ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 1

โพสต์

โวยวายมาตั้งนานแล้ว  เรียกร้องให้มีการแทรกแซงค่าเงินบาทให้อ่อนอยู่นั้นแหละ

ผมเห็นยอดส่งออกก็ดีวันดีคืน  ไม่รู้จะกอบโกยกำไรกันไปถึงไหน

สมัยก่อนค่าเงินบาทอยู่แถว 25 บาท  ตอนนี้อยู่แถว 36 บาท  พวกส่งออกก็สบายตั้งเยอะแล้ว  ยิ่งตอนอ่อนลงไปที่ 56 บาท  รวยกันเท่าไรแล้ว

ผู้นำเข้าลำบากกว่าตั้งเยอะ  ค่าเงินอ่อนจาก 25 บาทลงมานะ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
adi
Verified User
โพสต์: 1155
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 2

โพสต์

[quote="chatchai"]โวยวายมาตั้งนานแล้ว
A Cynic Knows the Price of Everything and the Value of Nothing
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
เฟยหง
Verified User
โพสต์: 127
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 3

โพสต์

คุณ chatchai ต้องเข้าใจธุรกิจส่งออกบ้างนะครับ
บางธุรกิจนั้นมี margin ที่บางมากๆ....  โดยเฉพาะสินค้าเกษตร  
การที่ค่าเงินบาทแข็งขึ้นเพียง 3-4%  ก็อาจทำให้สุทธิแล้วขาดทุนได้เลยนะครับ  หากไม่ได้ทำการป้องกันความเสี่ยงไว้ก่อน.....
adi
Verified User
โพสต์: 1155
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 4

โพสต์

[quote="เฟยหง"]คุณ chatchai ต้องเข้าใจธุรกิจส่งออกบ้างนะครับ
บางธุรกิจนั้นมี margin ที่บางมากๆ....
A Cynic Knows the Price of Everything and the Value of Nothing
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
beammy
Verified User
โพสต์: 3345
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 5

โพสต์

[quote="adi"][quote="เฟยหง"]คุณ chatchai ต้องเข้าใจธุรกิจส่งออกบ้างนะครับ
บางธุรกิจนั้นมี margin ที่บางมากๆ....
akekarat
Verified User
โพสต์: 1746
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ผมไม่เข้าใจ พูดถึงธุรกิจการเกษตร ถ้าเราผลิตออกมาแล้วต้องไปง้อขายให้ต่างชาติในราคา เอาข้าวหนึ่งคันรถ ไปแลกน้ำมันหนึ่งลิตร

เราจะเอาของดี ๆ ของเราไปให้คนพวกนั้นทำไม แล้วปล่อยให้พวกเรากันเองบริโภคผลผลิตเกรดต่ำ ปล่อยให้มันกินน้ำมันกิน CPU แทนข้าวซะให้เข็ด

เผอิญผมก็มีธุรกิจส่งออกเหมือนกัน เงินลงมาจาก 40 ไป 37 ก็ขาดทุน (กำไร) ไปเยอะ แต่อย่างว่า ขึ้นราคาของเราซะ เค้าไม่อยากได้ ก็ไม่ต้องให้ ขายเองในประเทศ ก็ได้เหมือนกัน ไม่ง้อครับ

พูดถึงแล้วก็แค้นใจคนไทย ยกยอพวกฝรั่งกันยังกะพระเจ้า หุ้นขึ้นก็ฝรั่ง หุ้นลงก็ฝรั่ง เงินแข็งก็ฝรั่ง เงินอ่อนก็ฝรั่ง จะขายของก็ต้องขอให้ฝรั่งมาซื้อ ผมอยู่ต่างประเทศมา 2-3 ปี ไม่เห็นพวกนั้นมีอะไรดีกว่าเรา ยกเว้นไม่ทำลายกันเอง

คนไทยเรา ไม่มีปัญญาซื้อ-ขายกันเอง หรือไร
sunrise
Verified User
โพสต์: 2266
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 7

โพสต์

akekarat เขียน:ผมไม่เข้าใจ พูดถึงธุรกิจการเกษตร ถ้าเราผลิตออกมาแล้วต้องไปง้อขายให้ต่างชาติในราคา เอาข้าวหนึ่งคันรถ ไปแลกน้ำมันหนึ่งลิตร

เราจะเอาของดี ๆ ของเราไปให้คนพวกนั้นทำไม แล้วปล่อยให้พวกเรากันเองบริโภคผลผลิตเกรดต่ำ ปล่อยให้มันกินน้ำมันกิน CPU แทนข้าวซะให้เข็ด

เผอิญผมก็มีธุรกิจส่งออกเหมือนกัน เงินลงมาจาก 40 ไป 37 ก็ขาดทุน (กำไร) ไปเยอะ แต่อย่างว่า ขึ้นราคาของเราซะ เค้าไม่อยากได้ ก็ไม่ต้องให้ ขายเองในประเทศ ก็ได้เหมือนกัน ไม่ง้อครับ

พูดถึงแล้วก็แค้นใจคนไทย ยกยอพวกฝรั่งกันยังกะพระเจ้า หุ้นขึ้นก็ฝรั่ง หุ้นลงก็ฝรั่ง เงินแข็งก็ฝรั่ง เงินอ่อนก็ฝรั่ง จะขายของก็ต้องขอให้ฝรั่งมาซื้อ ผมอยู่ต่างประเทศมา 2-3 ปี ไม่เห็นพวกนั้นมีอะไรดีกว่าเรา ยกเว้นไม่ทำลายกันเอง

คนไทยเรา ไม่มีปัญญาซื้อ-ขายกันเอง หรือไร
เข้าใจว่าเรามีผลผลิตส่วนเกินที่ทำให้ต้องขายต่างชาติครับ

แต่อยากยืนยันว่าฝรั่งไม่ได้ดีกว่าเราครับ
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
lekmak333
Verified User
โพสต์: 697
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ทำไมไม่ hedge ค่าเงิน ถ้าค่าเงินเปลี่ยนแปลงแค่ 3-4% แล้วธุรกิจจะไปไม่รอด
adi
Verified User
โพสต์: 1155
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 9

โพสต์

lekmak333 เขียน:ทำไมไม่ hedge ค่าเงิน ถ้าค่าเงินเปลี่ยนแปลงแค่ 3-4% แล้วธุรกิจจะไปไม่รอด
hedge แล้วครับ แต่มันป้องกันความเสี่ยงไม่ได้ร้อยเปอร์เซนต์หรอกครับ

ผมยกตัวอย่าง หลังจากยื่นเสนอราคาให้ลูกค้ารายหนึ่ง(สมมุติอัตราแลกเปลี่ยนตอนนั้นอยู่ที่ 37 baht/dollar) ระหว่างรอการตอบรับจากลูกค้าอัตราแลกเปลี่ยนผันผวนไปอยู่ที่ 36 แล้วลูกค้าตอบรับมา เราก็เสียหายแล้วใช่มั้ยครับ แน่นอนมันอาจไปที่ 38 แล้วเรากำไรมากขึ้นก็ได้ แต่นี่ผมพยายามชี้ให้เห็นว่า hedge ค่าเงินในทางปฏิบัติก็ยังเสี่ยงอยู่ดี

ในทางตรงกันข้าม สมมุติว่าหลังจากยื่นเสนอราคาให้ลูกค้าแล้ว เราซื้อฟอร์เวิร์ดทันที(ไม่รอลูกค้าตอบรับ) เพื่อให้ค่าเงินที่ทำสัญญา match กับค่าเงินที่เราเสนอให้ลูกค้า ถ้าหลังจากนั้นลูกค้าตอบปฏิเสธอะไรจะเกิดขึ้น

1. เราต้อง Close position ของเรา แต่ว่าเราก็โดนส่วนต่างซื้อขาย ถ้าเกิดเราถูกปฎิเสธ quotation สัก 50% ของที่ส่งไปก็เจ๊งแล้ว

2. เราก็ปล่อยไปเรื่อยๆรอให้มีออเดอร์ใหม่เข้ามา แต่ระหว่างนั้นถ้าค่าเงินอ่อนตัวลง (สมมุติเป็น 38 baht) เราก็โดนอีก

สรุปว่า hedge ค่าเงินลดความเสี่ยง"ได้แค่ระดับนึงเท่านั้น"
A Cynic Knows the Price of Everything and the Value of Nothing
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 10

โพสต์

เรื่องจากทำสัญญาอัตราแลกเปลี่ยนมันทำไม่ได้เต็มจำนวนสัญญาน่าครับ
เพราะธนาคารไม่แบกภาระนี้ไว้ร้อยเปอร์เซ็นต์ซึ่งเป็นความเสี่ยงสูงน่าครับ
ผู้ส่งออกและนำเข้าต้องรับความเสี่ยงกันไปเองล่ะงานนี้

แล้วผู้ส่งออกและนำเข้าทำตามกฏเศรษศาสตร์และMBAทั้งหลายที่ว่า
"กำไรเพิ่มขึ้นได้ต้องตัดที่ต้นทุนก่อน" อันนี้ทำแล้วหรือยัง
ถ้าทำแล้วก็มองดูตัวเองว่า ทำอย่างไงให้สินค้าเราเพิ่มมูลค่าได้
ในการจ้างงานและไม่กระทบกับชาวบ้านชาวเมืองล่ะ
:)
:)
ลูกไม่ท้อ
Verified User
โพสต์: 421
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 11

โพสต์

น่าเห็นใจผู้ส่งออก  และ น่าเห็นใจผู้ถือหุ้นกลุ่มที่ทำสินค้าส่งออกด้วย จริงไหมครับ เพราะผมว่านี่ยังเป็นแค่บทแรกๆเท่านั้นเอง เดี๋ยวมันจะมีอะไรมาอีกเยอะเลยแหละ ตามหลัก Relative economics
รู้สึกดีๆ
พลพล คนกันเอง
Verified User
โพสต์: 109
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ท่านอีโต้บอกว่า
ถ้าไม่ขายถูก แล้วจะขายยังไงครับ
รบกวนคุณฉัตรชัยช่วยให้คำปรึกษาด้วย
อย่าเอาแต่โวยวายครับ


ตกลงผู้ส่งออกหรือเจ้าของกระทู้กันแน่ที่เอาแต่โวยวาย
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 13

โพสต์

แล้วตอนสมัยค่าเงินบาทอยู่ที่ 25 บาทต่อเหรียญ  ส่งออกกันยังไงครับ

ช่วงค่าเงินอ่อนลงอย่างรวดเร็วไปที่ 56 บาทต่อเหรียญ  ผู้ที่บาดเจ็บล้มตายมากมาย  ทั้งผู้นำเข้า  และผู้ที่กู้เงินนอก  แต่ผู้ส่งออกร่ำรวยกันเป็นแถว  เหมือนถูกหวย  โกยกำไรกันไปเท่าไรแล้วครับ

การที่ ธปท.แทรกแซงค่าเงินบาทให้อ่อน  เพื่อให้พวกส่งออกค้าขายง่ายๆมีกำไรตลอด  โดยที่ประชาชนทั้งประเทศต้องซื้อน้ำมันแพง  ผู้นำเข้าต้องเสียผลประโยชน์  เหมาะสมหรือครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ค่าเงินบาทควรอยู่ที่ตรงไหนจึงเหมาะสม

ถ้าคิดจากผลกำไรขาดทุนของผู้ส่งออกแต่ละราย  ก็คงไม่เท่ากัน

บางคนบอกว่า 40 บาทถึงกำไร

บางคนบอกว่า 36 บาทก็ยังกำไร

บางคนบอกว่าแค่ 32 บาทก็กำไรได้

เท่าที่ผมคิดออก  ก็พิจารณาจากดุลการค้า  และดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศครับ

ถ้าแข็งมากจนส่งออกน้อยกว่านำเข้า  ค่าเงินบาทก็ควรจะอ่อนลง

แต่ทุกวันนี้  ดุลการค้าของเรายังบวกอยู่นี่ครับ  แถมยอดส่งออกก็ยังเติบโตอยู่เลย
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
keng56
Verified User
โพสต์: 431
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 15

โพสต์

:man:  เข้ามาชมรายการ"มองต่างมุม"ครับ.. 8)
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 16

โพสต์

Eto Demerzel เขียน:มองมุมกลับ

ตอนบาทอยู่ 25 ธปท.แทรกแซงให้บาทแข็ง
เพื่อให้ผู้นำเข้าซื้อของถูก มีกำไรตลอด
และประชาชนใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ซื้อน้ำมันถูกๆ
ประเทศและผู้ส่งออกต้องเสียประโยชน์

เหมาะสมหรือครับ
ไม่เหมาะสมครับ  ที่สมัยนั้นใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบตะกร้า  โดยพยายามให้ค่าเงินบาทคงที่  ทั้งๆที่ประเทศมีดุลการค้า  และดุลบัญชีเดินสะพัดขาดทุนมากมายและติดต่อกันยาวนาน

สุดท้ายก็ไม่สามารถฝืนได้

แต่ในขณะนี้  ประเทศเรามีดุลการค้า  และดุลบัญชีเดินสะพัด  ขาดดุลหรือครับ  การส่งออกถดถอยหรือครับ  ถึงต้องพยายามลดค่าเงินบาท
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
เฟยหง
Verified User
โพสต์: 127
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 17

โพสต์

คือว่า  เราแข่งกับเมืองจีนไม่ค่อยได้ครับ
เงินหยวนที่จริงแล้วต้องแข็งกว่านี้มาก  
ได้ยินมาว่าที่เห็นการส่งออกโตมากๆ นี
มีหลายบริษัทขายขาดทุน  เพื่อทำยอดนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
jody4003
Verified User
โพสต์: 372
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 18

โพสต์

[quote="Eto Demerzel"][quote="chatchai"]แต่ในขณะนี้
BHT
Verified User
โพสต์: 1822
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 19

โพสต์

แล้วอย่างประเทศอื่นที่เงินแข็งตอนนี้เค้าบ่นกันมั้ยครับ

แล้วถ้าเมกาค่าเงินแข็งขึ้นมา ผู้ผลิตอย่าง ไนกี้ โค้ก เฟรนไชส์ร้านอาหารต่างๆ จะออกมาบ่นกันมั้ยครับ

อยากรู้ครับ ผมยังอ่อนหัด

แต่ผมมองว่า ถ้าสินค้าไทยเจ๋งจริง แจ๋วจริง ก็ต้องต่อรองได้ครับ แต่เราไม่มีอำนาจอะไรไปต่อรองเลย
fantasia
Verified User
โพสต์: 674
ผู้ติดตาม: 0

Re: ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 20

โพสต์

[quote="chatchai"]โวยวายมาตั้งนานแล้ว
lekmak333
Verified User
โพสต์: 697
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 21

โพสต์

ให้มองภาพกว้างๆครับ ตอนนี้ net export ก็ยังเป็นบวกอยู่ จะแซกแซงค่าเงินไปเพื่ออะไร??  ตอนนี้เกิดปัญหาอะไรหรือถึงต้องใช้นโยบายกระตุ้น?

ค่าเงินอ่อนค่าลง ประเทศไทย ก็นำเข้าแพงขึ้น โดยเฉพาะน้ำมัน ใช้หนี้ก็แพงขึ้น ธุรกิจนำเข้าก็เดือดร้อน ถ้าไม่ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ในที่สุดก็จะกระทบต่อ real sector ในระยะยาว

กลายเป็นว่า พวกเราอยากให้ export เป็นบวกมาก เพื่อ เล่นกับ GDP หรือเปล่า?
Boring Stock Lover
Verified User
โพสต์: 1301
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 22

โพสต์

ถามเป็นความรู้

แล้วทำไมแร้งไม่ไปหากินประเทศอื่นด้วย มีอะไรที่ต่างกัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 23

โพสต์

ประเทศที่เอะอะก็จะลดค่าเงินตัวเอง เพื่อผู้ส่งออก เพื่อดุลการค้าระยะสั้น เพื่ออย่างโน้นอย่างนี้ เพื่อเหตุผลร้อยแปด  เพื่อสารพัดความชอบธรรม แล้วแต่จะยกมาอ้างเป็นครั้งๆไป

เพื่ออะไรก็แล้วแต่  ในระยะยาวแล้วประเทศนั้นจะเดินไปสู่จุดอับ  เพราะประเทศนั้นจะมีแต่ธุรกิจที่แข่งขันด้านราคาที่เฟื่องฟู  แต่จะไม่เฟื่องฟูแบบถาวร  จะต้องคอยประคบประหงมไม่มีวันสิ้นสุด  เพราะยืนบนขาตัวเองไม่ได้สักที  พบได้มากในประเทศด้อยพัฒนา

วิธีที่ดีกว่าคือ แทรกแซงนิดๆ ตึงนิดๆ หรือให้ค่าเงินแข็งกว่านิดๆ  ระยะยาวจะดีกว่า  เพราะธุรกิจที่แข่งด้านคุณภาพจะเป็นฝ่ายเฟื่องฟู  ระยะยาวไม่จำเป็นต้องโด๊ปไม่ต้องกระตุ้น  เพราะเขายืนและเดินได้เอง
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 24

