บริหารภาษีแบบนี้จะได้มั๊ยครับ

[Blueblood]

สมมติว่าตอนนี้ผมมีหุ้นในใจบางตัวที่ปันผลสูงและธุรกิจคาดว่าจะมั่นคงไปอีกอย่างน้อยสองปี โดย dividend yield เทียบกับราคาปัจจุบันประมาณ 9% (ก่อนหัก ณ ที่จ่าย)

แต่เนื่องจากตอนนี้สามารถยืมเงินโดยเล่นมาร์จิ้นมาซื้อหุ้นโดยเสียภาษีเพียง 5.75 % และแนวโน้มดอกเบี้ยคงไม่เพิ่มหรือเพิ่มไม่มากแล้ว ผมจึงวางแผนกู้มาในสัดส่วนที่ไม่เสี่ยงมากนักเมื่อเทียบกับพอร์ตหุ้นที่นำไปค้ำ เพื่อป้องกันความเสี่ยงเรื่อง force sell โดยไม่ต้องหวังกำไรจากราคาหุ้นและปันผล(ปันผลก็นำไปคืนหนี้ที่ยืมมาซื้อ) แต่ปันผลจำนวนนี้ผมสามารถนำมาขอเครดิตภาษีได้ ซึ่งถ้ามีรายได้ทางอื่นด้วยจะสามารถช่วยลดภาษีได้มากทีเดียว

อย่างนี้ผมสามารถทำได้มั๊ยครับ ที่ผมไม่แน่ใจเพราะเงินปันผลที่ได้ถ้าเล่นมาร์จิ้นเค้าจะหักไว้เพื่อใช้หนี้ก่อนทันที โดยเงินที่เหลือถึงจะตกมาถึงเรา เงินปันผลส่วนนี้ถือเป็นเงินได้ของเราหรือไม่ครับ

[Blueblood]

ขอแก้จาก (ปันผลก็นำไปคืนหนี้ที่ยืมมาซื้อ) เป็น (ปันผลก็นำไปคืนดอกเบี้ยที่ยืมมาซื้อหุ้นครับ)

[Kao]

อย่างนี้ผมสามารถทำได้มั๊ยครับ ที่ผมไม่แน่ใจเพราะเงินปันผลที่ได้ถ้าเล่นมาร์จิ้นเค้าจะหักไว้เพื่อใช้หนี้ก่อนทันที โดยเงินที่เหลือถึงจะตกมาถึงเรา เงินปันผลส่วนนี้ถือเป็นเงินได้ของเราหรือไม่ครับ

ทำได้ครับ แต่โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยเห็นด้วยนะครับ ที่จะกู้เงินมาซื้อหุ้นปันผล เพราะ ไม่มีอะไรแน่นอนครับ การคาดการณ์ของเราอาจจะไม่เป็นไปตามที่คาด และยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาหุ้น นอกจากความมั่นคงของธุรกิจ

คิดดูดีๆนะครับ

เงินปันผลจะถือเป็นเงินได้ของเราหรือไม่ ต้องดูที่หนังสือรับรองการหักภาษีณที่จ่ายว่าเป็นชื่อของใคร

[โอ@]

ปันผลอ่ะมันจะได้ 9% แต่ว่าถ้าอยู่ดีดีหุ้นมันลงไป 20% ละครับ

[fantasia]

เงินปันผลที่ได้รับจากหุ้นในบัญชีมาร์จินถือเป็นเงินได้ของเราแน่นอนอยู่แล้วครับ
โดยที่ บล. จะเป็นคนออกหนังสือรับรองภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายให้เราแทนที่จะเป็นศูนย์รับฝาก

ดอกเบี้ย 5.75% ถือว่าต่ำมากครับ ถ้ามั่นใจว่าหุ้นที่ถือจะทำผลตอบแทนได้มากกว่านั้นมาก ก็กู้มาเถอะครับ
ยิ่งถ้าฐานภาษีเงินได้ต่ำไม่เกิน 10% ยิ่งได้เปรียบ
ระวังความเสี่ยงเรื่อง force sell ให้มากแล้วกัน
ไม่ว่าหุ้นจะให้ผลตอบแทนดีอย่างไร ถ้าโดน force sell ก็จบกัน

[Blueblood]

ตอนนี้ยังเป็นแค่แนวคิดอยู่ครับ แต่ยังไงก็ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ

[CK]

เป็นความคิดที่ดีมากครับ

ความเสี่ยงจะอยู่ในช่วงปีแรกๆ

หลังจากนั้นจะสบายขึ้น

ถ้ามั่นใจว่า หุ้นที่ซื้อ ปันผลเยี่ยม
และราคามี margin of safety ดี
ผลการดำเนินงานดีต่อเนื่อง
ก็นับเป็นการใช้ leverage ที่ดีครับ

[Blueblood]

นี่ถ้านักลงทุนบ้านเราสามารถออก option ของหุ้นแต่ละตัวได้เองนี่คงจะดีไม่น้อยเลยนะครับ ผมคงกำไรจากเครดิตภาษีสะดือปลิ้นเลย  :lol:

