ประภาส ชลศรานนท์

[por_jai]

8) เผื่อบางคนไม่ได้อ่านกระทู้ในmisc
    เป็นหนังสือที่น่าอ่านจริงๆครับ
    สร้างความชุ่มชื่นให้กับหัวใจ เป็นอย่างมาก
    ขอนำที่โพสไว้มาแปะแนะนำ กระทู้ร้อยคนร้อยเล่มโดยตรง

8) คนเขียนหนังสือ
    อันดับหนึ่งในดวงใจของผมคือ พี่เสก
    หรือ อ.เสกสรร ประเสริฐกุล
    ผมอ่านเวลาพี่เขาเล่าเรื่องแล้วลืมโลกไปเลย
    ไม่ใช่แค่เห็นภาพ
    แต่เหมือนตัวผมเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ที่พี่เขาเล่าให้ฟังด้วย
    แล้วภาษาที่พี่เขาเขียนทั้งที่มันเป็นร้อยแก้ว
    แต่ผมรู้สึกว่ามันงดงามสละสลวย
    จนเหมือนภาษากวี
    ผมตามอ่านหนังสือของพี่เขามาเป็นสิบๆปีแล้ว
    ลึกๆแล้วผมรู้สึกว่ามีคนรู้จักหนังสือของพี่เขาไม่มากนัก
    เพราะหนังสือพี่เขาเขียนบางทีหนักไป(ไม่)หน่อย
    ตลาดคงไม่ชอบ

    อันดับ2นี่ผมเพิ่งได้เคยอ่านหนังสือเมื่อปลายปีที่แล้วนี่เอง
    ทั้งๆที่รู้จักผลงานด้านอื่นมาก้อง2หู
    ส่วนใหญ่แล้ว จะเป็นการเขียนลงหนังสือมติชน
    เป็นการตอบคำถามหรือพูดคุยกัน พอลงไปได้สักพัก
    ก็มารวมเล่ม
    ที่ชอบที่สุดของนักเขียนท่านนี้
    คืออ่านแล้วกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์
    เป็นที่สุดแล้วครับตั้งกะอ่านหนังสือมา
    แล้วแนวเขียนก็จะอิงตามที่ผู้อ่านเขียนมาถามโน่นนี่
    และอีกแนวที่ได้มากๆพอๆกับคือ
    ทำให้มองโลกได้ตามจริง ตรงไปตรงมา
    ซึ่งอ่านแล้วเหมือนมีคนมาช่วยแนะนำทางออกทางเลือกต่างๆในชีวิต
    ผมเพิ่งได้อ่านเล่มล่าสุดจากการไปงานหนังสือเมื่อ28ตค.ที่ผ่านมา
    เพิ่งอ่านจบไป2เที่ยวแล้วครับ
    เที่ยวแรกอ่านอย่างอยากรุ้ผ่านเร็วๆ
    รอบ2เก็บรายละเอียด
    มาแนะนำครับ
    คุ้มเกินคุ้ม ดีแสนดี เหนือคำบรรยายใดๆ
    มาแนะนำสำหรับทุกท่าน เด็กอ่านได้ ผู้ใหญ่อ่านดี
    พี่จิก ประภาส ชลศรานนท์ ครับ

    แมงกะพรุนถนัดซ้าย

[por_jai]

8) ผมไปได้มา3เล่มที่งานสัปดาห์หนังสือที่ศูนย์สิริกิตติ์
    ไปเจอที่บูธของเวิร์คพ๊อยท์เลยครับ
    ที่ซีเอ็ด ผมไม่ทราบจริงๆ

    เล่มแรกผมแนะนำไปแล้วนะครับ แมงกะพรุนถนัดซ้าย
    ซึ่งเป็นการรวมบทความลำดับที่แปด
    เล่มที่สองที่ได้มานี่เป็นการรวมบทความลำดับที่เจ็ด
    เท่าดวงอาทิตย์

[por_jai]

8) เล่มที่สามเป็นรวบรวมบทสัมภาษณ์พี่จิก
    ที่นิตยสารทั้งหลายเคยไปสัมภาษณ์ๆไว้
    อ่านแล้วก็ได้รู้จักแกดีขึ้น
    หลังตู้เย็น