โพสต์

scale ครับ

ทำไมพวกวีไอส่วนมากชอบหากินกับพวกมาร์เก็ตแค้ปต่ำๆ
ใครพูดไว้เหรอครับว่าวีไอชอบมาร์เก็ตแค็บต่ำๆ  คิดเองตั้งเองหรือเปล่าครับ

กองทุนอีแร้งเล่นแบบเก็งกำไร    

นักเก็งกำไรต่างหากที่ชอบมาร์เก็ตแค็ปต่ำๆ
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
jody4003
Verified User
โพสต์: 372
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 25

โพสต์

ว่าแต่ นอกเรื่องนิด

คุณ Eto Demerzel ชื่ออ่านยังไงอ่ะครับ  :?  เอ๊ะ ชื่ออะไร อ่านยากจัง อิ อิ
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 26

โพสต์

เท่าที่เห็น ปีเตอร์ ลินช์ ชอบสภาพคล่องต่ำๆ  ไม่ใช่มาร์เก็ตแค็ปต่ำๆ  วีไอชอบหุ้นที่เก่งโตและแกร่ง  มาร์เก็ตแคปต่ำๆจะไม่ค่อยแกร่ง  ก็อาจจะมีบ้าง แต่มีน้อย
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
lekmak333
Verified User
โพสต์: 697
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 27

โพสต์

ไม่เห็นต้องกลัวอีกา อีแร้ง ในช่วงนี้เลย

Fed คงอัตราดอกเบี้ย เศษรฐกิจสหรัฐถอยหลัง มีแต่ให้เงิน us อ่อนค่าลง
การเขา weight มาเงินบาท ก็ดีแล้วครับ
Boring Stock Lover
Verified User
โพสต์: 1301
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 28

โพสต์

Eto Demerzel เขียน: scale ครับ

ทำไมพวกวีไอส่วนมากชอบหากินกับพวกมาร์เก็ตแค้ปต่ำๆ
ไม่ get เท่าไหร่ ประเทศที่เป็นคู่แข่งทางการค้ากับไทย ก็มี scale พอๆกัน ถ้าไม่นับจีน
ภาพประจำตัวสมาชิก
jody4003
Verified User
โพสต์: 372
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 29

โพสต์

[quote="สามัญชน"]ประเทศที่เอะอะก็จะลดค่าเงินตัวเอง เพื่อผู้ส่งออก เพื่อดุลการค้าระยะสั้น เพื่ออย่างโน้นอย่างนี้ เพื่อเหตุผลร้อยแปด
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 0

ผู้ส่งออกโวยวายอีกแล้ว

โพสต์ที่ 30

โพสต์

jody4003 wrote
ถ้าแทรกแซงนิดๆ ตึงนิดๆ แต่กลไกรัฐยังเต็มไปด้วยความไม่โปร่งใส ไม่สามารถจัดหา infrastructure, กฎหมายที่ชัดเจนและมีเสถียรภาพ, ความยุติธรรมให้แก่ผู้ประกอบการที่มุ่งพัฒนาธุรกิจอย่างแท้จริงแล้ว สุดท้ายก็เจ๊งอยู่ดี
เห็นด้วยครับ แต่ผมแย้งคุณjody4003ว่า ใน quote ที่ยกมานี้ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายครับ

ถ้าไม่สามารถให้การศึกษาลูกหลานไทยให้มีความรู้  เพื่อการแข่งขันที่ดีในอนาคต มีแต่กลุ่มใช้แรงงาน และเป็นแรงงานด้อยคุณภาพ  ครอบครัวแตกแยกติดยาเสพติด เราก็ไม่มีกำลังคนที่มีคุณภาพในปริมาณที่เพียงพอ

และถ้าคนของเราไม่มีจริยธรรมประจำใจ  สุดท้ายไม่ว่าจะรวยแค่ไหนก็จะเป็นต้นกำเนิดของการทุจริค คอรัปชั่นและความไม่โปร่งใสอย่างที่คุณjody4003ว่า ก็เจ๊งอยู่ดี  ใช่ไหมครับ


เขียนมายืดยาวต้องการ
แซวและหยอกล้อจั๊กหน่อยน่ะ........ :lol:
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
โพสต์โพสต์