ยนไปเยอะแล้วอ่ะ....อิอิ ตอนนี้ชักต่อไม่ติด คิดไม่ออกแล้วล่ะครับ......
แล้วก็ผมรู้สึกตัวแล้วครับ (หลังจากหลงอยู่ในฝันมาหลายวัน...เอิ๊กๆๆ)
ไว้ว่างๆ ครึ้มๆ ผมค่อยมาฝันให้อ่านใหม่นะครับ หากผมทำสิ่งใดให้ขุ่นข้องหมองใจ หวังว่าคงให้อภัยผมคนนี้ด้วยนะครับ
ณ บัดนี้การรอคอยได้สิ้นสุดลงแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 34
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 49
อดไม่ได้ที่ต้องแสดงความนอบน้อมให้มากขึ้นไปอีก
คำกล่าวของคุณพี่ ดร.โหน่ง ทำให้ผมรู้สึกเหมือนจะคล้อยตามไปด้วยอยู่พักหนึ่ง...........เอิ๊กๆๆ
แต่ถ้าความเป็นจริงไม่ได้ฉุดผมขึ้นมา ก็คงหลุดลอยไปตามคำกล่าวนั้นแล้วซิ............อิอิ :lol:
ผมเป็นเพียงมือสมัครเล่นเองครับ แค่วาดฝันด้วยอักษรให้คนอื่นอ่านเล่นๆ หากจะไปทำจริงๆ ผมยังไม่กล้าครับ กลัวว่าสิ่งที่ผมระบายออกไปมันจะมีค่าแค่เพียงน้ำหมึกที่ป้ายไปบนกระดาษเท่านั้น........ เอิ๊กๆๆ
หลังจากถ่อมตัวเสร็จแล้ว.... ก็ถามต่อเลยว่า คุณพี่ ดร.โหน่ง ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ ผมว่าเรื่องนี้ถ้าเป็นไปตามเจตนารมณ์เดิมที่จั่วหัวไว้ มันน่าสนุกดีนะ...อิอิ
ผมยังอยากจะรู้เลยสุดท้ายใครกันจะเป็นฆาตกรตัวจริง...... :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 877
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 50
โลกแห่งอาชญากรรม ไม่ว่าชีวิตจริง ในนิยาย
หรือแม้แต่ในหนัง พัฒนาล้ำไปมาก มีความสลับซับซ้อน
เพิ่มขี้นทุกวันเรื่อยๆ อย่างน่ากลัว สังเกตได้จากข่าวๆต่างๆที่เกิดขั้นในหนังสือพิมพ์
ล้วนเป็นฝีมืออาชญากรรมระดับมืออาชีพผู้เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมและความฉลาดแกมโกง
ได้ทิ้งปมปริศนาอันยากต่อการคลี่คลายเงื่อนปมนั้นไว้ให้ขบคิดเสมอ
และบางที.......อาชญากรอาจเป็นคนใกล้ตัวที่คุณนึกไม่ถึง ก็เป็นได้"
ขุดหลุมพรางกับดักล่อลวงให้คิดเป็นอื่น เรื่องราวล้วนซับซ้อนกลอกกลิ้ง สถาพจริงกลับหลวง สภาพหลวงกลับจริง แท้จริงอารมณ์ผู้อ่านกลับไม่ได้รับความเสียหาย ที่แท้ผู้ลอบสังหารเป็นผู้ใดได้ เท็จจริงเป็นอย่างไรไม่มีใครทราบได้
นอกจากตัวพี่ห่านเอง
หรือแม้แต่ในหนัง พัฒนาล้ำไปมาก มีความสลับซับซ้อน
เพิ่มขี้นทุกวันเรื่อยๆ อย่างน่ากลัว สังเกตได้จากข่าวๆต่างๆที่เกิดขั้นในหนังสือพิมพ์
ล้วนเป็นฝีมืออาชญากรรมระดับมืออาชีพผู้เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมและความฉลาดแกมโกง
ได้ทิ้งปมปริศนาอันยากต่อการคลี่คลายเงื่อนปมนั้นไว้ให้ขบคิดเสมอ
และบางที.......อาชญากรอาจเป็นคนใกล้ตัวที่คุณนึกไม่ถึง ก็เป็นได้"
ขุดหลุมพรางกับดักล่อลวงให้คิดเป็นอื่น เรื่องราวล้วนซับซ้อนกลอกกลิ้ง สถาพจริงกลับหลวง สภาพหลวงกลับจริง แท้จริงอารมณ์ผู้อ่านกลับไม่ได้รับความเสียหาย ที่แท้ผู้ลอบสังหารเป็นผู้ใดได้ เท็จจริงเป็นอย่างไรไม่มีใครทราบได้
นอกจากตัวพี่ห่านเอง
-
- Verified User
- โพสต์: 2032
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 51
พี่โหน่ง
แล้วคำภาษาอังกฤษ นี่ ถือเป็น โลกกลับหลัง ด้วยหรือเปล่า
พี่ goosehuntsman นี่ คนล่าห่าน หรือว่า ห่านล่าคน ?