[สุมาอี้]

ผมเคยคิดว่า การซื้อ LTF นั้นได้ภาษีคืนแต่ข้อเสียคือต้องแบกรับความเสี่ยงของการถือหุ้น

แต่ถ้าเราต้องการภาษีคืนอย่างเดียวโดยไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงของการถือหุ้นใดๆ ก็ควรซื้อ LTF กองที่เป็น SET50Index พร้อมกับ short SET50 Futures ด้วย

เช่นนี้เราก็จะได้เงินจากสรรพากรเฉยๆ โดยไม่ต้องรับแบกความเสี่ยงของการถือหุ้นด้วย  :roll:

[Blueblood]

โอ้ว ... วิธีของคุณสุมาอี้ก็น่าสนใจครับ ... ขอบคุณมากครับ

แต่ปัญหาคือผมไม่มีเงินสดแล้วสิครับ  :lol:

[CK]

short set50 futures มีปัญหาสองสามอย่างครับ
เมื่อเอามา hedge กับกองทุนระยะยาว

1. futures ที่ยาวที่สุด ก็แค่ล่วงหน้าปีเดียว

2. liquidity ของสัญญาไกลๆ แทบไม่มีเลย

3. ต้องระวังเรื่อง maintenance margin
   และ force sell margin ให้ดี ตอนตลาดกระทิง

[Blueblood]

short set50 futures มีปัญหาสองสามอย่างครับ
เมื่อเอามา hedge กับกองทุนระยะยาว

1. futures ที่ยาวที่สุด ก็แค่ล่วงหน้าปีเดียว

2. liquidity ของสัญญาไกลๆ แทบไม่มีเลย

3. ต้องระวังเรื่อง maintenance margin
   และ force sell margin ให้ดี ตอนตลาดกระทิง

เห็นด้วยครับ .. เดี๋ยวถ้าไอ้ตัวที่ผมเล็งมันลงมาสักสิบเปอร์เซ็นต์จะซื้อเพิ่มซะหน่อย ถ้าไม่ลงก็คงไม่ใช้วิธีที่คิดไว้ครับ

ขอบคุณทุกท่านครับ

[Blueblood]

เสียดายอย่างเดียว ผมน่าจะคิดได้ก่อนมีการปฏิวัติ  :lol:

[yoyo]

ผมเองก็มีทำแบบนี้บ้างเหมือนกันครับแต่ไม่เยอะเท่าไหร่
กู้ดอกเบี้ย 6.25% มาซื้อ TFUND ที่ให้ดอกเบี้ยประมาณ 8% กว่าๆ Downside risk ต่ำดอกเบี้ยอยู่ในขาดลงแบบนี้เราได้ 2 เด้ง
เด้งแรกเงินกู้ต้นทุกต่ำลง
เด้งที่ 2 ได้ Capital Gain จาก TFUND

[ch_army]

แล้วกู้เงินนี่ไปหาเงินกู้มาจากไหรครับ คุณ YOYO หรือว่า ใช้ margin

[yoyo]

แล้วกู้เงินนี่ไปหาเงินกู้มาจากไหรครับ คุณ YOYO หรือว่า ใช้ margin

ใช้ Margin ครับ

[javidol]

[quote="สุมาอี้"]ผมเคยคิดว่า การซื้อ LTF นั้นได้ภาษีคืนแต่ข้อเสียคือต้องแบกรับความเสี่ยงของการถือหุ้น

แต่ถ้าเราต้องการภาษีคืนอย่างเดียวโดยไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงของการถือหุ้นใดๆ ก็ควรซื้อ LTF กองที่เป็น SET50Index พร้อมกับ short SET50 Futures ด้วย

เช่นนี้เราก็จะได้เงินจากสรรพากรเฉยๆ โดยไม่ต้องรับแบกความเสี่ยงของการถือหุ้นด้วย

[ch_army]

[quote="javidol"][quote="สุมาอี้"]ผมเคยคิดว่า การซื้อ LTF นั้นได้ภาษีคืนแต่ข้อเสียคือต้องแบกรับความเสี่ยงของการถือหุ้น

แต่ถ้าเราต้องการภาษีคืนอย่างเดียวโดยไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงของการถือหุ้นใดๆ ก็ควรซื้อ LTF กองที่เป็น SET50Index พร้อมกับ short SET50 Futures ด้วย

เช่นนี้เราก็จะได้เงินจากสรรพากรเฉยๆ โดยไม่ต้องรับแบกความเสี่ยงของการถือหุ้นด้วย

[javidol]

ขอบคุณ คุณ ch_army มากครับ พอจะเข้าใจคร่าวๆแล้ว

แต่สงสัยว่า short SET50 Futures นี่เป็นยังไง+ทำยังไงครับ ทำผ่าน internet เหมือนซื้อขายหุ้นได้หรือเปล่า หรือต้องซื้อขายผ่านมาร์ครับ  :?: