จับฉ่าย

เชิญมาพักผ่อน คลายร้อนนั่งเล่น คุยกันเย็นๆ พร้อมเรื่องกีฬา สัพเพเหระ ทัศนะนานา ชีวิตชีวา สุขภาพทั่วไป บันเทิงขำขัน รอบเรื่องเมืองไทย ชวนเที่ยวที่ไหน อยากไปก็นัดมา ...โย่วๆ
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 31

โพสต์

[quote="por_jai"]
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 32

โพสต์

[quote="ด๊กดิงด่าง"]เคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ผู้เขียนชื่อแดง ไบเลย์ บอกว่า ทางไปสู่ความสุขหามีไม่ ความสุขนั่นแหละคือทาง

ผมตีความว่า ถ้าเรายอมรับกับสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้ เราก็ไม่ทุกข์ไม่ต้องดิ้นรน
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 33

โพสต์

8) ข้อความเมื่อสักครู่
    นั่งพิมพ์ตั้งนานจนที่ล็อกอินไว้ในเวปหลุดเลย
    แล้วไม่ได้เซฟไว้ด้วย
    ตอนจะ ซับมิท เกือบหายหมดแล้ว
    เคยเป็นแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว
    แต่พิมพ์ไม่ยาวเท่านี้
    ใจหายเลยครับ

    ก็มานั่งคิดนะว่า ถ้ามันหายไป จะยอมพิมพ์ใหม่อีกครั้งไหม
    ก็คงจะพิมพ์ใหม่นะเพราะมันเป็นบทความที่ถ่ายเอกสารมา
    มาพิมพ์ลงในกระทู้อีกทอดหนึ่ง

    แต่วันไหนถ้าเขียนออกมาจากกึ๋นละครับ
    มันจะเขียนได้ครบอรรถ เหมือนเดิมไหมหนอ
    หรือจะเป็นอย่างที่ท่านดังตฤณว่าไว้ว่า
    ถ้าได้แล้ว ก็ได้เลย
   
    อือม...น่าคิดนะ
    เรื่องอื่นผมไม่รู้นะ
    เมื่อก่อนทำงานมีสารบัญพิมพ์งานให้ทุกชิ้น
    ตัวเองพิมพ์ดีดไม่เป็น ไม่เคยคิดจะหัด
    แหม ระดับเราต้องพิมพ์ดีดเอง ก็เกินไปหน่อย คิดอย่างนั้น
    มาเดี๋ยวนี้ พิมพ์เองเป็น ก็ดีนะ ได้แล้วได้เลยจริงๆด้วย
   
    ตอนเด็กๆเคยคุยกันกับเพื่อนนะว่า
    ในชีวิตใฝ่ฝันอยากทำอะไรเป็นมากที่สุด
    ก็สรุปได้ตรงกันว่า
    อยากขี่(ต้องขี่นะ ขับไม่ได้ซะด้วย)จักรยานเป็น
    กับว่ายน้ำเป็น
    2อย่างนี่ก็ท่องโลกได้แล้ววว
    ตอนนั้นคิดแค่นี้จริงๆนะ
    แล้ว2อย่างนี้ได้แล้วก็ได้เลยเหมือนกันนะครับ
    (ผมว่าผมค้นพบความลับของการขี่จักรยานกับว่ายน้ำให้เป็น
     ได้อย่างเรียบง่ายที่สุด
     ลูกๆหลานๆผมทั้ง2อย่างนี้ถ้าให้ผมสอน
     จักรยานนี่ไม่เกิน10นาที รับรองไม่มีแผล
     ส่วนว่ายน้ำนี่อาจจะหลายครั้งหน่อย รับรองไม่มีกินน้ำ)
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
NinjaTurtle
Verified User
โพสต์: 506
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 34

โพสต์

[quote="por_jai"]
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 35

โพสต์

8) อย่างท่านฉัตรเจ้าของแนวคิดกำไรเยอะหรือจะสู้เงินสดเยอะและความเด็ดเดี่ยวในการลงทุน
     ท่านแม่ทัพพูดเรื่องเศรษฐศาสตร์ เจ้าของคอลัมน์dear economist เปรื่องจริงๆครับ
     คุณเจ๋งคุยเรื่องธรรมะ กับเรื่องปัญหาชีวิตของน้องๆ คุณเจ๋งนี่ถ้าผมจะให้ฉายาต้องเป็นคู่แข่งพี่แท่งเชียวนะครับ คุณเจ๋งนี่ควรจะชื่อพี่ท่อ  เพราะผมว่าคุณเจ๋ง ตรงยิ่งกว่าท่ออีก เรื่องท่อๆนี่ผมชอบนะครับ โดยเฉพาะท่อทองแดง
     พี่บีพูดเรื่องความเป็นธรรมในสังคม
     น้องหวีวิเคราะห์เอกลักษณ์ของหุ้นตัวนึงๆไม่กี่บรรทัด บอกนิสัยใจคอของหุ้นตัวนั้นได้เห็นภาพรวมมากสุด
     หมอสามัญชนผู้สามารถด้นตั้งแต่ต้นจนถึงอนาคต อนางอของหุ้น หรือความเป็นไปของผู้คนและชีวิต ถ้าจะมีใครใกล้ๆจะเป็นนักปราชญ์ได้สักคน ก็หมอนี่แหละครับ(กลัวเหลือเกินว่าหมออาจคิดอยู่ในใจว่าตรูเป็นอยู่แล้วเฟ้ย)
     เฮียปรัชญา,หมอชาตรีผู้เป็นตัวอย่างที่เรื่องความห่วงใย เผื่อแผ่ ผู้คน
     ท่านCKที่ผมว่าในเวปนี้ความรู้รอบตัวรอบเอว ไม่มีใครจับต้องได้
     ท่านนัน,ท่านโอ@, Onokung,MisterK,Dr.T,หมอ Eyoreและน้องโยโย่ ที่สวนควันปืน(มีจุดยืนที่ชัดเจน มีความมั่นใจในตัวเอง)ยืนตะโกนดังๆอยู่ตลอด
     ดร.โหน่งที่สามารถมองโลกและผู้คนในมุมบวกได้ตลอด
     ท่านนักดูดาวและน้องบอลที่สามารถประสานทั้งคนทั้งงานเข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ ภาษาอุนเลี้ยงเง็กว่าภูษิตฟ้าไร้ตะเข็บ
     น้องต้อม ฟอเรสฟอเรสกั๊ม กับท่านมัฟฟินทีคล้ายๆกันโดยบังอิญคนนึงอยู่กทม.อีกคนอยู่เชียงราย แต่มีความแจ่มใสมีพลังชีวิตเต็มเปี่ยมได้ทั้งวัน
     พี่แมทที่หัวคิดริเริ่มสุดยอดและทายบอลเก่งโคตรๆ
     (พี่แมทหายไปเพราะโกรธพวกเราตอนยุบกระทู้การเมืองแน่ๆเลย)
     คุณวิบูลย์,คุณนริสที่ไม่เพียงแค่คิดดีคิดเร็วคิดถูกแถมลงมือทำก็ดี,เร็วจึงมักซื้อของได้ถูก
     อาจารย์มนที่ทุ่มเทสอนหนังสือผมจนตัวเองหน้าเขียวหน้าเหลืองกลัวพวกเราได้ไปไม่คุ้ม จนลมจะใส่ ทุ่มเทอย่างนี้ทำไรก็สำเร็จครับ
     ท่านหัวหน้าพรรค พี่เพื่อน ที่เชี่ยวเรื่องประยุกต์งานที่ทำตลอดจนประสบการณ์ชีวิตเข้ากับสถานการณ์ทุกอย่างรอบๆตัว
     ท่านลูกอิสานที่ออกมาพูดและทำอย่างสม่ำเสมอว่าเวบหุ้นก็ต้องคุยเรื่องหุ้นสิครับ
     พี่ครรชิต นายพลแพตตัน ห้าดาว คนเดียวของเวบนี้
     น้องวรพงศ์ อินเดียน่า โจนส์ยอดนักผจญภัยในมุมมองของผม
     ท่านคัดท้าย ผู้ตั้งชื่อกับพฤติกรรมของตัวเองได้สอดคล้องกัน
กันจนแม้แต่เฮียคลายเครียดยังยกนิ้วให้ว่า สุดยอดVSOP ต้องคนนี้
     ท่านมหัศจรรย์ miracle ที่มีแนวคิดมหัศจรรย์สมชื่อ
     ท่านRockerที่อาศัยการถามบ่อยๆเพื่อต่อยอดองค์ความรุ้ของตัวเองตลอด
     พี่เต่าหยวนเปียว กะ พี่hot ที่เหมือนกัน คือโพสสั้นที่สุด
ได้ความหมายมากที่สุด
     
     
     ชอบโดนัล ทรัมป์ใน the apprenticeประโยคนี้ครับ  ดูคนอย่าดูที่หน้าตา บอกอะไรไม่ได้เลยเกี่ยวกับการทำงาน
         ยกตัวอย่างคุณสมบัติ เหล่านี้ อย่างนี้
     ได้แล้วได้เลย หรือเปล่าครับ
     ได้แล้วได้เลย หรือเปล่าครับ
     ได้แล้วได้เลย หรือเปล่าครับ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 36

โพสต์

[quote="NinjaTurtle"][quote="por_jai"]
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
NinjaTurtle
Verified User
โพสต์: 506
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 37

โพสต์

ขอบคุณครับพี่ :pray: ตอนนี้ตัวตัวผมเกือบ 4ขวบได้แล้ว พาไปถีบจักรยานที่สวนรถไฟ เช่าแบบมีล้อค้ำ คิดอยู่ว่าจะหัดยังไงดีบ้านไม่ได้มีที่กว้างพอครับเลยยังไม่อยากซื้อ ต้องไปลองดูว่าที่ร้านมีขนาดที่เขาพอจะยืดขาถึงไหมได้ไหม
ดร.โหน่ง
Verified User
โพสต์: 877
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 38

โพสต์

[quote="por_jai"]8) ความรู้ที่ท่านอาจจะยังไม่รู้

1.รู้รอบตัวมากมาย แต่ไม่รู้ดีรู้ชั่วก็เสื่อม
2.รู้เว้นงูเว้นเสือเว้นปืน ไม่รู้เว้นอบายมุขก็เสื่อม
3.รู้สร้างสนามบินใหม่ๆ(สุวรรณภูมิ) แต่ไม่รู้สร้างนิสัยใหม่ๆ(นิสัยไม่ขี้โกง)ก็เสื่อม
4.รู้ตอบคำถาม แต่ไม่รู้ตอบแทนบุญคุณก็เสื่อม
5.รู้ที่กินที่เที่ยว แต่ไม่รู้ที่ต่ำที่สูงก็เสื่อม
6.รู้วันเดือนปีเกิด แต่ไม่รู้กาลเทศะก็เสื่อม
7.รู้พยากรณ์อากาศ แต่ไม่รู้ว่าชีวิตมีขึ้นมีลงก็เสื่อม
8.รู้จักรวาลวิทยา แต่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำก็เสื่อม
9.รู้จักคนมากมายหลายวงการ แต่ไม่รู้จักตัวเองก็เสื่อม
10.รู้จักวิธีบริหารคน บริหารงานแต่ไม่รู้จักบริหารกิเลสก็เสื่อม
11.รู้วิธีหาเงินมากมาย แต่ไม่รู้วิธีใช้เงินให้เป็นก็เสื่อม
12.รุ้วิธีสร้างตึกนับร้อยชั้น แต่ไม่รู้วิธีฝึกใจให้สูง ก็เสื่อม
13.รู้คุณค่าเงินทอง แต่ไม่รู้คุณพ่อแม่ก็เสื่อม
14.รู้กฏกติกา แต่ไม่ทำตามกติกาก็เสื่อม
15.รู้จักสวมนาฬิกาแพงๆ แต่ไม่รู้คุณค่าของเวลาก็เสื่อม
16.รู้วิธีเข้าหาสังคม แต่ไม่รู้วิธีเข้าหาสังฆะ ก็เสื่อม
17.รู้วิธีเรียนเอาปริญญาสูงๆ แต่ไม่รู้จักยกพฤฒิกรรมให้สูงก็เสื่อม
18.รู้ที่จะมีลูก แต่ไม่รู้จักเลี้ยงลูก ก็เสื่อม
19.รู้ที่จะรัก แต่ไม่รู้ดูแลคนรัก ก็เสื่อม
20.รู้ที่จะดู แต่ไม่รู้ที่จะเห็น ก็เสื่อม
21.รู้วิธีที่จะสวมหัวโขน แต่ไม่รู้วิธีถอดหัวโขน ก็เสื่อม
22.รู้ว่าวันหนึ่งจะต้องตาย แต่ไม่รู้วิธีเตรียมตัวตายก็เสื่อม
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 39

โพสต์

รูปภาพ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 40

โพสต์

รูปภาพ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 41

โพสต์

รูปภาพ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 42

โพสต์

รูปภาพ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 43

โพสต์

8) What a resort.......

รูปภาพ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 44

โพสต์

รูปภาพ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 45

โพสต์

รูปภาพ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 46

โพสต์

รูปภาพ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 47

โพสต์

รูปภาพ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 48

โพสต์

รูปภาพ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ดร.โหน่ง
Verified User
โพสต์: 877
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 49

โพสต์

^O-O^
                   .....อยากไปจังคราบบบบบ
              /:'O\
               U
             /   \
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 50

โพสต์

ba_2l เขียน:โอยยย....รีสอร์ทที่ไหนครับพี่พอใจ
8) มันมากับอีแมวครับ
    ผมดันเซฟรูปไว้ ลบชื่อเมล์ไปแว้ว
    ด้วยเห็นบ่อยครั้งว่าชื่อสถานที่นั้นไม่ค่อยตรงกับรูปเท่าใด
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
Capo
Verified User
โพสต์: 1067
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 51

โพสต์

น่าจะเป็นเกาะ Borabora ใน Tahiti ครับพี่ ๆ

http://www.borabora.fr/bora_bora/fond_d ... a_bora.htm

ปล.รูปที่เขาโชว์เอามาทำเป็นวอลล์เปเปอร์ได้นะครับ

ขอบคุณพี่ ๆ ครับ
มีแต่ข้อคิดดี ๆ ทั้งนั้นเลย
... จุดเริ่มต้นของคนเราไม่สำคัญ

มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 52

โพสต์

8) ท่านว.วชิรเมธี มาอีกแล้วครับท่าน

รูปภาพ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 53

โพสต์

8) ของท่านดังตฤณครับ

รูปภาพ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 54

โพสต์

รูปภาพ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 55

โพสต์

รูปภาพ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
Raphin Phraiwal
Verified User
โพสต์: 1342
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 56

โพสต์

ขอบคุณครับพี่พอใจ
รักในหลวงครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 57

โพสต์

รูปภาพ

ปรัชญาจากหลอดยาสีฟัน

ผมมีภาพๆ หนึ่งเอามาให้ดูกัน เป็นภาพหลอดยาสีฟันที่ถูกใช้แล้วครับ เห็นทีแรกไกลๆ ก็ไม่รู้สึกอะไรมากหรอกครับ เป็นภาพที่ติดอยู่บนบอร์ดที่โรงเรียนของลูก ระหว่างที่ยืนรอลูกๆ ลงมาจากห้องเรียนจึงได้อ่านข้อความที่ประกอบภาพนี้อย่างละเอียด

ภาพหลอดยาสีฟันที่เห็นนี้ต้องเรียกว่าเป็นหลอดยาสีพระทนต์ประวัติศาสตร์ เพราะนี่คือหลอดยาสีพระทนต์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เห็นแล้วรู้สึกเหมือนผมไหมครับความฉ่ำเย็นจากที่ไหนก็ไม่รู้อาบลงมากลางกระหม่อมเลย ภาพนี้ถูกตีพิมพ์เป็นโปสเตอร์โดยคณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์ ครูที่โรงเรียนของลูกผมไปพบเข้าเลยนำมาถ่ายสำเนาติดบอร์ดให้เด็กนักเรียนได้ เรียนรู้และเข้าใจคำว่า "ประหยัด" ศาสตราจารย์พิเศษทันตแพทย์หญิง ท่านผู้หญิงเพ็ชรา เตชะกัมพุช ทันตแพทย์ประจำพระองค์อดีตคณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขียนเล่าให้ฟังว่า


"ครั้งหนึ่งทันตแพทย์ประจำพระองค์กราบถวายบังคมทูลเรื่องศิษย์ทันตแพทย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยบางคนมีค่านิยมในการใช้ของต่างประเทศและมีราคาแพง รายที่ไม่มีทรัพย์พอซื้อหาก็ยังขวนขวายเช่ามาใช้เป็นการชั่วครั้งชั่วคราว ซึ่งเท่าที่ทราบมามีความแตกต่างจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่ทรงนิยมใช้กระเป๋าที่ผลิตภายในประเทศเช่นสามัญชนทั่วไป ทรงใช้ดินสอสั้นจนต้องต่อด้าม แม้จนยาสีพระทนต์ของพระองค์ท่านก็ทรงใช้ด้ามแปรงพระทนต์รีดหลอดยาจนแบน จนแน่ใจว่าไม่มียาสีพระทนต์หลงเหลืออยู่ในหลอดจริงๆ