ห่านที่ว่านี้ต้องเป็น golden goose แน่ๆ แต่ว่ามัน ห่านทองคำ หรือว่า คำทองห่าน ??
:lol: :lol:
แล้วคำภาษาอังกฤษ นี่ ถือเป็น โลกกลับหลัง ด้วยหรือเปล่า
พี่ goosehuntsman นี่ คนล่าห่าน หรือว่า ห่านล่าคน ?
ห่านที่ว่านี้ต้องเป็น golden goose แน่ๆ แต่ว่ามัน ห่านทองคำ หรือว่า คำทองห่าน ??
:lol: :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 877
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 52
ไปค้นมาสนุกๆ มาฝากเพื่อนๆ รายคนคงทราบแล้ว คำ หรือประโยคอ่านกลับหน้ากลับหลัง ยังไงก็ได้ประโยคเดิม ยังบ้านเราก็อาทิคำว่า นอน ฝรั่งเค้าเรียกว่า palindrome อ่านเต็มๆที่
http://www.palindromelist.com/a.htm
Amen, I call a cinema.
A Dan, a clan, a canal - Canada!
A berry tastes O so 'set', satyr Reba
A bot in a macadam was I ere I saw Madaca, Manitoba
A buck cabs back, Cuba
A dad dabs bad dada
A Dan acts Niagara war against Canada
Add 'A'
A Danish custard--drat such sin, Ada
"A dim or fond 'No' from Ida?"
A dim lap and I did napalm Ida
A Goth saw Ada wash toga
A man appals--I slap Panama
Am I drawn inward, Ima?
Am I loco, Lima?
"Am I mad, eh?" Giselle sighed, "Am I, Ma?"
Amen, I call a cinema.
http://www.palindromelist.com/a.htm
Amen, I call a cinema.
A Dan, a clan, a canal - Canada!
A berry tastes O so 'set', satyr Reba
A bot in a macadam was I ere I saw Madaca, Manitoba
A buck cabs back, Cuba
A dad dabs bad dada
A Dan acts Niagara war against Canada
Add 'A'
A Danish custard--drat such sin, Ada
"A dim or fond 'No' from Ida?"
A dim lap and I did napalm Ida
A Goth saw Ada wash toga
A man appals--I slap Panama
Am I drawn inward, Ima?
Am I loco, Lima?
"Am I mad, eh?" Giselle sighed, "Am I, Ma?"
Amen, I call a cinema.