    แถมอีกเล่มครับเล่มนี้เป็นเล่มที่ทำให้ผมได้รู้จักกับพี่จิก
    ก่อนหน้านี้ผมก็พอรู้ว่าแกเป็นคนในวงการเพลง-ละครมาก่อน
    แล้วก็รู้ว่าแกถือหุ้นเป็นมหาเศรษฐีอยู่
    เท่าๆกับพี่ตา ปัญญาในเวิร์คพ๊อยท์
    แต่พอได้อ่านหนังสือเล่มนี้
    จึงได้รู้ที่มาของความเฉียบแหลมของสติปัญญาของพี่จิกเขา
    รู้สึกว่ามีบุญครับที่ได้อ่านหนังสือดีๆอย่างนี้
    เล่มนี้เป็นการรวมบทความ"คุยกับประภาส"ลำดับที่หกครับ
   
    ยอดมนุษย์ลำลอง    

[ดร.โหน่ง]

^O-O^

   
        สวัสดีครับพี่
มนุษย์ลำลองไปซื้อที่ร้านแถวบ้านทางขวางไม่มีเลยครับ
พรุ้งนี้จะลาออกจากความเป็นพ่อสักวัน
ลองทุ่มเทเอามือซุกกระเป๋าไปดูที่ซีเอ็ดทางอ้อมครับ
เห็นชื่อเรื่องแล้วเบาๆ
อยากอ่านแบบตามอำเภอใจไม่รู้สึกฝืนตั้งแต่แรกเห็นมาก
มนุษย์ลำลองท่านนี้มีลมหายใจที่ซับซ้อนกว่าคนธรรมดามากจริงๆครับ

[por_jai]

[quote="ดร.โหน่ง"]^O-O^

[sunrise]

ผมได้อ่านหนังสือ ของแกเกือบทุกเล่มเลยครับ
ทึงกับวิธีเขียนของแก กับวิธีที่แกมองโลกจริง

เป็นคนหนึ่งที่มีความสามารถเปลี่ยนความคิดเป็นทรัพสมบัติได้จริงๆครับ  

[naris]

เดี๋ยวจะหามาอ่านให้ได้ครับ

[bsk(มหาชน)]

เดี๋ยวนี้ไม่เห็นพี่จิกเขียนคอลัมน์ที่มติชนรายวัน ฉบับวันอาทิตย์เลยคับ

เข้าใจว่าคงต้องสงวนสิทธิ์เพื่อสำนักพิมพ์ในเครือ Workpoint ที่เฮียเป็นหุ้นส่วนอยู่

ผมรู้จักแกผ่านงานเขียนเล่มนี้คับ..

"ขอชื่อสุธีสามสี่ชาติ"

ในสมัยนั้น ผมถือว่าเป็นหนังสือที่เขียนได้ฮามากกกกกกกกกกกกกกกกกกก... :lol:

ผมยังเก็บไว้จนทุกวันนี้ แต่ไม่ทราบว่าอยู่ในกล่องหนังสือกล่องไหน

หรือใครที่บ้านอาจจะชั่งกิโลขายแล้ว

แต่นิตยสาร"ไปยาลใหญ่" ยังมีเก็บไว้หลายเล่ม

ที่อยู่ใกล้มือก็มี 2 เล่ม สมัยแกเขียนที่มติชน

- "มะเฟืองรอฝาน"

-"เชือกกล้วยมัดต้นกล้วย"

อ่านประวัติเพิ่มเติม ประภาส ชลศรานนท์

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B% ... 7%E0%B9%8C


เป็นคนที่มีความคิดบรรเจิดจริงๆคับ..

[por_jai]

เดี๋ยวนี้ไม่เห็นพี่จิกเขียนคอลัมน์ที่มติชนรายวัน ฉบับวันอาทิตย์เลยคับ

เข้าใจว่าคงต้องสงวนสิทธิ์เพื่อสำนักพิมพ์ในเครือ Workpoint ที่เฮียเป็นหุ้นส่วนอยู่

ผมรู้จักแกผ่านงานเขียนเล่มนี้คับ..