เมื่อกราบบังคมทูลเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งว่า ของพระองค์ท่านก็เหมือนกัน และยังทรงรับสั่งต่อไปด้วยอีกว่า เมื่อไม่นานมานี้เองมหาดเล็กห้องสรงเห็นว่ายาสีพระทนต์ของพระองค์คงใช้หมดแล้ว จึงได้นำหลอดใหม่มาเปลี่ยนให้แทน เมื่อพระองค์ได้ทรงทราบก็ได้ขอให้เขานำยาสีพระทนต์หลอดเก่ามาคืน และพระองค์ท่านยังทรงสามารถใช้ต่อไปได้อีกถึง 5 วัน จะเห็นได้ว่าในส่วนของพระองค์ท่านเองนั้นทรงประหยัดอย่างยิ่ง ซึ่งตรงกันข้ามกับพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ที่ทรงพระราชทานเพื่อราษฎรผู้ยากไร้อยู่เป็นนิจ พระจริยาวัตรของพระองค์ได้แสดงให้เห็นอย่างแจ่มชัดถึง พระวิริยะ อุตสาหะ ตลอดจนความประหยัดในการใช้ของอย่างคุ้มค่า หลังจากนั้น ทันตแพทย์ประจำพระองค์ได้กราบพระบาททูลขอพระราชทาน หลอดยาสีพระทนต์หลอดนั้นเพื่อนำไปให้ศิษย์ได้เห็นและรับใส่เกล้าเป็นตัวอย่าง เพื่อประพฤติปฏิบัติในโอกาสต่อๆ ไป ประมาณหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชทาน ส่งหลอดยาสีพระทนต์เปล่าหลอดนั้นมาให้ถึงบ้านทันตแพทย์ประจำพระองค์รู้สึกซาบซึ้ง ในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นเกล้ายิ่งเมื่อได้พิจารณาถึงลักษณะของหลอดยาสีพระทนต์เปล่าหลอดนั้นแล้ว ทำให้เกิดความสงสัยว่า เหตุใดหลอดยาสีพระทนต์หลอดนี้จึงแบนราบเรียบโดยตลอด คล้ายแผ่นกระดาษโดยเฉพาะบริเวณคอหลอดยังปรากฏรอยบุ๋มลึกลงไปเกือบถึงเกลียวคอหลอด เมื่อได้มีโอกาสเข้าเฝ้าอีกครั้งในเวลาต่อมาจึงได้รับคำอธิบายจากพระองค์ว่า หลอดยาสีพระทนต์ที่เห็นแบนเรียบนั้นเป็นผลจากการใช้ด้ามแปรงสีพระทนต์ช่วยรีดและกด จนเป็นรอยบุ๋มที่เห็นนั่นเองและเพื่อที่จะขอนำไปแสดงให้ศิษย์ทันตแพทย์ได้เห็น เป็นอุทาหรณ์จึงได้ขอพระราชาอนุญาตซึ่งพระองค์ท่านก็ได้ทรงพระเมตตาด้วยความเต็มพระทัย"


ผมมีโอกาสได้ยืนมองดูรูปหลอดยาสีพระทนต์หลอดนี้อยู่เนืองๆ เวลาไปรอรับลูกที่โรงเรียนและเมื่อยิ่งดูก็ยิ่งได้รับรู้ถึงปรัชญาที่พระองค์ พระราชทานผ่านมาทางหลอดยาฯนี้แล้วผมก็พบว่าแก่นแท้ของการประหยัดมันอยู่ตรงนี้นี่เอง ไม่ใช่ไม่ยอมใช้เลย แต่ต้องรู้จักใช้ และต้องรู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ไม่ใช้แบบเหลือทิ้งเหลือขว้าง


ตัดตอนจากคอลัมภ์คุยกับประภาส หนังสือพิมพ์มติชน
ภาพประวัติศาสตร์ โดย ประภาส ชลศรานนท์
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 58

โพสต์

8) เห็นว่าเวบนี้คนหนุ่มๆไฟแรงทั้งน้าน ก็เลยนำมาฝากนะ..

คุยกับประภาสอาทิตย์ที่6พ.ค2544"จดหมายจากคนล่าฝัน"
คุยกับประภาส
จดหมายจากคนล่าฝัน

อาทิตย์ก่อนเขียนเรื่อง อย่าละเลยในความฝันไป มีเสียงสะท้อนเกี่ยวกับเรื่องนี้กลับมามากมายจนน่าแปลกใจ เหมือนกับว่าโลกยุคข่าวสารฉับไวนี้มีคนหนุ่มสาวอีกมากที่ยังวิ่งไล่ความฝันกันอย่างขมักเขม้น
หลายคนอาจจะเหนื่อย ความท้อแท้อาจแวะเวียนเข้ามานั่งในเรือนใจจนอยากยอมแพ้ และอีกหลายคนยังสองจิตสองใจที่จะตัดสินเปลี่ยนแปลงชีวิตอย่างรุนแรงก็อย่างที่บอกนั่นแหละครับ เงื่อนไขแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเรื่องค่าครองชีพ สังคมรอบตัว ความอดทนหรือแม้แต่พรสวรรค์ ไม่มีใครตอบปัญหานี้ได้เด็ดขาดว่าอย่างไหนดีกว่าอย่างไหน
อยากให้ลองอ่านกันดูครับ บางทีจดหมายบางฉบับของเพื่อนๆเหล่านี้อาจให้แง่คิดให้เราตัดสินใจว่าจะรุกต่อหรือว่าตั้งรับกับสงครามตามล่าฝันครั้งนี้ดี

สวัสดีค่ะพี่ประภาส
เพิ่งอ่านคอลัมน์คุยกับประภาสจบน่ะค่ะ เลยคันไม้คันมืออยากเขียนมาคุยบ้าง เห็นด้วยจังเลยค่ะที่ว่าเราควรรักในงานที่เราทำ เคยอ่านจากที่ไหนก็ไม่รู้ค่ะว่าเคล็ดลับในการที่จะมีความสุขในชีวิตไม่ได้อยู่ที่การทำในสิ่งที่รัก แต่อยู่ที่การรักในสิ่งที่ได้ทำ ตอนแรกคิดว่าฟังดูไม่ค่อยเข้าท่านะคะที่จะบอกให้คนปลงตก ฟังดูห่อเหี่ยวชะมัด แต่ลองคิดดูสิคะมันเป็นความจริงที่สุดเลย จะมีใครบ้างคะที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักตลอด มีแต่คงน้อยมาก พวกเค้าโชคดีจริงๆค่ะ แต่คนส่วนใหญ่อย่างพวกเราจะไปนั่งจ๋อยทำไมล่ะคะ เราก็รักในสิ่งที่เรา(จำเป็น)ต้องทำไปก่อน แล้วก็ทำมันให้ดีที่สุด งานจะได้ออกมาดี อีกอย่างก็จะได้หาเลี้ยงตัวเองให้รอดได้ด้วย ส่วนเรื่องที่เรารักอยากจะทำจริงๆเราก็ค่อยๆมองหาลู่ทางกันต่อไปไม่ได้ทิ้งซักกะหน่อย ถ้าเป็นเรื่องที่เราอยากทำจริงๆมันต้องไม่หายไปจากความตั้งใจเราหรอกค่ะ คิดง่ายๆสิคะว่าคนไม่มีตังค์อยากไปทัวร์ยุโรปก็อาจจะได้ไปก็ได้สักครั้งในชีวิต ไม่มีอะไรแน่นอนหรอกค่ะ เพียงแต่ว่าไม่ใช่จะได้ไปวันนี้พรุ่งนี้หรือแม้แต่ปีนี้ก็เท่านั้นเอง
คือว่าตอนนี้บังเอิญได้ทำงานที่ไม่ค่อยจะได้ตั้งใจไว้เท่าไหร่น่ะค่ะ งานอะไรก็ไม่รู้หนักสุดๆ วันๆมีเวลาเป็นของตัวเองแค่ ๗-๘ ชั่วโมงเท่านั้น ยิ่งช่วงนี้ทำอาทิตย์ละ ๖ วันเป็นอย่างต่ำด้วยแน่ะ แต่ไม่มีทางเลือกเลยก้มหน้าก้มตาทำไปให้เต็มที่
ปรากฎว่าได้เรื่องค่ะ ผลงานน่าภูมิใจดีเหมือนกัน เลยรู้สึกชอบขึ้นมาเล็กๆแล้วค่ะ
ปั๊น
พี่ประภาสครับ
ขอบคุณมากสำหรับคอลัมน์คุยกับประภาส อาทิตย์นี้ สิ่งที่พี่เขียน เป็นสิ่งที่ผมคิดอยู่และทำอยู่เสมอ ผมบอกกับตังเองว่า ...เราอาจทำเพื่อความฝันของคนอื่น ...แต่เราจะมีชีวิตอยู่ได้ด้วยความฝันของเราเอง ผมรักงานที่ผมทำอยู่ตอนนี้ ดีใจที่เวลาคุยกับคนไข้แล้วเขาบอกว่าน้ำตาลเขาลดลง หลังสี่โมง ผมจะนั่งตัดกระดาษ ทำหนังสือทำมือ เอมใจกับความรู้สึกแบบนั้น เจ้าชายน้อย

ถึงคุณประภาส
ฉันเคยเป็นครูมาก่อน แต่มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักเขียน เลยลาออกมา ทั้งที่ใคร ๆ หลายคนบอกฉันว่า ให้อยู่เพื่อเด็ก ๆ เพราะฉันเป็นครูที่ดี มาวันนี้ ความฝันฉันก็ยังไปไม่ถึงไหน รวมระยะเวลาที่เรียนจบและตกงานอีก ๓ ปี ฉันยังคงลังเลอยู่ไม่เคยเปลี่ยน อาจเพราะไม่เข้าใจอะไรบางอย่าง มาถึงตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณค่ะ
พับดาว

สวัสดีครับพี่ประภาส
ผมเป็นแฟนหนังสือและเพลงของพี่มานานแล้ว อ่านเรื่อง อย่าละเลยในความฝัน ในมติชนแล้วอยากเขียนมาเล่าเรื่องตัวเองให้พี่ฟัง ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ลาออกจากงานมาทำอย่างที่ตัวเองฝัน สามปีก่อนผมทำงานเป็นฝ่ายศิลป์อยู่บริษัทโฆษณาแห่งหนึ่ง จะว่าไปผมก็ได้ทำงานอย่างที่ตัวเองฝันเหมือนกัน (ตอนเด็กๆผมตั้งใจไว้ว่าจะทำงานด้านศิลปะเลี้ยงชีพเท่านั้น ผมชอบเล่นดนตรีกับวาดรูป) ผมทำงานที่บริษัทนั้นยังไม่ถึงปีเลยก็รู้สึกอึดอัด คือถึงแม้จะได้ทำงานศิลปะก็จริงแต่งานมันต้องหนักมาก ทำแล้วแก้ แก้แล้วทำ เหมือนทำงานที่ไม่รู้จุดจบ แก้ไขตามอารมณ์ของลูกค้าบ้าง หัวหน้าเราบ้าง เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไอ้เหนื่อยน่ะไม่เท่ากับเขาไม่เห็นคุณค่าเรา พองานสำเร็จดีเขาก็ไปเลี้ยงฉลองกัน ไม่เห็นบอกว่าเรามีส่วนร่วมอยู่ด้วยเลย ผมก็เลยเริ่มฝันที่จะทำงานศิลปะที่ผมเป็นเจ้าของกิจการเอง(ตอนนั้นรู้สึกคิดการณ์ใหญ่น่าดู) แล้วผมก็ลาออกเลย คิดว่าถ้าไม่ออกก็คงไม่ได้เริ่ม ผมมาเปิดร้านทำกรอบรูปหุ้นกับเพื่อนเก่า ทำกรอบรูปแบบมีดีไซน์ ทำอยู่ ๗ เดือนเจ๊งไม่เป็นท่า แถมยังมองหน้ากับเพื่อนแทบไม่ได้อีก ตอนนั้นสมน้ำหน้าตัวเองมาก แล้วก็เลยกลับมาทำงานที่บริษัทเก่า(แต่คราวนี้เขาไม่ให้ทำประจำแล้ว ให้ทำเป็นฟรีแล้นท์)
เมื่อเดือนธันวาปีที่แล้วแฟนผมชวนไปดูคอนเสริต์เฉลียง ทีแรกก็เฉยๆถึงจะชอบเฉลียงมากก่อนก็ตาม รู้สึกมันเลยวัยที่จะไปดูคอนเสิร์ตแล้ว แต่ก็อยากตามใจแฟนเลยได้เข้าไปดู แฟนผมเขาร้องไห้ตอนจบของคอนเสิร์ต แต่เขาไม่รู้ว่าผมน่ะแอบน้ำตาไหลตอนกลางๆ
เพราะเพลงย้ำคิดย้ำฝันของพี่นั่นแหละ ผมว่าพี่แต่งเพลงนี้ให้ผมแน่ๆ ผมกลับไปยืมเงินแม่มาเปิดร้านกรอบรูปของตัวเองใหม่ ทีนี้ผมเริ่มอย่างคนตัวเล็กๆแล้ว ไม่ทำหน้าใหญ่เอาทำเลที่ดีจนสู้ไม่ไหวอีก ๒-๓ เดือนที่ผ่านมาผมเริ่มอยู่ได้ มีกำไรบ้าง ใครว่าร้านผมอยู่ในซอยลึกผมก็จะไปรับงานถึงที่ ผมว่าฝันของผมเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว
อยากขอบคุณพี่และเพลงของเฉลียง และฝากบอกไปถึงคุณเคนด้วยว่า ไหนๆก็หิ้วกระเป๋าออกมาแล้วอย่าไปยอมแพ้มัน
พรเทพ

พี่ประภาสครับ
มีบางสิ่งที่คนเราต้องทำเพื่อการดำรงชีวิต และบางสิ่งทำเพื่อความสุขในชีวิต ผมก็พอแต่งเพลงได้นิดหน่อย เพราะหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่ามีความสุขที่ได้ทำ ไม่ต้องให้คนทั้งประเทศมาฟังก็ได้ แค่มีคนกลุ่มเล็กๆที่คุ้นเคยได้ฟังก็พอ ผมเขียนหนังสือได้ แต่ก็คงไม่ดีขนาดจะรวมเล่มตีพิมพ์ขาย แต่ผมก็ยังคงเขียน ถ้าอยากเขียน ก็ผมมีความสุขนี่ครับ และให้เพื่อนๆได้อ่านก็พอแล้ว เพราะบังเอิญผมไม่ได้ฝันที่จะเป็น นักเขียนหรือนักร้องที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ผมแค่ฝันว่าจะมีเพลงที่แต่งเองร้องเอง ฝันว่าจะมีหนังสือที่ตัวเองเขียน ไว้ให้ตัวเองภูมิใจ
ผมคิดว่าบางทีคนเราก็ไม่มีความชัดเจนในเรื่องที่ใฝ่ฝัน บางคนคิดว่าตัวเองฝันอยากเป็นนักแต่งเพลง โดยที่ความจริงแล้วเขาฝันอยากมีชื่อเสียงจากการเป็นนักแต่งเพลงต่างหาก บางคนคิดว่าตัวเองฝันอยากเป็นนักเขียน โดยที่ความจริงแล้วเขาฝันอยากเป็นคนที่ได้รับการยอมรับ จากการเป็นนักเขียนต่างหาก
ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นเขาก็จะยังไม่มีทางมีความสุขกับ การแต่งเพลงหรือการเขียนหนังสือที่สามารถทำได้ทุกครั้งที่มีโอกาส จนกว่าเขาจะมีชื่อเสียงจากการเผยแพร่บทเพลงให้เป็นที่รู้จัก หรือเผยแพร่งานเขียนให้เป็นที่ยอมรับ
กระแสลม

ถึงคุณประภาส
เคยแอบฝันแบบนี้เหมือนกัน แต่หลังจากวันนั้นที่ผ่านอนุสาวรีย์ชัยฯ รู้สึกอายขอทาน ที่เขาทำความฝันแบบเดียวกันนี้ได้ดีกว่าเรา(ไม่ได้ฝันว่างเปล่า)เขายังเอาดีจนมีรายได้กลายเป็นอาชีพได้ แต่ก็ยังรักที่จะฝัน เหมือนเรารักพระจันทร์คืนวันเพ็ญที่เพียงแค่ได้เห็นและแค่ได้รัก

อะตอม


มีเรื่องตลกเรื่องหนึ่งจะเล่าให้ฟัง ผมฟังมาตั้งแต่สมัยเด็กๆแล้ว

ชายคนหนึ่งประกาศจะว่ายฟรีสไตล์ข้ามช่องแคบโฟร์ตี้ฮันเดรดซึ่งมีความกว้างสี่พันหลาดังชื่อ มีผู้คนมาเฝ้าดูเขามากมายรวมทั้งสื่อมวลชนที่มาทำข่าว เขาเริ่มออกว่ายท่ามกลางเสียงเชียร์ของคนดูทั้งสองฝั่ง เหลืออีกเพียงร้อยกว่าหลาก็จะถึงอีกฝั่งหนึ่ง จู่ๆเขาก็เอี้ยวตัวว่ายกลับมาที่ฝั่งเดิม ทันทีที่ถึงฝั่งนักข่าวรีบเข้าไปสัมภาษณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาบอกหลังจากหายเหนื่อยหอบว่าความจริงตลอดเดือนมานี้เขาซ้อมมาอย่างดีแล้ว แต่วันนี้คนดูเยอะไปหน่อยทำให้เขาตื่นเต้นมากไป ว่ายไปจนเหลืออีกร้อยกว่าหลาก็จะถึงอีกฝั่งหนึ่งแล้ว เกิดเหนื่อยขึ้นมากระทันหันเลยตัดสินใจว่ายกลับ เดือนหน้าเขาจะลองใหม่
ฟังแล้วจะหัวเราะขันหรือจะฉุกคิดก็ตามสะดวกครับ

ใครที่ว่ายจนเหลือร้อยกว่าหลา ว่ายต่อไปเถิดครับผมจะช่วยร้องเชียร์ แต่ใครที่ยังไม่กระโดดลงมา เอามือป้องหน้าผากแล้วมองฝั่งโน้นให้ดีๆ และก็อย่าลืมถามใจกับถามมือตัวเองดู ว่าใจเราเติบไปไหม มือเรานิ่มไปหรือเปล่า
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 59

โพสต์

นักศึกษาปริญญาโท

ชายหนุ่มคนหนึ่งได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัยเอกชน เพื่อให้เป็นวิทยากรพิเศษสอนวิชาปรัชญาให้กับนักศึกษาปริญญาโท เขาเตรียมการสอนอยู่หลายวันจึงตัดสินใจจะสอนนักศึกษาเหล่านั้นด้วยแบบฝึดหัดง่ายๆ แต่แฝงไว้ด้วยข้อคิด





เขาเดินเข้าห้องเรียนมาพร้อมด้วยของสองสามอย่างบรรจุอยู่ในกระเป๋าคู่ใจ

เมื่อได้เวลาเรียน เขาหยิบเหยือกแก้วขนาดใหญ่ขึ้นมา แล้วใส่ลูกเทนนิสลงไปจนเต็ม

"พวกคุณคิดว่าเหยือกเต็มหรือยัง?" เขาหันไปถามนักศึกษาปริญญาโท

แต่ละคนมีสีหน้าตาครุ่นคิดว่าอาจารย์หนุ่มคนนี้จะมาไม้ไหนก่อนจะตอบพร้อมกัน "เต็มแล้ว..."

เขายิ้มไม่พูดอะไรต่อหันไปเปิดกระเป๋าเอกสารคู่ใจ

หยิบกระป๋องใส่กรวดออกมา แล้วเทกรวดเม็ดเล็กๆ จำนวนมากลงไปในเหยือกพร้อมกับเขย่าเหยือกเบาๆ
กรวดเลื่อนไหลลงไปอยู่ระหว่างลูกเทนนิสอัดจนแน่นเหยือก เขาหันไปถามนักศึกษาอีก

เหยือกเต็มหรือยัง?"

นักศึกษามองดูอยู่พักหนึ่งก่อนจะหันมาตอบ "เต็มแล้ว..."

เขายังยิ้มเช่นเดิม หันไปเปิดกระเป๋าหยิบเอาถุงทรายใบย่อมขึ้นมา และเททรายจำนวนไม่น้อยใส่ลงไปในเหยือก เม็ดทรายไหลลงไปตามช่องว่างระหว่างกรวดกับลูกเทนนิสได้อย่างง่ายดาย เขาเทจนทรายหมดถุง เขย่าเหยือกจนเม็ดทรายอัดแน่นจนแทบล้นเหยือก

เขาหันไปถามนักศึกษาอีกครั้ง เหยือกเต็มหรือยัง?"

เพื่อป้องกันการหน้าแตกนักศึกษาปริญญาโทเหล่านั้นหันมามองหน้ากัน ปรึกษากันอยู่นาน
หลายคนเดินก้าวเข้ามาก้มๆ เงยๆ มองเหยือกตรงหน้าอาจารย์หนุ่มอยู่หลายครั้ง มีการปรึกษาหารือกันเสียงดังไปทั้งห้องเรียน จวบจนเวลาผ่านไปเกือบห้านาที หัวหน้ากลุ่มนักศึกษาจึงเป็นตัวแทน เดินเข้ามาตอบอย่างหนักแน่น

คราวนี้เต็มแน่นอนครับอาจารย์"

แน่ใจนะ"

แน่ซะยิ่งกว่าแน่อีกครับ"

คราวนี้เขาหยิบน้ำอัดลมสองกระป๋องออกมาจากใต้โต๊ะแล้วเทใส่เหยือกโดยไม่รีรอ ไม่นานน้ำอัดลมก็ซึมผ่านทรายลงไปจนหมด ทั้งชั้นเรียนหัวเราะฮือฮากันยกใหญ่ เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

ไหนพวกคุณบอกว่าเหยือกเต็มแน่ๆ ไง" เขาพูดพลางยกเหยือกขึ้น

ผมอยากให้พวกคุณจำบทเรียนวันนี้ไว้ เหยือกใบนี้ก็เหมือนชีวิตคนเรา
ลูกเทนนิสเปรียบเหมือนเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต เช่น ครอบครัว คู่ชีวิต การเรียน สุขภาพ ลูก และเพื่อน สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่คุณต้องสนใจจริงจัง สูญเสียไปไม่ได้

เม็ดกรวดเหมือนสิ่งสำคัญรองลงมา เช่น งาน บ้าน รถยนต์

ทรายก็คือเรื่องอื่นๆ ที่เหลือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราจำเป็นต้องทำ แต่เรามักจะหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้

เหยือกนี้เปรียบกับชีวิตของคุณ ถ้าคุณใส่ทรายลงไปก่อน คุณจะมัวหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเล็กๆน้อยๆ อยู่ตลอดเวลา

ชีวิตเต็มแล้ว... เต็มจนไม่มีที่เหลือให้ใส่กรวด ไม่มีที่เหลือใส่ให้ลูกเทนนิสแน่นอน"
ชีวิตของคนเราทุกคน ถ้าเราใช้เวลาและปล่อยให้เวลาหมดไปกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เราจะไม่มีที่ว่างในชีวิตไว้สำหรับเรื่องสำคัญกว่า


...เพราะฉะนั้นในแต่ละวันของชีวิต เราต้องให้ความสนใจกับเรื่องที่ทำให้ตัวเราและครอบครัวมีความสุข
ใช้ชีวิตเล่นกับลูกๆ หาเวลาไปตรวจร่างกาย พาคู่ชีวิตกับลูกไปพักผ่อนในวันหยุด พากันออกกำลังกาย เล่นกีฬาร่วมกันสักชั่วโมงสองชั่วโมง เพื่อสุขภาพและความสัมพันธ์ที่ดีในชีวิต เราต้องดูแลเรื่องที่สำคัญที่สุดจริงๆ ดูแลลูกเทนนิสของเราก่อนเรื่องอื่นทั้งหมด หลังจากนั้นถ้ามีเวลาเหลือเราจึงเอามาสนใจกับสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบๆ ตัวเรา

นักศึกษาคนหนึ่งยกมือขึ้นถาม แล้วน้ำที่อาจารย์เทใส่ลงไปล่ะครับ หมายถึงอะไร?"

เขายิ้มพร้อมกับบอกว่า การที่ใส่น้ำลงไปเพราะอยากให้เห็นว่า ไม่ว่าชีวิตของเราจะวุ่นวายสับสนเพียงใด ในความสับสนและวุ่นวายเหล่านั้นคุณยังมีที่ว่างสำหรับการแบ่งปันน้ำใจให้กันเสมอ..."
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
por_jai
Verified User
โพสต์: 14338
ผู้ติดตาม: 0

จับฉ่าย

โพสต์ที่ 60

โพสต์

8) วันนี้ผมไปอ่านเรื่อง ssc ที่ห้องแวยูอินเวสติ้ง
    เห็นใครๆก็กำลังรัก น้องน้ำส้ม
    ทั้งแบบ10%หรือแบบ90%
    ก็เลยไปเสนอความคิดเจ๊าะแจ๊ะไว้ด้วย
    เพราะอยู่ในใจมาหลายเพลาแล้ว
    ผมถือโอกาสนำมารวมไว้ในกระทู้นี้เพราะมันจับฉ่ายดีครับ
    เผื่อผมอยากอ่าน จะได้หาได้ง่ายหน่อยครับ

8) เวลาใครนึกจะทำน้ำอะไรไม่ออก
   เพราะโปรดักส์หลักเริ่มนิ่งหรือมีปัญหา
   ตอนนี้ตัวหลักจะเป็นน้องน้ำส้ม
   ผมอ่านข่าวเฉพาะสัปดาห์ที่แล้ว
   มีคุณตันกับทางเบียร์สิงห์แผนกnon-alcohol
   ผมว่าเฉพาะ 2เจ้านี่ก็เหยียบกันตายแล้วละครับ
   น้องsplash นี่เนื้อหอมจัง ใครๆก็มารุมทึ้ง

   การตลาดสมัยใหม่นี้เซ็กเม้นท์มันทับซ้อนกันมาก
   ใครข้อมูลหลวมๆละก็ลงทุนไปแล้วกลับตัวยากเลยนะครับ
   ใครที่มีฐานข้อมูลอัพเดตดีๆ ได้เปรียบในเรื่องความเสี่ยงเยอะเลย ตัดสินใจทีนึงโป๊ะ..กลางหัวเหน่งเลย

   เมื่อก่อนเคยทำกระเบื้องเซรามิคยุคแรกๆ
   ตอนนั้นคัมพานาเป็นเจ้าตลาด90%ได้มั๊งครับ
   แชร์ของตลาดกระเบื้องปูพื้น
   แฮะ...ตารางเมตรละ6-700บาทได้ครับ
   ทุนเท่าที่ผมดู แวเรียลเบิ้ลคอส ไม่น่าเกิน40-50บาทมั๊งครับ(2524)
   ดูแล้วกำไรอื้อซ่า ฮ่าๆๆ ต้องเข้ามาแย่งซะหน่อย
   แต่นายผมนี่ยอดมนุษย์ครับ
   ไปเช็คดู วัสดุปูพื้นอย่างอื่น ปาร์เก้ ประมาณ3-500บาท
   หินขัดก็ประมาณกัน
   แผ่นแรกที่ออกมาวางราคาขายส่งไว้ที่ตรม.ละ200ครับ
   เอ้าที่นี้ก็กินวัสดุปูพื้นทุกอย่างเลยสิครับ
   ยกเว้นพื้นซิเมนต์ขัดมัน
   ฮ่า..ทำไม่ทันขายครับ ขยายโรงงานมันทุกปี
   แฮ่..ตอนได้ดี นายได้คนเดียวครับ พวกผมไม่เกี่ยว
   โฮ..คนเล่าเรื่องตายตอนจบครับ เรื่องนี้
   คัมพานาทุกวันนี้ก็มีสภาพคล้ายๆผู้เล่าเรื่องนี้เช่นกัน
   ไม่ทราบว่าเกิดไรขึ้น
   ตอนนี้ไดนาสตี้ dcc มาแรงครับ
   ปูนใหญ่ที่เคยเป็นผู้นำหันมาก๊อปปี้
   วิธีการจัดจำหน่ายของdcc แล้วครับ
   ใช้ชื่อว่า ceramic OK
   ฮ่า..อยากหัวเราะให้ฟันหัก
   เด๋วนี้ปูนใหญ่ลงมาคลุกดินมากขึ้นแล้วนะครับ
   เพื่อนผมทำกระจกสีตกแต่ง สวยโคตรๆ
   คิดดูครับกระเบื้องนี่มัน2มิติใช่ไหมครับ
   แต่กระจกเวลาเราเอาสีไปโค้ตข้างหลังมัน
   มันจะเป็น3มิติครับคือมันมีความลึกด้วย สวยจริงๆครับ
   ดูได้ที่ร้านใหญ่ๆอย่างบุญถาวร อะไรทำนองนี้นะครับ
   เพื่อนเขาไปคุยกับปูนเรื่องทำส่งออก
   แฮ่..ไปก๊อปเขาเลยครับ เพื่อนผมพูดไม่ออก บอกไม่ถูก
   เพราะมันไม่ได้มีลิขสิทธิ์อะไร
   ต้องชนกับช้างอย่างไม่ได้ตั้งใจ
   อาทิตย์ก่อน เพื่อนอีกคนมาเล่าให้ฟังว่า
   ตู้อาบน้ำมีระดับของยุโรป ไม่บอกยี่ห้อดีกว่าเพราะไม่ได้เป็นเพื่อนกันซักหน่อย
   ไปฝากขายโฮมมาร์ท
    แฮ่..ได้ข่าวว่าจะสั่งรีดพลาสติคเองแล้วครับ
   ผมว่า ปูนกำลังสั่นกระดิ่งเตือน โฮมโปรแล้วนะครับ
   ใครจะได้ยิน ไม่ได้ยิน ผมไม่ทราบเหมือนกัน....
    ต้องชนกับช้างอย่างไม่ได้ตั้งใจเช่นกัน
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า