-
- Verified User
- โพสต์: 34
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 53
..........โลกแห่งอาชญากรรม ไม่ว่าชีวิตจริง ในนิยาย
หรือแม้แต่ในหนัง พัฒนาล้ำไปมาก มีความสลับซับซ้อน
เพิ่มขี้นทุกวันเรื่อยๆ อย่างน่ากลัว สังเกตได้จากข่าวๆต่างๆที่เกิดขั้นในหนังสือพิมพ์
ล้วนเป็นฝีมืออาชญากรรมระดับมืออาชีพผู้เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมและความฉลาดแกมโกง
ได้ทิ้งปมปริศนาอันยากต่อการคลี่คลายเงื่อนปมนั้นไว้ให้ขบคิดเสมอ
และบางที.......อาชญากรอาจเป็นคนใกล้ตัวที่คุณนึกไม่ถึง ก็เป็นได้"
ขุดหลุมพรางกับดักล่อลวงให้คิดเป็นอื่น เรื่องราวล้วนซับซ้อนกลอกกลิ้ง สถาพจริงกลับลวง สภาพลวงกลับจริง แท้จริงอารมณ์ผู้อ่านกลับไม่ได้รับความเสียหาย ที่แท้ผู้ลอบสังหารเป็นผู้ใดได้ เท็จจริงเป็นอย่างไรไม่มีใครทราบได้
นอกจากตัวพี่ห่านเอง
ดูเหมือนว่าผมคงต้องหาคำเฉลยด้วยตัวผมเองแล้วซิ....... อิอิ
แล้วจะมีใครติดตามหาคำเฉลยไปกับผมไหมครับเนี่ย.... เอิ๊กๆๆ
เอางี้ ...ถ้าใครอยากรู้ ก็ตามไปด้วยกันกับผมเลยดีก่า........... :lol:
จนเมื่อไรที่ผมสังเกตุว่าไม่มีคนตามแล้ว..... ผมค่อยหยุดก็แล้วกัน....อิอิ
-
- Verified User
- โพสต์: 34
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 54
..........
สามทุ่มแล้ว
ดาริกายังคงตั้งหน้าตั้งตาอธิบายกลไกต่างๆ ในตลาดหุ้นให้ม่ายตังเหลาฟัง เกือบสองอาทิตย์มานี้ เขายอมรับว่าสิ่งที่หญิงสาวพยายามบอกและยัดเยียดให้เขาได้รับรู้นั้นมันเข้าไปอยู่ในสมองน้อยกว่าใบหน้าและท่วงท่าอากัปกิริยาของหล่อนเสียอีก
เขาเหมือนตกอยู่ในความฝัน ทุกลมหายใจเข้าออกของเขาเจือไปด้วยความสุขจากการได้อยู่ใกล้ๆ สาวงามทั้งใบหน้า กริยา และวาจาอย่างดาริกา
จริงอย่างที่เอี่ยมโตได้ว่า เขาไม่เหมาะกับผู้หญิงคนนี้ เขาจึงขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆ ได้สัมผัสกลิ่นอาย กลิ่นกายสาว ได้ลอบชมวงหน้าสวยซึ้ง ปอยผมยาวสยาย คิ้วโก่งเข้มรับกับหน้าผากลาดกว้างได้รูป สันจมูกโด่งรั้นคมตัดกับสองข้างแก้มเรื่อที่เจือไปด้วยเลือดใสของวัยสาว ริมฝีปากอิ่มจิ้มลิ้ม เปี่ยมไปด้วยสีสัน บางวันก็แดงสด บางวันก็ชมพูระยับ ดูช่างประทับใจไปซะหมด
ชีวิตของม่ายตังเหลาผ่านแต่ความโสมมมาอย่างโชกโชน จนไม่อยากจะให้ความแปดเปื้อนนั้นต้องกลายไปเป็นความสกปรกเปรอะเลอะเทอะแก่ความสดใสของดาริกา
คิดอะไรอยู่เหรอคะ เสียงใสกระชากเขาออกจากภวังค์
เอ้อ... ไม่ครับ แค่งงนิดหน่อย ผมว่าวันนี้คุณดาเหนื่อยมากแล้ว จะพอแค่นี้ก่อนดีไหมครับ
ก็ดีค่ะ นี่ก็สามทุ่มกว่าแล้ว เรื่องวันนี้ก็เข้าใจยากด้วย แต่สองสามวันมานี่คุณเหลาเก่งขึ้นนะคะ เธอส่งยิ้มให้เขาในขณะที่ค่อยๆ รวบเก็บเอกสารรวมเข้าด้วยกัน
ไม่หรอกครับ คุณดาต่างหากที่สอนเก่ง เขายิ้มตอบพร้อมๆ กับช่วยเก็บเอกสารที่เหลือ
มือกับมือมาชนกันอย่างไม่ตั้งใจ ดาริการู้สึกเหมือนมีกระแสไฟที่ผ่านแปร๊บจากขั้วบวกไปขั้วลบ หล่อนรีบชักมือกลับ ก่อนจะก้มหน้าซ่อนสายตาเขินอายเอาไว้ ม่ายตังเหลาลอบสูดลมหายใจแรงๆ กดข่มความฟุ้งซ่านให้กลับไปอยู่ยังก้นบึ้งของหัวใจ ทั่งคู่นิ่งงันกันไปอยู่ครู่หนึ่ง
เอ้อ คุณดาจะกลับเลยไหมครับ ผมจะไปส่งที่รถ
ค่ะ ... เสียงของดาริกาเบาหวิว จนเกือบจะเห็นแต่อาการพยักหน้ารับ
ทั้งคู่เดินตามกันออกมาอย่างเงียบๆ
อุ้ย ดาลืมกระเป๋าคะ ขอตัวดาไปหยิบกระเป๋าก่อนนะคะ เธอพูดพร้อมกับหันตัวก้าวเข้าไปในห้องอีกครั้ง
ม่ายตังเหลาถอนหายใจแรงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเจียมเนื้อเจียมตัว เขาคงไม่คิดมากขนาดนี้หรอก
..............
ยาริสคันกะทัดรัดสีแดงสดแล่นออกจากสำนักงานไปแล้ว ม่ายตังเหลาเดินช้าๆ กลับไปยังที่จอดรถ ใจของเขาเลื่อนลอยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขารู้ดีว่าเขามีหวัง แต่คนที่ยังสับสนกับชะตาชีวิตของตัวเองอย่างเขา ที่ไม่รู้ว่าวันพรุ่งจะอยู่อย่างไร อะไรเป็นเป้าหมายในชีวิต เขาก็คงได้แค่ทำใจ ดาริกาสูงเกินกว่าที่เขาจะดึงเธอให้ลงมาต่ำได้
กริ๊ก..
เสียงสับไกปืนแม้จะค่อนข้างจะเบา แต่ด้วยสัญชาติญาณและความเคยชิน ทำให้ม่ายตังเหลารีบพุ่งตัวหมอบลงกับพื้น
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!........
ทันทีที่ทิ้งตัวลง หัวกระสุนปืนก็เฉียดเหนือหัวเขาไป แล้วตามด้วยอีกหลายนัดที่ตกกระทบลงบนพื้นถี่ยิบ ไล่ไปตามการกลิ้งตัวอย่างรวดเร็วของเขา จังหวะสุดท้ายเขาสามารถผลักตัวเองเข้าไปข้างมุมเสาได้สำเร็จ มือซ้ายของเขาตบลงไปที่ข้างรองเท้า ท่อกลมยาวประมาณห้านิ้วพุ่งออกมาสู่ผ่ามือ เขารีบจับมันให้ประกบกับตลับเหล็กทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดพอเหมาะในมือขวาที่หยิบมารอเตรียมไว้แล้ว เพียงชั่วขณะเขาก็พร้อมที่จะตอบโต้ได้ทันที
บรึ่ม บรึ่ม บรื่น น น ...
เสียงรถมอเตอร์ไซค์ก็ดังขึ้น ม่ายตังเหลารีบเบี่ยงตัวออกมาจากมุมพร้อมกับเล็งปืนออกไปตามเสียง พลันเขาก็เห็นแค่แสงไฟจากหน้ารถมอเตอร์ไซค์ที่วาบขึ้น แล้วพุ่งออกไปยังถนนนอกสำนักงานอย่างรวดเร็ว ความพลุกพล่านของสถานที่ทำให้เขาไม่กล้าจะปล่อยกระสุนออกไป
............
ผมตามมันไม่ทัน พี่โต
ม่ายตังเหลาเอ่ยขึ้นเมื่อเอี่ยมโตวิ่งลงมาจากสำนักงานจนถึงลานจอดรถที่เขายืนรออยู่
คงเป็นสมุนอ้ายเกา ไม่นึกว่ามันจะกัดไม่ปล่อยขนาดนี้ เออ แล้วยามไปไหนวะ เอี่ยมโตถามขึ้นเมื่อนึกได้ว่าปกติจะต้องมียามคอยเฝ้าดูแลอยู่บริเวณปากทางเข้าออกเสมอ
เอ... นั่นซิไม่เห็นมีใครอยู่ตรงปากทางเลยซักคน ม่ายตังเหลามองตรงไปยังป้อมยามที่อยู่บริเวณทางเข้าด้านหน้า
อ้ายนี่ มันร้าย ใจกล้ามาเหยียบถิ่น พอพลาดก็ชิ่งหนีเลย พี่ว่าเราต้องระวังตัวมากขึ้นแล้วล่ะ
ม่ายตังเหลาพยักหน้ารับก่อนจะพูดว่า
แล้วคุณดาล่ะ... ผมชักไม่มั่นใจว่าเธอจะพลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วยหรือเปล่า
อืมม์ คงไม่นะ เพราะดูอ้ายเกามันจ้องจะเล่นงานแค่เราสองคน
ผมก็หวังว่า คงเป็นแบบนั้นนะ น้ำเสียงของม่ายตังเหลาค่อนข้างวิตก
เอาน่า ตอนนี้คงต้องคิดในแง่นี้ไว้ก่อน มันคงไม่ใช่หมาบ้าที่กัดดะไปหมดหรอก แต่ถ้าแกไม่สบายใจ ก็ไปนอนเฝ้าซิวะ
เฮ้ย! พี่โตพูดเป็นเล่นไป เกิดมันตามผมไปมิซวยไปถึงคุณดาเลยน่ะซิ
อ้ายนี่ จริงจังแฮะ เอี่ยมโตหัวเราะเอิ๊กอ๊ากลงคอ พลางตบไหล่ อย่าคิดมาก อ้ายน้อง เดี๋ยวพี่ไปรายงานท่านประธานก่อน ดูท่าอ้ายเกามันชักจะหนักข้อขึ้นทุกวันแล้ว
สองหนุ่มพากันกอดคอหันเดินกลับเข้าไปในสำนักงาน โดยไม่ได้สังเกตว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของใครบางคนที่กำลังมองพวกเขาผ่านกล้องส่องทางไกลจากอาคารสูงที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม
.......................
-
- Verified User
- โพสต์: 34
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 56
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ผมว่าดร.โหน่งก็ดี
ท่านห่านก็ดี
เลิกแจกลูกยอกันได้แล้ว
รีบๆเขียนตอนต่อไปเร็วๆได้แล้ว อยากอ่านต่อ อ่ะ...