"ขอชื่อสุธีสามสี่ชาติ"

ในสมัยนั้น ผมถือว่าเป็นหนังสือที่เขียนได้ฮามากกกกกกกกกกกกกกกกกกก... :lol:

ผมยังเก็บไว้จนทุกวันนี้ แต่ไม่ทราบว่าอยู่ในกล่องหนังสือกล่องไหน

หรือใครที่บ้านอาจจะชั่งกิโลขายแล้ว

แต่นิตยสาร"ไปยาลใหญ่" ยังมีเก็บไว้หลายเล่ม

ที่อยู่ใกล้มือก็มี 2 เล่ม สมัยแกเขียนที่มติชน

- "มะเฟืองรอฝาน"

-"เชือกกล้วยมัดต้นกล้วย"
อ่านประวัติเพิ่มเติม ประภาส ชลศรานนท์

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B% ... 7%E0%B9%8C


เป็นคนที่มีความคิดบรรเจิดจริงๆคับ..

8) พี่บีนะพี่บี หายไปเลยนะ ใจร้ายจริงๆ
    พี่บีได้อ่านกระทู้จิบเบียร์ที่พรรคพวกเขานัดกันวันที่2ธค.นี้บ้างหรือเปล่าครับ
    ไปรู้จักกันหน่อยไหมครับ

    อ้อหนังสือ2เล่มที่มาร์คสีน้ำเงินไว้เนี่ย
    ผมต้องทำไงถึงจะได้อ่านครับ
    หาซื้อคงไม่มีแล้ว
    เป็นไปได้ไหมครับที่พี่บี
    จะให้ผมยืมมาถ่ายเอกสารหน่อย
    แฮ่..อยากอ่านจริงๆครับ

[กล้วยทอด]

ถ้าบอกว่าไม่รู้จักจะโดนประนามไหมคะ
แต่เข้าไปดูชื่อเพลงที่แต่งแล้ว
ชอบทั้งนั้นเลย

พี่มหาส่งมา จะสแกนเก็บไว้
ถ่ายเอกสารเกรงจะไม่ค่อยชัดนะคะพี่พอใจ

[bsk(มหาชน)]

สวัสดียามวิกาลอีกครั้งคับพี่พอใจและน้องกล้วยทอด

     อีก 2 เล่มซึ่งน่าจะเป็นเล่มแรกๆที่รวบรวมจากที่ประภาสเขียนที่มติชน

- "คุยกับประภาส"

และ

-"ตัวหนังสือคุยกัน"

ถ้าพี่พอใจต้องการเล่มไหน ผมอาจจะหาซื้อให้ได้คับ ..

ที่บอร์ดวงเฉลียง เห็นรูปพี่ๆเขายังไฟแรงกันอยู่คับ..

http://www.chaliang.com/Board-Detail.asp?ID=09090


เดี๋ยวตามไปดูที่ห้องจิบเบียร์ก่อนคับ

สวัสดีคับ..

[por_jai]

-"คุยกับประภาส"
-"ตัวหนังสือคุยกัน"
- "มะเฟืองรอฝาน"
-"เชือกกล้วยมัดต้นกล้วย

8) ทั้ง 4เล่มนี้สนใจทั้งหมดเลยครับ
    ถ้ามีเป็นเล่มให้สะสมได้ดีที่สุดเลยครับ
    ถ้าเล่มไหนไม่มีขาย
    ยืมมาสแกนแบบที่น้องกล้วยว่าก็ได้ครับ

[bsk(มหาชน)]

เอาเป็นว่า เดี๋ยวผมวิ่งไปถามที่ร้านหนังสือแถวบ้านก่อนนะคับ

เพราะคุ้นๆว่าเคยเห็นอยู่หลายเล่มวางอยู่ที่ชั้นหนังสือ แต่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว

ปกติเค้าจะเวียนหนังสือบนชั้นเป็นระยะๆคับ

และถ้าหมด ก็สั่งให้เค้าหาให้ได้ น่าจะมีแววนะคับพี่พอใจ


2 เล่มแรก เป็นหนังสือรวบรวมคอลัมน์"คุยกับประภาส" ลำดับที่ 1 และ 2

2 เล่มหลัง เป็นลำดับที่ 4 และ 5

อีกเล่มคับ "กบเหลาดินสอ" เป็นหนังสือรวมเล่มในชุด"คุยกับประภาส" ลำดับที่ 3

ได้กี่เล่ม จะรีบมารายงานให้ทราบโดยเร็วที่สุดคับ

ว่าแต่..ตอนนี้คงวิ่งไปถามไม่ทันแล้วคับ

ร้านเค้าปิด 3 ทุ่ม  :lol:

[bsk(มหาชน)]

ถ้าได้เข้ามาแล้ว ชัก(มันส์)ทุกที..

ก่อนจากค่ำคืนนี้...

"ผมชอบดูผีเสื้อบินเท่าๆ กับชอบดูแมงมุมดักเหยื่อ และเช่นเดียวกัน ในวัยเด็กทุกครั้งที่ผมวิ่งไล่จับผีเสื้อ มันจะยิ่งบินหนีจากเราไป ยิ่งพยายามวิ่งไล่มากเท่าไร เราก็ยิ่งผิดหวังไปเรื่อยๆ แต่เมื่อใดก็ตาม ที่เรานั่งลงเงียบๆ นิ่งทั้งกิริยา และนิ่งทั้งหัวใจ ผีเสื้อแสนสวยจะโบยบินมาอยู่รอบๆ ตัวเราเสมอ ความสุขก็เป็นอย่างนั้น "

จากเรื่อง"ความสุข อยู่ตรงไหน "
หนังสือ ตัวหนังสือคุยกัน
ประภาส ชลศรานนท์

[ดร.โหน่ง]

ถ้าได้เข้ามาแล้ว ชัก(มันส์)ทุกที..

ก่อนจากค่ำคืนนี้...

   ลึกซึ้งกินใจครับ  

[tt]

ลองไปสั่งใน web มติชนดูสิครับ ไม่งั้นก็รองานสัปดาห์หนังสือคราวหน้าเขาอาจจะพิมพ์มาขายใหม่

[bsk(มหาชน)]

พี่พอใจคับ...

      ขออภัยที่เงียบหายไปหลายคืน เพราะรอให้แน่ใจว่าจะได้หนังสือหรือไม่

 ร้านแถวบ้านเขาคืนหนังสือไปนานแล้วคับ ผมถามว่าช่วยสั่งให้ได้มั้ย ..

 แล้วจดรายชื่อหนังสือทั้ง 5 เล่มไปให้เขา

 วันนี้ผมได้รับหนังสือนั้นแล้วคับ แต่ได้เพียง 4 เล่ม ดังนี้คับ

1.คุยกับประภาส
2.ตัวหนังสือคุยกัน
3.กบเหลาดินสอ
4.เชือกกล้วยมัดต้นกล้วย

ที่ไม่ได้ก็คือ "มะเฟืองรอฝาน"

ซึ่งเป็นเล่มที่ผมมีพอดี พี่พอใจจะเอาไปอ่านก่อนก็ได้นะคับ

รบกวนพี่พอใจส่ง pm บอกที่อยู่ให้ผมด้วยคับ จะได้จัดส่งให้

แค่นี้ก่อนคับ

bsk(มหาชน)

[MarginofSafety]

สวัสดีครับพี่บี ไม่เห็นนานเลย สบายดีนะครับ ...  :o

[bsk(มหาชน)]

โอ๊ะ..โอ  :o ...

สวัสดียามดึกคับพี่หวี..

   ไม่พบเจอนานเช่นกันคับ ผมสบายดีคับเพียงแต่ช่วงนี้งานส่วนตัวยุ่งสักหน่อยก็เลยหายไป

 เพิ่งได้เข้ามาจริงๆจังๆก็ช่วงสัปดาห์นี้แต่ก็บางคืนวันเท่านั้นคับ หวังว่าพี่หวีจะสบายดีเช่นกัน

 ก็เลยเหงาปากเหงาหูไปบ้าง อิ อิ.. :lol:

[Rocker]

ผม ก็ เสก

แต่ เป็น เสก เสก เสก LOSO ROCK AND ROLL  :D

[oo]

ขอร่วมออกความคิดเห็นด้วยซักหน่อยครับ ในฐานะที่เป็นแฟนพี่จิกมานานตั้งแต่เด็กๆ  ตอนเด็กๆผมชอบหนังสือสุธี ที่แสนจะมีอารมณ์ขัน กับเพลงเฉลียงที่ ฟังดูเหมือนตลกแต่ก็แฝงไปด้วยสัจธรรม  
   พอหนังสือรุ่นหลังๆที่แกตอบ ผมรู้สึกว่าจุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างของพี่จิกที่นอกเหนือจากความคิดสร้างสรรค์แล้วก็คือการมองโลกอย่างใจกว้างมหาศาลครับ เป็นคนที่ทำงานศิลปะ โดยไม่เดียจฉันท์ ทุนนิยม เป็นคนทำงาน ด้านทุนนิยมได้อย่างมีศิลปะ  
   ผมได้กลับไปฟังเพลงเก่าๆ ของเฉลียง ชื่อเพลงต่างกัน กับเพลง อื่นๆอีกมากมาย แล้ว รู้สึกยิ่งทึ่งเข้าไปอีก นึกว่าตอนนั้นแกอายุเท่าไรหนอถึงได้มีความคิดที่ใจกว้างแล้วยังแถมแต่งออกมาเป็นเพลงได้อีก น่าทึ่งมากๆครับ

[bsk(มหาชน)]

รู้สึกยินดีที่เจอคอเหล้า เอ๊ย..คอหนังสือเดียวกัน

[Capo]

สำหรับหนังสือของคุณประภาส
เพิ่งได้ลองชิมเล่ม "เท่าดวงอาทิตย์" ครับ
อ่านจนเกือบจะจบเล่มแล้ว

อย่างคุณประภาสนี้
บอกได้ว่าเป็นคนที่มี Paradigm กว้างมาก ๆ ได้ฤาเปล่าครับ
สังเกตจากความพยายาในการเข้าถึงประเด็นที่แตกต่าง
และบางประเด็นก็พยายามหาทางเข้าหลาย ๆ ทาง

เป็นงานที่อ่านแล้ว
รู้สึกว่าได้แหกกรงครับ

[por_jai]

สำหรับหนังสือของคุณประภาส
เพิ่งได้ลองชิมเล่ม "เท่าดวงอาทิตย์" ครับ
อ่านจนเกือบจะจบเล่มแล้ว

8) เท่าดวงอาทิตย์
    ก็พระจันทร์นะซีครับ

    ผมชอบที่แกบอกว่า
    ดวงดาวที่อยู่ไกลโพ้น ที่เราเฝ้าดูอยู่
    จริงๆมันอาจจะแตกดับไปแล้วก็ได้
    เพราะที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันคืออดีตของมัน
    เพราะเราเห็นมันยังคงอยู่ก็เนื่องจากภาพที่เราเห็นคือ
    แสงที่เดินทางมาเป็นระยะทางไกล
    แล้วก็ใช้เวลาเดินทางมานานเต็มที
    อูย...ชอบมากครับ

[ดร.โหน่ง]

[quote="por_jai"]

[por_jai]

8) มีผู้หญิงคนนึงสับสนเรื่องการมีลูกดีหรือไม่ดี
    สาวนางนั้นไปอ่านสัมภาษณ์ศิลปินเอกของประเทศท่านนึง
    ให้สัมภาษณ์ว่า
    "เรื่องลูกเต้านี่ไม่อยากมีหรอก
     ลูกเป็น ตัวกินฝัน      
     เราเคยฝันจะทำไรก็ทำไม่ได้
     แถมยังต้องซื้อฝันให้ลูกอีก"
     ก็เลยเขียนมาถามพี่จิกว่า เรื่องนี้คิดเห็นเป็นอย่างไร

     อ่านแล้วเห็นด้วยไม่เห็นด้วยยังไงบ้างครับ
     เดี๋ยวผมมาเฉลยที่พี่จิกว่า

[Thonburi Funds]

รอฟังคำเฉลยอยู่นะครับพี่พอใจ  :)

เรื่องลูกนี่ ของผมเป็นอะไรที่ตรงข้ามกับความคิดของศิลปินท่านนั้นเลยครับ

สำหรับผม ลูกเป็นตัว "สร้างฝัน" ครับ  :D

เราไม่เคยฝันว่าจะได้ทำอะไร ก็ได้ทำ ฮ่าๆ
แถมยังเป็นตัวกระตุ้นต่อมฝันชั้นดีเลยครับ

[por_jai]

8) มาต่อเรื่องตัวกินฝันที่ว่า
    พี่จิกแกเปรียบเทียบให้อย่างน่าฟังว่า

    "ผมขออนุญาติเปรียบความฝันที่เรากำลังคุยกันอยู่นี้ให้เป็นต้นไม้
     ขึ้นชื่อว่าถ้าจะปลูกต้นไม้ นอกจากน้ำและปุ๋ยที่เราได้ให้กับมันอย่างสม่ำเสมอแล้ว สิ่งหนึ่งที่เราจำเป็นจ้องระวังไว้อย่างมากก็คือศัตรูของต้นไม้
     เพลี้ย น้ำท่วม หนอนเจาะใบ โรคใบหงิก วัชพืช สัตว์น้อยใหญ่ ฯลฯ    
      เยอะแยะไปหมดครับ "ตัวกินต้นไม้"เหล่านี้
     และเมื่อผมนำมันมาเทียบกับความฝัน ผมกลับคิดว่าเรามีตัวกินฝันอย่างอื่นอีกมากมายที่มาทำให้ความฝันของเราห่อเหี่ยวลงไปเรื่อยๆ ลองไล่กันดูเหมือนที่ผมไล่ตัวกินไม้ไหมครับ
    ความกลัว ความขี้เกียจ ความเห็นแก่ตัว ความท้อแท้ ศักดิ์ศรีบ้าๆบอๆ ฯลฯ    
    และถ้าใครมองว่าการมีลูกเป็นเหตุผลทำให้ความฝันเราเติบโตน้อยลง ผมก็ขอเสนอมุมมองใหม่ว่า การมีลูกก็เหมือนกับการปลูกต้นไม้เล็กๆอีกต้นหนึ่งไว้ข้างๆต้นใหญ่ต้นเก่ามันอาจแย่งอาหารและน้ำจากดินไปจากต้นไม้ใหญ่บ้าง หรือบางทีมันอาจแย่งแสงแดดไปนิดหน่อย อย่างน้อยที่สุดมันก็ต้องแย่งเวลาของคนดูแลต้นไม้ ให้ต้องไปดูแลมันบ้าง
    แต่ผมว่ามันไม่น่ากลัวเหมือน ตัวกินฝัน ตัวอื่นๆเลย
    ความกลัวเอย ความขี้เกียจเอย แมลงพวกนี้ต่างหากที่เจาะต้นฝันเราอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
    และที่สำคัญ เมื่อต้นไม้เล็กที่เราปลูกมันไว้ข้างๆกันอย่างเว้นระยะพอเหมาะเติบโตขึ้น ความร่มครึ้มของความฝันที่เราปลูกมันร่วมกันก็จะแผ่กิ่งก้านร่มรื่นไปทั้งบริเวณ"

[wow]

เป็นคนหนึ่งที่มีความสามารถเปลี่ยนความคิดเป็นทรัพสมบัติได้จริงๆครับ  
_________________
เห็นด้วยมากๆเลยครับ
ผมติดตามงานของพี่จิกมานานแล้ว
แต่เพิ่งเห็นชื่อพี่ใน500เศรษฐีหุ้นไทย
บอกตรงๆว่าอึ้ง+ทึ่งมากๆ
สุดยอดดดดดจริงๆครับพี่

[thumbman2001]

ผมกับภรรยาอ่านหนังสือของคุณประภาสเกือบทุกเล่มครับ
ชอบการมองโลกของแ่กมากครับ เรามีข้อสรุปร่วมกันว่า แกเป็นนักปราชญ์(อย่างน้อยก็ในสายตาของเราสองคน)
เราเคยลองอ่านคำถามที่ผู้อ่านเีขียนไปคุย แล้วลองคิดตอบก่อนที่จะอ่านที่คุณประภาสตอบ มันไม่ได้ความคม ไม่ได้แรงบันดาลใจ อย่างที่คุณประภาสตอบเลยครับ
ถ้าว่างๆหามาอ่่านดูนะครับ ดีจริง