คุณพี่ ดร.โหน่ง หรือท่านอื่นๆ คิดอะไรออก ก็มาแจมต่อด้วยนะครับ ช่วยๆ กันสร้างสีสันให้ตัวละคร สนุกดี
-
- Verified User
- โพสต์: 34
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 57
ดาริกานั่งนิ่งอยู่หน้ากระจกเงาบานใหญ่ในห้อง
เงาสะท้อนในกระจกส่องให้เห็นแววตาหม่นหมองไปจากปกติ
"อย่างนี้หรือเปล่าหนอ ที่เขาเรียกว่ารัก" หล่อนรำพึงขึ้นในใจ
ชั่วครู่ดาริกาจึงค่อยเอื้อมมือไปหยิบขวดน้ำมันทำความสะอาดผิวหน้าเทลงบนฝ่ามือพลางลูบไล้ไปทั่วบริเวณหน้า จากนั้นก็หยิบสำลีในกล่องข้างโต๊ะแล้วเช็ดคราบน้ำมันและความสกปรกออกไป
ใบหน้ายามปราศจากร่องรอยของเครื่องสำอางของเธอดูเปล่งปลั่งสดใสไม่แพ้เมื่อตอนกลางวัน
หากม่ายตังเหลาได้เห็นเธอในยามนี้เขาก็คงอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาด้วยความตรึงใจเป็นแน่
ดาริกาหมุนกายหันมาปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ดอย่างช้าๆ แล้วบรรจงปล่อยเสื้อให้เลื่อนไหลออกไปจากท่อนแขนขาวที่ไขว้ไปด้านหลัง เสื้อสวยพริ้วไสลด์ตัวลงไปตามน้ำหนักของมันจนหลุดจากปลายนิ้วมือของหล่อนตกไปกองอยู่บนพื้นเบื้องล่าง
วาโก้นู๊ดสกินโทนขับให้หนั่นเนื้อคู่ดูนูนเด่นเป็นพิเศษ เอวคอดกิ่วดูงามยามเธอเอี้ยวตัวหยิบผ้าผืนใหญ่มาห่อหุ้มกาย ก่อนจะปลดเปลื้องชุดชั้นในกองทับไว้บนเสื้อที่พื้นแล้วย่างกรายก้าวเข้าไปในห้องน้ำ
เสียงน้ำผ่านฝักบัวดังอยู่นานพอสมควร ประตูกระจกก็เลื่อนเปิดออก หยดน้ำเล็กๆ เกาะกระจายอยู่เต็มไหล่สล้าง ไล่ลงมาตามท่อนแขน แผ่นหลังขาวและเนินอกอวบนอกร่มผ้าที่พันกายอยู่อย่างหลวมๆ
ยังไม่ทันที่ดาริกาจะแต่งตัว เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น
เอ๊ะ ป่านนี้ยายแจงยังไม่นอนอีกเหรอ...
เธอสงสัยว่าจะเป็นสาวน้อยข้างห้องที่ชอบมาคุยด้วยบ่อยๆ
เดี๋ยวจ้า เดี๋ยว
ขณะที่มือกำลังแตะลูกบิดประตู ตาของดาริกาก็พลันชำเลืองผ่านเลนส์ตาปลาเล็กๆ กลางบานประตู เงาสะท้อนที่เห็นนั้นไม่ใช่สาวน้อยข้างห้องอย่างที่คิด แต่กลับเป็นชายร่างสูงใหญ่ดูน่ากลัว เธอใจหายวาบ มือที่แตะลูกบิดกลับเปลี่ยนเป็นผลักสลักกลอนประตูให้เข้าที่อย่างรวดเร็ว
ตัวของเธอเริ่มสั่น ใจเต้นระรัวถึ่ขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ ดาริกาหันหลังพิงกับผนังห้องค่อยๆ ทำใจให้กล้ามากขึ้นแล้วเพ่งมองไปยังเลนส์ตาปลาอีกครั้ง
ไม่มีใครยืนอยู่ที่หน้าห้องแล้ว มันคงได้ยินเสียงสลักกลอนประตูที่ถูกล็อคแน่น คงรู้ว่าเธอไหวตัวทันจึงได้ผละจากไป
โชคดีที่คอนโดแห่งนี้ได้ซ่อนเลนส์ส่องด้านนอกประตูห้องไว้มิดชิดจนยากต่อการสังเกต เจ้าคนดำตัวใหญ่เลยเพิ่งรู้สึกตัวว่ามันพลาด
เนิ่นนานให้หลัง ดาริกาจึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์แจ้งไปยังฝ่ายรักษาความปลอดภัยของอาคารด้วยน้ำเสียงที่ยังคงสั่นเทา
.
ม่ายตังเหลารู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นหลังจากได้ฟังเรื่องราวจากปากของดาริก เอี่ยมโตหันไปสบตากับม่ายตังเหลาแว่บหนึ่งก่อนเอ่ยขึ้นว่า
พี่ว่านะ ต่อไปดาคงต้องระวังตัวมากขึ้นนะ เดี๋ยวนี้คนเราไว้ใจไม่ได้ ไม่รู้ว่ามันต้องการอะไร แต่ที่แน่ๆ มันไม่ประสงค์ดีแน่นอน
สงสัยดาคงต้องกลับไปอยู่บ้านแม่ซักพักแล้วล่ะ ดารู้สึกกลัว.."
แววตาของเธอในขณะนั้น ยิ่งทำให้ม่ายตังเหลาเกิดความรู้สึกอยากจะปกป้องสาวงามคนนี้ขึ้นมาอย่างจับใจ
".... ยิ่งดูภาพในกล้องวงจรปิด มันเหมือนจงใจจะมาที่ห้องดาเลยนะคะ แล้วหน้าตามันก็ดูโหดเหี้ยม ดุดันยังไงก็ไม่รู้
แล้วคุณดาไปแจ้งตำรวจหรือยังครับ ม่ายตังเหลาถามขึ้นอย่างเป็นห่วง
ทางคอนโดเขาแจ้งเรียบร้อยแล้วค่ะ ตำรวจก็นำหลักฐานวีดีโอเทปจากคอนโดไปแล้วด้วย
เอี่ยมโตถอนหายใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วตบบ่าสาวน้อยเบาๆ เป็นเชิงปลอบใจ ก่อนจะก้าวออกไป ม่ายตังเหลาอดไม่ได้ที่จะจับมือนุ่มนิ่มของดาริกาขึ้นมากุมไว้ แล้วบีบเบาๆ ก่อนจะปล่อยออกพร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ
วันนี้ผมงดเรียนก็ได้นะครับ คุณดานั่งพักทำใจให้สบายก่อนดีกว่า ท่าทางคุณเพลียๆ เหมือนนอนหลับไม่เต็มที่
ค่ะ ดานอนหลับไม่สนิทด้วย ระแวงอยู่ตลอดคืน แต่ไม่เป็นไรค่ะ ดาอธิบายต่อได้
แม้ดูเธอจะเหนื่อยแต่ด้วยความรับผิดชอบทำให้การเรียนหลักสูตรพิเศษของทั้งคู่ก็ดำนินต่อไปเช่นเคยจนถึงเย็น
................
ให้อ๊ะเหลาไปส่งดีกว่า เอี่ยมโตเอ่ยขึ้นหลังจากก้าวเข้ามาในห้อง
เอ่อ ไม่เป็นไรมั๊งคะ ดาแค่จะไปเก็บของแล้วก็ไปค้างที่บ้านแม่เลย เธอเอ่ยปฏิเสธพร้อมๆ กับสาละวนเก็บของที่วางกระจายอยู่บนโต๊ะให้เข้าที่เรียบร้อย
ให้ผมไปส่งนะดีแล้ว ผมกับพี่โตต่างก็เป็นห่วงคุณดาจริงๆ
ม่ายตังเหลาทำเสียงนุ่มจนเอี่ยมโตรู้สึกหมั่นไส้จนต้องกระแอม อะแฮ่ม ออกมาเบาๆ จนหนุ่มสาวทั้งคู่หน้าแดงขึ้นพร้อมกัน
เอาเถอะน่า จะได้สบายใจกันทุกฝ่าย ให้อ๊ะเหลาไปส่งน่ะดีแล้ว พูดจบเขาก็ไม่อยู่ฟังคำตอบ รีบก้าวเดินออกจากห้องไปทันที
ดาริกาบ่นอุบ ลำบากคุณเหลาแย่เลย เทียวไปเทียวมา
ไม่เป็นไรครับ คุณดา ผมจะได้สบายใจ พี่โตก็จะได้สบายใจ แล้วทุกเย็นผมก็ไม่ได้มีธุระปะปังอะไรที่ไหนด้วย เล็กน้อยครับแค่ไปส่งคุณดา ดีเสียอีกผมจะได้มีเพื่อนคุยตอนเย็น เบื่อฟังพี่โตจะแย่แล้ว
เขาจบประโยคยาวด้วยรอยยิ้มนุ่มนวล ทำเอาดาริกาปฏิเสธต่อไปไม่ได้
-
- Verified User
- โพสต์: 877
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 58
เรียนถามพี่ห่านเป็นคนเดียวกับพี่ เทพ รุ่งธราภิรมย์ เจ้าของกลยุทธ์หุ้นห่านทองคำใช่หรือปล่าวครับ
พี่ห่านเขย่าเรื่องได้อย่างรวดเร็วกว่าผมหลายเท่านัก พล็อตผมเหมือนกรงขังที่มองไม่เห็นต้องซุกซ่อนตามหาทั้งนั่งนึกนอนนึกกินนึกเดินนึกกว่าจะได้มาสักบท แต่พี่ห่านเขียนเหมือนคนเปรื่องปราดโบยบินตัวอักษรตามแต่ใจจะปรารถนา ไม่ทราบเบื้องหลังเคล็ดลับการเขียนเรื่องของพี่ห่านอยู่ที่ใด
พี่ห่านเขย่าเรื่องได้อย่างรวดเร็วกว่าผมหลายเท่านัก พล็อตผมเหมือนกรงขังที่มองไม่เห็นต้องซุกซ่อนตามหาทั้งนั่งนึกนอนนึกกินนึกเดินนึกกว่าจะได้มาสักบท แต่พี่ห่านเขียนเหมือนคนเปรื่องปราดโบยบินตัวอักษรตามแต่ใจจะปรารถนา ไม่ทราบเบื้องหลังเคล็ดลับการเขียนเรื่องของพี่ห่านอยู่ที่ใด
-
- Verified User
- โพสต์: 34
- ผู้ติดตาม: 0
แฟ้มลับ The Adventure of Eto Demerzel
โพสต์ที่ 59
คนละคนกันครับ
อาจารย์เทพ เป็นนักลงทุนที่ผมนับถือคนหนึ่ง เคยไปอบรมกับท่านด้วย แล้วก็เป็นที่มาของชื่อ คนล่าห่าน นี่แหละครับ
แนวการเล่นหุ้นของผมตอนแรกๆ ก็มาจากกลยุทธ์หุ้นห่านทองคำที่ท่านนี่แหละครับ
สุดท้ายก็มาเติมเต็มด้วย DSM.... อิอิ (จะผิดจากคอนเซ็บของ TVI ไปหน่อย) :lol:
ผมชอบที่คุณพี่ ดร.โหน่ง เขียนนะครับ ดูมันรวดเร็ว คำทีใช้ก็ดูวัยรุ่นสวิงสวาย ทันสมัย
เรื่องที่ผมเขียน จะใช้ตัวละครเป็นคนพาไปเองครับ เหมือนทฤษฏีเกม มีทางเลือกให้ เมื่อเลือกทางนี้แล้ว ผลก็จะเป็นแบบนี้ ก็แค่นั้นเองครับ ไม่มีอะไรพิเศษ...... อิอิ (มือใหม่ครับ) :oops:
อาจารย์เทพ เป็นนักลงทุนที่ผมนับถือคนหนึ่ง เคยไปอบรมกับท่านด้วย แล้วก็เป็นที่มาของชื่อ คนล่าห่าน นี่แหละครับ
แนวการเล่นหุ้นของผมตอนแรกๆ ก็มาจากกลยุทธ์หุ้นห่านทองคำที่ท่านนี่แหละครับ
สุดท้ายก็มาเติมเต็มด้วย DSM.... อิอิ (จะผิดจากคอนเซ็บของ TVI ไปหน่อย) :lol:
ผมชอบที่คุณพี่ ดร.โหน่ง เขียนนะครับ ดูมันรวดเร็ว คำทีใช้ก็ดูวัยรุ่นสวิงสวาย ทันสมัย
เรื่องที่ผมเขียน จะใช้ตัวละครเป็นคนพาไปเองครับ เหมือนทฤษฏีเกม มีทางเลือกให้ เมื่อเลือกทางนี้แล้ว ผลก็จะเป็นแบบนี้ ก็แค่นั้นเองครับ ไม่มีอะไรพิเศษ...... อิอิ (มือใหม่ครับ) :oops: